Share

บทที่ 18

Author: โมเนโต้
ตอนแรกเซเลน่าคิดว่าแม่ของเธอจะช่วยเธอถือเสื้อผ้าไว้ในมือ แต่เธอกลับโยนสิ่งเหล่านั้นลงไปในทะเลสาบ

มันสายเกินไปแล้วเมื่อเธอรู้สึกตัว เสื้อผ้าทั้งสามชุดที่มีราคาเกือบสองแสนถูกโยนลงไปในทะเลสาบที่อยู่ข้างเธอ ช่างไร้มารยาท

“แม่กำลังทำอะไรลงไป? นั่นมันเป็นของแท้! ใครบอกว่ามันเป็นของปลอม”

เซเลน่าร้อนรนจนกระทืบ ด้วยความตกใจเธอรีบวิ่งไปในขณะที่ดวงตาของเธอเริ่มเป็นสีแดงและดูเหมือนเธอกำลังจะร้องไห้ นี่เป็นครั้งแรกที่ฟาเน่ ได้เสื้อผ้าของเธอ หลังจากความยากลำบากทั้งหมดที่เธอต้องทนมาตลอดห้าปีที่ทั้งคู่แต่งงานกันในที่สุดเธอก็มีรสนิยมที่หรูหรา นั่นหมายความว่าความอดทนของเธอตลอดห้าปีที่ผ่านมาไม่ใช่เพื่ออะไร!

“เรื่องจริง? ของพวกนั้นเป็นของแท้ได้ยังไง? และพวกเขาสามารถจ่ายเงินได้หรือไม่”

ฟิโอน่าที่สงสัยเอามือกอดไว้ที่อกของเธอ เธอไม่มั่นใจว่าเฟนด์จะมีเงินมากขนาดนั้นเพื่อซื้อเสื้อผ้าแบรนด์ต่างประเทศให้ลูกสาวของเธอ

“แม่ยายที่รัก นี่เป็นของแท้จริง ๆ เราซื้อจากร้านค้าที่มีแบรนด์เฉพาะของพวกเขา แบบนี้คงปลอมไม่ได้แล้วใช่ไหม”

โจแอนที่ยืนอยู่ด้านข้างในที่สุดก็ลุกพรวด “คุณโยนเสื้อผ้าราคาเกือบสองแสนนี่ลงทะเลสาบได้ยังไง!”

“ไม่ฉันต้องเอาคืน!”

เซเลน่าที่คลั่งอยู่แล้วก็เตรียมพร้อมที่จะดำลงไปในทะเลสาบและหยิบเสื้อผ้ามา

โชคดีที่ทะเลสาบน้ำใสสะอาด สามารถดึงเอาขึ้นมาได้ ถ้านำไปซักอย่างสะอาดแล้วก็สามารถสวมใส่ได้

เฟนด์เฝ้าดูทุกการเคลื่อนไหวของเซเลน่า จนหัวใจของเขารู้สึกหวั่นไหว

เซเลน่าอายุเพียงยี่สิบปี เธอมีส่วนอย่างมากในบริษัทของครอบครัว ตั้งแต่เธออายุยังน้อยเมื่อห้าปีที่แล้วซึ่งเป็นผู้หญิงจากตระกูลเทย์เลอร์

ในตอนนั้นเซเลน่าได้สวมใส่แต่เสื้อผ้าแบรนด์ชั้นนำ และมีความสุขกับการได้รับการปฏิบัติในฐานะสุภาพสตรีที่มีชื่อเสียง

แต่ตอนนี้ เธอกำลังพยายามที่จะดำลงไปในทะเลสาบเพียงเพื่อเอาเสื้อผ้าไม่กี่ชิ้นเหล่านั้นขึ้นมา

เฟนด์ก้าวไปข้างหน้าสองก้าว และคว้าตัวเซเลน่าไว้ทันที “ปล่อยมันไปซะที่รัก” เขาบอกกับเธอ “แค่เสื้อผ้าเพียงสามชิ้นเท่านั้น ผมจะซื้อให้คุณใหม่!” ถ้าพวกปลามันเอาไปใส่ ฉันก็จะต้องตกมันขึ้นมาให้ได้!

เฟนด์หัวเราะเบา ๆ เมื่อได้ยินคำพูดนั้น เขารู้สึกตื้นตันใจ เขาคิดว่าการที่มีเธอเป็นภรรยาจะทำให้เขาเป็นผู้ชายที่มีความสุขตลอดไป

เมื่อเขาปล่อยมือเธอ เฟนด์ก็กระโดดลงไปในทะเลสาบและหยิบเสื้อผ้าขึ้นมา เขาเปียกโชกตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่คำพูดที่เซเลน่าพูดกับเขาทำให้หัวใจของเขาอบอุ่น

“เป็นไปไม่ได้ ไม่น่าเชื่อ”

เมื่อฟีโอน่าตกใจเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อหน้าเธอ เธอก็มองไปที่โจแอนและพูดพึมพำ “ลูกชายของคุณไปเอาเงินมาจากไหน”

โจแอนหัวเราะอย่างขบขันก่อนที่เธอจะตอบว่า ต้องขอบคุณตลอดระยะเวลาห้าปีที่ลูกชายของฉันทำหน้าที่เป็นทหาร พอเขาถูกปลดในครั้งนี้และเมื่อเขากลับมาเขาก็ได้รับเงินรางวัลจากการถูกปลด เขาใช้เงินพวกนั้นซื้อเสื้อผ้าให้พวกเรา แม้ว่าเงินที่เขาได้มาจะแลกมาด้วยชีวิต แต่เขาก็ยอมทุ่มเทเพื่อเซเลน่า!

“ฉัน…”

ฟีโอน่าพูดไม่ออก เธอไม่ได้คาดหวังว่าเสื้อผ้าเหล่านั้นจะเป็นเสื้อผ้าแบรนด์ต่างประเทศของแท้

“คุณกำลังผิดหวัง มันไม่สำคัญว่าจะเป็นของจริงหรือของปลอม แต่คุณไม่สามารถโยนมันลงไปในทะเลสาบ! มันมาจากความมีน้ำใจของเฟนด์!”

แม้แต่แอนดรูว์ที่เงียบเป็นปกติก็อดไม่ได้ที่จะต่อว่าฟีโอน่า

เฟนด์กำลังเดินออกจากทะเลสาบ เขามองไปที่แอนดรูว์ก่อนที่จะพูดว่า “พ่อกลับกันเถอะ ขาของคุณได้รับการกระแทกจากอุบัติเหตุ ไม่ต้องกังวล ผมจะช่วยรักษาคุณให้ได้!”

“จริงเหรอ เป็นไปไม่ได้ใช่ไหม”

หัวใจของแอนดรูว์เต้นรัวเมื่อได้ยินคำพูดนั้น หลังจากนั้นเขาก็ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ตอนที่เราไปตรวจที่โรงพยาบาลที่มีชื่อเสียง หมอบอกกับฉันว่า กล้ามเนื้อมันยังอ่อนแรงถึงจะได้รับการรักษาแล้วก็ตาม มันเป็นปัญหาของเส้นประสาทและเนื้อกระดูกที่อยู่ข้างใต้ก็กลายเป็นเนื้อร้าย ถึงแม้ว่าตอนนี้ฉันจะเดินได้อยู่ ฉันก็ยังรู้สึกมึนงงกับมัน”

“เธอกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไร? เป็นขยะที่ไร้ประโยชน์รู้จักการรักษาพยาบาลหรือไม่? ฉันไม่มีวันเชื่อเธอ!”

ในทางกลับกันฟีโอน่ากลอกตาไปที่เฟนด์ แล้วก็ “จิกกัดเฟนด์ เธอคงไม่กล้าคิดหรอกว่าการที่ได้เงินรางวัลมาแล้วซื้อเสื้อผ้าให้ลูกสาวสองสามชุด แล้วฉันจะยินดีรับคุณ มันไม่มีทางเกิดขึ้นตอนนี้!”

จากนั้นฟีโอน่าก็ตกอยู่ในความเงียบชั่วขณะก่อนที่เธอจะพูดต่อว่า “เราอดทนกับความยากลำบากมาตลอดหลายปี เงินจำนวนเล็กน้อยนี้จะเพียงพอสำหรับเราได้อย่างไร? แถมเธอยังต้องให้รางวัลสิบล้านกับเราในวันเกิดปีที่เจ็ดของนายใหญ่ ไม่อย่างนั้นแม้แต่วินาทีเดียวคุณก็อย่าคิดว่าเราจะยอมรับคุณ!”

“แม่กำลังพูดอะไรอยู่ ให้ตายเถอะ! เขายังคงเป็นพ่อของไคลี และเด็ก ๆ ก็ไม่สามารถอยู่ได้โดยที่ไม่มีพ่อ นอกจากนี้เขายังเป็นคนที่มีความรับผิดชอบ!”

เซเลน่าจ้องมองฟีโอน่าอย่างไม่พอใจ “มันไม่สำคัญว่าพวกแม่จะยอมรับเขาหรือไม่” เธอพูดขึ้นต่อว่า “เขาอยู่ในใจของฉัน และเขาก็คือผู้ชายของฉัน เซเลน่า เทย์เลอร์ ต่อให้ไล่เขาออกจากตระกูลเทย์เลอร์ แต่ฉันก็จะไม่แต่งงานกับนายน้อยคลาร์ก หรือนายน้อยวิลสัน จากที่ฉันเห็นคนเหล่านั้นไม่ได้แม้แต่เศษเสี้ยงของเฟนด์”

“แก”

ฟีโอน่าโกรธจนหัวเสีย เธอชี้ไปยังเซเลน่า แล้วพูดว่า “ฉันให้กำเนิดลูกสาวอย่างแกมาได้ยังไง? ตอนนี้แกกำลังถูกดูกถูกเข้าใจไหม แกจะอยู่กับมันเพื่อกดดันให้แม่แกตายใช่ไหมถึงจะพอใจ”

“ฉันไม่ได้หมายถึงแบบนั้น! แต่แม่บังคับฉันไปไม่ได้ตลอดไปหรอก”

เซเลน่าทำได้เพียงแค่กลั้นความผิดหวังเมื่อสังเกตเห็นแม่ของเธอคร่ำครวญอยู่ด้านข้าง

“พอ ไม่ต้องพูดถึงอีก การทดสอบทั้งหมดเป็นความรับผิดชอบของผมเอง ผมยอมรับมัน”

“ผม -เฟนด์ วู๊ด- เป็นผู้ชายพูดคำไหนคำนั้น คำที่เคยพูดไปว่าผมจะให้คุณสิบล้าน เมื่อถึงเวลาคุณก็จะได้มัน และผมจะไม่มียอมให้พรากเซเลน่าไปจากผม!”

เฟนด์หัวเราะเบา ๆ และพูดว่า “เอาล่ะ ตอนนี้มันก็สายแล้ว กลับบ้านไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่แล้วเราจะกินข้าวนอกบ้านคืนนี้”

ดวงตาของฟีโอน่าเบิกกว้างขึ้นเมื่อเอ่ยถึงการกินอาหารนอกบ้าน พวกเขาใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายตลอดห้าปีที่ผ่านมา และเซเลน่าก็ยังถูกจัดขวางไม่ให้หางานทำ เธอสามารถใช้เงินจากการที่เก็บขยะมา เพื่อหาเลี้ยงคนในครอบครัวเท่านั้น

นอกเหนือจากเซเลน่าแล้ว ค่าใช้จ่ายทั้งหมดเราได้มาจากค่าจ้างรายเดือนของแอนดรูว์ แต่เขาก็แยกแบ่งออกเป็นสัดส่วนทุกเดือน เพื่อให้เซเลน่าไปซื้อของใช้ตามพวกร้านขายของชำ

ดังนั้นฟีโอน่าจึงรู้สึกมีความสุขมากเมื่อได้ยินเช่นนั้น

อย่างไรก็ตามเช่นเดียวกับก่อนหน้านี้สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปเป็นเย็นชา เมื่อเธอเย้ยหยัน “เธอแน่ใจเหรอว่าจะกินข้าวนอกบ้าน ฉันกำลังจะบอกเธอว่า ฉันไม่ไปสถานที่ธรรมดา ถ้าเธอต้องการให้ฉันไปด้วยก็ต้องเห็นร้านอาหารอย่างดี และต้องหรูหราเท่านั้น!”

“แน่นอน ตราบที่คุณแม่พอใจ ทุกที่แม่ก็เลือกได้เลย!”

เฟนด์หัวเราเบา ๆ แล้วเรียกรถแท็กซี่สองคัน “ไปกันเถอะ” เขาพูด “เราจะไปกันก่อนล่วงหน้าเพราะไคลี กับเจนนี่ต่างรอเราอยู่ ผมคิดว่าตอนนี้คนพาลตัวน้อยน่าจะหิวโหยแล้ว ครั้งหน้าขอให้เจนนี่มาที่บ้านของเรา เธอสามารถช่วยดูแลไคลี และทำความสะอาดบ้านได้”

ฟีโอน่ากลอกตาไปมาที่เฟนด์บอกว่า “อย่าเรียกฉันว่าแม่ ถ้าฉันไม่เห็นเงินรางวัลสิบล้านฉันจะไม่ยอมรับว่าคุณเป็นลูกเขยของครอบครัวเรา ฮึ่ม!”

ในทางกลับกันเซเลนากำลังขมวดคิ้ว “เจนนี่ค่อนข้างดี แต่ค่าจ้างที่ครอบครัวเทย์เลอร์ เสนอให้ก็ไม่ต่ำเกินไปเช่นกัน” เธอพึมพำ “มีค่าใช้จ่ายหกถึงเจ็ดพันเหรียญต่อเดือน เราไม่สามารถจ่ายได้!”

“ไม่ต้องกังวลฉันจะให้เงินค่าดูแล ใกล้จะเปิดเทอมแล้วด้วยดังนั้นเราควรลงทะเบียนให้ไคลี ที่โรงเรียนเร็ว ๆ นี้!”

เฟนด์หัวเราะเบา ๆ ขณะที่เขาพูด

“ใช่!”

เซเลน่าพยักหน้า ใช้เวลาไม่นานนักในการกลับบ้านด้วยรถแท็กซี่

ในขณะนี้หนึ่งในผู้พิทักษ์สามคนในตระกูล โลเนอร์ - สเปกเตอร์เฟซ รีบวิ่งไปหาเจมส์หลังจากรับโทรศัพท์
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status