“อ้าวคุณ…”
วิเวียนเอ่ยทัก เมื่อเห็นชายคนเมื่อวานผู้ซึ่งเป็นลูกค้า เธอจำได้แต่ไม่รู้จะเรียกเขาต่อเช่นไร ในเมื่อไม่ได้ถามชื่อเขาไว้ แล้วตัวเขาเองก็ไม่ได้บอก เซบาสเตียนครี่ยิ้มบางก่อนจะกล่าวแนะนำชื่อตนให้หญิงสาวได้รับรู้ “เซบาสเตียนครับ เรียกบาสเฉยๆ ดีกว่าครับ” วิเวียนได้ยินเช่นนั้นจึงพยักหน้ารับรู้เบาๆ ก่อนจะปริปากเอ่ยถาม “มาซื้อดอกไม้หรอคะ” " ใช่ครับ ผมชอบมากเลยล่ะ โดยเฉพาะ… " สายตาคมมองใบหน้านวลสักพักกับคำพูดที่เงียบไป ทำให้คนรอฟังประโยคท้ายต้องเอ่ยถามออกมาพร้อมแสดงสีหน้างุนงง "คะ " "ผมหมายถึงบรรยากาศร้านน่ะครับ ชอบเป็นพิเศษเลยล่ะ " " ขอบคุณที่ชอบนะคะ" วิเวียนยิ้มหวานดีใจกับคำชื่นชมของเขาที่เปรียบเสมือนลูกค้าท่านหนึ่ง ทว่าเธอหารู้ไม่ ในใจชายตรงหน้านั้นกลับตรงกันข้ามกับคำพูด หากเขาเอ่ยออกมาว่าสิ่งที่ชอบเป็นพิเศษคือเจ้าของร้านก็คงจะดูรีบร้อนเกินไป “คุณบาสเชิญตามสบายเลยนะคะ เดี๋ยววิเรียกลูกน้องมาตามดูแล” “ไม่ต้องหรอกครับ ผมชอบให้คุณช่วยเลือกมากกว่า” เซบาสเตียนรีบกล่าวห้าม เมื่อสิ่งที่เขาจงใจมาหาคือเธอ แต่กลับจะให้ลูกน้องมาคอยตามแทนที่จะเป็นตัวเธอเอง มีเหรอเขาจะปล่อยให้เป็นเช่นนั้น “งั้น….” วิเวียนแสดงทีท่าลังเลออกมา ดูเหมือนว่าเธอจะหนักใจกับอะไรบางอย่าง แต่ชายตรงหน้าก็ยังจะดื้อรั้น “ถ้าคุณไม่ว่างก็ไม่เป็นไรครับ ผมรอได้” “งั้นก็ได้ค่ะ” วิเวียนพยักหน้ารับรู้พร้อมยิ้มบาง บทสนทนาเป็นไปด้วยดี จนกระทั่งเสียงปริศนาดังก้อนขึ้นมาแทรก “บอสครับ อีกครึ่งชั่วโมง__” รอย ลูกน้องคนสนิทเดินเข้ามาเพื่อที่จะตามเจ้านายไปทำงาน ปริปากเรียกผู้เป็นนายเสียงดังจนสองคนที่ยืนคุยกันหันมอง ทว่าบทคำพูดยังไม่ทันจะสิ้นสุดก็ต้องปิดปากกลืนคำที่เตรียมจะกล่าวกลับลงคอ เมื่อถูกเจ้านายสั่งให้หยุดผ่านสายตาอาฆาตที่มองเข้ามาทันที แต่สายตาเจ้ากรรมกลับเผลอจับจ้องไปยันหญิงสาวผู้ยืนอยู่เคียงข้างเซบาสเตียน ทันไดที่ได้ชมเชยความงดงามของวิเวียน รอยถึงกับตาค้าง ยากที่จะเก็บอาการความเขินอายที่ปรากฏอยู่บนใบหน้า ทำเอาเจ้านายที่มองมาแทบจะฉีกเนื้อตนกินผ่านสายตา หากไม่ใช่ลูกน้องที่รู้จักกันมานับสิบปีคงได้ชักปืนยิงเบ้าตามันเข้าให้ "แฮ่ม! " เซบาสเตียนแกล้งกระแอมเสียงดัง เรียกสติลูกน้องที่กำลังเผลอมองผู้หญิงที่เขาจอง ก่อนที่มันจะถูกลูกปืนเขากินหัวเข้าจริงๆ “มึงจะไปไหนก็ไป” เซบาสเตียนทำปากสั่งลูกน้องทันทีที่มันหันมองเขา โดยไม่ให้มีเสียงลอดออกมาสักนิดเดียว เมื่อเขาจะต้องเก็บลุคคุณชายผู้อ่อนโยนต่อหน้าวิเวียน "ครับๆ เอ่อ… ผมจะบอกว่าวันนี้บอสว่างทั้งวันเลยครับ ไม่มีตารางงานอะไรเลย ผมจะมาบอกแค่นี้แหละครับ ขอตัวนะครับ แฮะๆ” รอยรีบกล่าวอธิบายอย่างรีบรนเป็นชุด ก่อนจะขำแห้งแก้สถานการณ์ที่ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยรังสีความไม่พอใจจากเจ้านาย เสร็จสิ้นคำพูดจึงรีบหันหลังวิ่งออกไปอย่างไม่คิดชีวิต ทำเอาหญิงสาวผู้ได้แต่ยืนมองเงียบๆ นึกงงขึ้นมา “ขอโทษแทนลูกน้องด้วยนะครับ มันไม่ค่อยเต็ม” เซบาสเตียนหันมาอธิบายให้เจ้าของหัวใจฟัง ช่วยได้ที่ไหนล่ะ มันอยากมาแทรกกลางเขาเอง โดนใส่ร้ายว่าไม่เต็มนิดๆ หน่อยๆ เพื่อแก้สถานการณ์ไม่ให้เทพธิดาของเขาข้องใจคงดีกว่าโดนเขาหักเงินเดือนเป็นหลายๆ เท่า "ร..หรอคะ " วิเวียนหันกลับมามองคนพูดพร้อมกล่าวถามพรางยิ้มแหยๆ จากที่มองตามหลังชายคนเมื่อกี้ที่วิ่งออกจากร้านไป “คุณวิเวียนตามสบายเลยนะครับ เดี๋ยวผมนั่งรอแถวๆ นี้ก็ได้” เซบาสเตียนเสนอ เพื่อไม่เป็นการทำให้วิเวียนอึดอัด “เรียกวิเฉยๆ ก็ได้นะคะ ยังไงเดี๋ยววิให้ซาร่าเอานํ้าชามาให้นะคะ ระหว่างรอ หรือว่าคุณชอบดื่มกาแฟมากกว่า… " “ไม่เป็นไรครับ ผมชอบชา” เซบาสเตียนรีบสวนนํ้าเสียงสุภาพ วิเวียนพยักหน้าเข้าใจกับคำตอบอีกคน ก่อนจะกล่าวตอบเสียงหวานยิ่งกว่านํ้าผึ้งสดใหม่ที่เพิ่งเอามาจากรัง รอยยิ้มน้อยๆ ที่ประกบอยู่บนใบหน้าเล็กนั่นทำคนมองหัวใจสั่นไหวอยู่ตลอดเวลา “งั้นรอสักครู่นะคะ” “ครับ” เซบาสเตียนยิ้มตอบด้วยหัวใจที่พองโต สายตามองตามหลังอีกคนที่เดินออกไปจนลับเข้าไปภายในร้าน วิเวียนทำให้เขานึกถึงผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งบุคลิกนิสัยช่างคล้ายคลึงจนเขาแทบเดาออกว่าเธอเป็นคนยังไงและชอบผู้ชายแบบไหน หากจะเรียกว่าวิเวียนคือรักแรกพบก็คงไม่แปลก เมื่อเธอนั้นเปรียบเสมือนร่างที่สองของผู้หญิงที่เป็นดั่งชีวิตจิตใจของเขาเสมอมา เซบาสเตียนนั่งเหม่อกับเรื่องราวต่างๆ ที่แล่นเข้ามาในหัว จนเสียงจากใครบางคนดังเข้ามาในโสทประสาท พอหันมองจึงพบกับเด็กสาววัยยี่สิบต้นๆ ที่ยืนถือถาดชาไว้ในมือ “ชาดอกไม้ค่ะ” “ขอบคุณครับ” สายตามองดูแก้วนํ้าชาที่ถูกนำมาวางตรงหน้า ซึ่งสีสันมันช่างสวยงามจนไม่กล้าที่จะนำเข้าปาก กับกลิ่นหอมละมุนอ่อนๆ ที่ลอยมาแตะปลายจมูกจนชวนหลงไหล หากเขาเดาไม่ผิดคงจะเป็นวิเวียนซึ่งคือคนทำ ผู้หญิงที่น่ามหัศจรรย์คนนั้น “ชานี่พี่วิเป็นคนทำเองกับมือเลยนะคะ” แล้วเขาก็เดาถูก เมื่อซาร่า ผู้ช่วยสาวกล่าวเช่นนั้น เซบาสเตียนไม่รอช้าที่จะยกแก้วขึ้นจิบ พอนํ้าชาแตะลิ้น รสชาติที่หวานอ่อนๆ ละมุนทำเอาเขาติดใจ กระดกหมดแก้วจนคนที่ยืนมองถึงกับต้องกลั้นหัวเราะ “คุณชอบพี่วิหรอคะ?” ซาร่าถามความในใจออกไปตรงๆ “แค่กๆ …” แต่คำถามที่ตรงเกินนั่นทำเอาเซบาสเตียนที่กำลังกลืนนํ้าชาลงคอแทบสำลัก รีบวางแก้วลงไว้ที่เดิมก่อนจะเงยหน้ามองเด็กสาวตรงหน้า ก็พบว่าเธอกำลังยิ้มกรุ่มกริ่มดั่งถูกใจอะไรบางอย่าง นี่อาการเขามันฟ้องขนาดนั้นเลยเหรอกรี๊ดดดดด!! “ที่รัก..ฮึกก อดทนอีกนิดนะครับทูลหัว” “เบ่งอีกนิดเดียวนะคะคุณแม่” “ฮึกกก อร๊ายยย!” ภายในห้องคลอดที่บรรยากาศเต็มไปด้วยความวุ่นวายและเสียงกรี๊ดร้องของคนบนเตียง ผู้เป็นสามีเองมองดูภรรยาแล้วเจ็บปวดหัวใจเหลือเกิน หากเป็นไปได้เขาอยากจะเป็นคนที่นอนอยู่บนเตียงนั้นด้วยซํ้า มือหนาคอยเช็ดเหงื่อจับมือและคอยลูบหัวทุยให้กำลังใจเธออยู่ไกล้ๆไม่ยอมห่าง เพียงเห็นความทรมานของเธอเขาไม่คิดอยากจะมีลูกอีกเลยด้วยซํ้า กรี๊ดดดด! อุแว้ อุแว้! เสียงกรี๊ดเฮือกสุดท้ายดังขึ้นก่อนจะดับลงและมีเสียงเด็กน้อยดังก้องขึ้นเรียกรอยยิ้มของคนทั้งห้องรวมถึงคนที่คอยรอลุ้นอยู่หน้าห้องก็ตาม “เก่งมากเลยที่รัก… เก่งมากครับ…“ มือหนายังคงคอยลูบหัวทุยเบาๆไม่หยุด ก้มหน้าจุ๊บเหม่งเธอเบาๆก่อนผู้เป็นแม่จะหมดสติไปทั้งรอยยิ้มและคราบนํ้าตาที่เปียกชุ่มสองพวงแก้ม . . . . . ”หลานรักของปู่~” “เจ้าจิ๋วของลุงงง” “เจ้าจิ๋วของหนูต่างหาก!” เสียงเกรี้ยวกราดถกเถียงกันดังแว่วเข้ามาในหูคนที่หลับไหลอยู่บนเตียง ก่อนเปลือกตาที่หนักอื้อจะค่อยๆลืมขึ้นมองภาพตรงหน้า ซึ่งเต็มไปด้วยรอยยิ้มของทั้งป๊า ซาร่าและโอท
“ที่รักตื่นพอดีเลย มาครับ ผมพาไปล้างหน้า” เซบาสเตียนเมื่อเดินเข้ามาในห้องก็กล่าวประโยคพาคนเพิ่งตื่นมึนงงอยู่บนเตียง ”วิทำเองได้ค่ะ ก็แค่ล้างหน้าเอง ทำไมต้องพาไป“ “ไม่ได้สิครับ เกิดที่รักลื่นแล้วคงตัวไม่อยู่ทำยังไง ให้ผมเฝ้าดีกว่า” ไม่พูดเปล่า เขารีบเดินแจ้นเข้ามาสอดมือเข้าไต้ขาเธอก่อนจะอุ้มพาเข้าห้องนํ้า จนคนที่ยังมึนๆจากการตื่นปฏิเสธไม่ทัน “เสร็จแล้วไปกินข้าวนะครับ ผมทำกับข้าวไว้เยอะเลย ผมไปเสริจกูเกิ้ลมาแล้วเค้าบอกว่าแต่ละอย่างดีต่อคนท้องมากๆ พอกินข้าวเสร็จแล้วเราไปฝากครรภ์กันนะครับ” วิเวียนที่ยืนแปรงฟันได้แต่ตั้งหูฟังเขาที่ยืนรออยู่ด้านหลังไปด้วย เขายืนรอเธออยู่แบบนั้นไม่ไปไหนจนเสร็จธุระแล้วลงมากินข้าว บนโต๊ะเต็มไปด้วยอาหารอ่อนๆสารพัดที่เตรียมไว้เพื่อเธอโดยเฉพาะ จนวิเวียนต้องเงยหน้าถาม “แล้วคุณไม่กินหรอคะ” “ผมยังไม่หิวหรอก ที่รักกินให้อิ่มๆนะครับ เดี๋ยวผมกินต่อจากที่รักก็ได้” วิเวียนเงียบ ก้มหน้าตักข้าวเข้าปาก เพราะขืนมองหน้าแพรวพราวเขาต่อคงได้กลับไปเขินเหมือนตอนจีบกันแรกๆเป็นแน่ “ที่รักค่อยๆกินนะครับ เคี้ยวให้ละเอียดๆ“ เขาเหมือนพ่อที่คอยดูแลลูกสาวห้าขว
“ทำไมยังไม่กลับ…” คนรอก็ลุกรอนั่งรอยืนรอเดินรอวนอยู่แบบนั้นทั้งวันจนฟ้าเริ่มมืดก็ยิ่งใจคอไม่ดีเมื่อภรรยายังไม่ยอมกลับมาสักที หากจะไปตามก็กลัวเธอจะโกรธยิ่งกว่าเก่า แกร๊ก… เสียงประตูเปิดเหมือนหัวใจที่กระวนกระวายเมื่อครู่เลือนหายทันทีที่เห็นหน้าวิเวียน เซบาสเตียนรีบอมยิ้มแป้นเดินแจ้นเข้าไปรับคนที่เดินเข้ามา “ที่รัก“ ”เอ่อ… ที่รักเหนื่อยมั้ยครับ มานั่งก่อน“ รอยยิ้มดีใจกลายเป็นยิ้มเจื่อนทันทีเมื่อเห็นสายตานิ่งเรียบที่มองมาไม่เปลี่ยนสักที ”เดี๋ยวผมไปเอานํ้ามาให้นะ ที่รักนั่งรอก่อนนะครับ“ พูดแล้วรีบเดินแจ้นเข้าไปเอานํ้าในครัวดั่งว่ารีบร้อนกลัวเมียคอแห้งยังไงอย่างนั้น ส่วนวิเวียนนั้นได้แต่มองตามเงียบๆ เธอหนักใจอยู่ใช่เล่นกับสิ่งที่ตัดสินใจกำลังจะทำ ไม่ใช่เพื่อแก้แค้นหรือยังโกรธ แต่เพียงเพราะอยากจะมั่นใจเท่านั้น… “นํ้าครับ” แก้วนํ้าใสถูกยื่นให้กับคนบนโซฟา หญิงสาวรับมันมาอย่างว่าง่ายทว่าแทนที่เธอจะดื่มสักหน่อย กลับวางมันลงบนโต๊ะ คนมองก็เกิดน้อยใจก้มหน้างุดพร้อมรอยยิ้มที่หายไป “ฉันยังไม่หิวน่ะ” แต่พอได้ยินเสียงหวานของเธอเท่านั้นแหละ รีบเงยหน้ากลับมามองภรรยาตัวน้อยพร้อ
(สำหรับเมนูอาหารนี้นะคะ เราจะมาเริ่มจากการต้มนํ้าให้เดือดก่อน…) เสียงคริปทำอาหารในยูทูปดังแว่วออกมาจากโทรศัพท์มือถือของเซบาสเตียนที่ยืนตั้งหน้าตั้งตาทำตามอยู่ในครัว เป็นเวลาสามวันที่เขาหาข้ออ้างสารพัดมาต่อรองกับภรรยาเพื่ออยู่กับเธอต่อเพื่อดำเนินภารกิจง้อเมีย แล้วเช้านี้ชายหนุ่มก็วุ่นอยู่ในครัวคนเดียว ไม่รู้ว่านิ้วโดนมีดไปกี่ครั้ง เลือดซึมกี่ที่ เขาตั้งใจทำตามคลิปที่สอนจนเวลาผ่านไปเกือบสามชั่วโมง “ที่รักต้องชอบแน่ๆ” รอยยิ้มอิ่มใจปรากฏอยู่บนใบหน้าหล่อ เขายืนชื่นชมชามข้าวต้มฝีมือตัวเองที่ทำออกมาเป็นครั้งแรกในชีวิตสีหน้าภูมิใจ หากเธอเห็นต้องชอบแน่ๆ เพราะวิเวียนชอบกินข้าวต้มหมูสับมาก ”เอ๊ะ.. แต่ว่าเหมือนลืมบางอย่าง“ เซบาสเตียนขมวดคิ้วเหมือนเพิ่งนึกอะไรขึ้นได้ ลืมอะไรไม่ลืม แต่เขาลืมทำข้าวต้มเผื่อตัวเอง!! “แต่ช่างเถอะ ที่รักอิ่มก็พอ” ชายหนุ่มหันกลับมาสนใจชามข้าวต้มตรงหน้าด้วยสีหน้ายิ้มแย้มอิ่มใจ ก่อนจะยกไปวางบนโต๊ะ เป็นเวลาที่วิเวียนเดินออกมาจากห้องนอนพอดี “ที่รัก ผมทำข้ามต้มที่คุณชอบไว้ให้ กำลังร้อนๆเลย” เสียงทุ้มรีบเอ่ยเรียกภรรยาด้วยความตื่นเต้นอย่างลืมตัว ลืมไปว่
“ที่รัก…ฮึกก.. ผม——“ ”ไม่ต้องพูดแล้ว ฮึกก.. ไปโรงพยาบาล“ คนตัวเล็กโน้มตัวลงพยุงเขาลุกขึ้นจากพื้นทั้งนํ้าตา เสียงสะอื้นเบาๆสองคนประสานกันราวกับบทเพลงแห่งความเจ็บปวดที่ไม่มีใครได้ยิน “มีอะไรก็ค่อยๆคุยกันล่ะโยม“ ส่วนหลวงตาที่ยืนมองอยู่เงียบๆก็พอจะเข้าใจถึงสถานการณ์บ้างแล้วจึงกล่าวตักเตือนไปในทางที่ดีแล้วก้าวจากไป “ฮึกก..ที่รักหายโกรธผมแล้วใช่มั้ย” แววตาเขาที่มองเธอเต็มไปด้วยความหวัง เสียงที่ถามก็สั่นเครือเฝ้ารอคำตอบจากเธอ “บอกว่าอย่าเพิ่งพูดไง” “ครับ.. ฮึกก ผมจะฟังที่รัก” หญิงสาวเม้มปากแน่น เวลานี้เขาเหมือนเด็กที่กลัวแม่จะจากไปจึงยอมเชื่อฟังทุกคำพูด ภายในอกเกิดรู้สึกผิดที่แอบตำหนิเขาไปนิดๆ . . . . . “รบกวนคนไข้นอนลงก่อนนะครับ หมอต้องทำการฆ่าเชื้อให้ก่อน ดูแล้วน่าจะติดเชื้อแรงเลยล่ะครับ มีทั้งหินทั้งทรายเต็มไปหมด” เซบาสเตียนยอมนอนราบลงกับเตียงคนไข้ พื้นที่ที่เขาไม่ชอบที่สุด เงยหน้ามองวิเวียนที่ยืนดูอยู่ข้างเตียงตาแป๋วจนอีกคนต้องหลุบตาหนี “ที่รัก…” แต่แล้วเขาก็ยื่นมือไปจับชายเชื้อเธอเบาๆด้วยเสียงเรียกที่แผ่วเบาดั่งว่าเด็กน้อยที่กำลังอยากร้องขออะไรสักอ
“ไปเลยค่ะ” เสียงสั่นสะท้านเอ่ยบอกคนขับแท็กซี่ สองมือกำกันแน่นหวังให้หัวใจที่เริ่มอ่อนระทวยไม่พังทะลายลงง่ายๆ วิเวียนหลับตาลงเพื่อปิดกั้นตัวเองจากภาพในกระจกที่สะท้อนถึงเงาของเขาที่กำลังวิ่งตามรถเธอด้วยเท้าเปล่า “อย่าทิ้งผม.. ฮึกก” เขาตะโกนตามหลังเธอซํ้าๆจนแรงเสียงแทบเลือนหายกลับเข้าไปในหลอดคอ เซบาสเตียนวิ่งตามหลังออกมาด้วยเท้าเปล่าไม่สนเศษหินเศษทรายที่ทะลุผิวเนื้อ เลือดไหลซึมออกมาเป็นทางยาว ทว่าเขายังวิ่ง… วิ่งด้วยหัวใจที่ปวดร้าวยิ่งกว่าเท้าที่กำลังฉีกขาด “ฮึกก… ที่รักอย่าไป ฮึกกก“ เซบาสเตียนแทบจะทรุดอยู่กลางทาง แต่หัวใจกลับสู้ไม่ยอมลดละความพยายาม เขาจะมานั่งร้องไห้อยู่กลางถนนแบบนี้ไม่ได้ เมื่อนึกขึ้นได้ก็รวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายที่มีทั้งใจแล้วลุกขึ้นโบกแท็กซี่รีบตามหลังเธอไปอย่างไม่ยอมถอย รถแท็กซี่คันสีฟ้าที่นำหน้าอีกคนเข้ามาจอดเทียบท่าหน้าบ้านวิเวียนก่อนจะมีอีกคนที่ตามหลังเข้ามาไม่นานหลังจากนั้น วิเวียนรีบเดินเข้าบ้านในขณะที่มีเขาตามหลังมาด้วยเสียงเรียกเบาแผ่วสิ้นเรี่ยวแรง ”ที่รัก… ได้โปรดฮึกกก“ เท้าที่เจ็บแสบจนเดินได้ไม่ถนัด แต่เขาก็ยังดึงดันเดินตามเธอมาจนถึงเส้นทา