Home / โรแมนติก / SiRen เงือกสาว ผจญภัย / #14 เกาะที่ไร้ชื่อ

Share

#14 เกาะที่ไร้ชื่อ

last update Last Updated: 2025-06-18 15:23:51

เพลิงลุกไหม้ยอดไม้ โหมกระท่อมริมฝั่งทะเลสาบให้กลายเป็นเศษเถ้าดำราวสรวงสวรรค์เคยทอดทิ้งที่นี่ไปนานแล้ว...

ข้ายืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ใต้แสงสีส้มของความสูญเสีย

ข้ารู้สึกราวกับห้วงเวลาหยุดหมุนในชั่วครู่ที่สายตาจับจ้องไปยังร่างหนึ่งบนพื้น—เรน ชายผู้เคยเป็นทั้งเพื่อน ทั้งรัก และบัดนี้…เป็นเพียงซากอดีตที่ไร้คำแก้ตัว

เสียงสะอื้นของนีร่าดังแผ่วอยู่เบื้องหลัง หยดน้ำตาสีดำยังร่วงทีละหยดลงสู่ผืนดินที่เปียกชื้นจากทั้งฝนที่เพิ่งจางหาย และเลือดที่ยังไม่แห้ง

ข้าอยากยื่นมือไปปลอบนาง

แต่ข้ากลับยืนนิ่งอยู่เช่นนั้น...เพราะบางความเจ็บ ก็ไม่มีถ้อยคำใดปลอบประโลมได้

> “อีธาน…”

เสียงนางเบาเหมือนเสียงคลื่นลมที่ซัดชายฝั่ง

ข้าหันมาช้า ๆ และสบตากับนาง

ดวงตาคู่นั้น—แม้จะยังงดงาม—กลับเต็มไปด้วยร่องรอยของการแตกสลาย

> “ข้า…เหนื่อยเหลือเกิน…”

นางเอ่ยก่อนจะซบหน้าลงบนบ่าข้า ข้าได้แต่ยกแขนขึ้นโอบประคองแผ่นหลังบางเอาไว้แน่น มาริเบลยืนนิ่งอยู่ด้านข้าง ร่างเล็กที่เปื้อนเลือดและดินเงยหน้ามองพี่สาวอย่างเงียบงัน น้ำตาของนางไม่ไหล…เพราะนางไม่เหลือแม้แรงจะร้องไห้อีกแล้ว

ข้าอยากให้คืนวันสงบกลับมา แต่ในโลกนี้—มันไม่เคยง่ายเช่นนั้น

เพราะแล้วในขณะที่แสงเพลิงยังไหวริบไหวยามค่ำ คืนที่ควรเงียบสงบหลังบทอวสานแห่งความรุนแรง กลับปรากฏเสียงระเบิดดังก้องจากเบื้องทิศตะวันตกเฉียงใต้ของทะเลสาบ

> “ปึงงง!!!”

ผืนน้ำกระเพื่อมไหว เสียงตะโกนและเสียงกลองโทนดังขึ้นราวกับลั่นฆ้องศึก ข้าตวัดสายตาไปทันที ร่างของนีร่าผงะเงยหน้ามองตามด้วยความตื่นตระหนก

> “นั่น…นั่นเสียงปืนใหญ่!”

> “เราถูกจู่โจมอีกแล้ว!”

หนึ่งในเงือกสาวตะโกนขึ้น ขณะที่ร่างของพวกนางต่างแตกตื่นอีกครั้ง

ท้องทะเลเบื้องหน้ากำลังถูกผ่าออกด้วยเงาทะมึนของเรือใหญ่—เรือสำเภาสามเสา ธงดำปลิวไสวกลางลม กลางหัวธงปักตราหัวกะโหลกสองดาบไขว้ เสียงคำรามของลูกเรือดังกระหึ่มบนดาดฟ้า

> “เรือ…ของโจรสลัด!?”

ข้ากัดฟันแน่นในทันใด ดวงตาสอดแนมผ่านเปลวไฟไปยังร่างสูงใหญ่บนหัวเรือ—ร่างนั้นยืนมั่นคงไม่ไหวเอน เส้นผมยาวประบ่าถูกลมพัดปลิว เสื้อคลุมหนังเสือคลุมไหล่ หนวดเคราดำเข้มบดบังใบหน้าครึ่งหนึ่ง และตาข้างหนึ่งเป็นเพียงรอยแผลปิดทับด้วยแผ่นหนังดำ

> “กัปตันแบร์กตัน…” ข้าเอ่ยชื่อต้องห้าม—เสียงข้าสั่น

โจรสลัดผู้เป็นตำนานแห่งน่านน้ำใต้ ชายผู้ไม่มีหัวใจและไม่รู้จักความเมตตา

> “นีร่า! เจ้าและมาริเบลรีบหนีไป!” ข้าตะโกนขึ้น ก่อนจะยกดาบขึ้นมาเบื้องหน้า

> “ไม่…ข้าจะไม่ทิ้งเจ้าไว้” นางกระชับมือมาริเบลแน่น ดวงตายังคงไหลหยดน้ำตาดำอย่างไม่หยุดหย่อน แต่นางกลับไม่แสดงความอ่อนแออีก

เสียงแตรเป่าเรียกลูกเรือดังก้อง

เรือเทียบฝั่งอย่างรวดเร็วด้วยทักษะชำนาญของลูกเรือแบร์คตัน

และร่างนั้น—กัปตันแบร์กตัน—ก็ก้าวลงสู่ผืนทรายโดยไม่หวั่นไหวแม้เศษเถ้าจะยังลอยฟุ้งกลางอากาศ

> “เจ้าเป็นใครกัน ข้าจำไม่ได้ว่ามีชื่อเจ้าอยู่ในเส้นทางการล่าของข้า…” แบร์กตันเอ่ยเสียงต่ำ กระบี่โค้งข้างเอวส่องประกายราวเขี้ยวอสรพิษ

ข้ายืดตัวตรง พยายามกลืนคำกลัวลงคอ

> “แต่ชื่อของข้า จะสลักในดวงตาเจ้าก่อนตะวันรุ่ง—ถ้าข้าต้องตายตรงนี้ ก็จะตายเพื่อปกป้องพวกนาง”

แบร์กตันหัวเราะเบา ๆ—เสียงหัวเราะที่ปราศจากมวลความเมตตาใด ๆ ทั้งสิ้น

> “ความรักหรือ? ช่างน่าสมเพช…”

เขาคว้ากระบี่ออกจากฝักอย่างเชื่องช้า แสงจากเพลิงสะท้อนคมโลหะเหมือนเลือดสด

และในค่ำคืนนั้น—

กลางหมู่บ้านเงือกที่กำลังจะกลายเป็นตำนานเถ้าธุลี เสียงปะทะของดาบก็ดังขึ้นอีกครั้ง

โลหะกระทบดังกังวาน เสียงฝีเท้าโถมใส่กันท่ามกลางควันไฟ ความเจ็บปวด และอดีตที่หลอกหลอน...

แต่คราวนี้...ข้าจะไม่ยอมให้ความรักต้องสูญเสียอีกแล้ว ไม่ว่านี่จะเป็นศึกสุดท้าย หรือเพียงบทเริ่มต้นของฝันร้ายครั้งใหม่

ข้า—นีร่า—กำมือของมาริเบลแน่นยิ่งกว่าทุกครา

เรือนร่างของน้องข้ายังบอบบาง มือขาวซีดที่เคยว่ายน้ำเก่งกาจ บัดนี้กำลังสั่นระริกด้วยแรงเจ็บจากบาดแผล

> “พี่...พี่จะพาเราไปที่ใด…” นางเอ่ยเสียงแผ่ว ร่างน้อยสะดุดกับรากไม้เบื้องหน้า

> “ที่ใดก็ได้ที่แสงไฟของพวกมันไปไม่ถึง” ข้าตอบ ทั้งที่ในใจยังไม่รู้แม้กระทั่งทิศทางที่จะวิ่งต่อ

เบื้องหลังนั้น...เสียงฝีเท้าหนัก ๆ ของพวกโจรสลัดไล่ตามมาไม่ห่าง

พวกมันย่ำลงบนพื้นดินอย่างไม่ปรานี พร้อมเสียงคำรามต่ำราวกับสัตว์ป่า—พร้อมฉุด พร้อมฆ่า หากพวกข้าถูกพบ

สายลมเย็นยามค่ำพัดเอากลิ่นควันไฟและเหล็กไหม้มาปะทะจมูก

เสียงเปลวไฟแตกตัวอยู่เบื้องหลังประหนึ่งจะเผาชีวิตและอดีตของพวกข้าให้กลายเป็นเพียงผงธุลี

> “รีบ!” ข้ารั้งมาริเบลให้ก้าวเท้าต่อไปอย่างรวดเร็ว

เท้าเปล่าของเราสองพี่น้องเหยียบย่ำไปบนพื้นทรายหยาบกร้าน ก่อนจะมุดเข้าเขตป่ารกร้างซึ่งเคยเป็นทางลับสู่บึงน้ำต้องห้าม

ต้นไม้สูงชะลูดต้อนรับพวกข้าด้วยเงามืด

กิ่งไม้เกี่ยวผ้าคลุมของข้าจนหลุดรุ่ย ผมยาวเปียกชื้นของข้ากระเซิงจนบดบังวิสัยทัศน์

แต่มือข้ายังไม่ยอมปล่อยมาริเบลแม้เพียงชั่วครู่

> “พี่ นั่น…” เสียงน้องนางเบาเหมือนเสียงลม

ข้ามองตามปลายนิ้วนาง—เห็นเงาเสาไม้ผุ ๆ โผล่ขึ้นจากพงหญ้าด้านหน้า นั่นคือ สะพานเก่า…แต่สะพานนั้นพังครึ่งซีก

ไม้ผุจนเห็นโพรงด้านล่างเป็นน้ำลึกกรัง ลำธารเล็กที่หลบซ่อนตัวเงียบงันในความมืด

ข้าไม่แน่ใจว่ากระโดดลงไปจะเจอสิ่งใด…

แต่หากยังลังเลอยู่ตรงนี้ อีกไม่เกินหนึ่งลมหายใจ พวกมันจะตามมาทันแน่นอน

> “จับข้าไว้แน่น ๆ อย่าหวั่นไหว” ข้ากระซิบ ก่อนจะดึงนางมากอดแนบอก

แล้วข้าก็กระโจนลงไป—ร่างทั้งสองพุ่งผ่านอากาศ

เสียงลมหวิวอยู่ข้างหู ก่อนจะ ตู้มมม! เสียงร่างเรากระทบน้ำเย็นจัด

ความเย็นเฉียบกัดร่างข้าทันที

มาริเบลกอดข้าแน่น เราสองพี่น้องดำลงสู่ความมืดของสายน้ำที่เคยเป็นบ้าน แต่บัดนี้กลับเย็นชาไร้ไอรัก

ข้าว่ายฝ่าความมืดลงสู่โพรงใต้น้ำ—หวังว่ามันยังไม่ถูกทับถมไปตามกาลเวลา

> “อีกนิดเดียว…ทนไว้…” ข้ากระซิบกับนาง

ในใจ ปอดของข้าเริ่มตึง ร่างเริ่มชา และแสงริบหรี่ที่ปลายโพรงน้ำคือสิ่งเดียวที่ข้ายึดไว้ไม่ให้จม

ในที่สุด...

ข้าก็โผล่ขึ้นสู่ผิวน้ำอีกฝั่งหนึ่ง—เป็นอ่าวเล็กที่เงียบงัน ห่างไกลจากเสียงระเบิดและกรีดร้อง

ข้าหอบหายใจแรง กอดมาริเบลไว้แน่น—นางยังคงไอจนน้ำตาไหล

> “พี่...เรารอดหรือ” นางถามทั้งที่เสียงยังสั่น

> “ยังไม่…แต่เรากำลังจะ” ข้ากระซิบตอบ ก่อนจะหันมองผืนทะเลที่มืดมิดเบื้องหน้า

ข้ายังไม่รู้ว่าเส้นทางข้างหน้าจะพาไปที่ใด—แผ่นดินใหม่? หรือนรกอีกบท?

แต่ตราบใดที่มือข้ายังจับมือมาริเบลไว้ได้...

ข้าจะหนีให้พ้นแม้ต้องแลกด้วยลมหายใจสุดท้ายของตน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #47 บาดเเผลที่ไม่มีทางรักษา

    ยามค่ำคืน – ริมชายฝั่งที่เงียบสงัด คลื่นทะเลซัดกระทบโขดหินเป็นจังหวะ สายลมเย็นปะทะผิวจนหนาวสะท้าน ดวงจันทร์เต็มดวงส่องแสงจ้าเหนือผืนน้ำสีหมึก นีร่ายืนอยู่บนผืนทราย แผลที่แขนยังพันผ้าแน่น แต่เลือดยังซึมออกไม่หยุด ข้างเธอ อีธานยืนเงียบ เขาไม่พูดอะไร เพียงแต่จ้องมองหน้าเธอราวกับอยากจำทุกรายละเอียดไว้ให้ขึ้นใจ นีร่าหันมามองเขา ดวงตาสองคู่สบกันในความเงียบ “ข้าจะรีบกลับมา” เธอเอ่ยเบาๆ น้ำเสียงสั่น อีธานพยักหน้า แต่สายตาเขาเต็มไปด้วยห่วง “นานแค่ไหน?” “ข้าไม่รู้…” นีร่ากลืนน้ำลาย “แค่ไม่กี่วัน ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด” อีธานถอนหายใจ มือใหญ่ลูบผมเธออย่างแผ่วเบา “เจ้าพูดเหมือนมันจะง่าย” “มันไม่ง่าย” เธอยิ้มจางๆ “แต่ข้าต้องลอง” เขาเงียบไปนาน ก่อนจะหยิบมีดสั้นเล่มหนึ่งจากเอว ด้ามเป็นเหล็กเรียบเรียง เส้นคมคมกริบ “เอาไว้ป้องกันตัว” นีร่ารับมาไว้ในมือ สายตาเธอเริ่มพร่า เธอขยับเข้าไปใกล้ โอบแขนรอบตัวเขาแน่น “ข้ากลัว…” เธอกระซิบ “กลัวว่าจะไม่ได้เห็นหน้าเจ้าอีก” “ข้าก็กลัวเหมือนกัน” เขากอดเธอแน่นยิ่งกว่าเดิม “แต่ข้ารู้ว่าเจ้าเข้มแข็งกว่าใคร ข้าจ

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #46 กลับไปสู่ทะเล

    นีร่ายังคงสั่นเทา น้ำตาไหลไม่หยุดอีธานคุกเข่าลงข้างเธอ มือใหญ่ประคองใบหน้าเธอแผ่วเบา“นีร่า…มองข้า…เจ้าอยู่ที่นี่ ปลอดภัยแล้ว”เธอกะพริบตา ถอยหายใจแรงเหมือนจะขาดใจเสียงในคอแหบจนแทบไม่เป็นเสียง“มัน…มันไม่ใช่แค่ฝัน…ข้าเห็นแม่จริงๆ”อีธานกอดเธอไว้แน่นกลิ่นเลือดและเหงื่อยังติดตัวเธอ“แม่ของข้า…ตาเปลี่ยนเป็นสีดำ…”เธอกัดริมฝีปาก มือสั่นจนแทบกำอะไรไม่อยู่“เธอกลายเป็น…สัตว์ประหลาด…พูดว่าข้า…ต้องกลับไป…เป็นเหมือนพวกมัน…”เสียงสะอื้นดังลอดออกมาอีธานค่อยๆ ลูบหลังเธอ“ไม่…เจ้าจะไม่เป็นเหมือนพวกมัน”น้ำเสียงเขาหนักแน่น“ข้าสัญญา”นีร่าเงยหน้าขึ้น ดวงตาแดงก่ำ“ถ้าแม่ยังมีชีวิต…ข้าต้องหาคำตอบ…ข้าต้องรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น…”“งั้นเราจะไปด้วยกัน”อีธานพูดช้าๆ จ้องตาเธอแน่วแน่“ไม่ว่าต้องไปที่ไหน…เจ้าไม่ได้อยู่คนเดียว”เสียงคลื่นนอกหน้าต่างยังซัดเข้าฝั่งไฟตะเกียงสั่นไหวเงียบๆในอกนีร่า ความกลัวค่อยๆ แปรเป็นแรงฮึดสู้เธอพยักหน้าช้าๆ“เราจะหาความจริง…ไม่ว่าจะต้องเจอกับอะไร…”อีธานกระชับมือเธอแน่นขึ้นและในค่ำคืนที่หนาวเหน็บหัวใจสองดวงก็ผูกพันกันมั่นคงกว่าเดิมสองวันถัดมาแผลบนแขนของนีร่าไม่ดีขึ้น

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #45 ฝันร้าย

    หัวหน้าเงือกพุ่งใส่อีธานสุดแรงครีบใหญ่หวดอากาศจนเกิดเสียงแตกดัง วืด!อีธานเบี่ยงตัวหลบไปทางซ้ายปลายมีดในมือฟาดเฉียงเข้าที่คอด้านข้างของมันฉึก!เสียงเนื้อฉีกดังชัดเลือดสีหมึกกระฉูดราดเต็มตัวเขาหัวหน้าเงือกคำรามลั่นจนพื้นสะเทือนร่างมหึมาสะบัดถอยหลังไปสองก้าวชั่ววินาทีนั้น…ศรเซรีออนในมือนีร่าเปล่งแสงจ้าเหมือนจะปล่อยพลังสุดท้ายออกมาเธอยกศรขึ้น…ริมฝีปากแห้งแตกพึมพำถ้อยคำเวทเสียงแหบจนแทบฟังไม่ออก“…จบสิ้น…อสูร…”ประกายฟ้ารูปวงเวทหมุนรอบตัวเธอพลังเวททะลักขึ้นจนฝนสาดกระจายเป็นวงแสงจากศรสว่างจ้า—แต่ทันใดนั้นร่างเธอก็สั่นแรงแผลลึกบนแขนซ้ายฉีกกว้างกว่าเดิม เลือดพุ่งร้อนวาบเต็มมือนีร่าหอบแรง สายตาพร่าเสียงในหูเธอกลายเป็นเสียงอื้ออึงภาพรอบตัวพร่ามัวเหมือนฝันหัวหน้าเงือกที่บาดเจ็บคอคำรามต่ำมันถอยไปช้า ๆ หยาดเลือดดำหยดตามพื้นสายตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด…และความเกลียดชังก่อนมันจะพุ่งหนีเข้าความมืดหลังบ้านเรือนพังยับอีธานจะวิ่งตาม—แต่เขาหันมาเห็นนีร่าทรุดลงบนเข่าตัวเองศรเซรีออนร่วงจากมือกระแทกพื้นหิน“นีร่า!”เขาพุ่งเข้าประคองร่างเธอไว้แขนเธออ่อนแรงจนแทบไม่ขยับสายตาคู่สวยค่อย

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #44 บาดเเผล

    นีร่าเหวี่ยงศรลงสุดแรงปลายศรเซรีออนเปล่งแสงฟ้าแทงเข้าข้างคอหัวหน้าเงือกฉึก!เสียงเนื้อแตกดังชัดเลือดสีหมึกทะลักออกมาเป็นฝอยดำข้นมันคำรามลั่นทั้งลานบ้านแต่พลังมันยังไม่หมด—เงือกกลายพันธุ์ใช้ครีบหนาฟาดสวนใส่เธอเต็มแรงผัวะ!ร่างนีร่ากระเด็นไถลไปตามพื้นหินเธอรู้สึกเหมือนอากาศในปอดหายไปหมดโลกทั้งโลกหมุนเคว้งอยู่ชั่ววูบเสียงอีธานตะโกน“นีร่า!”เธอพยายามลุก แต่แขนซ้ายชาไปหมดพอเหลือบลงมอง…แผ่นหนังแขนเสื้อขาดเป็นทางยาว เลือดสีแดงสดไหลรินตลอดแนวแผลฝนโปรยแรงขึ้นจนทุกอย่างเย็นเฉียบแต่บาดแผลกลับร้อนจี๊ดราวไฟลวกเธอหอบหายใจ สายตาพร่าเสียงฝีเท้าเงือกกลายพันธุ์ก้าวมาช้า ๆมันก้มลง แยกเขี้ยวใส่เธอนีร่ากัดฟัน พยายามยันตัวขึ้นแม้แขนซ้ายจะสั่นจนแทบยกไม่ไหวศรเซรีออนสั่นแสงพร่าอยู่ในมือข้างขวาอีธานพุ่งมาคุกเข่าข้างเธอ“อย่าฝืน…! ถอยก่อน!”เธอสบตาเขาแม้เจ็บจนตัวสั่น แต่เสียงเธอยังนิ่ง“ไม่ได้…มันจะฆ่าพวกเขาทุกคน…”บีลาร์กับลุงโทบี้พุ่งเข้ามาขวางตรงหน้าหอกไม้ยกขึ้นพร้อมกัน แม้จะสู้ด้วยแรงที่สั่นระริกนีร่าหอบแรงหนึ่งทีแล้วกัดฟันจนเลือดซึมที่ริมฝีปากเสียงฝีเท้าเงือกกลายพันธุ์ที่กำลังจะก

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #43 ลุกขึ้นสู้

    เสียงกรีดร้องดังสะท้อนมาตามลมทะเลนีร่าชะงัก…มือยังถือถ้วยซุปที่อีธานเพิ่งตักให้เมื่อครู่แววตาเธอเปลี่ยนไปทันที — ความนิ่งสงบกลายเป็นความตื่นตัว“เสียงจากหมู่บ้าน…”เธอกระซิบ เบาแต่หนักแน่นอีธานวางชามลงแทบจะพร้อมกัน“ข้าจะไปด้วย”ไอล่าลุกพรวด“เดี๋ยว! มันอาจเป็นกับดัก—”“ไม่ไปตอนนี้จะไม่มีใครให้ช่วยแล้ว!” นีร่าตอบพลางคว้าศรเซรีออน ดวงตาสีฟ้าเรืองแสงจาง ๆศรในมือเธอร้อนจัด—เหมือนมัน “เตือน” ว่า ศัตรูอยู่ใกล้---กลางหมู่บ้าน — เปลวไฟลุกโชนร่างของเงือกกลายพันธุ์ 3-4 ตัว กำลังล้อมครอบครัวหนึ่งที่เหลือเพียงพ่อกับลูกสาว พ่อพยายามยื้อไว้ แต่เด็กหญิงร้องไห้เสียงแหบก่อนที่ครีบแหลมจะฟันลงมาที่ร่างพวกเขา—“ฟึ่บ!”เสียงบางอย่างพุ่งผ่านกลางอากาศแสงฟ้ารูปเกลียว ปรากฏขึ้นกลางฝูงเงือกศรเซรีออนแทงทะลุร่างของหนึ่งในพวกมัน ร่างมันกระตุกก่อนระเบิดเป็นเถ้าทะเล“ทางนี้!” เสียงนีร่าตะโกนเธอพุ่งเข้ามาท่ามกลางเปลวเพลิง ผมยาวสยายตามลม ใบหน้าเปื้อนฝุ่น แต่ดวงตาไม่สั่นไหวศรเวทในมือเปล่งแสงจ้า ราวกับรู้หน้าที่ของมันเองอีธานกระโจนตามมา สะบัดมีดคู่แทงเข้าลำตัวเงือกอีกตัวอย่างแม่นยำ เลือดสีดำทะลัก“หนีไปทา

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #42 พวกมันมากันเเล้ว

    แสงแดดสีทองอ่อนส่องลอดบานหน้าต่างเข้ามา นีร่ากับไอล่านั่งชิดกันบนพื้นไม้ ทั้งสองไม่ได้พูดอะไรกันอีกนาน ต่างคนต่างเงียบราวกับต้องการให้หัวใจได้พักเสียงฝีเท้าแผ่วเบาดังขึ้นที่บันไดอีธานกลับมาแล้วเขาเปิดประตูเข้ามาช้าๆ ในมือหิ้วตะกร้าที่มีก้อนขนมปังแห้ง ผลไม้ป่า และปลาเค็มสองตัว กลิ่นคาวผสมกลิ่นเค็มทะเลโชยอ่อนๆอีธานวางตะกร้าแล้วเดินเข้ามาหาทั้งสองคน เขาสบตานีร่า สายตาคู่นั้นอ่อนโยนจนหัวใจเธอสั่นอีธาน (เสียงทุ้มแผ่ว)“พอจะมีอะไรให้พวกเราอิ่มท้องไปถึงเย็น ข้าออกไปไกลหน่อย…คิดว่าไม่น่ามีใครตามรอยมาได้”ไอล่า (น้ำเสียงยังแหบ)“ขอบคุณ…เจ้าลำบากเพราะพวกเรามากแล้ว”อีธานส่ายหน้า เขาหันไปมองนีร่าแวบหนึ่งอีธาน“พวกเจ้าสองคนคือคนสำคัญ…ไม่มีอะไรเรียกว่า ‘ลำบาก’”นีร่าเม้มริมฝีปาก เธอรู้สึกเหมือนจะร้องไห้ แต่ก็ฝืนใจไว้นีร่า“เมื่อคืน…ข้าคิดว่าเราอาจไม่รอดแล้วจริงๆ”อีธานคุกเข่าลงข้างเธอ มือใหญ่สั่นน้อยๆ ขณะเอื้อมไปแตะแก้มนีร่าอีธาน“ตราบใดที่ข้ายังมีลมหายใจ…ข้าจะไม่ยอมให้มันพรากเจ้าหรือใครไปอีก”เขาหันไปสบตาไอล่าอีธาน“ข้าสาบาน…เราจะพามาริเบลกลับไปฝังอย่างสมเกียรติ และเราจะหาทางล้างแค้นมัน”

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status