นีร่ายังคงสั่นเทา น้ำตาไหลไม่หยุด
อีธานคุกเข่าลงข้างเธอ มือใหญ่ประคองใบหน้าเธอแผ่วเบา “นีร่า…มองข้า…เจ้าอยู่ที่นี่ ปลอดภัยแล้ว” เธอกะพริบตา ถอยหายใจแรงเหมือนจะขาดใจ เสียงในคอแหบจนแทบไม่เป็นเสียง “มัน…มันไม่ใช่แค่ฝัน…ข้าเห็นแม่จริงๆ” อีธานกอดเธอไว้แน่น กลิ่นเลือดและเหงื่อยังติดตัวเธอ “แม่ของข้า…ตาเปลี่ยนเป็นสีดำ…” เธอกัดริมฝีปาก มือสั่นจนแทบกำอะไรไม่อยู่ “เธอกลายเป็น…สัตว์ประหลาด…พูดว่าข้า…ต้องกลับไป…เป็นเหมือนพวกมัน…” เสียงสะอื้นดังลอดออกมา อีธานค่อยๆ ลูบหลังเธอ “ไม่…เจ้าจะไม่เป็นเหมือนพวกมัน” น้ำเสียงเขาหนักแน่น “ข้าสัญญา” นีร่าเงยหน้าขึ้น ดวงตาแดงก่ำ “ถ้าแม่ยังมีชีวิต…ข้าต้องหาคำตอบ…ข้าต้องรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น…” “งั้นเราจะไปด้วยกัน” อีธานพูดช้าๆ จ้องตาเธอแน่วแน่ “ไม่ว่าต้องไปที่ไหน…เจ้าไม่ได้อยู่คนเดียว” เสียงคลื่นนอกหน้าต่างยังซัดเข้าฝั่ง ไฟตะเกียงสั่นไหวเงียบๆ ในอกนีร่า ความกลัวค่อยๆ แปรเป็นแรงฮึดสู้ เธอพยักหน้าช้าๆ “เราจะหาความจริง…ไม่ว่าจะต้องเจอกับอะไร…” อีธานกระชับมือเธอแน่นขึ้น และในค่ำคืนที่หนาวเหน็บ หัวใจสองดวงก็ผูกพันกันมั่นคงกว่าเดิม สองวันถัดมา แผลบนแขนของนีร่าไม่ดีขึ้นเลย แม้จะเปลี่ยนผ้าพันแผล ใส่สมุนไพร แต่เลือดยังซึมออกมาไม่หยุด นีร่าพยายามลุกขึ้น แต่ร่างก็อ่อนแรงจนทรุดนั่ง อีธานประคองเธอไว้ สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล “มันไม่ใช่แผลธรรมดา…ใช่ไหม” นีร่าหลบตา เสียงเธอแผ่ว “…มันเป็นพิษ…ถ้าไม่กลับลงทะเล ข้าอาจตาย” อีธานนิ่งงัน เขากุมมือเธอแน่นขึ้น “เจ้าหมายความว่าต้องกลับไปในน้ำ?” เธอพยักหน้า “เลือดเงือกต้องแช่น้ำทะเล…ถึงจะสมานแผลได้…ข้าไม่มีทางเลือก” “แล้วถ้าเจ้าลงไป…พวกมันจะรู้หรือเปล่า?” “อาจรู้…” เธอกลืนน้ำลาย ความกลัวแวบขึ้นในตา “…แต่ถ้าไม่ไป แผลนี้จะฆ่าข้า” อีธานกอดเธอไว้แน่น “งั้นข้าจะไปด้วย” นีร่าส่ายหน้า “เจ้าหายใจใต้น้ำไม่ได้…ข้าต้องไปคนเดียว” “ข้าไม่อยากปล่อยเจ้าไป” เสียงเขาแหบต่ำ นีร่าซบหน้ากับอกเขา น้ำตาร้อนซึมออกมา “ข้าก็ไม่อยากไป…แต่ข้าไม่อยากตาย…” เธอเงยหน้ามองเขา ดวงตาแดงก่ำ “รอข้า…แค่รอ…ถ้าข้ากลับมาไม่ได้…จงหนีไปจากที่นี่” “ไม่” อีธานตอบทันที “เจ้าต้องกลับมา ข้าจะรอ จนวันสุดท้าย” เสียงคลื่นนอกหน้าต่างดังแผ่ว หัวใจนีร่าก็เต้นแรงด้วยความหวาดกลัว แต่เธอรู้…ไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้วใต้น้ำ – หลังจากนีร่าดำลงทะเลทันทีที่ร่างของนีร่าจมลงใต้ผิวน้ำ ทุกอย่างรอบตัวเธอก็เปลี่ยนไปความหนาวจากลมด้านบนค่อยๆ หายไป แทนที่ด้วยความสงบของทะเลลึกผิวของเธอเริ่มเปล่งแสงฟ้าอ่อน ครีบที่หลังขากางออกอย่างช้าๆ หางสีเงินสะท้อนกับแสงจันทร์ที่ส่องทะลุผืนน้ำลงมาเธอหลับตา สูดหายใจลึก—หรือจะเรียกว่ารับพลังจากทะเลก็ไม่ผิด"ในที่สุด...ข้าก็ได้กลับมา" เธอคิดในใจสายตาเธอกวาดมองรอบตัว แล้วก็ต้องยิ้มออกมาอย่างดีใจฝูงเต่าทะเลตัวโตสองสามตัวว่ายผ่านหน้าไปช้าๆ หนึ่งในนั้นหันมามองเธอเหมือนจำได้ปลาสีสันสดใสแหวกว่ายระหว่างแนวปะการัง ทั้งปลาการ์ตูน ปลานกแก้ว และฝูงปลาเล็กๆ ที่รวมตัวกันเป็นกลุ่มวูบวาบสาหร่ายทะเลพลิ้วไหวตามกระแสน้ำ เหมือนกำลังเต้นรำต้อนรับเธอกลับบ้านมีปลากระเบนตัวใหญ่ลอยอยู่ใกล้พื้นทราย เคลื่อนไหวเงียบๆ อย่างสง่างามแสงจันทร์ลอดผ่านผืนน้ำ เป็นลำแสงสีเงินสวยงามที่ส่องรอบตัวเธอนีร่ายิ้ม น้ำตาซึมขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว—แต่เป็นน้ำตาแห่งความสุขเพราะทะเล…คือที่เดียวที่ไม่เคยผลักไสเธอทุกครั้งที่โลกด้านบนโหดร้าย ทะเลจะโอบรับเธอไว้เสมอร่างเธอว่ายลึกลงไปช้าๆ ผ่านแนวหินใต้น้ำที่คุ้นเคย ราวกับเป
ยามค่ำคืน – ริมชายฝั่งที่เงียบสงัด คลื่นทะเลซัดกระทบโขดหินเป็นจังหวะ สายลมเย็นปะทะผิวจนหนาวสะท้าน ดวงจันทร์เต็มดวงส่องแสงจ้าเหนือผืนน้ำสีหมึก นีร่ายืนอยู่บนผืนทราย แผลที่แขนยังพันผ้าแน่น แต่เลือดยังซึมออกไม่หยุด ข้างเธอ อีธานยืนเงียบ เขาไม่พูดอะไร เพียงแต่จ้องมองหน้าเธอราวกับอยากจำทุกรายละเอียดไว้ให้ขึ้นใจ นีร่าหันมามองเขา ดวงตาสองคู่สบกันในความเงียบ “ข้าจะรีบกลับมา” เธอเอ่ยเบาๆ น้ำเสียงสั่น อีธานพยักหน้า แต่สายตาเขาเต็มไปด้วยห่วง “นานแค่ไหน?” “ข้าไม่รู้…” นีร่ากลืนน้ำลาย “แค่ไม่กี่วัน ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด” อีธานถอนหายใจ มือใหญ่ลูบผมเธออย่างแผ่วเบา “เจ้าพูดเหมือนมันจะง่าย” “มันไม่ง่าย” เธอยิ้มจางๆ “แต่ข้าต้องลอง” เขาเงียบไปนาน ก่อนจะหยิบมีดสั้นเล่มหนึ่งจากเอว ด้ามเป็นเหล็กเรียบเรียง เส้นคมคมกริบ “เอาไว้ป้องกันตัว” นีร่ารับมาไว้ในมือ สายตาเธอเริ่มพร่า เธอขยับเข้าไปใกล้ โอบแขนรอบตัวเขาแน่น “ข้ากลัว…” เธอกระซิบ “กลัวว่าจะไม่ได้เห็นหน้าเจ้าอีก” “ข้าก็กลัวเหมือนกัน” เขากอดเธอแน่นยิ่งกว่าเดิม “แต่ข้ารู้ว่าเจ้าเข้มแข็งกว่าใคร ข้าจ
นีร่ายังคงสั่นเทา น้ำตาไหลไม่หยุดอีธานคุกเข่าลงข้างเธอ มือใหญ่ประคองใบหน้าเธอแผ่วเบา“นีร่า…มองข้า…เจ้าอยู่ที่นี่ ปลอดภัยแล้ว”เธอกะพริบตา ถอยหายใจแรงเหมือนจะขาดใจเสียงในคอแหบจนแทบไม่เป็นเสียง“มัน…มันไม่ใช่แค่ฝัน…ข้าเห็นแม่จริงๆ”อีธานกอดเธอไว้แน่นกลิ่นเลือดและเหงื่อยังติดตัวเธอ“แม่ของข้า…ตาเปลี่ยนเป็นสีดำ…”เธอกัดริมฝีปาก มือสั่นจนแทบกำอะไรไม่อยู่“เธอกลายเป็น…สัตว์ประหลาด…พูดว่าข้า…ต้องกลับไป…เป็นเหมือนพวกมัน…”เสียงสะอื้นดังลอดออกมาอีธานค่อยๆ ลูบหลังเธอ“ไม่…เจ้าจะไม่เป็นเหมือนพวกมัน”น้ำเสียงเขาหนักแน่น“ข้าสัญญา”นีร่าเงยหน้าขึ้น ดวงตาแดงก่ำ“ถ้าแม่ยังมีชีวิต…ข้าต้องหาคำตอบ…ข้าต้องรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น…”“งั้นเราจะไปด้วยกัน”อีธานพูดช้าๆ จ้องตาเธอแน่วแน่“ไม่ว่าต้องไปที่ไหน…เจ้าไม่ได้อยู่คนเดียว”เสียงคลื่นนอกหน้าต่างยังซัดเข้าฝั่งไฟตะเกียงสั่นไหวเงียบๆในอกนีร่า ความกลัวค่อยๆ แปรเป็นแรงฮึดสู้เธอพยักหน้าช้าๆ“เราจะหาความจริง…ไม่ว่าจะต้องเจอกับอะไร…”อีธานกระชับมือเธอแน่นขึ้นและในค่ำคืนที่หนาวเหน็บหัวใจสองดวงก็ผูกพันกันมั่นคงกว่าเดิมสองวันถัดมาแผลบนแขนของนีร่าไม่ดีขึ้น
หัวหน้าเงือกพุ่งใส่อีธานสุดแรงครีบใหญ่หวดอากาศจนเกิดเสียงแตกดัง วืด!อีธานเบี่ยงตัวหลบไปทางซ้ายปลายมีดในมือฟาดเฉียงเข้าที่คอด้านข้างของมันฉึก!เสียงเนื้อฉีกดังชัดเลือดสีหมึกกระฉูดราดเต็มตัวเขาหัวหน้าเงือกคำรามลั่นจนพื้นสะเทือนร่างมหึมาสะบัดถอยหลังไปสองก้าวชั่ววินาทีนั้น…ศรเซรีออนในมือนีร่าเปล่งแสงจ้าเหมือนจะปล่อยพลังสุดท้ายออกมาเธอยกศรขึ้น…ริมฝีปากแห้งแตกพึมพำถ้อยคำเวทเสียงแหบจนแทบฟังไม่ออก“…จบสิ้น…อสูร…”ประกายฟ้ารูปวงเวทหมุนรอบตัวเธอพลังเวททะลักขึ้นจนฝนสาดกระจายเป็นวงแสงจากศรสว่างจ้า—แต่ทันใดนั้นร่างเธอก็สั่นแรงแผลลึกบนแขนซ้ายฉีกกว้างกว่าเดิม เลือดพุ่งร้อนวาบเต็มมือนีร่าหอบแรง สายตาพร่าเสียงในหูเธอกลายเป็นเสียงอื้ออึงภาพรอบตัวพร่ามัวเหมือนฝันหัวหน้าเงือกที่บาดเจ็บคอคำรามต่ำมันถอยไปช้า ๆ หยาดเลือดดำหยดตามพื้นสายตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด…และความเกลียดชังก่อนมันจะพุ่งหนีเข้าความมืดหลังบ้านเรือนพังยับอีธานจะวิ่งตาม—แต่เขาหันมาเห็นนีร่าทรุดลงบนเข่าตัวเองศรเซรีออนร่วงจากมือกระแทกพื้นหิน“นีร่า!”เขาพุ่งเข้าประคองร่างเธอไว้แขนเธออ่อนแรงจนแทบไม่ขยับสายตาคู่สวยค่อย
นีร่าเหวี่ยงศรลงสุดแรงปลายศรเซรีออนเปล่งแสงฟ้าแทงเข้าข้างคอหัวหน้าเงือกฉึก!เสียงเนื้อแตกดังชัดเลือดสีหมึกทะลักออกมาเป็นฝอยดำข้นมันคำรามลั่นทั้งลานบ้านแต่พลังมันยังไม่หมด—เงือกกลายพันธุ์ใช้ครีบหนาฟาดสวนใส่เธอเต็มแรงผัวะ!ร่างนีร่ากระเด็นไถลไปตามพื้นหินเธอรู้สึกเหมือนอากาศในปอดหายไปหมดโลกทั้งโลกหมุนเคว้งอยู่ชั่ววูบเสียงอีธานตะโกน“นีร่า!”เธอพยายามลุก แต่แขนซ้ายชาไปหมดพอเหลือบลงมอง…แผ่นหนังแขนเสื้อขาดเป็นทางยาว เลือดสีแดงสดไหลรินตลอดแนวแผลฝนโปรยแรงขึ้นจนทุกอย่างเย็นเฉียบแต่บาดแผลกลับร้อนจี๊ดราวไฟลวกเธอหอบหายใจ สายตาพร่าเสียงฝีเท้าเงือกกลายพันธุ์ก้าวมาช้า ๆมันก้มลง แยกเขี้ยวใส่เธอนีร่ากัดฟัน พยายามยันตัวขึ้นแม้แขนซ้ายจะสั่นจนแทบยกไม่ไหวศรเซรีออนสั่นแสงพร่าอยู่ในมือข้างขวาอีธานพุ่งมาคุกเข่าข้างเธอ“อย่าฝืน…! ถอยก่อน!”เธอสบตาเขาแม้เจ็บจนตัวสั่น แต่เสียงเธอยังนิ่ง“ไม่ได้…มันจะฆ่าพวกเขาทุกคน…”บีลาร์กับลุงโทบี้พุ่งเข้ามาขวางตรงหน้าหอกไม้ยกขึ้นพร้อมกัน แม้จะสู้ด้วยแรงที่สั่นระริกนีร่าหอบแรงหนึ่งทีแล้วกัดฟันจนเลือดซึมที่ริมฝีปากเสียงฝีเท้าเงือกกลายพันธุ์ที่กำลังจะก
เสียงกรีดร้องดังสะท้อนมาตามลมทะเลนีร่าชะงัก…มือยังถือถ้วยซุปที่อีธานเพิ่งตักให้เมื่อครู่แววตาเธอเปลี่ยนไปทันที — ความนิ่งสงบกลายเป็นความตื่นตัว“เสียงจากหมู่บ้าน…”เธอกระซิบ เบาแต่หนักแน่นอีธานวางชามลงแทบจะพร้อมกัน“ข้าจะไปด้วย”ไอล่าลุกพรวด“เดี๋ยว! มันอาจเป็นกับดัก—”“ไม่ไปตอนนี้จะไม่มีใครให้ช่วยแล้ว!” นีร่าตอบพลางคว้าศรเซรีออน ดวงตาสีฟ้าเรืองแสงจาง ๆศรในมือเธอร้อนจัด—เหมือนมัน “เตือน” ว่า ศัตรูอยู่ใกล้---กลางหมู่บ้าน — เปลวไฟลุกโชนร่างของเงือกกลายพันธุ์ 3-4 ตัว กำลังล้อมครอบครัวหนึ่งที่เหลือเพียงพ่อกับลูกสาว พ่อพยายามยื้อไว้ แต่เด็กหญิงร้องไห้เสียงแหบก่อนที่ครีบแหลมจะฟันลงมาที่ร่างพวกเขา—“ฟึ่บ!”เสียงบางอย่างพุ่งผ่านกลางอากาศแสงฟ้ารูปเกลียว ปรากฏขึ้นกลางฝูงเงือกศรเซรีออนแทงทะลุร่างของหนึ่งในพวกมัน ร่างมันกระตุกก่อนระเบิดเป็นเถ้าทะเล“ทางนี้!” เสียงนีร่าตะโกนเธอพุ่งเข้ามาท่ามกลางเปลวเพลิง ผมยาวสยายตามลม ใบหน้าเปื้อนฝุ่น แต่ดวงตาไม่สั่นไหวศรเวทในมือเปล่งแสงจ้า ราวกับรู้หน้าที่ของมันเองอีธานกระโจนตามมา สะบัดมีดคู่แทงเข้าลำตัวเงือกอีกตัวอย่างแม่นยำ เลือดสีดำทะลัก“หนีไปทา