หัวหน้าเงือกพุ่งใส่อีธานสุดแรง
ครีบใหญ่หวดอากาศจนเกิดเสียงแตกดัง วืด! อีธานเบี่ยงตัวหลบไปทางซ้าย ปลายมีดในมือฟาดเฉียงเข้าที่คอด้านข้างของมัน ฉึก! เสียงเนื้อฉีกดังชัด เลือดสีหมึกกระฉูดราดเต็มตัวเขา หัวหน้าเงือกคำรามลั่นจนพื้นสะเทือน ร่างมหึมาสะบัดถอยหลังไปสองก้าว ชั่ววินาทีนั้น…ศรเซรีออนในมือนีร่าเปล่งแสงจ้า เหมือนจะปล่อยพลังสุดท้ายออกมา เธอยกศรขึ้น… ริมฝีปากแห้งแตกพึมพำถ้อยคำเวท เสียงแหบจนแทบฟังไม่ออก “…จบสิ้น…อสูร…” ประกายฟ้ารูปวงเวทหมุนรอบตัวเธอ พลังเวททะลักขึ้นจนฝนสาดกระจายเป็นวง แสงจากศรสว่างจ้า— แต่ทันใดนั้น ร่างเธอก็สั่นแรง แผลลึกบนแขนซ้ายฉีกกว้างกว่าเดิม เลือดพุ่งร้อนวาบเต็มมือ นีร่าหอบแรง สายตาพร่า เสียงในหูเธอกลายเป็นเสียงอื้ออึง ภาพรอบตัวพร่ามัวเหมือนฝัน หัวหน้าเงือกที่บาดเจ็บคอคำรามต่ำ มันถอยไปช้า ๆ หยาดเลือดดำหยดตามพื้น สายตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด…และความเกลียดชัง ก่อนมันจะพุ่งหนีเข้าความมืดหลังบ้านเรือนพังยับ อีธานจะวิ่งตาม— แต่เขาหันมาเห็นนีร่าทรุดลงบนเข่าตัวเอง ศรเซรีออนร่วงจากมือกระแทกพื้นหิน “นีร่า!” เขาพุ่งเข้าประคองร่างเธอไว้ แขนเธออ่อนแรงจนแทบไม่ขยับ สายตาคู่สวยค่อย ๆ ปิดลง “ไม่…อย่าหลับ…อย่าเพิ่งหลับ…” อีธานแนบหน้าผากเข้ากับหน้าผากเธอ เสียงฝนสาดลงบนร่างทั้งสองคน ไฟที่ยังลุกไหม้ค่อย ๆ มอด กลิ่นเลือด ความร้อน ความหนาว…ทุกอย่างปนกันจนแทบแยกไม่ออก “นีร่า…ข้าอยู่นี่…อย่าทิ้งข้า…” แต่ร่างในอ้อมแขนเขาเงียบสงัด หายใจแผ่วเบา…ราวกับจะหายไปตลอดกาล สิบวันต่อมา ร่างนีรานอนนิ่งอยู่บนฟูกเก่า ๆ ในห้องไม้เล็ก ๆ เสียงคลื่นซัดชายฝั่งดังสม่ำเสมอ กลิ่นสมุนไพรจาง ๆ ลอยคลุ้งในอากาศ อีธานนั่งเฝ้าเธอไม่ห่าง มือใหญ่ของเขาวางบนมือนีร่าที่ซีดจนแทบโปร่งแสง ทุกวันเขาจะคอยลูบผมเธอ พูดกับเธอทั้งที่ไม่รู้ว่าเธอจะได้ยินไหม แต่คืนนี้…ในความเงียบงัน เธอฝัน --- เธอยืนอยู่บนโขดหินกลางทะเล หมอกหนาสีเทาปกคลุมรอบตัวจนมองไม่เห็นอะไรเลย ลมหนาวพัดแรงจนร่างสั่น เสียงกระซิบแผ่ว ๆ ลอยมาตามคลื่น “นีร่า…” นีร่าหันมองรอบตัว เสียงนั้นคุ้น…อ่อนโยน เสียงที่เธอไม่ได้ยินมานานเหลือเกิน “แม่…?” หมอกค่อย ๆ แหวกออก เผยให้เห็นหญิงคนหนึ่งยืนอยู่ตรงขอบโขดหิน เรือนผมยาวสีดำสนิท ใบหน้าอ่อนโยนเต็มไปด้วยความเศร้า นีร่ารู้ทันที— แม้เวลาผ่านไปนานเพียงไร นี่คือแม่ของเธอ “แม่…!” เธอก้าวเข้าไปหา น้ำตาเอ่อขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว แต่แล้ว— ร่างของแม่ก็สั่นไหว… ผิวหนังซีดจัดจนมองเห็นเส้นเลือดดำใต้ผิว ครีบสีเทาดำเริ่มงอกขึ้นจากแขน เล็บยืดยาวกลายเป็นกรงเล็บแหลม “แม่…นี่…เกิดอะไรขึ้น…” หญิงคนนั้นเงยหน้าช้า ๆ นัยน์ตาเคยอบอุ่น…เปลี่ยนเป็นสีดำว่างเปล่า ปากแยกยิ้ม เผยฟันเรียงเป็นแถวเหมือนปลาฉลาม เสียงเธอดังก้องราวเสียงคลื่นแตกหิน “เราทุกคน…ต้องกลับคืนสู่สายพันธุ์ที่แท้จริง…” นีร่าถอยหลัง หัวใจเต้นแรง “ไม่…นี่ไม่ใช่แม่…!” “มาร่วมกับข้า…” มือที่เคยกอดเธออย่างอ่อนโยน กลายเป็นอุ้งเล็บยาวพุ่งมาคว้าแขนเธอ เธอกรีดร้อง— แต่โลกทั้งโลกถูกคลื่นสีดำถาโถมใส่ เสียงคำรามของเงือกกลายพันธุ์ก้องอยู่ในหู “เลือด…ของเจ้า…คือกุญแจ…” --- นีร่าผวาตื่น ร่างเธอกระตุกแรงจนแทบหล่นจากฟูก เหงื่อชุ่มทั้งตัว ดวงตาเบิกโพลง เสียงหอบหายใจดังรัว อีธานที่เฝ้าอยู่รีบเข้ามากุมไหล่เธอ “นีร่า! เป็นอะไร—ฝันร้ายเหรอ!” เธอสั่นเทิ้ม… ดวงตายังมองไปข้างหน้าเหมือนไม่เห็นอะไร ริมฝีปากแห้งแตกขยับช้า ๆ “แม่ของข้า…” น้ำตาหยดหนึ่งร่วงลงบนมืออีธาน “…แม่…ไม่ได้ตาย…” เธอหันมาสบตาเขา เสียงแหบจนแทบฟังไม่ออก “แม่…กลายเป็นพวกมัน…”ยามค่ำคืน – ริมชายฝั่งที่เงียบสงัดคลื่นทะเลซัดกระทบโขดหินเป็นจังหวะสายลมเย็นปะทะผิวจนหนาวสะท้านดวงจันทร์เต็มดวงส่องแสงจ้าเหนือผืนน้ำสีหมึกนีร่ายืนอยู่บนผืนทรายแผลที่แขนยังพันผ้าแน่น แต่เลือดยังซึมออกไม่หยุดข้างเธอ อีธานยืนเงียบเขาไม่พูดอะไร เพียงแต่จ้องมองหน้าเธอราวกับอยากจำทุกรายละเอียดไว้ให้ขึ้นใจนีร่าหันมามองเขาดวงตาสองคู่สบกันในความเงียบ“ข้าจะรีบกลับมา”เธอเอ่ยเบาๆ น้ำเสียงสั่นอีธานพยักหน้า แต่สายตาเขาเต็มไปด้วยห่วง“นานแค่ไหน?”“ข้าไม่รู้…”นีร่ากลืนน้ำลาย“แค่ไม่กี่วัน ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด”อีธานถอนหายใจ มือใหญ่ลูบผมเธออย่างแผ่วเบา“เจ้าพูดเหมือนมันจะง่าย”“มันไม่ง่าย” เธอยิ้มจางๆ“แต่ข้าต้องลอง”เขาเงียบไปนาน ก่อนจะหยิบมีดสั้นเล่มหนึ่งจากเอวด้ามเป็นเหล็กเรียบเรียง เส้นคมคมกริบ“เอาไว้ป้องกันตัว”นีร่ารับมาไว้ในมือสายตาเธอเริ่มพร่าเธอขยับเข้าไปใกล้ โอบแขนรอบตัวเขาแน่น“ข้ากลัว…”เธอกระซิบ“กลัวว่าจะไม่ได้เห็นหน้าเจ้าอีก”“ข้าก็กลัวเหมือนกัน”เขากอดเธอแน่นยิ่งกว่าเดิม“แต่ข้ารู้ว่าเจ้าเข้มแข็งกว่าใคร ข้าจะรออยู่ตรงนี้…ทุกวัน”นีร่าซบหน้ากับอกเขา น้ำตาไหลเงียบๆเธอไม่
นีร่ายังคงสั่นเทา น้ำตาไหลไม่หยุดอีธานคุกเข่าลงข้างเธอ มือใหญ่ประคองใบหน้าเธอแผ่วเบา“นีร่า…มองข้า…เจ้าอยู่ที่นี่ ปลอดภัยแล้ว”เธอกะพริบตา ถอยหายใจแรงเหมือนจะขาดใจเสียงในคอแหบจนแทบไม่เป็นเสียง“มัน…มันไม่ใช่แค่ฝัน…ข้าเห็นแม่จริงๆ”อีธานกอดเธอไว้แน่นกลิ่นเลือดและเหงื่อยังติดตัวเธอ“แม่ของข้า…ตาเปลี่ยนเป็นสีดำ…”เธอกัดริมฝีปาก มือสั่นจนแทบกำอะไรไม่อยู่“เธอกลายเป็น…สัตว์ประหลาด…พูดว่าข้า…ต้องกลับไป…เป็นเหมือนพวกมัน…”เสียงสะอื้นดังลอดออกมาอีธานค่อยๆ ลูบหลังเธอ“ไม่…เจ้าจะไม่เป็นเหมือนพวกมัน”น้ำเสียงเขาหนักแน่น“ข้าสัญญา”นีร่าเงยหน้าขึ้น ดวงตาแดงก่ำ“ถ้าแม่ยังมีชีวิต…ข้าต้องหาคำตอบ…ข้าต้องรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น…”“งั้นเราจะไปด้วยกัน”อีธานพูดช้าๆ จ้องตาเธอแน่วแน่“ไม่ว่าต้องไปที่ไหน…เจ้าไม่ได้อยู่คนเดียว”เสียงคลื่นนอกหน้าต่างยังซัดเข้าฝั่งไฟตะเกียงสั่นไหวเงียบๆในอกนีร่า ความกลัวค่อยๆ แปรเป็นแรงฮึดสู้เธอพยักหน้าช้าๆ“เราจะหาความจริง…ไม่ว่าจะต้องเจอกับอะไร…”อีธานกระชับมือเธอแน่นขึ้นและในค่ำคืนที่หนาวเหน็บหัวใจสองดวงก็ผูกพันกันมั่นคงกว่าเดิมสองวันถัดมาแผลบนแขนของนีร่าไม่ดีขึ้น
หัวหน้าเงือกพุ่งใส่อีธานสุดแรงครีบใหญ่หวดอากาศจนเกิดเสียงแตกดัง วืด!อีธานเบี่ยงตัวหลบไปทางซ้ายปลายมีดในมือฟาดเฉียงเข้าที่คอด้านข้างของมันฉึก!เสียงเนื้อฉีกดังชัดเลือดสีหมึกกระฉูดราดเต็มตัวเขาหัวหน้าเงือกคำรามลั่นจนพื้นสะเทือนร่างมหึมาสะบัดถอยหลังไปสองก้าวชั่ววินาทีนั้น…ศรเซรีออนในมือนีร่าเปล่งแสงจ้าเหมือนจะปล่อยพลังสุดท้ายออกมาเธอยกศรขึ้น…ริมฝีปากแห้งแตกพึมพำถ้อยคำเวทเสียงแหบจนแทบฟังไม่ออก“…จบสิ้น…อสูร…”ประกายฟ้ารูปวงเวทหมุนรอบตัวเธอพลังเวททะลักขึ้นจนฝนสาดกระจายเป็นวงแสงจากศรสว่างจ้า—แต่ทันใดนั้นร่างเธอก็สั่นแรงแผลลึกบนแขนซ้ายฉีกกว้างกว่าเดิม เลือดพุ่งร้อนวาบเต็มมือนีร่าหอบแรง สายตาพร่าเสียงในหูเธอกลายเป็นเสียงอื้ออึงภาพรอบตัวพร่ามัวเหมือนฝันหัวหน้าเงือกที่บาดเจ็บคอคำรามต่ำมันถอยไปช้า ๆ หยาดเลือดดำหยดตามพื้นสายตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด…และความเกลียดชังก่อนมันจะพุ่งหนีเข้าความมืดหลังบ้านเรือนพังยับอีธานจะวิ่งตาม—แต่เขาหันมาเห็นนีร่าทรุดลงบนเข่าตัวเองศรเซรีออนร่วงจากมือกระแทกพื้นหิน“นีร่า!”เขาพุ่งเข้าประคองร่างเธอไว้แขนเธออ่อนแรงจนแทบไม่ขยับสายตาคู่สวยค่อย
นีร่าเหวี่ยงศรลงสุดแรงปลายศรเซรีออนเปล่งแสงฟ้าแทงเข้าข้างคอหัวหน้าเงือกฉึก!เสียงเนื้อแตกดังชัดเลือดสีหมึกทะลักออกมาเป็นฝอยดำข้นมันคำรามลั่นทั้งลานบ้านแต่พลังมันยังไม่หมด—เงือกกลายพันธุ์ใช้ครีบหนาฟาดสวนใส่เธอเต็มแรงผัวะ!ร่างนีร่ากระเด็นไถลไปตามพื้นหินเธอรู้สึกเหมือนอากาศในปอดหายไปหมดโลกทั้งโลกหมุนเคว้งอยู่ชั่ววูบเสียงอีธานตะโกน“นีร่า!”เธอพยายามลุก แต่แขนซ้ายชาไปหมดพอเหลือบลงมอง…แผ่นหนังแขนเสื้อขาดเป็นทางยาว เลือดสีแดงสดไหลรินตลอดแนวแผลฝนโปรยแรงขึ้นจนทุกอย่างเย็นเฉียบแต่บาดแผลกลับร้อนจี๊ดราวไฟลวกเธอหอบหายใจ สายตาพร่าเสียงฝีเท้าเงือกกลายพันธุ์ก้าวมาช้า ๆมันก้มลง แยกเขี้ยวใส่เธอนีร่ากัดฟัน พยายามยันตัวขึ้นแม้แขนซ้ายจะสั่นจนแทบยกไม่ไหวศรเซรีออนสั่นแสงพร่าอยู่ในมือข้างขวาอีธานพุ่งมาคุกเข่าข้างเธอ“อย่าฝืน…! ถอยก่อน!”เธอสบตาเขาแม้เจ็บจนตัวสั่น แต่เสียงเธอยังนิ่ง“ไม่ได้…มันจะฆ่าพวกเขาทุกคน…”บีลาร์กับลุงโทบี้พุ่งเข้ามาขวางตรงหน้าหอกไม้ยกขึ้นพร้อมกัน แม้จะสู้ด้วยแรงที่สั่นระริกนีร่าหอบแรงหนึ่งทีแล้วกัดฟันจนเลือดซึมที่ริมฝีปากเสียงฝีเท้าเงือกกลายพันธุ์ที่กำลังจะก
เสียงกรีดร้องดังสะท้อนมาตามลมทะเลนีร่าชะงัก…มือยังถือถ้วยซุปที่อีธานเพิ่งตักให้เมื่อครู่แววตาเธอเปลี่ยนไปทันที — ความนิ่งสงบกลายเป็นความตื่นตัว“เสียงจากหมู่บ้าน…”เธอกระซิบ เบาแต่หนักแน่นอีธานวางชามลงแทบจะพร้อมกัน“ข้าจะไปด้วย”ไอล่าลุกพรวด“เดี๋ยว! มันอาจเป็นกับดัก—”“ไม่ไปตอนนี้จะไม่มีใครให้ช่วยแล้ว!” นีร่าตอบพลางคว้าศรเซรีออน ดวงตาสีฟ้าเรืองแสงจาง ๆศรในมือเธอร้อนจัด—เหมือนมัน “เตือน” ว่า ศัตรูอยู่ใกล้---กลางหมู่บ้าน — เปลวไฟลุกโชนร่างของเงือกกลายพันธุ์ 3-4 ตัว กำลังล้อมครอบครัวหนึ่งที่เหลือเพียงพ่อกับลูกสาว พ่อพยายามยื้อไว้ แต่เด็กหญิงร้องไห้เสียงแหบก่อนที่ครีบแหลมจะฟันลงมาที่ร่างพวกเขา—“ฟึ่บ!”เสียงบางอย่างพุ่งผ่านกลางอากาศแสงฟ้ารูปเกลียว ปรากฏขึ้นกลางฝูงเงือกศรเซรีออนแทงทะลุร่างของหนึ่งในพวกมัน ร่างมันกระตุกก่อนระเบิดเป็นเถ้าทะเล“ทางนี้!” เสียงนีร่าตะโกนเธอพุ่งเข้ามาท่ามกลางเปลวเพลิง ผมยาวสยายตามลม ใบหน้าเปื้อนฝุ่น แต่ดวงตาไม่สั่นไหวศรเวทในมือเปล่งแสงจ้า ราวกับรู้หน้าที่ของมันเองอีธานกระโจนตามมา สะบัดมีดคู่แทงเข้าลำตัวเงือกอีกตัวอย่างแม่นยำ เลือดสีดำทะลัก“หนีไปทา
แสงแดดสีทองอ่อนส่องลอดบานหน้าต่างเข้ามา นีร่ากับไอล่านั่งชิดกันบนพื้นไม้ ทั้งสองไม่ได้พูดอะไรกันอีกนาน ต่างคนต่างเงียบราวกับต้องการให้หัวใจได้พักเสียงฝีเท้าแผ่วเบาดังขึ้นที่บันไดอีธานกลับมาแล้วเขาเปิดประตูเข้ามาช้าๆ ในมือหิ้วตะกร้าที่มีก้อนขนมปังแห้ง ผลไม้ป่า และปลาเค็มสองตัว กลิ่นคาวผสมกลิ่นเค็มทะเลโชยอ่อนๆอีธานวางตะกร้าแล้วเดินเข้ามาหาทั้งสองคน เขาสบตานีร่า สายตาคู่นั้นอ่อนโยนจนหัวใจเธอสั่นอีธาน (เสียงทุ้มแผ่ว)“พอจะมีอะไรให้พวกเราอิ่มท้องไปถึงเย็น ข้าออกไปไกลหน่อย…คิดว่าไม่น่ามีใครตามรอยมาได้”ไอล่า (น้ำเสียงยังแหบ)“ขอบคุณ…เจ้าลำบากเพราะพวกเรามากแล้ว”อีธานส่ายหน้า เขาหันไปมองนีร่าแวบหนึ่งอีธาน“พวกเจ้าสองคนคือคนสำคัญ…ไม่มีอะไรเรียกว่า ‘ลำบาก’”นีร่าเม้มริมฝีปาก เธอรู้สึกเหมือนจะร้องไห้ แต่ก็ฝืนใจไว้นีร่า“เมื่อคืน…ข้าคิดว่าเราอาจไม่รอดแล้วจริงๆ”อีธานคุกเข่าลงข้างเธอ มือใหญ่สั่นน้อยๆ ขณะเอื้อมไปแตะแก้มนีร่าอีธาน“ตราบใดที่ข้ายังมีลมหายใจ…ข้าจะไม่ยอมให้มันพรากเจ้าหรือใครไปอีก”เขาหันไปสบตาไอล่าอีธาน“ข้าสาบาน…เราจะพามาริเบลกลับไปฝังอย่างสมเกียรติ และเราจะหาทางล้างแค้นมัน”