แชร์

9 เหลือจะเชื่อ

ผู้เขียน: sammi'P
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-25 21:08:10

“มองหน้าผม คิดอะไรกับผมรึเปล่า”

เอรินถึงกับสะดุ้งพบสายตาคมเข้มจ้องอยู่  “ปะ... เปล่าค่ะฉันแค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อย ฉันว่าขอตัวไปพักผ่อนดีกว่า กลัวตื่นมาเป็นเพื่อนเจ้าสาวหน้าเมื่อย อายคนอื่นตายเลย” หล่อนพูดติดตลกแต่ต้องหลบตาเมื่อเขายังคงจ้องมองหล่อนไม่วางตา  

“หน้าฉันมีอะไรติดรึเปล่าคะ คุณจ้องฉันจัง”

“ผมคิดว่าเคยเห็นคุณ” ชานนท์กระตุกยิ้มมุมปากแล้วเอ่ยต่อ “แต่ไม่น่าใช่หรอก คนที่ผมเห็นไม่ได้ผิดคอนเซ็ปต์ขนาดนี้”

เอรินฟังแล้วหน้าม้านทำปากยื่นลอบมองอีกฝ่ายผ่านกระจก ชานนท์ยังคงอยู่ในอิริยาบถเดิม ความอึดอัดแผ่ซ่านกระจายทั่วรถ

ในที่สุดหล่อนจึงคว้ากระเป๋า ถุงใส่ชุดเพื่อนเจ้าสาวและถุงชุดที่เขาซื้อให้ เตรียมเปิดประตูลงไปแต่ชายหนุ่มแตะแขนเอาไว้ หล่อนจึงเหลียวมาเห็นรอยกังวลจากดวงหน้าเข้ม

“ถ้ายังไม่เหนื่อยเกินไป อยู่เป็นเพื่อนผมหน่อยสิ” ชานนท์พูดทั้งที่หลับตา พิงหลังกับเบาะที่นั่งคนขับ

“ก็ได้ค่ะ ถือว่าตอบแทนคุณเรื่องชุด”  

หล่อนนั่งหลังตรงรอนานกว่าที่อีกฝ่ายจะเปิดปากเล่าเรื่องบางอย่างที่หล่อนสนใจอยากถามแต่ไม่กล้า

“อยากรู้ใช่ไหม ว่าทำไมผมกับมินถึงอยู่ด้วยกันที่ห้องสูทชั้นบน”

“เอ่อ... จริงๆ แล้วก็ไม่เกี่ยวกับฉัน คือว่าฉันแค่สอดรู้สอดเห็นตามประสาเท่านั้นเองค่ะ”  หล่อนตอบเสียงอ่อย “คุณไม่ต้องเล่าหรอก ฉันขอโทษที่ถามคำถามที่คุณลำบากใจ”

“ผมกับเธอเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน”

หญิงสาวเลิกคิ้วแปลกใจกับสิ่งที่รับรู้เพราะมันตรงข้ามกับที่ได้ยิน “แต่เป็นใครก็คงคิดว่าคุณสองคนเป็นสามีภรรยากัน”

“แล้วใครนั่น... ใคร”

“ฉันแค่พูดรวมๆ ค่ะ” หล่อนเสียงอ่อยอีกรอบ

ชานนท์ขยับตัวเล็กน้อย ตามองตรงไปทางป้ายชื่อโรงแรมที่สะท้อนผ่านกระจกให้เห็น ยามนี้เขาต้องการที่ระบายจริงๆ

“คุณลุงของผมซึ่งก็คือพ่อแท้ๆ ของเธอส่งเธอมาที่นี่เพื่อมาเรียนต่อ แต่จริงๆ แล้วเธอมาเพราะหนีหน้าอดีตคนรัก  ส่วนผมก็เป็นแค่ผู้บริหารที่คุณลุงให้ความไว้วางใจให้ดูแลทั้งโรงแรมและดูแลลูกสาวให้โดยไม่รู้เคยรู้เลยว่าเธอมีลูกติดท้องมาจากเมืองไทย”

“คนก็เลยเข้าใจว่าคุณสองคน...”

ชานนท์พยักหน้า เหลือบมองดวงหน้านวลแล้วหันกลับไปมองนอกหน้าต่างเหมือนปล่อยความคิดล่องลอยให้นึกถึงใครบางคน

 “เมื่อคืนผมไปดื่มกับเพื่อนที่เล่าให้ฟังว่าจะมาเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวพรุ่งนี้ เขาเล่าว่าเลิกกับภรรยาแล้ว และภรรยาเขาคือพี่สาวของมินนี่”

“โลกกลมขนาดนี้เชียว ทำไมวุ่นวายขนาดนี้” เอรินเผลอหลุดปากแล้วรีบตะครุบริมฝีปากตัวเองให้เงียบ

ชานนท์ยิ้มมุมปากคล้ายเยาะ

“ใช่... โลกมันกลมไปนะ กลายเป็นว่าผมอยู่ระหว่างผู้หญิงสองคนที่เป็นน้องสาวทั้งคู่ ถึงจะไม่ใช่น้องแท้ๆ แต่ผมก็เป็นห่วงพวกเธอ ส่วนอดีตสามีที่ว่าก็ดันเป็นเพื่อนของผม”

เอรินครุ่นคิดลำดับความสัมพันธ์แล้วได้แต่ถอนหายใจ เขามีปัญหาหนักอกจริงอย่างที่คิด หล่อนได้แต่ปลอบ

            “ไม่แปลกนี่คะ ที่พี่ชายจะห่วงน้องสาว ในเมื่อคุณและพวกเธอเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน” หล่อนแย้ง “แล้วทำไมคุณต้องเมา ในเมื่อคุณซะอีกที่ควรจะต้องเข้มแข็งที่สุด เพราะน้องสาวคุณสองคนต่างก็มีปัญหา”

            “เพราะผมรักคนที่ไม่ควรรัก” ชานนท์ยิ้มหยันตัวเองอีกครั้ง

คนฟังใจหายไปอยู่ตาตุ่ม หัวใจวูบไหวโดยไม่มีสาเหตุได้แต่นั่งเงียบพูดไม่ออก หล่อนอยากปลอบแต่ก็อยากร้องไห้ ทั้งที่ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ ต่อกันนอกจากรู้เพียงว่าเขาคือผู้บริหารโรงแรมที่หล่อนพัก

“ความรักห้ามได้ที่ไหนกันคะ คุณอย่าคิดมากเลย” หล่อนปลอบเสียงแผ่ว

“ผมคงดูโง่มากใช่ไหม”

เอรินมองสายตาเจ็บปวดของชายหนุ่มแล้วส่ายหน้า “ไม่มีใครโง่เพราะความรักหรอกค่ะ ความรักมักทำให้คนตาบอด คนฉลาดก็กลายเป็นไม่ฉลาดเมื่อได้รู้จักความรัก มันมักจะพาเราไปในทิศทางที่คาดไม่ถึงและควบคุมไม่ได้”

“พูดเหมือนมีประสบการณ์ความรักโชกโชนงั้นละ”

“ไม่เคยมีต่างหากล่ะคะ” เอรินหัวเราะแห้งๆ “ฉันยังไม่รู้เลยว่าความรักจริงๆ เป็นยังไง”  

“ความรักมักจู่โจ่มโดยที่เราไม่รู้ และกว่าจะรู้เราก็โดนมันเล่นงานเข้าให้แล้ว” ชานนท์พูดจบเหลือบมองหล่อนยิ้มๆ

เอรินหน้าแดงก่ำ ทั้งที่รู้ว่าที่เขาพูดไม่ได้หมายถึงหล่อนแต่หัวใจหล่อนกลับร้อนรุ่มอย่างที่ไม่เคยเป็น

คงเพราะความเหงา...

ใช่... ต้องเป็นอย่างนี้แน่ หล่อนอาจกำลังเป็นโรคโฮมซิก

“ขอบใจที่อยู่เป็นเพื่อน  ถือซะว่าที่ฟังผมระบายคือนิยายรักที่ไม่มีวันสมหวังเป็นการตอบแทนค่าชุดก็แล้วกัน” ชานนท์ถอนใจ พร้อมรอยยิ้มที่บอกไม่ถูกเลยว่ารู้สึกอย่างไร

หล่อนรู้สึกว่ามันคือรอยยิ้มแห่งความขมขื่น...

น่าจะเป็นอย่างนั้น...

           

กว่าจะถึงห้องพักก็เกือบเที่ยงคืน เอรินถึงกับสะดุ้งเมื่อวินซ์มารออยู่หน้าประตูก่อนแล้วเอ่ยทัก

            “บอกให้รอทำไมไม่รอ เด็กที่ร้านบอกว่าเธอออกไปกับคุณอเล็กซ์”

            “อือ... ก็ใช่” หล่อนตอบเนือยๆ

“ต๊าย! แล้วไปไหนกันมาทำไมไม่รับโทรศัพท์”

            “แบตหมด แต่เขาบอกว่าโทรคุยกับเธอแล้วนี่” เอรินทำหน้างงเมื่อเห็นเพื่อนรักทำตาเล็กตาน้อยคล้ายจับผิด

วินซ์หรี่ตาครุ่นคิดพลางเอ่ยเย้า “บอกอะไรกันถ้ารู้ฉันก็ไม่ต้องรีบไปรับเธอหรอก แล้วนี่ก็โทรศัพท์ลืมเอาไว้ในห้องลองชุด ฉันซื้อซิมให้ใช้ที่นี่แล้วนะ มีของก็ให้ใช้ประโยชน์ นี่อะไรเพื่อนฝูงติดต่อไม่ได้เลย”

“แล้วทำไมไม่โทรเข้าเบอร์คุณอเล็กซ์ล่ะ ฉันก็อยู่กับเขาตลอดเพิ่งแยกกันนี่แหละ”

“นี่เขาอยู่กับเธอตลอดเลยหรือ? เหลือเชื่อ!”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • กระซิบรักฝากหัวใจที่ปลายฟ้า   23 แฟนวันเดียว

    เอรินหยิบคอร์เนตโตไส้แยมชิ้นใหญ่มากัดกินพร้อมทั้งคนช็อกโกแลตร้อนแก้วโตไปมาอย่างขัดเขิน ชานนท์จิบอเมริกาโนกรุ่นร้อนอย่างอารมณ์ดี นึกถึงเช้านี้ที่ตื่นขึ้นมาพบสาวน้อยนอนหลับใหลซุกตัวในอ้อมกอดสัญชาติญาณภายในกายถูกปลุกขึ้นจนแทบจะทนไม่ไหว ค่อนรุ่งแสงสว่างรำไรเขาก็หลับไม่ลงต้องลุกมาออกกำลังกายที่ริมระเบียงดับอารมณ์ดิบพุ่งพล่านในกาย แต่หล่อนไม่แม้แต่จะรู้ตัวสักนิดว่าทำใครให้ฟุ้งซ่านเข้าให้แล้ว “คุณคะ...” เอรินเรียกอีกฝ่ายเสียงเบาหวิว แต่เขากลับนิ่งมองหล่อนราวกับอากาศธาตุ “คุณ! “หืม...”“วันนี้เราจะไปเที่ยวไหนกันคะ”ชานนท์รู้ตัวเปิดกระเป๋าหยิบกล้องตัวใหญ่ออกมาเช็คทำความสะอาดก่อนเหลือบมองหล่อนที่นั่งตาแป๋วรอคำตอบก็พลันถอนใจ งานนี้เห็นทีไม่ตอบหล่อนคงสงสัยจนกินอะไรไม่ลงอีก“เดินเที่ยวดูเปียซซ่าในเมืองก็แล้วกัน” “เย้! คุณน่ารักที่สุดเลยค่ะ”“ตอนเด็กใครก็ชมว่าผมน่ารัก”“แหม...” หล่อนค้อนขวับเพียงเห็นสีหน้าจริงจังของเขา “คุณถ่ายรูปให้ฉันด้วยนะคะ ถ่ายให้เยอะที่สุดเท่าที่จะเยอะได้เลย ฉันอยากเก็บรูปของเราไว้เป็นที่ระลึกค่ะ” “เรา?”“ค่ะ... เรา ทำไมหรือค

  • กระซิบรักฝากหัวใจที่ปลายฟ้า   22 กายอุ่น ใจก็เหมือนจะอุ่นแล้วนะ

    แล้วตัวการที่ทำให้หัวใจปั่นป่วนก็เดินยิ้มแฉ่งกลับมาอย่างอารมณ์ดี ในมือมีกาแฟหนึ่งกระป๋องและกล่องเล็กบรรจุมาการงแล้วยื่นกาแฟแกะเปิดฝาเสร็จสรรพยื่นส่งให้ “กาแฟค่ะ ดื่มแล้วจะได้มีแรงเดินต่อ เมื่อกี้ผ่านมาฉันเห็นมีมายากลด้วย เสร็จแล้วฉันก็อยากเห็นเมืองเก่าของฟลอเรนซ์ตอนค่ำด้วยค่ะ”“ที่แท้ก็ซื้อกาแฟมาเอาใจ”“อือฮึ...”“ไม่ไปล่ะ ผมอยากกลับห้องแล้ว... เหนื่อย”“เดี๋ยวสิคะ! ฉันก็ซื้อกาแฟมาให้แล้วไงจะได้มีแรงเดิน นะ... นะคะ”หล่อนคว้าชายเสื้อเขาไว้ก่อนที่อีกฝ่ายจะหันหลังกลับไปโรงแรมทันทีที่ฟังเมกะโปรเจกต์ท่องเที่ยวของหล่อนจบ แต่สีหน้าเว้าวอนราวลูกแมวเชื่องทำให้ชายหนุ่มใจอ่อนรับสินบนมาจิบก่อนจะถอนหายใจออกมาอีกครั้ง“นะ... นะคะ”“เฮ้อ! ก็ได้”ยังพูดไม่ทันจบเอรินก็เดินฉิวนำไปเสียแล้ว เขาได้แต่ส่ายหน้าระอาแต่ก็ยอมฃเดินตามยายกุหลาบชมพูไปอย่างไม่เกี่ยงงอน ถึงแม้วัยจะต่างกันถึงสิบปีแต่ชานนท์กลับยิ้มได้อีกครั้งเมื่อมีเอรินอยู่ด้วย ดึกดื่นค่อนคืนอันสับสนวุ่นวายใจของสองหนุ่มสาว ก่อเกิดสายใยบาง ๆ ขึ้นโดยไม่รู้ตัว ชานนท์รู้สึกประหลาดจึงได้แต่วุ่นวายกับสมาร์ตโฟนไม่พูดไม่จาเพ

  • กระซิบรักฝากหัวใจที่ปลายฟ้า   21 ความเหงาที่หายไป

    นับตั้งแต่ถูกส่งตัวมาอยู่อังกฤษ เขาก็ใช้ชีวิตอยู่ภายใต้อาณาจักรสิทธรากรุ๊ปที่แผ่ขยายสาขาในหลายประเทศโดยเฉพาะเกาหลีและยุโรป แต่เขาอยู่สาขาในเกาหลีไม่ได้เพราะไม่ถูกชะตากับพ่อเลี้ยงดีที่พ่อของสิมิลันให้ชีวิตใหม่ที่ลอนดอนทำให้เรียนจบจากสถาบันการศึกษาที่ดีที่สุด และเริ่มทำงานจากตำแหน่งเล็ก ๆ จนเข้มแข็งสามารถดูแลโรงแรมจนทุกวันนี้แต่หลังจากมีเรื่องสิมิลันเข้ามาทำให้เขาคิดได้ว่าต้องยืนด้วยลำแข้งของตัวเองโดยการใช้เงินเก็บที่มีไม่มากไม่น้อยมาบุกเบิกโรงแรมที่นี่ เอรินกินตราเมซซินี่แซนด์วิชขนาดกลางหมดตามด้วยเจลาโต้ไอศกรีมยี่ห้อดังที่สุดของอิตาลีขนาดกลางอีกหนึ่งถ้วยหมดไปก็พรูลมหายใจอึดอัด ชานนท์ได้แต่ส่ายหน้า“กินซะพุงกางแสดงว่าอร่อยจริง” ชายหนุ่มอมยิ้มขำแล้วยื่นแก้วให้ “ลองดูไหมที่นี่ต้องจิบกรัปปาหลังมื้ออาหารเป็นธรรมเนียม” “ฉันไม่กินเหล้าค่ะ มันผิดคอนเซ็ปต์ อย่างฉันขอน้ำนางเอกก็แล้วกัน” “อะไรคือน้ำนางเอก” คิ้วเข้มขมวดมุ่นมองดวงหน้านวลอมลมเต็มแก้มด้วยความขัดใจ “พวกผู้หญิงนี่แปลก ๆ” “เอ้า... แปลกที่ไหนกันคะ น้ำนางเอกก็น้ำส้มไง คุณลุงนี่ไม่รู้อะไรเลยจริง ๆ วันทั้งวันทำ

  • กระซิบรักฝากหัวใจที่ปลายฟ้า   20 เปิดใจนิดๆ

    ชานนท์ยักไหล่หมดคำพูด คว้ากระเป๋ากล้องใบย่อมขึ้นมาสะพายพร้อมทั้งหยิบกระเป๋าเงินมาถือก่อนเดินมาสมทบแต่ยังไม่วายบ่น“กินที่ห้องอาหารโรงแรมก็แล้วกันไม่ต้องไปไกล” “ที่ไหนก็ได้ทั้งนั้น ฉันอยากเห็นดูโอโมใจจะขาดแล้วค่ะ”หล่อนยิ้มกริ่มที่เขายอมตามรีบจัดแจงเปิดประตูจะเดินนำออกไป แต่แล้วก็รู้สึกถึงแรงดึงจากด้านหลังจึงหยุดชะงักหันขวับมามองสีหน้างุนงง“เมื่อกี้คุณว่าจะไปไหนนะ”“ก็ไปดูโอโมสิคะ” หล่อนตอบเสียงยานคางทำหน้าล้อเลียน “งั้นกลับเข้าห้องไปเปลี่ยนกางเกงใหม่เดี๋ยวนี้เลย ให้เกียรติสถานที่หน่อยอย่าให้ใครเขาว่าได้ว่าคนไทยไม่รู้กาลเทศะ” เอรินเถียงไม่ออกก้มมองกางเกงตัวเองด้วยความสงสัยไม่ทันจะอ้าปากถามชายหนุ่มก็สวนทันควัน“ไม่ต้องเถียง ไม่รู้เลยรึไงเวลาไปสถานที่สำคัญทางศาสนาใครเขาให้ใส่กางเกงขาสั้นลากรองเท้าแตะไปบ้าง คุณต้องเรียนรู้ไว้นะเอรินหากริจะเป็นไกด์อย่างคนอื่นเขา” “ก็ได้ค่ะ ฉันจะไปเปลี่ยนเดี๋ยวนี้แหละค่ะ ”พูดจบหล่อนก็วิ่งหายไปในห้องน้ำสักพักก่อนจะเดินยิ้มเผล่ออกมาหยุดยืนตรงหน้าชายหนุ่มแล้วหมุนตัวไปมาทำท่าโชว์ให้เห็นชานนท์เพ่งมองหล่อนศีรษะ

  • กระซิบรักฝากหัวใจที่ปลายฟ้า   19 ต่อปากาต่อคำ

    “ถ้าอยากทำงานด้านนี้จริง คุณต้องหมั่นเรียนรู้แก้ปัญหาอย่างถูกวิธี ไม่ใช่ใครเสนออะไรมาให้ก็รับหมด มันจะเป็นอันตรายกับตัวคุณเอง”“ฉันรู้แล้วค่ะ แต่ฉันก็ยังกลัวคุณหน้ามืด”“ไม่มีวันซะหรอกเด็กน้อย”เด็กน้อยอีกแล้ว! ตาลุงคนนี้นึกว่าตัวเองยังหนุ่มน้อยสินะ...“ต้องให้บอกอีกกี่ครั้งคะว่าฉันอายุจะเต็มยี่สิบห้าแล้ว ไม่ใช่เด็กน้อย และฉันไม่ได้กังวล ก็แค่...”“กลัวผม”“ฉันเปล่ากลัว”ชานนท์ส่ายหน้ากับคำเถียงข้าง ๆ คู ความสนใจของเขากลับไปอยู่ที่ภาพที่ปรากฏด้านนอกหน้าต่างจึงผละไปที่ริมระเบียงชมความสวยงามเต็มตายอดโดมสีน้ำตาลแดงของวิหารซานตา มาเรีย เดล ฟิโอเร มหาวิหารที่สูงโดดเด่นที่สุดในฟลอเรนซ์และใหญ่เป็นอันดับสี่ของโลกด้วยความนึกถึงใครบางคนเอรินเดินตามออกมาหยุดยืนข้าง ๆ แล้วมองตามสายตา “คุณชอบหรือคะ เห็นจ้องนานแล้ว”“มินอยากเห็นดูโอโม ผมตั้งใจพาเธอมาตั้งเป้าจะขอเธอแต่งงานที่นี่ อยากสร้างครอบครัวกับเธอ แต่...” “แต่เธอไม่มากับคุณ... เฮ้อ!” เอรินพึมพำดวงตาฉายแววหม่นเศร้ามองไกลไปยังยอดดูโอโม “สักวันคุณจะต้องได้เจอคนที่คุณรักมากกว่าคุณมินแน่ ๆ ค่ะอย่างคุณคนสวยคนนั้น เธอดูรักคุณจะตาย”ชานน

  • กระซิบรักฝากหัวใจที่ปลายฟ้า   18 เริ่มใกล้ชิด

    “ทำแบบนี้ได้ยังไง ผมให้พนักงานจองผ่านเว็บ จะบอกว่าไม่มีข้อมูลในระบบไม่ได้หรอก”ชานนท์ยังคงเถียง เขาไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดกับระบบเว็บเช็กอินระดับโลกไปได้“ทางเราจะแจ้งเว็บทำเรื่องรีฟันด์เงินคืนให้นะคะ แต่หากลูกค้าต้องการห้องอื่น เรายังมีห้องสูทว่างแต่ต้องจ่ายราคาเต็มสำหรับเข้าพักก่อนค่ะ”“งั้นไม่ต้อง!” ชานนท์ปฏิเสธเสียงเข้ม “ไป... เอริน”“ไปไหนคะ” หล่อนหน้าตาเหรอหรามองชานนท์สลับกับพนักงานต้อนรับ หล่อนแปลทันบ้างไม่ทันบ้างแต่พยายามจับใจความสำคัญเพราะมัคคุเทศก์เป็นอาชีพที่หล่อนใฝ่ฝัน ทั้งพยายามเรียนเสริมภาษา ใคร ๆ ก็บอกว่าหล่อนก็ทำได้ดีแต่ชีวิตจริงนี่สิ!แค่เหยียบต่างประเทศครั้งแรกก็รู้แล้วว่าทฤษฏีในห้องเรียนต่างกับภาคปฏิบัติมาก นี่สินะคือผลของความอวดเก่ง บิดามารดาห้ามก็ไม่ฟัง หล่อนดื้อแพ่งจะมาเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้วินซ์เพื่อนรักจนเลยเถิดมาถึงฟลอเรนซ์“คุณ ๆ”“ทำไม”“ฉันฟังไม่ค่อยทันค่ะ แต่ได้ยินว่าเขามีห้องอื่นให้ เราก็ให้เขาเปลี่ยนดีไหมคะ”“คุณไม่รู้อะไรเงียบไปเถอะน่า” ชานนท์เหลือบมองหล่อนแล้วเมินไปที่พนักงานอีกรอบ “งั้นเอางี้ ห้องสูทยังว่างใช่ไหม อัปเกรดห้องสแตนดาร์ดใ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status