แชร์

บทที่ 12 เกาซื่อหลิน

ผู้เขียน: sanvittayam
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-22 15:06:12

บทที่ 12 เกาซื่อหลิน

เมื่อเห็นว่าทั้งคู่คล้ายกับจะลืมตนเองไป เกาซื่อหลินเลยเอ่ยปากขึ้นมาเรื่องที่พักถาวรของหยางเหมยจิน

“เรื่องการค้าฉันว่าค่อยคิดดีหรือไม่ เอาเรื่องที่อยู่ถาวรของพี่สาวเหมยจินก่อนดีกว่า ในเมื่อพี่สาวเหมยจินและพี่ชายตงไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกัน หากจะอยู่ด้วยกันมันจะเหมาะสมหรือ แล้วเท่าที่ฉันพอจะรู้มาสองแฝดลูกของพี่ชายตงนั้นหวงพี่ชายตงไม่น้อย แล้วแบบนี้จะมีปัญหาหรือไม่”

เกาซื่อหลินแม้จะต้องการให้นายสาวอยู่ไปกับเธอตลอดไป แต่เพราะเวลานี้ชาวบ้านรับรู้เพียงว่าหยางเหมยจินนั้นเป็นคู่หมั้นของพ่อม่ายตงโดยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเธอ เธอจึงชักชวนนายสาวไปอยู่ด้วยไม่ได้ เพราะจะเกิดความสงสัยในหมู่ของชาวบ้าน อย่างไรเรื่องนี้ก็ค่อยแก้ปัญหาที่หลังก็ยังไม่สาย

อีกทั้งร่างที่เธอมาอาศัยอยู่ก็มีเบื้องหลังไม่ธรรมดา เท่าที่ความทรงจำที่มีอยู่เต็มเปี่ยม เกาซื่อหลินคนนี้มีฐานะไม่ต่างจากสายลับ แต่ก็ยังมีอีกฐานะนั่นคือลูกสาวจากภรรยาคนเดิมของนายพลในเมืองเซี่ยงไฮ้ เหตุผลที่ได้เดินทางมาเป็นยุวปัญญาชนที่เมืองนี้ เป็นเพราะแม่เลี้ยงต้องการให้ลูกเลี้ยงตัวเองมาใช้แรงงานนั้นเอง

แต่ระหว่างเดินทางกลับโดนลอบทำร้าย ทำให้เกาซื่อหลินที่มีความสามารถด้านการต่อสู้อยู่บ้างได้ต่อสู้สุดชีวิตและเดินทางมาถึงที่นี่ จากนั้นเธอเลยไม่คิดจะกลับไปยังคฤหาสน์สกุลเกาและใช้ชีวิตที่นี่มาตลอดสามปี แต่เพราะเธอไม่ชอบอยู่ร่วมกับใครและมีปัญหากับยุวปัญญาชนหญิงด้วยกันบ่อยครั้ง หัวหน้าคอมมูนเลยแยกบ้านพักให้เธอพักเพียงคนเดียว เพราะยังเกรงใจพ่อของเธอที่เป็นนายพลใหญ่

ต่อมาเธอก็ได้จากโลกนี้ไปด้วยอาการหัวใจวายอย่างเดียวดาย เป็นเวลาเดียวกันกับที่ลู่จิงจิงข้ามเวลามาและได้เข้ามาสวมร่างนี้แทนพอดิบพอดี และเมื่อวิญญาณเธอมาสวมร่างนี้ก็ได้รับรู้ความทรงจำของเจ้าของร่างทุกอย่างเลยไม่คิดจะกลับไปยังคฤหาสน์สกุลเกาเช่นกัน

“ไม่ต้องเป็นห่วงในเรื่องนั้น เพราะเด็กทั้งสองคนเข้าใจในความจำเป็นของอาเหมยและไม่ขัดข้องอะไร เรื่องบ้านผมก็จะเร่งให้เขามาต่อเติมให้โดยเร็ว” ตงเหวินหมิงพูดขึ้นเพื่อไม่ให้เกาซื่อหลินกังวลใจในเรื่องของลูกแฝดของเขาที่จะมีปัญหากับหยางเหมยจิน

“อย่างนั้นก็ดี แต่ก่อนจะสร้างบ้านใหม่ พี่สาวเหมยจินสามารถไปอยู่กับฉันก่อนได้นะ เพราะชาวบ้านล้วนรับรู้แล้วว่าฉันชวนพี่สาวไปอยู่ด้วย แต่คงเป็นการอยู่ชั่วคราวเท่านั้น เพราะแม้ว่าฉันจะอยู่บ้านหลังนั้นเพียงคนเดียว แต่บ้านก็ยังเป็นของคอมมูน หากพี่สาวเหมยจินไม่ได้ทำงานที่คอมมูนคงอยู่ถาวรลำบาก” เกาซื่อหลินพูดขึ้นมาอย่างกังวลใจเล็กน้อย

“ถ้าอย่างนั้นก็แล้วแต่ความสะดวกใจของอาเหมยเลย ส่วนเรื่องที่อยู่ถาวรของอาเหมย คงต้องจัดการเหมือนเดิม และต้องอยู่ภายในรั้วบ้านเดียวกัน แต่ความจริงเรื่องนี้ปีหน้าเราก็ต้องแก้ปัญหากันอีกครั้ง เพราะเราทั้งสองได้พูดไปแล้วว่าจะจัดงานแต่งงาน ตอนนี้อย่างมากแค่ต่อเติมห้องออกมา เดี๋ยวเรื่องนี้ผมจะคุยกับผู้นำหมู่บ้านอีกครั้ง โดยใช้ข้ออ้างเรื่องแต่งงานปีหน้า เพราะถ้าสร้างบ้านเป็นหลังมันจะสิ้นเปลือง เมื่อแต่งงานแล้วส่วนหลังจากนั้นค่อยคิดกันอีกครั้งว่าจะเอาอย่างไร”

ตงเหวินหมิงกล่าวขึ้นมา เรื่องนี้เขาไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เขาห่วงแต่ว่าคนต่างถิ่นอย่างหยางเหมยจินนั้นจะอยู่อย่างไรเสียมากกว่า และเรื่องที่เขาและเธอเป็นคู่หมั้นกันนั้นชาวบ้านต่างก็รู้หมดแล้ว จึงไม่น่าเกลียดมากนักถ้าจะไปมาหาสู่กันบ้าง

“เอาอย่างที่พี่หมิงพูดมาก็ได้ค่ะ อย่างไรเวลานี้เราทั้งสองต่างก็ลงเรือลำเดียวกันแล้ว แต่ฉันอยากค้าขายจริง ๆ นะคะ อย่างน้อยจะได้ช่วยหาเงินเข้าบ้าน สองแฝดยังต้องใช้จ่ายอีกเยอะ ฉันมาพึ่งพาบ้านตงก็ต้องช่วยเหลือเป็นธรรมดา” หญิงสาวพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย ก่อนจะหันมาสนใจเรื่องการค้าเพื่อหาเงินเข้าบ้านตงทันที

เธอไม่รู้เลยว่าคำพูดนี้ซึมซับเข้าในความรู้สึกของอีกฝ่ายโดยที่ชายหนุ่มเองก็ไม่รู้ตัว เขาไม่พูดอะไรออกมานอกจากมองสบสายตากันกับหญิงสาวเท่านั้น

“ถ้าอย่างนั้นช่วงนี้พี่สาวเหมยจินก็ไปอาศัยอยู่กับฉันก่อน หรือไม่หากต่อเติมห้องพี่เสร็จแล้ว ฉันอาจจะมาขออาศัยอยู่ด้วย เพื่อที่ชาวบ้านจะได้ไม่นินทามากนัก” เกาซื่อหลินเห็นทั้งสองคนสายตาให้กันก็พูดขึ้นอีกครั้ง

“ขอบใจนะซื่อหลิน”

หยางเหมยจินหันมายิ้มให้กับเกาซื่อหลิน

ตงเหวินหมิงรู้สึกตงิดในใจ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมทั้งสองถึงข้ามเวลามาในสภาพที่ต่างกัน แล้วแบบนี้คนยุคโบราณจะมีใครข้ามเวลามาอีกหรือไม่ เลยเอ่ยถามกับทั้งสองคนออกไป

“ผมมีปัญหาอยากจะถามทั้งสองคน ในเมื่ออาเหมยและคุณหนูเกาข้ามเวลามาได้ แล้วไม่คิดบ้างหรือว่าคนอื่นที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้นจะไม่ข้ามเวลามาด้วยเหมือนกัน”

ทันทีที่ได้ยินคำพูดของตงเหวินหมิง สองสาวจึงวิตกกังวลขึ้นมาทันที เพราะถ้าเกิดทั้งสองข้ามเวลามาได้ แล้วคนอื่นในครั้งนั้นล่ะ จะมีใครข้ามเวลามาเหมือนกันหรือไม่ ทั้งสองวิตกกังวลไม่น้อยเพราะกลัวคนที่ข้ามเวลามาด้วยจะเป็นอ๋องต้วนและถังจินเยว่นั่นเอง

ตงเหวินหมิงไม่อยากให้ทั้งสองคนคิดมาก และเพื่อป้องกันอะไรหลาย ๆ อย่าง เขาเลยตั้งใจว่าเดินตามแผนเดิม หลังจากนั้นหากเกาซื่อหลินจะย้ายมาอยู่ที่นี่ด้วยก็คงไม่มีปัญหาอะไร แค่บอกว่าทั้งสองสนิทกันหลังจากที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันจึงขอมาอยู่ด้วยก็ตงจะได้

เมื่อเกาซื่อหลินคือคนข้างกายในอดีต หยางเหมยจินจึงเล่าเรื่องมิติให้เธอฟังอย่างไม่ปิดบัง เพราะถ้าเกิดเธอเอาอาหารและของใช้ออกมาอีกฝ่ายจะได้ไม่ตกใจ ซึ่งเรื่องนี้เกาซื่อหลินยินดีที่จะเก็บเป็นความลับ และบอกลู่ทางในการหาเงินให้นายสาวทันทีที่รู้ว่านายสาวมีมิติที่สามารถนำของออกมาได้

จากนั้นทั้งสองก็คุยกันถึงวิธีหาเงินเข้าบ้านตง จนกลายเป็นว่าวันนี้เกาซื่อหลินอยู่บ้านตงจวบจนถึงเวลาเลิกโรงเรียนของสองแฝดเลยทีเดียว

“กลับมาแล้วค่ะ / กลับมาแล้วครับ”

สองแฝดกลับมาถึงบ้านก็ส่งเสียงบอกมาแต่ไกล เพราะคิดว่าพ่อของตนนั้นไปทำงานยังไม่กลับมาและบ้านนี้คงเหลือเพียงน้าเหมยของพวกเขา แต่เมื่อเดินเข้ามาด้านใน กลับเห็นพ่อของตนและยังมีพี่สาวอีกคนหนึ่งนั่งอยู่ด้วย

“สวัสดีค่ะน้าเหมย พ่อ...”

ตงฟางลี่ทักทายน้าเหมยและพ่อของตนเองออกไป แต่ชะงักเมื่อไม่รู้จะทักทายอีกคนอย่างไรดี

“สวัสดีจ้ะ น้ามีชื่อว่าเกาซื่อหลิน หรือจะเรียกน้าหลินก็ได้นะ น้าเป็นยุวปัญญาชนของที่นี่ ว่าแต่เราชื่ออะไรกันบ้าง”

พอเห็นว่าสองแฝดมีท่าทีแปลกใจเมื่อเห็นเธอเข้ามาอยู่ในบ้านตง เกาซื่อหลินจึงได้เอ่ยทักทายและแนะนำตัวด้วยรอยยิ้มก่อนจะถามทั้งสองคนออกไปด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“สวัสดีครับ ผมแซ่ตง ชื่อจี้หยวน หรือน้าหลินจะเรียกว่าอาหยวนก็ได้ครับ” ตงจี้หยวนแนะนำตัวแกไปเป็นคนแรกเพราะเขาเป็นพี่ชาย

“สวัสดีค่ะหนูชื่อฟางลี่หรือจะเรียกลี่ลี่ก็ได้ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะน้าหลิน” ตงฟางลี่ตอบกลับด้วยรอยยิ้มเหมือนกัน

แม้ว่าจะอายุเพียงสิบปีก็ตาม แต่ทั้งสองรู้ดีว่าอะไรควรอะไรไม่ควร เหมือนเรื่องที่หยางเหมยจินตกลงมาจากฟ้า ทั้งสองก็ไม่คิดที่จะแพร่งพรายบอกใคร ในใจของเด็กหญิงนั้นคิดว่าคงมีเรื่องอะไรอีกแน่ ไม่อย่างนั้นน้าหลินคนนี้คงไม่เข้ามาในบ้านของเธอ

เมื่อเห็นสายตาของเด็กทั้งสองคน หยางเหมยจินจึงตัดสินใจบอกเรื่องสำคัญออกไป “น้าหลินมาจากที่เดียวกันกับน้า แต่มาคนละรูปแบบ”

เพียงเท่านี้สองแฝดก็พยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะรีบเดินเข้าบ้านเพื่อเอากล่องข้าวไปเก็บและรีบเข้าห้องไปทำการบ้านทันที

“สองแฝดรู้เรื่องพี่สาวเหมยจินด้วยหรือคะ”

พอทั้งสองเดินออกไปแล้ว เกาซื่อหลินจึงเอ่ยถามขึ้นมาอย่างแปลกใจ เพราะดูเหมือนว่าเด็กทั้งสองคนจะรู้เรื่องนายสาวอย่างดี

“อืม เรื่องที่ฉันมาจากไหนนั้นทั้งสองคนรู้ดี ว่าแต่นี่ใกล้จะถึงมื้อเย็นแล้ว รีบไปเตรียมอาหารกันดีกว่า พี่หมิงไม่ต้องช่วยทำอาหารหรอกนะ ฉันพอจะทำอาหารได้แถมยังตอนนี้ยังมีซื่อหลินมาช่วยอีก ฉันอยากทำอาหาร ลองดูว่าพี่กับลูก ๆ กินกันได้หรือเปล่า”

หญิงสาวพยักหน้ารับ ก่อนจะชักชวนอีกคนไปทำอาหาร โดยบอกให้ชายหนุ่มว่าไม่ต้องช่วยเธออยากลองทำอาหารเองโดยมีเกาซื่อหลินคอยช่วยก็พอ

“เอาอย่างนั้นเหรอ งั้นผมขอตัวกลับไปสะสางงานที่คอมมูนก่อนนะ จะได้บอกกล่าวผู้นำหมู่บ้านเรื่องจะต่อเติมบ้านด้วย แล้วจะรีบกลับมา”

ชายหนุ่มไม่อยากขัดใจ เลยให้ทั้งสองคนช่วยกันทำอาหารเย็นนี้ ส่วนตนเองนั้นจะไปจัดการเรื่องงานที่คั่งค้าง และบอกกล่าวผู้นำหมู่บ้านเรื่องจะต่อเติมบ้านอีกหนึ่งห้องเพื่อให้หยางเหมยจินอาศัย ดูเหมือนว่าไม่แน่ว่าเกาซื่อหลินน่าจะตามมาอยู่ด้วย

“ค่ะ” หยางเหมยจินยิ้มรับ ก่อนที่ชายหนุ่มจะเดินจากไป

“หวางเฟย เอ้อ..พี่สาวเหมยจินแน่ใจแล้วหรือที่จะทำแบบนี้ แล้วถ้าหากไม่ใช่แค่เราสองคนที่ข้ามเวลามา ถ้าเกิดท่าน...เอ่อ..คนคนนั้นข้ามเวลามาด้วยละคะ พี่สาวจะทำอย่างไร”

เมื่ออยู่กันสองคนแล้ว จิงจิงในร่างของเกาซื่อหลินก็เริ่มต้นเรียกนายสาวด้วยตำแหน่งเดิม ก่อนจะรีบเปลี่ยนทันทีที่นายสาวส่งสายตามาอย่างไม่พอใจ จากนั้นเธอก็ถามในเรื่องที่เป็นกังวลใจทันที โดยที่คนคนนั้นที่เกาซื่อหลินหมายถึงคืออ๋องต้วนพระสวามีของหวางเฟยนั่นเอง

เมื่อได้ยินแบบนี้ หยางเหมยจินได้แต่แสยะยิ้มมุมปากเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงดูหมิ่นดูแคลนไปถึงบุคคลที่ทั้งสองกล่าวถึง

“ชายผู้นั้นน่ะหรือจะยอมตายเพื่อภรรยาที่ไม่ได้รักด้วยการกระโดดตามลงมา ไม่มีทางเสียหรอก นอกเสียจากฝ่าบาทจะจับพวกก่อกบฏได้แล้วถูกประหารจะกลายเป็นวิญญาณ แต่ฉันไม่เชื่อหรอกนะว่าเขาจะตามมา หรือต่อให้ตามมาถึงที่นี่ฉันก็ไม่สนใจ เธออย่าลืมสิว่าที่นี่คืออนาคตหลายร้อยหลายพันปี ต่อให้ฉันจะมีใบหน้าเหมือนเดิม แต่หากฉันปฏิเสธว่าฉันไม่ใช่หวางเฟยก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เชื่อเถอะแค่เราสองคนข้ามเวลามาก็ประหลาดพอแล้ว คงไม่มีใครตามมาหรอก” หยางเหมยจินพูดขึ้นมาอย่างเด็ดเดี่ยว

“ฉันก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นนะคะ”

เกาซื่อหลินเอ่ยออกมา เธอหวังไว้ว่าจะไม่มีเรื่องราวชวนปวดหัวหลังจากนี้ แค่การเริ่มต้นใช้ชีวิตในต่างยุคต่างสมัยก็แย่พอแล้ว และเธอยังห่วงว่าคนที่เคยอยู่อย่างสบาย ไม่เคยต้องทำงานอย่างเจ้านายของเธอ จะผ่านพ้นชีวิตในแต่ละวันได้อย่างไร

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาชาวบ้าน (ยุค70)   ตอนพิเศษ 4 คุณพ่อจอมหวง

    ตอนพิเศษ 4 คุณพ่อจอมหวงวันเวลาล่วงเลยมาถึงวันที่สองพี่น้องฝาแฝดอย่างตงจี้หยวนและตงฟางลี่ก็เติบโตขึ้นและแม้ว่าทั้งสองคนจะรู้ว่าตัวเองเป็นใคร แต่ทั้งสองคนก็ยังคงใช้แซ่ตงเหมือนเดิม ส่วนแซ่เดิมของพ่อแม่นั้นจะเอาไว้ให้ลูก ๆ ในอนาคตเป็นผู้สืบทอด ตอนนี้ทั้งสองคนใกล้จะเรียนจบระดับมหาวิทยาลัยแล้ว คนพี่นั้นเริ่มเข้ามาช่วยดูแลงานในบริษัทของพ่อ และสมบัติที่พ่อแม่ที่แท้จริงทิ้งไว้ให้ เลยไม่ค่อยมีเวลาตัวติดกับน้องสาวเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งวันนี้ก็เหมือนกัน ชายหนุ่มจะต้องเข้าไปดูงานที่บริษัท แต่น้องสาวขอไปดูหนังกับเพื่อน“พี่ใหญ่ วันนี้ฉันขอไปดูหนังได้ไหม” ตงฟางลี่เอ่ยขอพี่ชายอย่างออดอ้อน“พี่น่ะให้ไปได้ ว่าแต่เราโทรขออนุญาตพ่อหรือยัง แล้วจะดูหนังรอบไหนกัน นี่ก็เย็นมากแล้วนะ”ชายหนุ่มตอบกลับน้องสาวอย่างไม่คิดอะไร สำหรับตัวเขานั้นไม่เท่าไร แต่พ่อนี่สิคงไม่ยอมอนุญาตง่ายๆ แน่ เพราะพ่อเป็นคุณพ่อจอมหวงลูกสาวเสียเหลือเกิน ดูอย่างน้องสาวคนเล็กที่อายุแค่ไม่เท่าไรสิ พ่อยังแทบจะไม่ให้ผู้ชายอุ้มแล้ว ความหวงของพ่อที่มีต่อน้องสาวเกินขอบเขตจริง ๆ และนี่ก็ไม่ต้องพูดถึงอาอี้ข่ายที่เป็นเหมือนกันราวกับถอดแบบกันมาเลยทีเ

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาชาวบ้าน (ยุค70)   ตอนพิเศษ 3 คุณพ่อลูกดก

    ตอนพิเศษ 3 คุณพ่อลูกดกหลังจากจบเรื่องตระกูลเกา ทุกคนกลับมาใช้ชีวิตกันตามปกติ ซึ่งเกาเทียนอี้และเกาซื่อหลินก็ไม่คิดจะกลับไปเหยียบตระกูลเกาอีกเลย และได้ข่าวว่าเกาเสี่ยวจิงถูกคนตระกูลหุ้ยบอกเลิกการหมั้นหมายและไม่คิดจะสานต่อความสัมพันธ์ส่วนสองแม่ลูกแม้จะอยู่ตระกูลเกาต่อ แต่สถานะของทั้งสองก็อยู่ยิ่งกว่าสาวใช้ สาเหตุที่ท่านนายพลไม่แพร่งพรายเรื่องนี้ออกไป ก็เพราะไม่ต้องการอับอายคนในสังคม และที่สำคัญเขาได้เอาผู้หญิงที่เลี้ยงไว้นอกบ้านเข้ามาอยู่ในคฤหาสน์และยกเป็นนายหญิงคนใหม่ เลยทำให้เฟ่ยเจียแค้นใจอย่างมากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ต้องยอมรับชะตากรรมที่ตนเองได้ก่อไว้พอเกิดเหตุการณ์ในครั้งนั้น ตงเหวินหมิงคิดจะจัดงานเลี้ยงเปิดตัวเองและภรรยารวมถึงทุกคนให้สังคมได้รับรู้ แต่กลับถูกภรรยาห้ามไว้ เพราะเธอกำลังท้องเลยไม่อยากจัดงานเลี้ยงขึ้นมา โดยได้บอกกับสามีว่าค่อยจัดงานเปิดตัวตอนเธอคลอดลูกแล้วก็ยังไม่สายแต่เมื่อถึงเวลา หยางเหมยจินก็บ่ายเบี่ยงอีก เพราะเธออยากอยู่อย่างสงบกับลูกไม่อยากวุ่นวายกับใคร เพราะการเปิดตัวนั้นคงทำให้มีแต่คนเข้าหาเธอในฐานะนายหญิงตงจนเวลานี้เธอตั้งท้องครั้งที่สามแล้ว เพราะสองท้องที่ผ่

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาชาวบ้าน (ยุค70)   ตอนพิเศษ 2 ทวงคืนสินเดิมของแม่

    ตอนพิเศษ 2 ทวงคืนสินเดิมของแม่หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น สองแม่ลูกจากตระกูลเกาแทบจะนอนไม่หลับ เพราะกลัวว่าตงเหวินหมิงจะบุกมาพบกับท่านนายพลถึงตระกูลเกา แต่เมื่อเวลาผ่านมาเป็นสัปดาห์ก็ยังไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ทำให้ทั้งสองคนกลับมาเชิดหน้าเหมือนเดิม“คุณมีเรื่องอะไรหรือเปล่า เหมือนว่าสัปดาห์ก่อนคุณจะพูดอะไรเหรอ” นายพลเกาเอ่ยถามภรรยาหลังจากสะสางงานตนเองเสร็จแล้ว ตอนนั้นเขากำลังวุ่นกับงานอยู่ เลยไม่ได้ฟังอะไรเธอมากมายนัก“ไม่มีอะไรแล้วค่ะ เรื่องไม่สำคัญแล้วล่ะ คุณทำงานของคุณเถอะ จริงสิ ฉันลืมบอกคุณไปว่าต้นเดือนหน้าทางตระกูลหุ้ยจะเข้ามาพูดคุยเรื่องหมั้นหมายระหว่างลูกชายบ้านนั้นกับเสี่ยวจิงของเรานะคะ” เฟ่ยเจียตอบกลับไปอย่างอ่อนหวานและเปลี่ยนเรื่องไปพูดในเรื่องที่เธอมีความยินดีอย่างมากจะว่าไปเรื่องที่สำคัญที่สุดสำหรับเฟ่ยเจียไม่ใช่เรื่องของตระกูลตงจะเข้ามาที่นี่หรือไม่ แต่เป็นเรื่องการแต่งงานและหมั้นหมายของลูกสาวมากกว่าพอท่านนายพลเกาได้ยินเรื่องการแต่งงานของลูกสาวคนเล็ก ก็อดคิดถึงลูกสาวคนโตที่หายไปจากบ้านหลายปีแล้ว รวมถึงลูกชายที่ไปเป็นทหาร ซึ่งไม่รู้เวลานี้ทั้งสองเป็นอย่างไรบ้างเพราะขา

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาชาวบ้าน (ยุค70)   ตอนพิเศษ 1 หาเรื่องใส่ตัว

    ตอนพิเศษ 1 หาเรื่องใส่ตัวหลังจากที่ย้ายมาอยู่ที่ปักกิ่ง เกาซื่อหลินก็ยังคงช่วยงานของหยางเหมยจินเหมือนเดิมพร้อมกับดูแลพี่สาวบุญธรรมไปด้วย วันนี้ทั้งสองออกมาซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าเพียงลำพัง เพราะสองแฝดไปเรียนหนังสือ ตงเหวินหมิงกับตู้อี้ข่ายก็ไปทำงาน“นี่เสี่ยวหลิน ไม่ต้องคอยระมัดระวังขนาดนั้นก็ได้ พี่แค่ท้องนะไม่ใช่คนป่วยสักหน่อย” หยางเหมยจินพูดพึมพำออกมาอย่างอ่อนอกอ่อนใจ เพราะตั้งแต่เธอตั้งท้อง ทุกคนก็แทบจะไม่ให้เธอทำอะไรเลย เธอแทบจะเป็นง่อยอยู่แล้ว“พี่เหมยจินก็พูดไป ถ้าเกิดพี่เดินไม่ระวังแล้วสะดุดล้มขึ้นมาจะทำอย่างไรล่ะ ต่อให้มีคนของพี่เขยติดตามมาด้วย ใช่ว่าจะมีคนกล้าแตะต้องตัวพี่นะ หน้าที่นี้เป็นของฉัน อย่างไรฉันก็ต้องคอยดูไว้ก่อน” เกาซื่อหลินโต้แย้งกลับทันที เพราะเธอต้องระวังความปลอดภัยให้กับพี่สาวคนนี้ เลยทำให้ต้องดูเหมือนทำเกินจริงไปหน่อย แต่ป้องกันไว้ก็เป็นสิ่งที่ดีที่สุดไม่ใช่เหรอ“เอาเถอะ แล้วแต่เธอก็แล้วกัน นั่นร้านขายขนมฝรั่งเปิดใหม่หรือเปล่า เราลองเข้าไปดูกันเถอะ” หยางเหมยจินคร้านจะเถียงกับอีกฝ่าย เมื่อเห็นร้านขนมเปิดใหม่จึงชวนอีกฝ่ายไปดู เนื่องจากขนมพวกนี้เธอกินแล้วติด

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาชาวบ้าน (ยุค70)   บทส่งท้าย ครอบครัวที่ต้องการ

    บทส่งท้าย ครอบครัวที่ต้องการสามปีต่อมา... หลังจากวันนั้นวันที่ตงเหวินหมิงกลับมา นั่นจึงทำให้หยางเหมยจินคลายความกังวลและรู้สึกดีใจที่เขาปลอดภัย โดยที่ตงเหวินหมิงเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟังเธออย่างละเอียด แล้วยังบอกอีกว่าเวลานี้เขาล้างมลทินให้ตระกูลตงเรียบร้อยแล้ว รวมถึงตระกูลของพี่เขยด้วย ก่อนจะบอกความจริงกับเด็กน้อยทั้งสอง ซึ่งแม้ทั้งสองคนจะรับรู้ว่าตนเองนั้นไม่ใช่ลูกแต่เป็นหลาน แต่ทั้งสองก็ยังคงเรียกตงเหวินหมิงว่าพ่อ และเรียกหยางเหมยจินว่าแม่เหมือนเดิมส่วนเรื่องบ้าน ทั้งหมดได้ย้ายเข้ามาอยู่ในเมืองเรียบร้อยแล้ว ชาวบ้านที่รู้ความจริงว่าตงเหวินหมิงคือนายท่านหยางก็พากันตกใจ บางคนก็เสียดาย ที่ก่อนหน้านี้พวกตนน่าจะทำดีกับบ้านตงไว้ ส่วนซูหว่านแทบจะเสียสติ ที่ชายที่เธอหมายปองนั้นคือคนที่มีอิทธิพลของเมืองนี้ แถมยังร่ำรวยมากอีกด้วยแต่เพราะทางบ้านซูของเธอไม่อยากมีปัญหากับบ้านตงและรู้ว่าซูหว่านคงไม่จบเรื่องบ้านตง บ้านซูจึงตัดสินใจหาสามีที่อยู่ต่างเมืองให้เธอทันทีทำให้สามปีที่ผ่านมาไม่มีใครคอยมาวุ่นวายกับสองสามีภรรยามากนัก ทุกวันนี้ตงเหวินหมิงจึงรู้สึกสบายใจอย่างมาก“ตอนนี้เรื่องราวทุกอย่างที่

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาชาวบ้าน (ยุค70)   บทที่ 52 จบสิ้นปัญหา

    บทที่ 52 จบสิ้นปัญหาหลายวันต่อมา...ในหมู่บ้านมีคนแปลกหน้าเข้ามาทำงานในคอมมูนไม่น้อยเลย แถมหัวหน้าคอมมูนยังให้ชาวบ้านช่วยกันสร้างที่พักให้ นี่จึงทำให้ใครหลายคนพากันแปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะก่อนหน้านี้หัวหน้าคอมมูนบอกเองว่าทางการยังไม่ได้ส่งคนเข้ามา แต่ทำไมวันนี้กลายเป็นว่ามีคนมากมายเข้ามาอยู่ในหมู่บ้านล่ะ“พวกเราคิดว่ามันแปลกหรือไม่ ที่จู่ ๆ ก็มีคนเข้ามาอยู่ในหมู่บ้านจำนวนไม่น้อยเลย” ชาวบ้านคนหนึ่งถามขึ้น“จะขี้สงสัยไปทำไมกัน คนมาทำงานจะคิดมากไปทำไม หากมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น หัวหน้าหมู่บ้านคงบอกแล้วล่ะ” อีกคนตอบกลับไปอย่างไม่ใส่ใจการพูดคุยของกลุ่มชาวบ้านแม้ว่าแปลกใจและสงสัยแต่ก็เลือกที่จะไม่ถาม เพราะรู้ดีว่าทุกคนมีหน้าที่การงานของตนเองซึ่งเรื่องนี้มีแค่หัวหน้าคอมมูนเท่านั้น ที่รู้ว่าเป็นคนของใครที่ถูกส่งเข้ามา เขาไม่คิดว่าคนเคยปลอมเป็นชาวบ้านมางานแต่งของตงเหวินหมิงกับหยางเหมยจินจะเป็นถึงนายท่านหลู่ นายท่านผู้ลึกลับแต่ทรงอิทธิพล และเขาก็ไม่คิดว่าท่านจะส่งคนมาบอกเรื่องที่จะให้ คนมาทำงานในคอมมูน โดยปลอมเป็นชาวบ้านที่มาทำงานในคอมมูนที่หมู่บ้านแห่งนี้เพื่อที่จะปกป้องใครบางคน ซึ่งต่อให้ช

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status