แชร์

บทที่ 13 บอกความจริงพ่อแม่

ผู้เขียน: sanvittayam
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-22 15:43:07

บทที่ 13 บอกความจริงพ่อแม่

“พ่อคะ แม่คะ” ซิ่วอิงลุกขึ้นนั่งดี ๆ มองพวกท่านด้วยความเห็นใจ น่าสงสารทั้งคู่ที่ต้องเสียลูกสาวไป แต่หลังจากนี้เธอจะเป็นลูกสาวและกตัญญูต่อพวกเขาแทนเจ้าของร่างเดิมเอง  

“จริง ๆ แล้วอิงอิงรู้สึกเหมือนฝันเลยที่ได้ตื่นขึ้นมาพบหน้าพ่อกับแม่อีกครั้ง”

“โถ อิงอิงลูกแม่ พูดอะไรก็ไม่รู้ ลูกต้องตื่นขึ้นมาเห็นพ่อกับแม่อยู่แล้ว ทำไมจะไม่เห็นล่ะ” เหม่ยฟางลูบหัวลูกสาวด้วยความอ่อนโยน

“ใช่ อย่าคิดมากเลย ยังไงลูกก็ผ่านเรื่องแย่ ๆ มาได้แล้ว ต่อไปคงจะมีแต่เรื่องดี ๆ” เว่ยตงปลอบลูกสาว เขาไม่ได้เหมือนผู้ชายจากครอบครัวอื่นที่ทำตัวขึงขังและทำเหมือนผู้ชายอยู่เหนือผู้หญิง แต่เขาใช้คำพูดปลอบโยนภรรยาและบุตรสาวมานานจนเคยชินไปแล้ว

“จริง ๆ นะคะ อิงอิงเกือบจะไม่ได้ฟื้นขึ้นมาเห็นพ่อกับแม่อีกครั้งแล้ว”

“นี่…ลูกพูดจริงเหรออิงอิง” เหม่ยฟางตกใจ ดวงตาเบิกกว้างมองลูกสาว เว่ยตงเองก็มีอาการไม่ได้ต่างกันนัก

“ลูกหมายความว่ายังไง ซิ่วอิง…ลูกเล่าเรื่องที่ฝันให้พ่อแม่ฟังได้ไหม” เว่ยตงถามลูกสาว พยายามทำใจเย็นทั้งที่หัวใจเต้นแรงจนเจ็บหนึบ นี่เขาเกือบจะสูญเสียลูกสาวไปจริง ๆ เหรอ

หากลูกสาวตายจากไปจริง ๆ เหม่ยฟางภรรยาของตนย่อมทนไม่ไหวอีกต่อไป ส่วนตัวเขาก็คงจะเลือกตายตามลูกและภรรยาไปเช่นกัน สุดท้ายแล้วโลกใบนี้โหดร้ายเกินไปสำหรับพวกเราสามคนพ่อแม่ลูก

แต่เพราะยังมีกันอยู่ ทั้งสามจึงช่วยให้กำลังใจกันและกัน จนไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็พร้อมฝ่าฟันและกัดฟันอดทนสู้ต่อ

หากลูกสาวเสียชีวิตจริง ๆ…

“พ่อแม่ใจเย็น ๆ ก่อนค่ะ อิงอิงยังอยู่ตรงนี้” ซิ่วอิงจับมือพวกท่านเอาไว้ มือของทั้งสองเย็นเฉียบเหงื่อซึมออกมา บ่งบอกว่าหวาดกลัวมากจริง ๆ

น่าสงสาร พวกเขาไม่รู้ว่าเว่ยซิ่วอิงตายไปแล้วจริง ๆ และเว่ยจิงจิงคนใหม่ได้มาแทนที่ แต่อย่างที่เธอได้ปฏิญาณเอาไว้ในใจ ไม่ว่าอย่างไรนี่ถือว่าเป็นพ่อแม่ของเธอแล้ว เธอจะดูแลพวกเขาให้ดี

“พ่อกับแม่พร้อมจะฟังอิงอิงหรือยังคะ มันเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์มาก แต่อิงอิงสามารถพิสูจน์ได้ว่าทั้งหมดคือเรื่องจริง”

“ได้ พ่อกับแม่จะฟังลูก เล่ามาเถอะอิงอิง”

“ตอนที่หลับไปเพราะพิษไข้ อิงอิงได้เจอกับชายชราเขามอบของวิเศษให้อิงอิงค่ะ”

“จริงเหรอ?” พ่อกับแม่มองลูกสาวอย่างไม่อยากเชื่อเท่าไร

“ของที่พ่อเห็นเมื่อเช้า ก็คือของวิเศษเหมือนกัน”

เว่ยตงได้ยินอย่างนั้นก็เบิกตากว้างหันมองภรรยา วันนี้ตอนทำงานเขาแอบกระซิบเล่าเรื่องนี้ให้ภรรยาฟังแล้ว ดังนั้นทั้งคู่จึงเข้าใจตรงกัน

“นี่มันจริงเหรอ ซิ่วอิง ลูกบอกว่าเก็บมันได้จากในป่า”

“นั่นเพราะอิงอิงไม่แน่ใจว่านี่เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า แต่อิงอิงรู้แล้วว่ามันเป็นเรื่องจริง นี่ไงคะ สิ่งนี้ เท่านี้ก็สามารถยืนยันว่าอิงอิงพูดเรื่องจริงได้แล้วใช่ไหม”

พึ่บ!

กองเครื่องสำอางชุดตัวอย่างทดลองหลายชนิดหลายรูปแบบมาปรากฏตรงหน้าพ่อกับแม่เว่ย พวกเขาอ้าปากค้างด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าจู่ ๆ จะมีอะไรโผล่มาจากในอากาศ

ทันใดนั้นพ่อเว่ยตงก็รีบดึงผ้าห่มมาคลุมของพวกนั้นเอาไว้ เก็บไว้ในหีบอย่างระมัดระวัง

“ซิ่วอิง พ่อเชื่อลูกแล้ว อย่าทำแบบนี้อีกเข้าใจไหม” ใบหน้าของเขาเคร่งเครียดจริงจัง

เพราะความลับนี้ของซิ่วอิงทำให้ผู้เป็นพ่อรู้สึกกังวล เขากลัวว่าย่าเว่ยจะรู้เรื่องนี้และหาว่าลูกสาวของเขาเป็นภูตผีปีศาจ

ถึงตอนนั้นไม่รู้ว่าแม่ของเขาจะทำอะไรซิ่วอิงบ้าง บางทีอาจแจ้งทหารแดง ซิ่วอิงโดนจับไปเผาหรือถ่วงน้ำ แบบนั้นไม่ก็ไม่ได้ต่างจากการบังคับให้ครอบครัวของเขาไปสู่ความตายเลย

เว่ยตงตัดสินใจอย่างแน่วแน่ เขาจะต้องปกป้องลูกสาวเอาไว้ให้ได้

“ซิ่วอิง ลูกต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ เหม่ยฟางเองก็เหมือนกัน เราจะออกไปกินข้าวกันก่อน แล้วหลังจากนี้ค่อยคุยกับคุณพ่อ”

“พี่…พี่จะทำอะไรคะ อิงอิงลูกอย่าเพิ่งทำอะไรทั้งนั้นนะ รอก่อนให้พ่อเขาจัดการเอง ลูกจะไม่เป็นอะไรไม่ต้องกลัว”

ซิ่วอิงมองพ่อกับแม่ในชีวิตนี้ด้วยสายตาซาบซึ้ง พวกเขาเป็นคนดีเหมือนในความทรงจำจริง ๆ ถ้าอย่างนั้นสิ่งที่เธอคิดไว้ก็ไม่ได้ผิดพลาดเสียทีเดียว

แค่ต้องรอดูว่าคนเป็นพ่อจะทำอะไรต่อไป

“พ่อตัดสินใจแล้ว…”

 “เราออกไปกินข้าวกันก่อนเถอะ ได้เวลาข้าวเย็นแล้ว” เว่ยตงบอกกับลูกและภรรยา เขาดูเปลี่ยนไปมากหลังจากคิดตก ความสับสนทั้งหมดที่เกิดขึ้นในช่วงหลายวันมานี้สงบลง

“เดี๋ยวก่อนค่ะ พ่อแม่กินนี่รองท้องก่อนดีกว่า ถึงออกไปกินข้าวข้างนอกก็คงไม่ได้กินอะไรอร่อย ๆ อยู่ดี” ว่าแล้วซิ่วอิงก็สะบัดมือเบา ๆ อาหารที่เธอซื้อมาจากตลาดมืดก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าพ่อแม่

“ตกลง ครั้งนี้เราจะกิน แต่คราวหน้าลูกต้องสัญญาว่าจะไม่ทำแบบนี้ต่อหน้าคนอื่น ตกลงไหม” เว่ยตงกล่าวกับบุตรสาว เขาหยิบอาหารขึ้นกินอย่างไม่อิดออด

เห็นอย่างนั้นเหม่ยฟางก็เอาด้วย ทั้งคู่ยังช่วยกันคะยั้นคะยอให้ซิ่วอิงกินมากขึ้น เมื่ออิ่มท้องแล้วครอบครัวสามคนจึงออกจากห้อง หลังจากทำลายหลักฐานเรียบร้อย

“เฮอะ! สำออยเหลือเกิน งานการไม่ต้องทำแล้วยังได้กินข้าวสบาย ๆ นี่บ้านเราเลี้ยงหมูไปรอเชือดหรือยังไง” เสียงพูดกระทบกระเทียบดังมาจากฝั่งบ้านรอง ย่าเว่ยนั่งอยู่ตรงนั้น ยังมีปู่ที่นั่งเงียบ ๆ ดูเหมือนพวกเขากินข้าวอิ่มแล้วและกำลังนั่งคุยกันเหมือนปกติ

“เราจะรีบกิน” เว่ยตงพูดแค่นั้น ก่อนพาลูกและภรรยาไปนั่งโต๊ะเล็กที่อยู่ไม่ไกล บนนั้นมีชามข้าวต้มสามชามและผักต้มวางอยู่ อาหารของบ้านใหญ่เว่ยก็มีแค่นี้มาโดยตลอด

“...” สามคนพ่อแม่ลูกรู้สึกกินน้ำข้าวใส ๆ ตรงหน้าแล้วขัดคอมาก เพราะเพิ่งกินอาหารดี ๆ มาจนอิ่ม

อย่างที่มีคนได้กล่าวไว้ หากไม่มีข้อเปรียบเทียบ ก็ไม่รู้สึกอะไร แต่เมื่อมีสิ่งมาเปรียบ ยิ่งส่งผลให้เห็นบางอย่างได้แจ่มชัดขึ้น

สีหน้าของเว่ยตงจึงไม่ดีนัก ขณะที่สองแม่ลูกมีเพียงท่าทางเหมือนไม่อยากกินข้าวตรงหน้าเท่านั้น

“แหม ๆ ๆ ทำหน้าเหมือนไม่เคยกินของพวกนั้นมาก่อน คนไม่ทำงานได้กินข้าวแค่นั้นก็ดีแค่ไหนแล้ว”

“หวังซื่อ” เสียงปรามของผู้เป็นปู่ดังขึ้น นี่เป็นปกติ แต่มีหรือย่าเว่ยจะสนใจ แม้จะเงียบไปสักพักแต่เมื่อเห็นคนบ้านใหญ่ทำอะไรก็จะสอดปากพูดจาไม่ดีขึ้นมาอีก

“คุณปู่ วันนี้ผมสอบได้คะแนนดีมาก ดูสิ” เว่ยจุนช่วยย่าเบี่ยงประเด็นออกไป ทำให้ความสนใจของบ้านรองไปตกอยู่ที่เด็กชาย

ครอบครัวซิ่วอิงก็ไม่ได้สนใจอะไรนัก อย่างไรก็กินข้าวมาจนอิ่มแล้ว ข้าวที่อยู่บนโต๊ะก็ราวกับไม่ใช่อาหารคน ไม่รู้พวกตนทนกินมาได้อย่างไรเป็นสิบปี

คิดแล้วซิ่วอิงก็ช่วยแม่เก็บสำรับ ขณะนั้นเสียงของชายหนุ่มก็ดังขึ้นอย่างฉุนเฉียว

“ดูสิ คนบ้านใหญ่นี่ดีจริง ๆ เพราะมีลุงใหญ่ทำงานหนัก วันนี้ถึงกับกล้ากินทิ้งกินขว้างแล้ว นี่บ้านเราร่ำรวยถึงขนาดนั้นแล้วเหรอครับ” เว่ยหยางเป็นหลานชายคนโต เขาถือตนเป็นคนสำคัญเสมอ

เมื่อเร็ว ๆ นี้เขาต้องหาเงินแต่งงานเพิ่ม ย่าสัญญาว่าจะขายนังเด็กไร้ประโยชน์ซิ่วอิงให้กับพ่อม่ายแก่ ใครจะคิดว่านังเด็กนั่นจะปฏิเสธ หัวเด็ดตีนขาดก็ไม่ยอมไป

ตอนนี้ตระกูลหวังเร่งรัดมาแล้ว หากยังไม่ได้สินสอดตามคาด การหมั้นหมายคงต้องจบลง เป็นอย่างนี้จะไม่ให้เขาเกลียดนังซิ่วอิงกับแม่มันได้อย่างไร มีหน้าตาสวย ๆ เสียเปล่า กลับไม่ยอมใช้ให้เป็นประโยชน์อะไรเลย

จนเขาลืมคิดไปว่า แม้ซิ่วอิงอยากจะใช้หน้าตาร่างกายให้เป็นประโยชน์ แล้วทำไมต้องทำเพื่อประโยชน์ของคนอื่นแล้วโยนตัวเองลงนรกด้วยล่ะ?

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ข้ามเวลามาเป็นแม่ค้าหลงยุค ยุค70   ตอนพิเศษ 4 ตลอดไป

    ตอนพิเศษ 4 ตลอดไปชีวิตของซิ่วอิงตอนนี้มีความสุขมาก ความจริงเธอก็มีความสุขตลอดมาอยู่แล้ว แต่เมื่อคิดว่ามีเด็กตัวเล็ก ๆ กำลังอาศัยอยู่ภายในร่างกายตัวเองและเจริญเติบโตขึ้นทุกวัน มันเป็นความสุขที่แตกต่างออกไปจริง ๆ“อีกสิบวันก็จะได้เจอหน้ากันแล้วนะลูก” หญิงสาวใช้มือลูบหน้าท้องที่ใหญ่ไม่ต่างจากลูกแตงโมของตนเอง นี่ก็ใกล้คลอดเต็มทีแล้ว ทำให้เมื่อสามีออกไปทำงาน หลันถังกับเหม่ยฟางผู้เป็นแม่ก็จะแบ่งเวลามาอยู่เป็นเพื่อนเสมอถึงตอนนี้หลันเซียงฮั่นจะย้ายมาประจำการอยู่ใกล้ ๆ แต่เขายังคงต้องเดินทางไปทำงานต่างเมืองเมื่อได้รับมอบหมายภารกิจ และคราวนี้ก็เช่นกันในตอนแรกเซียงฮั่นไม่คิดจากภรรยาไปจนกว่าเธอจะคลอดลูกและปลอดภัย เขากลัวว่าซิ่วอิงจะหวาดกลัวหากตนเองไม่ได้อยู่เคียงข้างตอนคลอดลูก จึงคิดปฏิเสธภารกิจในครั้งนี้และขอลาหยุดสักเดือนแต่เป็นซิ่วอิงที่คะยั้นคะยอให้ชายหนุ่มไปทำงานเพราะเหลือเวลาอีกสองอาทิตย์ก่อนถึงกำหนดคลอด อย่างไรเขาก็กลับมาทันอยู่แล้วเธอจึงนั่งอยู่ในสวนสวยเฝ้ามองหน้าประตูเป็นระยะด้วยใจคิดถึงสามีบ้างเป็นบางครั้ง แต่ส่วนใหญ่ก็มักจะนึกคิดทำผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ออกมาเล่นเสียมากกว่า ไม่ได้อยู่บ้า

  • ข้ามเวลามาเป็นแม่ค้าหลงยุค ยุค70   ตอนพิเศษ 3 ภรรยาท้องแล้ว

    ตอนพิเศษ 3 ภรรยาท้องแล้ว“อิงอิง ลุกมากินของอร่อยเถอะลูก วันนี้แม่ของอิงอิงเอาอาหารอร่อยมาฝากแม่ไว้ตั้งเยอะ”“อิงอิงยังเพลีย ๆ อยู่เลยค่ะ สงสัยเพราะช่วงนี้ทำงานหนักเกินไป ขอนอนอีกหน่อยนะคะแม่” ซิ่วอิงบอกกับแม่สามีเนื่องจากสองบ้านปรองดองกันดีมาก ซิ่วอิงใช้เงินเพื่อซื้อบ้านที่อยู่ตรงข้ามให้กับพ่อแม่ ขณะที่ตนเองเลือกจะมาอยู่บ้านแม่สามีเวลาที่คุณพ่อสามีและหลันเซียงฮั่นที่เป็นสามีไปทำงานต่างจังหวัดพร้อมกันโดยมีบ้านของตัวเองที่ใช้อยู่กับสามีต่างหากอีกหลังหนึ่ง และใช้อยู่เมื่อสามีกลับมาหาเท่านั้น แต่ปกติแล้วซิ่วอิงจะสลับไปมาระหว่างบ้านพ่อแม่ตัวเองและพ่อแม่สามีเสียมากกว่าตอนนี้เธอก็มาอยู่บ้านหลัน เพราะทั้งคุณพ่อและสามีล้วนออกไปทำงาน ส่วนเซียงฮั่นนั้นจะกลับมาในวันพรุ่งนี้“อิงอิงไม่ต้องทนนะ ไปหาหมอเลยดีกว่า บ้านเราขาดเงินทองซะที่ไหนกัน หรือแม่ซื้อโรงพยาบาลไว้ให้ก็ได้” หลันถังยังคงใจป้ำเหมือนเดิม เมื่อได้ลูกสะใภ้คนนี้มาชีวิตเธอก็มีความสุขขึ้น จนรู้สึกรักเอ็นดูซิ่วอิงเหมือนเป็นลูกของตัวเองไปอีกคน เผลอ ๆ รักมากกว่าลูกตัวเองเสียอีก“เอ่อ ไม่เป็นไรค่ะ อิงอิงไปหาหมอเฉย ๆ ดีกว่า” ซิ่วอิงยิ้มแหยให้

  • ข้ามเวลามาเป็นแม่ค้าหลงยุค ยุค70   ตอนพิเศษ 2 สามีที่ดี

    ตอนพิเศษ 2 สามีที่ดีแม้ว่าทุกอย่างจะดำเนินไปด้วยดี แต่อย่างไรในชีวิตก็ต้องมีบางสิ่งมากระทบกระทั่ง สุดท้ายแล้วซิ่วอิงและครอบครัวก็ยังเป็นมนุษย์ธรรมดาที่ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมมนุษย์ช่วงนี้ซิ่วอิงรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย หลังสามีกลับมาจากทำงานครั้งล่าสุด เธอได้กลิ่นน้ำหอมของผู้หญิงติดมาเพิ่งแต่งงานได้ไม่นาน เขาจะเบื่อเธอและหาเรื่องเข้าบ้านแล้วจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ?มีหรือหลันเซียงฮั่นจะไม่รู้ว่าภรรยามีความกังวลอะไรบางอย่างในใจ เขาหันมองไปรอบตัวก่อนจะจับลูกน้องที่มีภรรยาแล้วมาสอบถาม“ภรรยาฉันเป็นอะไรไป” เซียงฮั่นเป็นผู้บัญชาการที่เก่งกาจ เขายังดูแลเอาใจใส่ภรรยาจนลูกน้องแอบเรียกลับหลังว่าสามีแห่งชาติ แต่เมื่อเกิดปัญหาขึ้นมาชายหนุ่มก็ยังเป็นเพียงคนที่เพิ่งเคยมีความรัก“คุณผู้หญิงมีท่าทางยังไงครับ”“ช่วงนี้ไม่ค่อยให้ฉันเข้าใกล้ เวลานอนก็หันหลังให้” เซียงฮั่นนึกถึงท่าทางของภรรยาแล้วก็ปวดใจ เขาไปทำอะไรให้เธอไม่พอใจหรือเปล่า แต่พอถามแล้วเธอก็บอกว่าเปล่าและฝืนยิ้ม เก็บเรื่องราวไว้ในใจคนเดียว คิดว่าเขามองไม่เห็นอย่างนั้นเหรอ“ถ้าอย่างนั้นนายท่านไปทำอะไรมาหรือเปล่าครับ” ทหารคนสนิทมองหน้าเจ้านายอายุน

  • ข้ามเวลามาเป็นแม่ค้าหลงยุค ยุค70   ตอนพิเศษ 1  ชีวิตที่ใฝ่หามานาน

    ตอนพิเศษ 1 ชีวิตที่ใฝ่หามานานตอนนี้ชีวิตใหม่ของเว่ยซิ่วอิงลงตัวอย่างมาก ได้ก่อตั้งธุรกิจในยุคแรกเริ่ม อนาคตมีแต่จะรุ่งเรืองขึ้นเรื่อย ๆ แม้ไม่ต้องพึ่งพามิติร้านเครื่องสำอางก็ตามนอกจากนี้ยังมีสามีคอยเอาอกเอาใจ แม่สามีแสนดีที่ไม่มีการกดขี่ลูกสะใภ้เลยสักนิด ครอบครัวของเธอก็คอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลังเสมอซิ่วอิงคิดว่าแค่นี้เธอก็ประสบความสำเร็จมากแล้วในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง ลำพังเกิดมามีแม่สามีดีอย่างหลันถัง ก็คงมีคนสงสัยว่าเธอทำบุญกู้ชาติมาในชาติก่อนแน่ ๆ ถึงได้มีชีวิตที่ดีขนาดนี้แค่ถึงอย่างไรคนเก่งก็มีปัญหาของคนเก่ง เพราะสามีต้องไปทำงานต่างเมืองบ่อย ๆ เธอเลยใช้เวลาว่างส่วนใหญ่ไปกับงานในร้านกระทั่งสามีกลับมาอยู่ด้วยกันแล้ว เธอก็ยังวุ่นวายอยู่กับร้านค้าโชคดีที่เซียงฮั่นเข้าใจแล้วยังสนับสนุนภรรยาให้ทำตามใจปรารถนาได้เต็มที่ เมื่อเขาได้พักเพิ่มสักหนึ่งหรือสองวัน ก็มักจะพาซิ่วอิงไปที่ร้านเสมอเพื่อเอาอกเอาใจหากพาไปร้านอาหารแบบคนหนุ่มสาวก็แล้วไป เขากลับพาเธอเข้าร้านตัวเองเพื่อให้หญิงสาวหาเงินที่เธอชอบนักหนา และแน่นอนว่าซิ่วอิงชอบการแสดงความรักของสามีแบบนี้มากกว่า“มีอะไรหรือเปล่า” ขณะที่นั่งก

  • ข้ามเวลามาเป็นแม่ค้าหลงยุค ยุค70   บทส่งท้าย  คุณคือคนที่อยากอยู่ด้วยไปตลอดชีวิต

    บทส่งท้าย คุณคือคนที่อยากอยู่ด้วยไปตลอดชีวิตรถยนต์สีดำขับไปตามทางที่คุ้นเคยไม่นานก็มาถึงกำแพงบ้านหลัน ทหารเฝ้ายามเปิดประตูต้อนรับด้วยความยินดี เมื่อรถจอดเทียบขาเรียวก็ก้าวออกมา“อิงอิง มาแล้วเหรอจ๊ะ” ที่ยืนอยู่ตรงหน้าตอนนี้คือป้าหลัน พร้อมทั้งเหม่ยฟางผู้เป็นมารดาของตนเอง ซิ่วอิงไม่ได้รู้สึกผิดสังเกตอะไรเพียงยื่นมือไปหาพวกท่านอย่างเป็นธรรมชาติ“ป้าหลันสบายดีไหมคะ วันนี้แอบเข้าครัวกับแม่อีกแล้วหรือเปล่า” ซิ่วอิงสนอกสนใจดูมือของผู้ใหญ่ตรงหน้า ขณะที่ท่านจับจูงเธอเดินทะลุตัวบ้านไปยังสวนด้านหลัง“ป้าเข้าครัวไปก็รกครัวเปล่า ๆ ไม่เข้าไปรบกวนเหม่ยฟางหรอกนะ”“อิงอิงลูกเงยหน้าขึ้นก่อน” เสียงอ่อนโยนของผู้เป็นแม่ดังขึ้น เมื่อรู้ตัวซิ่วอิงก็มาอยู่ในสวนหลังบ้านของสกุลหลันแล้วหญิงสาวเงยหน้าขึ้นด้วยความสงสัย สิ่งแรกที่เห็นคือร่างสูงของชายหนุ่มที่เธอคิดถึงมาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาและติดต่อกันทางโทรศัพท์ไม่กี่นาทีต่อเดือนเท่านั้นตอนนี้เขายังสวมชุดทหารเต็มยศ ในมือมีช่อดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์ ล้อมรอบไปด้วยแสงเทียนและซุ้มดอกไม้ที่ถูกตั้งใจตกแต่งเอาไว้อย่างดีจนทั่วทั้งสวน“พี่เซียงฮั่น” ซิ่วอิงยิ้มออกมาด้วย

  • ข้ามเวลามาเป็นแม่ค้าหลงยุค ยุค70   บทที่ 44 หาเรื่องใส่ตัว

    บทที่ 44 หาเรื่องใส่ตัว“แม่คะ เราไป…” ก่อนที่คุณหนูลู่จะพูดจบ มารดาของหล่อนก็เดินลิ่ว ๆ เข้าไปในวงสนทนาที่เว่ยซิ่วอิงอยู่ก่อนแล้ว เห็นอย่างนั้นก็ยิ่งทำให้คุณหนูลู่พึงพอใจที่ไม่ต้องทำอะไรเอง“นี่มันแม่ค้าขายเครื่องสำอางนี่นา มาตรฐานงานเลี้ยงของกองทัพตกต่ำลงถึงขนาดเชิญพ่อค้าแม่ค้าข้างถนนมาร่วมงานแล้วอย่างนั้นเหรอเนี่ย” คุณนายลู่ไม่พอใจเว่ยซิ่วอิงอยู่แล้วจากงานเลี้ยงน้ำชาที่บ้านของคุณนายหลัน ดังนั้นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังไปได้ดีก็รู้สึกว่าต้องเข้ามาทำลายและลากคนคนนี้ลงมาให้ได้“สวัสดีค่ะ คุณนายลู่” เว่ยซิ่วอิงไม่ดิ้นเต้นไปตามอารมณ์ของคน เธอทักทายอีกฝ่ายด้วยความเคารพและมีมารยาทเพียงเท่านี้สายตาที่ทุกคนมองมาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย อย่างน้อย ๆ พวกเขาก็มองซิ่วอิงอย่างชื่นชม ขณะที่มองคุณนายลู่เหมือนนางร้ายเกรดต่ำคนหนึ่ง“โอ้ นี่ใครกัน ไม่ใช่คุณชายหลันเซียงฮั่นลูกรักของคุณนายหลันถังหรอกเหรอคะ”“สวัสดี คุณนายลู่” เซียงฮั่นจำต้องทักทายด้วยสีหน้าไม่ดีนัก เขารู้ว่าใครไม่ถูกกับมารดา และต้องหลีกหนีเสมอเมื่อเข้าสังคม แต่คราวนี้ดูเหมือนคนข้างกายจะไม่ยอมหลีกหนีง่าย ๆ ชายหนุ่มทำได้เพียงยืนปักหลักและเป็น

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status