พ่อคุ้มอินทรีย์ที่กลับมาพร้อมชัยชนะโดยไม่เสียเลือดเนื้อและกำลังคนฝั่งของตนเองเลยแม้แต่คนเดียวแถมยังยึดทรัพย์สินข้าวของพวกไอ้โจรปล้นควายกลับมาได้อีกเกือบหกเกวียน
"พี่อินทรีย์ที่นี่เฉียบขาดมาก ป่านนี้พวกมันไปเฝ้ายมบาลก็ยังไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองตายแล้ว"ไอ้กล้าพูดแบบติดตลก "ไอ้กล้าไอ้ชิบหาย..! มึงก็อย่าพูดไปเผลอ ๆ มันยังคิดว่ามันยังหายใจอยู่หรือเปล่า"ไอ้สนที่พูดหยอกเย้ากับเพื่อน เหล่าบรรดาลูกน้องของพ่อคุ้มอินทรีย์ลูกสมุนห้าสิบคน ไม่มีใครปฏิเสธวิธีการของอินทรีย์เพราะเขามักจะใช้สมองมากกว่ากำลัง ไม่ว่าจะเป็นวิธีขาวหรือดำจะลดศักดิ์ศรีหรือมีศักดิ์ศรีสำหรับเขาขอเพียงแค่บรรลุเป้าหมายเขาทำได้หมด "พวกมึงไปพักผ่อนเถอะ ส่วนเวรยามที่เฝ้าตามจุดประตูทั้งห้าของหมู่บ้านสลับผลัดเปลี่ยนกันอย่าให้ขาด"อินทรีย์พูดจบก็เดินกลับขึ้นเรือนเพื่อไปชำระล้างคราบเหงื่อไคร อีจวงที่เฝ้ารอชะเง้อคอยาวว่าเมื่อไหร่พ่อคุ้มอินทรีย์ ของมันจะกลับมาที่เรือนเสียที เพราะมันอยากจะขึ้นไปปรนนิบัติพัดวีดั่งเช่นทุกคราว มันอยากจะเป็นเมียของอินทรีย์จนตัวสั่น แต่ก็ทำได้เพียงแค่บีบนวดเพราะอินทรีย์ไม่เคยล่วงเกินมันมากไปกว่านั้น "พ่อคุ้มกลับมาแล้วเหรอจ๊ะ"อีจวงที่ยืนเสนอหน้ารออินทรีย์อยู่ตรงใต้ถุนเรือน "เอ็งมีอะไรถึงมายืนอยู่ตรงนี้อีจวง"อินทรีย์ที่เพิ่งเอาม้าไปเก็บในคอกเห็นอีจวงยืนชะเง้อคอยาวก็เลยเอ่ยปากถาม "บ่าวมารอพ่อคุ้มอินทรีย์กลับมานะจ๊ะ พ่อคุ้มอินทรีย์เหนื่อยหรือเปล่าจ๊ะ เดี๋ยวบ่าวหาน้ำเย็นๆ มาให้"อีจวงรีบเดินเข้าไปเอาอกเอาใจ จนทำให้บ่าวไพร่ในเรือนบางคนก็อดหมั่นไส้ไม่ได้ "เออขอบใจมาก เอ็งเอาน้ำเย็นขึ้นไปให้ข้าวบนเรือนแล้วกัน ข้าวเย็นนี้ไม่ต้องเตรียม ข้าไม่หิว"อินทรีย์พูดจบก็เดินหนีกลับขึ้นไปบนเรือน "แหม..! อีจวงมึงจะออกนอกหน้านอกตาเกินไปแล้วหรือเปล่าวะ"อีแดงที่อยู่มาก่อนอีจวงก็รู้สึกหมั่นไส้ที่อีจวงเสนอหน้าตาจนเกินงาน "ทำไมอีแดง มึงอิจฉาวาสนากูล่ะสิ ที่กูได้ขึ้นไปรับใช้ บีบนวดพ่อคุ้มอินทรีย์อยู่เป็นประจำ อย่างมึงอย่างไม่มีโอกาสหรอก"อีจวงพูดจบก็เดินหายไปในครัวเพื่อไปหยิบน้ำเย็นๆ มาให้กับอินทรีย์บนเรือน "พ่อคุ้มอินทรีย์จ๊ะ บ่าวเข้าไปได้หรือไม่จ๊ะ"อีจวงที่ทำเสียงเล็กเสียงน้อย "เออ..เข้ามา"อินทรีย์เอ่ยปากอนุญาต "บ่าวเอาน้ำเย็น ๆ มาให้พ่อคุ้มจ้ะ" "เอาวางไว้ตรงนั้น แล้วมึงก็ออกไปได้แล้วอีจวง" อินทรีย์พูดตัดบทเพราะรู้สึกเหนื่อยล้าและอยากนอนพักผ่อน แต่อีกจวงก็ยังคงทำท่ามึนตึง ไม่ยอมออกไปง่ายๆอินทรีย์จึงปรายตามอง "มึงมีอะไรทำไมถึงยังไม่ออกไปอีก" "พอดีบ่าวเห็นว่าพ่อคุ้มอินทรีย์กลับมาเหนื่อยๆบ่าวเตรียมสมุนไพรประคบไว้ให้ ให้บ่าวนวดให้พ่อคุ้มอินทรีย์นะจ๊ะ"อีจงเสนอตัว อินทรีย์ชั่งใจอยู่นานเพราะเขาเองก็ไม่อยากวุ่นวายเพราะตอนนี้รู้สึกเหนื่อยล้าเต็มทนแต่ก็ดีที่มีคนมานวดคลายความปวดเมื่อยตัวให้จึงได้ตอบอนุญาต"เออก็ได้" อีจวงพอได้ยินคำอนุญาต ก็วิ่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่คลานเข่าเข้าไปหาอินทรีย์ที่นอนอยู่บนเตียงบีบนวดอย่างไม่รีรอ อีจวงพยายามใช้มารยาร้อยเล่มเกวียน เพื่ออ่อยอินทรีย์ให้รับมันขึ้นเป็นเมีย แต่ก็ไม่เคยสำเร็จเพราะอินทรีย์ไม่เคยมีอะไรกับบ่าวในบ้านเลยสักคน ผ่านไปสักพักนึงอินทรีย์ก็รู้สึกหายปวดเมื่อยจึงได้เอ่ยปากไล่ให้อีจวงออกจากห้องไป อีจวงที่อารมณ์เสียไม่น้อย เพราะตั้งใจมาอ่อยอินทรีย์อย่างเต็มที่ สุดท้ายก็แห้วกลับมาเหมือนเดิม "แหมอีจวงแห้วอีกละสิถ้ามึงอ่ะ"อีแดงที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับอีจวงก็พูดจากระแนะกระแหน "มึงไม่ต้องมาพูดกับกูอย่างนี้หรอกอีแดง มึงอ่ะไม่ได้สัมผัสแม้แต่ปลายเล็บตีนของพ่อคุ้ม..! อย่าปากดีให้มันมาก"อีจวงหันไปด่าอีแดงอย่างไม่ไว้หน้า "เพราะว่ากูไม่ได้มักใหญ่ใฝ่สูงเหมือนมึงไงล่ะอีจวงระวังให้ดีเถอะ วันหนึ่งพ่อคุ้มจะเฉดหัวมึงออกจากบ้านกูจะรอดูวันนั้น"พูดจบอีแดงก็เดินสะบัดตูดออกไป "ไม่มีวันนั้นหรอก มีแต่กูจะขึ้นเป็นเมียพ่อคุ้มให้มึงดูอีแดง"อีตวงก็พูดสบถกับตัวเองเบา ๆ ทางด้านไอ้ทองอินที่ได้พาครอบครัวของตัวเอง ระหกระเหินร่อนเร่ มาจนถึงตัวเมืองโคราช แม้จะยังรู้ตัวว่าหนีพ้นเงื้อมมือเจ้าของโรงพนันมาได้ แต่ก็ใช่ว่าพวกนั้นจะไม่ตามล่า "พี่นี่เราก็เดินมาหลายวันแล้วนะ เราไปหาที่หยุดพักสักที่เถิด หากเป็นเช่นนี้ลูกกับข้าน่าจะหมดแรงเสียก่อนที่จะถึงโคราชเป็นแน่" นางนวลที่เห็นสภาพอิดโรยของลูกสาวก็รู้สึกสังเวชใจ "พวกมึงจะพูดทำไมกันนักหนาวะ เป็นตัวถ่วงกู ชิบหาย รู้อย่างนี้ไม่น่าเอามาด้วยหรอก ปล่อยให้แม่งโดนกระทืบอยู่ที่ลพบุรีก็ดี" ไอ้ทองอินที่พูดโดยไม่สนใจความรู้สึกลูกหรือเมียเลย "ทำไมพี่พูดอย่างนั้นล่ะ..! ที่พวกข้าต้องมาตกระกำลำบาก มันก็เพราะพี่ไม่ใช่หรือไง"นางนวลที่หมดความอดทนกับคนอย่างไอ้ทองอิน "อีนวลมึงอย่าปากดีให้มันมากนักนะ มึงเดินไปเถอะอีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะถึงบ้านลุงกูที่โคราชแล้ว" "แม่จ๋าขออัญชันพักสักเดี๋ยวได้หรือไม่อัญชันรู้สึกไม่ไหวจริง ๆ จ้ะ เหมือนไม่มีแรงจะเดินแล้ว"อัญชันที่เหมือนจะเป็นไข้ตัวร้อนรุม ๆ เพราะเมื่อวานฝนตกหนัก สองคนแม่ลูกโดนฝนและน้ำค้างมาหลายวัน "พี่ทองอินหยุดพักให้ลูกพักข้างหน้าสักประเดี๋ยวเถอะ ลูกน่าจะได้ไข้เดี๋ยวขอข้าเช็ดตัว หาข้าวหายาให้ลูกได้กินสักหน่อย" "เออก็ได้กูก็เหนื่อยแล้วเหมือนกัน" ไอ้ทองอินที่พูดจบก็นั่งแหมะลงกับพื้นโดยที่ไม่มาดูนางอัญชันเลยแม้แต่นิดเดียว นางนวลที่จัดการหุงหาข้าวแม้จะเป็นเพียงข้าวต้มที่เหลือข้าวอยู่เพียงสามหยิบมือก็ยังได้อีกหนึ่งมื้อสำหรับคนสามคน ปลาแห้งที่เหลือเพียงตัวเดียวนางก็เลือกที่จะบีบใส่ลงไปในหม้อข้าวเพื่อให้ลูกและสามีได้กิน "อัญชันเดี๋ยวลูกมากินข้าวก่อนนะลูกนะ เดี๋ยวแม่จะหาฟ้าทะลายโจรแถว ๆ นี้ดูเผื่อจะได้ลดไข้ของลูกลงบ้าง"นางนวลเดินไปเก็บสมุนไพรเพื่อหาเอามาลดไข้ให้ลูกสาวตนเอง 'แม่อยากไปไหนไกลนะจ๊ะ อัญชันไม่เป็นอะไรมากหรอก แม่ไม่ต้องเป็นห่วงข้านะ"คำพูดราวกับว่าจะเป็นคำสั่งลาของอัญชันและแม่ เหมือนจะเป็นวันสุดท้ายที่อัญชันจะไม่ได้เห็นแม่อีก "มึงก็มัวแต่ร่ำรี่ร่ำไรอยู่นั่นแหละอีนวล จะทำอะไรก็ทำ จะได้ออกเดินทางสักที ส่วนมึงอีอัญชันก็เป็นตัวถ่วงตั้งแต่เกิดยันโตเลยนะ" อัญชันไม่พูดอะไรโต้ตอบกลับผู้เป็นพ่อเพราะแม่มักจะสอนให้อัญชันเคารพบิดาเสมอ ไม่ว่าบิดานั้นจะทำไม่ดีมากน้อยเพียงใด อัญชันก็ไม่เคยเกลียดผู้เป็นพ่อเลยสักครั้ง "งั้นเดี๋ยวแม่จะเข้าไปในป่าไม่ไกล ตรงโน้นตอนที่เดินผ่านมา แม่เห็นสมุนไพรฟ้าทะลายโจรขึ้นเป็นดงเลยลูกรอแม่ซักเดี๋ยวนะ" สองคนพ่อลูกนั่งกินข้าวต้มปลาแห้งเหลือเพียงข้าวต้มอยู่เพียงถ้วยสุดท้าย อัญชันเลือกที่จะเก็บเอาไว้ให้แม่กิน ไอ้ทองอินที่มีท่าทีจะแย่งข้าวต้มไปอัญชันก็สู้สุดฤทธิ์ "กูบอกให้มึงส่งข้าวต้ม มาให้กูอย่างไรล่ะอีอัญชันมึงจะเก็บไว้ทำอะไร กูยังกินไม่อิ่ม"ไอ้ทองอินตวาดลูกสาวลั่น เพราะตัวนั้นกินข้าวต้มได้แค่ถ้วยเดียว "อัญชันจะเก็บไว้ให้แม่จ้ะ แม่นวลยังไม่ได้กินข้าวเลย ถ้าพ่อกินหมดแล้ว แม่นวลจะกินอะไรล่ะจ๊ะ"อัญชันหวงหม้อข้าวยิ่งกว่าอะไรดีในเวลานี้ "ก็เรื่องของมันสิ ใครใช้ให้มันเสือกเดินกลับเข้าไปในป่าล่ะ ท้องมันกับท้องกูก็ไม่ได้ติดกันสักหน่อย" "ไม่ได้จ้ะ ยังไงข้าก็จะเก็บข้าวถ้วยนี้เอาไว้ให้แม่ ถ้าพ่อจะกินพ่อต้องไปหาเอาเองแล้วล่ะ" ไอ้ทองอินที่เห็นท่าทีไม่ยอมของลูกสาว จึงต้องล่าถอยกลับไปนั่งรอ นางนวลที่ยังไม่ออกจากป่าเสียทีผ่านมานานสองนาน หันไปสักพักเห็นเมียรักเมียชังถือต้นฟ้าทะลายโจรออกมาหนึ่งกอใหญ่ "อัญชันแม่กลับมาแล้วลูก เดี๋ยวแม่จะรีบคั้นน้ำฟ้าทะลายโจรให้ลูกกิน เพื่อดับพิษไข้นะลูกนะ"นางนวลที่รีบทำเวลาบดยาผสมน้ำให้ลูกสาว "แม่กินข้าวก่อนเถอะจ๊ะ เดี๋ยวยาข้าบดเองก็ได้" อัญชันยื่นถ้วยข้าวถ้วยสุดท้าย ให้กับนางนวลผู้เป็นแม่พร้อมกับส่งยิ้มไปให้ แสดงให้แม่เห็นว่าตัวเองนั้นไม่เป็นอะไรมาก "ขอบใจมากนะลูกที่คิดถึงแม่"ยังไม่ทันที่นางนวลจะยื่นมือไปรับถ้วยข้าว นางนวลถึงกับเป็นลมล้มพับลงไปหายใจรวยรินราวกับคนจะขาดใจตาย "แม่ แม่ แม่เป็นอะไรจ๊ะ..! แม่เป็นอะไรแม่ตอบอัญชันสิ"อัญชันที่ตกใจรีบพุ่งไปกอดแม่ที่นอนขดตัวงอหายใจรวยรินอยู่บนพื้น "อัญชันฟังแม่นะลูก ลูกต้องไปกับพ่อและดูแลตัวเองให้ดี นับจากนี้ลูกต้องเป็นคนดี ซื่อสัตย์และไม่ยุ่งกับการพนันอย่างที่พ่อเป็นนะลูก รับปากแม่สิ" นางนวลใช้มือสั่นเทายื่นไปสัมผัสใบหน้าลูกสาวเป็นครั้งสุดท้ายห่วงเดียวห่วงสุดท้ายในชีวิตของนางนวลคือลูกสาวที่ชื่ออัญชัน "ไม่นะแม่ แม่ต้องอยู่กับข้า ฮื่ิอ ฮึก แม่เป็นอะไรแม่บอกข้าสิ พ่อ พ่อช่วยมาดูแม่หน่อย ฮื่อ"ไอ้ทองอินที่ทำท่าเหนื่อยหน่าย คิดว่าเมียรักเมียชังตอนนี้แกล้งทำเป็นล้มป่วย "มึงเป็นอะไรของมึงวะอีนวล มึงจะเล่นละครอะไรเป็นอีกให้มันไว ๆ หน่อยเถอะ"ไอ้ทองอินพูดจบก็ไปจับใบหน้าของเมียรักดู มองเห็นว่าเริ่มมีปากเขียวช้ำจึงได้สำรวจไปทั่วร่างกายจนไปเห็นรอยเขี้ยวที่ข้อขาเล็กของเมียตนเอง "อีนวลนี่มึงถูกงูกัดอย่างนั้นรึ"ไอ้ทองอินตกใจถึงกับทำอะไรไม่ถูก "มันไม่ทันแล้วพี่ทองอิน ข้าปากพี่ดูแลอัญชันด้วยนะ พี่รับปากข้าได้หรือไม่ ว่าจะเลิกเล่นการพนันและหันมาดูแลลูกสาวของเรา"ไอ้อินที่เห็นว่าเมียตัวเองนั้นหายใจร่อแร่จึงรับปากไปส่งส่ง "กูรับปากมึง ไม่ต้องเป็นห่วง"แม้แต่น้ำตาสักหยดเดียวให้ทองอินก็ไม่มีที่จะไหลให้กับนางนวล ช่างผิดแผกแตกต่างกับนางนวลเหลือเกินที่มองใบหน้าผัวที่นางรักมาตลอดทั้งชีวิตนี่สินะที่เขาให้สุภาษิตว่ามีผัวผิดคิดจนตัวตาย....ศึกในวันนี้ผลสุดท้ายถ้าถามว่ามีใครแพ้หรือชนะหรือเปล่าสำหรับอินทรีย์เขามองเพียงว่านี่เป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ ไม่มีใครอยากลาจากโลกนี้ไปโดยทิ้งครอบครัวไว้เบื้ิองหลัง อินทรีย์ทำได้เพียงปล่อยให้ผู้หญิงและเด็กรวมถึงคนชราที่อยู่ที่นี่ได้ใช้ชีวิตที่เหลือของตัวเองต่อไป "ข้าจะถามพวกเอ็งว่าจะติดตามกลับไปที่หมู่บ้านของข้าหรือไม่ข้าจะดูแลทุกคนอย่างดีไม่ให้มาลักเล็กขโมยน้อย ปล้นฆ่าแบบนี้" อินทรีย์ถึงแม้จะดูโหดเหี้ยมอำมหิตแต่เขาก็ไม่เคยคิดจะทำร้ายผู้หญิงเพศแม่ "พวกข้าไม่มีอะไรที่พึ่งใบบุญได้แล้ว หากพ่อคุ้มอินทรีย์จะเมตตา พวกข้าก็ยินดีจะติดตามและจงรักภักดีกับพ่อคุ้มอินทรีย์จนกว่าชีวิตของพวกข้าจะลาจากโลกนี้ไป" ยายเฒ่าคนหนึ่งที่ดูเป็นคนที่น่าจะมีวุฒิภาวะและผู้คนน่าจะนับหน้าถือตาอยู่ไม่น้อย "หากยายเฒ่ามะเกลือว่าเช่นนั้นพวกฉันก็ว่าตามนั้นจ้ะ"ลูกเด็กเด็กแดงของเหล่าเสือโจรก็พากันน้อมรับที่จะติดตามอินทรีย์ตลอดชีวิต "พี่อินทรีย์มันจะดีหรือที่รับลูกเสือลูกจะเข้มาเลี้ยง สักวันหนึ่งมันอาจจะแว้งกัดพวกเราตอนที่มันโตขึ้นก็ได้นะพี่"ไอ้สนหันมาบอกอินทรีย์ "หากเป็นเช่นนั้นมันก็เป็นเวรกรรมของกูแล้วล่
ตัดภาพมาที่ปัจจุบันเมื่ออินทรีย์ร่ำลาอัญชันแล้วมาที่ลานอาวุธของเขาพร้อมกับเตรียมยุทโธปกรณ์ในการไปกำจัดพวกไอ้โจรปล้นควายให้สิ้นไป"ในวันนี้ กูไม่รู้ว่า กูจะพาพวกมึงไปตายหรือรอดกลับมาครบทุกคนหรือเปล่า""แต่กูอยากจะบอกพวกมึงว่า การในครั้งนี้เพื่อลูกหลานของเรา และครอบครัวของเรากูขอให้พวกมึงสู้อย่างสุดกำลัง..!"อินทรีย์พูดปลอบขวัญลูกสมุนทุกคนต่างส่งเสียงเฮลั่นอินทรีย์เตรียมไพร่พลไปนับห้าสิบคนในการทำศึกครั้งนี้ไม่ว่าจะออกมาแพ้หรือชนะนั่นหมายถึงความเป็นและความตายของหมู่บ้านแห่งนี้ใช้เวลาไม่นานจากเส้นทางลับที่อินทรีย์และทุกคนได้ล่วงรู้จึงได้ไปตั้งหลักที่นั่นเพื่อเตรียมถอนรากถอนโคนไอ้โจรปล้นควายถึงถิ่น"พวกมึงแบ่งกำลัง เป็นสองกอง กองแรกไปหลอกล่อพวกมันให้ออกมาจากหมู่บ้าน""กองที่สองไปอยู่บนหน้าผาสูงชันบริเวณที่มันเคยกลิ้งหินลงมาใส่พวกเราแล้วยิงธนูไฟใส่หลังคาบ้านของพวกมัน""กองที่สามลัดเลาะไปตามเส้นทางที่ไอ้สนได้แจกแจงให้พวกมึงเป็นทางลอบเข้าหมู่บ้านของพวกมัน""แล้วพวกมึงค่อยเข้าไปเผาบ้านเรือนของพวกมันทีละหลัง และฆ่าพวกมันอย่าให้เหลือหากเป็นผู้หญิงกับเด็กไว้ชีวิตมัน"อินทรีย์สั่งเสียงเข้มทุกคนจึ
หลังจากกลับมาอินทรีย์ก็ได้เค้นสอบถามเรื่องความจริงจากปากคนของตาเฒ่าเสือดำด้วยวิธีการที่โหดเหี้ยมด้วยการจับมันถอดเล็บทีละเล็บถอดฟันทีละซี่เมื่อไหร่ที่มันไม่พูดความจริงก็ถอดออกทีละข้างอ๊าค....!เสียงร้องโหยหวนของไอ้แคระและลูกน้องรวมถึงไอ้โกสุมผู้ที่คิดคดทรยศแม้กระทั่งคนที่ให้ข้าวให้น้ำโดนทรมานอยู่ด้านหลังลานฝึกอาวุธที่มีบ่องูพิษอยู่ด้านข้าง"มึงฆ่ากูซะเถอะถ้ากูรอดไปได้กูจะฆ่ามึงซะ"ไอ้โกสุมจากที่รักและเคารพกลายเป็นเครียดแค้นและโกรธเกลียดอินทรีย์เป็นเท่าตัว"ฮึ ฮึ ฮึ ฮ่า ฮ่า" เสียงแค้นหัวเราะอันเย็นยะเยือกของอินทรีย์ทำให้ทุกคนอยู่ตรงนั้นถึงกับขนรกเกลียวเพราะไม่เคยเห็นอินทรีย์ในเวอร์ชั่นดูโหดร้ายเป็นเท่าทวีคูณจากปกติมาก"ถ้าเป็นกูกูยอมตายว่ะ กูไม่ยอมให้พ่อคุ้มทรมานกูแบบนี้แน่"ไอ้บุญทองที่เห็นการทรมานก็รู้สึกว่าความตายมันดูหอมหวานกว่าการที่เป็นอยู่แน่นอน"มึงอยากจะลองดูไหมล่ะไอ้ห่าอย่าพูดไป"ไอ้สนหันไปตีปากไอ้บุญทอง"กูไม่อยากลองอ่ะ แค่กูได้ยินเสียงมันร้องกูก็จะตายแล้วโอ๊ยขนลุก..บรื้อ.."ไอ้บุญทองถึงกับใช้มือลูกต้นแขนตัวเอง"ต่อให้มึงอยากตาย..กูก็จะไม่ให้มึงตายคนอย่างมึงควรค่า แก่การทรมาน..ส่
ย้อนกลับไปวันที่อินทรีย์ได้บอกให้ไอ้โกสุมพาลูกสมุนนับสิบคนออกไปตรวจตราและแก้มือเพื่อเอาความดีมาลบล้างความผิดที่มันได้หักหลังรอบส่งศาลให้กับฝ่ายศัตรูตรงข้าม"พวกมึงรอกูอยู่ที่นี่ เดี๋ยวกูจะไปเดินดูนอกถ้ำสำรวจอีกทีว่าเราจะโจมตีพวกมันได้จากทางไหน"ไอ้โกสุมที่วางแผนจะออกไปส่งข่าวให้กับพวกโจรปล้นควายคนเดียวจึงสั่งให้ลูกน้องนับสิบรอภายในถ้ำและจะเปิดเผยที่อยู่ของลูกน้องรวมถึงทางรับเข้าออกที่มันได้ค้นพบ"พี่ให้ข้าไปเป็นเพื่อนดีกว่า หากพี่ไปคนเดียว ข้ากลัวจะเกิดอันตราย"ลูกสมุนคนนึงตะโกนขึ้นมาเพราะเป็นห่วงไอ้โกสุม"มึงต้องฟังคำสั่งกูไอ้ชัช ถ้ามึงไม่ฟังคำสั่งกูคนอื่นก็จะพาลเดือดร้อนไปด้วยมึงต้องดูแลทุกคนที่นี่จนกว่ากูจะกลับมาเข้าใจหรือไม่" ไอ้โกสุมทำแทรกเป็นห่วงทุกคน"ได้พี่ข้าขอให้พี่ปลอดภัยกลับมา"ไอ้ชัชได้กล่าวคำอวยพรให้กับไอ้โกสุม"ขอบใจมึงมากไอ้ชัชมึงเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของกู"ไอ้โกสุมที่ทำท่าซึ้งอกซึ้งใจทั้งที่เป็นการโกหกหลอกลวงผู้อื่นทั้งสิ้นผ่านไปไม่นานไอ้โกสุมเดินลัดเลาะออกจากถ้ำทางลับเพื่อจะไปส่งข่าวแก่ไอ้มอญที่อยู่ในชุมโจรและมันอยากไปดูลูกกับเมียให้เห็นกับตาว่าสบายดีหรือไม่ มันคิดแล
เมื่อความรักเริ่มเบ่งบานและสุกงอมทุกอย่างดูจะสวยงามและโรยไปด้วยกลีบกุหลาบโลกทั้งใบเปลี่ยนสีกลายเป็นสีชมพูระหว่างอินทรีย์และอัญชันที่ดูอบอุ่นไปด้วยมวลความรัก เหมือนผีเสื้อบินรายล้อมอยู่รอบตัว"พ่อคุ้มอินทรีย์จ๊ะอัญชันจะไปบ้านตาเขียวไปดูแลทำความสะอาดสักพักแล้วจะรีบกลับมา"บ้านของตาเขียวที่ทิ้งทรัพย์สมบัติไว้ให้หลานสาวอย่างอัญชันมากมาย อัญชันกลายเป็นทายาทโดยชอบธรรมเพียงคนเดียวของตาเขียวที่มีสิทธิ์ในทรัพย์สมบัติทั้งที่นาบ้านเรือนไทยและเงินสดอีกจำนวนหนึ่งทองแท่งอีกเป็นหีบ"ให้นางชมพู่ติดตามเอ็งไปด้วยนะอย่าไปไหนมาไหนคนเดียวแล้วเดี๋ยวข้ากลับจะไปลานฝึกอาวุธจะรีบตามเอ็งไป"อินทรีย์ที่รีบแต่งตัวเพื่อต้องไปทำภารกิจวางแผนที่จะปิดฉากล้างบางถอนรากถอนโคนพวกโจรปล้นควายที่อยู่ในหุบเขาฝั่งตรงข้ามกับช่องเขาแคบให้มันหมดสิ้นไปเสียที"ได้จ้ะพ่อคุ้ม พ่อไม่ต้องเป็นห่วงอัญชันดอกหนาอัญชันมีชมพู่ไปเป็นเพื่อนแล้วไหนจะบ่าวไพ่ที่เรือนของตาเขียวอีก ไม่มีใครกล้าทำอะไรอัญชันดอก" อัญชันแต่งกายด้วยเสื้อแขนยาวสีน้ำตาลปกปิดไปจนถึงต้นคอกระดุมเม็ดสุดท้ายนุ่งผ้าถุงสีน้ำตาลเรียบๆแต่กลับทำให้อัญชันดูสง่าผ่าเผย"เดี๋ยวข้าจะใ
การจูบที่เนิ่นนาน เหมือนกับกระชากวิญญาณของอัญชันให้หลุดลอยออกจากร่างแววตาระยิบระยับหยาดเยิ้มจ้องมองประสานกันหวานยิ่งกว่าน้ำผึ้ง อินทรีย์ถอนจูบออก แล้วกดจมูกโด่งลงไปบนซอกคอขวาขบเม้มเบา ๆ พอให้อัญชันรูสึกเจ็บแปล็บ ๆ เหมือนเป็นการลงโทษเด็กดื้อไปในตัว"พะ พ่อคุ้ม อย่ากัดนะจ๊ะ ฮืม อัญชันเจ็บ.!"อัญที่ถูกเอารัดเอาเปรียบเอาแต่ใจโดยคนตัวโตเพราะไม่พอใจในคำตอบที่เธอตอบ"ข้าไม่กัดหรอก แต่ข้าจะเปลี่ยนเป็นเลียหัวนมที่ตั้งแข็งชูชันจนทะลุกระโจมอกเอ็งแล้ว ฮืม เด็กดื้อ... "อินทรีย์เลื่อนจมูกมาถูไถกลางร่องอกอวบอิ่มที่นุ่มนิ่ม กลิ่นหอมอ่อน ๆ ยังเยาว์เชื้อเชิญเสียเหลือเกิน"พ่อ อย่านะ ฮืม ไม่เอาแบบนี้" อัญที่แผลเก่ายังไม่ทันจะหาย เหมือนจะโดนทำแผลให้ใหม่เสียแล้ว"เอ็ง อยากดื้อกับข้า ทำไม ฮึ ..! ดูซิว่านมเอ็งอร่อยไหม ขอข้าชิมอีกทีนะ เด็กดื้อ.."อินทรีย์ไม่พูดเปล่า กระชากกระโจมอกของอัญชันออก เผยให้เห็นเต้าอวบอิ่มใหญ่โต และยอดจุกปทุมสีชมพูหวาน ชูชันราวกับเชื้อเชิญให้เขาพุ่งเข้าหา อินทรีย์ใช้ปากหนาก้มลงไปดูดดึงราวกับเด็กหิวนม ไม่พอใจอินทรีย์ใช้สองมือหนา รวบสองเต้าให้มาอยู่ตรงกลางแล้วลงลิ้นที่จุกสีชมพูหวา