หน้าหลัก / โรแมนติก / ทวงรักแฟน(เก่า)คนโปรด / ตอนที่ 3 ม่านฟ้า.. เธอเป็นคนจริงจังแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่

แชร์

ตอนที่ 3 ม่านฟ้า.. เธอเป็นคนจริงจังแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่

ผู้เขียน: JAOTUNTEE
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-18 20:08:09

ตอนที่ 3

ม่านฟ้า.. เธอเป็นคนจริงจังแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่

คอนโด STAR2 ชั้น 27 ห้อง 2127

กระเป๋าใบหรูถูกโยนลงบนโซฟาในห้องอย่างไม่ได้สนใจราคาของมัน พร้อมทั้งถุงช็อปปิ้งมากมายถูกวางทิ้งไว้อย่างไม่ไยดี สองเท้าของฉันก้าวเดินตรงไปประตูหลังของคอนโดเพื่อจะเปิดผ้าม่านออกจนเห็นแสงสีของไฟไปทั่วทั้งเมืองที่เรืองรอง

“น่าเบื่อ!”

ฉันเปิดประตูกระจกออกมาด้านนอก สองเท้าเดินออกมารับลมด้านนอกสายตาทอดมองแสงสีของเมืองหลวงด้วยสายตาที่เรียบเฉย ถ้าถามว่าสวยไหมทุกที่ก็สวยอยู่ เพียงแต่มันก็มีดีแค่สวย ทุกอย่างดูวุ่นวายไปหมด

ติ๊ง! ติ๊ง!

ฉันหันหลังไปมองเสียงของข้อความจากมือถือ ก่อนจะเดินพาตัวเองกลับเข้าไปในห้องล้วงมือไปหยิบมันออกมาดูข้อความบนจอ

‘ว่าที่ลูกสะใภ้ของฉันสวยไหม’ ฉันจ้องมองที่หน้าจอเห็นเป็นภาพของผู้หญิงคนนั้นกำลังยิ้มหวานจนหน้าบานเป็นกระด้ง กับใบหน้าของผู้ชายอย่างเขาที่ดูมีความสุขราวกับได้เจอของถูกใจ

“หึ! มีความสุขเสียจริง!”

‘สวยค่ะ’

ฉันกดตอบไปแบบขอไปทีก่อนจะปิดหน้าจอแล้วโยนมือถือทิ้งไว้เตียง

ติ๊ง!

‘จำหน้าของว่าที่ลูกสะใภ้ฉันไว้ให้ดี แล้วทำหน้าที่ของเธอให้เรียบร้อยเก็บกวาดผู้หญิงคนอื่นให้เกลี้ยง นอกจากหนูน้ำตาลแล้วฉันไม่ยอมให้ผู้หญิงคนไหนเข้าใกล้ตาเธียรเด็ดขาด!’

ฉันใช้หางตามองหน้าจอมือถือด้วยความรู้สึกที่ค่อนข้างจะโมโหอยู่เล็กน้อย ก่อนจะเบะปากมองบนด้วยการไม่อ่านข้อความของคุณหญิงอมร

สองเท้าก้าวเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวขึ้นมาก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปจัดการธุระส่วนตัวเพื่อทำให้ร่างกายและความรู้สึกฟุ้งซ่านนั้นเบาบางลง ไม่รู้ว่าเพราะอะไรคุณหญิงอมรถึงต้องการให้ฉันมาเป็นเลขาของคุณปิติภัทร ทั้งที่ฉันมั่นใจว่าคุณหญิงอมรรับรู้มาตลอดว่าฉันและลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเขาพวกเราเคยคบหาดูใจกันมาก่อน 

“คิดแล้วก็น่าโมโหชะมัด!”

*///*

“ม่านฟ้า! ผมหิวข้าวสั่งข้าวให้หน่อย”

ฉันใช้หางตาหันไปมองผู้ชายที่ยื่นหน้าออกมาจากห้องประธานบริษัทด้วยความรู้สึกเรียบเฉย ก่อนจะหันกลับมาจ้องที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ของตัวเองอีกครั้ง อย่างไม่ได้สนใจอะไรเขาอีก

“คุณได้ยินที่ผมพูดไหมเนี่ย! ผมบอกว่าหิวข้าวสั่งข้าวให้ผมหน่อย”

“ได้ยินค่ะ แต่ตอนนี้เป็นเวลาเก้าโมงไม่ใช่เวลาทานอาหาร ต่อให้คุณเป็นประธานบริษัทคุณ ก็ควรจะทำตามกฎของบริษัท นี่ไม่ใช่เวลาทานอาหารนะคะ และไม่ใช่เวลาที่คุณไปประชุมงานเพราะฉะนั้นฉันจะสั่งให้คุณตอนเที่ยงอีกทีค่ะ”

“ม่านฟ้า! เธอจะเข้มงวดเกินไปแล้ว ก็ตอนนี้ฉันหิวถ้าฉันไม่ได้กินฉันต้องไม่มีแรงทำงานแน่ ๆ”

“เมื่อวานคุณก็ไปกินกับลูกสาวเจ้าสัวมาตั้งเยอะ ไม่อิ่มหรอคะ”

“หือ.. เธอแอบตามฉันไปหรอ”

น้ำเสียงของเขาแสดงออกถึงความทะเล้นในคำพูด รับรู้ได้เลยว่าผู้ชายด้านข้างกำลังเดินออกจากห้องทำงานมายืนซ้อนอยู่ที่ด้านหลังของฉัน

“หากคุณคิดจะรุ่มร่ามตรงนี้เกรงว่าจะไม่ดีนะคะ.. ถอยออกไปจากตรงนี้ด้วยค่ะ”

“เธอยังไม่ได้ตอบคำถามของฉันเลย.. เมื่อวานเธอแอบตามฉันไปหรอ”

“ไม่ได้มีความจำเป็นอะไรที่ฉันจะต้องตามคุณนะคะ.. คุณเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า”

“ถ้าอย่างนั้นเธอรู้ได้ยังไงว่าฉันกินเยอะ”

“คุณลืมไปแล้วหรอคะว่าฉันเป็นคนเตือนคุณเรื่องการไปทานอาหาร หรือคุณจะบอกว่าคุณไม่ได้กินอย่างนั้นหรอ”

ฉันหันหลังไปมองผู้ชายคนนี้ด้วยใบหน้าของคนที่เหนือกว่า ที่กำลังแสดงให้เขาเห็นว่าไม่ได้คิดอะไรหรือรู้สึกอะไรกับเขาทั้งนั้น

“ใช่! เมื่อวานฉันไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยสักคำนอกจากไวน์แดง 2 แก้วเท่านั้น ตื่นเช้ามาก็รีบมาทำงานเพราะโปรเจกต์ใหญ่กำลังเร่ง เหตุผลนี้ฉันควรได้รับอาหารในตอนเช้าหรือยัง”

ฉันไม่รู้เลยว่าความรู้สึกของฉันคืออะไร มันปะปนไปด้วยความดีใจเล็กน้อยอย่างที่ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน แต่พอนึกถึงภาพของผู้ชายที่ยิ้มหน้าบานเป็นกระด้งที่คุณหญิงส่งมาก็ต้องทำให้หุบยิ้มอีกครั้ง

“คุณจะกินอะไร”

“ข้าวเหนียวส้มตำ”

“แน่ใจนะคะ”

“แน่ใจ”

“ได้ค่ะ”

*///*

“ที่รัก.. ยูเดินลงมาเอาข้าวที่สั่งรอบที่สี่แล้วนะ ยังไม่ถูกปากท่านประธานอีกหรอ”

เสียงของอันวาดังขึ้นทางด้านหลังที่เห็นว่าฉันนั้นเดินลงมาที่ฟอนต์เป็นครั้งที่สี่ และจริงอย่างที่เธอถามนั่นแหละ เหมือนกับว่าฉันกำลังโดนประธานบริษัทอย่างเขากำลังกลั่นแกล้งอยู่เป็นแน่

บอกว่าอยากกินส้มตำไก่ย่าง ฉันก็สั่งจากร้านหรูในห้างดังที่เขาว่ากันอร่อยที่สุดมาให้ก็ไม่ถูกใจ อยากกินอาหารง่าย ๆ อย่างอาหารตามสั่ง ฉันก็เลือกร้านดังก็บอกว่าไม่อร่อย อยากกินง่าย ๆ ขอเป็นก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟทะเลต้มยำน้ำข้นฉันก็สั่งร้านที่ดีที่สุดแพงที่สุดให้เขาก็ยังไม่พอใจ พอถามว่าอยากได้แบบไหนก็ทำหน้ามุ่ยเป็นปลาทูแม่กลองไม่ยอมตอบ

“แล้วนี่ประธานอยากกินอะไรอีกละ” อันวาชะโงกหน้าไปมองด้านนอก เห็นไรเดอร์เดินถืออาหารมาถาดใหญ่ทำให้เธอหันมองหน้าฉันนิ่ง

“พิซซ่า?”

“พิซซ่ามาส่งครับ”

“ไม่ต้องทอนนะคะขอบคุณค่ะ” ฉันยื่นธนบัตรใบเทาให้กับไรเดอร์ก่อนจะเอื้อมมือรับถาดพิซซ่ามาไว้ในมือนิ่ง

“แล้วยูไม่รีบไปละ เดี๋ยวประธานก็โมโหหิวตายหรอก”

“ยังไม่หมด”

“ห๊ะ!”

ฉันหันไปยิ้มหวานกับเพื่อนสนิทที่ทำหน้างง ก่อนที่เธอจะทำตาโตเมื่อมองออกไปด้านนอก เห็นไรเดอร์ส่งอาหารอีกหกเจ็ดคนเดินถืออาหารต่อแถวเข้ามาในบริษัทด้วยท่าทางที่ประหม่าไม่น้อย

“เอาอาหารมาส่งครับ”

“วางด้านนั้นเลยค่ะ” ฉันเอ่ยกับพวกเขาก่อนจะยื่นธนบัตรสีม่วงให้พวกเขาคนละใบ รอจนไรเดอร์ออกจากบริษัทไปจนหมดอันวาวิ่งถลาเข้ามาดูของบนโต๊ะด้วยท่าทางไม่อยากเชื่อสายตา

“ยูทำอะไรเนี่ย! ประธานจะกินหมดนี่เลย?”

“ไม่กิน”

“อ่าว! แล้วยูซื้อมาทำไมเยอะขนาดนี้”

“ไม่กิน.. ฉันก็จะยัดปากให้กินให้หมด!”

พูดจบฉันก็ได้แต่พยักหน้าพร้อมส่งยิ้มหวาน ๆ ขอให้เพื่อนช่วยหิ้วอาหารทั้งหมดตามขึ้นไปด้านบน ยิ่งเมื่อนึกถึงใบหน้าของเขาแล้วยิ่งรู้สึกหงุดหงิด

“อันนั้นก็ไม่เอา! อันนี้ก็ไม่กิน! อันโน้นก็ไม่อร่อย! อันโน้นก็น้ำมันเยอะ! หึ่ย!! หงุดหงิด!”

ฉันบ่นอุบออกมาอย่างคนที่อัดอั้นทันทีที่เราทั้งสองเดินเข้ามาในลิฟต์ ปรายตามองอันวานิ่ง ๆ ก็เห็นว่าเพื่อนของฉันนั้นได้แต่ส่งยิ้มแห้ง ๆ มาให้

“ใจเย็น ๆ นะที่รัก”

“อือ.. เย็นอยู่”

“นี่เย็นแล้ว?”

“อือ.. เย็นแล้ว”

ติ๊ง!

พวกเราเดินหอบหิ้วถุงอาหารมากมายออกมาทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออก เดินมุ่งหน้าตรงไปยังห้องทำงานของท่านประธานปิติภัทรด้วยใบหน้าและอารมณ์ที่บูดบึ้ง ก่อนจะผลักประตูเข้าไปโดยที่ไม่ได้เคาะบอกกับคนด้านในแม้แต่น้อย ภาพที่เห็นเบื้องหน้าเป็นภาพของประธานหนุ่มสุดหล่อที่กำลังตักอาหารเข้าปากเคี้ยวตุ้ย ๆ ด้วยท่าทางต่างจากก่อนหน้านี้สิ้นเชิง

“ตกใจหมด! เดี๋ยวนี้เข้าห้องไม่เคาะประตูละหรอ”

เขาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงทะเล้นแสดงออกอย่างเห็นได้ชัดว่าเขานั้นกำลังกลั่นแกล้งฉันอย่างชัดเจน สายตาของฉันปาดมองไปยังอาหารที่เขาเพิ่งบอกว่าไม่อร่อยไม่กินที่แทบจะไม่มีชีวิตหลงเหลือในจาน

“ไหนบอกไม่อร่อยไม่กินไงคะ”

“ก็เธอทำงานช้า.. แล้วฉันก็หิวมาก”

“หิวมากเลยหรอคะ”

“ใช่! หิวมาก หิวมาก ๆ”

ฉันยืนมองเขาที่แสดงท่าทางน่าหมั่นไส้ด้วยความรู้สึกไม่พอใจที่อัดแน่นในอก ก่อนจะยกยิ้มขึ้นที่มุมปากฉันมั่นใจว่าเวลานี้ใบหน้าของฉันน่าจะเหมือนใบหน้าของปีศาจไม่น้อย

“เข้าใจแล้วค่ะ.. ถ้าอย่างนั้น~”

ฉันเอ่ยออกมานิ่ง ๆ ก่อนจะเดินนำถุงอาหารทั้งหมดวางกระแทกลงบนโต๊ะให้เขาด้วยเสียงที่ดังมาก

“ทานให้หมดนะคะ! จะได้ไม่หิว!”

พูดจบก็ลากแขนของอันวาออกมาจากห้องทำงานของประธานอย่างรวดเร็ว

“ยู! ประธานจะไม่หักเราเดือนเราใช่ปะ”

“ทำไมต้องหัก”

“ก็เราไปทำกิริยาแบบนี้กับเขา ที่รัก~ ไอไม่มีเงินจ่ายค่าห้องเลยนะเว้ย”

“ถ้าโดนหักจริงไอจะซื้อคอนโดให้ยูเลยอะ”

“ทำเป็นพูดไป ไอไม่ปฏิเสธนะ ฮ่า ๆ”

“ไม่โดนหักหรอก.. ยูกลับไปทำงานเถอะ ตอนบ่ายประธานมีประชุม”

“อือ.. ไว้เจอกัน”

ติ๊ง!

‘พวกเรากำลังจะบินกลับไทยแล้วนะครับ’

ฉันเปิดมือถืออ่านข้อความของผู้ชายคนหนึ่งด้วยใบหน้าที่ไม่สามารถหุบยิ้มได้เลยแม้แต่น้อย

‘ครับ.. รีบมานะ’

ฉันกดส่งข้อความตอบอย่างไม่ลังเล ก่อนจะเดินกลับมานั่งโต๊ะทำงานหน้าห้องของตัวเองโดยที่ใบหน้ายังไม่อาจหุบยิ้มได้ลง

“อุ๊ย! ตกใจหมด! ท่านประธานมายืนทำอะไรเงียบ ๆ คะ”

“คุยกับใครทำไมมีความสุขขนาดนั้น”

“นี่เรื่องส่วนตัวนะคะ.. ประธานไม่น่าจะมีเหตุผลที่เข้ามายุ่งเรื่องนี้”

“แต่นี่เวลาทำงาน”

“ก็ใช่ไงคะ.. ฉันกำลังจะนั่งทำงานนี่ไง”

“ม่านฟ้า! เธอหัดเถียงฉันขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่”

“ตั้งแต่ที่คุณปิติภัทรใช้ฉันซื้ออาหารสี่รอบ! น้ำสองรอบ! ด้วยเหตุผลไม่น่าฟังนั่นแหละค่ะ”

“เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่จะมาคิดเล็กคิดน้อยเรื่องพวกนี้นี่นา”

เขายกมือของตัวเองเกาหัวตัวเองเบา ๆ เป็นการแก้เขิน แต่นั่นไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกว่าจะน่ารักเลยแม้แต่น้อย

“มีอะไรอีกไหมคะ.. ไม่มีฉันจะได้ทำงาน”

ฉันยืนมองผู้ชายคนนี้ด้วยใบหน้าที่ราบเรียบ ก่อนจะเลิกคิ้วข้างหนึ่งขึ้นเป็นเชิงถามอีกครั้ง

“มี!”

“มีอะไรคะ”

“อยากกินกาแฟ”

“คุณนี่มัน!.. ได้ค่ะ รอ! ซัก! ครู่! นะ! คะ!”

ฉันสะบัดหน้าเดินออกมาเล็กน้อยก่อนจะหยุดเท้าแล้วหันหลังเพื่อที่จะเดินกลับไปยังโต๊ะทำงาน ก็เห็นว่าประธานปิติภัทรกำลังเดินเข้าไปเอื้อมมือกำลังจะหยิบมือถือของฉันอยู่ก่อนแล้ว

“พี่เธียร!”

ฉันรีบสาวเท้าวิ่งกลับไปคว้ามือถือของตัวเองออกจากมือเขาอย่างรีบร้อน ด้วยอารมณ์ที่ไม่พอใจเอามาก ๆ ก่อนจะยืนตรงจ้องหน้าเขาเขม็ง

“ทำอะไร! นี่มันของส่วนตัวของฉันคุณไม่มีสิทธิ์”

ฉันตะเบ็งเสียงใส่เขาอย่างคนที่หมดความอดทน เห็นใบหน้าที่แสดงออกถึงความตกใจและเหวอจนเหลอหลาของผู้ชายคนนี้อย่างเห็นได้ชัด

“ม่านฟ้า.. ทำไมต้องโมโหขนาดนี้ด้วย ผมแค่หยอกคุณเล่นเอง”

“คุณทำตัวให้มันน่าไว้ใจน่าเคารพหน่อยได้ไหมคะ คุณเป็นถึงประธานบริษัทดูแลลูกน้องเป็นร้อยคนยังมีอารมณ์มาเล่นเป็นเด็กแบบนี้หรอ.. อีกอย่างคุณจำไว้ให้ขึ้นใจ ฉันกับคุณเราไม่ได้เป็นอะไรกันไปมากกว่าเจ้านายลูกน้อง ฉันดูแลคุณในฐานะเจ้านาย คุณก็อย่าได้คืบจะเอาศอกให้มากนัก”

“อย่าคิดว่าการที่เราเคยรู้จักกันมาก่อนจะทำให้คุณอยากทำอะไรกับฉันก็ได้ ข้าวของของฉันคือสิทธิส่วนบุคคลของฉัน คุณไม่มีสิทธิ์มายุ่มย่ามวุ่นวายและอย่าลืมฐานะของตัวเอง ฉันไม่อยากมีปัญหาทีหลัง”

“ม่านฟ้า.. เธอเป็นคนจริงจังแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่”

“ก็ตั้งแต่ที่ได้รู้จักคุณนั่นแหละค่ะ”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทวงรักแฟน(เก่า)คนโปรด   ตอนที่ 42 ครอบครัว

    ตอนที่ 42ครอบครัวหลังจากเหตุการณ์ในวันนั้นผมก็รู้ว่าความจริงแล้วผมอาจจะไม่ได้เก่งอะไรเลย เพราะในทุก ๆ การเติบโตของผมนั้นจะคอยมีพี่ชายของตัวเองคอยช่วยเหลืออยู่ห่าง ๆ มาเสมอ ไอ้อัฐรู้มาตลอดว่าผมกับม่านฟ้าเป็นอะไรกันแต่มันกลับไม่เคยปริปากพูดกับพี่ชายของเธอเลยสักครั้งมันรู้มาตลอดว่าเรื่องราวของผมกับมันฟ้าเมื่อหกปีก่อนเกิดอะไรขึ้น แต่เพราะตอนนั้นมันไม่สามารถหาหลักฐานนั้นไว้ได้ ทำให้มันจำเป็นต้องปล่อยเบลอเรื่องในครั้งนั้นจนในวันที่ฟ้านั้นบินไปต่างประเทศมันพยายามถามธันวาหลายครั้งว่าเธอไปที่ไหน แต่สำหรับธันวาเองแล้วก็รักน้องสาวไม่แพ้กันจึงไม่เคยปริปากออกมาเลยสักครั้ง ไม่ว่าใครจะมาถามก็ตามตอนนี้บริษัทผมยังคงทรงตัว รวมทั้งบริษัทใหญ่ที่เคยถอนตัวไปนั้นเมื่อรู้ว่าบริษัทเอเมเจนจ์เป็นหุ้นส่วนกับบริษัทของผมก็ทำให้หลายบริษัทกลับเข้ามาเซ็นสัญญาอีกครั้ง “แล้ววันนี้มึงจะไปไหน” เพราะหลังจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นนี่ก็ผ่านมาเกือบอาทิตย์แล้วที่ผมต้องเทียวไปให้ปากคำ รวมถึงจัดการเรื่องราวในบริษัท และตัวไอ้อัฐเองหลังจากที่พวกเราเปิดอกคุยกันมันก็แทบจะยึดห้องผม อยู่กับผมที่คอนโดมาตลอดเจ็ดวันเช่นกัน“ไปหาเมีย”

  • ทวงรักแฟน(เก่า)คนโปรด   ตอนที่ 41 เปิดโปง

    ตอนที่ 41เปิดโปงผมเห็นว่าการ์ดหน้าห้องนั้นชะงักเล็กน้อยก่อนจะโน้มตัวไปกระซิบกระซาบอะไรกันสักอย่าง ก่อนจะยืนขึ้นเต็มความสูงหันมามองที่พวกเราอีกครั้งพร้อมทั้งพยักหน้าและพาพวกเรามาอีกทางก่อนจะเปิดประตูให้“เชิญครับ” และทันทีที่ประตูเปิดออกก็เห็นว่าตรงนี้เป็นประตูอีกฝั่งที่อยู่ไม่ไกลจากด้านหน้าเวทีมากนัก เราทั้งสี่คนเดินมาหยุดยืนอยู่หลังเวทีที่คุณหญิงอมร เจ้าสัว และข้างกันนั้นมีน้องน้ำตาลที่กำลังยืนร้องไห้บีบน้ำตาอยู่“งานร่วมมือกันของ2บริษัท ทำไมถึงมีแต่นักข่าวถามเรื่องของกู” ถึงแม้ว่าจะรู้อยู่เต็มอกว่าเรื่องนี้ไม่มีทางที่จะไม่เกิดประเด็น แต่ตั้งแต่ที่ผมยืนมาเกือบ 10 นาทีนั้น ยังไม่มีนักข่าวคนไหนถามเกี่ยวกับการร่วมมือของบริษัทเลยสักประโยค“มึงรอดูอะไรสนุก ๆ ได้เลย” สิ้นสุดคำพูดของไอ้อัฐผมเห็นว่ามีนักข่าวคนหนึ่งหันมามองที่พวกเราเล็กน้อย และเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ไอ้พีชให้สัญญาณ“คุณหญิงอมรครับผมมีคำถาม” และทันทีที่นักข่าวคนนั้นเอ่ยถามนักข่าวคนอื่น ๆ ก็เงียบเสียงลงทันทีราวกับปิดสวิตช์ ซึ่งมันแปลกมากสำหรับวงการนี้นั่นทำให้ผมรู้สึกว่าเรื่องนี้มีอะไรที่ไม่ชอบมาพากล“คุณหญิงอมรเป็นหัวหน้าสม

  • ทวงรักแฟน(เก่า)คนโปรด   ตอนที่ 40 เก็บกวาด

    ตอนที่ 40 เก็บกวาดผมมองหน้าของม่านฟ้าก่อนจะปรายตาไปมองที่เรียวนิ้วของเธอ ซึ่งปลายนิ้วของเธอชี้มายังเสื้อคลุมสีขาวของผมที่พาดอยู่ที่แขนผมชูเสื้อคลุมตัวนี้ขึ้นเป็นเชิงคำถามว่าเธอกำลังหมายถึงชิ้นนี้อย่างนั้นหรอ และก็เป็นม่านฟ้าที่พยักหน้ารัวเป็นคำตอบว่าเธอหมายถึงสิ่งนั้นจริง ๆถึงแม้ว่าผมจะไม่เข้าใจว่าเธอต้องการมันไปทำอะไรแต่ก็ยินดียื่นให้เธออย่างไม่คิดลังเล ก่อนจะเดินลงมาจากรถพร้อมกับปิดประตูให้ รถตู้คันนี้ก็แล่นออกไปจากหน้าโรงพยาบาลทันที“ไอ้ธันมึงไม่กลับไปกับน้องหรอ" หลังจากที่รถตู้คันนั้นออกไปสู่ถนนใหญ่พวกเราก็หันมามองหน้ากัน ซึ่งผมเองก็ไม่รู้ว่าทำไมทุกคนถึงยังอยู่ตรงนี้"มึงมีเรื่องที่ยังเล่าไม่หมดหรือเปล่าไอ้อัฐ" และทันทีที่ไม่มีม่านฟ้าผมก็รู้สึกได้เลยว่าบทสนทนามันเปลี่ยนไป"มี""เรื่องอะไร" ผมเอ่ยออกมาด้วยเสียงที่ค่อนข้างจะดังและฟังชัด เซนต์ของผมไม่น่าผิดพลาดเพราะว่าผมรู้สึกว่าเรื่องนี้ต้องเกี่ยวกับม่านฟ้าแน่นอน“คนที่จ้างวานมาขับรถชนม่านฟ้า” ได้ยินเพียงแค่นั้นผมก็รู้สึกได้เลยว่าตัวเองเลือดขึ้นหน้าขนาดไหน ผมอยากรู้เหลือเกินว่าคนที่คิดจะทำร้ายเธอต้องจิตใจอำมหิตขนาดไหน แต่ผมกลับไ

  • ทวงรักแฟน(เก่า)คนโปรด   ตอนที่ 39 ให้อภัย

    ตอนที่ 39ให้อภัยฉันหันขวับไปมองที่พี่อัฐนิ่ง ฉันมั่นใจว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ฝีมือของผู้หญิงที่จงใจทำลายสิ่งที่พี่เธียรสร้างขึ้นมาแน่ เพราะฉะนั้นเหลือเพียงเหตุผลเดียวที่บริษัทยักษ์ใหญ่จะยื่นมือเข้าช่วยเหลือบริษัทที่กำลังจะล้มละลาย“เข้าใจแล้ว.. เดี๋ยวม่านฟ้าจัดการบอกคุณปิติภัทรให้ค่ะ” ฉันเอ่ยออกมาเพียงแค่นั้นก่อนจะกดวางสายแล้วยื่นมือถือคืนให้กับเขา พี่เธียรหันมามองที่มือถือเล็กน้อยแต่กลับไม่ได้หยิบมันไป สายตาของเขาชำเลืองมองไปที่ส้มลูกหนึ่งที่เขากำลังปลอกมันยังสวยงาม“หนูเพิ่งฟื้นกินอะไรหน่อยไหม รู้สึกเป็นยังไงบ้าง”ถึงแม้ว่าจะรู้ว่าพี่เธียรนั้นตั้งใจที่จะง้อ และไอ้ความรู้สึกไม่รักดีของฉันในตอนนี้ก็พร้อมจะให้อภัยเขาซะด้วยสิ แต่การที่เราจะให้อภัยง่าย ๆ มันก็ไม่สนุกสิ ถูกไหม?“ไม่กิน” ฉันตอบออกไปแบบนั้นด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ แต่หารู้หรือไม่ว่าภายในท้องไส้ของฉันนั้นปั่นป่วนเหลือเกิน ความรู้สึกที่อยากกินจนน้ำลายสอ ความรู้สึกที่หอมอย่างที่ไม่เคยได้กลิ่นมาก่อนฉันใช้จมูกค่อยๆ สูดดมฟุดฟิดไปตามในห้องจนพบว่ากลิ่นที่หอมที่สุดและแรงที่สุดในตอนนี้มาจากตัวของพี่เธียร แล้วเหมือนว่าเขาเองก็จะเห็นอาการ

  • ทวงรักแฟน(เก่า)คนโปรด   ตอนที่ 38 เรื่องราวคลี่คลาย

    ตอนที่ 38เรื่องราวคลี่คลายผมหันไปตามเสียงที่ได้ยินเห็นว่าเป็นม่านฟ้าที่ลืมตามองพวกเราอยู่ก่อนแล้ว สองเท้าผมรีบปรี่เข้าไปหาเธอด้วยท่าทีของคนทั้งตื่นเต้นและดีใจ“หนูเป็นยังไงบ้าง” ผมทำได้เพียงแค่ยืนมองเธอมือไม้สั่นไม่กล้าแม้แต่จะจับ สังเกตได้ว่าเธอมองผมด้วยสายตาเรียบเฉย เย็นชา แต่ก็เป็นแค่เพียงแวบเดียวเท่านั้นเพราะเธอหันไปถามพี่ชายของผมอีกครั้ง“เรื่องที่พี่พูดมาเป็นเรื่องจริงหรอคะ”“เธอจะมัวมาสนใจเรื่องนี้ทำไม! เดี๋ยวพี่ไปตามหมอให้” สิ้นสุดเสียงของธันวาเขาก็เตรียมที่จะหันหลังออกไปตามพยาบาล แต่กลับเป็นเสียงของม่านฟ้าที่รั้งเขาเอาไว้“พี่ธันอย่าพึ่งไป หนูอยากฟังทั้งหมดให้จบ”“ทั้งหมด?” เป็นเสียงของพี่ชายของผมที่มันเอ่ยถามขึ้นพร้อมกับจ้องมองใบหน้าของเธอ“อือ.. ทั้งหมด เพราะว่าหนูก็ฟังเรื่องทั้งหมดนี้พร้อมกับพวกพี่ตั้งแต่แรก” เธอเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ก่อนจะเหลือบสายตามามองผมอีกครั้งสายตาของเธอที่จ้องมองมาไม่ได้แสดงออกว่าโกรธแค้น และก็ไม่ได้รู้สึกดีใจ ไม่ได้รู้สึกเสียใจ แต่เธอมองมาด้วยสายตาที่ว่างเปล่าราวกับว่าผมเป็นอากาศธาตุ“ถ้าอย่างนั้นพี่เล่าต่อนะ”“ค่ะ” ผมทำได้เพียงแค่มองหน้า

  • ทวงรักแฟน(เก่า)คนโปรด   ตอนที่ 37 เรื่องมีอยู่ว่า ที่ผ่านมาไม่ใช่เรื่องจริง

    ตอนที่ 37เรื่องมีอยู่ว่า ที่ผ่านมาไม่ใช่เรื่องจริงเราสองคนหันไปตามเสียงของผู้ที่มาทีหลัง และทันทีที่ผมเห็นหน้าของมันความรู้สึกหมั่นไส้ก็เกิดขึ้น“มึงมาทำไม” ผมหลงลืมไปชั่วขณะว่าความจริงแล้วไอ้อัฐมันเป็นเพื่อนของธันวา“ก็นี่น้องสาวเพื่อนกู.. กูจะมาเยี่ยมน้องสาวเพื่อนกูไม่ได้หรอ" มันก็ยังคงเป็นพี่ชายที่กวนตีนผมไม่เลิก และเพราะเกรงใจพ่อของเธอที่นั่งอยู่ทำให้ผมได้แต่เบือนหน้าหนี แต่จู่ ๆ ผมก็นึกถึงคำพูดของมันเมื่อครู่"ว่าแต่เมื่อกี้มึงพูดว่าอะไรนะ" เมื่อคิดได้ดังนั้นจึงหันไปมองหน้ามันอีกครั้ง รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดออกมาจากริมฝีปากของผู้ชายที่หน้าตาไม่เหมือนผมเลยสักนิด"กูบอกว่า! มึงไม่ได้เอาเข้า! แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเข้าไม่ได้! มึงได้ยินชัดหรือยังไอ้น้องเวร!” มันจงใจพูดเน้นเสียงทุกคำถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยชอบมันเท่าไหร่แต่ในเวลานี้ผมกลับรู้สึกเหมือนว่าผมพลาดอะไรไป“คืออะไร” ผมเอ่ยถามมาอีกครั้งแต่ครั้งนี้มันทำเพียงแค่ยกยิ้มส่งให้ด้วยใบหน้าของคนเหมือนดูหมิ่นดูแคลน แต่ก็เป็นแค่เพียงแวบเดียวเท่านั้น“ไอ้พีช! ของที่กูให้มึงเอามาอยู่ไหน” ทันทีที่ไอ้อัฐเอ่ยขึ้นเพื่อนสนิทของมันก็เดินเข้ามาหาพวกผมด้ว

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status