บทนำ
ฉินหรูอี้ นักอ่านนิยายตัวยงที่ต้องตายจากการนั่งกินบะหมี่สำเร็จรูปพร้อมกับอ่านนิยายอยู่ แต่ทว่าเธอไม่ได้ตื่นขึ้นมาอยู่ที่นรกหรือสวรรค์เธอกลับเข้ามาอยู่ในร่างของ เหยียนเสี่ยวหลิง นางร้ายในนิยายยุค1987 ที่มีนิสัยร้ายลึกหักหลังเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวอย่าง หลันเหย่ เพื่อแย่งพระเอกมาเป็นของตัวเอง แต่ทว่าเมื่อฉินหรูอี้มาอยู่ในร่างนี้เธอไม่อยากมีจุดจบที่ต้องเข้าคุกหลายข้อหา เธอจึงคิดว่าชีวิตในนิยายต่อจากนี้เธอจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับ ไป๋เทียนเฉิน พระเอกนิยายเพราะเธอมีระบบมิติที่ติดตัวมา เธอจะใช้ชีวิตที่ร่ำรวย ทว่าสวรรค์ดันเล่นตลกอีกครั้งต้องให้เธอเข้ามาพัวพันกับเขาอีกครั้งและตอนนี้เธอยังท้องลูกของเขาอีกด้วย ชีวิตของเธอจะเป็นอย่างไรต่อไปติดตามต่อได้ในนิยายเรื่องนี้
ตอนที่1 นางร้ายคือฉัน
มณฑลเติ่งหัว
ในห้องเช่าขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ในอพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่งตั้งอยู่ใจกลางมณฑลเวลาที่ทุกคนพากันตื่นแต่เช้าเพื่อออกทำมาหากิน ยุคทศวรรษที่กำลังเจริญขึ้นมากกว่าสมัยก่อน ภายในห้องพักที่มีชายหญิงตื่นขึ้นมาด้วยความมึนงงฝ่ายชายใบหน้าบึ้งตึงบ่งบอกให้เห็นถึงความไม่พอใจในสิ่งที่เกิดในค่ำคืนที่ผ่านมา ทว่าฝ่ายหญิงกลับนั่งอยู่บนเตียงร่างกายสั่นเทาก้มหน้าลงต่ำ
“เธออย่าคิดว่าการที่ฉันนอนกับเธอแล้วฉันจะรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขั้น อย่าคิดว่าฉันไม่รู้เรื่องมื้อคืนมันเป็นฝีมือของเธอรู้ไว้ซ่ะด้วยว่าฉันไม่หลงกลเชื่อผู้หญิงมารยาสาไถอย่างเธอหรอกนะ” ชายหนุ่มรูปงามที่นั่งหันหลังให้เธอพูดขึ้นพร้อมลุกขึ้นจากเตียงใช้มือเสยผมที่ปกปิดใบหน้าเอาไว้ เขาคือ ไป๋เทียนเฉิน ลูกชายคนเดียวของตระกูลไป๋ที่ร่ำรวยมีโรงงานและธุระกิจที่บ้านอีกหลายอย่าง เขาลุกขึ้นดึงเสื้อผ้ามาสวมใส่โดยไม่สนใจผู้หญิงที่เขาได้ร่วมสนุกในเมื่อคืนที่ผ่านมาแม้แต่น้อย
“ฮึ! คิดว่าฉันง้อนายหรือไงเมื่อคืนนี้ฉันคิดว่าให้ทานหมามันกินเท่านั้นแหละ คิดว่าตัวเองหล่อรวยแล้วจะพูดจาหมา ๆ แบบนี้กับใครก็ได้หรือไงคิดว่าตัวเองเป็นเทวดาหรือไงลีลาบนเตียงก็งั้น ๆ คิดว่าไม้เกาหลัง ทำฉันผล็อยหลับไปตั้งหลายครั้ง ต่อจากนี้อย่าให้ไปพบได้เจอกันอีกเลย ส่วนเรื่องที่ผ่านมาฉันก็ขอฝังให้มันเป็นฝันร้ายที่นี่ก็พอจะไม่เรียกร้องสักอย่างเลยด้วย " ร่างบางที่นั่งก้มหน้าคล้าย ๆ จะร้องไห้จู่ ๆ กลับเงยหน้าขึ้นปาดหยาดน้ำตาอย่างเร่งรีบไม่ให้มันไหลออกมา พลางลุกขึ้นต่อว่าเขาอย่างไม่สนใจเช่นเดียวกัน ทำให้เขาพึงพอใจแต่ก็ไม่วายที่จะแปลกใจปฏิกิริยาของเธอที่เปลี่ยนราวกับคนละคน
“ดีเหมือนกัน ฉันไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงไร้ยางอายอย่างเธอ ที่เอาตัวมาเสนอให้ฉันถึงที่และยังง่าย เมื่อครู่ที่เธอบอกว่าผล็อยหลับนะ มันใช่เรื่องจริงหรือ? ฉันจำได้ว่าเธอส่งเสียงร้องเร้าร้อนเสียงดังจนฉันต้องใช้มือปิดปากเธอเอาไว้เพื่อไม่ให้เธอส่งเสียงร้องครวญครางเสียงดังรบกวนคนอื่นเขา "
“เฮอะ! ที่ฉันทำแบบนั้นเพราะแค่แสดงให้รู้และทำให้เข้าใจว่าฉันรู้สึกดี แต่ที่จริงฉันแค่แกล้งส่งเสียงร้องทั้ง ๆ ที่ไม่รู้สึกอะไรด้วยซ้ำ ต่อจากนี้ฉันจะไม่ขอรู้จักคนอย่างนายอีก เดินผ่านก็ช่วยทำเป็นไม่รู้จักกันด้วย” ร่างบางใส่เสื้อผ้าเสร็จเดินเข้าไปกระซิบพร้อมแสยะยิ้มเหมือนตัวเองชนะก่อนจะรีบพยุงร่างที่เจ็บแทบจะเดินไม่ไหวออกไปจากห้องนี้โดยด่วนแค่นี้เธอก็อับอายมากพอแล้ว ไป๋เทียนเฉินยืนอึ้งพูดจาไม่ออกไม่คิดว่าตัวเองจะไร้น้ำยาและห่วยแตกเรื่องบนเตียงขนาดที่ผู้หญิงที่ตามตื้อเขามาตลอดจะพูดออกมาเช่นนี้
ส่วนเธอที่เดินเร่งฝีเท้าออกจากห้องรีบเดินลงมาชั้นล่างและนั่งหลบมุมด้านล่างของอพาร์ทเม้นท์เบิกตาโพลงโตใช้มือแตะลงที่หน้าอกที่มันเต้นตูมตามอีกทั้งใช้มืออีกข้างตบที่ใบหน้าตัวเองหลายครั้งต่อหลายครั้งจนเกิดความเจ็บ
“อะไรกันนี่ไม่ใช่ฝัน ฉันเจ็บจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นหน้าหรือว่าระหว่างขาที่ผ่านศึกใหญ่เมื่อคืนที่ผ่านมา เฮอะ! น่าตลกชะมัดฉันที่นั่งกินบะหมี่อยู่จะสำลักเส้นจนหายใจไม่ออกฉันคงตายแล้วสินะ ฮึ ฮึ ตายไม่แปลกแต่แปลกที่ฉันดันตายแล้วเข้ามาอยู่ในร่างของผู้หญิงคนนี้ที่ทำตัวไร้ค่าตามผู้ชายฝ่ายเดียวจนวางยาเขาเนี้ยะนะ!! ให้ตายเถอะให้ฉันทะลุมิติมาทั้งทีทำไมไม่ให้ฉันไปอยู่ในร่างคุณหนูบ้านรวยอย่างเพื่อนของเธอกันแต่กลับกันฉันดันเข้ามาอยู่ในร่างของนางร้ายที่อิจฉานางเอกนิยายจนวางแผนจับพระเอกและแกลังเป็นบีบน้ำตาให้เขามาเป็นของฉันเนี้ยะนะอีกอย่างนางเอกในเรื่องแสนดีกับนางร้ายอย่างเจ้าของร่างนี้ขนาดไหนทำไมถึงชั่วขนาดนี้ เอาล่ะในเมื่อฉันเข้ามาในอยู่ในร่างของเธอฉันจะเปลี่ยนแปลงบทชีวิตเธอเองให้เธอกลายเป็นเพื่อนนางเอกที่แสนดีและไม่แย่งพระเอกจากเธอแน่นอน " ฉินหรูอี้หญิงสาวที่พึ่งเรียนจบไม่นานกำลังนั่งอ่านนิยายระหว่างอ่านหนังสือนิยายใครจะคิดว่าเธอจะตายจากการกินบะหมี่อีกทั้งยังทะลุมิติมาอยู่ในร่างของนางร้ายตัวอิจฉาที่คอยเอาแต่อิจฉาริษยานางเอกเพราะเธอมาจากครอบครัวที่แตกแยกทำให้เธอเป็นเด็กที่มีปัญหา เมื่อมาพบกับนางเอกหรือมู่หรูเหยาลูกสาวเจ้าของโรงงานเย็บผ้าที่ใหญ่ที่สุดในมณฑลเติ่งหัว ยอมเป็นเพื่อนสนิทของเหยียนเสี่ยวหลิงที่บ้านยากจนและไม่มีเพื่อนคบจึงเกิดความสงสารทำให้ทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทกันมาตลอด 3 ปี โดยมู่หรูเหยาไม่รู้เลยว่าเหยียนเสี่ยวหลิงไม่ได้มองเธอเป็นเพื่อนแม้แต่น้อยแถมยังอิจฉาที่เธอได้รับความรักจากทุกคนอีกด้วย
ฉินหรูอี้หญิงสาวที่ชอบอ่านนิยายมากมายไม่ว่าจะเป็นยุคปัจจุบันหรือย้อนยุคใครจะคิดว่าปฏิหารย์จะเกิดขึ้นกับให้เธอทะลุมิติมาอยู่ในร่างตัวละครในนิยายยุค 80 แต่โชคดีที่เธออ่านนิยายเรื่องนี้จนจบมาหลายรอบรู้ทุกอย่างแม้กระทั่งนิสัยของเหยียนเสี่ยวหลิงเจ้าของร่างที่เธอมาอาศัยอยู่ จุดจบของเธอคือการเสียเพื่อนแถมยังโดนจับหลายข้อหาอีกด้วย
“เอาล่ะตอนนี้ฉันจะต้องกลับบ้านของเหยียนเสี่ยวหลิงเพื่อจัดการทุกอย่างและคิดปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีที่สุดและไม่คิดแย่งไป๋เทียนเฉินจากเพื่อนที่มีคนเดียวแน่นอน เหยียนเสี่ยวหลิงคนใหม่พร้อมที่จะเป็นเพื่อนที่ดีของนางเอกเอง” ฉินหรูอี้คิดในใจลุกขึ้นพยุงตัวเองเดินออกจากอพาร์ทเม้นท์ทันทีแม้เธอไม่ได้เข้ามาอยู่ในร่างตอนที่ทั้งสองร่วมรักกันแต่รู้ว่าของรักของหวงของไป๋เทียนเฉินน่าจะใหญ่น่าดูถึงทำให้เธอเสียวแปลบที่ท้องน้อยเวลาเดิน
ฝั่งด้านไป๋เทียนเฉินหลังจากที่เหยียนเสี่ยวหลิงเดินออกไปเขายังฉงนใจไม่น้อย เรื่องที่เกิดขึ้นที่ผ่านมาและคนเมื่อวานนี้เหมือนเป็นคนละคนกันอย่างเห็นได้ชัดแต่เขาก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างโล่งอกคิดว่าเธอจะบีบน้ำตาให้เขารับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้น
“แม้จะไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอทำก็เถอะ แต่เป็นแบบนี้มันก็ดีเหมือนกันเพราะหากให้ฉันรับผิดชอบฉันคงไม่มีทางรับผิดชอบเธอแน่นอน ผู้หญิงที่เข้าหาฉันอย่างกับคนไร้ค่าแถมยังเสนอตัวแบบนี้ช่างน่ารังเกียจจริง ๆ ที่เมื่อคืนฉันมีอารมณ์คงเป็นเพราะฤทธิ์ยาแน่นอน ฮึ..ร้ายกาจที่สุด” เทียนเฉินคิดในใจก่อนจะเดินออกจากห้องเช่นเดียวกัน
ตอนที่ 32 ความเจ็บปวดที่งดงามเสี่ยวหลิงลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เธอคิดว่าตัวเองจะตายไปแล้วเสียอีก ความเจ็บปวดของการเบ่งลูกเป็นการเจ็บปวดเจียนตายจริง ๆ แต่ทว่าเมื่อได้ยินเสียงร้องของลูกน้อย เธอแทบลืมความเจ็บปวดนั้นไปจนหมดสิ้น“ตื่นแล้วหรือ? เป็นอย่างไรบ้างเจ็บแผลมากหรือเปล่า” “แม่ไป๋มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ”“ฉันมาตั้งแต่เธอเข้าห้องคลอดแล้วล่ะ เหนื่อยมากสินะเธอหลับตั้งแต่คลอดลูกเสร็จและตื่นขึ้นในอีกวันเลย ฉันเฝ้าเธอทั้งคืนกลัวว่าเธอจะไม่ตื่นมาซ่ะแล้ว เกือบจะออกไปตามหมอมาตรวจดูเธอดีนะที่เธอตื่นขึ้นมาก่อน”“แล้วลูกละคะ เด็กเป็นอย่างไรบ้าง”“นี่ไงเล่าเจ้าตัวเล็ก ดีที่มีพยาบาลมาคอยช่วยดูและป้อนนมให้ไม่อย่างนั้นคงร้องทั้งคืน ส่วนเทียนเฉินเขาจะเฝ้าเธออยู่ที่นี่แต่ฉันไม่ไว้ใจกลัวจะดูแลกันไม่ดี แถมยังไม่เคยเลี้ยงเด็กอีกด้วยเลยให้กลับไปพักที่บ้านนะ นี่ก็คงจะเดินทางมาแล้วล่ะคงนอนไม่หลับทั้งคืนแน่ ๆ” แม่ไป๋อุ้มเด็กทารกตัวเล็กแต่เนื้อหนังเต็มไม้เต็มมือแถมยังมีแก้มที่ใหญ่จนแทบปิดจมูกหน้าตาน่าเกียจน่าชังมาวางไว้ที่แขนของเสี่ยวหลิงให้เธอได้กอดลูกสาว วินาทีนั้นน้ำตาของเธอไหลรินออกมาด้วยความตื้นตันเมื่อเห็น
ตอนที่ 31 หนีไม่พ้นกฎหมายเทียนเฉินเห็นมู่หวางฉีหลบเขารีบพาเสี่ยวหลิงมาหลบหลังรถเช่นเดียวกัน พวกพ้องของคุณพ่อก็รีบพากันหลบกระสุนกลัวจะโดนลูกหลง เสียงรถยนต์วิ่งเข้ามาจอดหน้าทุกคนพร้อมทหารหลายนายถืออาวุธมาเต็มมือไปหมด“ฉันคือนายพลเว่ยถิงชิง ผู้ที่มีอำนาจสูงสุดของเขตมณฑลเจียงซีและมณฑลเติ่งหัว วางอาวุธและยอมจำนนแต่โดยดีหากไม่อยากสูญเสียไปมากกว่านี้ ไม่ว่าจะหนีไปทางไหนก็ไม่สามารถหนีรอดไปได้ทหารของหน่วยเราล้อมรอบไว้หมดแล้ว” นายพลเว่ยเดินลงรถมาอย่างไม่เกรงกลัว เทียนเฉินเริ่มมีสีหน้าดีขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนของเขามาช่วยทันเวลาพอดี“ฮ่า ฮ่าคิดว่าใครที่แท้ก็นายพลเว่ยนี่เอง เรื่องที่เกิดขึ้นมันแค่เรื่องเข้าใจผิดและเป็นเรื่องเล็กน้อยไม่เห็นต้องให้ท่านนายพลมาที่นี่ด้วยตัวเองเลย”“เลิกพูดจาไร้สาระยังไม่รู้ตัวอีกหรือที่ฉันมาที่นี่เพราะอะไร อาวุธที่ถืออยู่เป็นอาวุธที่ไม่มีใครสามารถมีได้ง่าย ๆ มองจากสายตาแล้วไม่ใช่มีแค่อันเดียวลูกน้องด้านหลังก็ยังถืออาวุธสงครามครบมือ แบบนี้เรียกเล็กน้อยหรือ ? ตอนนี้ทางการมีหลักฐานที่คุณไปจับมือกับองค์กรมืด ฉันได้ดำเนินการจัดการตัดแขนตัดขาทุกเส้นทางแล้ว ยอมจำนนเสียเถอะอย่า
ตอนที่ 30 ช่วยเสี่ยวหลิงตอนนี้ทุกคนรู้ที่อยู่ของเสี่ยวหลิงผ่านซ่งเถา บอดี้การ์ดที่มีฝีมือต่างพากันเดินทางไปช่วยเหลือเสี่ยวหลิงไป๋ฟู่หนานสั่งให้คุณนายไป๋รออยู่ที่บ้านเผื่อว่านายพลเว่ยจะเข้ามาจะได้บอกเขาว่าเกิดอะไรขึ้นให้เขารีบตามไปช่วยอีกแรง ส่วนเขารีบไปหาเพื่อนที่ร้านบะหมี่ ความเป็นเพื่อนเมื่อเห็นเพื่อนเดือดร้อนขอความช่วยเหลือรีบสั่งให้ภรรยาปิดร้านเขากับพรรคพวกแก๊งมังกรบะหมี่ไฟพากันยกพวกไปช่วยเสี่ยวหลิงอีกแรงโกดังร้าง“นังเสี่ยวหลิงเป็นยังไงบ้างอดข้าวอดน้ำมาทั้งวันยังแรงดีอยู่มั้ย”“เมื่อครู่ผมเข้าไปดูเหมือนว่าตอนนี้จะดูอิดโรยหมดแรงไปแล้วครับ” “เอาน้ำไปสาดมันสิ เมื่อเช้ายังปากดีอยู่เลย”“ได้ครับท่าน” มู่หวางฉีเดินเข้ามาเห็นสภาพของเสี่ยวหลิงที่นั่งพิงเสาอยู่ริมฝีปากแห้งเหือดขาดน้ำ เขาเดินไปเอาเท้าเขี่ยเธอเพื่อเรียกให้เธอตื่น“นี่นังเสี่ยวหลิงอย่ามาสำออย อดน้ำอดข้าวยังไม่ถึงวันเลยจะมาตายง่าย ๆ อย่างนี้ได้ยังไง” แท้ที่จริงเสี่ยวหลิงไม่ได้อดอย่างที่มู่หวางฉีเข้าใจแต่เธอแค่แสร้งเท่านั้น มีมิติจะปล่อยให้ตัวเองอดอยากทำไมกัน เธอวางแผนที่จะหนีในคืนนี้ด้วยการนำยาสลบแบบควันโยนใส่ชายฉกรรจ์ที่เ
ตอนที่ 29 รู้ที่อยู่ของเสี่ยวหลิงร้านบะหมี่เก่า ๆ แต่มีคนเข้าตลอดทั้งวัน ขายดิบขายดีเพราะความอร่อย ไป่ฟู่หนานนั่งลงที่เก้าอี้หมางเฟยเดินออกมาต้อนรับเมื่อเห็นใบหน้าของสหายเก่าเขายิ้มกว้างพูดเสียงดังเดินเข้ามากอดด้วยความคิดถึง“โฮ๊ะ ๆ คิดว่าใครที่แท้ก็สหายเก่าของฉันนี่เอง สบายดีมั้ยเป็นยังไงมายังไงถึงได้มาที่นี่ได้”“ฉันสบายดีแต่ตอนนี้เริ่มไม่สบายแล้วที่มาวันนี้เพราะอยากขอความช่วยเหลือจากนายสักหน่อย”“นายต้องการให้พ่อค้าขายบะหมี่ช่วยเหลืออะไร นายมันร่ำรวยเป็นเจ้าของโรงงานใหญ่โตคงมิใช่มายืมเงินหรอกนะ ฮ่า ฮ่า” ตามประสาเพื่อนหมางเฟยพูดทีเล่นทีจริงแต่เมื่อเห็นสีหน้าเคร่งเคลียดของเพื่อนกลับหุบยิ้มทันทีและเรียกหาภรรยา“เว่ยเว่ยช่วยดูหน้าร้านให้ฉันสักครู่ก่อนนะ ส่วนนายตามเข้ามา” เนื้อเสียงเปลี่ยนไปเป็นนิ่งเรียบเดินนำหน้าไป๋ฟูหนานเข้าไปด้านใน"เรื่องอะไรที่ทำให้นายไม่สบายใจ"“ตอนนี้ลูกสะใภ้ของฉันถูกจับตัวไป ฉันไปแจ้งความก็เหมือนไม่ได้ช่วยอะไร ก่อนหน้านี้ครอบครัวของฉันีปัญหากับตระกูลมู่ นายรู้บ้างมั้ยว่าตระกูลมู่ติดต่อกับองค์กรมืดฉันอยากจะให้นายช่วยตามหาลูกสะใภ้ฉันที ตอนนี้เธอท้องแก่ใกล้คลอดฉัน
ตอนที่ 28 ค่อย ๆ ทรมานตึง ตึง ตึงเจี้ยวจ้าว ๆเสียงฝีเท้าคนมากมายเดินไปมาพร้อมกับเสียงพูดกันมากมาย ทำให้ร่างบางสะลึมสะลืมยกเปลือกตาที่หนักอึ้งกวาดสายตามองไปรอบ ๆ เธอจำได้ว่าตัวเองอยู่ในห้องน้ำกำลังจะเดินออกมาจากนั้นทุกอย่างดับวูบไปหมด ทว่าตอนนี้เธอกลับปวดเนื้อปวดตัวเหมือนระบมไปทั้งตัว‘อึดอัดจังเหมือนฉันโดนมัดยังไงอย่างนั้น’ เสี่ยวหลิงคิดในใจก่อนที่จะลืมตามองชัด ๆ เธอถูดมัดเอาไว้ติดเสาขนาดใหญ่ ในโกดังร้างที่มองไปทางไหนมีแต่ฝุ่นคละคลุ้มเต็มอากาศ ชายฉกรรจ์น่ากลัวมากมายหลายคนที่ยืนเฝ้าอยู่ล้อมรอบไปหมด“อะไรกันอย่าบอกนะว่าฉันถูกหลักพาตัว” เสี่ยวหลิงตระหนักได้ถึงเรื่องน่าเกลงกลัว ร่างเล็กสั่นสะท้านไปถึงด้านในหรือว่านี่จะเป็นจุดจบของเธอ ไม่ว่าเธอจะเปลี่ยนแปลงเนื้อหาในนิยายตอนจบยังไงเธอก็หนีไม่พ้นความตายอยู่ดี ใจของเธอเต้นแรงมากกว่าเดิม ความกลัวเริ่มโหมกระหน่ำเข้ามาภายในจิตใจ“ฟื้นแล้วสินะ ใบหน้าก็สวยไม่น่าเลือกที่จะขัดใจคุณหนูของเราเลย เสียดายเสียจริง” เสียงเข้มขรึมดังขึ้นเมื่อเห็นเสี่ยวหลิงลืมตาขึ้นมา“พวกแกเป็นใครจับฉันมาทำไมฉันไปทำอะไรให้ หรือว่านี่เป็นฝีมือของหรูเหยา”“ฉลาดดีนิแต่นี่ไ
ตอนที่ 27 ลักพาตัวบ้านตระกูลไป๋เช้าวันนี้อากาศแจ่มใสระหว่างสองวันที่ผ่านมาเสี่ยวหลิงอยู่กับครอบครัวของเทียนเฉินได้รับการเอาอกเอาใจ การเคลื่อนไหวของฝั่งนั้นก็เงียบสงบ จนวันนี้คุณนายไป๋ชักชวนเสี่ยวหลิงออกไปห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อเตรียมของใช้เด็กอ่อนเข้าบ้าน“เสี่ยวหลิววันนี้เราออกไปข้างนอกกันมั้ย? ฉันคิดว่าเราควรซื้อของเตรียมเอาไว้ได้แล้ว ยังไม่มีของใช้เด็กอ่อนเลยหากไม่เตรียมไว้เกิดจู่ ๆ คลอดคืนนี้จะทำยังไง”“ไม่ได้ฉันไม่ให้ออกไปยิ่งตอนนี้เทียนเฉินไม่อยู่ด้วย ความปลอดภัยของทุกคนสำคัญมากกว่าเอาไว้เทียนเฉินกลับมาค่อยออกไป” ไป๋ฟู่หนานพูดขึ้นทันควันไม่อยากให้ทั้งสองออกไปข้างนอกเพราะเป็นห่วง“กลางวันแซก ๆ ไม่มีใครเขาลงมือกันหรอกนะ อีกอย่างเราไม่ได้ออกไปสองคนสักหน่อยยังมีบอดี้การ์ดตั้งหลายคนคอยตามประกบหน้าประกบหลัง หรือไม่อย่างนั้นคุณก็ออกไปด้วยกันสิ” คุณนายไป๋ยังไม่ยอมดึงดันที่จะไปข้างนอก จนพ่อของเทียนเฉินใจอ่อน“เอาย่างนั้นก็ได้ แต่ห้ามทั้งสองเดินเพ่นพ่านให้เดินจับกลุ่มกันไว้ เพิ่มบอดี้การ์ดสิบคนกำลังดี”“ดีเลย หนูเสี่ยวหลิงอยากได้อะไรหยิบได้เต็มที่เลยนะอะไรที่เป็นของใช้หลานฉันจะจ่ายเอง”