แชร์

ตอนที่2 ระบบมิติ

ผู้เขียน: วริษา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-06 21:34:15

ตอนที่2 ระบบมิติ

        หลังจากที่ฉินหรูอี้มาถึงบ้านหลังเล็กที่เธอเช่าอยู่เธอกวาดสายตาจ้องมองไปจนทั่วห้องทุกอย่างช่างสกปรกและไม่เป็นระเบียบนี่หรือชีวิตนางร้ายในนิยาย

“อะไรกันทำไมบ้านถึงได้รกเหมือนรังหนูแบบนี้ก็รู้อยู่หรอกว่าเหยียนเสี่ยวหลิงเป็นคนขี้เกียจรักความสบายแต่ไม่คิดเลยว่าจะขนาดนี้ สวรรค์ทำไมไม่ส่งฉันเป็นนางเอกกันให้ตายสิ” ฉินหรูอี้บ่นพึมพำเดินทอดน่องไปที่เตียงนอนก่อนจะโน้มตัวลงไปนอนฟุบบนเตียงอย่างเหนื่อยล้า จ้องมองเพดานสีขาวไข่ก่อนจะผล็อยหลับไปเพราะร่างกายพึ่งจะผ่านศึกหนักมา

เวลาผ่านไปพักใหญ่ร่างเล็กดิ้นไปมายกเปลือกตาที่หนักอึ้งค่อย ๆ ลืมขึ้นมาอย่างช้า ๆ

“คิดว่าฝันไปคงจะเป็นความจริงสินะ เอาล่ะฉินหรูอี้ต่อจากนี้เธอต้องใช้ชีวิตเป็นเหยียนเสี่ยวหลิงก่อนอื่นจะต้องหาอะไรกินก่อนแล้วค่อยทำความสะอาดบ้านหลังนี้ให้น่าอยู่กัน” เพราะกองทัพต้องเดินด้วยท้องฉินหรูอี้ลุกขึ้นเดินเข้าครัวหาทำอะไรง่าย ๆ กินต่อจากนั้นเธอได้จัดการเก็บกวาดบ้านที่รกสกปรกจนน่าอยู่ ดวง        ตะวันเริ่มคล้อยต่ำบ่งบอกว่าตอนนี้ถึงช่วงบ่ายแล้ว ร่างบางจัดการอาบน้ำแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าชุดใหม่จ้องมองร่างกายที่มีร่องรอยของไป๋เทียนเฉินทิ้งค้างเอาไว้ เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมาอีกครั้ง

“ผู้ชายไม่ได้มีคนเดียวเสียหน่อย ฉันจะไม่ยอมให้เป็นเหมือนเนื้อเรื่องในนิยายหรอกนะ อุ้ย! ทำไมฉันพึ่งนึกได้แล้วอย่างนี้ฉันจะทำยังไงดี” ฉินหรูอี้คิดขึ้นมาได้ว่าตอนนี้เธอเป็นพนักงานที่โรงงานของตระกูลไป๋เทียนเฉินหลังจากที่เรียนจบ เมื่อวานนี้เป็นการฉลองของโรงงานทำให้เธอได้มีโอกาสใกล้ชิดและวางยาเขา ฉินหรูอี้ใช้มือกุมขมับอย่างคิดไม่ตก จู่ ๆ แสงสว่างได้ส่องแสงอยู่ตรงหน้าเสียงปริศนาดังขึ้นแม้ไม่มีคนสักคนนอกจากตัวของฉินหรูอี้

‘สวัสดีฉันคือระบบมิติ ยินดีต้อนรับฉินหรูอี้เธอคือผู้โชคดีที่ถูกเลือกให้ใช้มิติของระบบได้ตามที่ต้องการ’ น้ำเสียงเจี้ยวจ้าวดังขึ้นฉินหรูอี้มองซ้ายมองขวาด้วยความตื่นตระหนกและหวาดกลัว

“ใครนะ!! เสียงใครมาอยู่ในห้องของฉันได้ไงออกมานะ หรือว่าจะเป็นผี”

“ฮึ ฮึ เธอไม่ต้องกลัวฉันไม่ใช่ผี บอกไปแล้วไงฉันคือระบบมิติที่จะมาช่วยเธอในการใช้ชีวิตในยุคทศวรรษ 1980 เธอไม่ใช่คนยุคนี้และเธอมาอาศัยอยู่ในร่างที่ไม่มีศีลธรรมความดี มีแต่ความอิจฉาริษยาต่อจากนี้หากเธออยากเป็นคนดีและมีงานการที่ดีฉันจะช่วยเหลือเธอเอง "ฉินหรูอี้เริ่มคิดตามคำพูดของระบบ ไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้จักว่าระบบคืออะไรแต่ที่เธอยังลังเลเพราะไม่คิดเลยว่าเธอจะได้ทะลุมิติมาอยู่ในนิยายแถมยังมีมิติอีกด้วย ในเมื่อเป็นอย่างนี้เรื่องที่เธอกังวลอยู่ก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเธออีกต่อไป

“แล้วฉันจะใช้อะไรในมิติก็ได้ใช้มั้ย? มีข้อห้ามหรือข้อเสียอะไรหรือเปล่า "

“ข้อห้ามไม่มีไม่ว่าเธอต้องการอะไรสามารถใช้ได้ทั้งนั้นแต่มีข้อแม้เรื่องเดียวหลังจากที่ชีวิตของเธอในร่างของเหยียนเสี่ยวหลิงมั่นคงฉันและระบบจะหายไปทันที”

‘มีอย่างนี้ก็ดีนะสิ เมื่อไหร่ที่ฉันมั่งคงเป็นคนรวยสินะ ฮ่า ฮ่า อย่างนี้ฉันจะมาทำให้ตัวเองเป็นเศรษฐีเองและไม่ต้องไปยุ่งวุ่นวายเสนอตัวให้ใครอีก เนื้อเรื่องในนิยายก็จะเปลี่ยนไปฉันจะได้เป็นเพื่อนที่ดีของนางเอกไม่เสียเพื่อนแถมยังร่ำรวย ดี ดี” ฉินหรูอี้คิดในใจก่อนจะตกลงเรื่องการใช้มิติ

“ตกลงฉันจะใช้ระบบมิติของเธอ ว่าแต่เธอชื่ออะไรแล้วคนอื่นที่อยู่ในยุคนี้จะเห็นเธอมั้ย”

“ฉันไม่มีตัวตนไม่มีชื่อและไม่มีใครเห็นและได้ยินเสียงฉันได้นอกจากเธอ ขอให้เธอมีความสุขในระบบที่ฉันมอบให้หวังว่าเธอจะใช้มันเป็นประโยชน์ที่สุด เมื่อไหร่ที่เธอต้องการใช้เพียงนึกถึงทุกอย่างจะมาอยู่ต่อหน้าเธอทันที " ฉินหรูอี้ยิ้มกริ่มอย่างพึงพอใจเมื่อได้ยินเสียงระบบดังขึ้น หลังจากนี้เธอทำความเข้าใจทุกอย่างลองนึกถึงสิ่งของที่อยู่ในยุคปัจจุบันก็ปรากฏมาอยู่ต่อหน้าเธออย่างมหัสจรรย์ ฉินหรูอี้เริ่มคิดการใช้ชีวิตต่อจากนี้อย่างตื่นเต้นไม่ว่าจะทำอะไรไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปหรือแม้เธอจะไม่ทำอะไรก็คงมีกินตลอดชีวิต ทว่ามิตินั้นอยู่กับเธอไม่มั่นคงเธอจึงคิดหาหนทางทำกิจการของตัวเอง

ดวงตะวันเริ่มมืดสลัวแสงสว่างของดวงไฟเริ่มแทนที่แสงดวงตะวัน ร่างเล็กเพลิดเพลินกับการใช้มิติจนกระทั่งเสียงเคาะประตูดังขึ้น ทำให้เธอหยุดที่จะนึกถึงสิ่งอำนวยความสะดวกในปัจจุบัน

          ก๊อก ๆ ฉินหรูอี้เดินไปเปิดประตูเพื่อดูคนที่มาเยือน ทันทีที่ประตูเปิดออกไปเธอจ้องมองคนมาเยือนตั้งแต่หัวจรดเท้าก็จำได้ทันทีว่านี่คือเพื่อนสนิทหรือว่านางเอกในนิยายเรื่องนี้ไม่ว่าจะเป็นใบหน้าที่เล็กเรียวจมูกเข้ากับรูปปากผิวขาวนวลใสราวกับก้อนเมฆทุกคำที่บรรยายออกมาจากตัวหนังสือตอนนี้ได้ยืนอยู่ต่อหน้าเธอแล้ว

“เหยียนเสี่ยวหลิงทำไมเธอไม่เปิดประตูสักที วันนี้ทั้งวันเธอไม่ติดต่อโทรเลขหาฉันเลยมีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า ฉันได้ยินมาว่าเธอไปร่วมงานเลี้ยงฉลองโรงงานเทียนเฉินมาเธอเห็นเขามั้ย?” ปากกระจับเอ่ยถามเธอไม่หยุดด้วยท่าทางที่ตื่นเต้นถามถึงชายที่เธอชื่นชอบ ฉินหรูอี้ที่อยู่ในร่างของเหยียนเสี่ยวหลิงยิ้มเจือน ๆ ก่อนจะดึงแขนของเพื่อนเข้ามาในห้องก่อน

“เข้ามาข้างในก่อนสิ เดี๋ยวฉันจะเล่าให้ฟัง” ทันทีที่เธอเดินเข้ามาสายตาของมู่หรูเหยาจ้องมองไปทั่วห้องทำให้เธอคิ้วขมวดเข้าหากันอย่างสงสัยก่อนจะใช้มือแตะลงที่หน้าผากของเหยียนเสี่ยวหลิง จนเธอต้องผงะด้วยความตกใจ

“ทะ ..ทำอะไร”

“ฉันแค่สงสัยทำไมห้องเธอถึงได้ดูเป็นระเบียบแบบนี้ ตั้งแต่รู้จักกันมาฉันไม่เคยเห็นห้องเธอเป็นแบบนี้มาก่อน เอ๊ะว่าแต่นั้นอะไรกัน ...เธอมีเงินซื้อของพวกนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่” มู่หรูเหยามองไปที่ของใช้มากมายรวมถึงครีมบำรุงหน้าน้ำหอมของใช้รวมทั้งกระเป๋ามากมายที่อยู่บนที่นอน ฉินหรูอี้ตกใจชั่วครู่เพราะเธอลืมเก็บของหลังจากที่นำออกมาจากมิติ รีบคิดหาข้ออ้างโกหกมู่หรูเหยาทันที

“เอ่อ..ของพวกนี้ฉันได้มาจากงานเลี้ยงนะ พอดีมีกิจกรรมจับรางวัลผู้โชคดีและฉันก็เป็นคนที่โชคดี ของพวกนี้เป็นของรางวัลว่าแต่เมื่อครู่เธอถามถึงไป๋เทียนเฉินใช่มั้ย? ฉันจะเล่าให้ฟังมื้อคืนนี้เขาโดดเด่นที่สุดในงานเลยทุกสายตาต้องจ้องมองไปที่เขา ฉันละอยากให้เธอเห็นจริง ๆ ว่าเขาหล่อเหลาขนาดไหนไม่วง่าชายใดในมณฑลก็ไม่สามารถเทียบได้ " ฉินหรูอี้ดันหลังของมู่หรูเหยาไปที่โซฟาเพื่อเปลี่ยนเรื่อง แต่ทว่าสายตาของมู่หรูเหยายังคงมองไปที่สิ่งของอย่างสงสัย มีช่วงหนึ่งที่ฉินหรูอี้เหลือบไปเป็นสายตาแปลก ๆ ของมู่หรูเหยาแต่คงเป็นเพราะเธอตาฝาดไปเองเลยไม่ได้คิดอะไร รีบเล่าเรื่องของไป๋เทียนเฉินให้มู่หรูเหยาฟัง จนกระทั่งตอนนี้เวาล่วงเลยมาถึงสามทุ่มมู่หรูเหยาเลยขอตัวกลับ

“ฉันดีใจนะที่เธอเล่าทุกอย่างให้ฉันฟัง แต่อีกไม่นานฉันกับเทียนเฉินจะได้หมั้นหมายกันเมื่อนั้นเธอไม่ต้องคอยรายงานเรื่องของเขาแล้วล่ะ จริงสิฉันคิดว่ากระเป๋าใบนี้ฉันเบื่อแล้วเธอเองก็ไม่ค่อยมีกระเป๋าใช้เอาของเก่าฉันไปสิ ถือว่าเป็นของตอบแทนที่เธอเล่าเรื่องของเทียนเฉินให้ฉันฟัง ไม่ต้องเกรงใจนะเพราะที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้ากระเป๋ารองเท้าเธอก็ใช้ของเก่าฉันทั้งนั้น เธอคงไม่รังเกียจใช่มั้ยเพราะฉันใช้มันไม่กี่ครั้งเอง”

ฉินหรูอี้เอะใจในคำพูดของมู่หรูเหยาเล็กน้อยแต่ก็ไม่อยากจะพูดอะไรคงเป็นความใจดีมีเมตตาของนางเอกนิยายอย่างมู่หรูเหยาเลยมีน้ำใจนึกถึงเหยียนเสี่ยวหลิงเลยเอาของที่เธอเบื่อมาให้ใช้จึงรับเอาไว้

"ขอบใจนะที่เธอคิดถึงฉันเสมอ เธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดและเป็นเพื่อนคนเดียวที่ยอมคบกับฉันเธอเป็นคนดีจริง ๆ "

"เพราะฉันเป็นเพื่อนคนเดียวของเธอ ถึงได้ใจดียอมแบ่งปันทุกอย่างให้เธอต่อจากนี้อยากได้อะไรบอกฉันนะ ดูแลตัวเองให้ดีฉันไปล่ะ เธอต้องพักผ่อนเพราะทำงานหนักต่างจากฉันหลังจากเรียนจบก็อยู่แต่บ้านเพราะคุณพ่อคุณแม่ไม่ยอมให้ลูกสาวคนเดียวอย่างฉันทำงานเลย ฉันไปจริง ๆ แล้วนะ" ฉินหรูอี้คิ้วขมวดเข้าหากันอย่างงงงวยแต่ก็โบกมือลามู่หรูเหยาที่ลุกขึ้นเดินออกจากห้องเธอไป

'แปลกจริง ๆ ในนิยายไม่เห็นมีบทพูดนี่เลยหรือว่าเพราะฉันเปลี่ยนแปลงบทนิยายเลยมีเนื้อหาที่เปลี่ยนไปสินะ คงไม่มีอะไรหรอกฉันคงคิดมากไปเอง' เธอคิดในใจเดินไปส่งมู่หรูเหยาหน้าประตูจ้องมองจนเธอจากไปพร้อมเดินกลับเข้ามาที่ห้องของตัวเอง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างของนางร้ายยุค 80   ตอนที่ 32 ความเจ็บปวดที่งดงาม(ตอนจบ)

    ตอนที่ 32 ความเจ็บปวดที่งดงามเสี่ยวหลิงลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เธอคิดว่าตัวเองจะตายไปแล้วเสียอีก ความเจ็บปวดของการเบ่งลูกเป็นการเจ็บปวดเจียนตายจริง ๆ แต่ทว่าเมื่อได้ยินเสียงร้องของลูกน้อย เธอแทบลืมความเจ็บปวดนั้นไปจนหมดสิ้น“ตื่นแล้วหรือ? เป็นอย่างไรบ้างเจ็บแผลมากหรือเปล่า” “แม่ไป๋มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ”“ฉันมาตั้งแต่เธอเข้าห้องคลอดแล้วล่ะ เหนื่อยมากสินะเธอหลับตั้งแต่คลอดลูกเสร็จและตื่นขึ้นในอีกวันเลย ฉันเฝ้าเธอทั้งคืนกลัวว่าเธอจะไม่ตื่นมาซ่ะแล้ว เกือบจะออกไปตามหมอมาตรวจดูเธอดีนะที่เธอตื่นขึ้นมาก่อน”“แล้วลูกละคะ เด็กเป็นอย่างไรบ้าง”“นี่ไงเล่าเจ้าตัวเล็ก ดีที่มีพยาบาลมาคอยช่วยดูและป้อนนมให้ไม่อย่างนั้นคงร้องทั้งคืน ส่วนเทียนเฉินเขาจะเฝ้าเธออยู่ที่นี่แต่ฉันไม่ไว้ใจกลัวจะดูแลกันไม่ดี แถมยังไม่เคยเลี้ยงเด็กอีกด้วยเลยให้กลับไปพักที่บ้านนะ นี่ก็คงจะเดินทางมาแล้วล่ะคงนอนไม่หลับทั้งคืนแน่ ๆ” แม่ไป๋อุ้มเด็กทารกตัวเล็กแต่เนื้อหนังเต็มไม้เต็มมือแถมยังมีแก้มที่ใหญ่จนแทบปิดจมูกหน้าตาน่าเกียจน่าชังมาวางไว้ที่แขนของเสี่ยวหลิงให้เธอได้กอดลูกสาว วินาทีนั้นน้ำตาของเธอไหลรินออกมาด้วยความตื้นตันเมื่อเห็น

  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างของนางร้ายยุค 80   ตอนที่ 31 หนีไม่พ้นกฎหมาย

    ตอนที่ 31 หนีไม่พ้นกฎหมายเทียนเฉินเห็นมู่หวางฉีหลบเขารีบพาเสี่ยวหลิงมาหลบหลังรถเช่นเดียวกัน พวกพ้องของคุณพ่อก็รีบพากันหลบกระสุนกลัวจะโดนลูกหลง เสียงรถยนต์วิ่งเข้ามาจอดหน้าทุกคนพร้อมทหารหลายนายถืออาวุธมาเต็มมือไปหมด“ฉันคือนายพลเว่ยถิงชิง ผู้ที่มีอำนาจสูงสุดของเขตมณฑลเจียงซีและมณฑลเติ่งหัว วางอาวุธและยอมจำนนแต่โดยดีหากไม่อยากสูญเสียไปมากกว่านี้ ไม่ว่าจะหนีไปทางไหนก็ไม่สามารถหนีรอดไปได้ทหารของหน่วยเราล้อมรอบไว้หมดแล้ว” นายพลเว่ยเดินลงรถมาอย่างไม่เกรงกลัว เทียนเฉินเริ่มมีสีหน้าดีขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนของเขามาช่วยทันเวลาพอดี“ฮ่า ฮ่าคิดว่าใครที่แท้ก็นายพลเว่ยนี่เอง เรื่องที่เกิดขึ้นมันแค่เรื่องเข้าใจผิดและเป็นเรื่องเล็กน้อยไม่เห็นต้องให้ท่านนายพลมาที่นี่ด้วยตัวเองเลย”“เลิกพูดจาไร้สาระยังไม่รู้ตัวอีกหรือที่ฉันมาที่นี่เพราะอะไร อาวุธที่ถืออยู่เป็นอาวุธที่ไม่มีใครสามารถมีได้ง่าย ๆ มองจากสายตาแล้วไม่ใช่มีแค่อันเดียวลูกน้องด้านหลังก็ยังถืออาวุธสงครามครบมือ แบบนี้เรียกเล็กน้อยหรือ ? ตอนนี้ทางการมีหลักฐานที่คุณไปจับมือกับองค์กรมืด ฉันได้ดำเนินการจัดการตัดแขนตัดขาทุกเส้นทางแล้ว ยอมจำนนเสียเถอะอย่า

  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างของนางร้ายยุค 80   ตอนที่ 30 ช่วยเสี่ยวหลิง

    ตอนที่ 30 ช่วยเสี่ยวหลิงตอนนี้ทุกคนรู้ที่อยู่ของเสี่ยวหลิงผ่านซ่งเถา บอดี้การ์ดที่มีฝีมือต่างพากันเดินทางไปช่วยเหลือเสี่ยวหลิงไป๋ฟู่หนานสั่งให้คุณนายไป๋รออยู่ที่บ้านเผื่อว่านายพลเว่ยจะเข้ามาจะได้บอกเขาว่าเกิดอะไรขึ้นให้เขารีบตามไปช่วยอีกแรง ส่วนเขารีบไปหาเพื่อนที่ร้านบะหมี่ ความเป็นเพื่อนเมื่อเห็นเพื่อนเดือดร้อนขอความช่วยเหลือรีบสั่งให้ภรรยาปิดร้านเขากับพรรคพวกแก๊งมังกรบะหมี่ไฟพากันยกพวกไปช่วยเสี่ยวหลิงอีกแรงโกดังร้าง“นังเสี่ยวหลิงเป็นยังไงบ้างอดข้าวอดน้ำมาทั้งวันยังแรงดีอยู่มั้ย”“เมื่อครู่ผมเข้าไปดูเหมือนว่าตอนนี้จะดูอิดโรยหมดแรงไปแล้วครับ” “เอาน้ำไปสาดมันสิ เมื่อเช้ายังปากดีอยู่เลย”“ได้ครับท่าน” มู่หวางฉีเดินเข้ามาเห็นสภาพของเสี่ยวหลิงที่นั่งพิงเสาอยู่ริมฝีปากแห้งเหือดขาดน้ำ เขาเดินไปเอาเท้าเขี่ยเธอเพื่อเรียกให้เธอตื่น“นี่นังเสี่ยวหลิงอย่ามาสำออย อดน้ำอดข้าวยังไม่ถึงวันเลยจะมาตายง่าย ๆ อย่างนี้ได้ยังไง” แท้ที่จริงเสี่ยวหลิงไม่ได้อดอย่างที่มู่หวางฉีเข้าใจแต่เธอแค่แสร้งเท่านั้น มีมิติจะปล่อยให้ตัวเองอดอยากทำไมกัน เธอวางแผนที่จะหนีในคืนนี้ด้วยการนำยาสลบแบบควันโยนใส่ชายฉกรรจ์ที่เ

  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างของนางร้ายยุค 80   ตอนที่ 29 รู้ที่อยู่ของเสี่ยวหลิง

    ตอนที่ 29 รู้ที่อยู่ของเสี่ยวหลิงร้านบะหมี่เก่า ๆ แต่มีคนเข้าตลอดทั้งวัน ขายดิบขายดีเพราะความอร่อย ไป่ฟู่หนานนั่งลงที่เก้าอี้หมางเฟยเดินออกมาต้อนรับเมื่อเห็นใบหน้าของสหายเก่าเขายิ้มกว้างพูดเสียงดังเดินเข้ามากอดด้วยความคิดถึง“โฮ๊ะ ๆ คิดว่าใครที่แท้ก็สหายเก่าของฉันนี่เอง สบายดีมั้ยเป็นยังไงมายังไงถึงได้มาที่นี่ได้”“ฉันสบายดีแต่ตอนนี้เริ่มไม่สบายแล้วที่มาวันนี้เพราะอยากขอความช่วยเหลือจากนายสักหน่อย”“นายต้องการให้พ่อค้าขายบะหมี่ช่วยเหลืออะไร นายมันร่ำรวยเป็นเจ้าของโรงงานใหญ่โตคงมิใช่มายืมเงินหรอกนะ ฮ่า ฮ่า” ตามประสาเพื่อนหมางเฟยพูดทีเล่นทีจริงแต่เมื่อเห็นสีหน้าเคร่งเคลียดของเพื่อนกลับหุบยิ้มทันทีและเรียกหาภรรยา“เว่ยเว่ยช่วยดูหน้าร้านให้ฉันสักครู่ก่อนนะ ส่วนนายตามเข้ามา” เนื้อเสียงเปลี่ยนไปเป็นนิ่งเรียบเดินนำหน้าไป๋ฟูหนานเข้าไปด้านใน"เรื่องอะไรที่ทำให้นายไม่สบายใจ"“ตอนนี้ลูกสะใภ้ของฉันถูกจับตัวไป ฉันไปแจ้งความก็เหมือนไม่ได้ช่วยอะไร ก่อนหน้านี้ครอบครัวของฉันีปัญหากับตระกูลมู่ นายรู้บ้างมั้ยว่าตระกูลมู่ติดต่อกับองค์กรมืดฉันอยากจะให้นายช่วยตามหาลูกสะใภ้ฉันที ตอนนี้เธอท้องแก่ใกล้คลอดฉัน

  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างของนางร้ายยุค 80   ตอนที่ 28 ค่อย ๆ ทรมาน

    ตอนที่ 28 ค่อย ๆ ทรมานตึง ตึง ตึงเจี้ยวจ้าว ๆเสียงฝีเท้าคนมากมายเดินไปมาพร้อมกับเสียงพูดกันมากมาย ทำให้ร่างบางสะลึมสะลืมยกเปลือกตาที่หนักอึ้งกวาดสายตามองไปรอบ ๆ เธอจำได้ว่าตัวเองอยู่ในห้องน้ำกำลังจะเดินออกมาจากนั้นทุกอย่างดับวูบไปหมด ทว่าตอนนี้เธอกลับปวดเนื้อปวดตัวเหมือนระบมไปทั้งตัว‘อึดอัดจังเหมือนฉันโดนมัดยังไงอย่างนั้น’ เสี่ยวหลิงคิดในใจก่อนที่จะลืมตามองชัด ๆ เธอถูดมัดเอาไว้ติดเสาขนาดใหญ่ ในโกดังร้างที่มองไปทางไหนมีแต่ฝุ่นคละคลุ้มเต็มอากาศ ชายฉกรรจ์น่ากลัวมากมายหลายคนที่ยืนเฝ้าอยู่ล้อมรอบไปหมด“อะไรกันอย่าบอกนะว่าฉันถูกหลักพาตัว” เสี่ยวหลิงตระหนักได้ถึงเรื่องน่าเกลงกลัว ร่างเล็กสั่นสะท้านไปถึงด้านในหรือว่านี่จะเป็นจุดจบของเธอ ไม่ว่าเธอจะเปลี่ยนแปลงเนื้อหาในนิยายตอนจบยังไงเธอก็หนีไม่พ้นความตายอยู่ดี ใจของเธอเต้นแรงมากกว่าเดิม ความกลัวเริ่มโหมกระหน่ำเข้ามาภายในจิตใจ“ฟื้นแล้วสินะ ใบหน้าก็สวยไม่น่าเลือกที่จะขัดใจคุณหนูของเราเลย เสียดายเสียจริง” เสียงเข้มขรึมดังขึ้นเมื่อเห็นเสี่ยวหลิงลืมตาขึ้นมา“พวกแกเป็นใครจับฉันมาทำไมฉันไปทำอะไรให้ หรือว่านี่เป็นฝีมือของหรูเหยา”“ฉลาดดีนิแต่นี่ไ

  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างของนางร้ายยุค 80   ตอนที่ 27 ลักพาตัว

    ตอนที่ 27 ลักพาตัวบ้านตระกูลไป๋เช้าวันนี้อากาศแจ่มใสระหว่างสองวันที่ผ่านมาเสี่ยวหลิงอยู่กับครอบครัวของเทียนเฉินได้รับการเอาอกเอาใจ การเคลื่อนไหวของฝั่งนั้นก็เงียบสงบ จนวันนี้คุณนายไป๋ชักชวนเสี่ยวหลิงออกไปห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อเตรียมของใช้เด็กอ่อนเข้าบ้าน“เสี่ยวหลิววันนี้เราออกไปข้างนอกกันมั้ย? ฉันคิดว่าเราควรซื้อของเตรียมเอาไว้ได้แล้ว ยังไม่มีของใช้เด็กอ่อนเลยหากไม่เตรียมไว้เกิดจู่ ๆ คลอดคืนนี้จะทำยังไง”“ไม่ได้ฉันไม่ให้ออกไปยิ่งตอนนี้เทียนเฉินไม่อยู่ด้วย ความปลอดภัยของทุกคนสำคัญมากกว่าเอาไว้เทียนเฉินกลับมาค่อยออกไป” ไป๋ฟู่หนานพูดขึ้นทันควันไม่อยากให้ทั้งสองออกไปข้างนอกเพราะเป็นห่วง“กลางวันแซก ๆ ไม่มีใครเขาลงมือกันหรอกนะ อีกอย่างเราไม่ได้ออกไปสองคนสักหน่อยยังมีบอดี้การ์ดตั้งหลายคนคอยตามประกบหน้าประกบหลัง หรือไม่อย่างนั้นคุณก็ออกไปด้วยกันสิ” คุณนายไป๋ยังไม่ยอมดึงดันที่จะไปข้างนอก จนพ่อของเทียนเฉินใจอ่อน“เอาย่างนั้นก็ได้ แต่ห้ามทั้งสองเดินเพ่นพ่านให้เดินจับกลุ่มกันไว้ เพิ่มบอดี้การ์ดสิบคนกำลังดี”“ดีเลย หนูเสี่ยวหลิงอยากได้อะไรหยิบได้เต็มที่เลยนะอะไรที่เป็นของใช้หลานฉันจะจ่ายเอง”

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status