แชร์

บทที่ 7

ผู้เขียน: จี้เวยเวย
จวนตระกูลซ่ง

หลิ่วหรูเยียนค่อย ๆ ตื่นขึ้นมา เมื่อเห็นซ่งรั่วเจินอยู่ตรงหน้าก็รีบเอ่ยถามว่า “เจินเอ๋อร์ จวนตระกูลจ้าวขอถอนหมั้นแล้วจริงหรือ?”

ซ่งรั่วเจินพยักหน้า มองดูใบหน้าซีดเผือดของผู้เป็นมารดาด้วยแววตาที่ไม่อาจหักหาญใจ “ท่านแม่ ในเมื่อจวนตระกูลจ้าวเลือกที่จะเลิกหมั้นในช่วงเวลานี้ ก็เห็นได้ชัดว่านางมิใช่คู่ที่ดีของพี่ชาย เราไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่องการหมั้นนี้”

“เดิมทีจ้าวซูหว่านก็ไม่เหมาะสมกับพี่ชายรองอยู่แล้ว ข้าคิดว่าการถอนหมั้นเป็นเรื่องดี มิฉะนั้น การแต่งงานกับหญิงสาวเช่นนี้ เกรงว่าในอนาคตคงไร้ซึ้งความสุขสงบ”

“แม่รู้ดีว่าจ้าวซูหว่านไม่เหมาะกับพี่ชายของเจ้า แม่เองก็ไม่เห็นด้วยกับการหมั้นหมายนี้ตั้งแต่แรก เพียงแต่พี่ชายของเจ้าไม่มีหญิงสาวที่หมายปองเสียที ในเมื่อทั้งสองคนรักกัน แม่ก็ไม่อยากจะขัดขวาง”

“ตอนนี้พี่ชายของเจ้าตาบอด หมอจากทั่วเมืองมาตรวจดูแล้วล้วนบอกว่ารักษาไม่ได้ แม่ไม่อยากให้พี่ของเจ้าต้องเจ็บปวดซ้ำ ๆ …”

“พ่อของเจ้าจนถึงบัดนี้ก็ยังไม่รู้ว่าอยู่ที่ใด ถ้าเขารู้ว่าในเวลาที่ตนไม่อยู่ ข้าไม่สามารถดูแลพวกเจ้าให้ดีได้…”

หลิ่วหรูเยียนพูดพลางน้ำตาก็คลอเบ้า หมู่นี้ในจวนมีแต่เรื่องร้ายเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า นางไม่สามารถดูแลใครให้ดีได้เลย

ซ่งรั่วเจินเข้าใจความทุกข์ของหลิ่วหรูเยียน ในฐานะสตรีที่ต้องดูแลคนทั้งตระกูล โชคชะตาของตระกูลซ่งถูกพรากไปทั้งหมด ทุกอย่างย่อมแย่ลงเรื่อย ๆ ทุกคนต่างคิดว่าตระกูลที่มีสตรีเป็นผู้นำจะประสบความสำเร็จ แต่ใครจะเข้าใจถึงที่มาที่ไป ทั้งเลือดเนื้อและหยาดน้ำตาของคนตระกูลซ่งเล่า?

“ท่านแม่ ไม่ต้องกังวลนะเจ้าคะ พี่ชายเป็นคนรู้ความ แม้ว่าจะรู้สึกผิดหวังจากเรื่องนี้ แต่พี่เขาจะไม่ยอมแพ้ ข้าได้คุยกับพี่ชายรองแล้ว เขาบอกว่าเขาเข้าใจได้ ห่วงก็แต่เรื่องสุขภาพของท่านแม่”

นางจับมือหลิ่วหรูเยียน “ท่านแม่ เรื่องดวงตาของพี่ชาย ข้ามีวิธีรักษา ท่านแม่ไม่ต้องกังวลนะเจ้าคะ คนตระกูลจ้าวมีตาหามีแววไม่ ในเวลานี้ที่พวกเขาซ้ำเติมพวกเรา เราก็ใช้โอกาสนี้ถอนหมั้นไปเสีย ต่อไปพวกเขาจะต้องเสียใจ!”

หลิ่วหรูเยียนตกใจเล็กน้อย จับมือนางด้วยความตื่นเต้น “เจ้าพูดจริงหรือ? มีวิธีรักษาจริงหรือ?”

“ใช่เจ้าค่ะ ท่านแม่ไม่ต้องกังวล พี่ชายรองจะต้องพบหญิงสาวที่จริงใจต่อเขาในอนาคตแน่นอน ไม่ใช่คนที่หวังแต่ผลประโยชน์เช่นนี้ รอให้รักษาดวงตาของพี่ชายรองหายดีแล้ว ต่อให้พวกเขาคิดอยากจะกลับมาคืนดีก็จะไม่มีโอกาสนั้นอีก!”

ซ่งรั่วเจินพยักหน้าหนักแน่น แล้วกล่าวต่อว่า “จริงสิ แม่รองแนะนำให้ท่านแม่เชิญไต้ซือมาดูฮวงจุ้ย ไต้ซือผู้นั้นชื่อว่าอะไรหรือเจ้าคะ ตอนนี้เขายังอยู่ในเมืองหลวงหรือไม่?”

“เจ้าหมายถึงไต้ซือเทียนสุ่ยหรือ? ได้ยินว่าไม่นานมานี้แม่รองของเจ้าเชิญเขาไป ในเวลานี้คงกำลังอยู่ที่จวน เหตุใดเจ้าถึงถามเรื่องนี้?” หลิ่วหรูเยียนสงสัย เจินเอ๋อร์ไม่เคยสนใจเรื่องพวกนี้

“ลูกแค่สงสัยเลยถามดูเท่านั้น เขาบอกว่าให้ถมสระบัวแล้วจะช่วยขจัดภัยมิใช่หรือเจ้าคะ? แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่ได้ผลอันใด ข้าก็เลยอยากถามว่าเกิดอะไรขึ้น”

หลิ่วหรูเยียนแสดงสีหน้าลังเล “ก็จริง แม่กังวลว่าเรื่องแต่งงานของเจ้าจะได้รับผลกระทบ จึงรีบถมสระบัว แต่ไม่คิดว่าจะไม่ได้ผล บางทีอาจถมช้าเกินไปหรือไม่?”

“ช้าเกินไปอะไรกันเจ้าคะ เขาก็เป็นแค่หมอดูจอมปลอมที่ตั้งใจหลอกลวงคนเท่านั้น”

ซ่งรั่วเจินยิ้มหยัน ไต้ซือเทียนสุ่ยอะไรเล่า? รอให้เจอเขาก่อนเถอะ ข้าจะสั่งสอนให้เขาทำตัวให้ดี!

รับเงินไปแล้วยังทำลายฮวงจุ้ยของคนอื่นอีก คนเช่นนี้ไร้ยางอายอย่างที่สุด!

ขณะที่ทั้งสองกำลังสนทนากันอยู่ สาวใช้ก็รีบวิ่งเข้ามารายงาน “ฮูหยิน คุณหนู ฮูหยินผู้เฒ่าหลินกับหลินโหวมาเจ้าค่ะ”

ทันทีที่ได้ยิน หลิ่วหรูเยียนใบหน้าเปลี่ยนสี “เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว พวกเขายังจะมาทำอะไรอีก?”

“ฮูหยินผู้เฒ่าหลินบอกว่ามาเพื่อขอโทษ หวังว่านายหญิงจะยอมพบพวกเขาสักครั้ง”

หลิ่วหรูเยียนกดสายตาลง ลังเลชั่วครู่ก่อนจะมองไปที่ซ่งรั่วเจิน “เจินเอ๋อร์ เจ้าคิดว่าอย่างไร ฮูหยินผู้เฒ่าพาหลินโหวมาขอโทษในตอนนี้ คาดว่าคงกลับใจแล้ว หากหลินโหวยังต้องการแต่งงานกับเจ้าอีกครั้ง...”

“ข้าไม่แต่งเจ้าค่ะ”

ซ่งรั่วเจินพูดขัดขึ้นมาก่อนที่หลิ่วหรูเยียนจะพูดจบ

“ท่านแม่อาจจะไม่รู้ หลินโหวเคยชอบฉินซวงซวงมาก่อน และเพราะฉินซวงซวงปฏิเสธการสู่ขอเมื่อสองปีก่อน เขาถึงได้มาสู่ขอข้า”

“ตอนนี้หลินโหวชนะศึกกลับมา ฉินซวงซวงเปลี่ยนใจ เขาจึงแต่งงานกับข้าเพียงเพราะกังวลเรื่องชื่อเสียง มิฉะนั้นวันนี้คนที่ได้เข้าพิธีวิวาห์คงจะมีแค่ฉินซวงซวงเพียงคนเดียวเป็นแน่”

“ข้ายังไม่ทันได้แต่งให้เขา เขาก็ทำให้ข้าอับอายต่อหน้าแขกเหรื่อมากมาย หากข้าแต่งเข้าไปจริง ๆ จะมีชีวิตที่ดีได้อย่างไรเจ้าคะ?”

“อะไรนะ?” หลิ่วหรูเยียนตกใจมาก ดวงตาเบิกกว้าง “มีเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ?”

ซ่งรั่วเจินพยักหน้า หลินจือเยว่ชอบฉินซวงซวงอย่างแท้จริง แม้ว่าจะถูกปฏิเสธเมื่อสองปีก่อน เขาก็ไม่เคยพูดไม่ดีเกี่ยวกับนาง ยังคงปกป้องนางตลอด กลัวว่านางจะเสื่อมเสียชื่อเสียง ดังนั้นจึงมีคนรู้เรื่องนี้ไม่มาก

“น่ารังเกียจ! พวกเขากล้าหลอกลวงเช่นนี้ เห็นว่าลูกสาวข้าเป็นอะไร?” หลิ่วหรูเยียนโกรธจัด “ไม่แต่งแล้ว! ข้าไม่คิดว่าหลินโหวจะเป็นคนที่เลวทรามต่ำช้าเช่นนี้ ทำให้เจ้าเสียเวลาเปล่า ๆ ถึงสองปี ทั้งหมดนี้เป็นเพราะท่านพ่อกับแม่มองคนผิดไป คิดว่าเขาเป็นคนที่ไว้ใจได้!”

“เจินเอ๋อร์ แม่ทำผิดต่อเจ้าเหลือเกิน”

ซ่งรั่วเจินแทบไม่เคยเห็นหลิ่วหรูเยียนเป็นเช่นนี้มาก่อน นางเป็นคนที่อ่อนโยนดุจน้ำเสมอ ตอนนี้ท่านแม่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟก็เพื่อตัวนาง ทำให้ซ่งรั่วเจินรู้สึกอบอุ่นในใจ

“ท่านแม่ ท่านมิได้ทำผิดต่อข้าเลย ตอนนี้ข้ามีโอกาสอยู่ในจวนเพื่อดูแลท่านแม่นานขึ้น ข้าดีใจมากเจ้าค่ะ”

ส่วนเรื่องแต่งงานอะไรนั่น ไหนเลยจะดีไปกว่าการอยู่คนเดียวอย่างเสรี? ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในจวนตระกูลซ่งไม่ดีกว่าหรือ ไปจวนหลินโหวต้องเสียทรัพย์สินเงินทองเพื่อดูคนอื่นพลอดรักกัน เรื่องเช่นนี้มีแต่ตัวโง่งมเท่านั้นที่จะทำ!

หลิ่วหรูเยียนจับมือซ่งรั่วเจิน “ไป แม่จะพาเจ้าไปพบพวกเขา หลินโหวอะไรกัน ตระกูลซ่งของเราไม่อยากได้!”

ขณะที่แม่ลูกเดินไปที่ห้องรับแขก ฮูหยินผู้เฒ่าหลินเห็นพวกนางก็รีบเดินเข้ามา “ซ่งฮูหยิน เรื่องวันนี้เป็นเพราะเยว่เอ๋อร์กระทำการไม่รู้ความเกินไป ข้าได้ตำหนิสั่งสอนเขาแล้ว จึงตั้งใจมาเพื่อขอโทษ หวังว่าพวกท่านอย่าได้โกรธเคืองกันเลย”

“ฮูหยินผู้เฒ่าหลิน การหมั้นหมายถูกยกเลิกไปแล้ว ตระกูลของเราทั้งสองก็ไม่มีความเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป ไม่จำเป็นต้องพูดให้มากความแล้ว เชิญกลับไปเถิด”

หลิ่วหรูเยียนพูดด้วยใบหน้าเย็นชา คิดย้อนกลับไปครานั้น ฮูหยินผู้เฒ่าเคยใช้คำพูดสวยหรูเพื่อมาสู่ขอแทนหลินจือเยว่ นางคิดว่าฮูหยินผู้เฒ่ามีความจริงใจ ทั้งยังสัญญาดิบดีว่าจะดูแลเจินเอ๋อร์อย่างดี

นางคิดว่าหากเจินเอ๋อร์ไปอยู่ที่จวนหลินโหว มีแม่สามีที่ใจดีเช่นนี้คงไม่ต้องรับความทุกข์ทนใดใด ไม่เคยคิดว่าจะลงเอยเป็นเช่นนี้ไปได้

เห็นดังนั้น หลินรั่วหลานมองไปที่หลินจือเยว่พลางเร่งเร้า “ยืนทำอะไรอยู่ ยังไม่รีบขอโทษอีกหรือ?”

“เจินเอ๋อร์เป็นลูกสะใภ้ที่ข้าชื่นชม ร่างกายของข้าแย่ลงทุกวัน ถ้าไม่ใช่เพราะเจินเอ๋อร์ดูแลอย่างดีมาตลอดสองปีนี้ เจ้ากลับมาอาจจะเห็นแค่กระดูกของข้าแล้ว เจ้ากล้าทำร้ายเจินเอ๋อร์ลับหลังข้า เจ้ายังมีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีอยู่หรือไม่?”

หลินรั่วหลานพูดด้วยความเจ็บปวด “ถ้าเจ้ายังเห็นข้าเป็นแม่ วันนี้เจ้าต้องขอโทษด้วยความจริงใจ ถ้าเจินเอ๋อร์ไม่อาจให้อภัยเจ้าได้ ข้าก็จะไม่ยอมรับเจ้าเป็นลูกอีกต่อไป!”

“ท่านแม่!” หลินจือเยว่มีสีหน้าย่ำแย่ ก่อนจะหันไปมองซ่งรั่วเจิน

หญิงสาวเปลี่ยนเป็นชุดธรรมดา ใบหน้าสวยแม้จะไม่สดใสเช่นตอนกลางวัน แต่ก็ยังงดงามสบายตาดุจดอกบัวที่โผล่พ้นน้ำ

นางยืนอย่างสงบเสงี่ยมอยู่ข้างหลิ่วหรูเยียน ดวงตาคู่สวยเหมือนน้ำในฤดูสาทร ทำให้คนอดมองซ้ำไม่ได้
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
N. Not
แต่งงานอะไรนั่น ไหนเลยจะดีไปกว่าการอยู่รนเดียวอย่างเสรี ทำให้ได้อย่างที่พูด สุดท้ายก็แต่งงานอยู่ดี แค่เรื่องนี้คนเกิดใหม่หลายคนจังตอนนี้มี3คนละ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1238

    สวี่เหราพยักหน้า “ดีๆ ๆ ลำบากพวกเจ้าแล้ว”ตอนซ่งรั่วเจินและกู้ฮวนเอ๋อร์มาถึงเรือนของกู้เจาย่วน ได้เห็นนางกำลังลอบนั่งร้องไห้อยู่ภายในห้อง“ญาติผู้พี่ ฮวนเอ๋อร์ พวกเจ้ามาได้อย่างไร?”กู้เจาย่วนรีบซับน้ำตาที่หางตา เพียงแต่ท่าทางขอบตาแดงนั้นน่าสงสารมาก ทำจนคนปวดใจ“เจาย่วน พวกเรามีความสัมพันธ์อันดีตั้งแต่เด็ก เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น เหตุใดเจ้าไม่รีบบอกข้า?”กู้ฮวนเอ๋อร์รีบสืบเท้าขึ้นมาอย่างว่องไว เดินมานั่งข้างกู้เจาย่วน“ข้ารู้เจ้าและอวิ๋นอ๋องกำลังจะแต่งงานกัน งานยุ่งอยู่ตลอด นี่จึงไม่ได้ไปรบกวนเจ้า”กู้เจาย่วนยกมุมปากคลี่ยิ้ม “ท่านพ่อและท่านแม่ล้วนไม่ยอมให้ข้าและฉวีเซินคบหากัน ข้าพูดไปก็ไร้ประโยชน์”“ฉวีเซิน? คนในดวงใจเจ้าหรือ?”กู้เจาย่วนพยักหน้า มองซ่งรั่วเจินทางด้านข้าง รู้สึกเก้อกระดากอยู่บ้าง “ญาติผู้พี่เห็นเรื่องน่าขันแล้ว”“แต่ไหนแต่ไรมาเรื่องความรู้สึกทำนองนี้ไม่สามารถบังคับได้ หัวใจสั่นไหวก็ใช่ว่าตนเองจะสามารถควบคุมได้ ข้าเข้าใจ”ซ่งรั่วเจินยิ้มน้อยๆ “นึกถึงปีนั้นข้าถอนหมั้นจนผู้คนต่างรู้กันอย่างถ้วนทั่ว นี่ก็ถูกทุกคนเห็นเป็นเรื่องตลกไม่ใช่หรือ? กระนั้นก็ไม่เป็นไรเสียห

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1237

    ดรุณีน้อยมักหลงใหลในความรัก ซ่งรั่วเจินเข้าใจเรื่องนี้ดี“คุณชายท่านนั้นที่เจาย่วนชอบ เจ้าเคยพบหรือไม่?” ซ่งรั่วเจินถามกู้ฮวนเอ๋อร์ส่ายหน้า “ไม่เจ้าค่ะ ทีแรกเจาย่วนไม่บอกใคร หากไม่ใช่เพราะท่านป้าแนะนำคู่ครองให้ นางก็ไม่ยอมรับปาก สุดท้ายถึงพูดออกมา”“วันนี้ท่านป้าให้ข้าเกลี้ยกล่อมเจาย่วน ท่านเองก็รู้ว่าเมื่อหลายวันก่อนอวิ๋นอ๋องป่วย ต้องการคนดูแล ข้าจึงไปอยู่ที่จวนอวิ๋นอ๋องทุกวัน ล้วนไม่ได้ใส่ใจ”“ข้าคิดว่าอีกเดี๋ยวค่อยไปถามเจาย่วน นางยังยอมพูดกับข้าเจ้าค่ะ”พูดไป กู้ฮวนเอ๋อร์เอ่ยปากกับซ่งรั่วเจิน “ญาติผู้พี่ อีกเดี๋ยวหากไม่รีบไป ไม่สู้พวกเราไปคุยกับเจาย่วนด้วยกัน”ซ่งรั่วเจินพยักหน้า “ได้”หลังทุกคนได้รู้เรื่องของกู้เจาย่วน บรรยากาศก็เปลี่ยนไปหลายส่วน คาดว่าสำหรับบ้านใหญ่นี่เป็นปัญหาอย่างหนึ่งหากกู้เจาย่วนคิดไม่ตก ต้องการแต่งงานกับบัณฑิตยากจนท่านนั้น นั่นก็มีเพียงสองผลลัพธ์ประการแรกให้นางแต่งออกไป แต่ด้วยอุปนิสัยของป้าสะใภ้ใหญ่ จะต้องไม่ยอมให้เจาย่วนแต่งไปมีชีวิตลำเค็ญเป็นแน่เช่นนี้แล้ว นั่นก็มีเพียงประการที่สอง บังคับเจาย่วนแต่งกับผู้อื่นเพียงแต่ทำเช่นนี้ สองแม่ลูกจะเกิ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1236

    “ท่านแม่ ข้าบอกแล้ว ข้ามีคนในใจแล้ว ชาตินี้นอกจากเขาไม่มีวันแต่งงาน ท่านอย่าบังคับข้าอีกเลย!”เพียงเอ่ยถ้อยคำนี้ออกไป พวกกู้หรูเยียนก็เผยสีหน้าแปลกใจ ที่แท้กู้เจาย่วนก็มีคนในดวงใจแล้ว?“เจ้าเด็กคนนี้ เจ้าพูดเหลวไหลอันใด?” สีหน้าป้าสะใภ้ใหญ่เปลี่ยนไป ตวาดเสียงเฉียบกู้เจาย่วนตาแดง “อย่างไรเสียข้าก็ไม่แต่ง ข้ารู้ท่านไม่ชอบเขา คิดว่าเขาไม่เหมาะสมกับข้า”“ความคิดของท่านและข้าไม่เหมือนกัน ข้าชื่นชมพรสวรรค์ของเขา เขาก็แค่ไม่มีหน้ามีตา แต่ในภายภาคหน้าไม่ช้าก็เร็วเขาย่อมประสบความสำเร็จ”“ท่านแม่ เหตุใดท่านไม่ให้โอกาสพวกเราสักครั้งเล่า?”ป้าสะใภ้โมโห นางคิดไม่ถึงเลยว่าลูกสาวที่เชื่อฟังว่าง่ายจะต่อต้านนาง!“เจ้ามีชาติกำเนิดที่ดีเช่นนี้ แต่งงานกับคนที่เหมาะสม ย่อมไม่ต้องกังวลอาหารและอาภรณ์ เป็นนายหญิงของบ้านไม่ดีหรือ?”“หลายปีมานี้ข้าสอนดีดพิณเดินหมากอักษรวาดภาพและบทกวีบทเพลงให้เจ้า ไม่ใช่เพื่อให้เจ้าไปซักผ้าทำกับข้าวให้ผู้อื่น!”เจาย่วนเป็นลูกสาวคนสุดท้องของนาง เทียบกับลูกชายลูกสาวคนอื่น นางเอ็นดูมากที่สุดบัดนี้มีเพียงนางยังไม่แต่งงาน นางย่อมอยากเลือกสามีที่ดีให้นาง ไม่ขอให้แต่งงานเข้

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1235

    จวนราชครูตอนรถม้าจอดหน้าประตูใหญ่ ฉู่จวินถิงและซ่งรั่วเจินลงจากรถม้าพร้อมกัน ก็ได้เห็นรถม้าของสกุลซ่งบังเอิญมาถึงพอดีซ่งหลินเห็นฉู่จวินถิง พูดยิ้มๆ “กระหม่อมได้ยินว่าช่วงนี้งานยุ่งอยู่ที่ศาลต้าหลี่ ยังคิดว่าวันนี้ท่านอาจไม่มีเวลาว่าง ได้แต่รู้สึกเสียดาย คิดไม่ถึงว่าท่านจะมาแล้ว”“ท่านอ๋องรู้ว่าวันนี้เป็นท่านตาเชิญจึงตั้งใจรีบกลับมาเป็นพิเศษเจ้าค่ะ” ซ่งรั่วเจินอธิบายยิ้มๆภายในสายตาซ่งหลินเปี่ยมความชื่นชม ฉู่อ๋องให้ความสำคัญต่อพวกเขามากจากนั้นขบวนคนเดินเข้าจวนอย่างครึกครื้น ราชครูกู้และคนอื่นๆ ล้วนรออยู่นานแล้ว“ท่านลุงใหญ่ ท่านลุงรอง”“ญาติผู้พี่ใหญ่ ญาติผู้พี่รอง ญาติผู้น้องสาม...”เพราะวันนี้มีคนมารวมตัวกันมาก ครึกครื้นมากทีเดียววันนี้กู้ฮวนเอ๋อร์ตั้งใจแต่งตัวเป็นพิเศษ คนน่ารักงดงามอย่างมาก“บัดนี้กำหนดวันแต่งงานของฮวนเอ๋อร์และอวิ๋นอ๋องแล้ว ก็คือวันที่หกเดือนหน้า”วันนี้ตั้งใจเชิญทุกคนมารวมตัวกันก็เพื่อเฉลิมฉลองงานแต่งของฮวนเอ๋อร์ ถึงตอนนั้นน่ากลัวว่าจวนโหวจะต้องเตรียมการดีๆ”กู้ชิงซิวลุกขึ้นพูดยิ้มๆ “ข้าขอคารวะทุกท่านก่อนหนึ่งจอก”ทุกคนต่างพากันยกจอกเหล้า ใบหน้าประด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1234

    ซ่งรั่วเจินเลิกคิ้วดุจกิ่งหลิวขึ้น “เช่นนั้นซ่งปี้อวิ๋นกลับสกุลซ่งก่อนหรือ?”“พระชายา นี่ถึงเป็นเรื่องแปลกที่สุด ตอนนี้ลู่หวยอันไม่มีอนาคตแล้ว ซ่งปี้อวิ๋นถึงขั้นไม่กลับไป ยังอยู่กับพวกเขาตลอด ตกลงคิดอันใดอยู่กันแน่?”เฉินเซียงคิดแล้วก็ไม่เข้าใจ หรือซ่งปี้อวิ๋นชอบลู่หวยอันถึงเพียงนั้น ต่อให้ไม่มีอันใด ก็จะอยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเขาหรือ?“ไม่รู้” ซ่งรั่วเจินส่ายหน้า “ความคิดของทุกคนล้วนแตกต่างกัน หากเปลี่ยนเป็นพวกเรา คงไม่ย่ำเข้ากองเพลิงตั้งแต่แรก”“ในเมื่อซ่งปี้วิ๋นชอบอยู่กับเขาถึงเพียงนี้ เช่นนั้นก็ให้อยู่ร่วมกันตลอดชีวิตเถอะ ป้องกันไม่ให้ภายภาคหน้าไปสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น”“บ่าวเห็นว่าพวกเขาสองคนล้วนเป็นตัวหายนะ เช่นนี้ก็ดีแล้ว ป้องกันไม่ให้คนอื่นเหนื่อยใจเพราะพวกเขา”ไป๋จื่อหัวเราะ เห็นวันนี้ชิงเถิงกลับมาแล้วจึงเอ่ยถามยิ้มๆ “ชิงเถิง พ่อแม่เจ้ายอมรับคุณชายท่านนั้นได้หรือไม่? ใช่หรือไม่ว่าพวกเราจะได้ดื่มสุรามงคล?”ชิงเถิงอารมณ์ดีอย่างเห็นได้ชัด นางทำความเคารพซ่งรั่วเจินก่อน นี่ถึงพูด“เมื่อวานพวกเราพาจ้าวจื่ออี้กลับไปถึงได้รู้ว่าที่แท้ปีนั้นเขาไม่เพียงช่วยเหลือชิงชิง แม้แ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1233

    บนรถม้าซ่งรั่วเจินเห็นฉู่จวินถิงยิ้มให้ตนเองอยู่ตลอด สงสัยอย่างอดไม่ได้ “ท่านอ๋อง ท่านยิ้มอันใดกัน?”“ยิ้มที่ข้าแต่งฮูหยินที่ดีมากมาคนหนึ่ง นี่คือวาสนาที่คนอื่นต่างพากันอิจฉา ย่อมต้องยิ้ม”ได้ยินดังนั้น มุมปากซ่งรั่วเจินกระตุกขึ้นอย่างไม่รู้ตัว จู่ๆ ฉู่จวินถิงก็ขยับเข้าใกล้ จุมพิตนางทีหนึ่งดวงตาดุจจันทราคู่นั้นทอประกายระยับ ฉู่จวินถิงยื่นมือออกไปโอบนางไว้ในอ้อมกอด ถอนหายใจพูดว่า “มีภรรยาเช่นนี้ได้ สามียังจะปรารถนาสิ่งใดอีกเล่า?”ซ่งรั่วเจินอิงแอบอกกว้างอบอุ่นของเขา รู้สึกเพียงอารมณ์ดีมาก จู่ๆ นางก็เข้าใจแล้วว่าความสุขเป็นเช่นไรในวันธรรมดาและเรียบง่าย มีคนให้รัก มีคนรักตอบ สัมผัสได้ถึงความสุขที่เกิดขึ้นในก้นบึ้งของหัวใจ“ท่านตาเรียกพวกเราไปกินมื้อเย็นที่จวนวันพรุ่งนี้ งานแต่งของอวิ๋นอ๋องและฮวนเอ๋อร์เองก็จัดเตรียมเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นพรุ่งนี้จึงตามพวกเราไปรวมตัวกันเพคะ”ซ่งรั่วเจินนึกถึงสิ่งที่มารดากำชับมาในวันนี้ ท่านตาตั้งใจเชิญพวกเขาไปพบเป็นพิเศษ ดีที่สุดคือทุกคนสามารถมาได้“หากท่านสามารถไปได้ นั่นก็ดีมากนัก หากไปไม่ได้ก็ไม่เป็นไร หม่อมฉันจะแจ้งพวกเขา ทุกคนล้วนสามารถเข้าใจ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status