ธีร์นั่งลงที่เบาะคนขับ มือข้างหนึ่งจับพวงมาลัยอย่างหลวมๆ แต่มั่นคง มืออีกข้างเสียบกุญแจแล้วบิดสตาร์ทรถ ทุกอย่างเป็นไปตามปกติ ไม่มีอะไรผิดแปลกจากทุกเช้า ยกเว้นแค่หัวใจของเขาที่ดันเต้นแรงขึ้นมานิดหน่อย แต่ก็ช่างเถอะ ไม่เห็นเป็นไร ก็แค่ไปมหา’ ลัยพร้อมข้าวหอมแค่นั้นเอง
เขาขับรถออกไปอย่างไม่เร่งรีบในขณะที่เสียงบ่นอุบอิบดังมาจากที่นั่งข้างๆ
“พี่ธีร์! มายุ่งอะไรกับผมข้าวเนี่ย” ข้าวหอมบ่นออกมาอย่างหัวเสียพลางใช้มือจัดทรงผมตัวเองขณะมองกระจกหน้ารถ สภาพของเธอตอนนี้ไม่ต่างจากลูกเจี๊ยบที่เพิ่งฟักออกจากไข่ ผมฟูยุ่งเหยิงไปหมดเพราะฝีมือของคนข้างๆ
ธีร์ที่กำลังขับรถเหลือบมองเธอแวบหนึ่ง ก่อนจะหัวเราะขำออกมาอย่างไม่รู้สึกรู้สา “พี่ช่วยเพิ่มวอลลุ่มให้ไง”
ข้าวหอมหันขวับไปมองเขาตาขวาง “ใครขอให้พี่ช่วย!”
ธีร์ไม่ได้ตอบในทันที เขายกมือขึ้นปรับกระจกมองหลังอย่างใจเย็นเหมือนไม่ได้ยินเสียงโวยวายของเธอ ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย “ก็เห็นทำหน้างอแล้วมันสนุกดี เลยอยากแกล้ง”
ข้าวหอมจ้องเขาอย่างไม่ไว้ใจ ท่าทางสบายๆ ของธีร์นั่นทำให้เธออดรู้สึกหมั่นไส้เขาไม่ได้
“พี่นี่มัน... ว่างเกินไปใช่ไหม หือ?”
“อืม... ก็อาจจะ” เขาพยักหน้ารับหน้าตาย ริมฝีปากโค้งขึ้นเล็กน้อยอย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนจะต่อท้ายอีกประโยค “แต่ถ้าคิดดูดีๆ พี่แกล้งแค่เธอคนเดียวนะ”
ข้าวหอมชะงักไปครู่หนึ่ง ดวงตากลมโตเผลอสบกับดวงตาคมที่เหลือบมามองเธอแวบหนึ่ง เธอรีบเบือนหน้าหนีแทบจะทันที รู้สึกว่าหัวใจเต้นแรงขึ้นอย่างไม่มีสาเหตุ
เธอทำเป็นยกมือจัดผมตัวเองอีกครั้งเพื่อกลบเกลื่อน ก่อนจะบ่นออกมาต่อ “งั้นต่อไปก็ไปแกล้งคนอื่นเลยไป๊”
ธีร์หัวเราะในลำคอ แต่ไม่ได้เถียงอะไรอีก เขาเพียงแค่เอื้อมมือไปเปิดเพลงคลอเบาๆ ในรถ บรรยากาศเงียบลงหลังจากบทสนทนากวนๆ ของทั้งสองจบลงไป
ข้าวหอมเผลอเหลือบมองธีร์จากหางตา เธอเห็นเขากำลังมองถนนอย่างตั้งใจ แต่รอยยิ้มบางๆ ตรงมุมปากของเขากลับทำให้เธออดสงสัยไม่ได้
รอยยิ้มนั่น... ไม่ใช่รอยยิ้มที่มาจากความสนุกที่ได้แกล้งเธอแน่ๆ
ก่อนที่เธอจะทันได้คิดอะไรไปมากกว่านี้ มือใหญ่ของธีร์ก็ยื่นมาขยี้ผมเธออีกครั้ง แม้จะไม่ได้แรงจนทำให้ผมยุ่ง แต่ก็เพียงพอให้เธอหันขวับไปมองเขาด้วยความไม่พอใจ
“พี่ธีร์!!!”
ธีร์หลุดหัวเราะออกมา ดวงตาคมทอประกายเจ้าเล่ห์อย่างปิดไม่มิด “หืม? ก็บอกแล้วไง ว่า...น่ารัก”
ข้าวหอมถอนหายใจออกมาแรงๆ อย่างไม่จริงจังนัก ก่อนจะรีบจัดผมตัวเองให้เข้าทรง มือเล็กขยับเร็วๆ พลางบ่นพึมพำ “ถ้าผมข้าวหอมยุ่งอีกนะ พี่รับผิดชอบเลยด้วย!”
“รับผิดชอบให้ก็ได้…”
น้ำเสียงของธีร์ฟังดูราบเรียบเหมือนไม่ได้ใส่ใจอะไร แต่รอยยิ้มเล็กๆ ตรงมุมปากของเขากลับทำให้หัวใจของข้าวหอมสะดุดไปเสี้ยววินาที เธอชะงักมือที่กำลังจัดผม ก่อนจะหันไปมองเขาด้วยสายตาจับผิด
“รับผิดชอบยังไง?”
ธีร์เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ราวกับจะท้าทาย “ก็แล้วแต่ว่าเธออยากให้พี่รับผิดชอบแบบไหนล่ะ?”
เพียงเท่านั้น... แก้มของข้าวหอมก็ร้อนผ่าวขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว คำพูดของธีร์ฟังดูปกติ แต่กลับให้ความรู้สึกไม่ปกติเอาเสียเลย เธอรีบเบือนหน้าหนี แล้วทำเป็นขะมักเขม้นจัดผมต่ออย่างเอาเป็นเอาตาย
“พูดให้มันดีๆ หน่อยพี่ธีร์! คนฟังเขาเข้าใจผิดกันพอดี”
ธีร์หัวเราะในลำคอ ก่อนจะเอ่ยขึ้นเสียงกลั้วขำ “แล้วตัวเล็กเข้าใจผิดหรือเปล่าล่ะ?”
คำพูดของเขาทำให้ข้าวหอมเม้มปากแน่นขึ้นโดยอัตโนมัติ เธอไม่กล้าหันไปมองหน้าเขาอีก ได้แต่ก้มหน้าก้มตาจัดทรงผมไปเรื่อยๆ ราวกับว่านั่นเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้
แต่ต่อให้เธอไม่มอง... เธอก็รู้สึกได้ว่าธีร์ยังคงยิ้มอยู่
และรอยยิ้มนั่น... ก็เป็นรอยยิ้มที่เธอไม่อยากให้ใครเห็นเลยจริงๆ
“ไม่ได้เข้าใจผิด! ก็พี่พูดเหมือนมีความหมายแฝง!” ข้าวหอมรีบตอบแก้เขินทันที
"งั้นไม่ต้องให้ยุ่งแค่ผมแล้วดีไหม?" น้ำเสียงกลั้วขำของธีร์ดังขึ้นพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ "จะได้มีข้ออ้างรับผิดชอบแบบเต็มที่"
ข้าวหอมถึงกับสะดุ้งเฮือก "พี่ธีร์! พูดอะไรเนี่ย!" เสียงของเธอสูงขึ้นโดยไม่รู้ตัว ขณะที่ความร้อนพุ่งขึ้นมาอาบแก้มจนแดงก่ำ
ธีร์หัวเราะเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาเพียงแค่หันกลับไปมองถนนตรงหน้า ราวกับประโยคเมื่อครู่ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร ท่าทีที่ดูสบายๆ ของเขายิ่งทำให้ข้าวหอมรู้สึกเหมือนเป็นฝ่ายคิดมากไปเอง
…พี่ธีร์เป็แบบนี้ตลอดเลย!
…พี่ธีร์จอมกวน!
ข้าวหอมเม้มริมฝีปากแน่น พยายามสลัดความร้อนวูบวาบบนใบหน้าออกไป แต่หัวใจเจ้ากรรมกลับยังเต้นแรงไม่ยอมหยุด คำพูดกำกวมของเขายังคงวนเวียนอยู่ในหัว นี่มันอะไรกันนะ! ทำไมเขาต้องพูดแบบนั้นด้วย!
ข้าวหอมแอบเหลือบมองคนข้างๆ อีกครั้ง ธีร์ยังคงขับรถด้วยสีหน้าราบเรียบ ดวงตาคมไม่ได้มีแววลังเลหรือเขินอายแม้แต่นิดเดียว ราวกับสิ่งที่พูดออกไปไม่มีความหมายพิเศษอะไรเลย
…หรือเขาแค่พูดไปอย่างนั้นเอง?
…เขาคงไม่ได้คิดอะไรจริงๆ ใช่ไหม?
กล้ามเนื้อใบหน้าเขาเกร็ง ความร้อนแล่นขึ้นมาถึงท้ายทอย แต่เขายังไม่หยุดเสียงหวานครางสั่นของเธอช่างยั่วยุเกินต้านธีร์รู้ตัวดีว่าไม่ว่าจะพยายามอดกลั้นแค่ไหน ร่างกายกลับเป็นฝ่ายทรยศ เขายิ่งกดสะโพกเข้าหาเธอด้วยแรงปรารถนาที่ไม่อาจหักห้ามช่องทางนุ่มภายในร่องนั้นตอดรัดเขาแทบบ้า ตอดรัดเหมือนกลัวว่าเขาจะหายไป ตอดจนเขารู้สึกว่า…เขาไม่มีทางหนีจากเธอได้อีกแล้วและข้าวหอม…เธอก็รู้ เธอรู้ว่ากำลังถูกเติมเต็มอย่างถึงที่สุดหัวใจเธอเต้นแรงจนได้ยินเสียงของมันชัดเจนในหู ความอนที่แล่นพล่านจากจุดเชื่อมต่อกลางกายแผ่ซ่านขึ้นไปจนมือสั่น ขาอ่อน ร่างกายเธอไม่มีแรงจะต้านหรือห้าม เธอมีเพียงแค่แรงขอ แรงอ้อนวอนที่เปล่งผ่านเสียงหวานพร่า“พี่ธีร์… อื้อ… ลึกอีก… ตรงนั้น… ข้าวจะไม่ไหวแล้ว…”คำขอของเธอเหมือนยิ่งปลดเปลื้องพันธนาการของเขา ธีร์เคลื่อนไหวรวดเร็วยิ่งขึ้น ทั้งเน้น ทั้งหนัก ลึกเข้าไปในจุดที่ทำให้เธอสะดุ้งทุกครั้งที่สัมผัสธีร์ก้มลงมองใบหน้าของเธอที่กำลังบิดเบี้ยวเพราะความหฤหรรษ์ ริมฝีปากสีอ่อนเผยอคราง เส้นผมเปียกชื้นแนบแก้ม ร่างกายเล็กสั่นระริกด้วยความเสียวซ่าน แต่เธอกลับยิ่งยกสะโพกขึ้นหาเขา เหมือนท้าทาย เ
"อื้อออ...พี่ธีร์...อย่าแกล้ง..." ข้าวหอมร้องเสียงหลงพลางหอบหายใจถี่จัด น้ำตาคลอด้วยความเสียวซ่านที่เกินจะทน"ข้าว...ข้าวอยากได้...อยากได้พี่ธีร์..."ธีร์หัวเราะในลำคอ ราวกับชอบใจนักที่ได้เห็นเธอคร่ำครวญสารภาพออกมาเอง"อยากได้อะไร ตัวเล็ก...บอกพี่ชัดๆสิ" เขายังไม่ยอมให้เธอพ้นจากความทรมาน กลับลากแท่งแข็งขืนถูวนตรงติ่งเสียวเนิ่นนาน จงใจให้เธอสั่นระริกใต้ร่างเขาเหมือนลูกแมวตัวน้อยที่กำลังดิ้นกระสับกระส่าย"อยากได้...อยากได้…ของพี่ธีร์...อื้อออ...ข้าวทนไม่ไหวแล้ว..." น้ำเสียงที่เปล่งออกมาเบาแต่ชัดเจน เจือความอายแต่แน่นไปด้วยความต้องการจริงๆดวงตากลมโตรื้นไปด้วยน้ำตา เธอหลบตาเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ มือเล็กคว้าท่อนแขนของเขาไว้แน่น อ้อนขอสิ่งที่เธอต้องการอย่างน่าสงสารธีร์ขบฟันแน่นจนกรามขึ้นเป็นสัน รู้ตัวอีกทีก็หลุดเสียงครางต่ำในลำคอออกมาอย่างอดกลั้นเขาแทบจะเสียหลักในวินาทีนั้น เพราะเธออ้อน เพราะเธอวิงวอนขอเขาด้วยเสียงหวานๆที่แทบจะขาดใจเขาเงยหน้าขึ้นสบตาเธอ แล้วกระซิบกลับเสียงกระเส่า"รู้ไหม...เวลาที่ตัวเล็กขอแบบนี้ มันทำให้พี่แทบบ้า..."เสียงของเขาหอบ แผ่วต่ำราวกับเสียงคำรามจากคนที่กำลังจะขาดสติ
ข้าวหอมหลับตาแน่น พยายามหนีความรู้สึกวูบไหวด้วยการซ่อนหน้าไว้ในความอบอุ่นของอกเขา แต่ก็เหมือนเดิม เธอไม่เคยหนีพ้นสายตาคมที่ไล่ตะครุบอารมณ์ของเธอได้ทันเลยและแล้ว...มือใหญ่ของเขาก็เลื่อนแทรกเข้ามาใต้ชายเสื้อยืดตัวหลวมของเธอนิ้วมือร้อนผ่าวลากไล้บนผิวเนื้อเปลือยเปล่า เคลื่อนจากเอวบางขึ้นไปถึงทรวงอกนุ่มนิ่ม แล้วจงใจสะกิดวนตรงยอดอกที่กำลังแข็งตัวนิดๆด้วยสัมผัสที่ยั่วเย้า“อ้ะ!!...พี่ธีร์...” เสียงของเธอสั่นพร่า ทั้งอายทั้งวูบวาบไปทั้งตัวยังไม่ทันตั้งหลัก มือที่เคยวนเวียนอยู่ข้างบนกลับขยับต่ำลง ลากผ่านหน้าท้องแบนราบ แล้วค่อยๆล้วงแทรกผ่านชั้นในชิ้นบางเบาที่แทบจะไม่ได้ปกปิดอะไรปลายนิ้วหยาบกร้านแตะต้องกลีบเนื้อที่เริ่มฉ่ำชื้นเพียงเพราะแค่ถ้อยคำกระซิบไม่กี่คำเมื่อครู่ ข้าวหอมสั่นสะท้าน ร่างกายโอนอ่อนราวกับไม่ใช่ของตัวเองอีกต่อไปความอายพุ่งทะยานจนเธออยากหายตัวไปเสียเดี๋ยวนั้น แต่ร่างกายกลับเปิดทางให้เขาเข้าสัมผัสอย่างง่ายดายเสียจนธีร์หลุดหัวเราะต่ำๆ ออกมาอีกครั้ง“หึ...ตัวเล็ก” เขากระซิบเสียงต่ำในขณะที่ไล้นิ้วไปมาในช่องทางที่ชื้นแฉะนั้นอย่างกลั่นแกล้ง “แล้วตอนอยู่บ้านล่ะ...ช่วยตัวเองบ้างไหม?
ข้าวหอมชะงัก ปลายผ้าขนหนูหยุดค้างที่ข้างแก้มของเขา“หือ?”“พี่ไม่ได้กินบ่อยหรอก” ธีร์พูดต่อ “รู้ว่ากินเหล้ามันไม่ดี มันทำให้สุขภาพแย่… แล้วข้าวหอมก็ไม่ได้ชอบคนกินเหล้าใช่ไหมล่ะ”คำพูดเรียบๆนั้นทำให้ข้าวหอมรู้สึกเหมือนถูกสะกิดบางอย่างเธอไม่รู้ว่าตัวเองคิดมากไปเองหรือเปล่า แต่ทำไมมันฟังดูเหมือนเขากำลังพูดให้เธอฟัง… หรือพูดให้เธอรู้ว่าเขาไม่ได้กินเหล้าเพราะเธอ?เธอเม้มปากแน่น วันนี้เขาทำให้เธอใจเต้นไม่หยุดหย่อน เขาดูแปลกไปจากทุกทีมากเลย พี่ธีร์...รู้หรือเปล่านะว่าตัวเองทำให้คนเขาใจเต้นแค่ไหน“ก็… จริงแหละ” ข้าวหอมพึมพำตอบ ก่อนจะรีบเบี่ยงหน้าหนี ยกผ้าขึ้นเช็ดแก้มเขาอีกรอบเพื่อกลบเกลื่อนความคิดของตัวเองพี่ธีร์กำลังเมา…แล้วเธอกำลังคิดอะไรอยู่เนี่ย?ข้าวหอมมองคนตัวโตที่เอนหลังพิงพนักโซฟาอย่างทิ้งตัว เปลือกตาของเขาดูหนักอึ้งกว่าปกติจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ เสี้ยวหน้าคมที่เธอคุ้นเคยดูผ่อนคลายลงจนเธออดไม่ได้ที่จะจ้องมองเขานานกว่าปกติเธอไม่ค่อยได้เห็นพี่ธีร์ในสภาพแบบนี้บ่อยนักนึกสนุก…ข้าวหอมยื่นนิ้วไปจิ้มแก้มเขาเบาๆ “พี่ธีร์ เมาจริงปะเนี่ย?”ธีร์เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ก่อนตอบกลับด้วยเสียงเนิบๆ “เปล
ในช่วงของคืนของเย็นวันศุกร์คืนหนึ่ง ข้าวหอมกำลังจะปิดไฟเข้านอน ท่ามกลางความเงียบสงบของค่ำคืนที่ชวนให้นึกถึงเรื่องเก่าๆจู่ๆ เสียงโหวกเหวกหน้าบ้านก็ดังขึ้น เรียกให้เธอชะงักข้าวหอมหันไปมองนาฬิกา เข็มสั้นชี้เลขสิบเอ็ด เข็มยาวเกือบแตะเลขสิบสองเธอขมวดคิ้ว ก้าวออกจากเตียงแล้วเดินไปชะโงกหน้ามองจากหน้าต่างห้องนอนเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นเธอเลิกคิ้วอย่างแปลกใจเมื่อเห็นมีรถจอดและคนสองคนยืนเซไปมาอยู่หน้าบ้านของพี่ธีร์ เธอรีบใส่เสื้อคลุมแล้วเดินลงมาชั้นล่าง เปิดประตูบ้านออกไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นแสงไฟจากหน้ารถสาดให้เห็นร่างของพี่บอลกำลังประคองใครบางคนอยู่ และทันทีที่ข้าวก้าวออกไป เธอก็จำได้ทันทีว่าคนที่เซๆ อยู่ในอ้อมแขนนั้นคือพี่ธีร์...ในสภาพตาเยิ้มๆหน้าแดงๆ“ขะ...ข้าว?”เสียงของคนเมาเรียกชื่อเธอ ก่อนจะเอนตัวมาเล็กน้อยเหมือนจะโบกมือแต่ก็เกือบล้มลงไป“เฮ้ยพี่ธีร์! เดี๋ยวล้ม!”ข้าวรีบวิ่งเข้าไปช่วยประคองอีกแรง ขณะที่บอลถอนหายใจแรงแล้วหันมาพูดกับเธอ“พี่ฝากหน่อยนะน้องข้าวหอม ธีร์มันไม่ไหวละวันนี้... โดนเพื่อนกรอกเหล้าไปหลายแก้ว”ข้าวพยักหน้ารับเล็กน้อย แม้จะตกใจนิดๆที่เห็นพี่ธีร์ในสภาพแบบนี้ แต่ก็ไม่โทษ
เสียงงึมงำเบาๆดังขึ้นใต้ผ้าห่ม“อื้อ...บ่ายแล้ว...”ข้าวหอมบ่นเหมือนจะลุก แต่แค่ขยับก็ถูกกอดแน่นกว่าเดิมธีร์กระชับอ้อมแขนแน่นยิ่งขึ้น เหมือนกลัวว่าแค่กระพริบตาเธอก็จะหายไปไหนข้าวหอมถอนหายใจเพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิงเธอก้มหน้าซุกอกเขาแน่นขึ้น สูดลมหายใจเข้าลึก เหมือนหัวใจอยากบันทึกช่วงเวลานี้ไว้ให้นานที่สุด...เขามีวิธีทำให้เธอใจเต้นแรงได้เสมอ โดยไม่ต้องพูดอะไรเลยธีร์กดหน้าลงกับผมนุ่มยุ่งของเธอ เสียงหายใจของเขาหนักขึ้นเล็กน้อย ตามด้วยเสียงครางต่ำๆอย่างขี้เกียจเขายังไม่อยากตื่น ไม่อยากลุก ไม่อยากปล่อยเธอไปจากอ้อมแขนเลยเมื่อคืนเขาเป็นฝ่ายได้เธอ...แต่เช้านี้กลับรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นฝ่ายที่ถูกกลืนลงไปทั้งใจ"ยังไม่อยากลุกเลยตัวเล็ก...อยากกอดแบบนี้ทั้งวัน"น้ำเสียงทุ้มต่ำเต็มไปด้วยความงอแงแบบผู้ใหญ่ที่เอาแต่ใจสุดขีดข้าวหอมหลุดหัวเราะในลำคอ พลางเงยหน้าขึ้นสบตาเขาอย่างง่วงงุน เปลือกตายังหนักอึ้ง แต่รอยยิ้มจางๆที่ปรากฏบนริมฝีปากเล็กนั่นกลับทำให้ธีร์รู้สึกเหมือนโดนแทงเข้ากลางใจอีกครั้งโคตรน่ารัก...น่ารักจนอยากจับขังไว้ในอ้อมกอดทั้งชีวิตเสียงของเขานุ่ม แต่หนักแน่นอย่างที่ข้าวหอมไม่เคยได้ยิน