ความมืดมิดของค่ำคืนไม่ได้ช่วยให้จิตใจของแพรไหมสงบลงเลยแม้แต่น้อย เธอนอนลืมตาค้างอยู่บนเตียงเก่าๆ ในห้องเช่า สายลมเย็นที่พัดผ่านหน้าต่างเข้ามาปะทะผิวกายไม่ได้ช่วยบรรเทาความร้อนรุ่มในใจของเธอได้เลย คำพูดของคริสเตียน คาร์ดินัล ยังคงก้องอยู่ในโสตประสาทอย่างชัดเจน “แต่งงานกับผม” มันคือประโยคสั้นๆ ที่พลิกผันชีวิตเธอไปตลอดกาล
แพรไหมจ้องมองเพดานห้องที่มืดมิด น้ำตาไหลรินลงมาเงียบๆ ไร้เสียงสะอื้น เธอรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจมดิ่งลงสู่ก้นบึ้งของมหาสมุทรที่มืดมิดและเย็นยะเยือก เธอจะทำได้ยังไง จะเอาตัวเองไปผูกมัดกับผู้ชายที่เพิ่งรู้จักได้ยังไง ผู้ชายที่ดุดัน เย็นชาและเต็มไปด้วยอำนาจอันน่าหวาดกลัวคนนั้น
แต่แล้วภาพใบหน้าของพ่อกับแม่ที่แก่ชรา ดวงตาที่เต็มไปด้วยความทุกข์ระทมของแม่เมื่อรู้ว่าที่ดินกำลังจะถูกยึดและน้องชายที่ยังต้องเรียนหนังสือ ก็ผุดขึ้นมาในห้วงความคิด มันคือภาพที่ตอกย้ำให้แพรไหมรู้ว่าเธอไม่มีทางเลือกอื่น เธอคือความหวังเดียวของครอบครัวนี้ ถ้าเธอไม่ ยอม ทุกอย่างก็จะจบสิ้นลง พ่อแม่จะต้องไร้ที่อยู่และน้องชายก็อาจต้องออกจากโรงเรียน
‘ศักดิ์ศรีของฉันมันจะมีความหมายอะไร ถ้าต้องแลกกับการเห็นครอบครัวต้องทนทุกข์’ แพรไหมกัดริมฝีปากแน่นจนได้รสเค็มปร่าของเลือด เธอรู้ว่านี่คือการตัดสินใจที่ยากที่สุดในชีวิต แต่เธอก็ต้องทำ ต้องยอมแลกทุกอย่างเพื่อคนที่เธอรัก
รุ่งเช้าแพรไหมตื่นขึ้นมาด้วยดวงตาที่บวมช้ำจากการร้องไห้ตลอดคืน เธอสวมชุดที่เรียบร้อยที่สุดเท่าที่จะหาได้ เตรียมใจเผชิญหน้ากับชะตากรรมที่เธอได้เลือกไว้
ลีโอ ซานติเอโกมาตามที่คริสเตียนบอกไว้จริงๆ ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งในชุดสูทสีเข้ม ยืนรอเธออยู่หน้าบ้านด้วยท่าทีสุภาพ
“คุณแพรไหมใช่ไหมครับ” ลีโอถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล แต่แววตาของเขาฉายแววสำรวจพิจารณา
“ใช่ค่ะ” แพรไหมตอบเสียงเบา เธอพยายามควบคุมไม่ให้เสียงตัวเองสั่น
“นายคริสเตียนรออยู่ที่คฤหาสน์ครับ เชิญครับ” ลีโอผายมือเชิญไปที่รถเบนซ์คันหรูที่จอดอยู่ด้านหน้า แพรไหมก้าวขึ้นรถไปอย่างเชื่องช้า หัวใจเต้นรัวเหมือนกลองศึกในอก
ตลอดทางแพรไหมนั่งนิ่ง เธอเหลือบมองออกไปนอกหน้าต่าง ภาพตึกรามบ้านช่องที่ผ่านไปอย่างรวดเร็วดูเลือนรางในสายตา ภายในรถเงียบสงบ มีเพียงเสียงเครื่องยนต์ที่ครางเบาๆ และเสียงลมหายใจของเธอที่พยายามควบคุมให้เป็นปกติ ลีโอไม่ได้พูดอะไร เขาแค่ขับรถไปอย่างเงียบๆ และตั้งใจ
ไม่นานรถคันหรูก็เลี้ยวเข้าสู่ถนนส่วนตัวที่ทอดยาวไปยังคฤหาสน์ของคริสเตียน กำแพงสูงใหญ่และรั้วเหล็กดัดที่สลับซับซ้อนบ่งบอกถึงความมั่งคั่งและอำนาจของผู้เป็นเจ้าของ แพรไหมรู้สึกเหมือนกำลังก้าวเข้าสู่เขาวงกตที่ไม่อาจหาทางออก
เมื่อรถจอดสนิทลีโอเปิดประตูให้ แพรไหมก้าวลงจากรถช้าๆ สายตาของเธอกวาดมองไปรอบๆ คฤหาสน์หลังใหญ่สไตล์อิตาเลียนที่โอ่อ่าราวกับหลุดออกมาจากนิทาน แต่กลับให้ความรู้สึกหนาวเหน็บแปลกๆ มันคือกรงทองที่กำลังจะกักขังเธอไว้
ลีโอพาแพรไหมเข้ามาภายในคฤหาสน์ โถงทางเข้าขนาดใหญ่ประดับด้วยโคมไฟระย้าคริสตัลระยิบระยับ พื้นหินอ่อนสีดำเงาวับสะท้อนภาพของเธอที่ดูเล็กจ้อยในอาณาจักรแห่งนี้ เธอรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเพียงมดตัวหนึ่งที่กำลังเดินเข้าไปในถ้ำของราชสีห์
“เชิญทางนี้ครับ” ลีโอผายมือไปยังประตูบานหนึ่งที่เปิดอ้าอยู่ แพรไหมก้าวเข้าไปในห้องที่กว้างขวาง มันคือห้องทำงานของคริสเตียนที่เธอเห็นเมื่อวานนี้
คริสเตียนกำลังยืนอยู่ข้างหน้าต่างบานใหญ่ มองออกไปนอกตัวอาคาร แผ่นหลังกว้างภายใต้เสื้อเชิ้ตสีเข้มดูแข็งแกร่งและน่าเกรงขาม แสงอาทิตย์ยามเช้าสาดส่องเข้ามาจากด้านหลัง ทำให้เขามีเงาสะท้อนที่ดูมืดมิดและลึกลับยิ่งขึ้น เขาไม่ได้หันมามองแพรไหมทันที ทำให้เธอยิ่งรู้สึกกดดัน
“นายครับ คุณแพรไหมมาแล้วครับ” ลีโอรายงาน
คริสเตียนค่อยๆ หันกลับมา ใบหน้าคมคายของเขาไร้อารมณ์ ดวงตาคมกริบสีนิลจับจ้องแพรไหมอย่างพิจารณา ราวกับกำลังสำรวจสิ่งของชิ้นหนึ่ง เธอรู้สึกราวกับถูกเปลือยเปล่าภายใต้สายตาอันเย็นชานั้น
“นั่งสิ” คริสเตียนเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ พยักเพยิดไปที่เก้าอี้ตัวหนึ่งที่อยู่ตรงข้ามโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ของเขา แพรไหมเดินไปนั่งอย่างเชื่องช้า มือของเธอกำเข้าหากันแน่นบนตัก
คริสเตียนเดินกลับมานั่งลงบนเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่ของเขา ทำให้แพรไหมรู้สึกเหมือนถูกอีกฝ่ายข่มขู่ด้วยอำนาจและขนาดของร่างกายที่แตกต่างกันมากนัก
“ตัดสินใจได้แล้วใช่ไหม” คริสเตียนถามตรงๆ ไม่มีอารัมภบทใดๆ ทั้งสิ้น
แพรไหมกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เธอมองเข้าไปในดวงตาที่ลึกล้ำคู่นั้น พยายามรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มี
“ฉัน…ฉันตกลงค่ะ” เสียงของเธอแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน แต่มันก็ชัดเจนพอที่จะไปถึงโสตประสาทของคริสเตียน
คริสเตียนเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย มุมปากของเขาเผยอยิ้มบางๆ ซึ่งแพรไหมไม่แน่ใจว่ามันเป็นรอยยิ้มที่พอใจ หรือเย้ยหยันกันแน่ “ดีมาก คุณตัดสินใจได้ถูกต้องแล้ว”
ลีโอที่ยืนอยู่ไม่ไกลนักรู้สึกโล่งใจเล็กน้อยที่เห็นแพรไหมตัดสินใจได้ เขายังคงกังวลกับเส้นทางที่หญิงสาวตรงหน้าจะต้องเจอ แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเจ็บปวดลึกๆ ในใจเมื่อเห็นหญิงสาวที่เขาแอบชื่นชมต้องตกอยู่ภายใต้การครอบครองของผู้เป็นนาย และความรู้สึกบางอย่างที่ไม่อาจเอ่ยชื่อได้ก็จุกแน่นอยู่ในอก
คริสเตียนหันไปมองลีโอ “จัดการเรื่องเอกสารให้เรียบร้อย ติดต่อทนายความของฉันให้เตรียมเอกสารการสมรสให้พร้อม และจัดการเรื่องหนี้สินของครอบครัวคุณแพรไหมให้เรียบร้อยที่สุด”
“ครับนาย” ลีโอรับคำอย่างแข็งขัน
“ผมจะให้คุณมากกว่าที่คุณต้องการ” คริสเตียนพูดต่อ ดวงตาของเขายังคงจับจ้องที่แพรไหม
“ผมจะปลดหนี้ทั้งหมดของครอบครัวคุณ และโฉนดที่ดินผืนนั้นจะถูกโอนกลับมาเป็นชื่อครอบครัวคุณในวันนี้”
แพรไหมเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เธอไม่คาดคิดว่าเขาจะทำเร็วขนาดนี้ ความรู้สึกโล่งใจถาโถมเข้ามาจนเธอเกือบจะร้องไห้ออกมาอีกครั้ง แต่เธอก็ต้องกัดฟันกลั้นเอาไว้
“ขอบคุณค่ะ” เธอพูดเสียงเบา
“คุณไม่จำเป็นต้องขอบคุณผม คุณแค่ทำหน้าที่ของคุณให้ดีที่สุด” คริสเตียนตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ในฐานะภรรยาของคริสเตียน คาร์ดินัล”
ประโยคนั้นทำให้แพรไหมรู้สึกเหมือนถูกตอกย้ำถึงสถานะของเธอ เธอไม่ใช่เจ้าสาวที่แต่งงานด้วยความรัก แต่เป็นเพียงสินค้าที่ถูกแลกเปลี่ยน
“ส่วนเรื่องพิธีแต่งงาน” คริสเตียนพูดต่อ
“ผมต้องการให้เป็นพิธีเงียบๆ มีเพียงคนในครอบครัวและคนสนิทเท่านั้น”
แพรไหมพยักหน้า เธอเข้าใจดีว่าคนอย่างเขาคงไม่อยากให้เรื่องนี้เป็นข่าวครึกโครม หรืออาจจะไม่อยากให้ใครรู้ว่าเขาแต่งงานกับผู้หญิงธรรมดาๆ อย่างเธอ
“ชีวิตของคุณหลังจากนี้จะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง คุณต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ในโลกของผม เรียนรู้กฎของผม และทำตามคำสั่งของผม” คริสเตียนพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“ผมไม่ชอบการขัดคำสั่ง”
‘โลกของเขา…โลกแห่งความมืดมิดและอันตรายที่เธอต้องก้าวเข้าไป’ แพรไหมคิดในใจ เธอรู้ว่าชีวิตของเธอจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เธอจะต้องสละความฝัน สละความสุขส่วนตัว เพื่อก้าวเข้าสู่กรงทองที่เขาเตรียมไว้ให้
“คุณเข้าใจนะ” คริสเตียนถาม ดวงตาคมกริบจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของเธอ ราวกับจะค้นหาความรู้สึกภายในใจ
“เข้าใจค่ะ” แพรไหมตอบเสียงเบา เธอพยายามซ่อนความกลัวที่อยู่ในแววตา
“ดี” คริสเตียนพยักหน้าเล็กน้อย
“อีกสองอาทิตย์ พิธีจะจัดขึ้น”
แพรไหมรู้สึกเหมือนเวลาหยุดเดินไปชั่วขณะ เพียงแค่สองอาทิตย์...ทุกอย่างจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง
ทันใดนั้น ประตูห้องทำงานก็ถูกเปิดออกอีกครั้งโดยนิคน้องชายต่างมารดาของคริสเตียน เขาก้าวเข้ามาในห้องด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์บนใบหน้า
“ฉันบอกแล้วไม่ใช่เหรอพี่ชาย ว่ามันจะน่าสนใจ” นิคหัวเราะหึๆ ในลำคอ เขามองแพรไหมด้วยแววตาประเมิน นี่เป็นผู้หญิงที่ดูบอบบางแต่แฝงด้วยความแข็งแกร่งและเขารู้สึกได้ว่าชีวิตของพี่ชายที่แสนจะเคร่งขรึมกำลังจะเปลี่ยนไปอย่างสนุกสนาน
“ทำไมไม่เคาะประตู” คริสเตียนเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ แต่ก็ไม่ได้แสดงความไม่พอใจมากนัก
“โอ้โห…พี่ชายไม่ใจดีกับฉันเลยนะเนี่ย” นิคยักไหล่
“ฉันแค่จะมาแสดงความยินดีกับว่าที่พี่สะใภ้คนสวยไง”
นิคเดินตรงมาที่แพรไหม เขายื่นมือออกไปพร้อมรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม “ยินดีที่ได้รู้จักครับพี่สะใภ้คนสวย ผมนิโคลัส คาร์ดินัล น้องชายสุดหล่อของพี่ชายเย็นชาคนนี้นี่แหละ”
แพรไหมลังเลเล็กน้อย ก่อนจะยื่นมือออกไปจับมือกับนิคอย่างแผ่วเบา มือของนิคอบอุ่นและนุ่มนวลกว่าที่เธอคิด
คริสเตียนมองการกระทำของน้องชายด้วยสายตาเย็นชา แต่แววตาของเขากลับมีความหงุดหงิดเล็กน้อยที่นิคเข้ามาวุ่นวายกับสิ่งของที่เขาเพิ่งครอบครอง
“ออกไปนิค” คริสเตียนสั่งเสียงเรียบ
“โธ่…พี่ชาย! อะไรกันนี่ ยังไม่ทันได้คุยกันเลย” นิคโวยวาย
“ฉันมีเรื่องต้องคุยกับแพรไหมอีก” คริสเตียนพูดตัดบท ทำให้แพรไหมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นหัวข้อธุรกิจที่กำลังถูกเจรจา
นิคยิ้มให้แพรไหมอีกครั้งก่อนจะเดินออกจากห้องไปอย่างไม่เต็มใจนัก ทิ้งให้แพรไหมอยู่กับคริสเตียนอีกครั้ง ความรู้สึกอึดอัดกลับเข้ามาปกคลุม
“ลีโอจะพาคุณไปดูห้องพัก” คริสเตียนบอก
“หลังจากนี้ คุณจะต้องย้ายเข้ามาอยู่ในคฤหาสน์ของผมทันที เพื่อเตรียมตัวสำหรับพิธี”
แพรไหมพยักหน้า เธอรู้ดีว่าเธอไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ แพรไหมลุกขึ้นยืนช้าๆ เธอเดินตามลีโอออกจากห้องทำงานของคริสเตียนไปช้าๆ แสงแดดที่เคยส่องเข้ามาทางหน้าต่างบานใหญ่ดูมืดมิดลงไปถนัดตา เธอรู้ว่าเธอได้ก้าวเข้ามาในโลกที่มืดมิดอย่างแท้จริงแล้ว และชีวิตของเธอจากนี้ไปจะถูกผูกมัดไว้กับมาเฟียผู้ทรงอำนาจคนนี้ ไม่มีวันหวนคืน
จุดที่แพรไหมยืนอยู่ สายตาของเขากวาดผ่านแพรไหมไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้แพรไหมรู้สึกเหมือนถูกไฟฟ้าช็อต
งานประมูลเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ พิธีกรกล่าวเปิดงานและเริ่มนำเสนอทรัพย์สินชิ้นแรก แพรไหมยืนอยู่ด้านหลังสุด หวังเพียงว่าจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น
เมื่อถึงคิวที่ดินของครอบครัวเธอถูกนำออกประมูล พิธีกรก็เริ่มบรรยายคุณสมบัติของที่ดินอย่างละเอียด แพรไหมกำมือแน่น เหงื่อซึมออกมาจากฝ่ามือ เธอหลับตาภาวนาให้มีใครสักคนให้โอกาสเธอได้มีเวลาหาเงินเพิ่ม
“เปิดประมูลที่ราคาห้าสิบล้านบาทครับ” พิธีกรประกาศ
เสียงฮือฮาดังขึ้นในห้อง แพรไหมตกใจกับตัวเลขนั้นมาก เธอไม่มีทางหาเงินได้ถึงจำนวนนั้นแน่นอน
“ห้าสิบห้าล้านบาทครับ” เสียงแรกดังขึ้น
“หกสิบล้านบาท!” ตามมาด้วยเสียงที่สอง
ราคาประมูลพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว แพรไหมใจหายใจคว่ำ เธอรู้สึกเหมือนหัวใจกำลังจะหยุดเต้น ภาพความทรงจำกับพ่อแม่ที่ที่ดินผืนนั้นฉายวนในหัว ภาพสวนผลไม้ที่เธอเคยวิ่งเล่นเมื่อวัยเด็กฉายชัดขึ้นมาในมโนสำนึก ทุกความทรงจำดีๆ กำลังจะถูกพรากไป ‘ไม่นะ…ไม่’ เธออยากจะร้องไห้ออกมาดังๆ แต่ก็ต้องกลั้นเอาไว้
ในจังหวะนั้นเอง เสียงที่ทรงอำนาจและเรียบเฉยก็ดังขึ้นมาจากแถวหน้าสุด
“หนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาท”
ทุกคนในห้องประมูลเงียบกริบ แพรไหมเบิกตากว้าง หันไปมองต้นเสียงคริสเตียน คาร์ดินัล กำลังนั่งไขว่ห้างอย่างสงบ สีหน้าของเขาไร้อารมณ์ แต่แววตาคมกริบนั้นเต็มไปด้วยความมั่นใจ เขากำลังถือป้ายหมายเลขประมูลอยู่
“หนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาท” พิธีกรประกาศย้ำด้วยความตื่นเต้น
ไม่มีใครกล้าสู้ราคา แพรไหมเองก็ตกตะลึงกับตัวเลขนั้น เธอไม่เคยคิดว่าจะมีใครบ้าคลั่งประมูลที่ดินเล็กๆ ผืนหนึ่งด้วยราคาสูงขนาดนี้
“หนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาท! ครั้งที่หนึ่ง!”
“หนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาท! ครั้งที่สอง!”
“หนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาท! ครั้งที่สาม!”
“ขายขาด! ที่ดินแปลงนี้เป็นของท่านคริสเตียน คาร์ดินัล!”
เสียงค้อนทุบดัง “ปัง!” พร้อมกับเสียงปรบมือดังขึ้น แพรไหมรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบหยุดหมุนไปชั่วขณะ ที่ดินของครอบครัวเธอตกเป็นของชายแปลกหน้าผู้นี้แล้ว
เธอเดินฝ่าฝูงชนเข้าไปหาคริสเตียนด้วยความกล้าหาญที่แปลกใจตัวเอง
“คุณ…คุณซื้อที่ดินของฉันไปทำไมคะ!”
คริสเตียนหันมามองแพรไหม ใบหน้าของเขายังคงนิ่งเฉย แต่แววตาคมกริบคู่นั้นจับจ้องเธออย่างพิจารณา ราวกับกำลังประเมินค่าบางอย่างในตัวเธอ
“มันเป็นธุรกิจ” คริสเตียนตอบสั้นๆ น้ำเสียงทุ้มต่ำและเย็นชา ทำให้แพรไหมรู้สึกเหมือนถูกน้ำแข็งสาดใส่
“แต่นั่นคือที่ดินของครอบครัวฉัน! คุณรู้ไหมว่ามันมีความหมายกับเรามากแค่ไหน!” แพรไหมพยายามควบคุมอารมณ์ แต่เสียงของเธอก็ยังสั่นเครือ
“ผมไม่สนใจเรื่องส่วนตัว” คริสเตียนตอบอย่างไม่ไยดี “ผมแค่ซื้อสิ่งที่ผมต้องการ”
คำพูดของคริสเตียนทำให้แพรไหมรู้สึกเจ็บแปลบ เธอรู้ว่าเธอไม่มีสิทธิ์ที่จะต่อรองอะไรกับเขา แต่ก็อดที่จะอ้อนวอนไม่ได้
“ได้โปรดเถอะค่ะ…ฉันขอร้อง ให้ฉันไถ่คืนได้ไหมคะ ฉันจะหาเงินมาให้คุณให้ได้” แพรไหมพูดเสียงสั่น น้ำตาเริ่มคลอเบ้า
คริสเตียนมองใบหน้าเปื้อนน้ำตาของแพรไหม หัวใจของเขาแทบไม่สะทกสะท้านกับความน่าสงสารนั้น ทว่าบางสิ่งบางอย่างในตัวเธอ แววตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและศักดิ์ศรีที่ยังหลงเหลืออยู่ แม้จะอยู่ในสถานะที่สิ้นหวัง ทำให้เขารู้สึกแปลกใจ
“ไถ่คืน” คริสเตียนยิ้มมุมปากเล็กน้อย รอยยิ้มที่ดูเหมือนจะเย้ยหยันมากกว่าเป็นมิตร
“คุณคิดว่าคุณจะมีเงินมากพอที่จะซื้อที่ดินผืนนี้จากผมงั้นหรือ”
“ฉันจะหาให้ได้ค่ะ! ฉันจะทำงานทุกอย่างเพื่อมัน” แพรไหมตอบอย่างไม่ยอมแพ้
คริสเตียนก้าวเข้ามาใกล้แพรไหมอีกก้าว ร่างกายสูงใหญ่ของเขาบดบังแสงสว่างที่สาดส่องเข้ามาจากด้านหลัง ดวงตาคมกริบจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของแพรไหม ราวกับจะเจาะทะลุเข้าไปในจิตใจของเธอ
“มีทางเดียวที่คุณจะได้ที่ดินผืนนี้คืน” คริสเตียนพูดเสียงทุ้มต่ำ ดวงตาของเขาดูเหมือนจะทอประกายบางอย่างที่ทำให้แพรไหมรู้สึกหวั่นไหวและเมื่อแพรไหมเดินเข้ามาเผชิญหน้ากับเขาอย่างกล้าหาญ คริสเตียนก็รู้ทันทีว่าเขาต้องครอบครองเธอ ไม่ใช่แค่ที่ดิน
“ทางไหนคะ” แพรไหมถามอย่างมีความหวัง
คริสเตียนโน้มตัวลงมาเล็กน้อย กระซิบข้างหูของแพรไหม เสียงของเขาเย็นยะเยือก แต่กลับเต็มไปด้วยแรงดึงดูดอันตราย
“แต่งงานกับผม”
แพรไหมเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เธอนึกว่าตัวเองหูฝาดไป คริสเตีย มาเฟียผู้ทรงอิทธิพลผู้นี้ กำลังเสนอให้เธอแต่งงานกับเขาเพื่อแลกกับที่ดินงั้นหรือ
“อะไรนะคะ!” แพรไหมเผลออุทานออกมาอย่างตกใจ
“คุณไม่ได้หูฝาด” คริสเตียนยิ้มมุมปากอีกครั้ง รอยยิ้มที่ทำให้แพรไหมรู้สึกขนลุก
“คุณต้องแต่งงานกับผม เป็นภรรยาของผมและผมจะปลดหนี้ทั้งหมดของครอบครัวคุณให้ รวมถึงคืนโฉนดที่ดินผืนนี้ให้ด้วย”
แพรไหมถอยหลังไปก้าวหนึ่ง เธอสับสนและหวาดกลัว นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน เธอไม่เคยคิดฝันว่าชีวิตจะมาถึงจุดนี้ จุดที่เธอต้องยอมขายตัวเองเพื่อช่วยครอบครัว
“นี่มัน…มันเป็นไปไม่ได้!” แพรไหมปฏิเสธทันที
“เป็นไปได้” คริสเตียนตอบด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ
“หรือคุณอยากเห็นที่ดินผืนนี้ตกเป็นของผม และหนี้สินของครอบครัวคุณยังคงอยู่”
คำพูดของคริสเตียนเหมือนมีดกรีดลงไปในใจของแพรไหม เธอรู้ว่าเขาพูดถูก เธอไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากยอมรับข้อเสนอที่บ้าคลั่งนี้ เพื่อครอบครัวของเธอ เพื่อพ่อกับแม่ที่แก่ชรา และน้องชายที่ยังต้องเรียนหนังสือ
โลกทั้งใบดูเหมือนจะหยุดหมุนเมื่อคำพูดนั้นหลุดออกจากปากเขา ‘แต่งงานกับผม…’ มันคือคำขาดที่รุนแรงและป่าเถื่อนที่สุดที่เธอเคยได้ยิน ศักดิ์ศรีของผู้หญิงคนหนึ่งกำลังถูกเหยียบย่ำ แต่เมื่อภาพใบหน้าของพ่อแม่ที่ชราลงผุดขึ้นมาในหัว น้ำตาที่เคยไหลรินกลับแห้งไป เธอรู้ว่าตัวเองไม่มีทางเลือก ‘ฉันเกลียดเขา…เกลียดความอำมหิตของเขา แต่ทำไม…ทำไมแววตาคู่นั้นถึงได้น่ากลัวและดึงดูดได้ในเวลาเดียวกัน’ ความรู้สึกที่สับสนปะปนไปหมด
สายตาของแพรไหมกวาดมองไปทั่วห้องประมูล เธอเห็นสายตาของผู้คนมากมายที่จับจ้องมาที่เธอและคริสเตียน บางคนมองด้วยความสงสาร บางคนมองด้วยความอยากรู้อยากเห็น และบางคนก็มองด้วยความรู้สึกประหลาดใจ
ลีโอที่ยืนอยู่ไม่ไกลเบิกตากว้างเมื่อได้ยินข้อเสนอของผู้เป็นนาย ‘นายแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้งั้นหรือ’ หัวใจของเขารู้สึกแปลบๆ อย่างไม่อาจเข้าใจ เขามองแพรไหมที่ยืนตัวสั่นด้วยความสงสาร และความรู้สึกบางอย่างที่ไม่อาจเอ่ยชื่อได้ก็จุกแน่นอยู่ในอก
นิคหัวเราะหึๆ ในลำคอ ‘ฉันบอกแล้วไม่ใช่เหรอพี่ชาย ว่ามันจะน่าสนใจ’ เขามองแพรไหมด้วยแววตาประเมิน นี่เป็นผู้หญิงที่ดูบอบบางแต่แฝงด้วยความแข็งแกร่ง และเขารู้สึกได้ว่าชีวิตของพี่ชายที่แสนจะเคร่งขรึมกำลังจะเปลี่ยนไปอย่างสนุกสนาน
แพรไหมกัดริมฝีปากแน่น เธอกำลังต่อสู้กับตัวเองอย่างหนักระหว่างความรู้สึกศักดิ์ศรีและความเป็นลูกที่ดีที่ต้องช่วยครอบครัว
“คุณให้เวลาฉันคิดได้ไหมคะ” แพรไหมถามเสียงเบา
คริสเตียนมองนาฬิกาบนข้อมือ “ผมให้เวลาคุณยี่สิบสี่ชั่วโมง พรุ่งนี้เวลาเดียวกัน ถ้าคุณไม่ตอบตกลง ผมจะทำลายที่ดินผืนนั้นทิ้ง และหนี้สินของครอบครัวคุณก็จะยังคงอยู่”
คำพูดของคริสเตียนเหมือนฟางเส้นสุดท้ายที่ตัดขาดความหวังของแพรไหม เขาไม่ได้กำลังเสนอทางเลือกให้เธอ แต่กำลังบังคับให้เธอต้องตัดสินใจ และเธอรู้ว่าเธอไม่มีทางเลือกอื่นเลย
น้ำตาของแพรไหมไหลรินลงมาเงียบๆ ไร้เสียงสะอื้น เธอเงยหน้าขึ้นมองคริสเตียนอีกครั้ง ใบหน้าของเขาไม่มีความเห็นอกเห็นใจแม้แต่น้อย มีเพียงความเด็ดขาดและความมุ่งมั่นที่จะได้สิ่งที่เขาต้องการ
“ฉัน…ฉันตกลงค่ะ” แพรไหมพูดเสียงแผ่วเบา ราวกับว่าคำพูดแต่ละคำที่หลุดออกจากปากเธอจะฉีกหัวใจของเธอออกเป็นชิ้นๆ
คริสเตียนยิ้มมุมปากเล็กน้อย รอยยิ้มที่แทบมองไม่เห็น แต่แววตาของเขากลับดูพอใจอย่างยิ่ง เขาได้ในสิ่งที่เขาต้องการแล้ว
“ดีมาก” คริสเตียนพูด
“พรุ่งนี้เช้า ผมจะส่งคนไปรับคุณที่บ้าน เตรียมตัวให้พร้อม”
จากนั้นคริสเตียนก็หันหลังกลับ เดินออกไปจากห้องประมูลพร้อมกับลีโอและนิค โดยไม่เหลือบแลแพรไหมอีกแม้แต่น้อย
แพรไหมยืนอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมายที่มองมาที่เธอ สายตาเหล่านั้นเต็มไปด้วยความสงสารและความอยากรู้อยากเห็น แต่แพรไหมไม่สนใจอะไรอีกแล้ว เธอรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจมดิ่งลงไปในห้วงลึกของความมืดมิด
เธอขายตัวเองให้กับมาเฟียเพื่อช่วยครอบครัว สิ่งที่เธอไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นในชีวิตของเธอ แพรไหมได้แต่ภาวนาว่าเธอจะผ่านพ้นเรื่องราวทั้งหมดนี้ไปได้ และครอบครัวของเธอจะปลอดภัย
ตอนที่ 80 เติมเต็มความสมบูรณ์ของครอบครัวหลังผ่านบทพิสูจน์แห่งผู้นำ และการกอบกู้วิกฤตการณ์ครั้งสำคัญ อเล็กซานเดอร์ ได้รับความไว้วางใจจากทุกฝ่าย แต่สิ่งที่เติมเต็มชีวิตของเขาและ ลลิล ให้สมบูรณ์แบบอย่างแท้จริงคือ ข่าวดีที่สุด ที่พวกเขารอคอยมาตลอด เสียงเล็กๆ ในอนาคตกำลังจะกลายเป็นความจริง และนำพาความสุขมาสู่ตระกูลคาร์ดินัลอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนหลังจากที่ทั้งสองคนได้พูดคุยกันอย่างจริงจังเรื่องการมีทายาท อเล็กซานเดอร์ และ ลลิล ก็เริ่มเตรียมตัวสำหรับการเป็นพ่อแม่ ลลิลเริ่มศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการตั้งครรภ์และการดูแลทารกอย่างละเอียด ส่วนอเล็กซานเดอร์ก็เริ่มจัดเตรียมห้องเล็กๆ ในคอนโดเพื่อรอรับสมาชิกใหม่ความคาดหวังเพิ่มขึ้นในทุกๆ วัน แต่พวกเขาก็พยายามไม่กดดันตัวเอง จนกระทั่งเช้าวันหนึ่ง ลลิลรู้สึกไม่สบายตัว อาการคลื่นไส้และอ่อนเพลียทำให้เธอสงสัย เธอตัดสินใจใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ และผลลัพธ์ที่ปรากฏก็ทำให้หัวใจของเธอเต้นรัวด้วยความสุขและความตื่นเต้นสองขีดสีชมพู ปรากฏชัดเจน ลลิลกรีดร้องด้วยความดีใจ เธอไม่สามารถเก็บความลับนี้ไว้คนเดียวได้ เธอตัดสินใจจะบอกข่าวดีนี้กับอเล็กซานเดอร์ในทันที แต่เธอ
ตอนที่ 79 บทพิสูจน์แห่งผู้นำท่ามกลางความกังวลเรื่องทายาทและความสุขในชีวิตคู่ อเล็กซานเดอร์ ก็ต้องเผชิญกับบททดสอบครั้งสำคัญในบทบาทของผู้นำ นั่นคือการแก้ไขวิกฤตการทุจริตที่เกิดขึ้นในโครงการพัฒนาเทคโนโลยีอัจฉริยะ ความท้าทายนี้ไม่เพียงเป็นการพิสูจน์ความสามารถของเขา แต่ยังเป็นการตอกย้ำถึงคุณธรรมและความโปร่งใสที่ กลุ่มคาร์ดินัล ยุคใหม่ยึดมั่นเมื่อหลักฐานเริ่มชัดเจนว่ามีการทุจริตจริงในบริษัทสตาร์ทอัพที่คาร์ดินัลลงทุนไป อเล็กซานเดอร์ ก็ตัดสินใจดำเนินการอย่างเด็ดขาดและรอบคอบ เขาไม่ได้ต้องการเพียงแค่จับตัวผู้กระทำผิด แต่ต้องการถอนรากถอนโคนปัญหา เพื่อไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคตอเล็กซานเดอร์เรียกประชุมทีมงานคนสำคัญของคาร์ดินัลที่เกี่ยวข้องกับโครงการนี้ รวมถึง เดฟ และหัวหน้าฝ่ายกฎหมาย เขาเน้นย้ำถึงความสำคัญของการรักษาชื่อเสียงและความโปร่งใสของบริษัท“เราจะไม่ยอมให้การทุจริตใดๆ มาแปดเปื้อนชื่อเสียงของคาร์ดินัลอีกแล้ว” อเล็กซานเดอร์กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นในห้องประชุม “เราต้องทำทุกอย่างให้ถูกต้องและเป็นธรรมที่สุด”เขามอบหมายให้ทีมผู้ตรวจสอบบัญชีอิสระที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี เข้าม
ตอนที่ 78 บททดสอบใหม่และเสียงเล็กๆ ในอนาคตชีวิตคู่ของ อเล็กซานเดอร์ และ ลลิล ดำเนินไปอย่างราบรื่นและอบอุ่น แต่ในโลกของธุรกิจและความรับผิดชอบที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ย่อมมี ความท้าทายใหม่ๆ เข้ามาทดสอบความเข้มแข็งของพวกเขาเสมอ และท่ามกลางความท้าทายเหล่านั้น เสียงเล็กๆ ในอนาคตก็เริ่มดังขึ้นในหัวใจของทั้งคู่ในขณะที่โครงการเยียวยาชุมชนของมูลนิธิคาร์ดินัลดำเนินไปอย่างงดงาม และได้รับคำชื่นชมอย่างกว้างขวาง ปัญหาใหม่กลับเกิดขึ้นภายในอาณาจักรธุรกิจของคาร์ดินัลเองคริสเตียน ได้มอบหมายให้ อเล็กซานเดอร์ เข้ามาดูแลการลงทุนใน โครงการพัฒนาเทคโนโลยีอัจฉริยะ ซึ่งเป็นสาขาใหม่ที่คาร์ดินัลกำลังให้ความสนใจอย่างมาก แต่โครงการนี้กลับประสบปัญหาตั้งแต่เริ่มต้นมีรายงานว่าบริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีที่คาร์ดินัลเข้าไปลงทุน มีปัญหาเรื่องการบริหารจัดการภายใน การพัฒนาผลิตภัณฑ์ล่าช้ากว่ากำหนด และที่สำคัญที่สุดคือ มี ข่าวลือเรื่องการทุจริต ของผู้บริหารระดับสูงบางรายในบริษัทนั้น“พ่อว่าเรื่องนี้ต้องตรวจสอบให้ละเอียดเลยนะอเล็กซานเดอร์” คริสเตียนกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียดในห้องทำงานของเขา “เราไม่อยากให้ชื่อเสียงของคา
ตอนที่ 77 บทใหม่แห่งชีวิตร่วมหลังพิธีวิวาห์ที่อบอุ่นและเปี่ยมด้วยความหมาย อเล็กซานเดอร์ และ ลลิล ก็ได้เริ่มต้นบทใหม่ของชีวิตในฐานะสามีภรรยาอย่างเป็นทางการ การใช้ชีวิตคู่ไม่ใช่แค่เรื่องของความรักที่โรแมนติก แต่ยังรวมถึงการปรับตัว การเรียนรู้ และการเติบโตไปพร้อมกันในทุกๆ วันชีวิตคู่เริ่มต้นขึ้นที่คอนโดมิเนียมสุดหรูของอเล็กซานเดอร์ ซึ่งบัดนี้กลายเป็น "เรือนหอ" ที่อบอุ่นและเป็นส่วนตัวของพวกเขา แม้จะเคยมาพักอยู่ด้วยกันบ่อยครั้ง แต่การย้ายข้าวของทั้งหมดเข้ามาอยู่ด้วยกันอย่างถาวร ก็เป็นประสบการณ์ที่แตกต่างออกไปลลิลใช้ความสามารถด้านการออกแบบของเธอเข้ามาเนรมิตห้องชุดให้เป็นพื้นที่ที่สะท้อนตัวตนของทั้งคู่ได้อย่างลงตัว เธอเพิ่มความสดชื่นด้วยต้นไม้เล็กๆ และเปลี่ยนผ้าม่านเป็นสีเอิร์ธโทนที่อบอุ่น นอกจากนี้ยังมีมุมเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยหนังสือและงานศิลปะที่เธอชื่นชอบ ทำให้คอนโดแห่งนี้มีชีวิตชีวาและเป็น "บ้าน" อย่างแท้จริง“คุณชอบไหมครับคุณ” อเล็กซานเดอร์ถามด้วยรอยยิ้มหลังจากที่ลลิลจัดข้าวของเสร็จเรียบร้อยลลิลโอบแขนรอบเอวเขา “ฉันชอบมากค่ะที่รัก มันเป็นบ้านของเราจริงๆ”การปรับตัวเข้าหากันในรายละเอียด
ตอนที่ 76 ถักทอความรัก สู่พิธีวิวาห์หลังจากที่ อเล็กซานเดอร์ ได้ขอ ลลิล แต่งงานอย่างเป็นทางการ บรรยากาศของความสุขและความตื่นเต้นก็ปกคลุมไปทั่วคฤหาสน์คาร์ดินัล การเตรียมงานแต่งงานเริ่มต้นขึ้นอย่างเรียบง่าย แต่อบอุ่นและเต็มไปด้วยความหมาย สะท้อนถึงความรักที่มั่นคงและบริสุทธิ์ของทั้งคู่ทั้งอเล็กซานเดอร์และลลิลต่างเห็นพ้องต้องกันว่างานแต่งงานของพวกเขาจะต้อง เรียบง่าย อบอุ่น และเป็นส่วนตัว โดยเน้นไปที่ความหมายและความผูกพันของสองครอบครัวมากกว่าความหรูหราอลังการ“ฉันอยากให้งานแต่งงานของเราเป็นวันที่เราได้แบ่งปันความสุขกับคนที่เรารักและห่วงใยค่ะที่รัก” ลลิลบอกกับอเล็กซานเดอร์ในขณะที่พวกเขากำลังปรึกษากันเรื่องการจัดงานอเล็กซานเดอร์ยิ้ม “ผมก็คิดอย่างนั้นครับคุณ”พวกเขาตัดสินใจที่จะจัดพิธีหมั้นและงานแต่งงานเล็กๆ ที่ คฤหาสน์คาร์ดินัล ซึ่งเป็นสถานที่ที่ลลิลมีความทรงจำดีๆ มากมาย และเป็นเหมือนบ้านอีกหลังของเธอ โดยจะมีเพียงญาติสนิทและเพื่อนสนิทเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้รับเชิญแพรไหม ผู้เป็นแม่ของอเล็กซานเดอร์ เป็นผู้ดูแลการเตรียมงานทั้งหมดอย่างละเอียดอ่อน เธอต้องการให้งานแต่งงานของลูกชายออกมาสมบู
ตอนที่ 75 จุดเริ่มต้นแห่งชีวิตคู่หลังจากผ่านพ้นอุปสรรคและร่วมสร้างสรรค์สิ่งดีๆ มาด้วยกัน อเล็กซานเดอร์ ก็ตระหนักแล้วว่า ลลิล คือผู้หญิงที่ฟ้าส่งมาให้เขา เขาไม่ต้องการรออีกต่อไป ถึงเวลาแล้วที่ความรักของพวกเขาจะก้าวไปอีกขั้น สู่การเริ่มต้นชีวิตคู่ที่ชัดเจนและมั่นคงการขอแต่งงานไม่ใช่แค่เรื่องของคำพูด แต่เป็นเรื่องของความรู้สึกและช่วงเวลาที่สมบูรณ์แบบ อเล็กซานเดอร์ใช้เวลาหลายวันในการวางแผน เขาอยากให้การขอแต่งงานครั้งนี้เป็นความทรงจำที่ลลิลจะไม่มีวันลืมเขาปรึกษาเรื่องนี้กับ แพรไหม ผู้เป็นแม่ ซึ่งเป็นคนที่เข้าใจหัวใจของผู้หญิงดีที่สุด“ลูกอยากขอแต่งงานกับลลิลครับแม่” อเล็กซานเดอร์กล่าวด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุข “ผมอยากให้มันเป็นอะไรที่พิเศษที่สุดสำหรับเธอ”แพรไหมยิ้มอย่างอ่อนโยน “แม่ดีใจด้วยนะลูก แม่รู้ว่าลลิลคือคนที่ใช่สำหรับลูกจริงๆ”แพรไหมช่วยอเล็กซานเดอร์วางแผนอย่างละเอียด เธอแนะนำให้เขาเลือกสถานที่ที่มีความหมายกับทั้งคู่ และสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นส่วนตัว อเล็กซานเดอร์คิดถึง บ้านพักที่เขาใหญ่ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ความรักของเขาและลลิลเริ่มต้นขึ้นอย่างแท้จริงเขาจัดเตรียมทุกอย่