หน้าหลัก / โรแมนติก / พิศวาสล่ามรัก / ตอนที่ 5 กันไว้ดีกว่าแก้

แชร์

ตอนที่ 5 กันไว้ดีกว่าแก้

ผู้เขียน: จินต์พิชา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-12 20:43:46

 

          รถคันหรูจอดหน้าร้านอาหารตามสั่ง มีนาที่นั่งคู่มากับคนขับรถด้านหน้า รีบเปิดประตูลงมาก่อน จากนั้นตัวเองก็เปิดประตูทางด้านหลังให้กับดลฤดี ส่วนอีกด้านคนขับรถก็เปิดให้กับคุณดวงกมล

“สวัสดีค่ะคุณท่าน คุณฤดี มีนาไปกวนอะไรหรือเปล่าคะถึงได้พามาส่ง” มุกดายกมือไหว้ผู้มีพระคุณทั้งสอง

“ไม่ได้กวนหรอกจ้ะน้ามุก”

“เชิญคุณท่านกับคุณฤดีด้านในก่อนนะคะ ร้านคับแคบไปหน่อย”

“ไม่เป็นไรจ้ะมุกดา ที่ฉันกับลูกสาวมาวันนี้ก็อยากจะมาขออนุญาตพามีนาไปช่วยดูแลลูกชายฉันสักระยะ ไม่รู้จะรบกวนเกินไปหรือเปล่า”

“ไม่เลยค่ะ มีนาปิดเทอมหลายเดือนคุณท่านใช้งานได้เต็มที่เลยนะคะ”

“แล้วที่ร้านไม่ลำบากใช่ไหม”

“ไม่เลยค่ะ ให้มีนาไปอยู่กับคุณท่านช่วงปิดเทอมเลยก็ได้นะคะ”

ดวงกมลมองไปในร้านเห็นผู้ชายคนหนึ่งนั่งมองมาทางพวกเขา เธอก็เดาว่าน่าจะเป็นสามีใหม่ของมุกดา เพราะตอนนั่งมาในรถมีนาเล่าให้ฟังบ้างแล้วว่าตอนนี้ที่ร้านมีสามีใหม่ของมารดามาช่วยขายของและมาอาศัยอยู่ด้วย

“มีนาล่ะ ว่ายังไง”

“ได้ค่ะ มีนาไม่มีปัญหา”

“ถ้าอย่างนั้นหนูก็เก็บของรอ พรุ่งนี้เช้าพี่จะให้น้าชัยแวะรับหนูไปที่โรงพยาบาล”

“ได้ค่ะ มีนาจะเตรียมตัวรอตั้งแต่เช้านะคะ”

“ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวก่อนนะมุกดา ขอบใจมากนะที่ยอมให้มีนาไปช่วยดูแลตาดล”

“ไม่เป็นไรเลยค่ะคุณท่าน เราสองแม่ลูกยินดีทำทุกอย่างค่ะ พรุ่งนี้มุกขออนุญาตทำข้าวต้มไปเยี่ยมคุณดลได้ไหมคะ”

“ได้สิ ขอบใจมากนะ ฉันไปก่อนล่ะ”

คุณดวงกมลและลูกสาวเดินกลับมาที่รถ สีหน้าของผู้สูงวัยดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่

“มีอะไรหรือเปล่าคะแม่” ดลฤดีถามเมื่อรถเคลื่อนตัวออกมาจากหน้าร้านได้ไม่นาน

“ฤดีเห็นไหมว่าผู้ชายคนนั้นมองตามมีนาตลอด”

“คุณแม่ก็เห็นเหรอคะ” เพราะตอนที่เธอคุยกับมุกดา ยังมีลูกค้าอยู่ในร้าน มีนาเลยทำหน้าที่เอาอาหารไปเสิร์ฟและเก็บโต๊ะ เธอสังเกตเห็นว่าสามีของมุกดามองตามหลังมีนาตลอด ไม่ว่าหญิงสาวจะทำอะไรเขาก็จ้องเหมือนเสือกำลังจะตะครุบเหยื่อ

“แม่ไม่สบายใจเลย ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า”

“ฤดีว่ามีนาก็คงรู้สึกตัวแหละค่ะ ตอนที่เล่าถึงผู้ชายคนนั้นดูเหมือนมีอะไรในใจบางอย่าง”

“ช่วงนี้ให้มีนาไปนอนเฝ้าตาดลที่โรงพยาบาลก่อน ถ้าเขาออกจากโรงพยาบาลแม่ว่าจะให้น้องกลับมาอยู่ที่บ้านหลังเล็ก ไม่อยากให้ไปอยู่ที่คอนโดคนเดียว”

“แล้วมีนาล่ะคะ ให้มาอยู่ด้วยกันที่นี่เลยดีไหมคะ บ้านหลังเล็กก็มีตั้งสองห้อง ให้มีนาช่วยดูแล เพราะถ้าจะจ้างพยาบาลมาที่บ้านฤดีว่าน้องคงไม่ยอมแน่ๆ” เธอรู้นิสัยน้องชายดีว่าชอบความเป็นส่วนตัว เขาถึงได้ย้ายออกไปอยู่ที่คอนโดตามลำพัง

“ก็ดีเหมือนกัน แม่เป็นห่วงนะ มีนาเป็นเด็กดีเรียนเก่ง”

“เราสองคนคงไม่คิดมากไปเองใช่ไหมคะแม่”

“กันไว้ก็ยังดีกว่าแก้นะฤดี อีกอย่างบ้านเราก็มีเด็กตั้งหลายคนจะเพิ่มมีนามาอยู่ด้วยอีกคนก็คงไม่เป็นไรหรอก”

“เดี๋ยวเราค่อยบอกเรื่องนี้กับมีนาพรุ่งนี้อีกทีดีไหมคะ”

“ดีจ้ะ”

พอกลับมาถึงบ้านก็ถึงเวลาอาหารเย็นพอดี

“ออกจากโรงพยาบาลมากตั้งนานทำไมเพิ่งถึงบ้านกันล่ะ แอบไปแวะที่ไหนมาหรือเปล่า” คุณประพันธ์ถามภรรยาและลูกสาว

“คุณพ่อรู้ได้ยังไงคะว่าเราออกจากโรงพยาบาลมาตอนไหน”

“ก็พ่อแวะไปหาตาดลมาน่ะสิ ว่าแต่ไปไหนกันมาล่ะ”

“ฤดีกับแม่แวะไปส่งมีนาที่ร้านมาค่ะ พ่อจำมีนาได้ไหมคะ”

“ใครกันล่ะ”

“ก็เด็กที่เราให้ทุนไงคะ ที่บ้านเธอขายอาหารตามสั่งไงคะ”

“เด็กทุนมีหลายคนเหลือเกินพ่อนึกหน้าไม่ออกเลย”

“เดี๋ยวก็นึกออกเองค่ะ มีนาจะมาช่วยดูแลตาดลค่ะพ่อ”

“แล้วพยาบาลล่ะ เห็นว่าจ้างไว้แล้ว”

“ก็นั่นพยาบาล ส่วนมีนาก็ดูแลทั่วๆ ไปไงคะ”

“อย่าทำอะไรกันเองโดยไม่ถามเจ้าตัวเขานะ เกิดตาดลอาละวาดขึ้นมาพ่อว่ามันจะยุ่งเอานะ” เขาเตือนเพราะรู้จักนิสัยของลูกชายดี

“ไม่หรอกค่ะ วันนี้มีนาก็ไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลมาแล้ว ฤดีคุยกับน้องแล้วค่ะพ่อ เขายอมให้มีนามาดูแล”

“เหรอ แปลกนะ แต่ก็ดีนะ อย่างน้อยก็ถือว่ามีคนของเราช่วยดูแล” แม้จะแปลกใจแต่เมื่อลูกชายยอมเขาก็ไม่ว่าอะไร

“ไม่รู้ต้องอยู่อีกนานไหม พ่อล่ะสงสารตาดลเหลือเกิน เจ็บหนักอย่างนี้คงเบื่อแย่”

“ฉันก็สงสารลูก แต่ได้มีนาไปอยู่เป็นเพื่อนก็คงหายเหงา มีนาเป็นเด็กน่ารัก นิสัยดี” ดวงกมลบอกสามี

“แล้วไว้ใจได้ใช่ไหม” แม้ตอนนี้ตัวเองจะออกมาเป็นอาจารย์พิเศษสอนนักศึกษาแต่งานในบริษัทก็พอจะรู้ว่าเรื่องไฟไหม้อาจมีเบื้องหลัง

“ไว้ใจได้สิ ฉันมองคนไม่พลาดหรอก” เธอตอบสามี

“คุณพ่อคุณแม่หิวหรือยังคะ เรากินข้าวกันเลยไหม ไม่ต้องรอพี่วัฒน์ค่ะ วันนี้เขาออกไปกับลูกค้า” ดลฤดีบอกบิดามารดาเพราะวันนี้สามีของเธอมีนัดทานข้าวกับลูกค้าและคงจะกลับดึก

“เอาสิ พ่อก็หิวเหมือนกัน คุณล่ะหิวหรือยัง” เขาหันมาถามภรรยา

“ค่ะ กินเลยก็ได้ กินข้าวเสร็จดวงมีอะไรอีกหลายอย่างที่ต้องจัดการ”

          ทานอาหารเย็นเสร็จแล้วดลฤดีก็ขอตัวขึ้นห้อง คุณประพันธ์ก็ขอตัวเข้าห้องทำงาน เหลือเพียงคุณดวงกมลนั่งอยู่ที่ห้องรับแขก เธอเรียกให้ป้าแข ชบาและสาวใช้อีกสองคนมารวมตัวกันจากนั้นก็สั่งให้ช่วยกันทำความสะอาดบ้านหลังเล็ก

“ใครจะมาย้ายมาอยู่เหรอคะ”

“ฉันจะให้ตาดลกลับมาอยู่บ้านสักพัก พวกตู้กับเตียงเดี๋ยวฉันจะไปสั่งที่ร้านให้เขามาส่ง ป้าแขก็ดูแลให้เด็กๆ ทำความสะอาดให้เรียบร้อย ทุกห้องเลยนะ”

“เหรอคะ ป้าดีใจจังค่ะ แล้วคุณดลจะย้ายเข้ามาวันไหนคะ”

“ยังมารู้เลย แต่เตรียมห้องไว้ก่อน บางทีอาจจะมีคนอื่นมาอยู่ที่บ้านหลังนั้นก่อนก็ได้”

“ใครคะ แฟนคุณดลหรือเปล่า” ป้าแขรีบถาม

“ไม่ใช่หรอกจะ เอาไว้ถ้าเขาตกลงจะมาอยู่ฉันจะบอกอีกที” คุณดวงกมลไม่รู้ว่ามีนาจะยอมมาอยู่กับเธอหรือเปล่า ถ้าชวนดีๆ ไม่ยอมมาก็คงต้องหาเหตุผลมาอ้างกันบ้าง เพราะถ้ายังให้อยู่ที่นั่นต่อก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอไม่ได้คิดมากเกินไปแต่สายตาแบบนั้นมันเหมือนกับสายตาที่ชายหนุ่มมองหญิงสาวหรือมองคนรัก และเธอคงรู้สึกผิดถ้าเห็นแล้วไม่ลงมือทำอะไร ทั้งที่พอจะช่วยได้

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • พิศวาสล่ามรัก   ตอนที่ 37 ถ้าง่ายแต่แรกก็จบ (ตอนจบ)

    “ไม่ค่ะ ยังไงพิมพ์ก็ไม่หย่า”“แต่ผมไม่อยากยื้ออีกต่อไปแล้วนะ คุณไม่มีความสุข ผมก็ไม่มีความสุข”“คุณจะรีบหย่าแล้วไปหาเด็กนั่นเหรอคะ เราคุยกันแล้วนี่ดลว่าเราจะแต่งงานกันสองปี ถึงตอนนั้นคุณค่อยมาคุยเรื่องหย่าดีกว่าไหมคะ”“ถ้าคุณไม่ยอมหย่าผมจะฟ้องหย่า”“คิดดีแล้วเหรอคะดล คุณจะเอาความสุขส่วนตัวมาแลกกับชื่อเสียงของครอบครัวเหรอคะ”“คุณคงคิดว่าตัวเองถือไพ่เหนือกว่าแต่บางครั้งไพ่มันก็เปลี่ยนได้นะพิมพ์”“หมายความว่ายังไงคะ”“ผมมีหลักฐานที่จะฟ้องหย่าคุณได้ ถ้าคุณไม่ยอมจบแบบเงียบๆ”“ถ้าคุณคิดว่ามันคุ้มกับชื่อเสียงก็เอาสิคะ ถ้าคุณฟ้องหย่าพิมพ์ก็จะบอกเรื่องของคุณให้ทุกคนรู้ พิมพ์คงได้รับความเห็นใจมากๆ ใครจะคิดล่ะคะว่าคุณนฤดลที่แสนจะเพอร์เฟกต์จะมีอีหนูซ่อนไว้”“เรื่องแบบนี้ผู้ชายก็มีกันทั้งนั้น แต่ถ้าคนอื่นรู้ว่าคุณก็หนีสามีไปแต่งงานละ มันจะน่าสนใจกว่าไหม”“ดลหมายถึงอะไร” พิมพ์ปภัสเริ่มร้อนตัว“เรื่องที่คุณพาผู้ชายเข้ามาที่บ้าน ผมไม่ว่าอะไรเลยเพราะมันเป็นสิทธิ์ของคุณ แต่ที่คุณควงกันไปเที่ยวต่างประเทศแล้วไปแต่งงานที่นู่น คุณคิดเหรอว่ามันเป็นความลับ”“ดลพูดเรื่องอะไรคะ” พิมพ์ปภัสคิดว่าเรื่องนี้ไม่น่าจ

  • พิศวาสล่ามรัก   ตอนที่ 36 เบื้องหลังการแต่งงาน

    ดลฤดีกลับมาถึงเมืองไทยก็รีบเข้าไปคุยเรื่องสำคัญกับมารดาทันทีโดยที่ยังไม่ทันจะเอากระเป๋าเดินทางไปเก็บ“เรื่องด่วนอะไรกันหรือว่ามีนาเป็นอะไร” คุณดวงกมลถามลูกสาวขณะที่ถูกเร่งให้เดินเข้ามาในห้องทำงานของบิดาซึ่งตอนนี้เจ้าของห้องนั้นไปรดน้ำกล้วยไม้อยู่ที่เรือนเพาะชำ“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับมีนาค่ะ มีนาสบายดีทุกอย่างไม่มีปัญหา”“แล้วมันเรื่องด่วนอะไรกันล่ะ”“แม่นั่งก่อนนะคะ”พอให้มารดานั่งและหายาดมมาไว้ใกล้ตัวแล้วก็รีบเล่าเรื่องที่ตัวเองไปเจอมา ทั้งเรื่องที่โรงแรมและเรื่องที่ร้านอาหารในเวกัส“ตาฝาดไปหรือเปล่าลูก เมื่อวานแม่ยังคุยกับน้องอยู่เลย น้องบอกว่าออกมาทานข้าวกับเมียเขา”“แต่ฤดีมีรูปนะคะ นี่ค่ะ” เธอส่งทั้งรูปทั้งคลิปให้มารดาดูซึ่งทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว ก็ชัดเจนจนปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่พิมพ์ปภัส“แม่ไม่เข้าใจ เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้ยัยไง ตอนแต่งงานก็เห็นว่ารักกันดี นี่ลูกชายแม่กำลังโดนหลอกใช่ไหม” หญิงสูงวัยถอนหายใจด้วยความเหนื่อยล้า“ฤดีว่าแม่ลองเรียกน้องเข้ามาที่บ้านดีไหม”“แม่ไม่อยากเห็นน้องต้องเสียใจอีกเลย เวรกรรมอะไรกันนะถึงได้มาเจอเรื่องแบบนี้”“แม่ไม่อยากให้น้องรู

  • พิศวาสล่ามรัก   ตอนที่ 35 ความลับที่เวกัส

    มีนาเดินทางมาถึงอเมริกาได้หลายวันแล้ว หญิงสาวเข้าพักที่อพาร์ทเมนท์แห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนสอนภาษา ส่วนดลฤดีนั้นพักที่โรงแรมใกล้ๆ เพราะอยากให้มีนาลองใช้ชีวิตคนเดียวระหว่างนี้เธอกับสามีก็ไปดูงานที่โรงเรียนซึ่งใช้เป็นต้นแบบในการจัดการเรียนการสอน ก่อนที่จะพากันไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ“พี่วัฒน์คะ”“ครับ”“ฤดีว่าเห็นคนรู้จักนะคะ แต่พี่อย่าเพิ่งหันไปนะคะ นั่งนิ่งๆ ก่อนเดี๋ยวเขาจะรู้ตัวค่ะ”“ให้พี่นั่งนิ่งแล้วพี่จะรู้ได้ยังไงว่าใช่คนรู้จักของเราไหม” ธนวัฒน์ถามภรรยาอย่างไม่เข้าใจ เพราะถ้าเขาไม่หันไปดูแล้วจะรู้ได้ยังไงว่าใช่คนที่ตนเองรู้จักไหม“เชื่อฤดีนะคะ นั่งอยู่แบบนี้ก่อน” ดลฤดีบอกสามีจากนั้นเธอก็ยกโทรศัพท์ขึ้นเหมือนกำลังถ่ายรูปของธนวัฒน์ แต่ทว่าเธอกำลังซูมกล้องไปไกลกว่านั้นหญิงสาวนึกขอบคุณโทรศัพท์รุ่นใหม่ที่สามารถซูมได้มากจนเห็นได้อย่างชัดเจนว่าคนที่เธอเห็นนั้นใช่คนที่เธอรู้จักไหมดลฤดีกดถ่ายรูป จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นโหมดถ่ายวิดีโอจนกระทั่งเธอคนนั้นเดินหายเข้าไปในลิฟต์“พี่วัฒน์ดูนี่นะคะ” เธอส่งโทรศัพท์ให้สามีดูภาพที่ตนเองถ่ายไว้“นี่มันน้องพิมพ์นี่ครับ ผมไม่รู้เลยว่าเธอมาเที่ยว

  • พิศวาสล่ามรัก   ตอนที่ 34 ตัดเยื่อเหลือใย

    นฤดลแอบมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ เขาอยากคุยกับเธอแต่ก็ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง เขาคิดว่าระยะเวลาที่ผ่านมานานเกินครึ่งปีนั้นจะทำให้ความรู้สึกที่มีต่อมีนาลดน้อยลงแต่มันกลับตรงกันข้ามเพราะเขายังรักและคิดถึงเธออาจจะมากขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ เมื่อลองเปรียบเทียบกับครั้งที่ตัวเองตามหาพิมพ์ปภัสไม่เจอมันต่างกันโดยสิ้นเชิงทั้งๆ ที่ตนเองแต่งงานไปแล้วและควรมีความสุขกับคนรักที่รอคอย แต่ในทุกๆ วันในใจของเขายังคงนึกถึงช่วงเวลาที่ตนเองมีความสุขกับมีนาอยู่ตลอด“พี่ขอไปเข้าห้องน้ำก่อนมีนารอก่อนนะ”“ค่ะพี่ฤดี” มีนานั่งรอดลฤดีที่ห้องรับแขกขณะที่คนอื่นก็ต่างก็กลับห้องของตัวเองไปกันหมดแล้ว“มีนาสบายดีไหม” ในที่สุดเขาก็เปิดปากถาม“ค่ะ คุณดลล่ะคะ”“พี่สบายดี” เขายังแทนตัวเองเหมือนเดิมขณะที่อีกคนนั้นเปลี่ยนสรรพนามไป“แม่บอกว่าปิดเทอมใหญ่มีนาจะไปเรียนภาษาเหรอ” เขาพยายามจะชวนเธอคุย อย่างน้อยตอนนี้ก็อยู่ที่บ้านของตนเองมันไม่ได้น่าเกลียดอะไรถ้าจะพูดคุยกันบ้าง“ค่ะ”“มีอะไรให้พี่ช่วยบอกได้นะ”“ขอบคุณค่ะ”“มีนายังโกรธพี่อยู่เหรอ”“เปล่าค่ะ”“แต่เหมือนมีนาไม่อยากคุยกับพี่เลยนะ” เพราะการถามคำตอบคำแบบนี้ไม่ใช่นิสัยของหญิงสาวท

  • พิศวาสล่ามรัก   ตอนที่ 33 ชีวิตที่ต้องก้าวไปข้างหน้า

    ทางด้านมีนาที่ตอนนี้กำลังเรียนอยู่ชั้นปี 3 หญิงสาวก็ไม่ได้สนใจใครอื่น แม้จะมีคนเข้ามาจีบแต่มีนาก็ปิดตายหัวใจ เธอทุ่มเทให้กับการเรียนอย่างหนักและวางแผนเอาไว้แล้วว่าถ้าเรียนจบจะเข้าไปช่วยคุณดลฤดีทำงานที่โรงเรียน ถึงแม้จะเป็นโรงเรียนที่นฤดลบริหาร แต่หญิงสาวก็ไม่คิดเอาเรื่องส่วนตัวมาปะปนกับเรื่องงานในเมื่ออีกคนแต่งงานไปแล้วเรื่องราวของเธอกับเขาก็จบลงไปด้วย ไม่มีการติดต่อไม่ว่าจะทางโทรศัพท์ทางไลน์หรือทางข้อความ เขาและเธอทำเหมือนอยู่กันคนละโลก แม้จะเจอกันก็แค่ทักทายตามมารยาทเท่านั้นใช่ว่ามีนาจะไม่เสียใจที่ถูกเขาหลอก แต่ชีวิตของเธอจะต้องก้าวไปข้างหน้าต่อ ถ้ามัวแต่ยึดติดกับเรื่องราวที่ผิดหวังในอดีตเธอก็คงหาความสุขให้กับตนเองไม่ได้ แม้จะรักเขามากแค่ไหน แต่ถ้ามันเจ็บเธอก็ต้องยอมตัดใจ หญิงสาวคิดได้แล้วว่าการอยู่โดยไม่มีคนรักมันไม่ได้เลวร้ายเลยสักนิดมีนายังคงไปมาหาสู่ที่บ้านหลังนั้นอยู่ตลอด เพราะเธอรักและเคารพทุกคนที่นั่น อีกอย่างตอนนี้นฤดลก็ย้ายออกไปอยู่ข้างนอกกับภรรยาแล้ว เธอจึงไม่มีโอกาสได้เจอเขาบ่อยนัก“เรื่องฝึกงานมีนาตัดสินใจหรือยังว่าจะฝึกที่ไหน อาจารย์ว่ายังไงบ้าง” ดลฤดีถามขณ

  • พิศวาสล่ามรัก   ตอนที่ 32 นาฬิกาเดินช้า

    งานแต่งงานของนฤดลถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ แขกที่มาร่วมงานต่างพากันชื่นชมเจ้าบ่าวเจ้าสาวว่าเหมาะสมกันราวกิ่งทองใบหยก “ดลคะ ยิ้มหน่อยสิคะ แขกมากันเยอะแล้วนะ” พิมพ์ปภัสบอกเจ้าบ่าวที่เอาแต่ทำหน้านิ่ง “ผมจะยิ้มก็ต่อเมื่อผมอยากยิ้ม คุณอย่ามาบังคับผม แค่เรื่องแต่งงานมันก็มากเกินไปแล้ว” “แต่วันนี้วันแต่งงานของเรานะคะ” “ผมว่ามันเป็นงานของคุณคนเดียวต่างหากล่ะ” นฤดลพูดพลางทำหน้าเบื่อโลกยิ่งกว่าเดิม “ดลคะ เราแต่งงานกันแล้วนะ พิมพ์ว่าดลเลิกคิดที่จะกลับไปหาเด็กมีนานั่นได้แล้ว” “ผมไม่ได้คิดถึงใครทั้งนั้น ผมก็แค่เบื่อที่จะต้องปั้นหน้าว่ามีความสุข” ที่เขาทำหน้าเบื่อก็เพราะไม่คิดว่างานแต่งของตนจะจัดใหญ่แบบนี้ “อดทนอีกนิดสิคะ เดี๋ยวก็ถึงเวลาเข้าหอแล้ว พิมพ์รับรองว่าดลจะมีความสุขและลืมผู้หญิงทุกคนอย่างแน่นอน” พิมพ์ปภัสกล่าวอย่างมั่นใจ เธอจะต้องทำให้นฤดลลืมผู้หญิงที่ชื่อมีนาให้เร็วที่สุด ก่อนที่จะถึงกำหนดที่เขากับเธอตกลงกันไว้ “ผมบอกเหรอครับว่าจะทำเรื่องแบบนั้นกับคุณ” “ดลค่ะ คุณเป็นผู้ชายนะ จะอดทนได้แค่ไหนกั

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status