แชร์

3 หมาป่าตัวโตแห่งต้าหลาง (2)

ผู้เขียน: บ้านเขมปัณณ์
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-17 11:39:32

ฟ่านรั่วเจี๋ยไม่อยากเสี่ยงอันตรายเช่นนี้ แต่เมื่อมีหมากตัวสำคัญหลุดเข้ามาอยู่ในมือก็เหมือนสวรรค์ชี้ทางสว่าง และนางจำเป็นต้องรักษาบ้านเกิดของตน ยามนี้กองกำลังของเกาเจียวหั่วซุ่มตัวอยู่ทางทิศใต้ของกำแพงเมือง นางต้องหาวิธีแก้ไขสถานการณ์เลวร้ายนี้ด้วยการส่งข่าวแก่เขา เพราะภายในแคว้นหมิงมีไส้ศึกที่พร้อมเปิดประตูเมืองให้แก่พวกต้าหลาง ซึ่งนางจะยอมให้เรื่องนี้เกิดขึ้นไม่ได้ ด้วยทุกชีวิตจะไร้ซึ่งอิสรภาพ อีกทั้งสตรีที่อยู่ในตำหนักซึ่งไร้คนเหลียวแล ไม่มีอำนาจใด ย่อมถูกปล่อยให้อยู่อย่างโดดเดี่ยวไปจนกว่าจะสิ้นลมหายใจ

แต่ระหว่างทางที่นางพยายามไปให้ถึงกองกำลังของเกาเจียวหั่วก็เกิดเรื่องไม่คาดฝัน สตรีชาวบ้านหลายคนถูกพวกทหารเลวไล่ปลุกปล้ำ ตัวนางไร้วรยุทธ์แต่ไม่ใช่พวกที่จะงอมืองอเท้าเห็นคนอ่อนแอกว่าถูกข่มเหง

“ปล่อยพวกนางเสีย พวกเจ้ายังเป็นชายอกสามศอกอยู่หรือไม่”

“ฮ่าๆ ไม่ใช่แค่อกสามศอก น้องชายข้ายังยาวใหญ่ดั่งม้าศึก เจ้าอยากพิสูจน์หรือไม่” ทหารกลุ่มนั้นมองสตรีตรงหน้า นางนุ่งชุดคล้ายหมอยา สวมหมวกและมีตาข่ายอำพรางใบหน้า กระนั้นก็เห็นได้ชัดว่าทรวดทรงเย้ายวนใจโดยเฉพาะหน้าอกนางซึ่งอวบอิ่มสะดุดตา

“ก่อนที่เจ้าจะได้แสดงให้ข้าได้เห็นว่าขาที่สามของเจ้ายาวใหญ่และแข็งแกร่ง ข้าเกรงว่ามันคงเน่าจนต้องตัดทิ้งเสียก่อน” ฟ่านรั่วเจี๋ยเอ่ยจบจึงล้วงเข้าไปในสาบเสื้อ ในมือนางมีขวดเล็กๆ พอเปิดจุกออกก็มีกลิ่นของสมุนไพรลอยออกมา จากนั้นไม่นานด้วงกว่างหลายสิบตัวก็บินเข้าไปรุมจัดการทหารต้าหลาง

“จะ...เจ้าเป็นนางมารโดยแท้!” ทหารโฉดเอ่ยออกมาเช่นนั้น และเกิดความโกลาหลในเวลาต่อมา

ฟ่านรั่วเจี๋ยใช้ช่วงเวลาดังกล่าวหลบหนีไปด้วย แต่ถึงนางจะคล่องแคล่วเพียงใดทว่ามิอาจสู่แรงบุรุษ อีกทั้งคนพวกนั้นยังเป็นทหารเสียด้วย หัวไหล่บางถูกกระชากจากด้านหลัง ตัวนางลอยหวือหล่นลงไปตกอยู่บนผืนหญ้าที่มีหนามแหลมคม

“เจ้าทำให้ข้าต้องเสียเวลา ฉะนั้นเย็นนี้ข้าจะชดเชยทุกสิ่งที่เสียไปกับเจ้าแทน เป็นเมียข้าก่อน จากนั้นก็แขวนป้ายรับแขกในค่ายทหาร”

“ยะ...อย่า ข้ามีหน้าที่นำจดหมายไปส่งมอบให้แก่ชินอ๋องชิงซาน” นางประกาศออกไปเพื่อหวังป้องกันภัย

“เหลวไหล เจ้าเป็นใครถึงจะได้รับเกียรติสำคัญนั้น”

“แต่ข้ามีสิ่งนี้” ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะแสดงป้ายหยก มือใหญ่ของทหารเลวได้ต่อยเข้าที่ท้องน้อยของนางด้วยต้องการทำให้สิ้นฤทธิ์

ฟ่านรั่วเจี๋ยรู้สึกปวดมวนท้อง อาการดังกล่าวส่งผลให้นางมิอาจขยับตัวหนีไปไหน

“อยากเป็นจอมยุทธ์หญิงพิทักษ์คุณธรรมใช่หรือไม่ ข้าชอบนักสตรีดื้อด้าน ไม่กลัวความตาย”

ทหารคนเดิมแลบลิ้นน่าเกลียด ดวงตาของมันวาววามและมองฟ่าน-รั่วเจี๋ยด้วยความหื่นกระหาย

“บัดซบ เจ้ามันก็แค่เศษสวะ คิดว่าจะข่มเหงข้าได้รึ”

“ฮ่าๆ เหตุใดจะไม่ได้ ตอนนี้ใครกันที่ขึ้นคร่อมเจ้าอยู่” มันว่าและฉีกเสื้อผ้านางอย่างไม่ปรานี ตามด้วยการดึงหมวกตาข่ายออก

ดวงตากลมโตของฟ่านรั่วเจี๋ยแดงก่ำ นางมองคนเลวแสนกักขฬะอย่างชิงชัง

“เอ ไฉนถึงมีผ้าปกปิดใบหน้าเอาไว้อีก เจ้าเป็นใครกันแม่นางน้อย”

ทหารโฉดเอ่ยถาม มือใหญ่ข้างหนึ่งพยายามกระชากเสื้อผ้าออกจากร่างนาง พอฟ่านรั่วเจี๋ยดิ้นขัดขืนมันก็คิดจะตบลงบนหน้านาง

“ดิ้นแรงๆ อย่างนี้ เดี๋ยวข้าจะจัดการให้สาสมความพยศของเจ้า แต่ก่อนอื่นขอชมใบหน้างามๆ นี้ก่อนว่าคุ้มค่าเหนื่อยแค่ไหน”

มันเอ่ยจบจึงดึงผ้าผืนบางที่นางผูกติดใบหน้าออก และพริบตาต่อมาเสียงร้องโหยหวนพลันดังลั่น

“ผะ...ผีหลอก!”

ทหารผู้นั้นเกือบเสียสติ ภาพที่ประจักษ์ต่อสายตามันยากลบเลือนได้ง่ายๆ ราวกับเป็นคำสาปร้ายที่จะติดตัวมันไปจนวันตาย

“อัปลักษณ์โดยแท้ เจ้าช่างเสียชาติเกิด ข้าสมควรควักลูกตาทิ้ง!”

เมื่อได้ยินถ้อยคำเหยียดหยามจึงทำให้นางได้สติกลับคืน

ฟ่านรั่วเจี๋ยสบโอกาสที่อีกฝ่ายตกใจ นางใช้เข่ากระแทกเข้ากลางจุดบอบบางใต้แท่งหยกของมัน เป็นเหตุให้ทหารคนนั้นจุกเจ็บ พอมันดิ้นปัดไปมาบนพื้น นางเลยเคลื่อนตัวหนีและมุ่งหน้าตั้งใจไปส่งข่าวให้แก่แม่ทัพเกา

“จับตัวนางไว้ อย่าให้หนีรอดไปได้”

เสียงที่ดังก้องจากด้านหลังมิอาจทำให้ฟ่านรั่วเจี๋ยหยุดฝีเท้าตน นางต้องไปให้ถึงกำแพงเมืองทางทิศใต้ซึ่งมีกองทัพของแคว้นหมิง แล้วส่งข่าวให้แก่แม่ทัพหนุ่มเกาเจียวหั่วทราบว่านางจับตัวชายผู้หนึ่งเอาไว้ได้

ทว่าความตั้งใจของนางคงไม่เป็นผล เมื่อวิ่งไปได้ราวๆ ครึ่งลี้ เบื้องหน้าก็มีทหารของต้าหลางปิดล้อมทางเอาไว้ ดังนั้นนางจึงมิอาจฝ่าไปได้ จำเป็นต้องวิ่งหลบไปอีกทาง

หัวใจนางเต้นแรงเหลือเกิน ในหัวคิดถึงแม่ทัพเกา ยามนี้นางกำลังเดินหมากครั้งสำคัญ ซึ่งต้องใช้ทั้งชีวิตเดิมพัน

ยามนั้น มู่ชิงซานไม่เคยพบสตรีนางใดอัปลักษณ์มาก่อน เขานิยมของสวยงาม เมื่อเห็นใบหน้านางผู้นี้ก็ต้องเบือนหน้าหนี ความรู้สึกตึงเครียดเกิดขึ้นฉับพลัน ทว่าในหัวกลับคิดถึงสิ่งที่มารดาเคยกล่าวไว้ หรือนางผู้นี้มีวาสนาผูกพันต่อเขา หาใช่ฟ่านเยี่ยฉี ไซซีแห่งแคว้นหมิง!

“เสียลูกตาโดยแท้ ข้าคงโชคร้ายไปหลายวัน หรือถึงอาจต้องนั่งสมาธิปัดเป่าความน่ากลัวของเจ้าออกจากตัว” เขาทำเสียงฮึ่มฮั่ม นางอัปลักษณ์ใช่...คำนี้ถูกต้องแน่แท้ ตั้งแต่เกิดมาความงามของสตรีคืออาหารชั้นเลิศของเขา หญิงงามควรมีดวงตาสวยดำขลับรับแพขนตางอน ริมฝีปากอวบอิ่มสีแดงระเรื่อ แก้มเนียนใสแต้มสีสันดั่งลูกท้อ และอันที่จริงนางผู้นี้พอจะมีสิ่งที่กล่าวมาให้เห็นอยู่บ้าง ทว่าสิ่งที่โดดเด่นสะดุดตาตอนนี้คือจมูกของนาง!

“น่าเกลียดน่าชังโดยแท้!”

มู่ชิงซานไม่ใช่คนที่นิยมเหยียดหยามสตรี ทว่าการพบเห็นนางผู้นี้กลับทำให้เขาหลุดปากด้วยถ้อยคำร้ายๆ ติดกันหลายหน

“ชะ...ช่วยข้าด้วย” ฟ่านรั่วเจี๋ยเอ่ยแล้ววิ่งถลามาหาเขาราวกับไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ฟ่านรั่วเจี๋ยอัปลักษณ์ตำหนักเย็น    45 เจ้าสาวอัปลักษณ์

    เจ้าสาวอัปลักษณ์ก่อนเข้าพิธีวิวาห์กับมู่ชิงซาน เกิดเรื่องที่หวิดทำให้ฟ่านรั่วเจี๋ยต้องถูกหยามเกียรติ เพราะมู่หรูซื่อกลับกลายเป็นคนพยายามเข้ามาตีสนิทนางในช่วงนั้นมู่ชิงซานมีภาระต้องไปประชุมกับรองแม่ทัพที่ค่ายในเมืองอื่นซึ่งอยู่ห่างจากที่นี่ราวๆ สามร้อยลี้ “พี่รองคงไม่ได้สนใจเจ้าดีพอ ข้าจึงพานางรับใช้มามอบให้ อย่างไรช่วงนี้เจ้าต้องดูแลหลายสิ่ง การเป็นสตรีข้างกายชินอ๋องไม่ใช่เรื่องง่าย”ฟ่านรั่วเจี๋ยมองไปยังนางรับใช้สองคนที่ท่าทางเหมือนสตรีชาวบ้านทั่วไป ทั้งคู่เป็นฝาแฝดอายุราวๆ สิบเจ็ดปีเห็นจะได้“รบกวนจวิ้นอ๋องหรูซื่อมากเกินไปแล้ว”“เล็กน้อย เพราะข้าเห็นว่าเจ้าปฏิเสธคนของแคว้นหมิง เลยให้บ่าวสองคนนี้มาช่วยงานแทน”ในครานั้นที่นางปฏิเสธองค์หญิงเล็ก ไม่รับสาวใช้เอาไว้ เพราะฟ่าน-รั่วเจี๋ยไม่รู้ว่าชะตากรรมของตนจะเป็นเช่นไร การให้คนที่อยู่ในแคว้นหมิงมาติดตามก็รังแต่จะสร้างภาระมากกว่าคอยรับใช้ สองฝาแฝดหน้าตาไม่ได้เหมือนกัน ทั้งคู่เป็นคนในแคว้นต้าหลางติดตามกองทัพมาตั้งแต่เล็กเพื่อช่วยงานในครัว คนพี่ชื่อจางฉี มีไฝที่มุมปากด้านซ้าย คนน้องชื่อจางหมิ่น ดวงตาโตและชอบยิ้มอยู่เสมอ“เอาละ ธุระข้ามีเพ

  • ฟ่านรั่วเจี๋ยอัปลักษณ์ตำหนักเย็น    44 ตกอยู่ในมืออ๋องปีศาจ (3)

    “รั่วเจี๋ย ข้าสั่งเจ้าได้ยินหรือไม่”นางส่ายหน้าปฏิเสธ ความกลัวครอบคลุมจิตใจอย่างเร็ว นางจึงถอยหลังหนีเขา แต่ร่างสูงกระโดดออกจากอ่างน้ำและคว้าตัวนางไปกอดรัดในอึดใจต่อมา“ทะ...ท่านอ๋อง อย่าได้ข่มเหงน้ำใจข้าจนเกินไป”“ข่มเหงเจ้า ฮ่าๆ เหลวไหล ทั้งหมดที่ทำ ข้าต้องการช่วยเจ้าต่างหากรั่วเจี๋ย” เขาเอ่ยแล้วก็ค่อยๆ ดึงผ้าที่ปิดใบหน้าครึ่งล่างของนางออก หญิงสาวสะเทือนใจต่อการกระทำนั้น ขอบตาแดงระเรื่อ น้ำตาเอ่อคลอหน่วย“ใครอยากเห็นน้ำตาของเจ้า หยุดร้อง ไม่อย่างนั้นข้าจะกัดจมูกเจ้าเสีย” เขาเอ่ย พอเห็นว่านางเริ่มสะอื้นจึงใช้นิ้วยาวๆ บีบจมูกของฟ่านรั่วเจี๋ยซึ่งเป็นตอนนั้นที่นางต้องตกตะลึงเป็นอย่างมาก ถึงจะรู้ว่าตนเองมีสมุนไพรปรุงเอาไว้เพื่อช่วยรักษาความอัปลักษณ์และหินจากบ่อน้ำพุในตำหนักเย็นแต่ยามนี้ได้เกิดความมหัศจรรย์ขึ้น เมื่อไออุ่นจากเรือนกายของมู่ชิงซานมอบความรู้สึกซาบซ่านแก่นาง ซึ่งนอกจากทำให้กายสาวสั่นสะท้าน มันยังช่วยรักษาความน่าเกลียดของฟ่านรั่วเจี๋ยด้วย“คราวนี้เจ้าเข้าใจหรือยังว่าความอัปลักษณ์ที่ติดตัวเจ้านี้ เหตุใดจึงต้องมีข้าคอยดูแล!”ฟ่านรั่วเจี๋ยยังคงปกปิดใบหน้าด้วยผ้าคลุมเช่นเดิม แม้จ

  • ฟ่านรั่วเจี๋ยอัปลักษณ์ตำหนักเย็น    43 ตกอยู่ในมืออ๋องปีศาจ (2)

    “ฮึ แล้วข้าสมควรอยู่ที่ใดถึงจะมีชีวิตรอด อย่าบอกนะว่าข้างกายท่าน”เมื่อคนที่วางสีหน้าขึงขังคำรามออกมาอีกหน นางก็ครั่นคร้ามใจ แต่ถึงขั้นนี้ ชีวิตย่อมต้องกลัวสิ่งใดอีก“ข้าคิดว่าตอนนี้เจ้าคงไม่เห็นชอบ แต่หากอยากทวงความยุติธรรมคืนให้ตนเองกับมารดา คงเหลือเพียงทางเลือกเดียวคือเป็นสตรีที่อยู่ข้างกายข้าเท่านั้น”“มะ...มู่ชิงซาน คนเลว! ทั้งหมดที่เกิดขึ้นล้วนเป็นเพราะท่านหลอกลวงข้า” นางเจ็บแค้นใจอย่างที่สุด มองร่างสูงใหญ่นี้แล้วอดคิดถึงเจ้าเป็ดน้อยของตนไม่ได้“ฮ่าๆ ข้าหรือจะมีเวลาล้อเล่นกับเจ้าถึงเพียงนั้น กินอาหารพวกนี้เสียแล้วเตรียมทำหน้าที่ของตนให้ดี”“หน้าที่อันใด!” ฟ่านรั่วเจี๋ยถามเขาเสียงเกรี้ยวกราด เป็นตอนนั้นที่ดวงตาคมกริบมองนางราวกับเป็นของหวาน หรือไม่ก็เนื้อสดๆ ที่เขาจะกลืนลงท้องอย่างโอชะ“เจ้าคิดว่าที่ข้ายอมเสียเกียรติไปรับเจ้ามาจากแคว้นหมิงเพื่อการใดหากไม่ใช่...” เสียงทุ้มตั้งใจยั่วแหย่ฟ่านรั่วเจี๋ย“ตะ...ต่ำช้า ทะ...ท่านคิดล่วงเกินข้าหรอกรึ” หญิงสาวหวีดใส่ชายหนุ่มและมิวายดึงปิ่นปักผมของตนออก พอเลื่อนสลักเล็กๆ มันก็กลายเป็นมีดสั้น ซึ่งนางไม่ได้คิดจะทำร้ายเขา หากใช้มันจี้ลำคอขาวผ่อง

  • ฟ่านรั่วเจี๋ยอัปลักษณ์ตำหนักเย็น    42 ตกอยู่ในมืออ๋องปีศาจ

    ตกอยู่ในมืออ๋องปีศาจฟ่านรั่วเจี๋ยถูกพามาอยู่ในกระโจมที่พักส่วนตัวซึ่งสร้างขึ้นใหม่อย่างเร่งด่วน โดยอยู่ด้านหลังสุดของค่ายทหารต้าหลาง พื้นที่ตรงนี้เป็นเนินสูงและมีสายลมพัดผ่านเย็นสบาย สามารถมองเห็นทิวทัศน์ด้านล่างรอบทิศถึงแม้ตบแต่งเน้นความเรียบง่ายเข้าไว้ แต่ฟ่านรั่วเจี๋ยก็พึงใจ ด้วยมันสงบมีความเป็นส่วนตัวเมื่อนางสำรวจรอบๆ กระโจมจึงพบว่ามีหลายสิ่งชวนให้ประหลาดใจทั้งกลิ่นกำยานหอมอ่อนๆ พร้อมต้นไม้ ดอกไม้ในกระถาง มองแล้วต้องฉงนมันคล้ายจำลองให้เหมือนในตำหนักเย็น เห็นดังนี้จะให้นางไว้ใจหมาป่ามู่ชิงซานได้อย่างไร น้ำหน้าอย่างเขาคงมีแผนร้ายเอาไว้ล่อลวงนางด้านนอกกระโจมมีทหารยามเฝ้าอยู่ พวกเขาถูกสั่งไม่ให้สื่อสารสิ่งใดเมื่อนางเอ่ยถามต่างพากันปั้นสีหน้านิ่งเฉย และทำได้เพียงแค่ชี้มือบอกว่านางห้ามออกไปไหนยามนี้มีสิ่งที่กังวลใจมาก นางไม่ได้อยู่ที่ตำหนักเย็น ดังนั้นหากไม่ได้รับไอความร้อนจากหินในบ่อน้ำพุและแร่ธาตุที่อยู่ในบ่อ ความอัปลักษณ์ก็จะอยู่บนใบหน้านางและประจักษ์ต่อสายตาทุกคนกระทั่งบ่ายคล้อยหยวนซางก็มาหานาง อีกฝ่ายเป็นคนสนิทของมู่ชิง-ซาน ฟ่านรั่วเจี๋ยคิดว่าคนเป็นนายกับลูกน้องช่างแตกต่างกันร

  • ฟ่านรั่วเจี๋ยอัปลักษณ์ตำหนักเย็น    41 วาสนาอุ้มสมแล้ว

    ฟ่านรั่วเจี๋ยทำตาโต ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา คนสมองทึบไม่รู้มารยาร้อยเล่มเกวียนของบุรุษกลับเป็นนางหรอกหรือ! ความคิดของหญิงสาวสับสนหมุนวนไปมา พลางยกมือเรียวสวยข้างหนึ่งขึ้นอย่างเผลอไผล แล้วสัมผัสริมฝีปากอิ่มสวยของตน ยามนั้นนางคิดถึงรอยจูบที่เขาฝากเอาไว้ มือใหญ่ที่สัมผัสเรือนร่าง ทั้งเนินหน้าอกอวบ เอวคอด รวมถึงบั้นท้ายกลมงอน และพื้นที่แสนหวาน ทั้งที่นางบริสุทธิ์ใจ แต่เจ้าหมาป่าตัวร้ายนั้นคิดคด ทั้งหมดนี้ย่อมเป็นมู่ชิงซานที่ตั้งใจหยามหมิ่นเกียรตินาง!“คนเลวตัวใหญ่...ทะ...ท่านต่ำช้า ข้าจะไม่ยอมให้ท่านดูแลข้าไม่ว่าในฐานะใด” ฟ่านรั่วเจี๋ยใบหน้าแดงก่ำด้วยความโมโห สองมือกำหมัดแน่นดวงตาคมกริบเกิดประกายวิบวับ เขาชอบใจที่นางกราดเกรี้ยว ฟ่าน-รั่วเจี๋ยย่อมต้องเป็นสตรีที่กล้าแกร่ง ยอมหักไม่ยอมงอ เช่นนี้นับว่าเขาไม่เสียเวลาเปล่ากับสิ่งที่กระทำมาทั้งหมด“ฮ่าๆ ถ้าไม่ยอมให้ตอบแทนน้ำใจ ฉะนั้นข้าก็จะเอาผิดเจ้าโทษฐานล่วงเกินชินอ๋องแห่งต้าหลาง อย่าลืมว่าเจ้าข่มเหงข้าอย่างไร และเรื่องนี้หากใครล่วงรู้ ข้าก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน”ดวงตากลมโตมองคนหน้าด้านอย่างเหลือใจ“ชั่วช้า ท่านไม่สมควรเป็นลูกผู้ชาย”“ถูกต

  • ฟ่านรั่วเจี๋ยอัปลักษณ์ตำหนักเย็น    40 เลี้ยงไม่เชื่อง

    ภาพเย้าหยอกของมู่ชิงซานกับฟ่านรั่วเจี๋ยทำให้สถานการณ์ที่ดูเหมือนตึงเครียดผ่อนคลายลงไปหลายส่วน กระนั้นหมิงอ๋องกลับคิดไม่ตก ตามที่จ้าวหานรายงาน บุรุษที่ฟ่านรั่วเจี๋ยเรียกว่า ‘เป็ดน้อย’ ย่อมเป็นชายคนนี้มู่ชิงซาน หรือชินอ๋องผู้เก่งกาจของต้าหลางเด็กหนุ่มครุ่นคิดอย่างหนักพลางมองมู่ชิงซานและพี่สาวแสนอัปลักษณ์ของตน มีทางใดที่เขาจะทำให้สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ส่งผลให้บัลลังก์มังกรของเขาไม่สั่นคลอน จริงอยู่ แคว้นหมิงเป็นแผ่นดินเล็กๆ เทียบไม่ได้กับแคว้นอื่น กระนั้นถึงจะเล็ก ทว่าดินแดนแห่งนี้กลับอุดมสมบูรณ์ด้วยการเพาะปลูกมีการแพทย์ที่เจริญรุ่งเรือง เป็นแหล่งการค้าทั้งทางแม่น้ำและถนน นอกจากนั้นยังมีสมบัติล้ำค่ามากมายจากธรรมชาติ หากผู้ใดคิดทำลายนับว่าโง่เขลา แต่หากต้องการยึดครอบครองก็ใช่ว่าจะกระทำได้ง่าย ดังนั้นแคว้นใหญ่อย่างต้าหลางจึงกระทำเพียงแค่ตั้งทัพมาคุมเชิงเอาไว้ เพื่อป้องกันการรุกรานด้านอื่นๆ พร้อมส่งไส้ศึกเข้ามาอยู่ในแผ่นดินนี้ เพื่อคอยรายงานข่าวและตัดแขนขาไม่ให้คนในแคว้นหมิงติดต่อขอความช่วยเหลือจากสิบสองเผ่าคนเถื่อนด้วยนานมาแล้วฝ่ายนั้นเคยปกครองที่นี่มาก่อนฟ่านเฉิงซีก้าวขามาข้างหน้าหนึ่งก้าว

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status