หน้าหลัก / รักโบราณ / มารเร้นกายดับแสงดารา / ตอนที่ 55 จอมมารยังคงเจ้าเล่ห์

แชร์

ตอนที่ 55 จอมมารยังคงเจ้าเล่ห์

ผู้เขียน: MACARONI/1Millionmilesaway
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-23 20:58:56

บ้านหลังเล็กของมารน้อย

เมื่อทั้งสองฝ่ายตัดสินใจได้แล้วว่าจะทำอย่างไรต่อไปจึงร่างสัญญาสงบศึกชั่วคราวเพราะต้องการดูลาดเลาสถานการณ์ที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นจริง

บ้านหลังเล็กที่เคยอยู่กันเพียงสองคน เวลานี้มีหลังอื่นผุดขึ้นมาอยู่ใกล้ ๆ กันอีกสามสี่หลังจนแทบจะกลายเป็นหมู่บ้านที่มีทั้งมารและเทพอยู่ร่วมกันอย่างสันติ

ต้นท้อรายรอบกำลังผลิดอกสีชมพูบานสะพรั่งเหมือนภาพวาด อีนั่วจึงตั้งชื่อหมู่บ้านของเขาว่าหมู่บ้านดอกท้อ ในใจคิดอยากอยู่ที่แห่งนี้อย่างสงบตลอดไป

พลังของอีนั่วถูกกลบซ่อนเอาไว้ไม่ให้มารปีศาจตนอื่นรู้ รอบเขตบ้านจึงมีม่านศักดิ์สิทธิ์ของเทพวายุห้อมล้อมอยู่ด้วย

“เจ้าจะทำเช่นนั้นไม่ได้ พวกข้าอึดอัด” หลิวอิงอิงยืนประชันหน้ากับสวีต้าเฟิงผู้เป็นคู่ปรับมาตั้งแต่ไหนแต่ไร

“ถ้าเจ้าอยู่ไม่ได้เจ้าก็แค่ย้ายออกไป ข้าไม่ได้ห้าม” เทพวายุไม่สนใจสิ่งอื่นใด หน้าที่ของเขาคือปกป้องเลือดเนื้อเชื้อไข ผู้ใดทนไม่ได้ก็ไม่ต้องอยู่

“เฮอะ” หลิวอิงอิงนึกอยากสบถเป็นประโยคยืดยาวแต่พอเห็นสายตาของอีนั่วกลับได้แต่ห้ามใจตัวเองไว้แล้วบอกเขาว่า “อยากทำอันใดก็เรื่องของเจ้า” แล้วร่ายพลังมารจำนวนหนึ่งใส่คนตรงหน้าเพราะอยากระบายอารมณ์หงุดหงิดแล้วเดินกลับไปที่บ้านหลังน้อยของตนเอง

หากไม่เข้าใกล้เขตแดนศักดิ์สิทธิ์ พลังเทพวายุจะไม่มีผลอันใดกับมารปีศาจอย่างพวกเขา แม้ดูเหมือนถูกกักขังเอาไว้แต่อาจเป็นผลดีในภายภาคหน้าก็เป็นได้เพราะพวกที่อยู่ภพมารคงไม่มีผู้ใดอยากยุ่งกับเทพเซียนในเวลานี้

สวีลู่ชิงจับมือน้อย ๆ ของอีนั่วเอาไว้พยายามสัมผัสความรู้สึกที่ท่วมท้นหวังว่าความทรงจำที่ขาดหายไปจะกลับคืนมา

“ท่านแม่ อย่าไปจำความหลังที่ผ่านมาเลยขอรับ” ดวงตากลมโตสีฟ้าสดใสของอีนั่วกำลังมองนาง

“ข้าเพียงอยากรู้จักเจ้าให้มากกว่านี้” นางตอบออกไปตามตรงเพราะยังคงรู้สึกอึดอัดในใจราวกับมีอะไรซ่อนอยู่ “แต่หากเจ้ายืนยันว่าไม่โกรธที่ข้าจำไม่ได้ ก็คงไม่มีอะไรต้องกังวลใช่หรือไม่”

“ขอรับ” เด็กน้อยพยักหน้าทันใด “ท่านแม่รักข้า ข้าเองก็รักท่านแม่ ได้โปรดจดจำไว้แต่เพียงเท่านั้นเถิดขอรับ”

เทพวายุได้ยินคำพูดของอีนั่วนึกอยากรู้ยิ่งนักว่าที่ผ่านมาน้องสาวตนเองผ่านด่านเคราะห์อันใดมาบ้างและทำไมจอมมารจึงเปลี่ยนไปได้มากเพียงนั้น

“เจ้ามองข้าทำไมนักหนา” หลิวอิงอิงโพล่งถามเพราะรำคาญดวงตาสีฟ้าของเขา

ความอยากรู้อยากเห็นถูกความไม่สบอารมณ์เข้ามาแทนที่ สวีต้าเฟิงจึงส่ายหน้าถอนหายใจแล้วเมินไม่ตอบปีศาจสาวจนนางมีน้ำโหขึ้นมาทันใด

“หลิวอิงอิง เจ้าใจเย็น ๆ ก่อน” โจวเหวินหลงยืนจัดข้าวของอยู่ข้าง ๆ ห้ามปรามนางไว้ไม่อยากให้เกิดเรื่องวุ่นวาย

เขาเองไม่มีทางเลือกมากนักที่ต้องยอมอยู่ในเขตแดนของเทพวายุทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนตีกันแทบตายไปข้างหนึ่ง

ไม่กี่วันผ่านไป

สถานการณ์ในหมู่บ้านเล็ก ๆ ผ่านไปอย่างราบรื่น หากใครมาเห็นคงไม่เชื่อว่าเทพและมารปีศาจสามารถอยู่ร่วมกันได้

ต่างฝ่ายต่างอยู่ในบ้านของตนไม่เข้ามาก้าวก่ายกัน สำรับกับข้าวสำหรับครึ่งมารอย่างอีนั่วได้รับการจัดสรรแบ่งมาทางสมุนจอมมารด้วย

พวกเขาได้ลองทานอาหารแบบมนุษย์เป็นครั้งแรกจึงพบว่าลดทอนความหิวลงไปได้บ้าง แม้จะเทียบกับพลังชั่วร้ายและเลือดเนื้อไม่ได้ก็ตาม บางครั้งจึงขออนุญาตอีนั่วออกล่าสัตว์ป่าข้างนอกเขตแดน

ในขณะที่สมุนมารวุ่นวายเรื่องอาหารการกิน เทพเซียนอย่างสองพี่น้องกลับนิ่งเฉยได้เพราะอิ่มทิพย์จึงใช้เวลาทั้งวันฟื้นฟูร่างกายที่ยังคงบาดเจ็บอยู่

สวีลู่ชิงหามุมหนึ่งเก็บตัวเงียบเหมือนอย่างเคย หลับตาลงแล้วทำจิตใจให้ว่างเปล่าเพื่อร่ายพลังเทพไหลเวียนไปทั่วร่างประสานแก่นวิญญาณของตนเอง

จังหวะนั้น เงาสีดำเล็ก ๆ ค่อย ๆ แอบเคลื่อนเข้ามาใกล้นางเพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้ตัว แต่ถึงอย่างนั้นอีนั่วก็จับสังเกตได้อยู่ดี อีกทั้งยังรู้ด้วยว่าเงานั่นคืออะไรจึงแกล้งปัดไล่ไม่ให้มันเข้ามาใกล้มารดาของเขา

วิ้ง วิ้ง

เสียงพึมพำไม่ได้ศัพท์ดังมาจากเงาสีดำที่ไม่ยอมหายไปไหน

“อย่ามายุ่งกับท่านแม่นะ” เขาสื่อสารกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าในใจ “อย่ามาทำให้ท่านแม่เสียใจอีก”

วิ้ง วิ้ง

“ข้าไม่ยกโทษให้หรอกเพราะข้ายังจำความเจ็บในวันนั้นได้เป็นอย่างดี” อีนั่วเม้มปากแน่นเพราะโกรธ

วิ้ง วิ้ง

“ท่านพ่อเจ้าเล่ห์เกินไปแล้ว” เขาพูดไม่ทันขาดคำ เงาดำที่อยู่ตรงหน้าก็กลายร่างเป็นนกน้อยตัวหนึ่งในทันที

จิ๊บ จิ๊บ

สวีลู่ชิงลืมตาเพราะได้ยินเสียงนกอยู่ใกล้ ๆ สายตาของนางมองดูร่างเล็ก ๆ อย่างละเอียดก่อนจะเห็นว่าปีกด้านในของมันมีแผลเลือดไหล

“เจ้าบาดเจ็บมาจากที่ใดหรือ” นางแตะปีกนกน้อยเบา ๆ แล้วมองหน้าลูกชาย “อีนั่ว เจ้าเห็นหรือไม่ว่าเกิดอันใดขึ้น”

บุตรชายจอมมารนิ่วหน้าอยากบอกมารดาเหลือเกินว่านั่นเป็นหลุมพรางของบิดาเจ้าเล่ห์ของเขา

“ข้าเพิ่งเห็นขอรับ แต่ว่าบาดแผลนี้ปล่อยไปเดี๋ยวก็หายเองขอรับ” อีนั่วรู้ดีว่าแผลนี้สามารถหายเองได้แต่ไม่ทันความคิดของจอมมาร

เทพดาราใช้พลังรักษาแผลที่ปีกของนกน้อยอยู่นานแต่เหมือนจะไม่ได้ผลอันใดจนนางนึกสงสัยว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าคงจะไม่ธรรมดา

“เจ้าถูกคำสาปจากผู้ใดมาหรือ เหตุใดพลังเทพของข้าจึงรักษาเจ้าไม่ได้” สวีลู่ชิงลูบนกน้อยอย่างอ่อนโยน

จิ๊บ จิ๊บ

อีนั่วได้ยินดังนั้นเบ้ปากหนักกว่าเดิมเพราะตอนนี้ถูกใครบางคนแย่งความสนใจของมารดาไปจึงเอ่ยปากว่า “ท่านแม่ นกตัวนี้คงถือกำเนิดจากภพมารกระมัง พลังของท่านแม่จึงรักษาไม่ได้ ให้ข้าเอาไปปล่อยไว้ที่นั่นดีกว่า”

จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ

นกน้อยได้ยินดังนั้นร้องลั่นไม่หยุด ต่อต้านอย่างสุดฤทธิ์ไม่ยอมให้อีนั่วจับแล้วกระโดดเข้าไปอยู่ในมือของสวีลู่ชิง

ดวงตาเล็ก ๆ ของนกน้อยสบเข้ากับดวงตาสีฟ้าของนางราวกับกำลังออดอ้อนไม่อยากไปไหน

“เข้าใจแล้ว ข้าจะพยายามรักษาเจ้าจนกว่าจะหายเอง” นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“แต่ว่าท่านแม่...” คำคัดค้านของอีนั่วไม่เป็นผลจึงต้องยอมรับสมาชิกใหม่ของหมู่บ้านดอกท้อไปโดยปริยาย

จิ๊บ จิ๊บ

นกน้อยส่งเสียงพึงพอใจพลางเอาศีรษะถูไถอุ้งมือของสวีลู่ชิงอย่างมีความนัย

จอมมารร่างใหม่จึงสามารถแทรกตัวเข้ามาอยู่ในที่แห่งนี้ได้โดยที่ไม่มีใครสงสัยเพราะเขากดพลังมารเจือจางเอาไว้ มีเพียงอีนั่วเท่านั้นที่รู้เพราะพวกเขามีสายใยเชื่อมโยงกันอยู่

ตกกลางคืนวันนั้น อีนั่วกำลังเข้านอนไปพร้อมมารดา เจ้านกน้อยตัวเดิมกระโดดโหยงเหยงเพราะบินไม่ได้เข้าไปนั่งนิ่งอยู่ตรงหมอนของสวีลู่ชิงด้วย

“ท่านแม่จะให้เจ้าถ่านนอนด้วยอย่างนั้นหรือขอรับ” มารน้อยเอ่ยถามมารดา ไม่พอใจที่มีผู้อื่นเข้ามาวุ่นวายความสงบสุขของเขาเพราะปกติมักจะนอนข้างมารดามาแต่ไหนแต่ไร

“ตั้งชื่อนกน้อยว่าถ่านหรืออีนั่ว” นางถามลูกชายนึกขบขัน

“ขอรับ ขนสีดำขลับ ดวงตาสีม่วงแดง ชื่อเจ้าถ่านดีแล้วขอรับ”

จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ

“ข้าว่าเจ้าถ่านคงจะไม่พอใจ ดูสิ บ่นพึมพำใหญ่เลย” นางส่ายหน้าแล้วใช้มือโอบนกน้อยขึ้นมาดูใกล้ ๆ จึงได้เห็นว่าดวงตาของมันมีสีม่วงแดงอย่างที่อีนั่วบอกจริง ๆ

“ถ้าไม่พอใจนักข้าจะส่งไปภพมารเดี๋ยวนี้”

จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ

“อีนั่ว อย่าใจร้ายกับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเลย หากส่งเจ้าถ่านไปที่นั่นแล้วถูกใครทำร้ายเข้าจะทำอย่างไร อย่างน้อยรอให้หายดีก่อนได้หรือไม่” นางพยายามโน้มน้าวใจมารน้อยเพราะนึกสงสารนกที่บาดเจ็บตรงหน้า “นี่ก็ดึกมากแล้ว นอนกันเถอะ ถ้าเจ้าไม่อยากเห็นเจ้าถ่าน เดี๋ยวแม่จะวางไว้ตรงกองผ้ามุมห้อง”

คืนนั้น นกน้อยค่อย ๆ กลายร่างเป็นเงาดำมืดตามเดิมแต่คราวนี้ใช้รูปร่างเหมือนชายผู้หนึ่งขยับเข้าใกล้สวีลู่ชิงจากด้านหลังแล้วโอบกอดนางไว้ในอ้อมแขนพลางกระซิบ “ข้าคิดถึงเจ้ายิ่งนัก เยว่ชิง”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 87 มารเร้นกายเคียงแสงดารา (ตอนจบ)

    จอมมารพาสวีลู่ชิงกลับมายังดินแดนสุญญตาที่เวลานี้แปรเปลี่ยนกลายเป็นบ้านของเราอย่างที่เขาพูด ที่รกร้างกว้างใหญ่แต่เดิมไม่มีอะไรอยู่ข้างในนั้นเลย กลับมาครั้งนี้สวีลู่ชิงได้เห็นว่าเรือนไม้หลังใหญ่สองชั้นลอยโดดเด่นอยู่ใจกลาง ดอกจื่อเถิงสีม่วงขาวเลื้อยประดับห้อยระย้าสวยงามยิ่งนักพื้นน้ำโดยรอบสะท้อนแสงอาทิตย์ยามเช้าระยิบระยับ และหากท้องฟ้าสดใสถูกแทนที่ด้วยจันทรา ผืนฟ้าก็จะเต็มไปด้วยละอองดาวกงจื่อเย่เนรมิตสรรพสิ่งขึ้นมาเพื่อรอต้อนรับนางกลับมายังที่ที่เป็นบ้านของเราดินแดนตรงกลางระหว่างภพมารกับภพสวรรค์ บ้านที่พวกเขาจะได้อยู่ร่วมกันชั่วนิรันดร์“อีนั่ว ข้าฝากให้เจ้าดูแลไข่ใบนั้นให้ดี ยังจำได้หรือไม่” จอมมารถามบุตรชายเพราะเห็นเขามักจะพาลี่เซียนเที่ยวเล่นกับเทพ

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 86 สายใยรักประสาน

    นับตั้งแต่การจากไปของบุตรสาวสวีลู่ชิงตกอยู่ในความเศร้าสร้อย ความรู้สึกของนางในเวลานี้เหมือนกระตุ้นความทรงจำบางอย่างที่หลงลืมไปแล้ว สัมผัสได้เพียงว่าครั้งหนึ่งนางคงเคยสูญเสียลูกไปในช่วงเวลานี้กงจื่อเย่คอยอยู่เคียงข้างและดูแลนางไม่ให้ขาดตกบกพร่อง ทำหน้าที่สามีเป็นอย่างดีเพื่อให้นางข้ามผ่านความเจ็บปวดครั้งนี้ไปให้ได้หญิงสาวเอนศีรษะพิงไหล่กว้างของคนข้างกาย เอ่ยพึมพำว่า “ลูกสาวของเราคงจะสุขสบายดีอยู่ที่ไหนสักแห่งใช่หรือไม่”สามีของนางจึงตอบอย่างมั่นใจ “อืม ลูกสาวของเรากำลังเล่นสนุกสนานกับเพื่อนใหม่ของนาง ไม่มีเรื่องใดให้เจ้าต้องกังวลเลยลู่ชิง”รอยยิ้มบางปรากฏบนใบหน้าของหญิงสาว “เจ้าช่างสรรหาคำปลอบใจได้แปลกยิ่งนัก ลี่เซียนกำลังเล่น

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 85 เคราะห์หนัก

    เก้าเดือนต่อมาเด็กครึ่งมารคนที่สองได้ฤกษ์ถือกำเนิด เด็กหญิงตัวน้อยมีดวงตาสีม่วงแดงเหมือนบิดา เรือนผมสีขาวคล้ายมารดา หน้าตาน่ารักน่าชังยิ่งนักสวีลู่ชิงมองหน้าลูกสาวพลางนึกถึงอีนั่วจึงเอ่ยปากบอกสามีที่นั่งอยู่ข้างกัน “เจ้าเคยอยากรู้ว่าลูกสาวของเราจะหน้าตาเหมือนผู้ใดใช่หรือไม่”“อืม” กงจื่อเย่ยิ้มกว้าง“นางหน้าตาเหมือนเจ้าไม่มีผิด” สวีลู่ชิงไล้แก้มเด็กน้อยด้วยความเอ็นดูทันใดนั้นจึงได้ยินเสียงคุ้นเคยร้องเรียกนางจากหน้าบ้าน สวีลู่ชิงเดินไปดูลาดเลาจึงได้เห็นคนที่ไม่คาดคิดว่าจะได้พบเจออีกครั้ง“ท่านแม่” อีนั่ววิ่งเข้ามากอดนางด้วยความคิดถึงเพราะถูกกักบริเวณจึง

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 84 คำนับฟ้าดิน

    สามเดือนต่อมาระหว่างที่สวีลู่ชิงกำลังเก็บผักกาดอยู่ในสวนข้างบ้าน นางได้ยินเสียงกุบกับดังมาแต่ไกลผิดวิสัยการเดินทางของคนในหมู่บ้านแห่งนี้จึงรีบออกมาดูใบหน้าของใครบางคนทำให้นางดีใจยิ่งนัก รีบตะโกนบอกใต้เท้าสวีและฮูหยินที่พักผ่อนอยู่ข้างในได้รู้ว่า “ท่านพี่กลับมาแล้วเจ้าค่ะ”ทุกคนออกมายืนรอรับคุณชายสวีหน้าบ้าน ส่วนกงจื่อเย่เดินมากอดเอวคุณหนูเอาไว้เหมือนอย่างเคยครั้นได้เห็นบุตรชายคนโตใกล้ ๆ ใต้เท้าสวีและฮูหยินจึงได้เห็นว่าร่างกายของเขามีแต่รอยแผลเต็มไปหมด เลือดสีแดงแห้งติดเกราะและเสื้อผ้าทว่า คุณชายสวีไม่ได้กังวลเรื่องนั้นแม้แต่น้อย “ท่านพ่อ ท่านแม่ ลู่ชิง” เขาเอ่ยเรียกทั้งสามคนสีหน้าระรื่น “ข้าล้างมลทินให้สกุลสวีได้สำเร็จแล้วขอรับ”

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 83 บิดาเจ้าน่ากลัวยิ่งนัก

    แม้จอมมารจะคิดหลายอย่างอยู่ในหัวแต่เวลานี้ยังไม่ใช่จังหวะที่ดีนักเพราะเขาต้องใช้โอกาสนี้พาสวีลู่ชิงหนีจากหอเยว่ส่างก่อนที่จะถูกใครจับได้ใครหลายคนคงคิดว่าพวกเขาใช้เวลาอยู่ร่วมกันทั้งคืน กว่าจะรู้ตัวว่านักโทษกบฏแอบหนีออกไปกับแขกที่ไม่เห็นหน้าค่าตาก็คงทิ้งห่างจากพวกเขาไปหลายชั่วยามแล้ว“หนีอย่างนั้นหรือ” นางเอ่ยถามให้แน่ใจ ความกังวลถาโถมเข้ามาไม่หยุดเพราะเกรงว่าทุกคนจะมีอันตรายไปด้วย“เชื่อใจข้าหรือไม่” กงจื่อเย่ถามแต่เพียงเท่านั้น แววตาของเขาจริงจังเสียจนนางไม่นึกสงสัยอันใดอีกจึงกุมมือเขาไว้แน่นแล้วหนีไปด้านหลังด้วยกันทาสหนุ่มฝืนตัวเองเร่งรีบไปให้ถึงจุดที่เขาผูกม้าเอาไว้ ขาข้างที่เคยบาดเจ็บสร้างความทรมานให้เขาอย่างยิ่งแม้จะผ่านมานานมากแล้วก็ตาม

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 82 ขัดขวางเนื้อคู่

    สองเดือนต่อมาอีนั่วมาหาสวีลู่ชิงอย่างเช่นเคย ก่อนเข้าไปยังห้องรับรองก็นั่งดูหลิวอิงอิงดีดพิณ ขับร้องเพลงเสียงก้องกังวานด้วยความรื่นเริงใจจนกระทั่งมองเห็นบุรุษผู้หนึ่งในคำทำนายโชคชะตาของมารดาเจ้าตัวตะลึงงันไม่คิดว่ามนุษย์อย่างเขาจะดูมีรัศมีเหมือนเทพสวรรค์ พลันกวาดตามองรอบตัวต้องตกใจยิ่งกว่าเดิมเมื่อได้เห็นรอยยิ้มเยือกเย็นจากเทพชั้นสูง ผู้มีดวงตาสีฟ้า ผมขาวเหมือนผู้เป็นมารดาหากแต่อีนั่วยังทำใจดีสู้เสือคิดว่านั่นคือบิดาที่แปลงกายมาจึงยิ้มตอบกลับไปทักทายเทพวายุหายตัววับมาอยู่ข้างเขาในทันทีจนสมุนปีศาจแข็งทื่อเพราะรู้ว่าคนตรงหน้าคือสวีต้าเฟิงตัวจริง หลิวอิงอิงที่นั่งอยู่ตรงกลางลานแสดงถึงกับดีดเพลงพิณเพี้ยนไปสองจังหวะคิดจะหนีหายเอาตัวรอดก่อนผู้ใดแต่ถูกแส้บ่วงของเทพวายุตวัดรัดตัวนางเอาไว้

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status