แชร์

ตอนที่ 60 คิดถึงข้าบ้าง

ผู้เขียน: MACARONI/1Millionmilesaway
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-23 20:59:19

ดินแดนสุญญตา

สถานที่ที่อยู่ระหว่างภพมารและภพสวรรค์ ไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าที่รกร้างว่างเปล่าจะมีมารที่มีพลังชั่วร้ายแอบซ่อนตัวอยู่นับพันปี

ขณะที่กงจื่อเย่กำลังต่อสู้กับหลิ่งปินเพื่อแย่งชิงเทพดารากลับมา กองทัพสวรรค์ของเทพสงครามและสวีต้าเฟิงก็ปรากฏตัวขึ้นเข้าร่วมการศึกสงครามในครั้งนี้

ในสายตาของเทพเซียนที่อยู่ตรงนั้น พวกเขาต่างมองว่าศัตรูที่เป็นภัยต่อสามภพมากที่สุดคือกงจื่อเย่ อดีตจอมมารที่เพิ่งจะสูญสลายไปไม่นาน

ไม่ว่าจะมองอย่างไร ร่างกายและพลังที่สมบูรณ์เกินกว่าที่ควรคงเป็นเพราะเขาเร่งกลืนกินพวกเดียวกันอย่างแน่นอน ทั้งยังไม่รู้ว่าสติยังคงอยู่ครบถ้วนหรือเลือนหายแล้วใช้สัญชาตญาณนำทางอยู่กันแน่

“ช้าก่อน” สวีต้าเฟิงออกคำสั่งห้ามทหารสวรรค์เคลื่อนไหวก่อนดูลาดเลาฉากการต่อสู้ที่อยู่ตรงหน้า แล้วหารือกับเทพปฐพีว่า “โจมตีมารตนนั้นก่อน สวีลู่ชิงตกอยู่ในอันตราย หากนางปลอดภัย ข้าเชื่อว่ากงจื่อเย่จะสงบอารมณ์ลงได้”

“เหตุใดไม่สังหารไปพร้อมกันเลยเล่า” เทพปฐพีผู้มีนิสัยทะลวงทุกอย่างที่ขวางหน้าโดยไม่แยแสถามด้วยความสงสัย “เพราะเขาเป็นสามีน้องสาวเจ้า เจ้าจึงขอร้องให้ข้าไว้ชีวิตอย่างนั้นหรือ”

“เจ้าก็รู้ว่าไม่ใช่เช่นนั้น” เทพวายุส่ายหน้า

“ท่านลุง ช่วยท่านแม่เร็วเข้า” อีนั่วเห็นสวีต้าเฟิงยังคงนิ่งงันถกเถียงกับเทพปฐพีจึงตะโกนเสียงดังข้ามมาจากอีกฝั่งหนึ่งพลันร่ายพลังมารที่บิดาเคยสอนไว้ถล่มหลิ่งปินช่วยเขาอีกแรง

“เฮ้อ” เทพวายุถอนหายใจ “ข้าไม่รู้ด้วยแล้ว เอาเป็นว่านางคือผู้เดียวที่จอมมารยอมสยบ เพราะฉะนั้นแล้วห้ามปล่อยให้นางเป็นอันใดไปเด็ดขาด”

เทพปฐพียิ้มมุมปากแล้วส่งสัญญาณให้กองทัพสวรรค์เคลื่อนพลโจมตีหลิ่งปินและบริวารที่เป็นเป้าหมายเพียงหนึ่งเดียว

มารตนนั้นไม่ใช่พวกไม่มีความคิด เมื่อเห็นว่าตนเองตกอยู่ในอันตรายจึงใช้สวีลู่ชิงเป็นโล่กำบัง บังคับให้นางร่ายอาคมคุ้มกันเขาจากกองทัพสวรรค์

แววตาของมันดุดันไม่แพ้ใคร แสยะยิ้มชั่วร้ายเหมือนทุกอย่างกำลังเข้าแผนที่วางไว้พลางคิดในใจว่า จะเป็นอย่างไรหนอหากได้กินเทพเซียนพวกนั้นจนพุงกาง วันนั้นข้าคงจะกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่ไม่มีใครเทียบเทียม

ฝันไปเถอะ กงจื่อเย่เจาะเข้าไปในความคิดของมันได้อย่างง่ายดายด้วยพลังของมารตนก่อนหน้าที่เขาสังหารพลางรวบรวมสิ่งที่เขามีทั้งหมดเป็นหนึ่งเดียวโจมตีหลิ่งปินไม่ยั้งมือจนร่างของมันกระเด็นลอยไปไกลแล้วโอบรับสวีลู่ชิงกลับมาในอ้อมแขนตนเอง

พลังมารในแก่นวิญญาณของเขาแทบเอ่อล้นเกินที่จะรับไหว เดิมทีต้องค่อย ๆ กลืนกิน ใช้เวลาหลายร้อยหลายพันปีสำหรับพลังมหาศาลแต่เขากลับรับทุกสิ่งทุกอย่างมาทั้งหมดในไม่กี่ชั่วยาม

“เจ้า...” สวีลู่ชิงมองเขาด้วยสีหน้าจริงจัง พลังเทพบรรพกาลในแก่นวิญญาณของนางกำลังสั่นไหวบังคับให้นางสังหารเขา

กงจื่อเย่เองรู้สึกได้ว่าอันตรายที่เขากลัวที่สุดกำลังคืบคลานเข้ามาจึงพยายามควบคุมมันให้อยู่ในกำมือ

เทพดาราเอื้อมมือแตะกลางหน้าอกของเขาแล้วร่ายอาคมช่วยควบคุมความชั่วร้ายอีกแรง “อดทนอีกสักนิดได้หรือไม่” นางกล่าวกับคนตรงหน้า

“ท่านแม่” อีนั่วรีบวิ่งมาหาทั้งคู่ด้วยความเป็นห่วง คอยเฝ้าระวังไม่ให้หลิ่งปินฉวยโอกาสลอบทำร้ายบิดามารดาในเวลานี้

เมื่อเทพปฐพีเห็นว่าจอมมารอยู่ในมือของเทพดาราแล้วจึงพุ่งความสนใจมาที่มารอีกตนอย่างเต็มที่ สั่งกองทัพกระหน่ำจัดการมันอย่างไม่ปรานี ท้ายที่สุดแล้วมารร้ายหนึ่งตนที่ถูกจอมมารถล่มใส่จนบาดเจ็บ ไม่เหลือแรงสู้ทหารสวรรค์หลายร้อยได้จึงพ่ายแพ้ไป

“เฮ้อ” สวีลู่ชิงถอนหายใจเฮือกใหญ่ ดวงตาสีฟ้าจับจ้องอีกฝ่ายไม่วางตา รู้สึกลึก ๆ ในใจว่าเป็นห่วงเขาแต่ไม่รู้เหตุผลว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น

“เจ้าเป็นห่วงข้าหรือ” จอมมารเอ่ยถามคนตรงหน้า

“...” นางไม่ตอบเพราะกำลังสับสนว่าความรู้สึกนั้นเป็นของนางหรือเป็นเพราะถูกจอมมารเจ้าเล่ห์ทำเสน่ห์ให้หลงใหล

กงจื่อเย่ยิ้มด้วยความสดใสเปลี่ยนจากมารชั่วร้ายที่พร้อมทำลายสามภพเป็นเพียงบุรุษผู้หนึ่งที่กำลังมองคนรักของตนอย่างลึกซึ้งพลางสวมกอดนางแนบแน่นไม่สนสายตาของผู้ใด

“ท่านลุง ไม่เป็นอันใดแล้วขอรับ” เขาเอ่ยปากบอกให้สวีต้าเฟิงแน่ใจ แม้เห็นกับตาว่าพลังชั่วร้ายสงบลงแล้วแต่ไม่มีทางรู้ได้เลยว่าจอมมารคิดสิ่งใดอยู่

ทว่า กงจื่อเย่รู้ดีว่ายามที่พลังมารเปี่ยมล้นเช่นนี้ ทางเดียวที่จะรักษาแก่นวิญญาณของสวีลู่ชิงเอาไว้ได้และไม่ทำให้นางถูกพลังเทพบรรพกาลบังคับให้กำจัดเขา จอมมารจะต้องเสียสละสลายพลังทั้งหมด

เขาจึงคิดจัดการตัวเองอย่างที่เคยทำเมื่อไม่นานมานี้ คิดจะเป็นเพียงนกน้อยที่คอยอยู่เคียงข้างนาง แต่ก่อนจะไปขอจุมพิตนางสักหน่อยคงดี

ริมฝีปากของเขาสัมผัสคนตรงหน้าที่ไม่ทันได้ตั้งตัว รสจูบแผ่วเบาจนทำให้สวีลู่ชิงเคลิบเคลิ้มโดยไม่รู้ตัว

สวีต้าเฟิงและเทพปฐพี รวมถึงทหารสวรรค์กลายเป็นพยานในครั้งนี้ สนามรบเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นสนามรักไปโดยปริยาย

“เจ้าคิดว่ายังน่าห่วงอีกหรือไม่ ข้าบอกแล้วว่าตราบใดที่นางปลอดภัย เจ้ามารนั่นไม่กล้าก่อเรื่องใดหรอก” สวีต้าเฟิงหันไปมองเทพปฐพีที่ยังคงกำอาวุธเทพในมือไว้แน่นเผื่อว่ามารเจ้าเล่ห์คิดลอบโจมตี

“ยังวางใจไม่ได้หรอก เจ้าไม่เห็นหรือว่าที่แห่งนี้ยังมีมารน้อยอีกตน หลานเจ้าน่ะ ไม่อันตรายจริงหรือ” เขาเอ่ยถามบ้างแต่สวีต้าเฟิงยืนยันหนักแน่นว่าเขาควบคุมอีนั่วไม่ให้ก่อเรื่องได้

“ข้าถึงบอกอย่างไรเล่าว่าถ้านางยังอยู่ ทั้งจอมมาร มารน้อยจะอยู่อย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัว” เทพวายุยืนยันคำเดิมหลังจากสังเกตอีนั่วมานาน หลานชายของเขาดูเป็นเด็กน้อยธรรมดาเท่านั้น ไม่มีทีท่าจะใช้พลังมารโดยไม่จำเป็น

“เฮอะ” เทพปฐพีสบถเล็กน้อยก่อนถอนกำลังนำตัวหลิ่งปินไปกักขังเพียงชั่วพริบตา

ดินแดนแห่งนี้จึงมีเพียงแค่จอมมาร สวีลู่ชิงและมารน้อยอยู่กันสามคนตามลำพัง

“เจ้าจูบข้าทำไม” สวีลู่ชิงพยายามดันหน้าอกเขาออก

แววตาของจอมมารเศร้าสลดเล็กน้อย “จูบลาไม่ได้หรือ ข้าจะไม่ได้เห็นหน้าเจ้าอีกนานเลย”

“ครั้งที่แล้วเจ้าก็พูดเช่นนี้”

“ยอมให้ข้าหน่อยไม่ได้หรือ เยว่ชิง”

“สวีลู่ชิงต่างหาก” นางแย้งขึ้นมาทันใดเพราะจำชีวิตในชาติก่อนที่เป็นอู๋เยว่ชิงไม่ได้ด้วยซ้ำ

“ภรรยาข้า ดูแลตัวเองให้ดีนะ ข้าหวังว่าแก่นวิญญาณของเจ้าจะปลอดภัย” น้ำเสียงของเขาจริงใจยิ่งกว่าครั้งใด เทพดาราไม่นึกเลยว่าจอมมารชั่วร้ายเปลี่ยนแปลงตนเองไปได้มากเพียงนี้

“อีนั่ว ข้าฝากเจ้าดูแลนาง” เขาเอื้อมมือลูบศีรษะมารน้อยอย่างอ่อนโยน “ต่อจากนี้ไปจะไม่มีมารปีศาจตนไหนกล้าทำร้ายเจ้ากับนางได้อีกแล้ว”

“ขอรับ” มารน้อยรับปากแล้วกอดสวีลู่ชิงแทนกงจื่อเย่ สายตาอาลัยอาวรณ์เล็กน้อยแม้จะยังโกรธบิดาอยู่บ้าง

“คิดถึงข้าบ้างนะ” กงจื่อเย่เอ่ยราวกับขอร้องให้จดจำเขาไว้ในใจ รอยยิ้มสุดท้ายแสนอบอุ่นปรากฏบนใบหน้าจอมมารที่เคยร้ายกาจในวันวานก่อนที่ร่างกายของเขาจะสลายหายไปต่อหน้าต่อตาทั้งคู่

สุดท้ายแล้ว สามภพคงจะสงบสุขไปอีกนานแสนนานเพราะกงจื่อเย่กำจัดมารปีศาจที่คิดเป็นภัยในวันข้างหน้าจนเหี้ยนเหลือแต่เพียงไข่มังกรที่มีความลับบางอย่างซ่อนอยู่ แต่เพราะมันช่วยเหลือเขาให้ได้พบที่ซ่อนจึงได้รับการยกเว้นให้รอดชีวิตอยู่ใต้พิภพดังเดิม

เสียงเศร้าสร้อยพัดผ่านตามสายลมอ้อนวอนคนรักของตนเอง

“อย่าลืมข้าเลยนะ”

“ข้ารักเจ้า”

“ภรรยาของข้า”

“ลู่ชิง”

แม้นางจะไม่เชื่อคำพูดของเขาแต่อดไม่ได้ที่จะสัมผัสถึงความรู้สึกจากก้นบึ้งหัวใจของจอมมาร

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 87 มารเร้นกายเคียงแสงดารา (ตอนจบ)

    จอมมารพาสวีลู่ชิงกลับมายังดินแดนสุญญตาที่เวลานี้แปรเปลี่ยนกลายเป็นบ้านของเราอย่างที่เขาพูด ที่รกร้างกว้างใหญ่แต่เดิมไม่มีอะไรอยู่ข้างในนั้นเลย กลับมาครั้งนี้สวีลู่ชิงได้เห็นว่าเรือนไม้หลังใหญ่สองชั้นลอยโดดเด่นอยู่ใจกลาง ดอกจื่อเถิงสีม่วงขาวเลื้อยประดับห้อยระย้าสวยงามยิ่งนักพื้นน้ำโดยรอบสะท้อนแสงอาทิตย์ยามเช้าระยิบระยับ และหากท้องฟ้าสดใสถูกแทนที่ด้วยจันทรา ผืนฟ้าก็จะเต็มไปด้วยละอองดาวกงจื่อเย่เนรมิตสรรพสิ่งขึ้นมาเพื่อรอต้อนรับนางกลับมายังที่ที่เป็นบ้านของเราดินแดนตรงกลางระหว่างภพมารกับภพสวรรค์ บ้านที่พวกเขาจะได้อยู่ร่วมกันชั่วนิรันดร์“อีนั่ว ข้าฝากให้เจ้าดูแลไข่ใบนั้นให้ดี ยังจำได้หรือไม่” จอมมารถามบุตรชายเพราะเห็นเขามักจะพาลี่เซียนเที่ยวเล่นกับเทพ

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 86 สายใยรักประสาน

    นับตั้งแต่การจากไปของบุตรสาวสวีลู่ชิงตกอยู่ในความเศร้าสร้อย ความรู้สึกของนางในเวลานี้เหมือนกระตุ้นความทรงจำบางอย่างที่หลงลืมไปแล้ว สัมผัสได้เพียงว่าครั้งหนึ่งนางคงเคยสูญเสียลูกไปในช่วงเวลานี้กงจื่อเย่คอยอยู่เคียงข้างและดูแลนางไม่ให้ขาดตกบกพร่อง ทำหน้าที่สามีเป็นอย่างดีเพื่อให้นางข้ามผ่านความเจ็บปวดครั้งนี้ไปให้ได้หญิงสาวเอนศีรษะพิงไหล่กว้างของคนข้างกาย เอ่ยพึมพำว่า “ลูกสาวของเราคงจะสุขสบายดีอยู่ที่ไหนสักแห่งใช่หรือไม่”สามีของนางจึงตอบอย่างมั่นใจ “อืม ลูกสาวของเรากำลังเล่นสนุกสนานกับเพื่อนใหม่ของนาง ไม่มีเรื่องใดให้เจ้าต้องกังวลเลยลู่ชิง”รอยยิ้มบางปรากฏบนใบหน้าของหญิงสาว “เจ้าช่างสรรหาคำปลอบใจได้แปลกยิ่งนัก ลี่เซียนกำลังเล่น

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 85 เคราะห์หนัก

    เก้าเดือนต่อมาเด็กครึ่งมารคนที่สองได้ฤกษ์ถือกำเนิด เด็กหญิงตัวน้อยมีดวงตาสีม่วงแดงเหมือนบิดา เรือนผมสีขาวคล้ายมารดา หน้าตาน่ารักน่าชังยิ่งนักสวีลู่ชิงมองหน้าลูกสาวพลางนึกถึงอีนั่วจึงเอ่ยปากบอกสามีที่นั่งอยู่ข้างกัน “เจ้าเคยอยากรู้ว่าลูกสาวของเราจะหน้าตาเหมือนผู้ใดใช่หรือไม่”“อืม” กงจื่อเย่ยิ้มกว้าง“นางหน้าตาเหมือนเจ้าไม่มีผิด” สวีลู่ชิงไล้แก้มเด็กน้อยด้วยความเอ็นดูทันใดนั้นจึงได้ยินเสียงคุ้นเคยร้องเรียกนางจากหน้าบ้าน สวีลู่ชิงเดินไปดูลาดเลาจึงได้เห็นคนที่ไม่คาดคิดว่าจะได้พบเจออีกครั้ง“ท่านแม่” อีนั่ววิ่งเข้ามากอดนางด้วยความคิดถึงเพราะถูกกักบริเวณจึง

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 84 คำนับฟ้าดิน

    สามเดือนต่อมาระหว่างที่สวีลู่ชิงกำลังเก็บผักกาดอยู่ในสวนข้างบ้าน นางได้ยินเสียงกุบกับดังมาแต่ไกลผิดวิสัยการเดินทางของคนในหมู่บ้านแห่งนี้จึงรีบออกมาดูใบหน้าของใครบางคนทำให้นางดีใจยิ่งนัก รีบตะโกนบอกใต้เท้าสวีและฮูหยินที่พักผ่อนอยู่ข้างในได้รู้ว่า “ท่านพี่กลับมาแล้วเจ้าค่ะ”ทุกคนออกมายืนรอรับคุณชายสวีหน้าบ้าน ส่วนกงจื่อเย่เดินมากอดเอวคุณหนูเอาไว้เหมือนอย่างเคยครั้นได้เห็นบุตรชายคนโตใกล้ ๆ ใต้เท้าสวีและฮูหยินจึงได้เห็นว่าร่างกายของเขามีแต่รอยแผลเต็มไปหมด เลือดสีแดงแห้งติดเกราะและเสื้อผ้าทว่า คุณชายสวีไม่ได้กังวลเรื่องนั้นแม้แต่น้อย “ท่านพ่อ ท่านแม่ ลู่ชิง” เขาเอ่ยเรียกทั้งสามคนสีหน้าระรื่น “ข้าล้างมลทินให้สกุลสวีได้สำเร็จแล้วขอรับ”

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 83 บิดาเจ้าน่ากลัวยิ่งนัก

    แม้จอมมารจะคิดหลายอย่างอยู่ในหัวแต่เวลานี้ยังไม่ใช่จังหวะที่ดีนักเพราะเขาต้องใช้โอกาสนี้พาสวีลู่ชิงหนีจากหอเยว่ส่างก่อนที่จะถูกใครจับได้ใครหลายคนคงคิดว่าพวกเขาใช้เวลาอยู่ร่วมกันทั้งคืน กว่าจะรู้ตัวว่านักโทษกบฏแอบหนีออกไปกับแขกที่ไม่เห็นหน้าค่าตาก็คงทิ้งห่างจากพวกเขาไปหลายชั่วยามแล้ว“หนีอย่างนั้นหรือ” นางเอ่ยถามให้แน่ใจ ความกังวลถาโถมเข้ามาไม่หยุดเพราะเกรงว่าทุกคนจะมีอันตรายไปด้วย“เชื่อใจข้าหรือไม่” กงจื่อเย่ถามแต่เพียงเท่านั้น แววตาของเขาจริงจังเสียจนนางไม่นึกสงสัยอันใดอีกจึงกุมมือเขาไว้แน่นแล้วหนีไปด้านหลังด้วยกันทาสหนุ่มฝืนตัวเองเร่งรีบไปให้ถึงจุดที่เขาผูกม้าเอาไว้ ขาข้างที่เคยบาดเจ็บสร้างความทรมานให้เขาอย่างยิ่งแม้จะผ่านมานานมากแล้วก็ตาม

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 82 ขัดขวางเนื้อคู่

    สองเดือนต่อมาอีนั่วมาหาสวีลู่ชิงอย่างเช่นเคย ก่อนเข้าไปยังห้องรับรองก็นั่งดูหลิวอิงอิงดีดพิณ ขับร้องเพลงเสียงก้องกังวานด้วยความรื่นเริงใจจนกระทั่งมองเห็นบุรุษผู้หนึ่งในคำทำนายโชคชะตาของมารดาเจ้าตัวตะลึงงันไม่คิดว่ามนุษย์อย่างเขาจะดูมีรัศมีเหมือนเทพสวรรค์ พลันกวาดตามองรอบตัวต้องตกใจยิ่งกว่าเดิมเมื่อได้เห็นรอยยิ้มเยือกเย็นจากเทพชั้นสูง ผู้มีดวงตาสีฟ้า ผมขาวเหมือนผู้เป็นมารดาหากแต่อีนั่วยังทำใจดีสู้เสือคิดว่านั่นคือบิดาที่แปลงกายมาจึงยิ้มตอบกลับไปทักทายเทพวายุหายตัววับมาอยู่ข้างเขาในทันทีจนสมุนปีศาจแข็งทื่อเพราะรู้ว่าคนตรงหน้าคือสวีต้าเฟิงตัวจริง หลิวอิงอิงที่นั่งอยู่ตรงกลางลานแสดงถึงกับดีดเพลงพิณเพี้ยนไปสองจังหวะคิดจะหนีหายเอาตัวรอดก่อนผู้ใดแต่ถูกแส้บ่วงของเทพวายุตวัดรัดตัวนางเอาไว้

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status