เห้ออออ หายใจโล่งสักทีต่อจากนี้ก็ไม่มีอะไรแล้วอีกไม่กี่เดือนฉันก็เรียนจบแล้วคงไม่ต้องกังวลอะไรแล้วละ
“เอ๊ย!” อยู่ๆ หญิงสาวก็นึกขึ้นได้ว่าริลรุ่นพี่ที่ให้เธอเช่าบ้านจะมาเยี่ยมเธอในวันนี้
ปกติแล้วรุ่นพี่จะแวะเอาของใช้ของกินมาให้เธอบ่อยๆ รุ่นพี่ดูแลเธอดีมากเหมือนเธอเป็นพี่น้องกันจริงๆ คงเป็นเพราะต่างคนต่างเคยใช้ชีวิตมาตัวคนเดียวทำให้เกิดความเห็นอกเห็นใจกันมาก
เราสองคนเลยเหมือนพี่น้องแท้ๆ ถ้ามีปัญหาที่เธอไม่สามารถหาทางออกได้ริลจะไม่เคยปฏิเสธที่จะช่วยแก้ปัญหาเลย
อย่างเช่นบ้านหลังนี้....ก่อนหน้านี้เธอเคยมีบ้านเป็นของตัวเองแต่เพราะถูกผู้ชายที่รักหลอกให้ใช้หนี้แทน เธอจึงจำเป็นต้องขายบ้านหลังนั้นแล้วมาขอเช่าบ้านริล
พอดีกับช่วงที่ริลจะย้ายไปอยู่กับแฟนบ้านหลังนี้จึงจะต้องว่างอยู่แล้ว ริลเลยขอคิดค่าเช่าเป็นการดูแลบ้านหลังนี้แทนการจ่ายเงินเพื่อเป็นการช่วยมิ้นประหยัดทางอีกทาง
“อะไรครับ? ”
“พาฉันไปที่ที่หนึ่งก่อนได้ไหมคะ พอดีฉันนัดพี่สาวไว้”
“แต่เรื่องนี้เจ้านายยังไม่ทราบ”
“เดี๋ยวฉันจะบอกเขาเองค่ะ รบกวนด้วยนะคะ”
:ยูร์
(เจ้านายครับ)
“ว่ายังไง”
(คุณมิ้นให้ผมมาส่งที่บ้านหลังหนึ่ง น่าจะเป็นบ้านของเธอ เธอบอกว่านัดพี่สาวไว้ผมเลยพาเธอมาครับ ขอโทษด้วยครับที่นอกเหนือคำสั่ง)
“ไม่เป็นไร ถ้าเป็นเรื่องจริงฉันเข้าใจได้ แต่เท่าที่นายเคยบอกเธอไม่มีญาติ.…”
(ผมให้สืบแล้วครับ ผู้หญิงที่ผมส่งข้อมูลไปเป็นรุ่นพี่คุณมิ้นครับ คุณมิ้นเช่าบ้านเธออยู่ น่าจะสนิทกันมากครับ)
“ฉันได้รับแล้ว…. เอะ….”
(ผะ ผิดพลาดเหรอครับ ขอโทษครับเจ้านาย) เสียงลูกน้องสั่นด้วยความกลัว
“เปล่า ฉันแค่รู้จักแฟนของผู้หญิงคนนี้โลกกลมน่ะ”
ยูร์ยิ้มออกมาเมื่ออย่างวางใจเมื่อเห็นประวัติของผู้หญิงที่ชื่อริล เธอเป็นแฟนของเฟร์สเพื่อนสนิทของลิบินเขาเคยเจอผู้หญิงคนนี้ไม่บ่อยนัก
เธอเป็นคนดีและยังเป็นคนเก่งที่สามารถเปลี่ยนคนเจ้าชู้อย่างเฟร์สให้เป็นคนคลั่งรักได้ ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะรู้จักกับมิ้น โลกมันช่างกลมสะจริง
(คะ ครับ)
“ไปทำงานต่อเถอะ ฉันมีนัด”
(รับทราบครับ เจ้านายครับอีกเรื่องครับวันนี้เหมือนจะมีผู้ชายคนหนึ่งทำให้คุณมิ้นอึดอัดใจผมกำลังส่งคนไปขอกล้องวงจรปิดครับ)
ใครกัน…. หรือจะเป็นไอ้บ้านั้น ถ้าใช่แกได้ตายแน่
“ได้แล้วรีบส่งมา” ชายหนุ่มกดเสียงลงต่ำด้วยความหงุดหงิดใจ ใครกันกล้ามาทำคนของเขา ถ้าได้รู้จะจับมาทรมานให้เข็ด
(คะ ครับ)
กึกๆ เสียงกัดฟันดังสนั่นไปทั่วห้อง ในใจชายหนุ่มตอนนี้คิดไว้ว่าคงจะเป็นผู้ชายที่ชื่อโซ่แน่นอนที่มายุ่งกับมิ้น ถ้าเขารู้ว่ามันทำอะไรเธอบ้างจะได้เตรียมบทลงโทษให้สาสม
“เฮ้ พี่ชายทำไมทำหน้าอย่างนั้น”
ชายหนุ่มสะดุ้งเมื่ออยู่ๆ ผู้มีศักดิ์น้องสาวก็เปิดประตูเข้ามาอย่างไม่ทันตั้งตัวเพราะวันนี้เขาตั้งใจเข้ามาดูแผนการเปิดตัวเพียงคนเดียวโดยไม่ได้นัดใครไว้
“เปล่าหรอก กำลังดูแผนน่ะ”
“นี่ยูร์ ถ้าฉันจะเปิดสปาจะดีไหม”
ชายหนุ่มมองผู้เป็นน้องอย่างแปลกใจ เพราะศูนย์สปาแห่งนี้ก็มีเขาและเธอเป็นรองประธานอยู่แล้วอีกอย่างตัวเธอเองก็มีสปาอยู่ที่นี่แล้วหนึ่งแห่ง ทำไมอยู่ๆ ถึงอยากจะเปิดอีกแห่งขึ้นมาอีกทั้งที่พื้นที่ทุกส่วนของศูนย์สปาก็ถูกเช่าจนเต็ม
“เปิดตรงไหน ที่ศูนย์สปาเราพื้นที่เต็มหมดแล้วนี่? ”
“เอ่อ….ลืมน่ะ”
“เดี๋ยวนะ....มีอะไรหรือเปล่า เรื่องนี่เธอน่าจะรู้ดีกว่าฉันอีกนะ”
ชายหนุ่มมองคนตรงหน้าอย่างจับผิด หญิงสาวเมื่อเห็นพี่ชายจับพิรุธได้แบบนั้นก็ทำท่าทีไม่ถูก นั้นยิ่งทำให้ชายหนุ่มรู้ทันทีว่าเธอกำลังมีเรื่องจะขอร้องเขา
“พูดมาเถอะ”
“ฝากเด็กคนหนึ่ง เดี๋ยวก่อนนะอย่าเพิ่งว่าคะน้านะ คะน้ารู้ว่ายูร์ไม่ชอบเส้นสาย แต่เด็กคนนี้ดีนะ ขยันมากน้องเขาเป็นรุ่นน้องของแฟนเฟร์สไง ช่วยกันหน่อยนะ”
เอะ รุ่นน้องแฟนเฟร์ส ....ยัยหนูงั้นเหรอ ให้ตายโลกกลมอีกแล้วงั้นเหรอ แบบนี้ถ้าฉันถูกใจเธอจริงๆ ก็ไม่มีทางหนีพ้นแล้วนะ
ชายหนุ่มเผลอยิ้มออกมาด้วยความประหลาดใจแต่คงจะให้น้องสาวคนนี้รู้ไม่ได้ว่าเขากับมิ้นมีความสัมพันธ์แบบไหนกันอยู่
เพราะชายหนุ่มรู้ดีว่าถ้าน้องสาวคนนี้รับรู้เรื่องที่เขาทำละก็คงไม่วายฉีกเขาออกเป็นชิ้นๆ แน่
“ได้สิ ถ้าเธอมาขอเองขนาดนี้ ฉันจะขัดอะไรได้คุณรองประธาน”
“เเต่....ถ้าได้เจอเด็กคนนั้นอย่าบอกเขานะว่าคะน้าฝากให้ น้องเขาไม่ชอบใช้เส้นสายแต่ริลบอกว่าเธอโดนแฟนเก่าหลอกให้เป็นหนี้น่ะ ริลเขาไม่อยากให้น้องหางานยาก เข้าใจใช่ไหม”
หญิงสาวตีเข้าที่แขนชายหนุ่มก่อนจะส่งสายตาขู่มาให้ ชายหนุ่มได้แต่นึกขำเรื่องหนี้สินทั้งหมดของยัยหนูมิ้นเขาเป็นคนใช้ให้จนหมดแล้วแท้ๆ
มิ้นเองก็คงไม่กล้าที่จะบอกใครเลยทำให้ทุกคนพากันเป็นห่วงเธอแบบนี้ ถึงเขาเป็นคนเกลียดการใช้เส้นสายมากก็จริง
แต่พอได้รู้ว่าเป็นใครแบบนี้แล้วก็มีแต่ต้องยอม แม้เขาเองยังไม่เชื่อมั่นในการทำงานของมิ้นและไม่เชื่อใจพอที่จะให้เธอมารับหน้าที่ใหญ่ๆ ก็ตาม
....ต้องส่งเธอไปทดลองงานในสปาสักก่อน จากนั้นค่อยว่ากันอีกที
“แต่! ฉันยังไม่เคยเห็นเด็กคนนั้นทำงาน งั้น ….”
“อะไรก็ได้เลยค่ะ คุณรองประธาน”
หญิงสาวส่งสายตาอ้อนวอน
“ให้ไปฝึกเรื่องบริหารในร้านสปาเราก่อน ถ้าแบบนั้นคงจะดีกว่าเด็กคนนั้นก็จะได้ไม่สงสัยด้วย ให้ไปเป็นผู้ช่วยผู้จัดการแล้วกัน ถ้าทำงานดีจะได้เอามาไว้บนตึกใหญ่”
“จริงนะ! เย้ คุณรองประธานใจกว้างที่สุด ขอบคุณนะคะ จริงๆ คะน้าแอบหวั่นใจนะเนี่ยทางคะน้าเองก็รับปากริลไปแล้วด้วย”
“ก็ได้ตามต้องการแล้วนี่ไง”
“ถึงได้วางใจไงละ เอาละ เดี๋ยวคะน้าไปเดินดูสปาก่อน พวกคลินิกความงามเหมือนจะพร้อมเปิดแล้ว ทางสปาของคะน้ายังเหลือติดตั้งอะไรหลายอย่างเลย”
“ไปเถอะไม่ต้องห่วง”
หญิงสาวโบกมือลาคนเป็นพี่แล้วออกไป ชายหนุ่มเมื่อลับตาน้องสาวแล้วนั้นสายตาเจ้าเล่ห์ก็ปรากฏให้เห็น
ที่บอกว่าจะให้ขึ้นตึกใหญ่ยังไงสะก็ต้องการให้หญิงสาวมาอยู่ข้างกายเขาอยู่แล้วละ แต่มันก็ขึ้นอยู่กับริลว่าถ้าได้รู้จักกันมากขึ้นเธอจะเป็นคนแบบไหน ถ้าเธอไม่ได้ต่างจากผู้หญิงที่เขาเคยเจอ เขาคงไม่ลดตัวไปเสียเวลา
"มิ้นไม่ต้องห่วงนะ เรารักษาตัวก่อนเชื่อพี่"พี่ริลบอกขณะที่ฉันกำลังถูกพาออกจากห้องผ่าตัดเนื่องจากกระสุนปืนตัดผ่านเนื้อเยื่อจนได้รับความเสียหาย แต่โชคดีที่ไม่ได้ร้ายแรงถึงขั้นน่าเป็นห่วง ถึงพี่ริลจะพูดออกมาแบบนั้นฉันก็ยังทำได้แค่ร้องไห้ออกมามันทั้งตกใจกับภาพและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งเป็นห่วงความรู้สึกของคุณยูร์....ฉันไม่เคยคิดเลยว่าคนที่พร้อมไปด้วยทุกสิ่งทุกอย่างทั้งลูกน้องและเงินทองแบบเขาจะต้องก้าวผ่านความเจ็บปวดพวกนั้น เขาผ่านมันมาได้ยังไงนะ...."คุณยูร์เป็นยังไงบ้างพี่""เฟร์สบอกว่ากำลังพาเขามาหามิ้นที่นี่ ไม่ต้องห่วงนะทุกอย่างจะโอเค""พี่ริล....""ว่าไง?""เรื่องที่คุณยูร์พูดมันจริงเหรอคะ....""เรื่องของพ่อเขา....มันเป็นเรื่องจริงพ่อของเขาทำร้ายคนไว้มากมายรวมถึงแม่ของยูร์ด้วย วันที่พ่อเขาตายก็เป็นวันเดียวกับที่เขารู้เรื่องเลวๆ ของพ่อตัวเอง ถ้าพี่เป็นเขามันก็คงลำบากจริงๆ ที่จะตัดสินใจ เพราะยังไงสะพ่อของเขาก็เข้าออกคุกเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่เขาเลือกแบบนั้นคงคิดแล้วว่าพ่อตัวเองคงไม่มีวันกลับตัวได้ หลังจากวันนั้นเขาก็ปฏิญาณตนว่าจะไม่ทำแบบที่พ่อเขาทำและจะไม่ทำร้ายใครถ้าไม่จำเป็น""ค
"ยามะ...."เจพึมพำออกมาด้วยสีหน้าหวาดกลัวก่อนที่เขาจะดึงตัวฉันให้ไปหลบด้านหลัง ท่าทีนั้นทำให้ฉันรับรู้ได้เลยว่าผู้ชายคนนี้เป็นบุคคลอันตรายสำหรับเรา "พี่แกนี่ เหมือนจะฉลาดแต่ก็ยังโง่! การที่มันพลาดปล่อยฉันหนีได้ก็เท่ากับว่ามันพร้อมตายเท่านั้นแหละ""คุณยูร์ไม่มีท่าพลาด""โอ! แม่สาวนี้ใครกัน? สอดเรื่องของผู้ใหญ่หรือว่าเมียไอ้ยูร์?"ยามะเดินตรงเข้ามาหาฉันพร้อมยกปืนขึ้นจ่อหัวเจให้หยุดอยู่กับที่ เจมีสีหน้าหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัดไม่ต่างไปจากฉัน ให้ตายเถอะ!"อย่ายุ่งกับผู้หญิง""คุ้นๆ เหมือนฉันเคยเห็นอยู่กับไอ้บ้านั้น เมียไอ้ยูร์สินะ""ใช่...."ปัง! "มิ้น!"กรี๊ด! ปวด....ปัง!ทันทีที่ฉันบอกสถานะตัวเองออกไปลูกกระสุนเหล็กก็ถูกยิงเข้าที่ต้นขาของฉันทันทีความเจ็บปวดมากมายนี่ทำให้ฉันต้องทรุดตัวล้มลง เจพยายามจะวิ่งตรงเข้ามาช่วยกลับถูกยามะยิงเข้าที่ขาอีกคนจนทรุดตัวล้มลงข้างๆ ความปวดที่แสนทรมานนี่ทำให้ฉันไม่มีแม้แต่แรงจะพูดอะไรออกไปทำได้แค่เพียงมองยามะด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความแค้น"มะ มิ้น""เจ อย่าขยับมากสิ"ฉันพยายามหันไปบอกเจที่กำลังลากขาที่บาดเจ็บมาหาฉัน ตอนนี้ยิ่งเห็นเลือดที่ไหลออกมาจนเต็มขา
: ยูร์ ปวดหัวชะมัด.... ไม่น่ากินเยอะขนาดนั้นเลยวันนี้ทำให้ผมต้องลางานเพื่อพักฟื้นร่างกายสักหน่อย พอลืมตาขึ้นมาก็พบว่าตัวเองกับเจนอนสลบไสลกันอยู่ที่พื้นอย่างน่าอนาถ พอมองสำรวจไปรอบห้องก็กลับไม่เห็นร่างเล็กของเมียสาวแต่ผมจำได้นะว่าเมื่อคืนมิ้นไปตามผมกับเจถึงร้านแถมกระชากหัวผมอีกคงจะโกรธมากแน่ๆ แต่นี่พระอาทิตย์ก็จะตกอยู่แล้วทำไมยังไม่ยอมกลับห้องอีกตืด! ไม่รับสาย....นี่กล้าตัดสายเลยเหรอ โกรธขนาดนั้นเลยงั้นเหรอเนี่ย....ก็แค่กลับบ้านช้าไปไม่กี่ชั่วโมงเองผมลองกดโทรศัพท์โทรออกไปหามิ้นอีกครั้งก็ยังพบว่าเธอตัดสายผมอีกแล้ว ชักจะเป็นห่วงขึ้นมาแล้วสิ"นายครับ นายครับ""ว่าไง"ผมหันไปถามลูกน้องที่วิ่งเข้ามาหน้าตื่นด้วยน้ำเสียงขุ่น"ยามะ ยามะหนีไปได้ครับ""หึ....": มิ้นณ สนามยิงปืนฉันมองสำรวจไปทั่วสนามบินกว้างที่เงียบเฉียบ....นี่มันน่ากลัวสุดไปเลย พี่ริลพาฉันเดินเข้าไปอีกด้านในจะมีเป็นล็อกของใครของมันและเป็นลานกว้างยาวที่มีเป้ากระดาษอยู่ไกลๆ ฉันหันไปมองพี่ริลที่หยิบปืนออกมาจากกระเป๋าพกของตัวเองและเริ่มเช็คมันอย่างเป็นงาน ....ท่าทางที่พี่ริลสำรวจปืนนี่มันช่างจริงจังจนน่ากลัวถึงว่าทำไมคนเจ้าชู
ฉันนั่งเฝ้าสองร่างที่ยังคงนอนสลบไสลอยู่บนพื้น เมื่อคืนกว่าจะยอมกลับกันมาได้ก็ต้องใช้เด็กตั้งหลายคนแบกมาแล้วนี่ก็จะตะวันตกดินอีกรอบแล้วเจกับคุณยูร์ยังไม่มีทีท่าจะตื่นเลย"ให้ตาย โมโหชะมัด!""คุณมิ้นครับ""ว่าไง! อุ้ย ขอโทษค่ะ"ฉันที่กำลังโมโหเผลอตะโกนใส่คนที่เข้ามาเรียก พอนึกได้ก็รีบยกมือไหว้ใหญ่เพราะเขาแก่กว่าฉันอยู่หลายปี"ไม่เป็นไรครับ มีคนมารออยู่ด้านล่างครับ""ใครคะ?""เขาแจ้งว่าชื่อริล""....ขอบคุณมากค่ะ ยังไงฝากดูสองคนนี้ด้วยนะคะ""ครับ"ฉันยิ้มให้ก่อนจะรีบลงมายังห้องรับรองชั้นหนึ่งของโรงแรม ถ้าให้ฉันเดาพี่ริลคงรู้เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดแล้วตอนนี้คงกำลังโกรธฉันไปมากกว่าเดิมอีก นี่ตั้งแต่วันนั้นที่คุยกันพี่ริลก็ไม่เคยรับโทรศัพท์ฉันเลย.... "พี่ริล"เมื่อเห็นพี่สาวฉันก็ตรงเข้าไปกระโดดกอดอย่างไม่อาย พี่ริลยอมมาคุยกับฉันแล้ว "นั่งคุยกันดีๆ ก่อน โตแล้วนะ""หนูคิดถึงพี่ พี่ไม่รับโทรศัพท์มิ้นเลย"พี่ริลดึงฉันให้ไปนั่งลงข้างๆ ก่อนจะยื่นโทรศัพท์ที่ปรากฏเป็นภาพข่าวก่อนหน้านี้"นี่มันอะไรมิ้น""มันเป็นการโปรโมตของคุณยูร์เขาน่ะค่ะ ไม่มีอะไร""พี่รู้ว่ามันไม่ใช่แค่นี้ ยูร์โดนขู่ใช่ไหม?""เ
: มิ้นฉันเดินกระวนกระวายทั่วห้องตั้งแต่ช่วงบ่ายที่คุณยูร์ออกไปจัดการเรื่องคุณแฟรงค์ จนตอนนี้ปาเข้าไปเที่ยงคืนแล้วคุณยูร์ยังไม่โผล่หัวกลับมาเลยทั้งๆ ที่ลูกน้องก็บอกฉันว่าเคลียร์จบแล้ว.... หรืออันที่จริงพวกนั้นจะโกหกฉันเพราะกลัวฉันเสียใจ ไม่นะคุณยูร์คงไม่เป็นอะไรหรอกเพราะเขาเก่งนี่เขาเก่งมากแล้วทำไมตอนนี้ยังไงกลับมาอีกละ"ฉันต้องไปถามให้รู้เรื่อง"ฉันเปิดประตูออกมาแล้วเดินตรงเข้าไปกระชากคอเสื้อชายชุดดำที่ยื่นเฝ้าหน้าประตูอยู่ให้ก้มลงมาสบตาฉัน ตอนนี้แม้แต่ปืนที่เหน็บอยู่ฉันก็ไม่กลัวแล้วฉันจะต้องรู้ให้ได้ว่าคุณยูร์หายไปไหน"คุณมิ้นครับ ทำอะไรครับ!""คูณยูร์อยู่ไหน!""กำลังไปจัดการเรื่องพี่แฟรงค์ไงครับ""จัดการอะไรนานขนาดนี้ไปตามเจ้านายกลับมาเลยนะ! มันกี่โมงแล้วเนี่ยไม่รู้เวลาล่ำเวลาเลย หรือจริงๆ แล้วเจ้านายพวกนายบาดเจ็บแล้วไม่ยอมบอกฉัน พูดความจริงมาเลยนะ""คุณมิ้นครับ อย่าทำแบบนี้ ย๊ากกก!"ด้วยความโกรธทำให้ฉันดึงเนกไทคนตรงหน้าให้ต่ำลงเรื่อยๆ จนคนตัวสูงร้องโวยวาย ตอนนี้ชายชุดดำหลายคนเข้ามามุ่งเราไว้แต่ไม่มีใครกล้าเข้ามาห้ามฉัน ทุกคนเอาแต่ส่งเสียงร้องห้ามกันระงมแต่ฉันก็ยังคงดึงมันให้แน่นขึ
: เจ หลังจากพวกเราจัดการส่งพี่แฟรงค์เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลในเครือของพี่ยูร์เสร็จ เขาก็พาผมมาบาร์ลับแห่งหนึ่งใกล้กับคอนโดโดยให้เหตุผลว่าอยากคุยเรื่องสำคัญ....ระหว่างทางเข้ามามันทั้งเงียบและเปลี่ยวจนผมแอบคิดว่าพี่อาจจะยังสงสัยในตัวผมจนต้องพามาซ้อมหรือเปล่าแต่พอมาถึงหน้าร้านกลับว่ามันเป็นบาร์เหล้าจริงๆ ....ฮูววว... ใจหายหมดผมแอบมองพี่ชายที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างกันอย่างกล้าๆ กลัวๆ ตอนนี้เขามีท่าทีนิ่งเงียบและเคร่งขรึมจนผมไม่กล้าพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว เขายังคงกระดกเหล้าเข้าปากเรื่อยๆ อย่างเงียบเชียบราวกับว่าไม่มีผมอยู่ตรงนี้ผมมองเขาเป็นเหมือนที่พึ่งพาเดียวในตอนนี้ผมไม่อยากจะทำให้เขาหงุดหงิดใจจึงได้แต่นั่งดื่มไปเงียบๆ เช่นกัน"เล่ามา....""ครับ?""เล่าเรื่องของนายมา....ทำไมถึงมาที่นี่"ผมก้มหน้านิ่งแล้วยกเหล้าตรงหน้าขึ้นกระดกจนหมดแก้ว ถึงมันจะขมแต่มันคงช่วยให้ผมมีความกล้า นี่ถือว่าเป็นโอกาสที่พี่จะได้รู้จักผมมากขึ้น"ผมเกิดมาเพราะความผิดพลาด....ผมไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านั้น แต่เมื่อผมเกิดมาพ่อก็พยายามจะฆ่าผมจนแม่กับผมไปซ่อนตัวไว้หลายปี แต่ในที่สุดเขาก็หาผมเจอจนได้เขาทำข้อ