Home / วาย / สัมปทานอาญาเถื่อน / บทที่ ๒ พลีกายชดใช้

Share

บทที่ ๒ พลีกายชดใช้

last update Last Updated: 2025-06-23 13:29:17

ขลุ่ยเดินทางมาด้วยเรือเพื่อข้ามฟากมายังอีกฝั่งของเกาะ ซึ่งอยู่ในจังหวัดทางภาคใต้แห่งเดียวกัน เพียงแต่ที่ตรงนี้จะถูกตัดขาดการจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง เพราะค่อนข้างอยู่ห่างไกลจากแหล่งชุมชนพอสมควร

นั่นก็เท่ากับว่าโทรศัพท์ก็แทบจะไร้ประโยชน์ ก่อนออกมาขลุ่ยก็ไม่ลืมเอาเงินที่ตนเองมีอยู่ทั้งหมดยกให้กับพ่อ และไม่ลืมฝากฝังป้าข้างบ้านในชุมชนเดียวกันช่วยดูแลอีกทาง

“เอ๊ย! ถึงแล้ว ส่วนนี่สัญญามึง เซ็นซะ!” ขลุ่ยมองแผ่นกระดาษสีขาวที่มีตัวหนังสือเป็นข้อ ๆ ระบุอยู่ พลางกวาดตาดูรายละเอียดอย่างถี่ถ้วน ก่อนจรดปลายปากกาเซ็นลงไป

ใบหน้าเรียวยาวได้รูปมองเรือที่จอดเทียบท่า พร้อมคนงานหน้าตาโหด ๆ ยืนอยู่เรียงราย ความรู้สึกตอนนี้แทบอยากจะกลับบ้านให้รู้แล้วรู้รอด แต่ติดที่ไม่มีทางเลือกมากนัก

ระหว่างคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ทันใดนั้นก็มีผู้ชายคนหนึ่งมายืนอยู่ตรงหน้าพอดี หลาย ๆ คนต่างให้ความเคารพ และคาดว่าอาจเป็นนายของที่นี่

“กูชื่อเสือ เป็นลูกน้องของนายหัว เดี๋ยวกูจะพามึงไปหานาย ทำตัวให้ดี ๆ ล่ะ”

“ครับ” 

“ส่วนพวกมึงก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเองซะ! งานไม่เสร็จไม่ต้องแดกข้าว!” เสือพูดพลางกวาดตามองดูคนงานและลูกน้องบางส่วนด้วยสายตาแข็งกร้าว

“ครับ…ลูกพี่!”

“ส่วนมึงตามกูมา!” ร่างผอมบางสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อได้ยินเสียงตะคอกตามหลัง ขลุ่ยเดินลัดเลาะมาตามเส้นทางของคนนำทาง เพียงไม่นานก็พบกับบ้านไม้หรูหรากลางหุบเขาที่ซุกซ่อนอยู่ลึกจากริมชายหาดมานิดหน่อย

“ถึงแล้ว จำเอาไว้ว่าต้องทำตัวดี ๆ นายสั่งอะไรก็ต้องทำตาม หากมึงไม่อยากเจ็บตัว” เสือเอ่ยเตือนคนตรงหน้า เพราะทรงนี้ดูยังไงก็สะบักสะบอมแน่นอน

“คะ…ครับ”

ก๊อก ๆ ๆ

“ไอ้ทัพ!! กูพาเด็กใหม่มาแล้ว”

“พามันเข้ามา!”

เสือเปิดประตู พร้อมกับส่งสัญญาณให้ขลุ่ยเข้าไปข้างใน ส่วนตัวเองยืนอารักขาอยู่ตรงหน้าประตู บรรยากาศภายในค่อนข้างสว่าง และตกแต่งอย่างเรียบง่าย ระหว่างทางเดินสำรวจนั่นนี่ขลุ่ยก็ต้องตกใจ เมื่อเจอกับชายปริศนาอีกคนที่กำลังยืนเฝ้าห้องดังกล่าว

“มึงเป็นเด็กที่มาใหม่ใช่มั้ย”

“...ครับ คุณคือนายหัวหรือเปล่า”

“กูชื่อทัพเป็นมือขวาของนายหัว” ทัพส่ายหน้าพร้อมแนะนำตัวเองเสร็จสรรพ ก่อนจะเปิดประตูห้องตรงหน้า เพื่อให้ขลุ่ยเข้าไปทันที

เสียงหัวใจแทบจะหลุดออกมาเต้นอยู่ข้างนอก เพราะจากลางสังหรณ์บ่งบอกว่าคนต่อไปที่จะได้พบคือนายหัวตัวจริงแน่นอน

ตุ๊บ!

จู่ ๆ ร่างเปลือยเปล่าของชายปริศนาก็กลิ้งหลุน ๆ มาหยุดอยู่ตรงปลายเท้าของขลุ่ย ในสภาพเปลือยล่อนจ้อน

“ไปซะ!” แค่เสียงไล่ก็ทำให้ขลุ่ยหน้าซีดแล้ว แถมการเจอกันครั้งแรกยังน่ากลัวขนาดนี้ หนำซ้ำตามตัวของชายปริศนากลับมีรอยเหวอะหวะเหมือนถูกเฆี่ยนตีด้วยอะไรบางอย่างมาหนักหน่วง

ใบหน้าเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาชะงักเมื่อเจอเข้ากับขลุ่ย ไม่พูดไม่จา รีบเก็บข้าวของและเสื้อผ้าที่ตกกระจัดกระจายอยู่บนพื้นขึ้นมาสวมใส่อย่างรวดเร็ว

“ทำไมมึงยังไม่ไปอีก ห้ะ! อยากโดนเฆี่ยนอีกหรือไง!” ทันใดนั้นร่างสูงใหญ่กำยำของของอิฐ หรืออิทธิกร วรวัฒน์ภักดี นายหัวเกาะสัมปทานรังสิมันต์รังนกที่ร่ำรวยที่สุดของจังหวัดภาคใต้ ใบหน้าคมเข้มมีหนวดเครารับกับสันกรามโดดเด่นเดินเข้ามา พร้อมหยุดมองชายหนุ่มที่เพิ่งเข้ามาใหม่ 

“หึ มาได้เวลาจริง ๆ” เสียงแม้จะเบา แต่ขลุ่ยกลับได้ยินชัดเจน

“...” ขลุ่ยเดินตามแผ่นหลังกว้างอย่างคนเจียมเนื้อเจียมตัว มือบางเย็นเฉียบพลางจับกระเป๋าข้างตัวเอาไว้แน่น

“ปิดประตู แล้ววางกระเป๋าไว้ เสร็จแล้วมานั่งข้างกู…ตรงนี้”

“...ครับ” ขลุ่ยทำตามอย่างว่านอนสอนง่าย และไม่คิดมีปากเสียงใด ๆ

“ชื่ออะไร” มือหยาบที่เพิ่งวางแส้ลงเชยใบหน้าเรียวยาวได้รูปขึ้นมา พร้อมถามเสียงเรียบ

“ผะ…ผมชื่อขลุ่ยครับ” อิฐเลิกปลายคิ้ว เมื่อฟังจากน้ำเสียงคาดว่าคงจะกลัวเขาอยู่ไม่น้อยทีเดียว

“ถอดเสื้อผ้าออก แล้วมาทำหน้าที่ของมึงซะ!” ขลุ่ยตกใจ ดวงตาเบิกกว้าง แม้จะเตรียมตัวมาแล้วว่าต้องเจอกับอะไรบ้าง แต่ก็ไม่คิดว่าจะรวดเร็วถึงปานนี้

“...” ร่างผอมบางยังคงยืนนิ่งเป็นหุ่น จนคนที่ยืนรออยู่เริ่มหัวเสีย

“จะยืนบื้ออีกนานมั้ย มาทำหน้าที่ของมึงสิ ไอ้เด็กเหลือขอ!” คำพูดลดทอนศักดิ์ศรีทำให้ขลุ่ยน้ำตาหลั่งรินลงมา ก่อนค่อย ๆ หลับตาลงแกะกระดุมเสื้อผ้าของตัวเองออกทีละเม็ด

“...ฮึก…ฮือ”

ฟึ่บ!

“เอ๊ย! ร้องทำเหี้ยอะไร หนวกหูชะมัด” อิฐหยิบแส้ข้างกายฟาดลงบนโต๊ะ เพื่อบอกให้เด็กใหม่ตรงหน้าเงียบลง

ก่อนเสื้อผ้าบนตัวของขลุ่ยจะค่อย ๆ กองอยู่บนพื้น จนกระทั่งเปลือยเปล่า ดวงตาคมเข้มที่กำลังไล่มองอย่างพิจารณา เนื่องจากเด็กคนนี้ค่อนข้างตรงสเปคเขามาก แม้จะผอมบางไปสักหน่อย แต่ก็นับว่าถูกใจมากเลยทีเดียว ไม่คิดว่าแค่ลูกหนี้จน ๆ คนหนึ่งจะมีหน้าตาสวยปานน้ำผึ้งขนาดนี้

“นั่งลง แล้วปรนเปรอให้กู” ร่างเปลือยเปล่าค่อย ๆ นั่งลงอีกครั้งตามคำสั่ง 

“ตะ…ต้องทำยังไง ผะ…ผมทำไม่เป็น” อิฐนิ่วหน้าราวกับนึกรำคาญ ก่อนดึงปลายซิปรูดลง พร้อมแท่งแกนกายขนาดใหญ่จ่ออยู่ตรงหน้า

“ขนาดนี้แล้ว คงไม่ต้องให้กูสอนอีกหรอกนะว่าต้องทำไง” ขลุ่ยค่อย ๆ ยืนฝ่ามือเข้าไปจับ พลางรวบจนเต็มมือ จากนั้นโน้มใบหน้าเผยอปากอ้าออกกว้างให้สิ่งใหญ่กว่าเข้ามา

“อ่าห์…อุ่นชะมัด” อิฐเชิดหน้ารับพลันปล่อยเสียงครางราวกับพอใจ ในขณะที่ขลุ่ยต้องกลั้นใจฝืนทำต่อไปทั้งน้ำตา

กึ้ด!

“แม่งเอ๊ย…! ระวังฟันหน่อยสิวะ!” คราวนี้อิฐถึงขั้นผลักขลุ่ยออก พร้อมตบเข้าซีกแก้มเต็มฝ่ามือ จนร่างผอมบางล้มลงไปกองอยู่บนพื้น

ตุ้บ! เพี้ยะ!

“โอ๊ย!” เสียงของขลุ่ยร้องด้วยความเจ็บ 

“มึงมานี่เลย! กูชักทนไม่ไหวละ!” อิฐลากคนมาใหม่โดยไม่คิดออมแรง ก่อนพาร่างผอมบางข้ามมาอีกฟากของห้อง ซึ่งเต็มไปด้วยอุปกรณ์หลากหลายวางเอาไว้เต็มไปหมด แถมยังมีกลิ่นเลือดเจือจางอยู่ จนต้องย่นจมูกหนี และคาดว่าคงเป็นของคนก่อนหน้านี้แน่ ๆ

จากนั้นรีบผลักขลุ่ยล้มลงบนเตียง แส้ที่หยิบติดมือมาถูกฟาดลงตามลำตัวของร่างเปลือยเปล่า จนขึ้นรอยริ้วแดง แต่กลับเป็นภาพที่คนกระทำมองแล้วรู้สึกพออกพอใจ

ฟึ่บ! เพี้ยะ! 

“อะ โอ้ย! ผะ…ผมเจ็บ”

“...มึงเป็นแค่สัตว์ที่กูซื้อมาระบาย ฉะนั้นเงียบปากไปซะ ก่อนกูจะไม่ใจดีอีก!” คำขู่ของคนที่ขึ้นชื่อว่านายหัวทำให้ขลุ่ยต้องกัดฟันทนต่อไปด้วยความเจ็บปวด

ร่างสูงกำยำยืดกายเตรียมพร้อม จากนั้นจึงตามทาบทับร่างผอมบางที่กำลังนอนอยู่บนเตียง และไม่รอให้ขลุ่ยได้ตั้งตัว รีบพลิกกายให้หันหลังกลับ

“โก่งก้นขึ้น กูทำไม่ถนัด” กายที่เปื้อนไปด้วยรอยแดงรีบพยุงกายทำตามทันที อิฐไม่รอช้า สอดแท่งร้อนเข้ากระแทกกระทั้น จนขลุ่ยต้องพยายามถอยกายหนี

“อะ…โอ๊ย! จะ…เจ็บ” เสียงร้องของขลุ่ยไม่ได้ทำให้อิฐหยุดลง หนำซ้ำกลับยิ่งเป็นตัวกระตุ้นอารมณ์อย่างดีด้วยซ้ำไป

มือใหญ่ขยุ้มปลายผมของเด็กหนุ่มให้เชิดขึ้น ราวกับต้องการระบายความกระสันของตัวเองลงไป ร่างผอมบางของโยกคลอนตามจังหวะกระทบ กลิ่นเลือดคาวคละคลุ้งจนแทบสำรอก ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าตรงนั้นบอบช้ำขนาดไหน

“...อ่าส์ ตอดรัดแน่นชะมัด” เสียงกระทบเนื้อด้วยความรุนแรง รัวเป็นจังหวะถี่ ๆ สุดท้ายก็ปลดปล่อยออกมา จนเต็มช่องทางล้นทะลักไหลเต็มผ้าปูเตียง พร้อมหยดเลือดจาง ๆ ตามเรียวขาอย่างช้า ๆ ราวกับร่องรอยประจักษ์ของความโหดร้ายที่เพิ่งผ่านพ้น

ร่างกำยำของอิฐมองดูเด็กหนุ่มที่กำลังนอนด้วยกายบอบช้ำอย่างไม่เหลียวแล ก่อนเดินออกไปสูดอากาศนอกหน้าต่าง หยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ พร้อมพ่นออกราวกับผ่อนคลาย

“...อึก…ฮือ…ฮือ” เสียงสะอื้นไห้ยังคงดังต่อเนื่อง ก่อนพยายามลุกจากบนเตียง แต่เพราะไม่ไหว ขาแข้งอ่อนแรง จนสะดุดล้มบนกองเลือดที่ไหลจากเรียวขาตัวเอง

อิฐทำเพียงปลายหางตามองตามเสียง ก่อนเดินกลับเข้ามาในห้องหยิบเสื้อผ้าตัวใหม่ขึ้นมาสวมใส่ จากนั้นเดินผ่านร่างผอมบางไปโดยไม่คิดสนใจแม้แต่น้อย

หยาดน้ำตาถูกปล่อยลงซ้ำแล้วซ้ำเล่า พยายามขบคิดว่าที่มาอยู่ตรงนี้ตัดสินใจถูกหรือไม่ ความคิดวูบหนึ่งผุดขึ้นมา ต่อให้มีหนี้ล้นฟ้าแค่ไหน ตราบใดยังมีลมหายใจอยู่คงมีหนทางรอด กลับกันหากยังอยู่ที่นี่ต่อไปอาจเหลือเพียงเถ้ากระดูกไว้ให้พ่อดูต่างหน้าก็เป็นได้

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สัมปทานอาญาเถื่อน   บทที่ ๘ ตีตราจองจำ

    หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป...หลังผ่านเหตุการณ์ในคืนนั้น ข้าวของทุกอย่างที่ถูกพวกมันขโมยไป เละเทะไม่มีชิ้นดี อีกทั้งพวกมันยังหนีรอดไปได้ต่างหากแกร๊ก!อิฐที่กำลังเหยียดกายสูบบุหรี่พิงพนักเก้าอี้อยู่ในห้องทำงาน ด้วยสีหน้าเย็นยะเยือก บ่งบอกถึงความไม่สบอารมณ์ จู่ ๆ ประตูก็กลับถูกเปิดเข้า โดยไม่ผ่านการเคาะหรือขออนุญาตแม้แต่ครั้งเดียว“...นายหัวครับ เมื่อไหร่จะปล่อยไอ้ขลุ่ยมันสักที!!” อิฐหันมองตามเสียงของเสือที่กำลังยืนนิ่งอยู่ข้าง ๆ กับทัพที่คาดว่ากำลังเข้ามาห้ามพอดี“แล้วมึงเสือกอะไร!!”“แต่นายครับ มันจะไม่ไหวอยู่แล้ว ตั้งแต่วันนั้นก็เป็นสัปดาห์แล้วนะครับนายหัว !” เสือพยายามอธิบายกับผู้เป็นนายอย่างกล้าหาญ เพราะหากไม่ทำเช่นนี้ เด็กนั่นก็คงต้องตายอยู่ในนั้น“กูแค่สั่งสอนลูกหนี้อย่างมัน หรือมึงมีปัญหา…”“เปล่าครับนายหัว แต่เด็กมันก็มีชีวิตรันทดมากพออยู่แล้ว หนี้สินก็มาจากพ่อมัน แล้วมาอยู่ที่นี่เจอนายทำแบบนั้นกับมันอีก หากมันตา…”ปึง!“ไม่ต้องมาสอนกู ไอ้ทัพพามันออกไป!!!” อิฐไม่สนใจคำกล่าวของลูกน้อง ยิ่งคำพูดที่ไม่เข้าหู ทำให้ร่างสูงใหญ่กำลังพักผ่อนอยู่ดี ๆ ลุกขึ้นมาตบโต๊ะทำงานจนดังลั่นห้อง เสือแล

  • สัมปทานอาญาเถื่อน   บทที่ ๗ ถล่ม

    ขลุ่ยถูกจับตัวออกมากลางดึก เสียงโวยวายยังคงดังออกมาไม่ขาดสาย ทว่าบริเวณนี้กลับเงียบราวกับไม่มีใครอยู่เลย เพราะทุกคนต่างกรูกันไปยังจุดเกิดเหตุกันหมดแล้ว“พวกมึงเป็นใคร...แล้วมาจับกูทำไม กูไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับนายหัวโหดนั่นสักนิด!” ขลุ่ยกลั้นใจเอ่ยถามชายร่างท้วมที่กำลังเดินนำอยู่ข้างหน้า“หึ แต่นอกจากลูกน้องมันสองคน ก็มีคนแปลกหน้าเช่นมึงเนี่ยแหละที่ได้อภิสิทธิ์นอนบ้านหลังเดียวกับมันน่ะ”“...กูก็แค่ลูกหนี้เท่านั้น จับไปแล้วจะได้อะไรวะ…” ขลุ่ยพยายามแจกแจง พร้อมหาหนทางเอาตัวรอด“มึงนี่มันเด็กน้อยจริง ๆ”ทันใดนั้นขลุ่ยมองเห็นสปีดโบ๊ทปริศนาคาดว่าคงเป็นของพวกมันแน่ ๆ จอดเทียบท่าอยู่ ความคิดที่อยากหลบหนีจากที่นี่ก็พลันโผล่พรวดขึ้นมาราวกับมีความหวังอีกครั้ง“...พวกมึงจะพากูไปไหน” ขลุ่ยเอ่ยถามเสียงเครียด ดวงตาจับจ้องไปยังสปีดโบ๊ทที่จอดอยู่ ถึงแม้จะไม่รู้ว่าขึ้นฝั่งไปแล้วจะเป็นยังไง แต่ถ้าได้ออกจากเกาะนี้ อย่างน้อยก็มีโอกาสรอดแล้วขณะเดียวกันภาพความทรงจำครั้งล่าสุดกลับผุดวาบขึ้นมา วันที่เขาพยายามหลบหนี แล้วถูกอิฐตามจับได้ ทุกอย่างยังคงแจ่มชัดและเขาเองก็ยังไม่พร้อมที่จะให้ตัวเองต้องเผชิญกับเหตุก

  • สัมปทานอาญาเถื่อน   บทที่ ๖ ปัญหาจากศัตรู

    แผ่นเยื่อใสบาง ๆ ที่มีขนนกอัดแน่นอยู่ข้างใน พร้อมแปรงทำความสะอาด และแหนบเอาไว้ดึงเส้นเล็ก ๆ ในนั้นออกมาทำความสะอาดจนเอี่ยมอ่อง เรียกว่ากว่าจะเสร็จต้องนั่งหลังขดหลังแข็งกันอยู่นาน ทำครั้งแรกไม่ได้คล่องแคล่วอะไรนัก แต่โชคดีมีเพียงไม่กี่แผ่นเท่านั้นขลุ่ยกว่าจะกลับถึงที่พักก็ค่ำมืดแล้ว แต่ทันทีที่เห็นประตูห้องถูกเปิดแง้มอยู่ ความรู้สึกวูบโหวงก็แล่นขึ้นมาในอก ร่างผอมบางก้าวเท้าเข้าไปอย่างร้อนรน ก่อนจะชะงักเมื่อพบว่าข้าวของทั้งหมดที่เคยวางอยู่บัดนี้หายไปจนหมดสิ้นยังไม่ทันได้ตั้งสติ ทว่าเสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นจากด้านหลัง พร้อมกับร่างของทัพลูกน้องของนายหัวหน้าโหดนั่นก้าวเข้ามาแทรกอยู่ตรงทางออกประตู“ของทั้งหมดของมึง นายหัวให้ขนเอาไปไว้ที่บ้านใหญ่แล้ว” ขลุ่ยภาวนาลึก ๆ ขอให้ไม่ใช่บ้านหลังเดียวกับที่คิด“แล้วทำไมนายหัวของคุณถึงต้องย้ายใครตามอำเภอใจแบบนี้ด้วย”“มึงอยากรู้อะไรไปถามนายหัวเองดีกว่า ส่วนกูมีหน้าที่ทำตามคำสั่งเท่านั้น” ทัพแจกแจงแค่นั้น ก่อนเดินนำออกไป ขลุ่ยกำมือแน่นพลางถอนหายใจเข้าออกราวกับกำลังระงับโทสะบ้านพักไม้กลางหุบเขาหลังเดิมอยู่ตรงหน้า ก่อนเตรียมก้าวฝีเท้าเข้าไปและพบกับเสือที่ก

  • สัมปทานอาญาเถื่อน   บทที่ ๕ สัมปทานรังสิมันต์

    ดึกดื่นจู่ ๆ ก็มีเรือเข้ามาจอดเทียบท่าชายหาด แสงไฟฉายจากคนงานต่างสาดส่องไปทั่วบริเวณ เพื่อนำทางบุคคลที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นหมอตามมาอย่างเร่งด่วนขลุ่ยที่กำลังนอนซมด้วยพิษไข้ไม่มีกะจิตกะใจสนใจอะไรรอบตัว ลมหายใจร้อนผ่าว แถมความหนาวจากข้างนอกยังคงเล็ดลอดถาโถมเข้ามาอยู่เป็นระยะ ร่างผอมบางขดตัวเข้าหากัน พลันยกแขนกอดอกแน่น ก่อนจะกระชับผืนผ้าห่มขึ้นคลุมกายไว้มิดชิดทันใดนั้นบุคคลในชุดกาวน์ก็เข้ามาทำการรักษาคนที่กำลังนอนไม่ได้สติ เสาค้ำไม้เก่าข้าง ๆ ถูกนำมาเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อแขวนน้ำเกลือชั่วคราว เสียงร้องของขลุ่ยดังออกมาเป็นระยะ เนื่องจากขั้นตอนการล้างบาดแผลเพื่อป้องกันการติดเชื้อ“อย่าลืมกำชับคนไข้ให้ทานยาตรงเวลา และครบจนหมดด้วยนะครับ” เสียงของหมอเปรยขึ้นกับเสือที่กำลังยืนรออยู่ข้างนอกเพื่อรอส่งคุณหมอกลับพอดี เดิมทีเพิ่งอาบน้ำเสร็จ แต่กลับได้รับคำสั่งเร่งด่วนจากไอ้ทัพ คราแรกได้ยินนึกว่าหูฝาด เพราะปกตินายหัวไม่เคยปรนนิบัติลูกหนี้คนไหนแบบนี้เลย...“เป็นไงบ้าง” คำพูดแรกเอ่ยถาม ในขณะที่ลูกน้องอย่างทัพเพิ่งเข้ามาถึง“เรียบร้อยครับนายหัว”“อืม ขอบใจ งั้นมึงออกไปได้แล้ว”“...ครับนายหัว!”ท

  • สัมปทานอาญาเถื่อน   บทที่ ๔ แสนสาหัส

    ร่างผอมบางขดขาเกร็งอยู่ในห้องที่มีแสงสว่างหลงเหลืออยู่เพียงน้อยนิด ใบหน้าที่เคยขาวเนียนบัดนี้แลดูซูบซีดและอ่อนล้า เนื่องจากบาดแผลจากการถูกลงโทษซ้ำ ๆ อย่างสาหัสสากรรจ์ขลุ่ยประสานสองฝ่ามือบีบเอาไว้แน่น ก่อนค่อย ๆ หลับตาลงเพื่อหวังจะบรรเทาความเจ็บปวดตรงนี้ลงไปบ้าง…เสียงกุกกักดังเล็ดลอดจากข้างนอก ทำให้ขลุ่ยจำต้องเปิดเปลือกตาอันหนักอึ้งขึ้นมามองด้วยความหวาดระแวง ก่อนรีบถอยกายห่างไปข้างหลังอัตโนมัติร่างกำยำคุ้นเคยเดินมาคนเดียว พร้อมกระเป๋าสีดำปริศนาในมือ ก่อนนั่งลงยอง ๆ พลางรวบใบหน้าที่กำลังมองเขาราวกับโกรธเกรี้ยวขึ้นมา“ไง อยู่ตรงนี้เหงาหรือเปล่า”“...มึงมันเหี้ย” เสียงอ่อนระโหยพูดอย่างเดือดดาล“จุ๊ ๆ จากนี้มึงคือทาสของกูเท่านั้น…”“ตอนเด็กครอบครัวของมึงไม่ได้สั่งสอนเหรอวะ! ว่าอย่าใช้ความรุนแรงกับคนอื่นแบบนี้!” อิฐที่กำลังรูดซิปก้มมองหาอุปกรณ์ในกระเป๋าเงยหน้าขึ้นมา เมื่อถูกจี้จุดให้ย้อนนึกถึงอดีตอันแสนเจ็บปวดอีกครั้ง“เรื่องของกู ไม่ต้องมาสะเออะจะดีกว่านะ…”“...สารเลว”“หึ เดี๋ยวมึงก็รู้ว่าความรุนแรงแบบนี้ จะสั่งสอนให้มึงเชื่องได้แค่ไหน ดูจากตอนนี้ก็พอเป็นคำตอบได้แล้วนะ” มีดสั้นถูกหยิบข

  • สัมปทานอาญาเถื่อน   บทที่ ๓ กรงทองแห่งใหม่

    …เด็กนั่นบอบบางเป็นบ้าคำจำกัดความที่อิฐมอบให้กับคนที่เพิ่งพบเจอไม่นาน หน้าตาสะสวยขนาดนั้น ผิวก็ขาวราวหยวก แถมตรอกซอยที่อยู่อาศัยก็ไม่ได้ปลอดภัยหรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีนัก แต่กลับไม่เคยผ่านใครมาเสียอย่างนั้น หนำซ้ำยังอ่อนปวกเปียกอีกต่างหาก อิฐสูบม้วนบุหรี่เข้าปอดลึก ๆ ก่อนจะปล่อยควันและปาลงบนผืนทรายอย่างไม่คิดใส่ใจ ร่างกำยำสวมเสื้อกล้ามสีขาวกางเกงลำลองสบาย ๆ ดวงตาสีดำขลับถอดมองไปยังชายหาดที่เขาเป็นเจ้าของ พลันนึกถึงเรื่องราวในอดีต ใบหน้าของเด็กอวบอ้วนคนหนึ่งไม่ว่าผ่านไปนานแค่ไหนก็ยังคงฝังรากลึกอยู่ในความทรงจำพอ ๆ กับอดีตอันแสนเลวร้ายที่อยากจะลืมมันให้สิ้นซากผ่านไปหลายชั่วโมงพระอาทิตย์ที่เคยทอแสงสว่างเจิดจ้า บัดนี้ได้หม่นลงเพื่อเตรียมเข้าสู่ความมืดมิด ขลุ่ยที่ต้องระหกระเหินมาใช้ชีวิตในบ้านพักที่ตั้งเรียงกันอยู่ แต่ยังคงมีพื้นที่แบ่งแยกกันอย่างชัดเจน“นี่ที่นอนของมึง ส่วนห้องน้ำอยู่ตรงนู้น” เสือที่นำทางมาส่งถึงที่พัก พลางชี้นิ้วไปยังข้างหลัง“ขอบคุณครับ” ร่างผอมบางเดินด้วยท่าทีทุลักทุเลเข้ามา ท่าทางเหมือนจะล้มลงได้ทุกเมื่อ“งั้นมึงวางสัมภาระลง เดี๋ยวกูพาไปทานข้าว ไหวหรือเปล่า” “...

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status