กว่าจะตั้งสติได้เวลาก็ผ่านไปพักใหญ่ ดวงตาสวยเหลือบมองแบ็งค์พันในมือที่บัดนี้มีสภาพยับยู่ยี่ไม่น่าดู แต่เงินก็คือเงิน หากยังไม่ขาดรุ่งริ่งอย่างไรมันก็มีค่าเสมอ
โชคยังดีที่แม้ต้องออกจากงานกะทันหันแต่เธอก็ยังมีเงินพันนี้เอาไว้ตั้งตัวกินใช้ประหยัดๆ ไปได้อีกหลายวัน ต่อให้วันนี้จะเจเรื่องแย่ๆ แต่ก็ถือว่าไม่ได้แย่ไปเสียทีเดียว เพราะอย่างนั้นร่างขาวจึงได้ลุกขึ้นจากที่ซึ่งนั่งร้องไห้มานานหายนาที
สองขาพาตัวเองไปยังป้ายรถเมย์ที่อยู่ใกล้ๆ เพื่อเดินทางไปมหาวิทยาลัย และเรียกได้ว่านอกจากเรื่องนั้นชีวิตของเธอก็ราบรื่นไปหมด พอเดินออกไปถึงป้ายรถเมย์ก็มาเกยถึงที่ บนรถเองก็ไม่ได้แน่นขนัดอย่างที่เคยเป็น
การเดินทางมาจนถึงมหาวิทยาลัยจึงไม่ได้ลำบากยากเย็นมากนัก สุดท้ายเธอก็มาเรียนได้ทันเวลา
“ฉันนึกว่าแกจะไม่มาเสียแล้วรัก” ทันทีที่วางกระเป๋าลงเด็กสาวหน้าตาสะสวยที่นั่งอยู่ก่อนก็ทักขึ้น มือขาวเนียนจากการดูแลอย่างดียื่นมาจับแขนของสุดที่รักที่ยังชื้นเหงื่ออยู่นิดหน่อย
“มีเรื่องนิดหน่อยน่ะมีน” มือบางพัดที่ใบหน้าซึ่งขึ้นสีระเรื่อน้อยๆ ของตัวเองคลายความร้อนจากการวิ่งเข้ามาในมหาวิทยาลัย ไหนจะต้องวิ่งเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนักศึกษาในห้องน้ำ
เหงื่อตกชนิดที่ว่าหากไม่ได้แอร์ในห้องเรียนเธอคงเป็นลมไปแล้ว โชคดีที่อาจารย์ยังไม่มาจึงยังนั่งเอกเขนกคลายร้อนได้อย่างสบายอารมณ์
“เรื่องอะไรวะ แล้วนั่นทำไมตาบวมจัง มีอะไรหรือเปล่าแก” มีนา หรือ มีน เพื่อนพ่วงด้วยรูมเมทของสุดที่รักเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง ด้านคนโดนถามแม้จะทำใบนรถเมย์มาบ้างแล้วแต่พอโดนสะกิดทุกอย่างจึงพรั่งพรู
เธอเล่าเรื่องตั้งแต่ตอนที่โดนเฮียขวดลวนลาม ยันตอนที่เจ้เขียวเข้ามาในห้องแต่แทนที่จะช่วยก็กลับมาหาว่าเธออ่อยผัวของตัวเองเสียอีก เล่ายันตอนที่เธอขู่พวกมันแล้ววิ่งออกมาจากร้านนั้นแบบไม่ได้ลาใครเลยสักคน
ยิ่งได้ฟังใบหน้าของมีนาก็ยิ่งเคร่งเครียด ทั้งเครียดทั้งช็อกพูดไม่ออกเพราะไม่คิดว่าเรื่องอะไรแบบนี้มันจะเกิดขึ้นกับชีวิตของคนใกล้ตัว
ก็แม่งเหมือนละครหลังข่าวขนาดนั้น มีอย่างที่ไหนเปิดหนังโป๊รอเด็กเดินเข้าไปในห้องแล้วล็อกประตูจะข่มขืนทั้งที่คนอยู่เต็มร้านขนาดนั้น แถมเมียยังเป็นบ้าหึงไม่ลืมหูไม่ลืมตา ลืมอย่างเดียวคือศีลธรรมอีก
“โห เลวทั้งผัวทั้งเมีย ดีแล้วแหละที่แกหลุดพ้นมาได้อย่างปลอดภัย” มือเล็กประดับไปด้วยเล็บเจลสีชมพูสวยตบไหล่เพื่อนเบาๆ อย่างปลอบใจ
ถือว่ายังโชคดีที่สุดที่รักมีสติขู่เอาเงินมันมาได้ตั้งหนึ่งพันบาท ไม่อย่างนั้นคือน่าสงสารมาก เจอเรื่องร้ายจนกลับไปทำงานไม่ได้ แถมเงินที่ทำงานมายังไม่ได้อีก
“อืม แต่ก็เครียดตรงต้องหางานใหม่นั่นแหละมีน เงินพันนึงมันจะอยู่ไปสักกี่วันกัน” เด็กสาวเอ่ยขึ้นก่อนจะหันไปมองผมทรงใหม่และเมคอัพที่แตกต่างออกไป เธอมัวแต่สนใจเรื่องตัวเองไม่ได้สังเกตเลยว่าวันนี้มีนาสวยเป็นพิเศษ
“มีอะไร”
“วันนี้แกสวยจังมีน ฉันเพิ่งสังเกต” เสียงหวานเอ่ยชมก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ดวงตาสวยกะพริบปริบๆ มองความเรียบเนียนแบบขั้นสุดนั้นอย่างทึ่งๆ
“เดี๋ยวเรียนเสร็จคุณพ่อเขามารับน่ะ แปลงกายเป็นฟ้าหนึ่งวัน” มีนาพูดติดตลกพลางเกี่ยวเส้นผมดัดลอนคลายมาทัดใบหู ดวงตาที่แต่งแต้มจนสวยพริ้งมองใบหน้าของสุดที่รักในระยะใกล้
“โห กลาซสกินสุดๆ เลยจ้ะพี่สาว ฉันส่องหน้าแกแทนกระจกได้เลยอ่ะ”
“เพิ่งไปจิ้มมาจ้ะ หมดไปตั้งเยอะมันก็ควรเนียนอ่ะ” มีนาขำกับคำชมพิสดารกับท่าทีของยัยเพื่อนคนสวยที่เหมือนไม่ค่อยรู้ตัวเท่าไหร่ว่าตัวเองสวยมาก
มองไปก็ได้แต่สงสารกับชะตากรรมของเพื่อนสาวคนสนิทที่ความสวยเป็นภัยทุกครั้งทุกคราวเวลาไปทำงานที่ไหน ไม่โดนเหมือนครั้งนี้ก็โดนอิจฉากลั่นแกล้ง และทุกครั้งสาเหตุมันก็ชัดเจนว่าเป็นเพราะเพื่อนของเธอมันจนแต่ดันเกิดมาขาวสวย แถมยังนมใหญ่
แม่งโคตรไม่ยุติธรรม ไหนบอกโลกจะใจดีกับคนสวยไง
หรือมันเป็นเพราะเพื่อนเธอมันไม่รู้จักจะใช้ความสวยให้เป็นประโยชน์กันนะ
“แกเต้นเก่งนะเว้ยรักแค่โพลแดนซ์มันจิ๊บๆ สำหรับแกมาก ทำไมไม่ลองดูสักทีล่ะวะ อย่าหาว่าฉันจะดึงเพื่อให้มาเหมือนตัวเองเลยนะ แต่มันได้เงินเยอะจริงนะเว้ย สวยๆ อย่างแกเจ๊เขารับอยู่แล้ว”
และเพราะสภาพของสุดที่รักตอนนี้มันสะท้อนเข้าไปในใจ สุดท้ายแม้รู้ว่าไม่ควรแต่มีนาก็ยังพูดมันออกมา
ต่อให้จะโดนเพื่อนด่าว่าอยากดึงลงต่ำแต่เธอก็ยอมแลก เพราะไม่อยากเห็นสุดที่รักต้องมานั่งลำบากอดมื้อกินมื้อมีชีวิตอย่างเหน็ดเหนื่อยอยู่แบบนี้ แบบเดียวกับตัวเธอเองที่เป็นมาตลอดชีวิตกระทั่งช่วงปีก่อน
“ฉันเข้าใจว่าแกหวังดีนะมีน แล้วฉันก็ไม่อยากให้แกคิดว่าที่ฉันปฏิเสธเพราะรังเกียจหรืออะไร แต่ฉันขอผ่านก่อนว่ะ” เสียงหวานเอ่ยตอบใบหน้าจริงจัง มือที่ค่อนข้างหยาบเล็กน้อยเพราะลำบากมาตั้งแต่เด็กเอื้อมไปจับมือนิ่มของเพื่อน
สุดที่รักกังวลอยู่ไม่น้อยว่าจะทำให้มีนาคิดว่าเธอไปดูถูก แต่เธอต้องปฏิเสธจริงๆ เพราะรู้ดีว่างานนักเต้นที่มีนาหมายถึงมันคือการเต้นโพลแดนซ์ในคลับวีไอพี
เรียกว่าเป็นสตริปเปอร์ก็ได้แต่เป็นสตริปเปอร์ที่เต้นให้แขกวีไอพีดูแบบส่วนตัว เนื้องานมีตั้งแต่เต้นและสุดท้ายก็จะไปจบที่เรื่องบนเตียง เธอไม่ได้รังเกียจอาชีพของเพื่อนรวมถึงเนื้องานนั้นด้วย แต่เธอยังไม่พร้อม
สุดที่รักยังไม่คิดว่าตัวเองต้องไปถึงจุดนั้น
“ตอนนี้มันลำบากก็จริงแต่ฉันก็ยังทนไหวอยู่ว่ะ รู้สึกว่ามันพอยังมีทางอื่น ฉันเองก็รับผิดชอบแค่ชีวิตของตัวเอง กับป้าเย็นฉันก็ให้บ้างแต่แกก็ไม่ได้ขออะไร ทางเลือกนั้นฉันอยากให้เป็นทางเลือกสุดท้ายจริงๆ”
“เออๆ ไม่ต้องอธิบายหรอก ฉันรู้ว่าแกไม่มานั่งดูถูกฉันแน่นอน แกไม่ใช่คนแบบนั้นนะรักเป็นเพื่อนกันมาหลายปีเรื่องแค่นี้ทำไมฉันจะไม่รู้” มีนากระชับมือกลับ รู้สึกใจหายที่มือของอีกฝ่ายนั้นด้านทั้งหยาบ
หน้าตาสวยๆ ผิวดีๆ ที่ได้มาตั้งแต่เกิดพาลเสียหายเพราะความยากจนไม่มีเงินจะซื้อของดีๆ มาบำรุง
แต่เรื่องแบบนี้เอาจริงๆ เธอก็รู้อยู่ว่ามันก็ต้องให้เจ้าตัวตัดสินใจเอง เป็นเพื่อนต่อให้หวังดีแต่ก็ต้องยอมรับว่าทางนี้มันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ และไม่ได้ตัดสินใจเดินเข้ามากันได้ง่ายๆ
โดยเฉพาะผู้หญิงที่ไม่เคยนอนกับผู้ชายเลยอย่างสุดที่รัก
“แกจะตัดสินใจยังไงมันก็ต้องแล้วแต่แกคิดว่าตัวเองไหวแค่ไหนนั่นแหละ ฉันแค่…เห็นว่าแกสวยมีความสามารถและกำลังลำบาก มันทำให้ฉันนึกถึงวันที่ตัวเองลำบากแบบนี้”
“...”
“มองหน้าแกแล้วมันนึกถึงตัวเองในตอนนั้นน่ะ ยังไงถ้ามีอะไรให้ช่วยแกก็บอกฉันนะรัก”
"...ขอบใจนะมีน"
ครืด ครืด
ทว่าในระหว่างที่นั่งคุยกับมีนาอยู่นั้น จู่ๆ โทรศัพท์ของสุดที่รักก็สั่นครืด เธอก้มมองหน้าจอเล็กน้อยเป็นจังหวะเดียวกันกับที่อาจารย์เดินเข้ามาในห้อง
ปกติถ้าเริ่มเรียนแล้วเธอจะไม่รับสายถ้าไม่สำคัญจริงๆ แต่เมื่อเห็นว่าเป็นชื่อของลูกพี่ลูกน้องซึ่งเป็นลูกสาวของป้าที่เลี้ยงเธอมา บวกกับอาหารใจหายแปลกๆ จึงทำให้มือเล็กเอื้อมไปกดรับสายก่อนจะแอบยกโทรศัพท์แนบหู
"ฮัลโหล" เสียงไพเราะกรอกผ่านสายไปก่อนที่มือขาวข้างเดียวกันจะเริ่มสั่น เด็กสาวหน้าซีดเผือดลดมือลงหลังจากที่ฟังลูกพี่ลูกน้องพูดจบ ดวงตากลมโตสีน้ำตาลเข้มเหลือบมองหน้าเพื่อนที่ยังมองมาด้วยความสงสัย
พลางคิดในใจซ้ำประโยคที่เคยถามตัวเอง ว่าชีวิตคนเรามันจะแย่ได้มากแค่ไหนกันนะ
"มีน ป้าเย็นโดนรถชน" เฉลยคือมันแย่ได้มากกว่าที่คิดเลยทีเดียว
หลังจากที่วางสายลูกพี่ลูกน้องไปแล้ว สุดที่รักและมีนาก็รีบแจ้งอาจารย์แล้วเดินทางไปที่โรงพยาบาลในทันที เพราะการจราจรที่ติดขัดกว่าจะนั่งรถมาถึงการผ่าตัดก็เสร็จสิ้นไปแล้ว ป้าของเธอยังไม่ตายแต่ก็ไม่พ้นขีดอันตราย
หมอแจ้งว่ายังต้องรอดูอาการอย่างใกล้ชิดเพราะโอกาสรอดมีเหลือแค่50-50 เรียกได้ว่าตายไปครึ่งหนึ่งแล้ว ปัญหาใหญ่ในตอนนี้คือค่ารักษาที่ต้องจ่ายเต็มจำนวนและมีราคาถึงหลักหมื่น
หลักหลายหมื่นเนื่องจากเจ็บหนัก
เพราะรถมอเตอร์ไซค์ที่ป้าของเธอขับนั้นพรบ.ขาดทำให้ใช้สิทธิ์บัตรทองไม่ได้ รถที่ชนก็หนีไปแล้วยังหาตัวไม่เจอ ค่าใช้จ่ายมหาศาลจึงตกอยู่กับคนหาเช้ากินค่ำอย่างครอบครัวของป้า ซึ่งก็เหลือเพียงแค่น้องสาวลูกพี่ลูกน้องวัยสิบสี่ปีแค่เพียงคนเดียว
เงินก้อนใหญ่ขนาดนั้นเด็กผู้หญิงมัธยมต้นจะไปหามาจากไหน ที่รับจ้างร้อยพวงมาลัยและเป็นเด็กเสิร์ฟร้านอาหารตามสั่งหลังเลิกเรียนวันหนึ่งได้ไม่ถึงสามร้อยด้วยซ้ำ ไหนจะค่านอนโรงพยาบาล ค่าผ่าตัดที่อาจจะมีอีกรอบหรือหลายๆ รอบ
ไม่มีทางเลยที่จะจ่ายหนี้ก้อนนี้ได้ทัน และหากไม่มีจ่ายมันก็ยากนักที่จะรั้งชีวิตของป้าเอาไว้ในเมื่อเท้าข้างหนึ่งก้าวพ้นปากเหวไปแล้ว
"ฉันไม่อยากให้ป้าตายมีน" หยาดน้ำตาหลั่งนองอาบสองแก้มขาว ดวงตายังคงมองน้องสาวที่นั่งหมดอาลัยตายอยาก ดูมืดแปดด้านหมดหนทางอยู่ไม่ไกลอย่างสงสาร
เธอไม่อาจเมินเฉยต่อเรื่องนี้ได้เพราะต่อให้ย้ายออกมารับผิดชอบตัวเองแล้วแต่ป้าเย็นก็ยังเป็นเหมือนแม่แท้ๆ ที่เลี้ยงดูปูเสื่อกันมาตั้งแต่พ่อแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตตอนเจ็ดขวบ เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่มีเงินติดตัวไม่กี่พัน
สุดที่รักพึ่งพาป้ามาโดยตลอดทั้งที่ป้าส่งเธอไปอยู่บ้านเด็กกำพร้าก็ได้ กระทั่งเรียนจบมัธยมจนย้ายออกมาช่วงเรียนมหาวิทยาลัยถึงได้พึ่งพาตัวเองร้อยเปอร์เซ็นต์
ไม่ว่ายังไงเธอก็ทำเมินเฉยปล่อยให้น้องเผชิญเรื่องนี้อยู่คนเดียวหรือปล่อยให้ป้าเย็นตายไม่ได้อย่างเด็ดขาด ตอนป้ารับเธอมาเลี้ยงแกก็ลำบากแทบตายยังเลี้ยงเธอมาจนโตได้ขนาดนี้
"มันไม่มีทางเลือกอื่นเลยเหรอวะ ฮึ่ก ทำไม ทำไมมันต้องเป็นแบบนี้ด้วย" ร่างขาวเริ่มสะอื้นหนักขณะที่ทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้โรงพยาบาล มือทั้งสองข้างยกขึ้นปิดหน้าตัวเอง ปล่อยให้หยาดน้ำตาหลั่งไหลออกมาเป็นสาย
"ทำไงดีมีน ทำไงดี" สิ้นไร้หนทางไม่รู้จะหันหน้าไปทางไหนเมื่อเรื่องร้ายๆ มันประดังประเดเข้ามาพร้อมกันในคราวเดียว ตกงานกลายเป็นเรื่องจิ๊บๆ ไปเลยเมื่อเทียบกับเรื่องนี้
ด้านมีนามองภาพความสิ้นหวังของเพื่อนสนิทที่เคราะห์ซ้ำกรรมซัดอย่างสังเวชใจ ความเจ็บปวดมันสะท้อนเข้าไปในอกเพราะตัวเองก็เจอเรื่องประเภทนี้มาก่อน ถึงได้ตัดสินใจลืมเรื่องศักดิ์ศรีที่กินไม่ได้ ช่วยชีวิตใครไม่ได้ไปก่อน
"อย่าหาว่าฉันจัญไรแนะนำเรื่องเหี้ยๆ เลยนะรัก แต่ไปทำงานกี่ที่แกก็โดนลวนลามต้องเจ็บช้ำน้ำใจแบบนี้ทุกที่ ในเมื่อหนีไม่พ้นก็ไปอยู่ในที่ที่โดนแล้วได้เงินมารักษาป้าไม่ดีกว่าเหรอวะ”
คำพูดของมเพื่อนสาวคนสวยทำให้สุดที่รักนิ่งไป มือที่ปิดหน้าอยู่พลันลดลงมาก่อนที่ใบหน้าสวยจะเงยขึ้นมองเพื่อนตัวเอง ชีวิตของเธอมันเป็นอย่างที่อีกฝ่ายพูดทุกอย่าง
ไปอยู่ที่ไหนก็ตกเป็นเหยื่อของผู้ชายอุบาทว์ เหมือนเป็นเวรเป็นกรรม หนีไม่เคยพ้นเลยไม่ว่าจะพยายามขนาดไหน
“มันจะมีงานอะไรที่หาเงินเป็นหมื่นได้เร็วเท่างานนี้บ้างวะรัก คนจนๆ อย่างเรามันไม่ได้มีทางเลือกมากนักแกก็รู้"
"..."
"ฉันรู้ว่าแกรักศักดิ์ศรีมาก แต่ถ้าป้าแกเป็นอะไรไปศักดิ์ศรีมันก็ไม่ได้ช่วยอะไรนะเว้ย" หรือเธอจะลองดูสักตั้ง ถ้าได้มีเงินมารักษาป้าต่อให้ต้องแลกกับอะไรมันก็คุ้ม
"จริงของแก…ฉันจะลองดู แกช่วยคุยกับเจ๊ให้หน่อยได้ไหม" อย่างที่มีนาพูดก็ถูก คนจนๆ มันมีทางเลือกอะไรมากนักเหรอ ศักดิ์ศรีกินคนเดียวมันก็พออิ่มอยู่แต่มันช่วยยื้อชีวิตของป้าเย็นไม่ได้
"ได้สิ เดี๋ยวฉันคุยให้แกเอง"
"ขอบใจมากนะมีน"
สุดท้ายแล้วเธอก็ต้องแพ้ให้กับโลกทุนนิยมอันโหดร้าย แต่ใครก็คงต้องแพ้ทั้งนั้น มันไม่ใช่แค่เธอสักหน่อยที่เกิดมาจน คนจนเต็มประเทศไปหมดเขายังไม่ยอมแพ้กันเลย
ตราบใดที่ยังไม่ตายก็คงดิ้นกันต่อไป
หนึ่งปีถัดไป"รักมาถ่ายรูปกันเร็ว""มาๆๆ มาเร็ว นี่พวกซิดนีย์ก็มาด้วย"ท่ามกลางเสียงแห่งความวุ่นวายในพิธีรับปริญญาบัตรของบัณฑิตภายในมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังหญิงสาวร่างเล็กผิวขาวในชุดครุยสีประจำสถาบันกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้าไปหามีนาและกลุ่มเพื่อนต่างคณะที่รู้จักกันผ่านการทำกิจกรรมชมรมตั้งแต่สมัยเข้าเรียนปีหนึ่งที่ยืนรออยู่แล้วหญิงสาวเข้าประจำที่ก่อนใบหน้าสวยจะหันเข้าหากล้องอย่างรวดเร็วเพราะไม่อยากให้เพื่อนคนไหนต้องรอ"ขยับเข้าหากันหน่อยครับ เอ้า ยิ้ม 1 2 3 อีกรูปครับ 1 2 3 เรียบร้อยครับ""หน้าฉันยังโอเคไหม แดดร้อนมากเลยวันนี้" สุดที่รักหันกลับไปหาเพื่อนสนิทคนเดิม รอยยิ้มแบบเดิมยังคงปรากฏบนใบหน้าที่มีเหงื่อผุดออกมาเต็มไปหมดเพราะอากาศที่ร้อนระอุในช่วงสาย"ยังโอเคแก หน้าฉันล่ะเริ่มหยาหรือยัง""ยังๆ ยินดีด้วยนะซิดนีย์ ซินซิน" สุดที่รักตอบมีนาก่อนจะหันไปพูดคุยกับเพื่อนสาวหน้าหมวยอีกคนที่อยู่ในชุดครุยคนละสี ด้านฝ่ายนั้นพอได้ยินคำพูดของเธอก็พลันยิ้มหวาน เดินจูงมือเพื่อนสนิททั้งที่สวมชุดครุยและไม่ได้สวมเข้ามาหาคนตัวเล็กผิวขาวที่สวมชุดครุยชื่อว่าซินซิน ส่วนอีกคนที่สวมชุดนอกผมสีทองนั้นชื่อว่าเจน พ
“ของแบบนี้มันปรึกษาใครไม่ได้หรอกรัก แกต้องลองถามหัวใจของตัวเอง”ท่ามกลางอากาศอุ่นสบายภายในห้องพักหรู หลังจากที่ไปเจอพยัคฆ์แฝดน้อง และเนรเทศสิงหราชแฝดพี่ออกไปนอนด้วยกันแล้ว สุดที่รักก็กลับมานอนคิดอยู่อีกหลายนาทีว่าควรทำอย่างไรดีสุดท้ายแม้ว่าจะไม่อยากรบกวนเพื่อนสาวเลยแต่เธอก็ลงเอยด้วยการส่งข้อความไปหามีนาว่าต้องการความช่วยเหลืออยู่ดีโชคดีที่เพื่อนของเธอว่างพอดีจึงโทรกลับมาหา สุดที่รักเล่าเรื่องทุกอย่างให้มีนาฟังจนหมดตั้งแต่ต้นที่คุณสิงห์ขอคุยจนจบที่เขาขอโอกาสให้น้องชาย และเธอก็ได้ไปเจอกับคุณเสือช่วงสั้นนอกจากนั้นก็ยังบอกเพื่อนไปด้วยว่าตัวเองใจอ่อนเรียบร้อยแล้ว"แต่ก็จำเอาไว้ว่าห้ามรับคำขอโทษที่เป็นคำพูดปากเปล่าเด็ดขาด รับเป็นของมีค่าเท่านั้นไม่ว่ามันจะมีค่าในด้านไหนก็ตาม""ของมีค่าอย่างนั้นเหรอ""ใช่ ฉันบอกแกได้แค่นี้นะรัก อย่างอื่นเรื่องความสัมพันธ์มันต้องให้เจ้าตัวตัดสินใจเอาเอง ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ของฉันหรือแก ทุกอย่างมันต้องคนในเป็นคนจัดการ""อืม ฉันเข้าใจ""อย่างที่ฉันเคยบอกไป ทุกการทะเลาะมันต้องมีอะไรดีขึ้นกว่าเดิม แกห้ามให้อภัยโดยที่ไม่ได้อะไรกลับมาเด็ดขาด ไม่งั้นผู้ชายมัน
ช่วงค่ำของวันเดียวกัน สิงหราชและสุดที่รักกลับมาถึงโรงแรมอีกครั้ง ด้านหญิงสาวแม้จะเหนื่อยอยู่พอสมควรทว่าใบหน้ายังคงฉาบทับไปด้วยความสุข เธอยังคงสดใสร่าเริงมากๆ แม้ว่าตอนนี้จะเวลาจะล่วงเลยช่วงอาหารเย็นไปนานโขแล้วแตกต่างกันกับสิงหราชที่มีวี่แววความกังวลแฝงอยู่ภายในดวงตาคมตลอดเวลาตั้งแต่ได้รับการติดต่อจากพยัคฆ์ว่าอีกฝ่ายเดินทางมาถึงเมืองที่เขาอยู่แล้วแม่งเร็วปานสายฟ้าฟาด อย่างกับวางสายจากเขาแล้วเดินทางมาเลยอย่างนั้นแหละ นี่สวิตเซอร์แลนด์นะไม่ใช่เชียงใหม่ที่มันจะใช้เวลาสั้นๆ ในการเดินทางแบบนั้น เหลือจะเชื่อจริงๆแต่ถึงอย่างนั้นเขาก็พอจะเข้าใจมันอยู่ เพราะหากเป็นเขาที่ตกที่นั่งนั้นก็คงทำเช่นเดียวกัน“คุณสิงห์ครับ คุณเสือมาถึงโรงแรมแล้ว” และเป็นเพราะเขาสั่งคนของตัวเองบางส่วนให้อยู่รอรับรองพยัคฆ์และจัดการห้องพักให้ เพราะแบบนั้นทุกอย่างจึงง่ายสิงหราชหันไปพยักหน้าให้กับบอดี้การ์ดของตัวเองก่อนจะหันกลับมาหาสุดที่รักซึ่งมีท่าทีสงสัย เธอคงเห็นว่าพวกเขากระซิบกระซาบกันดูมีพิรุธจึงได้ขมวดคิ้วมอง“มีอะไรหรือเปล่าคะพี่สิงห์” หญิงสาวเอ่ยถามก่อนจะเดินเข้ามาหาเขา เห็นอย่างนั้นสิงหราชที่เปรียบประหนึ่งวัวส
ช่วงบ่ายหลังจากที่การอาบที่แสนระทึกใจของทั้งสองคนจบลงสิงหราชกับสุดที่รักก็พากันมานอนพักบนเตียง โดยเปิดโทรทัศน์เอาไว้คลอกับบรรยากาศเพื่อให้ห้องไม่เงียบมากเกินไปเวลาผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมงสุดที่รักก็เผลอหลับ เพราะแบบนั้นเด็กสาวจึงไม่เห็นว่ามีแจ้งเตือนในแอปพลิเคชันแชทเด้งขึ้นมาบวกรวมกับที่โทรศัพท์ของเธอเปิดเป็นโหมดเงียบ เพราะอย่างนั้นสิงหราชจึงสามารถแอบดูโทรศัพท์ของหญิงสาวได้โดยที่เจ้าของเครื่องไม่ตื่นขึ้นมาเสียก่อน"ไอ้เสือเหรอ" ชายหนุ่มพูดเสียงอยู่ในลำคอขณะที่มองไปยังชื่อผู้ติดต่อที่เด้งขึ้นบนหน้าจอสิงหราชชั่งใจเล็กน้อยตอนที่เห็นว่าสุดที่รักยังไม่ลบช่องทางการติดต่อของน้องชาย แม้ว่าตลอดระยะเวลาหลายวันที่ผ่านมาเธอจะไม่พูดถึงพยัคฆ์เลยสักคำไม่ลบเบอร์แถมไม่บล็อกทิ้งแบบนี้เขาก็ยังพอเบาใจว่ามันพอยังมีหวังอยู่บ้าง คิดได้แบบนั้นชายหนุ่มจึงหันมามองเด็กสาวที่กำลังหลับอยู่อีกครั้ง เมื่อเห็นว่าเธอยังคงหลับสนิทจึงหยิบโทรศัพท์เครื่องนั้นมากดดูทุกอย่างเป็นไปอย่างง่ายดายเนื่องจากรหัสที่เธอใช้เป็นรหัสที่เขาเคยเห็นมาก่อน เพราะแบบนั้นชายหนุ่มถึงได้สามารถเข้าไปดูแชทของน้องชายตัวเองได้อย่างไม่ลำบากนัก
“อ๊ะ! พี่สิงห์” แถมพอไม่มีขนแล้วก็ดูเหมือนว่าเธอจะยิ่งอ่อนไหวมากขึ้นด้วยสิงหราชเหลือบขึ้นมองหญิงสาวที่ยืนตัวสั่นอยู่ตรงหน้า ร่างเปลือยเปล่าขาวสว่างสะท้อนกับแสงไฟสีส้มยิ่งทำให้เธอดูเร้าอารมณ์มากเป็นพิเศษ ห้องนี้มันสวยจนเขาอยากพาเธอทัวร์ให้ครบทุกจุดเสียจริงๆ"หวานค่ะ"เขาว่าพลางตวัดลิ้นโลมเลียกลีบดอกไม้สีชมพูที่เริ่มเปียกฉ่ำไปด้วยหยาดน้ำหล่อลื่น มือหนาขย้ำแก้มก้นกลมกลึงอย่างมันเขี้ยวก่อนจะวาดกลับมาที่ด้านหน้านิ้วเรียวสองนิ้วแหวกกลีบเนื้อด้านนอกออกจากกัน ไม่นานลิ้นร้อนผ่าวก็เริ่มตวัดลงบนเม็ดเสียวสีสวยที่กำลังแข็งเป็นไต นิ้วแข็งๆ เริ่มสอดเข้าไปด้านใน เล่นเอาสุดที่รักที่หายใจติดขัดอยู่แล้วยิ่งไม่รู้จะจัดการตัวเองแบบไหนเธอหัวปั่นไปหมดเพราะความเสียวซ่านที่ได้รับ ใบหน้าสวยเงยขึ้นอย่างเคลิบเคลิ้มเพราะทุกจังหวะปรนเปรอเขาของเขามันดีและถูกจุดไปหมด สุดที่รักกลับตาลงอย่างเคลิบเคลิ้ม เรียวขาขาวเริ่มอ้ากว้างอย่างลืมตัวเธออายก็จริงแต่มันสู้ความสุขที่เขามอบให้ในยามนี้ไม่ได้"อ๊ะ แน่นไปหมดเลย"หญิงสาวครางเสียงสั่นเมื่อเรียวนิ้วเริ่มขยับเข้าออกเร็วขึ้น เขากดนวดเสียดสีไปทั่วทุกพื้นที่ด้านใน หมุนควานสั
“อ๊ะ! พี่สิงห์” แถมพอไม่มีขนแล้วก็ดูเหมือนว่าเธอจะยิ่งอ่อนไหวมากขึ้นด้วยสิงหราชเหลือบขึ้นมองหญิงสาวที่ยืนตัวสั่นอยู่ตรงหน้า ร่างเปลือยเปล่าขาวสว่างสะท้อนกับแสงไฟสีส้มยิ่งทำให้เธอดูเร้าอารมณ์มากเป็นพิเศษ ห้องนี้มันสวยจนเขาอยากพาเธอทัวร์ให้ครบทุกจุดเสียจริงๆ"หวานค่ะ"เขาว่าพลางตวัดลิ้นโลมเลียกลีบดอกไม้สีชมพูที่เริ่มเปียกฉ่ำไปด้วยหยาดน้ำหล่อลื่น มือหนาขย้ำแก้มก้นกลมกลึงอย่างมันเขี้ยวก่อนจะวาดกลับมาที่ด้านหน้านิ้วเรียวสองนิ้วแหวกกลีบเนื้อด้านนอกออกจากกัน ไม่นานลิ้นร้อนผ่าวก็เริ่มตวัดลงบนเม็ดเสียวสีสวยที่กำลังแข็งเป็นไต นิ้วแข็งๆ เริ่มสอดเข้าไปด้านใน เล่นเอาสุดที่รักที่หายใจติดขัดอยู่แล้วยิ่งไม่รู้จะจัดการตัวเองแบบไหนเธอหัวปั่นไปหมดเพราะความเสียวซ่านที่ได้รับ ใบหน้าสวยเงยขึ้นอย่างเคลิบเคลิ้มเพราะทุกจังหวะปรนเปรอเขาของเขามันดีและถูกจุดไปหมด สุดที่รักกลับตาลงอย่างเคลิบเคลิ้ม เรียวขาขาวเริ่มอ้ากว้างอย่างลืมตัวเธออายก็จริงแต่มันสู้ความสุขที่เขามอบให้ในยามนี้ไม่ได้"อ๊ะ แน่นไปหมดเลย"หญิงสาวครางเสียงสั่นเมื่อเรียวนิ้วเริ่มขยับเข้าออกเร็วขึ้น เขากดนวดเสียดสีไปทั่วทุกพื้นที่ด้านใน หมุนควานสั