ใบหน้าหวานกะพริบตาถี่ ๆ ปรับม่านน้ำตาที่เกาะเป็นแพรอยู่บนขนตา เพื่อที่จะได้มองให้ชัดขึ้นว่าผู้ชายที่เดินจูงมือกับผู้หญิงอีกคนเข้ามาในโรงแรมคือว่าที่คู่หมั้นของเธอที่กำลังจะแต่งงานกันอาทิตย์หน้าหรือเปล่า และตอนนี้เธอกำลังถือการ์ดเชิญแต่งงานของตัวเองกับพชรอยู่ในมือ จนบัดนี้ซองใส่การ์ดแต่งงานนั้นยับยู่ยี่เหมือนจะแหลกคามือ มือเรียวสวยนั้นสั่นเทาไปหมดด้วยความไม่เข้าใจ
“พี่เพชร” นั่นใช่คู่หมั้นของเธอหรือเปล่านะ เขาบอกว่าวันนี้ติดประชุมจึงไม่ได้มาช่วยแจกการ์ดแต่งงานด้วยกันกับเธอ
“พี่เพชรจริงๆเหรอ” เขาจะมาทำอะไรแถวนี้แต่ว่าทำไมพชรถึงดูสนิทสนมกับผู้หญิงคนนั้นมากนัก
รติรสรีบเดินเข้าไปใกล้ๆเพราะอาจจะเป็นเพียงแค่คนที่คล้ายกันก็เท่านั้น เขาเดินไปที่เคาน์เตอร์ของโรงแรมเหมือนกำลังจะเปิดห้องแล้วเดินจับมือกันตรงไปยังลิฟต์ ชายหนุ่มหันมาส่งยิ้มให้ผู้หญิงคนนั้นและจูบลงที่หน้าผากของหญิงสาวสวยที่เดินมาที่ยืนอยู่ข้างๆ หัวใจดวงน้อยๆที่บัดนี้สั่นไหวเพราะคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าลิฟต์นั้นคือพชรจริงๆ ถึงแม้ว่าเธอจะเห็นแค่เสี้ยวหน้าเธอก็จำได้ไม่ผิดแน่ว่าผู้ชายคนนั้นคือพชร
ตอนหัวใจดวงน้อยๆของรติรสเหมือนมีมีดร้อยเล่มมากรีดแล่เนื้อแล้วเอาเกลือทาจนรติรสนั้นเจ็บปวดทรมานที่เห็นคู่หมั้นของตัวเองหอมแก้มหญิงอื่นและกำลังจะหิ้วผู้หญิงขึ้นโรงแรม
รติรสล้วงมือลงไปใจกระเป๋าสะพายด้วยอาการมือสั่นเทา เธอพยายามควานหาโทรศัพท์ไม่นานก็เจอ
มือเรียวสั่นนั้นรีบกดเบอร์โทรหาคู่หมั้นของเธอทันทีและสิ่งที่ยืนยันได้หนักแน่นว่าผู้ชายที่กำลังยืนลูบผมผู้หญิงอีกคนอยู่ที่หน้าลิฟต์นั้นคือพชรไม่ผิดตัวแน่
“กริ่งๆๆ” พชรขมวดคิ้วมุ่นแล้วมองเบอร์โทรที่กำลังโทรเข้าแต่เขาก็กดตัดสายแล้วยัดมันลงในกระเป๋ากางเกงอีกครั้ง
“ใครโทรมาเหรอคะ” พราววรีถามขึ้นด้วยความสงสัยที่ชายหนุ่มนั้นไม่ยอมรับสาย
“ลูกน้องที่บริษัทครับ เดี๋ยวพี่ค่อยคุยก็ได้ครับ” ว่าแล้วเขาก็กอดกระชับเอวของหญิงสาวเข้ามาหาตัว
รติรสที่ก้มดูโทรศัพท์ของตัวเองก็ถูกชายหนุ่มนั้นกดตัดสายไปซะแล้ว
“พี่เพชร” หญิงสาวพยายามเรียกชื่อของเขาแต่เสียงที่เธอเอื้อนเอ่ยออกมาแทบจะขาดหายไปในลำคอด้วยความรู้สึกเสียใจและชาไปหมดทั้งตัว มือบางกุมที่หน้าอกของตนเอง หัวใจดวงน้อยที่แสนเจ็บปวดรวดร้าวทำให้เธอแทบจะหายใจไม่ออก
“มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมพี่เพชรถึงทำแบบนี้กับรติ” เธอกดโทรศัพท์โทรหาพชรอีกรอบ
พชรทำท่าทางเบื่อหน่ายและล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง เขาตัดสินใจกดรับและพูดกระซิบเบาๆ
“พี่ติดงานอยู่แค่นี้ก่อนนะรติ” ว่าแล้วเขาก็ตัดสายทิ้งจนรติรสไม่เคยนึกเลยว่าผู้ชายที่เธอเชื่อใจจะทำแบบนี้กับเธอ
หลายครั้งที่เธอนั้นโทรไปหาพชร เขาก็บอกว่าติดงานอยู่นี่คืองานที่เขาติดพันอยู่งั้นเหรอ บัดนี้เธอรู้ความจริงแล้วว่าทุกครั้งที่บอกว่างานยุ่ง ประชุมอยู่ก็คือเขากกอยู่กับผู้หญิงสินะ
รติรสไม่อยากอยู่ที่นี่แล้วหญิงสาวเสียใจเป็นอย่างมาก เธอกำโทรศัพท์แน่นแล้วรีบหันหลังวิ่งหนีออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุดเพราะเธอรู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ออก แต่เมื่อหญิงสาวหันหลังไปก็ชนเข้ากับอกแกร่งของใครสักคนที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอ พยัคฆินโดนผู้หญิงตัวเล็กชนเข้าเต็มเปาก็ต้องตกใจรีบคว้าเธอเข้ามากอดโดยอัตโนมัติเพราะกลัวหญิงสาวจะล้มลงกระแทกพื้นเจ็บตัว
อมรที่เดินตามหลังมารู้สึกตกใจที่เจ้านายหนุ่มนั้นกอดผู้หญิงคนหนึ่งเอาไว้กลางโรงแรมโดยมีสายตาของพนักงานหลายคนหันมามอง
รติรสที่ร้องไห้โฮออกมาอย่างไม่รู้สึกอายในตอนนี้ เธอรู้ว่าเธอชนเข้ากับใครสักคนหนึ่งและอ้อมกอดของเขาก็แสนจะอบอุ่นจนทำให้เธออยากจะยืมอกแกร่งของเขาซบหน้าร้องไห้ปล่อยความเสียใจให้มันพรั่งพรูออกมาซะให้หมด
ในตอนนี้เธอแทบจะไม่มีแรงยืนอยู่แล้ว ในที่สุดโทรศัพท์ก็ร่วงหล่นลงจากมือพร้อมการ์ดงานแต่งของหญิงสาว
อมรจึงเก็บโทรศัพท์และการ์ดแต่งงานขึ้นมา เขาถือวิสาสะเปิดอ่านก็ต้องเบิกตากว้างและยื่นการ์ดใบนั้นให้กับพยัคฆิน
พยัคฆินอ่านวันที่เธอจะต้องแต่งงานและก้มหน้าดูคนตัวเล็กที่กอดเขาไว้แน่นและร้องไห้จนตัวสั่น จนเขารู้สึกว่าหัวใจของเขากระตุกวาบขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกแต่ที่เขารู้ในตอนนี้ เธอคือแสงสว่างในชีวิตของเขา
ชายหนุ่มจึงยื่นการ์ดคืนให้กับอมรและโอบวงแขนกว้างกอดเธอไว้แน่น พนักงานในโรงแรมนั้นหันมองพยัคฆินเป็นตาเดียวจะไม่ให้สนใจได้ยังไงก็ในเมื่อเขาคือเจ้าของโรงแรมนี้ ว่าแล้วอมรก็โบกไม้โบกมือให้พนักงานรีบกลับไปทำงานของตัวเองไม่ต้องมาสนใจเรื่องของเจ้านาย
อาการของหญิงสาวนั้นเดาไม่ยากจนพยัคฆินสูดหายใจเข้าลึกๆและก้มหน้าไปกระซิบใกล้ๆใบหูของเธอ
“เจ้าบ่าวของคุณนอกใจเหรอ” เมื่อได้ยินคำถามนั้นเธอยิ่งร้องไห้ดังกว่าเดิมจนเขาต้องกอดปลอบและลูบที่หลังของเธอแรงขึ้นหวังจะส่งผ่านความอุ่นใจให้หญิงสาว
“เดี๋ยวผมจะพาคุณไปที่อื่นดีกว่านะ ถ้าคุณมาร้องไห้เสียงดังแบบนี้แขกที่เข้ามาในโรงแรมก็ตกใจแย่ คุณจะไปไหม” เสียงทุ้มต่ำกระซิบข้างหูของเธอเบาๆ
เมื่อเธอได้ยินแบบนั้นเธอก็พยักหน้าเพราะเธอไม่อยากจะอยู่ตรงนี้อยู่แล้วแต่ขาเจ้ากรรมนี้สิไม่มีแม้แต่แรงจะเดิน พยัคฆินจึงถอดสูทออกมาและคลุมตัวของเธอ
รติรสกอดเขาไว้แน่นและเดินไปตามทางที่เขาดันร่างบางให้เดินไปด้วยกัน อมรรีบวิ่งมากดลิฟต์ พยัคฆินก็พาเธอขึ้นไปบนห้องส่วนตัวของเขา
เมื่อถึงห้องเขาก็พยุงเธอไปนั่งที่เก้าอี้ ผมเผ้าของเธอนั้นปกรุงรังเต็มใบหน้าจนแทบจะดูไม่ออกว่าหน้าของเธอเป็นยังไง ชายหนุ่มจึงไปหยิบกระดาษทิชชูยื่นให้เธอแล้วนั่งลงตรงหน้าของหญิงสาว การกระทำของเขานั้นอ่อนโยนกับเธอไม่น้อย
“นี่กระดาษทิชชู” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมามองกระดาษทิชชูและส่งยิ้มน้อยๆให้พยัคฆินซึ่งมันก็เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นใบหน้าของเธอเต็มๆ ถึงแม้จะมีแต่คาบน้ำตาอาบแก้มและผมเผ้าที่ปกใบหน้าอยู่ครึ่งซีกแต่เขาก็รู้ว่าเธอนั้นสวยไม่เบา ทำไมผู้ชายคนนั้นถึงนอกใจเธอได้นะว่าแล้วเขาก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ
“ผมไม่อยากจะพูดเรื่องนี้หรอกนะ แต่ไหนๆเราได้เจอกัน อาจจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญ” รติรสที่เงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยความฉงน พอเธอได้มองหน้าเขาเต็มตาก็ได้รู้ว่าผู้ชายคนนี้หล่อไม่เบาถือว่าหล่อมากๆเลยล่ะ จมูกโด่ง ตาคม นัยน์ตาสีนิล คิ้วหนาเรียงเส้นได้รูปผิวขาว ถ้าจะให้ไปเป็นพระเอกหนังก็ยังได้เลยแต่แล้วเธอก็ตัดสินใจถามออกไป
“ทำไมคุณถึงบอกว่ามันอาจจะเป็นพรหมลิขิตคะ”
“ก็เพราะว่าคุณกำลังมีปัญหาเดียวกันกับผมอยู่ตอนนี้”
“ปัญหาอะไรเหรอคะ”
“คุณจะเข้าพิธีแต่งงานกับเขาไหม” หญิงสาวก็ส่ายหน้าไปมาแล้วปล่อยโฮออกมาอีกครั้ง
“ไม่ค่ะ ฉันตัดสินใจแล้ว ว่าฉันจะไม่แต่งงานกับเขา”
“แม้ว่างานแต่งงานจะจัดขึ้นอาทิตย์หน้างั้นเหรอ”
“คุณรู้ได้ยังไง” เธอเริ่มจะไม่ไว้ใจเขาแล้วสิ เขารู้เรื่องของเธอได้ยังไง
“ผมดูการ์ดแต่งงานของคุณน่ะ”
“ถึงแม้ว่างานแต่งงานจะเตรียมพร้อมทุกอย่างแล้วแต่ฉันก็จะไม่แต่งค่ะ” หญิงสาวพูดขึ้นอย่างหนักแน่น
“แล้วถ้าผมขอให้คุณแต่งกับผมล่ะ”
“คุณพูดว่าอะไรนะคะ” เธอแทบจะไม่เชื่อหูว่าสิ่งที่ชายหนุ่มนั้นเอื้อนเอ่ยออกมาคือการขอแต่งงานกับเธอ ผู้หญิงที่รู้จักกันเพียงไม่ถึงครึ่งชั่วโมง
“ผมอยากจะจ้างให้คุณมาแต่งงานกับผม”
“จ้างแต่งงานเหรอคะ” หญิงสาวพูดขึ้นเสียงดังเธอไม่อยากจะเชื่อหูว่ามันมีในชีวิตจริงด้วยเหรอกับการจ้างแต่งงานนึกว่าจะมีแค่ในนิยายที่เธอเคยอ่านซะอีก
ตอนที่ 44ตาสิงห์ชอบผู้หญิงแบบไหน“พ่อลองบอกเหตุผลมาสิครับว่าทำไมผมถึงจะต้องแต่งงานกับหนูพิมของพ่อ”“ก็พ่อชอบหนูพิม พ่ออยากได้หนูพิมมาเป็นลูกสะใภ้ไม่ใช่ผู้หญิงที่ลูกจ้างมาแต่งงาน” เมื่อพูดถึงผู้หญิงที่ทำให้เขาแทบไม่เป็นอันกินอันนอนอยู่ในตอนนี้ขึ้นมาก็สะกิดใจเขาอีกครั้งทำให้ชายหนุ่มโกรธจนหน้าแดง“พ่อจะพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาอีกทำไม”“ถ้าลูกไม่อยากให้ฉันพูด ลูกก็แต่งงานกับหนูพิมรสาให้รู้แล้วรู้รอดไปสิวะจะให้ฉันมาพูดเรื่องเดิม ๆ ซ้ำ ๆ อีกทำไม ก็ลูกเองไม่ใช่เหรอที่สร้างเรื่องนี้ขึ้นมา พ่อหาให้ก็ดีพร้อมอยู่แล้วเป็นทั้งลูกผู้ดีเก่ามีเงินมีทอง แถมมีหน้ามีตาในสังคมอีกด้วยจะยิ่งทำให้ธุรกิจโรงแรมของเรายิ่งมั่นคง”“แต่ผมไม่ได้ชอบเธอนี่ครับ ถ้าพ่อชอบเธอมากนัก พ่อก็แต่งไปเองสิครับ”“ไอ้สิงห์” ผู้เป็นพ่อตะโกนเรียกชื่อลูกลั่นจนอมรที่ยืนอยู่หน้าห้องทำอะไรไม่ถูกแต่แล้วเสียงหนึ่งก็ดังมาจากหน้าประตู“ต๊อก ๆ ๆ” เสียงส้นสูงที่กระทบกับพื้นกระเบื้องเดินมุ่งหน้ามาใกล้ ๆ กับอมร อมรหันหลังกลับไปดูก็ต้องเ
ตอนที่ 43ผมต้องการหย่าเมื่อไปถึงห้องทั้งสองก็ปล่อยพยัคฆินนอนไว้บนที่นอน“หนักฉิบหายไอ้พี่บ้า”“ไปอมรทิ้งไว้แบบนี้แหละ” ทั้งสองคนที่ทำหน้าที่ส่งพยัคฆินไว้ในห้องแล้วก็ออกไปจากห้องทันทีพยัคฆินที่รู้สึกตัวขึ้นมาในตอนเช้าเขาเอื้อมมือไปจับที่นอนข้าง ๆ แต่ก็เหลือแต่เพียงความว่างเปล่า ชายหนุ่มขมวดคิ้วมุ่นและพยายามลืมตาที่หนักอึ้งขึ้น เขารับรู้ว่ารติรสนั้นได้จากเขาไปแล้วจริง ๆ ดวงตาคู่คมนั้นมีน้ำตาเอ่อคลอขึ้นมาที่ขอบตาแต่แล้วเขาพยายามปรับม่านสายตาและพลิกตัวนอนหงายมองเพดานภาพที่เขากับเธอนั้นมีความสุขหยอกล้อกันอยู่ในห้องก็ฉายวนเวียนไปมาจนในที่สุดชายหนุ่มถอนหายใจและลุกขึ้นเดินไปอาบน้ำพอเขาอาบน้ำออกมาก็ตัดสินใจกดส่งข้อความไปหารติรส“ผมต้องการหย่า” เขาส่งข้อความเพียงสั้น ๆ ไปหาเธอ“ติ่ง!” รติรสที่ร้องไห้กับเพื่อนทั้งคืนด้วยความเจ็บช้ำที่เธอก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าเธอนั้นได้ให้ใจกับพยัคฆินไปหมดแล้ว เธอเพิ่งจะหลับลงก็เมื่อตอนตีสามนี่เองแต่พอตื่นขึ้นมาก็ได้เห็นพยัคฆินส่งข้อความมาชวนเธอไปหย่า เขาไม่
ตอนที่ 42 จะยอมตายหรือจะคายความลับ “ไม่ครับผมไม่แต่ง” พยัคฆินพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและหมุนตัวเดินออกไปจากห้องทันที “ทำไมหรือว่าลูกรักผู้หญิงที่ลูกจ้างมาแต่งงานงั้นเหรอ” คำพูดของผู้เป็นพ่อทำให้พยัคฆินนั้นชะงักฝีเท้าแล้วหมุนตัวกลับมามองหน้าผู้เป็นพ่ออีกครั้ง “ใช่ครับ ผมรักเธอ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นจนผู้เป็นพ่อหัวเราะ ฮึ ๆ อยู่ในลำคอตลกกับเรื่องที่เขาพึ่งได้ฟัง “คุณพ่อหัวเราะอะไรครับ” “ก็หัวเราะความโง่ของแกน่ะสิ แกไม่รู้หรอกว่าผู้หญิงคนนั้นพอโดนฉันจับได้แล้วพอฉันเสนอเงินให้แค่เพียงสามล้านบาท เธอก็รับเงินไปซะงั้น” “ผมไม่เชื่อ” “ถ้าลูกไม่เชื่อลูกจะดูไหมล่ะ” คมสันที่ทำท่าจะเปิดโทรศัพท์ให้ลูกชายดูแต่แล้วพยัคฆินก็ไม่อยากที่จะดูสลิปที่พ่อของเขาโอนเงินให้กับรติรสไม่นึกเลยว่าเธอจะไม่รักษาสัญญาทั้ง ๆ ที่เธอเซ็นสัญญาไว้กับเขา เธอเห็นแก่เงินเพียงแค่สามล้านบาทมีค่ามากกว่าเวลาที่เธอกับเขานั้นอยู่ด้วยกันคิดแค่นั้นพยัคฆินก็กำมือแน่นและกำลังจะเดินออกไปจากห้อง
ตอนที่ 41แกต้องรับผิดชอบด้วยการแต่งงานกับหนูพิม“เธอทำอะไร หรือว่าเธอส่งข้อความฟ้องลูกชายฉันอีก”“เปล่าหรอกค่ะ ฉันแค่คุยกับเพื่อนนะคะ ถ้าคุณพ่อไม่มีอะไรแล้วเดี๋ยวรติขอตัวไปทำความสะอาดก่อนนะคะ”“เชิญ” คำพูดที่ไม่สบอารมณ์เมื่อรู้ว่าลูกสะใภ้ตัวดีไม่อยากจะคุยกับเขาสักเท่าไหร่ เมื่อรติรสเดินไปทำความสะอาดในห้องทำงานของพยัคฆินแล้วคมสันจึงที่ยืนมองไปรอบ ๆ ห้องแล้วเปิดประตูเข้าไปในห้องนอนของลูกชายตัวเอง เขายืนมองไปรอบ ๆ แต่แล้วก็ตัดสินใจเดินเข้าไปในห้องแต่งตัวของพยัคฆินที่เปิดแง้มเอาไว้เพียงเล็กน้อย เขาอยากจะรู้นักว่าลูกชายตัวดีนั้นหลงเสน่ห์ผู้หญิงคนนี้หัวปักหัวปำจนดื้อดึงที่จะแต่งงานกับเธอจนได้ไม่รู้ว่าลูกชายหัวดื้อของเขาจะซื้ออะไรให้ผู้หญิงคนนี้บ้างเมื่อเขาเดินเข้าไปในห้องก็เห็นชุดแบรนด์เนมยี่ห้อดังที่ราคาแพงหูฉี่จนผู้เป็นบิดาเบิกตากว้าง เขาจับดูเสื้อผ้าแต่ละชุดของหญิงสาวถึงจะมีไม่มากแต่ทุกตัวก็เป็นแบรนด์เนมทั้งนั้น คมสันรู้สึกโกรธจนควันออกหูคมสันกำลังจะเดินออกมาจากห้องแต่แล้วสายตาก็พลั
ตอนที่ 40พ่อคุณมาที่ห้องค่ะ“มาถึงที่แล้วถ้าไม่ได้เห็นหน้าพี่สะใภ้ก็เสียเที่ยวแย่” ในที่สุดชายหนุ่มก็ยกขึ้นมือก็ยกมือขึ้นเคาะประตูห้องนอน“ก๊อก ๆ ๆ” เขายืนรอสักพักแต่ก็ไม่มีเสียงใครมาเปิดประตู ชายหนุ่มเอาหูแนบประตูเพื่อที่จะฟังว่ามีเสียงฝีเท้าอยู่ในห้องหรือเปล่าแต่แล้วเหมือนในห้องไม่มีเสียงใครอยู่ในนั้นเลยใจหนึ่งเขาก็อยากที่จะเปิดประตูเข้าไปให้รู้แล้วรู้รอดแต่แล้วหน้าของอุไรก็ลอยเข้ามาในความคิดของเขา จนพยัคฆินรู้สึกขนหัวลุกอย่างบอกไม่ถูกชายหนุ่มรีบถอยหลังไปยืนอยู่ตรงกลางห้อง“ไม่ได้ ไม่ได้ ถ้าแม่รู้แม่ต้องบิดหูขาดแน่เลย” สีหราชตัดสินใจเดินไปอยู่ตรงพี่ชายของตัวเองแล้วเตะเข้าที่ต้นขาของพี่ชายอีกครั้งหนึ่งด้วยท่าทางมันเขี้ยว“ตุ๊บ!” สีหราชเดินออกไปจากห้องทันทีปล่อยให้พยัคฆินนั้นเมาไม่รู้เรื่องอยู่บนโซฟาพระอาทิตย์เริ่มส่องกระทบกับกระจกห้องของเขาก็ปลุกให้ชายหนุ่มตื่นขึ้นตั้งแต่เช้า เขารู้สึกหนักอึ้งที่ศีรษะแต่ก็จำไม่ได้ว่าตัวเองกลับมาที่ห้องได้ยังไงพอมองไปรอบ ๆ ตัวเองก็
ตอนที่ 39พี่กลัวเมีย“ใครว่าฉันกลัวเมีย”“ก็ผมนี่แหละเพิ่งบอกว่าพี่กลัวเมีย ถ้าคนไม่กลัวเมียแล้วจะรีบกลับบ้านไปทำไม”“แต่นี่มันก็ดึกแล้วฉันก็ควรกลับบ้านสิ”“ใครบอกว่าดึกแล้วควรกลับบ้าน ดึกแล้วควรไปเที่ยวต่างหากพี่ไม่รู้หรือไง”“ฉันไม่ได้ใช้ชีวิตสำมะเลเทเมาเหมือนแกจะได้ไปเที่ยวเมาหัวราน้ำทุกวัน”“บางครั้งคนเมาก็ดีกว่าคนบ้านะพี่ เมาบ้างอะไรบ้างชีวิตจะได้มีสีสัน ไม่ใช่พี่เคร่งเครียดทำงานอยู่ตลอดเวลาเดี๋ยวก็ประสาทแดกหรอก”“ฉันจะประสาทแดกก็เพราะมีน้องอย่างแกนี่แหละ”“ไม่ดีหรือไงพี่ พี่จะได้ไม่เหงาไป ๆ ผมพาไปเที่ยว” สีหราชขยับเข้ามาดึงแขนของพี่ชายด้วยท่าทางนึกสนุก พยัคฆินสะบัดแขนออกแรง ๆ“ไม่ไปฉันจะกลับบ้าน”“ถ้าพี่ไม่ไปกับผม ผมจะแท็กพี่แล้วใส่แฮชแท็กว่าคนกลัวเมียรับรองเรื่องพี่มีเมียที่อยากจะเก็บเป็นความลับได้แดงขึ้นมาแน่” คำขู่ที่ดูเหมือนจะทีเล่นทีจริงของสีหราชทำให้พยัคฆินนิ่งงันไปทันทีอมรที่หันมามองหน้าของพยัคฆินเหลอหลาเพราะกลัวว่าทั้งสองจะวางระเบิดก