แชร์

บทที่ 4

ผู้เขียน: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
“ขอร้องแม่เจ้าสิ!” เฉินฝานยกอีกถ้วยหนึ่งขึ้น

“ปึก!”

“ดูซิว่าข้าจะกล้าตีเจ้าหรือไม่ ?”

“อ๊าก!” จูต้าอันที่ไม่ทันระวังตัวส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวด ต่อมาเขาพยายามจะลุกขึ้น แต่เฉินฝานไม่ให้โอกาสเขาเลย

“ปึก!”

“กล้าไหม!”

“ปึก!”

“กล้าไหม!”

เขาพูดคำว่ากล้าไหมหนึ่งครั้ง ก็ฟาดจูต้าอันหนึ่งครั้ง

กำลังมือที่เฉินฝานฟาดลงไปหนักขึ้นทุกครั้ง

ศีรษะของจูต้าอันกลายเป็นสีแดงอย่างรวดเร็ว เลือดไหลออกมามากขึ้นเรื่อย ๆ เขาปากแข็งในตอนเริ่มต้น แต่ภายหลังส่งเสียงร้องเจ็บปวดดังสนั่นและร้องขอความเมตตาไม่หยุด

ชายสองคนที่มาจากหอนางโลมอี๋ชุนย่วนวางมือลงและมองหน้ากัน ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วยจูต้าอันสักคน

ไอ้เฉินฝานนี่ เหตุใดถึงไม่เหมือนอย่างที่รู้จัก

เฉินฝานที่พวกเขารู้จัก นอกจากผู้หญิงในเรือนตนเองแล้วก็สู้ใครไม่ได้เลย คำว่าอันธพาลของหมู่บ้านล้วนได้มาเพราะอยู่กับจูต้าอันและล้วนเพราะมีจูต้าอันคอยหนุนหลัง

ทำไมตอนนี้กลับ……

“ปึกๆๆ!” เฉินฝานยังทุบไม่หยุด

“นายท่านเจ้าคะ นายท่าน!” ฉินเย่ว์โหรวนั่งลงข้างเฉินฝาน “หยุดตีได้แล้ว หยุดตีได้แล้ว ถ้ายังตีต่อไปเขาจะตายได้นะเจ้าคะ!”

ครอบครัวไม่อาจไร้ผู้นำ หากเฉินฝานเข้าคุก พวกเขาจะกลายเป็นผู้หญิงไร้นาย

ผู้หญิงที่ไร้นาย ใคร ๆ ก็จะมารังแก

“พวกเจ้า!” เฉินฝานวางมือพร้อมสาดสายตาไปยังผู้ชายจากอี๋ชุนย่วนสองคนอย่างเยือกเย็น

ใบหน้าของเฉินฝานเต็มไปด้วยเลือดของจูต้าอัน สยดสยองน่ากลัว

แม้แต่ชายหนุ่มจากอี๋ชุนย่วนทั้งสองคนก็ยังตกใจกลัวจนต้องถอยหลัง

พวกเขาใช้ชีวิตมานานขนาดนี้ เป็นครั้งแรกที่เห็นคนทุบคนอย่างเหี้ยมโหดเช่นนี้

“ลากกลับไปซะ อย่าทำให้ห้องข้าเปื้อนล่ะ!”

ชายหนุ่มจากอี๋ชุนย่วนลากจูต้าอันออกไปอย่างรวดเร็ว

หลังจากจูต้าอันออกไปแล้ว เฉินฝานเช็ดเลือดเปื้อนบนใบหน้าและเดินกลับไปนั่งตรงหน้าฉินเย่ว์โหรวที่ยังนั่งอยู่กับพื้น

“ที่พื้นมันเย็น เย่ว์โหรว ร่างกายของเจ้าไม่สู้ดีนัก รีบลุกขึ้นเถอะ!”

เฉินฝานยื่นมือให้ แต่กลับถูกฉินเย่ว์โหรวหลบอย่างคล่องแคล่ว

“นายท่านนั่งเถอะเจ้าค่ะ เดี๋ยวข้าน้อยไปตักน้ำมาให้ท่านล้างหน้าเจ้าค่ะ”

แม้ว่าเสียงของฉินเย่ว์โหรวยังคงอ่อนหวานเหมือนเดิม สีหน้าก็ยังอ่อนโยนนอบน้อมไม่เปลี่ยน แต่เฉินฝานสัมผัสได้ถึงความห่างเหินจากน้ำเสียงที่พูด

นางยังรู้สึกโกรธที่เขาขายนาง

ช้าก่อน

คนที่ขายฉินเย่ว์โหรวคือเจ้าของร่างเดิมไม่ใช่เขาเสียหน่อย!

“ข้าไม่ได้……”

ฉินเย่ว์โหรวไม่รอฟังคำอธิบายของเฉินฝาน แต่นางหันหลังเดินไปตักน้ำทันที

เมื่อเห็นแผ่นหลังที่เดินกะเผลกของฉินเย่ว์โหรวแล้ว เขาพลางยักไหล่อย่างจนใจ

ช่างเถอะ ไม่อธิบายล่ะ อธิบายไปก็ไม่เข้าใจ เมื่อมาใช้ร่างกายของเจ้าของร่างเดิม คงต้องแบกความผิดนี้ไว้ก่อนชั่วคราว

หลังจากฉินเย่ว์โหรวล้างหน้าเปื้อนเลือดของเฉินฝานจนสะอาดแล้ว นางก็ไปเก็บกวาดห้องต่อ

เฉินฝานไม่ได้เข้าไปช่วย ประการที่หนึ่งเพราะฉินเย่ว์โหรวไม่ต้อนรับเขา ประการที่สองเพราะร่างกายยังไม่สู้ดีนัก

เขาเพิ่งทะลุมิติข้ามมาไม่นาน ความทรงจำอันวุ่นวายของเจ้าของร่างเดิมทำให้เขาปวดหัวตื้อไม่หาย ยังไม่ทันปรับตัวดีจูต้าอันก็พาคนเข้ามา

ร่างกายของเจ้าของร่างเดิมทั้งซูบผอมและอ่อนแอ เมื่อครู่นี้ก็เพิ่งใช้กำลังทุบจูต้าอันไปอย่างหนัก ตอนนี้รู้สึกทนไม่ไหวเล็กน้อย

ทันใดนั้น ก็มีเสียงท้องร้องดังขึ้นกลางห้อง

ฉินเย่ว์โหรวหันหน้ามองเฉินฝานด้วยสีหน้าเกรงกลัว

เฉินฝานกุมท้องแล้วยิ้มเหยาะ “เอ่อ…….เมื่อครู่นี้ข้าใช้กำลังมากไปหน่อยเลยรู้สึกหิวเล็กน้อยน่ะ”

“นายท่าน ข้าน้อยจะรีบไปเตรียมอาหารมาให้เจ้าค่ะ”

ฉินเย่ว์โหรววางมือจากสิ่งที่ทำและเดินออกไปอย่างรีบร้อน ขาของนางไม่สันทัดตั้งแต่แรก พอรีบเร่งก็แย่กว่าเดิม นางเดินไปไม่กี่ก้าวก็สะดุดล้มไปกับพื้นทันที

“ทำไมไม่ระวังขนาดนี้” เฉินฝานเร่งเข้าไปจะช่วยนาง

ฉินเย่ว์โหรวพลันลุกขึ้นด้วยความตื่นตระหนกขณะที่เฉินฝานยังไม่ทันเข้าใกล้ “นายท่าน ข้าน้อยขออภัย ๆ ข้าน้อยเป็นคนโง่เขลา ข้าทำให้นายท่านหิวแล้วยังไม่มีอะไรกินอีก ได้โปรดท่านอย่าโกรธนะเจ้าคะ!”

“ข้า……” เฉินฝานมองฉินเย่ว์โหรวที่กล่าวขอโทษไม่หยุดพลางทำหน้าจนใจ

เขาแสดงสีหน้าอะไรผิดหรือ ถึงทำให้นางรู้สึกว่าเขากำลังโกรธ!

ทันใดนั้น พลันมีความทรงจำผุดขึ้นมา

ก่อนที่เฉินฝานจะทะลุมิติมาที่นี่ เวลาเจ้าของร่างเดิมหิว หากฉินเย่ว์โหรวนำอาหารมาให้ไม่ทัน เขาก็จะทุบตีนางอย่างโหดเหี้ยมโดยไม่รีรอทันที

ฉินเย่ว์โหรวในเวลานี้ไม่ต่างจากนกที่ตื่นธนู ในสายตาของนาง ทุกอิริยาบถของเฉินฝานเป็นท่าทางจะทุบตีนางทั้งหมด

“นายท่าน โปรดรอข้าอีกเพียงครู่เดียว รอไม่นาน รอไม่นานเจ้าค่ะ!”

ฉินเย่ว์โหรววิ่งเร็วกว่าเมื่อครู่นี้ แผ่นหลังที่เดินกะเผลกและสั่นไหวของนาง ดูโคลงเคลงกว่าเมื่อครู่นี้มาก

เฉินฝานมองแล้วรู้สึกแย่จนพูดไม่ออก

ช่างเป็นคนน่าสงสารเหลือเกิน

ดวงอาทิตย์บนฟ้า ร่วงสู่ขอบภูเขาไปแล้ว

ฉินเย่ว์โหรวกำลังทำงานอยู่ในครัว เฉินฝานรอในห้องจนรู้สึกเบื่อเขาจึงเดินออกไป

เพิ่งทะลุมิติก็มีเรื่องต่าง ๆ มากมายเกิดขึ้น เขายังไม่ทันได้เห็นเลยว่าตนเองมีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร

กำแพงอิฐหลังคาสังกะสีจำนวนห้าหลังกับห้องครัวหนึ่งห้อง ห้องครัวก่ออิฐหลังคาสังกะสีเหมือนกัน

เพียงแต่ว่า……

นอกจากห้องที่เขาอยู่เมื่อครู่นี้ ห้องที่เหลือ ไม่มีหลังคาหรือไม่ก็กำแพงสึกหรอไม่สมบูรณ์

หากลมพัดแรงหน่อย ก็จะมีเสียงกรอบแกรบดังออกมา

ไม่ต้องพูดถึงฤดูฝน แค่ลมฤดูหนาวนี้ ยังไม่รู้เลยว่าจะทนไหวหรือไม่

ส่วนภายในห้อง……

ไม่ต้องพูดถึงเครื่องใช้ในเรือน เสื้อผ้าที่สภาพดีก็มีไม่กี่ตัว เวลาคนอื่นทะลุมิติไม่ได้เป็นองค์ชายก็ได้เป็นคุณชายสูงส่ง พอถึงคราวของเขาทำไมถึง……

ให้ตายเถอะ เป็นฉากเปิดที่บัดซบมาก

“นายท่าน”

เสียงอ่อนหวานนุ่มนวลดังขึ้น เฉินฝานจึงหันกลับไปก็พบว่าฉินเย่ว์โหรวเข้าไปห้องใหญ่และยืนเรียกเขาอยู่ตรงขอบประตู

แสงสุดท้ายของตะวันส่องบนตัวนางจนสะท้อนเป็นเงาจาง ๆ

รูปหน้าสะสวยไร้ที่ติกับทรวดทรงสะโอดสะองร่างนั้น

ช่างเป็นภาพที่สวยงามยิ่งนัก

หญิงงามเช่นนี้กลับยังบริสุทธิ์!!!

สุดที่จะนึกได้จริง ๆ

แม้จำไม่ได้ว่าเจ้าของร่างเดิมไม่อยากได้นางด้วยเหตุผลใด แต่ความทรงจำที่มีตอนนี้บอกกับเขาว่า เจ้าของร่างเดิมไม่เคยแตะต้องตัวนางจริง ๆ

“นายท่าน”

ฉินเย่ว์โหรวขานเรียกติดต่อกันถึงสามครั้ง

“อื้ม มาแล้ว!”

เฉินฝานเร่งเท้าเดินเข้าไป

ฉินเย่ว์โหรวยกอาหารเข้ามาข้างใน

เฉินฝานขมวดคิ้วมุ่นทันทีที่เดินเข้ามาถึงห้องใหญ่

บนโต๊ะเล็กมีผัดหมูลวกกับข้าวหนึ่งถ้วย

เนื้อหมูจานนั้น หากเฉินฝานจำไม่ผิด มันคือหมูที่ตกพื้นตอนที่เขากับจูต้าอันปะทะกันเมื่อครู่นี้

ฉินเย่ว์โหรวเก็บไปล้างแล้วผัดใหม่ให้เขา

เรือนนี้……คงยากจนกว่าที่เขาเห็นอีก

หลังจากเฉินฝานนั่งลง ฉินเย่ว์โหรวพลันคุกเข่าลงตรงหน้า

“……” เฉินฝานกำลังจะถามเหตุผลการคุกเข่าของฉินเย่ว์โหรว เขายังไม่ทันเอ่ยคำใด ฉินเย่ว์โหรวก็หยิบตะเกียบบนโต๊ะขึ้นมาแล้วคีบกับใส่ถ้วยข้าว จากนั้นยื่นให้เฉินฝาน

“นายท่าน เชิญกินข้าวเจ้าค่ะ!”

“……”

“นายท่าน”

เฉินฝานรับถ้วยข้าวจากมือฉินเย่ว์โหรวมาแล้ว นางพลางกล่าวต่อ “ถ้าท่านกินเสร็จแล้ว เรียกข้าน้อยนะเจ้าคะ เดี๋ยวข้าน้อยมาเก็บเจ้าค่ะ”

พูดจบ นางยืนขึ้นและถอยไปอยู่ด้านนอกประตู

“เย่ว์โหรว เจ้านั่งลงแล้วกินด้วยกันเถอะ” เฉินฝานกล่าว

มือที่ปัดม่านกั้นประตูของฉินเย่ว์โหรวพลันชะงัก “นายท่าน ข้าน้อยเป็นผู้หญิง ไม่สามารถกินข้าวร่วมโต๊ะกับท่านได้เจ้าค่ะ”

พูดเสร็จ ฉินเย่ว์โหรวเดินออกไปทันทีโดยไม่รอให้เฉินฝานตอบกลับ

“เห้อ……”

มือที่ชูขึ้นมาของเฉินฝานวางลงในที่สุด

เขายอมแพ้แล้ว ฉินเย่ว์โหรวไม่รู้ว่าเขาไม่ใช่เจ้าของร่างเดิม นางกลัวเขามากถึงเพียงนั้น ไม่กล้าร่วมโต๊ะกับเขาแน่นอน

ช่างเถอะ ค่อยเป็นค่อยไปแล้วกัน เร่งไม่ได้

ภายในห้องเต็มไปด้วยกลิ่นเน่าบูด เฉินฝานจึงยืนขึ้นมัดม่านกั้นประตู

เวลานี้ ฉินเย่ว์โหรวกำลังกินข้าวอยู่ข้างหน้าประตูห้องครัว นางตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นหน้าเฉินฝาน

“นายท่านมีอะไรจะรับสั่งหรือเจ้าคะ” นางพูดไปพลางวางถ้วยตนเองลงและจะเดินไปหา

“ไม่มีอะไร!” ฉินฝานรีบปฏิเสธและเอ่ยห้าม “เจ้ากินเถอะ ไม่ต้องสนใจข้า”

เฉินฝานนั่งกินในห้องใหญ่ ส่วนฉินเย่ว์โหรวนั่งกินอยู่ข้างหน้าประตูห้องครัว ทั้งคู่นั่งอยู่ตรงข้ามกันไกล ๆ

ฉินเย่ว์โหรวไม่กล้ามองหน้าเฉินฝานแม้แต่แวบเดียวตั้งแต่ต้นจนจบ

ไม่รู้ว่าในถ้วยข้าวของฉินเย่ว์โหรวคืออาหารอะไร จากสีหน้าทุกข์ทรมานที่แสดงออกมาเป็นพัก ๆ ทำให้รู้ว่าอาหารในถ้วยไม่ใช่อาหารปกติอะไร

ปกติภรรยาของเขากินอะไรกันนะ เฉินฝานกินไปพลางนึกทวนความทรงจำ

เฉินฝานยิ่งนึกทวนกลางอกของเขาก็ยิ่งแน่นไม่สบาย

ถ้าเขาเดาไม่ผิด เสบียงอาหารในเรือนถูกเขาเล่นพนันแพ้ไปเกือบหมดแล้ว

ข้าวสารไม่เพียงพอ แต่เจ้าของร่างเดิมจะกินข้าวให้ได้ วันไหนไม่ได้กิน เขาจะทุบตีฉินเย่ว์โหรวกับคนอื่นอย่างเอาเป็นเอาตาย

เพื่อให้เจ้าของร่างเดิมมีข้าวกิน ฉินเย่ว์โหรวและคนอื่นไม่กล้ากิน ปกติพวกเขาจะกินแค่เปลือกข้าวสารกับผักป่า ในความเป็นจริงแม้แต่เปลือกข้าวสาวก็ไม่มีให้พวกเขาได้กิน ส่วนใหญ่จะกินแต่ผักป่า

เมื่อมองฉินเย่ว์โหรวที่ซูบผอมและอ่อนแอ เฉินฝานที่กลืนแทบไม่ลงพลางวางตะเกียบและถ้วยในมือ

“นายท่าน กินเสร็จแล้วหรือเจ้าคะ!”

ฉินเย่ว์โหรววางถ้วยและตะเกียบในมือด้วยทันที เมื่อเห็นว่ายังมีอาหารอยู่ในถ้วยก็ชะงักเล็กน้อย

“นายท่าน……”

“เจ้านั่งลงแล้วกินอาหารพวกนี้ซะ!” เฉินฝานพูดด้วยน้ำเสียงออกคำสั่ง

เขารู้ดี ถ้าเขาไม่ดุ ฉินเย่ว์โหรวที่กลัวเขาเอามากไม่มีวันเชื่อฟังเขาเป็นแน่

“หา!” ฉินเย่ว์โหรวมองเฉินฝานอย่างไม่เชื่อสายตา

วันนี้นายท่านต่างจากวันปกติจริง ๆ ไม่ตบตีนางไม่ดุด่านาง ยังปะทะกับจูต้าอันเพราะนาง ตอนนี้ยังสั่งให้นางกินข้าวด้วย

นายท่าน……ดี ขึ้นแล้วจริง ๆ!

ไม่ ไม่ใช่!

ฉินเย่ว์โหรวส่ายศีรษะอย่างรุนแรง ฉินเย่ว์โหรว ๆ หยุดคิดเพ้อฝันลม ๆ แร้ง ๆ ได้แล้ว แต่งเข้ามาแล้วตั้งครึ่งปี ถูกทุบตีและดุด่าไม่พอรึ!

วันนี้เขาเกือบขายตนเองแล้วด้วย

ขาย!

ฉินเย่ว์โหรวมองเฉินฝานอย่างตื่นตัว

ทำดีกับนางโดยไร้เหตุไร้ผล คงไม่ได้คิดจะทำอะไรอีกกระมัง

“มองข้าทำไม รีบกินซะ!” ครั้งนี้เฉินฝานพูดเสียงดังกว่าเดิม ถ้ายังไม่กินอีก อาหารในถ้วยคงเย็นแน่

“เฉินฝานไอ้สมควรตาย ฉวยโอกาสที่ข้าไม่อยู่ขายน้องสี่ของข้ารึ!”

เฉินฝานเพิ่งพูดจบก็มีเสียงตะโกนดังสนั่นดังเข้ามาจากข้างนอก
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (3)
goodnovel comment avatar
Somchai Juejoi
เศร้าใจ อ่านแล้วหดหู่
goodnovel comment avatar
tom Promphibal
ยอดเยี่ยมครับชื่นชมๆครับ
goodnovel comment avatar
Chainiwat
สนุกสนุกสนุก
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1315

    “อะไรนะ!?”“ตอนนี้องค์หญิงเสี่ยวฉู่พาฝ่าบาทไปที่ประตูอู่แล้วขอรับ เจ้าสิ่งนั้น ปะ ปะ...”“ปืนไรเฟิล”“ใช่ ๆ ปืนไรเฟิล ปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อพระเศียรของฝ่าบาทอยู่เลยขอรับ!”“หา นี่เป็นเพราะอะไรกัน?”บรรดาพี่สาวน้องสาวตระกูลฉินได้ยินข่าวขึ้นมา“กราบทูลบรรดาองค์หญิง ข้อเรียกร้องขององค์หญิงเสี่ยวฉู่คืออยากให้ท่านอัครเสนาบดีกับฝ่าบาทอภิเษกสมรสกันเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เหลวไหล!”เฉินฝานพุ่งตัวออกไปราวกับพายุเวลานี้บรรดาพี่น้องตระกูลฉินที่เพิ่งแสดงท่าทีรีบร้อนทำหน้าร้อนใจกลับมีสีหน้าแจ่มใส ถึงขนาดที่นั่งลงปรึกษาหารือกันฉินเย่ว์โหรว “พี่หญิงรอง ท่านมีฝีมือดี ท่านรีบไปขวางอยู่ที่หอด้านบนประตูอู่ อย่าให้นายท่านลงมา” ฉินเย่ว์เจียว “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลานั้นข้าจะเรียกน้องหวั่นเอ๋อร์ นายท่านหนีไม่รอดแน่”ฉินเย่ว์ฉิน “เช่นนั้นข้าจะให้พี่น้องในวังเซียวเหยาก่อนหน้านี้ไปเดินเล่นแถว ๆ ประตูอู่ให้หมดเลย จะต้องครึกครื้นเป็นแน่ รับรองว่าพี่น้องทหารองครักษ์พวกนั้นจะต้องมองสาวงามอย่างไม่หวาดไม่ไหว”สามพี่น้อง “ความปรารถนาของเสี่ยวฉู่ พวกเราในฐานะพี่สาวจะต้องช่วยอย่างเต็มที่!”เมื่อมองถนนละแวกป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1314

    “ข้าไม่ได้ขัดขืนจริง ๆ” เย่ลวี่เลี่ยก้มหน้าลง ชายสูงแปดฉื่อทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ เขาอยากขัดขืนอยู่แล้ว แต่ฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับเขาเลยตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่บุกเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเย่ลวี่เลี่ย ก็ยิงปืนกำจัดองครักษ์ของเย่ลวี่เลี่ยก่อนพูดแล้วก็น่าอับอาย เย่ลวี่เลี่ยที่เคยผ่านศึกมาอย่างโชกโชนตกใจกลัวรูเลือดตรงกลางหน้าผากขององครักษ์ เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยได้ยินแค่เสียงดังปัง หน้าผากขององครักษ์ก็มีรูเลือดใหญ่ขนาดนี้แล้ว ความเร็วที่แม้แต่เทพเซียนก็ทำไม่ได้ ความแม่นยำที่แม้แต่เทพเซียนก็ยังทำไม่ได้ในตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่ยกปืนขึ้นแล้วลั่นไกอีกครั้ง เมื่อเย่ลวี่เลี่ยได้ยินเสียง เขาก็ตกใจจนสลบไปทันที หลับไปตื่นหนึ่งถึงค่อยพบว่าฉินเย่ว์ฉินยิงใส่หมวกเล็กของเขาเท่านั้นตกใจสาวน้อยจนสลบไป ไม่ว่าสือจิ่งซานผู้นี้จะถามอย่างไร เย่ลวี่เลี่ยก็ไม่บอกเขา .....ในคืนที่เย่ลวี่เลี่ยถูกจับ ข่าวก็ไปถึงเมืองหลวงแล้ว “เครื่องอัดเสียงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียง...” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยอ่านคำเหล่านี้ก็ถามเฉินฝานด้วยความมึนงงว่า “จดหมายของเสี่ยวฉู่บอกว่า นางแค่อาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1313

    “นางไม่รู้หรือว่าพวกเราไม่อยากลงมือจริงจัง?” “พอไปถึงค่ายทหารของชาวหู ไม่ใช่แค่โดนฆ่าธรรมดาแบบนั้นหรอกนะ” ชาวหูไม่มีทางปล่อยสตรีชาวต้าชิ่งใด ๆ ที่ตกอยู่ในมือพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีชาวต้าชิ่งที่หน้าตางดงามฐานะสูงศักดิ์อย่างฉินเย่ว์ฉู่ พฤติกรรมของพวกเขาใช้คำว่าเดรัจฉานมาอธิบายยังไม่พอเลย สือจิ่งซานสะบัดแขนเสื้อ “พอได้แล้ว สตรีนางเดียวไม่มีค่าพอให้เราต้องใส่ใจหรอก นางอยากตายก็ปล่อยนางไปเถิด โจวจวี่ เจ้าส่งคนไปบอกเยลวี่เลี่ยว่าให้พวกเขาเหลือศพไว้ครบถ้วน ข้าจะซื้อศพไว้ใช้ประโยชน์” ไม่ต้องให้สือจิ่งซานรอนานเกินไป วันรุ่งขึ้นทหารลาดตระเวนก็มารายงาน “ว่าไงนะ? เยลวี่เลี่ยมาด้วยตนเอง?”“ท่านแม่ทัพใหญ่ หากพูดให้ตรงคือเยลวี่เลี่ยโดนฮูหยินเล็กของท่านอัครเสนาบดีจับกุมมาขอรับ”“เจ้าพูดอีกทีสิ?”ทหารลาดตระเวนพูดซ้ำถึงสามรอบเต็ม ๆ สือจิ่งซานก็ยังไม่เชื่อไม่ใช่แค่สือจิ่งซานที่ไม่เชื่อ ต่อให้เป็นผู้ถูกจับกุมอย่างเยลวี่เลี่ยก็ไม่เชื่อเช่นกัน เขาจะโดนสตรีนางเดียวจับกุมได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้ยังอายุน้อย พาทหารหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันมาแค่ร้อยกว่าคนเมื่อฉินเย่ว์ฉู่พาเยลวี่เล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1312

    สือจิ่งซานยกมุมปากยิ้มคลุมเครือ “แปรพักตร์อันใดกัน ฝ่าบาทกับท่านอัครเสนาบดีเห็นอกเห็นใจกองทัพหมาป่าเรา จึงส่งสะใภ้คนเล็กมา เช่นนั้นกองทัพหมาป่าเราย่อมต้องต้อนรับสะใภ้ท่านนี้ให้ดี ๆ”“แม่ทัพใหญ่กล่าวถูกต้อง พวกเราต้อง ‘ต้อนรับ’ ให้ดี ๆ!” โจวจวี่พูดคล้อยตามทันที ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากในกระโจมใหญ่ ให้ทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนยุคโบราณที่จารีตเคร่งครัดอย่างยิ่ง การเปลือยท่อนบนเช่นนี้เป็นพฤติกรรมดูหมิ่นไม่ให้ความกียรติสตรีอย่างรุนแรงยิ่งกว่านั้นฉินเย่ว์ฉู่เป็นภรรยาเอกของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง องค์หญิงแห่งต้าชิ่ง พระขนิษฐาแท้ๆ ของฮ่องเต้หญิงหากฉินเย่ว์ฉู่เป็นเพียงสตรีทั่วไปในยุคนี้ เกรงว่ามีแต่จะตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมดทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนออกจากกระโจม รอดูท่าทางตกใจกลัวจนร้องไห้โฮยกใหญ่ของฉินเย่ว์ฉู่“ผู้ชายมากมายถึงเพียงนี้ข่มขู่เด็กสาวคนเดียวจะไม่เกินไปหน่อยหรือ” มีบางคนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำพูดของเขาก็โดนคนอื่นสวนกลับทันที “เกินไปอันใดเล่า เฉินฝานเป็นคนส่งมา ให้เขาหยามพวกเราได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้พวกเราตอบโต้คืนหรือ? เปลือย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1311

    เย่ว์หนูได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ปกป้องเฉินฝานครั้งหนึ่ง ร่างกายของนางตอนนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเฉินฝานอยากให้หวงหวั่นเอ๋อร์ตามฉินเย่ว์ฉู่ไป มีหวงหวั่นเอ๋อร์อยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของฉินเย่ว์ฉู่ ผลปรากฏว่าฉินเย่ว์ฉู่ปฏิเสธแม้กระทั่งหวงหวั่นเอ๋อร์ด้วยฉินเย่ว์ฉู่พาทหารหญิงไปหนึ่งร้อยกว่าคน มุ่งตรงสู่ทางเหนือ บุกไปยังกองทัพหมาป่าอย่างกล้าหาญ “เจ้าปล่อยให้นางไปเช่นนี้หรือ?” คนที่ตำหนิเฉินฝาน ไม่ใช่แค่พี่น้องตระกูลฉินทั้งสามคนในจวนสกุลเฉิน แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ในวังหลวงก็รีบออกมาเช่นกันนางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเฉินฝานต้องให้ฉินเย่ว์ฉู่นำกองพลมือปืนไป“เย่ว์ฉู่เป็นน้องเล็กของพวกเจ้า น้องเล็กของพวกเจ้ามีนิสับแบบไหน พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไร?” คำพูดประโยคเดียวของเฉินฝานทำให้พวกนางสำลักแล้วแม้ว่าฉินเย่ว์ฉู่จะเป็นน้องเล็กสุดในตระกูลฉิน ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต นางมีความคิดของตัวเองมากที่สุด ขอเพียงเป็นเรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์โหรวที่เป็นคนกังวลใจมากที่สุด ขมวดคิ้วมุ่น ดูกลัดกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1310

    การปรากฏตัวของนาง ทำให้ทุกคนรู้สึกปีติยินดีกันมากแต่ฉินเย่ว์เจียวกลับถลึงมองสตรีผู้นั้น “พอได้แล้ว เสี่ยวฉู่เจ้าเด็กตัวแสบ แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อันใด ยังไม่รีบเข้ามาอีก?” ฉินเย่ว์ฉู่ขี่ม้าเข้ามา ขณะที่นางผ่านฉินเย่ว์เจียวยังไม่ลืมเถียงกลับว่า “พี่หญิงรอง ข้าอายุยี่สิบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้วนะ”ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้นสูง “ไม่ว่าเจ้าจะอายุเท่าไหร่ ถึงอย่างไรในสายตาข้า เจ้าก็เป็นเด็กตลอดกาล” ฉินเย่ว์ฉู่ควบม้าตรงมาหาเฉินฝาน แล้วฟ้องเขาว่า “นายท่านดูสิเจ้าคะ พี่หญิงรองรังแกข้าอีกแล้ว นางรังแกข้ามาตลอด ท่านไม่จัดการนางบ้างหรือ?”เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่สดใสมั่นใจในตัวเองตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นฉินเย่ว์ฉู่ครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนฉายขึ้นมาในสมอง เกิดความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปชาติหนึ่งเด็กสาวที่ขี้กลัวในวันวาน บัดนี้กลายเป็นโฉมสะคราญที่มีสง่าราศี เฉินฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย“เหตุใดที่กลับมาตอนนี้ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วหรือ?” เฉินฝานถามตั้งแต่ฉินเย่ว์ฉู่อายุสิบห้า เฉินฝานก็ส่งนางไปเรียนที่โรงเรียนสตรีในเมืองเซียนตู“นายท่าน ข้าน้อยเรียนจบแล้วเจ้าค่ะ”“เรียนจบแล้ว?”“ข้าน้อยเ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status