หน้าหลัก / อื่น ๆ / “เจ้าสาวของขุนศึกเงา” / บทที่ 23 — สนธิสัญญาใต้เงาจันทรา

แชร์

บทที่ 23 — สนธิสัญญาใต้เงาจันทรา

ผู้เขียน: mafath9
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-13 01:59:39

บทที่ 23 — สนธิสัญญาใต้เงาจันทรา

คืนเดือนหงายที่ไร้ดวงดาว ท้องฟ้าถูกกลืนโดยเงาเมฆ ซาโยะยืนอยู่บนระเบียงสูงของป้อมโบราณที่ขุนศึกฮากุโร่ใช้เป็นฐานบัญชาการ สายลมพัดกระโปรงกิโมโนขาวของนางราวกับจะพานางโบยบินหนีออกจากโลกแห่งพันธะและคำลวง

เสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังมาจากทางเดินด้านหลัง ก่อนที่ชายในชุดคลุมสีหมึกจะก้าวเข้ามาเงียบ ๆ

"เจ้าจะหนีหรือ ซาโยะ?"

เสียงของเขาเย็นเฉียบ แต่แฝงความอ่อนโยนที่ซาโยะยังไม่อาจอธิบาย

"หากข้าหนี ข้าจะหนีไปจากความหลัง ไม่ใช่จากเจ้า" นางตอบโดยไม่หันกลับ

ฮากุโร่เดินเข้ามาใกล้ หยุดอยู่ด้านหลังนางเพียงคืบ เขายื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้นาง

"สนธิสัญญาจากตระกูลคุเสะ... พวกเขายินดีจะสงบศึก แต่ต้องแลกกับสิ่งหนึ่ง"

ซาโยะรับแผ่นกระดาษนั้นมา ดวงตาอ่านทุกถ้อยคำด้วยสายตาที่แหลมคมยิ่งกว่าดาบ

"พวกเขาต้องการตัวข้า กลับไปเป็นประกันให้ความสงบสุข..."

"ใช่ และพวกเขาไม่รู้ว่าเจ้าเป็นภรรยาข้าแล้วอย่างสมบูรณ์"

คำว่า 'ภรรยา' ทำให้เลือดในร่างซาโยะหยุดไหลชั่วครู่ นางหันกลับมาจ้องหน้าชายผู้สวมหน้ากากนั้นอย่างไม่เกรงกลัว

"เจ้าจะส่งข้ากลับไปหรือไม่ ฮากุโร่?"

เขาไม่ตอบในทันที แต่ยื่นมือมาลูบเส้นผมนางอย่างแผ่วเบา

"หากข้ารักเจ้า ข้าควรปล่อยเจ้าไปเพื่อโลกสงบ... แต่หากข้าต้องการเจ้าข้างกาย ข้าก็จะทำลายสัญญานี้เสียเอง"

ซาโยะจ้องเขา สายตาสั่นไหว

"เจ้ารู้ไหม ว่าสิ่งที่เจ้าให้ข้านั้น ไม่ใช่เพียงความรัก แต่มันคือความลังเลที่แหลกสลายได้ทุกเมื่อ"


คืนนั้น... ทั้งสองไม่ได้หลับ พวกเขานั่งอยู่ในห้องโถงเล็ก จุดเทียนเพียงเล่มเดียว วางดาบไว้ข้างกาย

ฮากุโร่ถอดหน้ากากชั่วขณะ เผยให้เห็นเพียงบางส่วนของใบหน้า — บาดแผลเก่าใต้ตาซ้าย และรอยแผลเป็นยาวบนสันกราม

"แผลนี้... ได้มาตอนฆ่าพ่อข้าใช่หรือไม่?" ซาโยะถามเบา ๆ

เขาพยักหน้า

"ข้าไม่ได้อยากฆ่าเขา แต่ข้าถูกใช้เป็นดาบในเกมของผู้อื่น"

ซาโยะก้มหน้าลง น้ำตาหยดหนึ่งหล่นลงบนหลังมือเขา


ก่อนรุ่งสาง ฮากุโร่เผากระดาษสนธิสัญญาทิ้ง โดยไม่ปรึกษาผู้ใด

เขาเลือกหญิงคนหนึ่ง... แทนที่จะเลือกแผ่นดิน

และในแสงแรกของอรุณวันใหม่ คือภาพของชายผู้ไม่เคยยิ้ม จูบหน้าผากภรรยาที่เขาเคยเป็นศัตรู

แม้เลือดจะไหลในอดีต แต่คืนนี้... หัวใจกำลังเลือกทางใหม่

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   กำแพงที่เริ่มมีเสียง

    กำแพงที่เริ่มมีเสียง– พระในศาสนจักรกลางเริ่มแอบเขียนสมุดเงา**ภายในหอคำสวดแห่งเท็นเซ็นจิ ศูนย์กลางศาสนจักรของแผ่นดินกำแพงหินสูงกว่าเจ็ดเมตรที่เคยสะท้อนแต่เสียงพระ สวดแต่คำเดิมซ้ำบัดนี้เริ่มได้ยินเสียง...ที่ไม่เคยมีในบทใดมาก่อนในยามค่ำ ที่โคมธูปล้าแสงพระรูปหนึ่งยืนอยู่ลำพังหน้าแท่นบูชาว่างเปล่าเขาชื่อว่า เซียวอิน — พระลำดับที่ห้าในสายการเทศน์ผู้ไม่เคยพูดนอกตำราผู้ไม่เคยมองตาเด็กแต่คืนนั้น เขาเขียนชื่อหนึ่ง...ด้วยหมึกจาง บนกระดาษสมุดธรรมะเก่าชื่อของ “อาคิ” — เด็กหญิงที่เขาเคยพบเมื่อนานมาแล้วผู้พูดชื่อพ่อของตนแทนบทสวด“ทำไมเจ้าถึงไม่สวด?”“ข้ากลัว... ว่าถ้าข้าสวด ข้าจะลืมชื่อพ่อ”วันนั้นเขาเงียบแต่วันนี้... เขาไม่เงียบอีกต่อไปเสียงแรกในกำแพงคือเสียงขีดปากกาเล็ก ๆ ที่จดชื่อทีละคนไม่ใช่เสียงสวดไม่ใช่เสียงสั่งเป็นเพียงเสียงของการ “จำ”ไม่นานนัก สมุดเงาเล่มแรกก็เกิดขึ้นในศาสนจักรกลางถูกซ่อนไว้ใต้ผ้าห่มที่พระชั้นล่างใช้มีชื่อของหญิงชราในหมู่บ้านที่ถูกสังเวยชื่อของชายที่หายตัวหลังเทศน์ขัดคำและชื่อของเด็กชายที่พูดบทกลอนแทนคำสวดไม่มีคำว่า “ผู้สละตน”ไม่มีคำว่า “ศักดิ์สิทธิ

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   ศาลาที่ไม่มีลำดับ – เมื่อเสียงแรกไม่ต้องรอผู้อนุญาต

    ศาลาที่ไม่มีลำดับ – เมื่อเสียงแรกไม่ต้องรอผู้อนุญาตศาลาไม้ที่หมู่บ้านโยโคะกาวะครั้งหนึ่งเคยเป็นที่รวมเสียงสวดแบบดั้งเดิมเด็กไม่สามารถพูดหญิงต้องนั่งด้านหลังชายแก่เท่านั้นที่มีสิทธิ์เปิดสมุดแต่ในเช้าวันหนึ่งเด็กชายอายุสิบสองปีลุกขึ้นถือสมุดเล่มบางเขียนคำสั้น ๆ แล้ววางบนเสื่อหน้าเวที“ชื่อแม่ข้า... ข้าไม่รู้จะสวดอย่างไรแต่ข้าไม่อยากให้หายไป”ไม่มีใครสวด ไม่มีใครกล่าวอาเมนมีแต่ความเงียบจนชายชราผู้เคยเป็นประธานพิธีค่อย ๆ ลุกขึ้น เดินมานั่งข้างเด็กแล้วพูดแค่คำเดียว“ชื่อใคร?”ศาลานั้นไม่มีลำดับอีกต่อไปไม่มีใครรอใบอนุญาตจากวัดไม่มีตารางสวดที่แข็งตายทุกเช้า ใครมา ก็ได้เขียนใครอยู่ ก็ได้ฟังมันไม่ใช่ศาสนามันกลายเป็น ชุมชนในหมู่บ้านข้างเคียงเด็กหญิงผู้ไม่เคยพูดในพิธีเริ่มอ่าน “ชื่อคนที่เธอเห็นตายในสงคราม”ไม่มีใครถามว่าเธอเป็นใครเพราะศาลาไม่มีเวทีมีแต่เสื่อวงกลมที่ใครก็เดินเข้าได้ข่าวไปถึง ตระกูลอาซึกิตระกูลที่เคยยึดมั่นในลำดับพิธีกรรมบุตรชายคนรองถูกส่งมาสังเกตการณ์แต่เขากลับมาด้วยสมุดที่ไม่มีตรามีเพียงประโยคเดียวบนหน้าปก“ข้าเขียน... เพราะไม่อยากให้ใครสวดแทนอีก”เ

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   ไคเซ็น — พระหญิงที่แปรพักตร์ และ “พิธีฟัง” แห่งแคว้นตะวันตก

    ไคเซ็น — พระหญิงที่แปรพักตร์ และ “พิธีฟัง” แห่งแคว้นตะวันตกบนยอดเขาอุเมะโนะอามะซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางการสวดขอฝนบัดนี้เปลี่ยนไปโดยไม่มีประกาศจากศาสนจักรไม่มีขบวนไม่มีคัมภีร์มีเพียงเสียงเดียว —เสียงของหญิงที่เคยเป็น “พระ” แต่เลือกจะ “ฟัง”ไคเซ็น คือพระหญิงลำดับสามแห่งวัดอินโบเป็นที่รู้จักในนาม "เสียงแห่งเมฆขาว"เธอเป็นผู้เทศน์บทสวดเงียบผู้สามารถสวดได้โดยไม่มีคำพูดเพียงการเคลื่อนไหวของมือและจังหวะลมหายใจแต่หลัง “พิธีล้างเงา” เริ่มแผ่ขยายเธอเงียบ… และเมื่อเธอพูดอีกครั้งคำแรกของเธอคือ “ขอให้ข้าได้ฟังเจ้า”ณ ลานศาลาร้างแห่งหนึ่งในหมู่บ้านโคคุเระเธอประกาศสิ่งที่ไม่เคยมีในประวัติศาสตร์ศาสนจักร“ข้าไม่ได้ละทิ้งศรัทธาข้าเพียงเลิกฟังตำราที่ปิดหูคนเป็นและเปิดหูให้เสียงคนตายที่ถูกลืม”เธอเรียกสิ่งนั้นว่า “พิธีฟัง”พิธีฟังไม่ใช่การสวดไม่ใช่การเทศน์และไม่มีคัมภีร์มันคือการนั่งเงียบ ๆ เป็นวงกลมโดยมีผู้หนึ่งลุกขึ้นพูด “ชื่อ” ของผู้ที่เคยถูกเผาลืมอีกคนจะเล่า “ความทรงจำ”และทุกคนจะเงียบไม่ขัด ไม่ถาม ไม่ตีความเพียง “ฟัง”สามวันแรกมีเพียงเด็กสาวคนหนึ่งและชายชราขาพิการที่เข้าร่วมวัน

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   การตอบสนองของศาสนจักรส่วนกลาง – พิธีล้างเงา

    การตอบสนองของศาสนจักรส่วนกลาง – พิธีล้างเงาภายใน โคโตคุอิน — หอพิธีศักดิ์สิทธิ์สูงสุดของศาสนจักรกลางเสียงฆ้องทองสามชั้นดังก้องสะท้อนกำแพงหินพระอาวุโส 9 รูป รวมตัวในพิธีที่ไม่ได้จัดมานานกว่า 37 ปีบนแท่นสูงกลางหอ — สมุดที่ไม่มีชื่อผู้เขียนถูกวางไว้จดหมายของเด็กจากหมู่บ้านชายแดนบทสวดที่ผิดจากตำราและเศษกระดาษเปื้อนหมึกดินถูกเรียงรายพระเร็นชิน ผู้นำสายเคร่งที่สุด กล่าวนำอย่างหนักแน่น“สิ่งใดที่เติบโตจากรากผิด ย่อมกลายเป็นวัชพืชและแม้เงาจะไร้รูปร่าง — มันก็มีพิษเมื่อเกาะอยู่บนหัวใจผู้คน”เขาเสนอให้ประกาศ "พิธีล้างเงา"เป็นพิธีกรรมใหญ่ประจำฤดูใบไม้ร่วงทำในวัดทุกแห่งที่ได้รับ “ข่าวลือศรัทธานอกบท”พิธีล้างเงา คืออะไร?พระอาวุโสจะเดินทางไปยังวัดที่ต้องสงสัยจะเผา "สมุดที่ไม่มีตรา"จะให้ผู้คนกล่าว "บทสาบานสัจจะ" ต่อหน้าพระใหญ่และทุกชื่อที่ถูกจารโดยไม่ได้รับอนุญาต… จะถูกลบด้วยหมึกดำแห่งการปฏิเสธแม้ภายนอกจะดูเป็นพิธีปลอบขวัญแต่เนื้อแท้คือการลบความทรงจำอย่างเป็นทางการกลุ่มพระสายสายลมเงาถูกขึ้นบัญชีลับวัดชายแดนหลายแห่งถูกสั่งย้ายผู้อาวุโสบางคนหายตัวในคืนก่อนพิธีเสียงสะท้อนเริ่มดังจา

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   การประชุมศรัทธา – เมื่อ 12 ตระกูลเริ่มเรียกศาสนจักรมาชี้แจง

    การประชุมศรัทธา – เมื่อ 12 ตระกูลเริ่มเรียกศาสนจักรมาชี้แจงศาลาเซย์โรกุ บนยอดเนินฮานะงิคือที่ประชุมใหญ่แห่งตระกูลผู้นำทั่ว 9 แคว้นไม่มีพิธี ไม่มีการบรรเลงขลุ่ยรับแขกมีเพียงเสียงกระดิ่งทองคำเรียกผู้แทนทั้ง 12 ตระกูล ให้ปรากฏตัวในวันเดียวกันเก้าอี้ตรงกลางว่างเปล่า — นั่นคือที่ของศาสนจักรผู้แทนจากวัดหลวงใหญ่ 5 สายถูกเชิญ ไม่ใช่ในฐานะผู้สั่งแต่ในฐานะผู้ตอบไดเมียวอินาริแห่งตระกูลฮานะโมโตะเป็นผู้นั่งหัวโต๊ะแม้ปกติไม่ยุ่งกับพิธีกรรมแต่เมื่อเสียง “เด็กผู้ไม่รู้จักบทสวด” ดังไปถึงประตูปราสาทเขากล่าวเพียงว่า:“เมื่อประชาชนไม่เข้าใจศาสนา — นั่นคือปัญหาของผู้นำแต่เมื่อศาสนาไม่ฟังประชาชน — นั่นคือภัยของแผ่นดิน”ตัวแทนศาสนจักรใหญ่ พระโชอุนก้าวเข้าสู่ศาลาพร้อมคัมภีร์หนาแน่นเขาเริ่มกล่าวด้วยภาษาทางการ:“บทสวดคือรากของความสงบการเบี่ยงจากบท หมายถึงความวุ่นวาย”แต่ยังไม่ทันจบ —ท่านหญิงริวโนะ แห่งตระกูลโคมะอินุวางสมุดเปื้อนหมึกลงบนโต๊ะกลาง“แล้วชื่อของลูกข้าที่ไม่มีบทสวดท่านเรียกว่าความวุ่นวายหรือ?”เสียงฮือทั่วศาลาขุนศึกคิริโนะแห่งตระกูลคุเสะผู้ไม่เคยเข้าร่วมพิธีใดกล่าวเรียบ ๆ โดยไม

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   หอคอยที่เริ่มฟังลม – เมื่อศาสนจักรเริ่มเงี่ยหูฟังจากขอบแผ่นดิน

    หอคอยที่เริ่มฟังลม – เมื่อศาสนจักรเริ่มเงี่ยหูฟังจากขอบแผ่นดินศูนย์กลางศาสนจักรอยู่ที่ โซเรียวเท็นหอคอยสีขาวสูง 7 ชั้น เปรียบดั่ง “หูของเทพเจ้า”สร้างขึ้นเพื่อมองลงมาเหนือแผ่นดินทั้งหมดไม่มีเสียงใดเล็ดลอดเข้าถึงได้ เว้นแต่ผ่านกระบวนการรับรองแต่ในปีนี้...ลมเหนือจากชายแดน ยามากาตะพัดพาเสียงที่ไม่มีตราประทับเข้ามาไม่ใช่รายงานทางการไม่ใช่จดหมายทางศาสนาแต่เป็น สมุดเปื้อนหมึกเด็กที่บันทึก “ชื่อของคนที่ไม่มีบทสวด”พระอาวุโส ชูเคน ผู้ขึ้นนั่งกรรมการศรัทธาอาวุโสอ่านหน้ากระดาษอย่างช้า ๆไม่มีบทสวด ไม่มีตราแต่มีบรรทัดหนึ่งที่ทำให้เขาเงียบงัน“แม่ข้าไม่มีชื่อในวัดแต่ข้ายังพูดชื่อแม่อยู่ทุกคืนถ้านี่คือบาป… บาปนี้ข้ายินดีแบกตลอดชีวิต”ที่ประชุมกรรมการเริ่มมีการพูดถึง “ศรัทธาเงา”บางคนกล่าวว่า“นี่คือภัยร้ายของศาสนาใหม่ที่ไร้แบบแผน”แต่บางคนเงียบ—เงียบเพราะเคยได้ยินเสียงเดียวกันจากหน้าประตูวัดของตนเสียงของหญิงชราเสียงของเด็กที่ไม่ยอมลืมชื่อพ่อเสียงที่ไม่เคยเข้าพิธี แต่ไม่เคยหายไปชูเคนเสนออย่างระมัดระวัง“บางที... หอคอยอาจต้องเปิดหน้าต่างบางบานเพื่อฟังว่า ข้างล่างกำลังพูดอะไรกันแน่

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status