แสงอาทิตย์ยามสายสาดส่องเข้ามาในรถที่กำลังแล่นไปตามถนนในลอนดอน เมรี่นั่งพิงเบาะด้วยใบหน้าซีดเผือด ต้นแขนของเธอยังคงปวดแปลบจากบาดแผลมีดของมิสเตอร์คลาร์ก เอดิสันได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้ว แต่เมรี่รู้ว่าเธอต้องการการรักษาที่เหมาะสมกว่านี้
"ไหวไหมเมรี่?" อเล็กซานเดอร์ถามด้วยความเป็นห่วง "ไหวค่ะพี่" เมรี่ตอบพยายามยิ้ม "แค่เจ็บนิดหน่อย" เฟรเดอริคกุมมือเมรี่ไว้แน่น ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความกังวล "เราจะไปที่หอจดหมายเหตุเลยใช่ไหมคะคุณเอดิสัน?" "ใช่ครับ" เอดิสันตอบ "เราต้องไปที่นั่นให้เร็วที่สุด ก่อนที่พวก 'เงาแห่งลอนดอน' จะตามรอยเราเจออีกครั้ง" พวกเขาใช้เวลาไม่นานก็มาถึงหอจดหมายเหตุแห่งชาติ อาคารเก่าแก่ที่ดูเคร่งขรึมและเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ เมรี่รู้สึกถึงความศักดิ์สิทธิ์ของสถานที่แห่งนี้ ที่ซึ่งความลับนับไม่ถ้วนถูกเก็บรักษาไว้ "คุณเอดิสันคะ เราจะเข้าไปได้อย่างไรคะ?" เมรี่ถาม "หอจดหมายเหตุเป็นสถานที่สาธารณะครับ" เอดิสันตอบ "แต่ส่วนที่เราต้องการเข้าไปน่าจะเป็นส่วนที่ต้องได้รับอนุญาตพิเศษ" พวกเขาเดินเข้าไปในหอจดหมายเหตุ บรรยากาศภายในเงียบสงบ มีเพียงเสียงกระดาษพลิกไปมาและเสียงผู้คนกระซิบกระซาบ เอดิสันตรงเข้าไปสอบถามพนักงานที่เคาน์เตอร์ เขาพยายามขออนุญาตเข้าไปในส่วนของ เอกสารลับ "ขอโทษค่ะ ท่านสุภาพบุรุษ" พนักงานตอบ "เอกสารส่วนนั้นต้องได้รับการอนุมัติจากผู้จัดการเท่านั้นค่ะ" "ถ้าอย่างนั้น ผมขอพบผู้จัดการได้ไหมครับ?" เอดิสันถาม พนักงานมองเอดิสันด้วยความสงสัยเล็กน้อย ก่อนจะตอบว่า "ผู้จัดการกำลังติดประชุมค่ะ ไม่สามารถพบได้ในตอนนี้" เมรี่รู้ว่าพวกเขาไม่มีเวลามากนัก เธอหันไปมองอเล็กซานเดอร์และเฟรเดอริค พวกเขาพยักหน้าให้เธอ เมรี่รู้ว่าพวกเขาจะต้องหาทางเข้าไปในส่วนเอกสารลับให้ได้ "คุณเอดิสันคะ" เมรี่กระซิบ "คุณพอจะมีวิธีอื่นไหมคะ?" เอดิสันยิ้มเล็กน้อย "ผมคิดว่าผมพอจะรู้จักใครบางคนที่สามารถช่วยเราได้ครับ" เขาพาพวกเขาเดินไปยังอีกฟากหนึ่งของห้องสมุด แล้วหยุดอยู่หน้าโต๊ะของชายชราคนหนึ่งที่กำลังง่วนอยู่กับการอ่านเอกสารเก่าๆ ชายชราคนนั้นสวมแว่นตาหนาเตอะ และมีหนวดเครายาวสีขาว "ศาสตราจารย์มาร์ติน?" เอดิสันเรียก ชายชราเงยหน้าขึ้นมองด้วยความประหลาดใจ "เอดิสัน! ไม่คิดว่าจะเจอคุณที่นี่เลยนะ! แล้วนี่ใครกัน?" "สวัสดีครับศาสตราจารย์" เอดิสันกล่าว "ผมพาแขกพิเศษมาครับ พวกเขาคือมิสเมรี่ มิสเตอร์เฟรเดอริค และมิสเตอร์อเล็กซานเดอร์ แบล็ควู้ดครับ" ศาสตราจารย์มาร์ตินเบิกตากว้างเมื่อได้ยินนามสกุล "แบล็ควู้ดอย่างนั้นหรือ! โอ้! ลูกๆ ของโรเบิร์ต แบล็ควู้ดอย่างนั้นหรือ!" "ใช่ครับ" อเล็กซานเดอร์ตอบ "คุณพ่อของพวกเราเคยเป็นเพื่อนของคุณใช่ไหมครับ?" "แน่นอนสิ!" ศาสตราจารย์มาร์ตินกล่าว "โรเบิร์ตเป็นเพื่อนสนิทของผมเลยล่ะ! พวกหนูมาที่นี่มีเรื่องอะไรกันหรือเปล่า?" เมรี่ตัดสินใจเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ศาสตราจารย์มาร์ตินฟัง ตั้งแต่การหายตัวไปของเฟรเดอริค ไปจนถึงการเปิดโปง 'เงาแห่งลอนดอน' และการตามหารหัสลับ ศาสตราจารย์มาร์ตินฟังอย่างตั้งใจ ใบหน้าของเขาดูจริงจังขึ้นเรื่อยๆ " 'เงาแห่งลอนดอน' อย่างนั้นหรือ!" ศาสตราจารย์มาร์ตินพึมพำ "ผมเคยได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับองค์กรนี้มาบ้าง แต่ไม่คิดว่ามันจะมีอยู่จริง!" "แล้วรหัสลับนี้ล่ะครับศาสตราจารย์" เอดิสันยื่นรหัสลับชิ้นที่สองให้ศาสตราจารย์มาร์ติน "มันบอกว่า 'ที่ที่อดีตถูกเก็บรักษา' และ 'ความลับถูกเปิดเผย' เราคิดว่ามันน่าจะอยู่ที่นี่ครับ" ศาสตราจารย์มาร์ตินรับรหัสลับมาพิจารณาอย่างละเอียด "อืม...ถ้าอย่างนั้นก็ต้องเป็น ห้องเก็บเอกสารลับส่วนบุคคล แล้วล่ะ" "เราพยายามขออนุญาตแล้ว แต่พนักงานไม่ยอมให้เข้าไปครับ" เมรี่กล่าว ศาสตราจารย์มาร์ตินยิ้ม "ไม่เป็นไรหรอกจ้ะหนู ฉันมีอำนาจพอที่จะพาพวกหนูเข้าไปได้"เมรี่วิ่งไปตามตรอกซอกซอยที่แคบและซับซ้อนของลอนดอน โดยมีเสียงปืนและเสียงกรีดร้องของผู้คนดังไล่หลังมาอย่างไม่หยุดหย่อน เธอพยายามหาที่หลบซ่อนที่ปลอดภัยสำหรับเด็กหญิงในที่สุด เธอก็มาถึงโรงละครเก่าๆ แห่งหนึ่งที่ถูกทิ้งร้าง มันเป็นที่ที่เธอเคยใช้เป็นฐานลับในการสืบสวนคดีต่างๆ ในอดีต"เราปลอดภัยแล้วนะหนู" เมรี่กล่าวพร้อมกับวางเด็กหญิงลง "ไม่ต้องกลัวแล้วนะ"เด็กหญิงยังคงร้องไห้อย่างต่อเนื่อง เมรี่กอดเธอไว้แน่นเพื่อปลอบประโลมในขณะที่เธอกำลังกอดเด็กหญิงอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีเสียงทุ้มต่ำดังขึ้นมาจากด้านหลัง..."น่าประทับใจจริงๆ ที่เจ้ายังจำที่แห่งนี้ได้"เมรี่หันขวับ และพบกับชายชราคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าเธอ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่น แต่ดวงตาของเขากลับเต็มไปด้วยแววตาที่เฉลียวฉลาด และแววตาที่คุ้นเคยอย่างน่าประหลาดใจ"คุณเป็นใครคะ!" เมรี่ถามด้วยความสงสัยชายชราคนนั้นยิ้ม "ข้าคือคนที่เฝ้ารอเจ้ามานานแล้ว"เขาก้าวเข้ามาใกล้เมรี่ แล้วยื่นมือมาสัมผัสที่ใบหน้าของเธอ เมรี่รู้สึกถึงกระแสไฟฟ้าบางอย่างที่ไหลผ่านร่างกายของเธอ"เจ้าคือความหวังสุดท้ายของข้า" ชา
สองสัปดาห์ผ่านไปนับตั้งแต่การล่มสลายของ 'กาลเวลา' องค์กรลับที่เคยบงการโลกเบื้องหลังฉาก เมรี่และทีมกลับมาใช้ชีวิตอย่างสงบสุขอีกครั้งในลอนดอน แม้จะมีชื่อเสียงในฐานะวีรบุรุษผู้กอบกู้ แต่พวกเขาก็เลือกที่จะเก็บตัวและใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายที่สุดเท่าที่จะทำได้ หมอเจเน็ตยังคงดูแลคลินิกใต้ดินของเธอ มิสเตอร์คลาร์กได้กลับไปใช้ชีวิตในฐานะผู้จัดการสำนักพิมพ์ที่ซื่อสัตย์ ส่วนนักสืบโธมัสก็ได้รับการเลื่อนตำแหน่งและเป็นที่ยอมรับมากขึ้นในวงการตำรวจเช้าวันหนึ่งที่สดใส เมรี่กับเฟรเดอริคตัดสินใจออกมาเดินเล่นที่ตลาดนัดคอเวนต์การ์เดน ซึ่งเต็มไปด้วยผู้คนพลุกพล่าน เสียงดนตรีจากนักแสดงข้างถนนดังคลอเคลียกับเสียงหัวเราะของผู้คนที่เดินจับจ่ายซื้อของ บรรยากาศดูผ่อนคลายและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา"นี่แหละชีวิตที่แท้จริง!" เฟรเดอริคกล่าวพร้อมกับสูดหายใจลึกๆ "ไม่ต้องมีเรื่องวุ่นวาย ไม่ต้องมีองค์กรลับมาตามล่า"เมรี่ยิ้ม เธอเห็นด้วยกับพี่ชายอย่างเต็มที่ แต่ในใจลึกๆ เธอก็ยังรู้สึกถึงความว่างเปล่าบางอย่าง...ราวกับว่าชีวิตที่ไร้ความตื่นเต้นมันไม่ใช่สิ่งที่เธอโหยหาอีกต่อไปขณะที่พวกเขากำลังเลือกซื้อดอกไม้อยู่ จู่ๆ ก็มีเสียงระเ
เสียงสัญญาณเตือนภัยดังลั่นไปทั่วศูนย์บัญชาการลับขององค์กร 'กาลเวลา' แสงไฟสีแดงกะพริบไปมา สร้างบรรยากาศที่ตึงเครียดและอันตรายยิ่งกว่าเดิม เมรี่และทีมต้องเผชิญหน้ากับท่านลอร์ดวิลเลียมส์และเหล่า 'ยมทูต' ที่พุ่งเข้ามาจากทุกทิศทาง"พวกแกไม่มีทางทำลาย 'แกนกลาง' ของข้าได้หรอก!" ท่านลอร์ดวิลเลียมส์คำราม "ข้าได้เตรียมการทุกอย่างไว้แล้ว!"เขากดปุ่มบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในข้อมือของเขา และทันใดนั้นเอง กำแพงเหล็กขนาดใหญ่ก็เลื่อนลงมาปิดกั้นทางเข้าออกทุกทาง ทำให้พวกเขาติดอยู่ในห้องควบคุมแห่งนี้"ไม่นะ!" เฟรเดอริคอุทาน "เราติดกับแล้ว!""ไม่ต้องห่วงครับ!" มิสเตอร์คลาร์กกล่าว "ผมรู้ทางออกครับ!"เขาชี้ไปที่ช่องระบายอากาศขนาดเล็กที่อยู่บนเพดาน "เราต้องเข้าไปในนั้น!"แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้ทำอะไร ท่านลอร์ดวิลเลียมส์ก็พุ่งเข้ามาโจมตีพวกเขาอย่างรวดเร็ว เขามีพละกำลังและความว่องไวที่เหนือกว่ามนุษย์ทั่วไปราวกับว่าเขามีพลังงานบางอย่างที่มองไม่เห็นคอยเสริม"แกจะต้องเป็นคนแรกที่ตาย!" ท่านลอร์ดวิลเลียมส์คำรามใส่เมรี่เมรี่หลบการโจมตีของเขาได้อย่างหวุดหวิด เธอใช้มีดสั้นป้องกันตัวเองจากคมมีดของท่านลอร์ดวิลเลียมส์ที่พุ่งเ
รถยนต์ของมิสเตอร์คลาร์กแล่นฉวัดเฉวียนไปตามถนนในลอนดอนอย่างรวดเร็ว โดยมีรถของหัวหน้าใหญ่แห่ง 'ยมทูต' เป็นเป้าหมาย พวกเขาขับผ่านผู้คนและรถยนต์คันอื่นๆ อย่างไม่ลดละ การไล่ล่าดำเนินไปอย่างดุเดือดท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายของมหานคร"เราต้องไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดครับ!" มิสเตอร์คลาร์กกล่าว "ก่อนที่พวกเขาจะไปถึงสำนักงานใหญ่ของพวกเขาได้!""สำนักงานใหญ่อยู่ที่ไหนคะ?" เมรี่ถามด้วยความสงสัย"มันอยู่ในใจกลางเมืองครับ" เอดิสันตอบ "เป็นที่ที่เราไม่คาดคิดว่าจะเจอเลย"ในที่สุด รถของ 'ยมทูต' ก็แล่นเข้าไปในอาคารสูงระฟ้าแห่งหนึ่งที่ดูเรียบง่าย แต่กลับมีระบบรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนาอย่างน่าตกใจ"นั่นไงครับ!" อเล็กซานเดอร์กล่าว "พวกเขาเข้าไปในนั้นแล้ว!""เราจะเข้าไปได้อย่างไรครับ?" เฟรเดอริคถาม "ระบบรักษาความปลอดภัยที่นั่นเข้มงวดมาก""เราไม่ต้องเข้าไปครับ" มิสเตอร์คลาร์กยิ้ม "เราจะใช้ทางลับ"เขาพาพวกเขาไปยังทางเข้าอุโมงค์ใต้ดินแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากอาคารนั้น มันเป็นทางเข้าที่ถูกปกปิดไว้อย่างมิดชิด จนแทบไม่มีใครสังเกตเห็น"อุโมงค์นี้จะนำเราไปสู่ทางเข
สองสัปดาห์หลังจากเหตุการณ์วุ่นวายที่ลอนดอน ชีวิตของเมรี่และทีมก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง พวกเขาไม่ได้เป็นแค่นักสืบธรรมดาอีกต่อไป แต่ได้กลายเป็นวีรบุรุษผู้เปิดโปงองค์กรลับที่สั่นสะเทือนสังคมอังกฤษทั้งประเทศ ข่าวของพวกเขาถูกตีพิมพ์ลงบนหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ และชื่อของตระกูลแบล็ควู้ดก็กลับมาเป็นที่รู้จักอีกครั้งในฐานะนักสืบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคนี้เช้าวันหนึ่ง จดหมายฉบับหนึ่งจากราชสำนักได้ส่งมาถึงพวกเขา มันเป็นจดหมายเชิญให้พวกเขาไปรับรางวัลเกียรติยศที่พระราชวังบักกิงแฮม ในฐานะผู้ที่มีส่วนช่วยในการคลี่คลายคดีสำคัญของประเทศ"นี่มันเหลือเชื่อจริงๆ!" เฟรเดอริคกล่าวด้วยความตื่นเต้น "เราจะได้ไปพระราชวังบักกิงแฮม!""เราไม่ได้ไปเที่ยวครับพี่เฟรเดอริค" อเล็กซานเดอร์กล่าว "เราไปในฐานะผู้ได้รับเชิญให้ไปรับรางวัล"เมรี่มองไปที่จดหมายเชิญ เธอรู้สึกดีใจและภูมิใจในสิ่งที่พวกเขาทำลงไป แต่ในใจลึกๆ เธอก็ยังรู้สึกถึงความกังวลบางอย่างที่ไม่อาจทราบสาเหตุ"ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อมนะครับ" เอดิสันกล่าว "เราจะไปพระราชวังกันวันนี้"พวกเขาแต่งกายในชุดสูทและชุดราตรีที่ดูสง่างาม และนั่งรถม้าคันหรูที่ราชสำนักส่
ท้องฟ้าเหนือลอนดอนเป็นสีเทาหม่น แสงอาทิตย์ยามเช้าส่องผ่านก้อนเมฆหนาทึบ บรรยากาศเงียบสงัดราวกับกำลังรอคอยบทสรุปของเรื่องราวที่ยืดเยื้อมานาน เมรี่และทีมยืนเผชิญหน้ากับท่านลอร์ดเอียน เกรย์ ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งและอำมหิต"คิดว่าการจับกุมผู้การฟิลลิปส์จะหยุดย้าข้าได้งั้นหรือ!" ท่านลอร์ดเอียนกล่าว "ข้าคือ 'ท่านลอร์ดผู้สูงศักดิ์' ที่แท้จริง และพวกเจ้าทุกคนจะกลายเป็นเถ้าธุลีอยู่ตรงนี้!"เขาไม่ได้มาคนเดียว ชายฉกรรจ์ในชุดดำหลายคนปรากฏตัวขึ้นจากเงามืด รายล้อมพวกเขาไว้จากทุกทิศทาง"พวกแกมีกันแค่หกคน" ท่านลอร์ดเอียนเยาะเย้ย "จะสู้กับคนจำนวนมากอย่างพวกเราได้อย่างไร!""เราสู้เพื่อความถูกต้อง!" เมรี่ตะโกน "ความจริงจะเปิดเผยทุกอย่าง!""ความจริงอย่างนั้นหรือ!" ท่านลอร์ดเอียนหัวเราะ "ข้าคือความจริง! ข้าคือผู้กำหนดชะตากรรมของลอนดอน!"การต่อสู้ครั้งสุดท้ายเริ่มต้นขึ้นแล้ว!เบ็นกับเอดิสันที่อาการบาดเจ็บยังไม่หายดี พยายามเข้าจัดการกับลูกสมุนของท่านลอร์ดเอียนอย่างสุดกำลัง เฟรเดอริคกับอเล็กซานเดอร์ต่อสู้อย่างดุเดือดเพื่อปกป้องเลดี้อลิซาเบธ เมรี่คว้ามีดสั้นที่มิสเตอร์คลาร์กเก็บไว้ให้เ