Share

อิสรภาพ

last update Last Updated: 2025-06-04 23:56:22

สองสามวันต่อมา เมรี่เริ่มปฏิบัติการ "ล่าเครื่องมือ" เธอเลือกช่วงเวลาที่มิสพริสซิลล่ากำลังสอนวิชาจรรยาบรรณสตรีในห้องโถงใหญ่ และมาดามเซเลสต์กำลังง่วนอยู่กับการตรวจสอบบัญชีในห้องทำงาน ส่วนเด็กสาวคนอื่นๆ กำลังฝึกร่ายรำอยู่ในห้องดนตรี

"ฉันต้องทำให้พวกเธอไม่ระแคะระคาย" เมรี่บอกเอมิลี่ "เธอช่วยสร้างความวุ่นวายเล็กน้อยในห้องดนตรีได้ไหม เพื่อดึงความสนใจของมิสพริสซิลล่า"

"ให้ฉันทำอะไรเหรอ?" เอมิลี่ถามด้วยความตื่นเต้น

"แกล้งทำเป็นหกล้มในระหว่างร่ายรำสิ แล้วบอกว่าเธอข้อเท้าแพลง" เมรี่ตอบ "มันจะทำให้มิสพริสซิลล่าต้องมาดูแลเธอ และทุกคนก็จะให้ความสนใจที่เธอ"

เอมิลี่ลังเลเล็กน้อย "แต่ฉันไม่เคยทำแบบนั้นเลยนะเมรี่"

"ไม่เป็นไรน่า ฉันจะคอยดูอยู่ห่างๆ" เมรี่ให้กำลังใจ "แค่ให้พวกเขาสนใจเธอจนฉันสามารถแอบไปที่ห้องช่างได้"

แผนการดำเนินไปอย่างที่คาดไว้ เอมิลี่แกล้งหกล้มได้อย่างแนบเนียน เสียงกรีดร้องเล็กน้อยของเธอทำให้มิสพริสซิลล่ารีบปรี่เข้ามาดูด้วยความตกใจ เด็กสาวคนอื่นๆ ต่างหันมาให้ความสนใจกับเอมิลี่ที่กำลังทำท่าปวดร้าวที่ข้อเท้า

ในจังหวะที่ทุกคนกำลังวุ่นวาย เมรี่ก็แอบย่องออกจากห้องดนตรี เธอเดินไปตามทางเดินที่เงียบสงบ สู่ปีกตะวันตกของอาคาร กลิ่นเครื่องเทศและอาหารที่กำลังปรุงอยู่ในโรงครัวลอยมาเตะจมูก

ห้องช่างอยู่สุดทางเดิน ประตูไม้หนักๆ ถูกล็อคด้วยกุญแจที่แข็งแรง เมรี่หยิบกิ๊บติดผมที่ดัดแปลงขึ้นมาอีกครั้ง เธอเริ่มไขกลอนอย่างใจเย็น เธอเคยฝึกฝนทักษะนี้มาตั้งแต่เด็ก การได้ยินเสียงกลไกภายในที่กำลังเคลื่อนไหว การสัมผัสถึงความต้านทานที่ค่อยๆ คลายลง มันคือศิลปะอย่างหนึ่ง

แกร๊ก!

เสียงดังขึ้นเบาๆ ประตูเปิดออก เมรี่ก้าวเข้าไปในห้องช่าง กลิ่นไม้และโลหะคละคลุ้ง เครื่องมือช่างหลากหลายชนิดถูกแขวนเรียงรายอยู่บนผนังอย่างเป็นระเบียบ เธอเดินตรงไปยังชั้นวางเครื่องมือ หยิบสิ่วและค้อนขนาดเล็กมาอย่างรวดเร็ว เธอกลับมาล็อคประตูอย่างเดิม และรีบเดินกลับไปที่ห้องดนตรี ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

"เธอโอเคไหมเอมิลี่?" เมรี่ถามด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นว่ามิสพริสซิลล่ากำลังใช้ผ้าเย็นประคบข้อเท้าของเอมิลี่

เอมิลี่พยักหน้าเบาๆ "ไม่เป็นไรแล้วเมรี่ มิสพริสซิลล่าบอกว่าฉันแค่ข้อเท้าพลิกเล็กน้อยน่ะ" เธอส่งสายตาเป็นนัยให้เมรี่ ราวกับจะถามว่า 'สำเร็จไหม?'

เมรี่ยิ้มตอบในใจ 'สำเร็จสิ'

คืนนั้น เมื่อทุกคนหลับ เมรี่และเอมิลี่ก็มุ่งหน้าไปยังห้องเก็บของเก่าอีกครั้ง ด้วยสิ่วและค้อนในมือ เมรี่ปีนขึ้นไปบนลังไม้ และเริ่มลงมือแกะแผ่นไม้ที่ปิดช่องระบายอากาศ

"ระวังนะเมรี่!" เอมิลี่กระซิบ "ถ้าเสียงดังเกินไป เดี๋ยวใครก็จะได้ยิน"

เมรี่ใช้ค้อนตอกสิ่วเข้าไปในช่องว่างเล็กๆ ระหว่างแผ่นไม้กับขอบหน้าต่างอย่างระมัดระวัง เธอค่อยๆ งัดแผ่นไม้ออกทีละนิดๆ เสียงไม้แตกดังเบาๆ ในความเงียบ ยิ่งเธองัดออกได้มากเท่าไหร่ แสงจันทร์จากภายนอกก็ยิ่งส่องเข้ามามากขึ้นเท่านั้น

ใช้เวลาเกือบชั่วโมง ในที่สุด แผ่นไม้ที่แข็งแรงก็หลุดออก แสงจันทร์สาดส่องเข้ามาในห้องเก็บของอย่างเต็มที่ เผยให้เห็นช่องระบายอากาศที่กว้างพอสำหรับเด็กสาวตัวเล็กๆ อย่างเมรี่จะลอดผ่านได้

"ในที่สุด!" เมรี่กระซิบด้วยความดีใจ

"เธอทำได้แล้วเมรี่!" เอมิลี่กระโดดกอดเมรี่เบาๆ ด้วยความตื่นเต้น "แล้วเธอจะไปเมื่อไหร่?"

เมรี่มองออกไปนอกช่องระบายอากาศไปยังสวนที่มืดมิด ท้องฟ้ายามราตรีประดับด้วยดวงดาวนับล้าน เธอสูดหายใจลึกๆ รับอากาศบริสุทธิ์ที่แตกต่างจากอากาศในโรงเรียนอย่างสิ้นเชิง "ฉันจะไปคืนนี้แหละเอมิลี่"

เอมิลี่เบิกตากว้าง "คืนนี้เลยเหรอ? ไม่เตรียมตัวอะไรเลยหรือ?"

"ฉันเตรียมตัวมาตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมาแล้วเอมิลี่" เมรี่ตอบ เธอหยิบกระเป๋าผ้าเล็กๆ ที่ซ่อนไว้ในช่องว่างของลังไม้ขึ้นมา ภายในมีเสื้อผ้าเก่าๆ ที่เธอแอบเย็บใหม่ให้กระชับขึ้นเล็กน้อย เงินเหรียญจำนวนไม่มากที่เธอเก็บสะสมไว้ และจดหมายเก่าๆ ของพี่ชายที่ระบุชื่อเมืองที่พวกเขาเคยไปทำงานสืบสวน "ฉันไม่สามารถรอได้อีกต่อไป ฉันต้องไปเดี๋ยวนี้"

"แต่...แล้วฉันล่ะ?" เอมิลี่ถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ "เธอจะทิ้งฉันไว้ที่นี่คนเดียวเหรอ?"

เมรี่หันไปกอดเอมิลี่อย่างแน่นหนา "ฉันไม่ทิ้งเธอหรอกเอมิลี่ เธอคือเพื่อนคนแรกที่เข้าใจฉันที่นี่ และฉันจะไม่มีวันลืมเธอเด็ดขาด" เธอผละออกจากการกอดแล้วจ้องตาเอมิลี่อย่างจริงจัง "เธอต้องอยู่ที่นี่และคอยปกปิดเรื่องของฉันให้ดีที่สุด จนกว่าฉันจะไปถึงที่หมาย แล้วฉันจะพยายามติดต่อกลับมาหาเธอให้ได้"

"แต่ถ้ามาดามเซเลสต์รู้ขึ้นมาล่ะ?"

"เธอต้องเข้มแข็งนะเอมิลี่ เธอจะต้องไม่บอกใครว่าฉันหายไปไหน และถ้าเธอถูกจับได้ เธอต้องจำไว้ว่าเธอไม่รู้อะไรเลย" เมรี่กำชับ "เชื่อฉันนะเอมิลี่ นี่คือทางเดียวที่ฉันจะรอดไปได้ และฉันจะไม่มีวันลืมบุญคุณเธอเลย"

เอมิลี่พยักหน้าทั้งน้ำตา "ฉันจะพยายามเมรี่ ขอให้เธอปลอดภัยนะ"

"เธอเองก็เช่นกันเอมิลี่"

เมรี่ปีนขึ้นไปบนลังไม้และค่อยๆ มุดตัวผ่านช่องระบายอากาศที่มืดมิด เธอรู้สึกถึงความเย็นของอากาศยามราตรีที่ปะทะกับใบหน้า และกลิ่นหญ้าที่เปียกชื้นยามเช้าตรู่ ร่างกายของเธอค่อยๆ ไถลลงมาด้านนอกอย่างช้าๆ เท้าของเธอสัมผัสกับพื้นดินที่เปียกชื้น

เธอเงยหน้าขึ้นมองโรงเรียนสตรีเลดี้เอเมไลน์ที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหลัง กำแพงหินสีเทาดูมืดทะมึนราวกับป้อมปราการแห่งความสิ้นหวัง

"ลาก่อน...กรงทองของสุภาพสตรี" เมรี่กระซิบ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและความหวังที่พึ่งได้รับกลับคืนมา "ฉันจะไม่มีวันกลับมาที่นี่อีกแล้ว"

เธอหันหลังให้โรงเรียน และวิ่งออกไปในความมืด เธอไม่รู้ว่าข้างหน้าจะเจออะไรบ้าง การเดินทางสู่โลกกว้างเพียงลำพังของเด็กสาววัย 17 นั้นเต็มไปด้วยอันตรายและความไม่แน่นอน แต่หัวใจของเธอเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะเป็นนักสืบ และตามหาพี่ชายทั้งสองที่เธอเชื่อว่ายังคงรอคอยเธออยู่ ไม่ว่าหนทางข้างหน้าจะยาวไกลและอันตรายแค่ไหน เมรี่ก็พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับมันทั้งหมด เพื่ออิสรภาพและเพื่อความฝันของเธอ

เป็นอย่างไรบ้างคะสำหรับบทที่ 2 นี้? เราได้เห็นความมุ่งมั่นของเมรี่ในการวางแผนและดำเนินการหลบหนี รวมถึงบทบาทของเอมิลี่ในการช่วยเหลือเธอได้อย่างดีเยี่ยมเลยค่ะ ตอนนี้เมรี่ได้หลบหนีออกมาจากโรงเรียนแล้ว เราจะมาต่อกันในบทที่ 3 ที่เธอเริ่มต้นการเดินทางและอาจจะเผชิญกับคดีแรกของเธอ หรือพบเบาะแสบางอย่างเกี่ยวกับพี่ชายนะคะ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เมรี่ยอดนักสืบหญิง   พันธมิตรแห่งเวลา

    เบาะแสที่ถูกทิ้งไว้เมรี่เดินเข้าไปใกล้ศพของชายผู้นั้น เธอสังเกตเห็นว่าชายคนนั้นกำมือข้างหนึ่งไว้แน่น เมื่อเธอกางนิ้วมือของเขาออก เธอก็พบกับกระดาษแผ่นเล็กๆ ที่ถูกพับไว้อย่างดี"นี่คืออะไรคะ?" เมรี่พึมพำเธอกางกระดาษออก และพบกับสัญลักษณ์แปลกๆ ที่ถูกวาดด้วยหมึกสีแดงเข้ม มันเป็นสัญลักษณ์ที่ดูคล้ายกับนาฬิกาโบราณ แต่มีเข็มนาฬิกาชี้ไปที่เลขโรมัน XII และมีตัวอักษรภาษาอังกฤษสามตัวเขียนอยู่ด้านล่าง: R.E.D."R.E.D. อย่างนั้นหรือ?" เฟรเดอริคพึมพำ "มันหมายความว่าอะไรกันแน่?""มันอาจจะเป็นรหัสลับครับ" เอดิสันกล่าว "หรืออาจจะเป็นชื่อขององค์กรบางอย่าง""หรืออาจจะเป็นเบาะแสที่ผู้ตายทิ้งไว้ก่อนที่จะเสียชีวิต" เมรี่เสริมทันใดนั้นเอง พนักงานรถไฟก็วิ่งเข้ามาในตู้โดยสารพร้อมกับชายร่างใหญ่สองคนในชุดเครื่องแบบ"เกิดอะไรขึ้นครับ!" พนักงานรถไฟถามด้วยความตกใจ"มีคนตายครับ!" ผู้โดยสารคนหนึ่งตอบ "เขาถูกฆาตกรรม!"พนักงานรถไฟมองไปที่ศพด้วยความตกใจ แล้วเขาก็หันมามองที่เมรี่และทีม"พวกคุณเป็นใครกัน!" พนักงานรถไฟถามด้วยน้ำเสียงที่เคร่งเครียด"เราเป็นนักสืบครับ" ปู่ทว

  • เมรี่ยอดนักสืบหญิง   ปริศนาบนรถไฟ

    หลังจากที่ปู่ทวดของเมรี่กลับมาปรากฏตัวอีกครั้ง ชีวิตของทุกคนก็พลิกผันไปอย่างสิ้นเชิง พวกเขาย้ายเข้าไปยังบ้านพักลับของปู่ทวดที่ตั้งอยู่ในชนบทอันห่างไกล เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตามล่าจาก 'เงาที่หลงเหลือ' และเตรียมพร้อมรับมือกับ 'สงครามแห่งกาลเวลา' ที่ปู่ทวดกล่าวถึง ภายในบ้านหลังนั้น ปู่ทวดได้เปิดเผยความลับมากมายเกี่ยวกับตระกูลแบล็ควู้ด องค์กร 'กาลเวลา' และบุคคลลึกลับที่ชื่อว่า 'สถาปนิกแห่งหายนะ' รวมถึงวิธีการต่อสู้กับพลังเหนือธรรมชาติบางอย่างที่พวกเขากำลังจะต้องเผชิญ"เราจะต้องไปที่ เอดินบะระ ครับ" ปู่ทวดกล่าวในวันหนึ่ง "มีเบาะแสสำคัญที่นั่น ที่จะนำเราไปสู่ความจริงเกี่ยวกับ 'สถาปนิกแห่งหายนะ' และ 'สงครามแห่งกาลเวลา' ""เราจะเดินทางอย่างไรครับ?" อเล็กซานเดอร์ถาม"เราจะไปโดยรถไฟ" ปู่ทวดตอบ "มันเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุดในตอนนี้"แม้จะยังคงหวาดระแวงจากเหตุการณ์บนรถไฟครั้งก่อน แต่พวกเขาก็เชื่อใจในการตัดสินใจของปู่ทวด พวกเขาแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่เรียบง่าย เพื่อไม่ให้เป็นที่สังเกต และขึ้นรถไฟที่มุ่งหน้าสู่เอดินบะระ เมืองหลวงของสกอตแลนด์ ทันทีที่รถไฟเคลื่อนขบวนออกจากสถานี ความรู้สึกตื่นเต้นและกังวล

  • เมรี่ยอดนักสืบหญิง   เสียงปริศนาจากอดีต

    เมรี่วิ่งไปตามตรอกซอกซอยที่แคบและซับซ้อนของลอนดอน โดยมีเสียงปืนและเสียงกรีดร้องของผู้คนดังไล่หลังมาอย่างไม่หยุดหย่อน เธอพยายามหาที่หลบซ่อนที่ปลอดภัยสำหรับเด็กหญิงในที่สุด เธอก็มาถึงโรงละครเก่าๆ แห่งหนึ่งที่ถูกทิ้งร้าง มันเป็นที่ที่เธอเคยใช้เป็นฐานลับในการสืบสวนคดีต่างๆ ในอดีต"เราปลอดภัยแล้วนะหนู" เมรี่กล่าวพร้อมกับวางเด็กหญิงลง "ไม่ต้องกลัวแล้วนะ"เด็กหญิงยังคงร้องไห้อย่างต่อเนื่อง เมรี่กอดเธอไว้แน่นเพื่อปลอบประโลมในขณะที่เธอกำลังกอดเด็กหญิงอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีเสียงทุ้มต่ำดังขึ้นมาจากด้านหลัง..."น่าประทับใจจริงๆ ที่เจ้ายังจำที่แห่งนี้ได้"เมรี่หันขวับ และพบกับชายชราคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าเธอ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่น แต่ดวงตาของเขากลับเต็มไปด้วยแววตาที่เฉลียวฉลาด และแววตาที่คุ้นเคยอย่างน่าประหลาดใจ"คุณเป็นใครคะ!" เมรี่ถามด้วยความสงสัยชายชราคนนั้นยิ้ม "ข้าคือคนที่เฝ้ารอเจ้ามานานแล้ว"เขาก้าวเข้ามาใกล้เมรี่ แล้วยื่นมือมาสัมผัสที่ใบหน้าของเธอ เมรี่รู้สึกถึงกระแสไฟฟ้าบางอย่างที่ไหลผ่านร่างกายของเธอ"เจ้าคือความหวังสุดท้ายของข้า" ชา

  • เมรี่ยอดนักสืบหญิง   ความโกลาหล

    สองสัปดาห์ผ่านไปนับตั้งแต่การล่มสลายของ 'กาลเวลา' องค์กรลับที่เคยบงการโลกเบื้องหลังฉาก เมรี่และทีมกลับมาใช้ชีวิตอย่างสงบสุขอีกครั้งในลอนดอน แม้จะมีชื่อเสียงในฐานะวีรบุรุษผู้กอบกู้ แต่พวกเขาก็เลือกที่จะเก็บตัวและใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายที่สุดเท่าที่จะทำได้ หมอเจเน็ตยังคงดูแลคลินิกใต้ดินของเธอ มิสเตอร์คลาร์กได้กลับไปใช้ชีวิตในฐานะผู้จัดการสำนักพิมพ์ที่ซื่อสัตย์ ส่วนนักสืบโธมัสก็ได้รับการเลื่อนตำแหน่งและเป็นที่ยอมรับมากขึ้นในวงการตำรวจเช้าวันหนึ่งที่สดใส เมรี่กับเฟรเดอริคตัดสินใจออกมาเดินเล่นที่ตลาดนัดคอเวนต์การ์เดน ซึ่งเต็มไปด้วยผู้คนพลุกพล่าน เสียงดนตรีจากนักแสดงข้างถนนดังคลอเคลียกับเสียงหัวเราะของผู้คนที่เดินจับจ่ายซื้อของ บรรยากาศดูผ่อนคลายและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา"นี่แหละชีวิตที่แท้จริง!" เฟรเดอริคกล่าวพร้อมกับสูดหายใจลึกๆ "ไม่ต้องมีเรื่องวุ่นวาย ไม่ต้องมีองค์กรลับมาตามล่า"เมรี่ยิ้ม เธอเห็นด้วยกับพี่ชายอย่างเต็มที่ แต่ในใจลึกๆ เธอก็ยังรู้สึกถึงความว่างเปล่าบางอย่าง...ราวกับว่าชีวิตที่ไร้ความตื่นเต้นมันไม่ใช่สิ่งที่เธอโหยหาอีกต่อไปขณะที่พวกเขากำลังเลือกซื้อดอกไม้อยู่ จู่ๆ ก็มีเสียงระเ

  • เมรี่ยอดนักสืบหญิง   เปิดโปง

    เสียงสัญญาณเตือนภัยดังลั่นไปทั่วศูนย์บัญชาการลับขององค์กร 'กาลเวลา' แสงไฟสีแดงกะพริบไปมา สร้างบรรยากาศที่ตึงเครียดและอันตรายยิ่งกว่าเดิม เมรี่และทีมต้องเผชิญหน้ากับท่านลอร์ดวิลเลียมส์และเหล่า 'ยมทูต' ที่พุ่งเข้ามาจากทุกทิศทาง"พวกแกไม่มีทางทำลาย 'แกนกลาง' ของข้าได้หรอก!" ท่านลอร์ดวิลเลียมส์คำราม "ข้าได้เตรียมการทุกอย่างไว้แล้ว!"เขากดปุ่มบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในข้อมือของเขา และทันใดนั้นเอง กำแพงเหล็กขนาดใหญ่ก็เลื่อนลงมาปิดกั้นทางเข้าออกทุกทาง ทำให้พวกเขาติดอยู่ในห้องควบคุมแห่งนี้"ไม่นะ!" เฟรเดอริคอุทาน "เราติดกับแล้ว!""ไม่ต้องห่วงครับ!" มิสเตอร์คลาร์กกล่าว "ผมรู้ทางออกครับ!"เขาชี้ไปที่ช่องระบายอากาศขนาดเล็กที่อยู่บนเพดาน "เราต้องเข้าไปในนั้น!"แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้ทำอะไร ท่านลอร์ดวิลเลียมส์ก็พุ่งเข้ามาโจมตีพวกเขาอย่างรวดเร็ว เขามีพละกำลังและความว่องไวที่เหนือกว่ามนุษย์ทั่วไปราวกับว่าเขามีพลังงานบางอย่างที่มองไม่เห็นคอยเสริม"แกจะต้องเป็นคนแรกที่ตาย!" ท่านลอร์ดวิลเลียมส์คำรามใส่เมรี่เมรี่หลบการโจมตีของเขาได้อย่างหวุดหวิด เธอใช้มีดสั้นป้องกันตัวเองจากคมมีดของท่านลอร์ดวิลเลียมส์ที่พุ่งเ

  • เมรี่ยอดนักสืบหญิง   ศูนย์บัญชาการลับ

    รถยนต์ของมิสเตอร์คลาร์กแล่นฉวัดเฉวียนไปตามถนนในลอนดอนอย่างรวดเร็ว โดยมีรถของหัวหน้าใหญ่แห่ง 'ยมทูต' เป็นเป้าหมาย พวกเขาขับผ่านผู้คนและรถยนต์คันอื่นๆ อย่างไม่ลดละ การไล่ล่าดำเนินไปอย่างดุเดือดท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายของมหานคร"เราต้องไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดครับ!" มิสเตอร์คลาร์กกล่าว "ก่อนที่พวกเขาจะไปถึงสำนักงานใหญ่ของพวกเขาได้!""สำนักงานใหญ่อยู่ที่ไหนคะ?" เมรี่ถามด้วยความสงสัย"มันอยู่ในใจกลางเมืองครับ" เอดิสันตอบ "เป็นที่ที่เราไม่คาดคิดว่าจะเจอเลย"ในที่สุด รถของ 'ยมทูต' ก็แล่นเข้าไปในอาคารสูงระฟ้าแห่งหนึ่งที่ดูเรียบง่าย แต่กลับมีระบบรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนาอย่างน่าตกใจ"นั่นไงครับ!" อเล็กซานเดอร์กล่าว "พวกเขาเข้าไปในนั้นแล้ว!""เราจะเข้าไปได้อย่างไรครับ?" เฟรเดอริคถาม "ระบบรักษาความปลอดภัยที่นั่นเข้มงวดมาก""เราไม่ต้องเข้าไปครับ" มิสเตอร์คลาร์กยิ้ม "เราจะใช้ทางลับ"เขาพาพวกเขาไปยังทางเข้าอุโมงค์ใต้ดินแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากอาคารนั้น มันเป็นทางเข้าที่ถูกปกปิดไว้อย่างมิดชิด จนแทบไม่มีใครสังเกตเห็น"อุโมงค์นี้จะนำเราไปสู่ทางเข

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status