ตอนที่ 3
3/3
"ยังไม่เปิดอ่านตั้งแต่เมื่อคืน"
เธอครางฮือในลำคอ ใบหน้าบูดบึ้งกว่าเดิมเล็กน้อย วางมือถือเอาไว้ที่เดิมก่อนจะลุกไปอาบน้ำอาบท่า ขวัญข้าวออกจากหอพักมุ่งตรงไปที่ร้านดอกไม้ กัลยาบอกว่าในช่วงที่คนงานลาออกยังหาคนใหม่ไม่ได้จึงอยากให้ขวัญข้าวมาช่วยงานที่ร้านไปพลางๆ ก่อน ดังนั้นขวัญข้าวจึงตั้งใจว่าจะไปช่วยงานกัลยาในช่วงกลางวัน พอตกกลางคืนค่อยมานั่งทำงานของตัวเองต่อ ทันทีที่เดินเข้าไปในร้านสายตาของเพื่อนสาวก็จับจ้องมา ขวัญข้าวจึงยิ้มแห้ง ๆ บอกบุญไม่รับ ยังไม่ทันได้เอ่ยปากอะไรกัลยาก็พูดขึ้น
"เมื่อคืนนี้ใครไปส่งจ๊ะ"
"รู้ได้ไงเนี่ย"
"ไอ้ทัพมันบอก"
อ๋อ...เจ้าเด็กนั่นมันคงบอกว่าเธอกลับกับผู้ชาย แต่มันคงไม่ได้บอกว่าตัวเองไปนอนห้องผู้หญิง ขวัญข้าวหัวเราะแหะ ๆ ยักไหล่เบะปากก่อนจะตอบ
"คุณต่อไปส่ง"
"จริงดิ ไอ้ทัพมันโม้ใหญ่เลยนะว่าพี่ข้าวได้นั่งรถหรูอย่างงั้นอย่างงี้ ตรงไทป์ ตรงสเปก เทสดีเหมือนที่ลั่นวาจาถูกมั้ย?"
"ก็...ไม่ได้ขนาดนั้นหรอก เขาเป็นคนขับรถบ้านคนรวย มาคิด ๆ ดูแล้วถึงเขาไม่ได้รวยอย่างที่ฉันตั้งเป้าไว้แต่ฉันก็คิดว่าจะชอบคนนี้แหละ ฉันไม่รู้หรอกนะว่าสเปกเป็นแบบไหน แต่พอเจอเขาฉันก็รู้เลยว่าต้องคนนี้เลย คนนี้แน่ๆ"
"แกแค่ชอบคนหล่อ แกก็เลยลดมราตาฐานที่ตั้งไว้"
"ก็แหม๋ เขาอ่อนโยนและสุภาพมากเตย ฉันไม่เคยเจอผู้ชายแบบนี้มาก่อนเลยนะเว้ย"
กัลยาถอนหายใจเหนื่อยกับความหลงผู้ชายของขวัญข้าว แล้วส่ายหน้าไปมาก่อนจะยัดก้านกุหลาบลงในแจกัน การที่ขวัญข้าวบอกว่าไม่เคยเจอผู้ชายแบบนี้มาก่อนกัลยาคิดว่าเพื่อนพูดเกินจริงไปมาก พอได้ย้อนคิดแล้วยังนึกขำ ก็เพื่อนรักของเธอไม่ได้มีผู้ชายเข้ามาในชีวิตมากมายขนาดนั้น แล้วจะเอากษิดิศไปเปรียบเทียมกับใครได้บ้างนอกเสียจากไอ้กฤษติ หากเอาไปเปรียบกับผู้ชายที่เพิ่งทำร้ายจิตใจมาคนใหม่ที่ยังไม่ทันได้ศึกษาดูใจย่อมดีกว่าแน่นอน แต่ถึงอย่างไรของแบบนี้ก็ต้องศึกษากันไปนาน ๆ หากไม่เป็นดังที่หวังไว้จะได้ไม่กระอักเหมือนครั้งที่แล้ว
"แต่ฉันว่าฉันจะตัดใจจากเขาแล้วล่ะ เขาคงไม่มีใจให้ฉันหรอก ส่งข้อความไปตั้งแต่เมื่อคืนวานจนถึงป่านนี้ยังไม่ตอบเลย"
จากใบหน้าที่เปื้อนยิ้มค่อย ๆ เปลี่ยนไปเป็นเศร้าสร้อย อาการของขวัญข้าวไม่ได้ทำให้กัลยาแปลกใจอะไรนัก เพราะเห็นเพื่อนเป็นแบบนี้ออกจะบ่อย เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ วนไป กัลยาเริ่มชินซะแล้วล่ะ
ติ๊ง!
ขวัญข้าวเพิ่งพูดประโยคเมื่อครู่จบไปไม่นาน เสียงข้อความก็ดังขึ้น เธอตาเบิกโพลงรีบคว้ากระเป๋ามาเพื่อควานหามือถือ พอหาไม่เจอก็เททุกอย่างในกระเป๋าออกมาจนหมด เจ้ามือถือตัวต้นเรื่องกระเด็นออกมาในลักษณะคว่ำหน้าจอ มือเรียวรีบหยิบขึ้นมาแล้วยิ้มหน้าระลื่น กัลยาเลยอดแซวไม่ได้
"เก็บอาการหน่อยเหอะ ไหนว่าจะตัดใจ"
"คุณต่อต้องตอบมาแล้วแน่ ๆ"
แต่แล้วเมื่อกดเข้าไปดูกลับต้องหุบยิ้มลงทันที "ด่วน โค้งสุดท้ายแล้ว เลขเด็ดเลขดังนางตานีให้แม่นสามงวดติด"
ขวัญข้าวอ่านข้อความแล้วเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนสาวด้วยแววตาหดหู่ ก้มเก็บของทุกอย่างที่เทออกเข้ากระเป๋าคืนอย่างไร้อารมณ์ ขณะที่กำลังก้มหน้าเก็บของอยู่นั้นเสียงข้อความได้ดังขึ้นมาอีก มือเรียวหยิบมือถือขึ้นมาด้วยทาทีที่เฉยเมย คิดว่าอย่างไรก็ต้องเป็นข้อความใบ้หวยแบบเดิมแน่ ๆ เพราะวันนี้ตรงกับวันที่สิบหก แต่ละสำนักต่างประโคมเลขเด็ดกันมาไม่หยุดหย่อน
"ขอโทษครับ โทรศัทพ์แบตหมดก็เลยชาร์จไว้ทั้งคืน เพิ่งเห็นข้อความครับ"
หญิงสาวอ่านข้อความเหมือนอย่างเคย แล้ววางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะ จากนั้นเดินไปช่วยกัลยาจัดดอกไม้ แต่เมื่อคิดทบทวนข้อความที่เพิ่งอ่านไปเมื่อครู่ขวัญข้าวก็เบิกตาโต บรรยากาศรอบตัวสว่างไสวขึ้นมาทันที ราวกับว่ามีใครมากดสวิตท์เปิดหลอดไฟที่บนหัว รีบวิ่งกลับมาหาเจ้ามือถือราคาหลักพันที่วางอยู่บนโต๊ะด่วนจี๋
"คุณต่อ!"
เป็นข้อความจากกษิดิศจริงแท้แน่นอน เร็วเท่าความคิดขวัญข้าวรีบพิมพ์เพื่อที่จะตอบกลับเขาให้เร็วที่สุด แต่แล้วมือถือก็ถูกดึงออกไปจากมือต่อหน้าต่อตา
"หยุดก่อนจ๊ะแม่สาว"
"ทำไมละ"
"เล่นตัวนิดนึง แกต้องอ่านก่อนแล้วทิ้งไว้สักห้านาทีค่อยตอบกลับ ผู้หญิงเราต้องมีชั้นเชิง อย่าแสดงออกเกินไปว่าสนใจเขา"
"แต่ฉันก็สนใจเขาจริง ๆ นะ ถ้าไม่รีบตอบเขาจะไม่หนีหายไปเลยเหรอ"
"แกเชื่อฉัน ฉันมีผัวส่วนแกไม่มี"
"โอเคจบ"
ขวัญข้าวฝืนใจวางโทรศัพท์ไว้ที่โต๊ะเช่นเดิม แต่ตายังจ้องมองมือถือเครื่องนั้นไม่ห่าง เธอนั่งจ้องไม่ให้คลาดสายตาสักวินาทีเดียว ขณะเดียวกันนาฬิกาที่หน้าจอก็เดินหน้าไปเรื่อย ๆ จนครบห้านาทีเหมือนที่กัลยาบอกไว้ ทว่าข้อความของกษิดิศก็ยังเงียบกริบ
"เตย เขาเงียบหายไปเลย"
"รอไปก่อน"
"ไม่ใช่ว่าหลุดมือไปแล้วเหรอ"
ถึงอย่างนั้นขวัญข้าวก็ยอมถอยมานั่งรออย่างกระวนกระวายใจ เธอรอต่อไปอีกหนึ่งนาทีเสียงสวรรค์ที่เฝ้าคอยก็ดังขึ้น
ติ้ง!
คุณต่อ : รถซ่อมเสร็จรึยังครับ
ดูเอาเถอะ พ่อคนดีศรีสังคม! เขายังมีแก่ใจถามถึงรถที่เรียกเอาไปซ่อมให้เมื่อคืน ขวัญข้าวยิ้มหวานบิดตัวไปมา ทั้งที่เป็นแค่ข้อความถามไถ่ธรรมดาแต่เธอก็ตีโพยตีพายไปแล้วว่าเขาใส่ใจเธอมากขนาดนี้
ตัดภาพไปที่กษิดิศหัวใจใสสะอาดมาก ที่ถามตามมารยาทเพราะเมื่อคืนเป็นคนโทรตามให้คนมาช่วย จึงอยากจะติดตามผลงานก็เท่านั้น ไม่ได้คิดไปไกลเหมือนขวัญข้าวเลยสักนิดเดียว
ขวัญข้าว : ซ่อมเสร็จแล้วค่ะ น้องทัพไปเอาแล้วค่ะ
...ปกติเรียกไอ้ทัพ
คุณต่อ : งั้นก็ดีแล้วครับ
นี่คงจะเป็นข้อความสุดท้าย กษิดิศส่งมาแล้วก็ตบท้ายด้วยสติ๊กเกอร์การ์ตูนน่ารักมุ่งมิ้ง แต่สำหรับขวัญข้าวมันคือสัญลักษณ์ปิดท้ายของการหยุดคุย เธอจึงรีบพิมพ์ข้อความส่งไป ทำวิธีใดก็ได้เพื่อให้ได้คุยกับเขาต่อ
ขวัญข้าว : คุณต่อทำอะไรอยู่คะ
หลังจากส่งข้อความกษิดิศก็เงียบหายไปเลย กระทั่งผ่านไปราวหนึ่งชั่วโมงเขาจึงได้ตอบกลับมา
คุณต่อ : เมื่อกี้นี้ติดงาน ตอนนี้กำลังจะไปร้านกาแฟครับ
พอขวัญข้าวได้อ่านก็หูผึ่ง รีบหันไปถามกัลยาทันที "มีงานอะไรให้ช่วยอีกมั้ยเตย"
"ไม่แล้ว เดี๋ยวดอกไม้ที่จัดช่อให้ไอ้ทัพเป็นคนเอาไปส่ง แกจะกลับเลยเหรอ"
"ไม่อะ จะไปหาผู้ชาย"
ตอนที่ 62/3ขวัญข้าวปวดเมื่อยเนื้อตัวจนอยากจะเอนหลัง จึงปิดคอมพิวเตอร์แล้วล้มตัวลงบนเตียงแข็ง ๆ จ้องมองเพดานห้องสีหม่นมันช่างแตกต่างจากห้องกษิดิศเหลือเกิน เธอไม่มีอะไรเทียบเขาได้สักอย่าง...พอเอียงหน้ามองปฏิทินเห็นว่ามีรอยปากกาแดงวงวันที่เอาไว้ พรุ่งนี้จะถึงกำหนดส่งดอกไม้วันแรกของสัปดาห์ หญิงสาวพูลลมหายใจออกมาหนักๆ ไม่อยากย่างกายไปที่นั่นเลย เพราะสำนึกและคิดได้หลายๆ อย่าง เท่านี้ก็อับอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้วเช้าวันรุ่งขึ้นขวัญข้าวนำดอกลิลลี่ไปส่งที่ SGD กรุป เมื่อเข้าไปในบริษัทแล้วเธอก็แจ้งประชาสัมพันธ์ตามปกติ พนักงานสาวรายหนึ่งกดเบอร์ภายในไปยังห้องทำงานของกษิดิศ พอเจ้านายพูดกรอกสายมาว่าอนุญาตให้ขึ้นไปได้ขวัญข้าวจึงหอบดอกไม้ช่อโตไปชั้นสี่ ร่างบางเคาะประตูก่อนจะย่องเข้าไปให้เงียบเชียบที่สุด กะว่าจะเอาช่อดอกไม้ไปวางไว้ที่โต๊ะตัวเดิมแล้วรีบแผ่นหนีให้ไวกษิดิศนั่งอยู่โต๊ะประจำตำ
ตอนที่ 61/3กษิดิศกำลังกลั้นขำในท่าทางสงบเสงี่ยมเหมือนผ้าผับไว้ของขวัญข้าว เธอไม่เหมือนคนเดิมเลยสักนิด ดูเรียบร้อยและเจียมตัวจนเกินเหตุ เพิ่งรู้ว่าจากไซบีเรียนก็เปลี่ยนมาเป็นกระต่ายน้อยได้เหมือนกัน"ข้าวไปได้แล้วใช่มั้ยคะ"ขวัญข้าวยืนขึ้นแล้วยกมือไหว้อย่างนอบน้อม เขาไม่ใช่คุณต่อคนขับรถอีกต่อไปแล้วแต่เป็นลูกค้าที่สั่งออร์เดอร์แพงหูฉี่ ขณะที่กำลังจะก้าวพ้นจากห้อง เสียงจามของกษิดิศก็ดังไล่หลังสามครั้งติด เธอจึงหยุดฝีเท้าแล้วหันกลับมามองเขา จมูกของชายหนุ่มเริ่มขึ้นสีหน่อยๆ นั่นเป็นเพราะก่อนออกมาส่งดอกไม้ขวัญข้าวกำลังจัดช่อกุหลาบอยู่ ละอองเกสรกุหลาบก็เลยติดตัวเธอมาด้วย คนที่รู้ดีว่านี่คืออาการแพ้แน่ๆ คือกษิดิศ ส่วนเธอไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง เขาหลบตาเธอด้วยการลุกขึ้นยืนหันหลังให้ ดังนั้นขวัญข้าวเลยคิดว่าไม่มีอะไรแล้วจึงจากไปทันทีกษิดิศยังคงไปร้านกาแฟเห
ตอนที่ 53/3เขาปรายตามองแค่แป๊บเดียวก็เดินขึ้นลิฟต์ไปทันที ประตูลิฟต์ปิดลงแล้วขวัญข้าวยังยืนอึ้งอยู่ที่เดิม กว่าจะได้สติก็ตอนเสียงประชาสัมพันธ์สาวแว่วเข้าหู"ท่านประธานให้เอาขึ้นไปให้บนห้องทำงานค่ะ""ฉันวานให้พวกคุณเอาไปให้เขาแทนได้มั้ยคะ""GSD กรุป ผูกปิ่นโตกับร้านดอกไม้ของคุณแล้วนะคะ ถ้าท่านประธานบอกให้คุณเอาไปให้เองไม่แน่ว่าอาจจะมีทิปให้ หรือไม่อย่างนั้นก็อาจมีเรื่องคอมแพลน มีแค่สองอย่างนี้เท่านั้นค่ะ รบกวนคุณเอาขึ้นไปเองนะคะ ท่านประธานอยู่ชั้นสี่ห้องแรกทางซ้ายมือค่ะ"คนพูดทำหน้าอิดออดไม่กล้าทำเกินคำสั่งของเจ้านาย ขวัญข้าวเข้าใจในความอึดอัดของพนักงานสาวเป็นอย่างดี เธอจึงพยักหน้าให้แล้วตามเขาขึ้นไปชั้นผู้บริหาร พอถึงห้องที่ประชาสัมพันธ์บอกก็ยกมือขึ้นเคาะประตูสองสามครั้ง หลังได้ยินเสียงอนุญาตจากคนข้างในก็ดันบานประ
ตอนที่ 52/3ปลัดขิกอันเท่าลิปสติกถูกหยิบออกมาจากกระเป๋า ขวัญข้าวชูขึ้นต่อหน้าเพื่อน กองทัพที่เงี่ยหูฟังอยู่นานแล้วปรายตามองมาแวปเดียว พอเห็นสิ่งที่ขวัญข้าวถืออยู่ก็ย่นคิ้ว"วันที่ฉันเจอกับคุณต่อครั้งแรกลุงขับแท็กซี่ให้ฉันบูชาไอ้นี่มา บอกว่าพกไว้แล้วจะมีผัว ฉันก็เลยคิดว่าคุณต่อต้องเป็นคนนั้นแน่ๆ แต่ก็ผิดคาดไปเลย""โอ้ย พี่ข้าวโดนหลอกแล้ว รู้ไว้นะว่าปลักขิกไม่ได้ทำให้มีผัว ถ้าพกแล้วมีผัวจริงทัพก็มีไปสิบผัวแล้วคร๊าบ"เจ้าหนุ่มถลกเสื้อขึ้นมาเผยให้เห็นสายผูกเอวที่มีปลัดขิกห้อยอยู่ด้วย ขวัญข้าวเห็นแล้วถึงกับเหวอไปเลย"ตามความเชื่อเขาบูชามาช่วยเรื่องค้าขาย""ขายตัวเอง""ขายของ!""ก็ตาลุงนั่นบอกว่าถ้าพกไว้แล้วฉันจะขายออกนี่นา"ขวัญข้าวเสียงอ๋อย หดคอล
ตอนที่ 51/3"ข้าวไม่เป็นเพื่อนกับคุณต่อค่ะ"อาจจะฟังดูเหมือนประชด แต่ขวัญข้าวไม่ได้มีเจตนาจะประชดเขาเลยสักนิด เธอคิดแบบนั้นจริงๆ เพราะไม่เห็นประโยชน์อะไรที่ต้องไปเป็นเพื่อนกับเขา หากไม่เห็นทางไปต่อก็ควรหยุดไว้เท่านี้ การตัดใครสักคนออกจากใจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่การไม่ต้องแวะเวียนมาเกี่ยวข้องกันอีกจะทำให้ตัดใจได้เร็วขึ้น เวลารักใครขวัญข้าวทุ่มหมดตัวแต่ครั้งนี้มันก็ไม่ได้แตกต่างจากครั้งไหน มันพังเหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมาไม่มีผิด หรืออาจจะต่างกันก็ตรงที่กษิดิศไม่ได้ทำร้ายจิตใจให้บอบช้ำ เขาไม่ได้หักหลังจนเธอต้องโกรธแค้น แล้วเธอจะมีหน้าไปโทษเขาที่ไม่มีใจให้ได้อย่างไร ถ้าทำแบบนั้นเธอจะกลายเป็นคนที่เอาแต่ใจเกินไป อยู่ดีไม่ว่าดีดันรนหาที่เจ็บ ในเมื่อรักเองก็เจ็บเองไปสินักเลงพอ"โกรธผมเหรอ""ไม่ค่ะ
ตอนที่ 43/3"หรือว่าเขาจะแอบมาเปิดคอนโดของเจ้านายเพื่อรอเรา...แต่แบบนี้จะดีเหรอ คุณต่อคงอยากสร้างความประทับใจให้เรา โอ้ย ใส่ใจกันมากขนาดนี้เลย"หญิงสาวพึมพำก่อนจะเดินเข้าไปข้างใน พอไปถึงล็อบบี้ก็หยิบมือถือออกมาตั้งใจจะโทรถามว่าอยู่ห้องไหน แต่กษิดิศก็ได้ส่งข้อความมาบอกก่อนตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงที่แล้ว ดังนั้นขวัญข้าวจึงขึ้นลิฟต์ไปชั้นบนทันที เธอเดินมาหยุดที่หน้าห้องหนึ่ง อ่านทวนหมายเลยห้องให้แน่ใจแล้วค่อยยกมือขึ้นเคาะประตูรอไม่นานเจ้าของห้องก็เปิดประตูออกมารับ กษิดิศสวมเสื้อยืดคอเชิ๊ตกับกางเกงสเลคในลุคสบายๆ เขายิ้มให้เธอเธอก็ยิ้มตอบเขินๆ ขณะที่ขวัญข้าวกำลังจะเดินเบียดเข้าไปในห้องกษิดิศก็เดินออกมาข้างนอกแล้วล็อกประตู เธอยืนงงทำหน้าไม่ถูก ตกลงที่ให้มาหาที่ห้องนี่ไม่ได้หมายความว่าจะอยู่ในนี้ด้วยกันทั้งวันหรอกเหรอ"ผมมีที่อยากพาคุณไปรับรองต้องช