หน้าหลัก / โรแมนติก / กลรักกับดักลวงใจ / บทที่ 1 จุดเริ่มต้นของหายนะ 3

แชร์

บทที่ 1 จุดเริ่มต้นของหายนะ 3

ผู้เขียน: เสวี่ยเยว่
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-08-19 02:48:45

“ได้เงินของฉันมารึยังคะเถ้าแก่ป๋อ”

เจิ้งลี่ซายืนอยู่ที่ประตูห้องทำงานแล้วเลิกคิ้วขึ้น มองเถ้าแก่ป๋อกำลังยัดซาลาเปาลูกโตเข้าปาก และเธอก็แอบกังวลว่าเขาจะเอาเงินของเธอไปซื้อของกินหมดแล้ว เพราะบนโต๊ะของเขามีถุงของกินเต็มไปหมด

“ธนาคารให้ฉันมาได้แค่สองหมื่น” เขาพูดขณะที่ผักกาดแก้วกระเด็นออกจากปาก เธอเบือนหน้าหนีเมื่อท้องของเธอร้องขึ้นมา แล้วก็พยายามกลั้นหัวเราะ

“อ้อ พวกเขาเงินหมดเหรอคะ” เธอพูดแล้วหันกลับไปมอง เอามือขวาเท้าสะเอว

“ใช่” เขาพยักหน้า ดวงตาเล็ก ๆ ของเขามองเธออย่างระแวดระวัง “ฉันก็เลยให้เธอได้แค่สองพัน”

“ถ้าอย่างนั้น ฉันว่าคุณคงจะต้องโทรหาเสี่ยวเจียแล้วล่ะค่ะ ว่าเธอจะรับงานนี้ได้ไหม” เธอหันหลัง “อ้อ แล้วก็ไปเปิดบัญชีกับธนาคารที่สามารถให้เงินลูกค้าได้มากกว่าสองหมื่นหยวนในครั้งเดียวด้วยนะคะ”

“เดี๋ยว ๆ” เถ้าแก่ป๋อกระโดดลุกขึ้น เธอจึงหันกลับไปอีกครั้ง “ฉันคุยกับผู้จัดการแล้ว เขาก็เลยให้ฉันมาอีกหมื่นนึง”

“เหรอคะ” เธอพูด สงสัยว่าเขาคิดว่าเธอโง่แค่ไหนกัน “เงินอยู่ไหนคะ” เธอแบมือออกแล้วรอ เถ้าแก่ป๋อดูหงุดหงิด และเธอก็บอกได้เลยว่าเขากำลังพยายามจะคิดหาคำพูดอื่นเพื่อจะเก็บเงินบางส่วนไว้

“นี่ไง” เถ้าแก่ป๋อยื่นปึกธนบัตรให้เธอ เธอขมวดคิ้วเมื่อมองลงไปแล้วเห็นแต่แบงค์ย่อยเต็มไปหมด ไอ้คนทุเรศ! “ทีนี้ เธอก็ต้องเซ็นสัญญาไม่เปิดเผยความลับด้วย”

“อะไรนะคะ” เธอหรี่ตามอง “ทำไมคะ”

“เธอห้ามบอกเจ้านายคนใหม่ของเธอว่าเพื่อนของเขาจ้างเธอมาแกล้ง”

“ฉันไม่บอกเขาหรอกค่ะ” เธอพูดอย่างเหนื่อยหน่าย “ก็คงจะ...จนกว่าจะถึงตอนเต้นยั่วปลอม ๆ แล้วก็ตอนที่เพื่อนเขาบุกเข้ามาในห้องตอนท้ายนั่นแหละ”

“เรื่องนั้นมันเปลี่ยนไปหน่อยน่ะ” เถ้าแก่ป๋อพูดขณะยื่นกระดาษกับปากกาให้เธอ “เซ็นตรงนี้”

เธอมองไปที่สัญญา ขมวดคิ้วด้วยความสงสัยสักเล็กน้อย แล้วก็รีบเซ็นชื่อลงบนกระดาษอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมอง “มีอะไรเปลี่ยนไปเหรอคะ”

“ก็...เธอจะยังไม่เปิดเผยตัวตนทันทีน่ะสิ” เขาคว้ากระดาษกลับไปจากมือเธอ

“หืม...ทำไมคะ” เธอขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจ

“พวกที่จ้างเราคิดว่ามันจะสนุกกว่านี้อีก ถ้าเธอทำงานที่นั่นสักอาทิตย์หนึ่ง แล้วค่อยไปเต้นยั่วให้เขาดูในที่ประชุม”

“อะไรนะคะ!” เสียงของเธอแสดงความตกใจสุดขีด “คุณล้อเล่นรึเปล่า”

“เปล่า” เขายิ้มกว้าง “ฉันบอกพวกเขาไปแล้วว่าไม่มีปัญหา”

“ฉันไม่ทำงานที่นั่นหนึ่งอาทิตย์เพื่อเงินแค่สามหมื่นหรอกนะ” เสียงของเธอสูงขึ้น “คุณบังคับให้ฉันทำแบบนี้ไม่ได้นะเถ้าแก่ป๋อ”

“เธอก็เพิ่งจะเซ็นสัญญาไปนี่” เขายักไหล่แล้วเดินกลับไปที่โต๊ะทำงานของตัวเอง “แล้วเธอก็รับเงินไปแล้วด้วย”

“สำหรับงานแค่วันเดียว ไม่ใช่งานหนึ่งอาทิตย์” เธอประท้วง “นี่มันไม่ถูกต้องนะ เถ้าแก่ป๋อ แล้วมันก็ดูจะไม่ยุติธรรมกับคุณฉู่เฮ่าหรานด้วย หนึ่งอาทิตย์มันนานเกินไปที่จะไปหลอกใครสักคน แล้วไอ้เรื่องเต้นยั่วตอนประชุมบริษัทน่ะมันก็ฟังดูน่ารังเกียจมาก”

“เราไม่ได้เป็นคนตั้งกฎ เราก็แค่ทำตาม”

“นี่มันไม่ใช่กฎนะเถ้าแก่ป๋อ นี่มันไร้สาระ”

“ฉันก็นึกว่าเธอเคยบอกว่าตัวเองเป็นนักแสดงที่เก่งเสียอีก” เขาหยุดพูดแล้วก็ส่งสายตาเป็นเชิงถามมาให้เธอ และเธอก็รู้สึกได้ว่าในท้องของตัวเองมันกำลังปั่นป่วนไปหมด “นักแสดงที่เก่งน่ะรับงานได้ทุกประเภท”

“ฉันเป็นนักแสดงที่เก่ง” เธอเถียงกลับไป เธอเกลียดเวลาที่เขามากดดันให้เธอต้องรับบทบาทพวกนี้ ที่จริงแล้ว...เธอเกลียดเถ้าแก่ป๋อ เธอรู้ดีว่าตัวเองควรจะไปหางานใหม่ได้แล้ว แต่เธอก็แค่ขี้เกียจเกินกว่าจะไปหาน่ะสิ

“ถ้างั้นก็รับงานนี้ไปแล้วก็หุบปากซะ” เขาพูดขณะที่นั่งกลับลงไปบนเก้าอี้แล้วก็เริ่มกินเฟรนช์ฟรายส์ต่อ

“คุณมันคนทุเรศ” เธอพูดแล้วก็กำลังจะเดินออกจากออฟฟิศไป เมื่อเขาพูดคำพูดที่เปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่างออกมา

“เธอจะได้ค่าจ้างวันละสามพันเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์” เขาพูดขึ้นแล้วเธอก็ตัวแข็งทื่อไปในทันที เขาพูดจริงอย่างนั้นเหรอ วันละสามพันมันเยอะมากเลยนะ

“ถ้าอย่างนั้นฉันก็เริ่มงานวันจันทร์แล้วก็จบวันศุกร์ใช่ไหมคะ”

“เธอเริ่มงานวันจันทร์หน้า” เขาพูดขณะที่ยกแก้วไดเอทโค้กขึ้นมาดื่ม โอ้...ช่างน่าขันสิ้นดี “เธอจะต้องไปฝึกงานเป็นเลขาฯ แล้วก็ต้องคอยอ่อยเขาไปตลอดทั้งอาทิตย์ งานปาร์ตี้ของบริษัทจะจัดขึ้นในวันเสาร์ เธอจะต้องไปที่งานปาร์ตี้ เต้นยั่วแบบถึงพริกถึงขิงให้เขาดู แล้วเพื่อนเขาก็จะเข้ามาบอกเขาว่า ‘เซอร์ไพรส์’ แล้วงานของเธอก็จบ”

“เอ่อ...แล้วเต้นยั่วแบบถึงพริกถึงขิงนี่มันเป็นยังไงเหรอคะ” เธอขมวดคิ้ว หัวใจเต้นระรัว ทุกอย่างมันก็ดูจะง่ายดายดี ยกเว้นก็แต่เรื่องเต้นยั่วแบบถึงพริกถึงขิงนี่แหละ แล้วไอ้พวกผู้ชายพวกนี้มันหวังจะให้เกิดอะไรขึ้นกันแน่ แล้วก็ทำไมกัน

“ก็เต้นยั่วในกระโปรงสั้น ๆ กับเสื้อบิกินี่ท่อนบนน่ะสิ”

“คุณล้อเล่นรึเปล่า” เธอจ้องเขม็งไปที่เขา “บิกินี่ท่อนบนเหรอคะ”

“ก็แกล้งทำเป็นว่าเธอกำลังแสดงอยู่ในหนังแนว ๆ นั้นไง” เขาหยุดกินไปครู่หนึ่งแล้วเธอก็เห็นว่าดวงตาของเขาเหม่อลอยไป “บางทีเธอน่าจะลองไปหาหนังแนว ๆ นั้นดูเป็นไอเดียนะ” เขากลืนน้ำลายอึกใหญ่อย่างยากลำบากขณะที่กำลังฝันกลางวันอยู่ “ดูสิว่านางเอกเขาโยกย้ายสะโพกยังไงตอนที่อยู่ในคาสิโนน่ะ แล้วก็ตอนที่เธองอตัวไปข้างหลังแล้วก็ถูไถหน้าอกของเธอเข้ากับหน้าเขา อืม...”

“เถ้าแก่ป๋อ!” เธอตะโกนเสียงดังลั่น รู้สึกคลื่นเหียนอยากจะอาเจียน “คุณเสียสติไปแล้วรึไง”

“เอ่อ...ฉันเผลออินไปหน่อย” เขามองเธออย่างรู้สึกผิด “ขอโทษที”

“เหอะ” เธอพึมพำกับตัวเอง รู้สึกเหมือนตัวเองต้องการจะไปอาบน้ำเสียเดี๋ยวนี้เลย

“ก็แค่ไปดูหนังมาสักสองสามเรื่อง เรียนรู้ท่าเต้น แล้วก็ไปทำงานในวันจันทร์แล้วก็ทำหน้าที่ของเธอซะ” เขาพูดแล้วก็เปิดแฟ้มเอกสารขึ้นมา “อาทิตย์นี้เรามีงานวันเกิดเข้ามาสองสามงานนะ เธอคิดว่าจะพอแต่งตัวเป็นช้างได้ไหมในวันเสาร์น่ะ”

“ช้างเหรอคะ” เธอส่ายหน้า “ไม่ค่ะ”

“ฉันว่าฉันคงจะต้องไปถามเสี่ยวเจียดูแล้วล่ะ” เขาทำหน้าแหย ๆ “โอเค เธอไปได้แล้ว”

“แล้วเมื่อไหร่ฉันจะได้เงินที่เหลือล่ะคะ” เธอเอ่ยถามเขา หยุดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเดินออกจากห้าองทำงานไป

“พวกเขาจะจ่ายให้เธอที่ทำงานนั่นแหละ” เขาพูดด้วยสีหน้าที่บ่งบอกว่าเขากำลังพูดความจริงอยู่ เพราะว่าเขากำลังดูหงุดหงิดมากแค่ไหน เธอก็รู้ดีว่าเขาหงุดหงิดเพราะว่านั่นมันหมายความว่าเขาจะไม่ได้มีโอกาสได้เอามือสกปรก ๆ ของเขามาแตะต้องเงินของเธออีกแล้ว

“ถ้าอย่างนั้นฉันก็แค่ไปที่บริษัทในวันจันทร์ แล้วก็บอกว่าฉันมารายงานตัวเพื่อทำงานเป็นผู้ช่วยคนใหม่ของคุณฉู่เฮ่าหรานใช่ไหมคะ”

“ใช่ เดี๋ยวฉันจะอีเมลที่อยู่ไปให้”

“แล้วเขาจะไม่สงสัยเหรอคะ”

“ไม่หรอก” เขาส่ายหน้า “อ้อ ใช่แล้ว วันจันทร์ก็ใส่ชุดสูทเซ็กซี่ ๆ ไปทำงานด้วยนะ”

“อะไรนะคะ”

“จำไว้นะ งานของเธอก็คือการยั่วยวนเขา เพื่อที่เขาจะได้ยอมให้เธอเต้นยั่วให้เขาดูในวันเสาร์ที่งานปาร์ตี้น่ะ”

“ฉันไม่ค่อยเข้าใจเลยจริง ๆ ว่านี่มันจะตลกได้ยังไงกัน”

เจิ้งลี่ซาถอนหายใจออกมาเบา ๆ เธอรู้ดีว่าเถ้าแก่ป๋อไม่แคร์หรอกว่าเธอจะคิดยังไง แต่เธอก็ไม่รู้จริง ๆ ว่านี่มันควรจะเป็นเรื่องตลกประเภทไหนกัน นี่มันไม่ใช่สิ่งที่เธอเคยทำมาก่อนเลยตอนที่ทำงานให้กับเถ้าแก่ป๋อและธุรกิจเอเจนซี่ของเขา ดูเหมือนว่าเถ้าแก่ป๋อกำลังจะรับลูกค้ารายใหม่ ๆ เข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ ที่ไม่ได้เป็นแค่การเซอร์ไพรส์วันเกิดธรรมดา ๆ อีกต่อไปแล้ว เธอเริ่มจะกังวลแล้วว่าตัวเองกำลังจะปล่อยให้เถ้าแก่ป๋อชักจูงเธอให้ถลำลึกลงไปในทางที่ผิด แล้วครั้งต่อไปเขาจะขอให้เธอทำอะไรอีกล่ะ กระโดดออกมาจากเค้กในสภาพเปลือยเปล่าแล้วก็เสนอเงินให้เธอห้าพันหยวนอย่างนั้นเหรอ

“มันไม่ใช่เรื่องของเราสักหน่อย” เถ้าแก่ป๋อยักไหล่ “เราก็แค่รับเงินก็เท่านั้นเอง”

“แล้วนั่นมันเป็นวิธีที่เราอยากจะใช้ชีวิตจริง ๆ เหรอคะ” เธอเอ่ยถามเขาเสียงเบา “ทำอะไรก็ได้ทั้งนั้นเพื่อที่จะได้เงินมาเหรอคะ เราอยากจะขายวิญญาณของตัวเองเพื่อเงินไม่กี่หยวนจริง ๆ เหรอคะ”

“ฉันก็ไม่รู้เรื่องของเธอหรอกนะ” เถ้าแก่ป๋อพูดขณะที่เคี้ยวเกี๊ยวในปากต่อไป “แต่ฉันคิดว่าฉันคงจะมีความสุขมากแน่ ๆ ที่จะได้ค่าจ้างให้ไปอ่อยผู้ชายหล่อ ๆ ถ้าฉันเป็นเธอน่ะนะ ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ค่อยจะมีใครเข้ามาในชีวิตเลยนี่นา”

“ฉันของตัวก่อนค่ะเถ้าแก่ป๋อ” เธอพูดอย่างฉุนเฉียวแล้วก็หันหลังเพื่อจะเดินออกจากห้องทำงานของเขาไปให้พ้น ๆ ก่อนที่เธอจะเผลออาละวาดใส่เขาเข้า แต่แล้วก็หันกลับไปหาเขาอีกครั้งเมื่อนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ “เอ้อ แล้วก็ ฉันขอสำเนาสัญญาที่เพิ่งจะเซ็นไปเมื่อกี้นี้ด้วยนะคะ”

“เออ ๆ เดี๋ยวฉันจะอีเมลไปให้”

เถ้าแก่ป๋อเหลือบตามองบน แล้วเธอก็เดินออกจากออฟฟิศไปพลางนึกสงสัยอยู่ในใจว่าตัวเองกำลังจะเข้าไปพัวพันกับเรื่องบ้าอะไรอยู่กันแน่ เธอรีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรหาหลินซีเพื่อช่วยให้ตัวเองใจเย็นลง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • กลรักกับดักลวงใจ   บทที่ 31 บ้านตระกูลฉู่ 2

    น้ำเสียงของเขาแหบพร่าขณะโน้มใบหน้ามากระซิบชิดริมหู ลมหายใจอุ่นร้อนที่เป่ารดทำให้ผิวเนื้อของเธอซาบซ่านไปทั่วร่าง ขาแข้งพลันอ่อนแรงขึ้นมาดื้อ ๆเขาไม่รอคำตอบ แต่กลับจงใจเว้นจังหวะ ก่อนจะเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำยั่วยวน“ครั้งหน้าที่คุณอยู่บนเตียงผม ผมจะมัดคุณไว้ไม่ให้ดิ้นไปไหน แล้วจะบีบวิปครีมลงบนยอดอกของคุณ แล้วก็จะ...”“ฉู่เฮ่าหราน!” เธอตัดบทเขาเสียงเข้ม ใบหน้าของเธอร้อนเห่อเมื่อเหลือบไปเห็นซ่งจื่อหานกับฉู่ลี่เหยียนที่มองมาจากอีกมุมห้องด้วยแววตาสงสัยใคร่รู้ พวกเธอกำลังเปิดอัลบั้มรูปสมัยมัธยมดูกันอยู่ระหว่างรอเล่นเกมต่อ“ครับ...คุณเจิ้งลี่ซา” ฉู่เฮ่าหรานก้าวถอยหลังเล็กน้อย ก่อนจะส่งยิ้มซื่อตาใสกลับมาให้“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เธอตวาดเสียงเบาพลางทุบหน้าอกเขาเบา ๆ เป็นเชิงเตือน เมื่อเห็นว่าสองสาวทางโน้นแกล้งทำเป็นไม่สนใจ“หยุดอะไรครับ” เขายิ้มมุมปาก ใช้นิ้วลากไล้ผ่านริมฝีปากของเธอแผ่วเบา“คุณทำแบบนี้ไม่ได้นะ!” ดวงตาของเธอฉายแวววาวโรจน์ขณะเหลือบมองไปทางสองสาวอีกครั้ง นี่เขาคิดจะเล่นอะไรกันแน่ คิดจะแฉเรื่องของเราหรือไง!ความร้อนวาบแล่นไปทั่วใบหน้าและช่องท้องขณะที่เธอยืนเผชิญหน้ากับชายหนุ่มโอ

  • กลรักกับดักลวงใจ   บทที่ 31 บ้านตระกูลฉู่ 1

    บรรยากาศบนโต๊ะอาหารของบ้านตระกูลฉู่อบอุ่นเกินกว่าที่เธอคาดไว้มาก เจิ้งลี่ซาแทบไม่เชื่อว่าตัวเองจะได้รับการต้อนรับอย่างดีถึงเพียงนี้ โดยเฉพาะซ่งจื่อหานที่น่ารักและเป็นมิตรกับเธอจนน่าแปลกใจ แต่ก็คงเพราะตอนนี้ที่ความสัมพันธ์ของเธอกับฉู่เฮ่าชวนลงตัวแล้ว หญิงสาวก็คงหมดห่วงเรื่องเธอไปกระมังเจิ้งลี่ซาหัวเราะตามบทสนทนาสนุก ๆ ระหว่างกู้หยุนเฟิงกับฉู่ลี่เหยียน แต่ในขณะเดียวกันก็ลอบสังเกตท่าทีของกู้เทียนอี้อยู่ไม่วางตา ทุกอิริยาบถของเขาคือข้อมูลชั้นดีที่จะต้องเอาไปรายงานให้หลินซีฟังหลังจากมื้อค่ำจบลง ทุกคนก็ย้ายมาตั้งวงกันที่โต๊ะไพ่นกกระจอกกลางห้องนั่งเล่น เสียงล้างไพ่ดังกรอกแกรกสร้างบรรยากาศครื้นเครงขึ้นมาทันที“คุณลี่ซามาเล่นด้วยกันสิคะ ขาดอยู่คนหนึ่งพอดีเลย” ฉู่ลี่เหยียนหันมาถามเธอ หลังจากเถียงเรื่องกฎการนับแต้มกับฉู่เฮ่าชวนจบไปหมาด ๆ“ฉันเหรอคะ” คนถูกชวนชะงักไปเล็กน้อยเมื่อจู่ ๆ ทุกสายตาก็จับจ้องมาที่เธอเป็นตาเดียว ความรู้สึกเหมือนถูกสปอตไลท์ส่องทำให้เธอไปไม่เป็นชั่วขณะหญิงสาวเผลอหันไปสบตาฉู่เฮ่าหรานโดยไม่รู้ตัว เขาส่งยิ้มบาง ๆ มาให้ ราวกับจะบอกเป็นนัย

  • กลรักกับดักลวงใจ   บทที่ 32 ปัญหาที่โผล่เข้ามา

    เจิ้งลี่ซาหาจังหวะบอกลาฉู่ลี่เหยียนกับซ่งจื่อหานแบบสั้น ๆ โดยอ้างว่ารู้สึกไม่ค่อยสบายและอยากกลับไปพักผ่อน โดยมีฉู่เฮ่าหรานอาสามาส่งเธอเอง เธอก้าวออกจากบ้านตระกูลฉู่ที่ยังคงอบอวลไปด้วยเสียงหัวเราะ มาสู่ความเงียบสงบและอากาศเย็นสบายของค่ำคืนภายนอก เขากุมมือเธอไว้ตั้งแต่อยู่ในบ้าน และยังไม่ยอมปล่อยจนกระทั่งเดินมาถึงรถของเขาบรรยากาศในรถเงียบสงัด มีเพียงเสียงเพลงเบา ๆ จากเครื่องเสียง แต่ไม่ใช่ความเงียบที่น่าอึดอัด กลับเป็นความเงียบที่เต็มไปด้วยแรงดึงดูดและความรู้สึกที่อัดแน่นอยู่ภายใน แสงไฟจากท้องถนนสาดส่องเข้ามาเป็นระยะ ขับเน้นใบหน้าหล่อเหลาของเขาให้ดูเด่นชัดในความมืด หัวใจของเธอยังคงเต้นระรัวกับคำสารภาพที่จริงจังของเขา...‘ผมชอบคุณนะ เจิ้งลี่ซา ผมชอบคุณมาก’... มันยังคงดังก้องอยู่ในหัวของเธอราวกับแผ่นเสียงตกร่องเมื่อรถเลี้ยวเข้าที่จอดรถใต้ดินของอพาร์ตเมนต์ที่เธอพักอยู่ เขาก็ดับเครื่องยนต์ แต่ยังไม่มีใครขยับ ทั้งสองนั่งนิ่งอยู่ในความเงียบ ปล่อยให้ความรู้สึกระหว่างกันก่อตัวขึ้นอย่างช้า ๆ จนกระทั่งเขาเป็นฝ่ายเอื้อมม

  • กลรักกับดักลวงใจ   บทที่ 30 ฉันขอลาออก 2

    “ไม่นะ!” หลินซีปฏิเสธทันควัน แต่แก้มกลับแดงก่ำ“แปลว่าเรื่องของแกกับกู้เทียนอีนี่ไม่มีลุ้นเลยว่างั้น”“ลี่ซา! หยุดเลยนะ! ไม่ต้องพูดถึงอีตาหยิ่งยโสน่าหมั่นไส้คนนั้นเลย”“แต่แกก็อยากจะขย้ำเขาล่ะสิ”“ไม่! ไม่ได้อยากซะหน่อย” เพื่อนปฏิเสธ แต่ก็หลุดหัวเราะออกมา“แต่ว่าคืนนี้ถ้าแกเจอเขา ก็ถ่ายรูปส่งมาให้ดูด้วยนะ”“แหม...แกนี่มัน...” เจิ้งลี่ซาหัวเราะ “ฉันยังแปลกใจไม่หายเลยที่ฉู่เฮ่าชวนกับซ่งจื่อหานยังชวนฉันไปคืนนี้ด้วยซ้ำ นี่มันการพบปะกันในครอบครัวเขานะ แล้วทุกคนก็รู้ว่าฉันกับฉู่เฮ่าชวนแค่เล่นละครกัน ฉันว่ามันแปลกชะมัดเลย”“แล้วพวกเขาก็ยังไม่รู้ใช่ไหมว่าแกเคยเดตกับฉู่เฮ่าหราน”“ก็เราไม่ได้เดตกันจริง ๆ นี่ แต่ก็นะ พวกเขาไม่รู้หรอกว่าเราเคยนอนด้วยกัน” เธอครางออกมา “โอ๊ยยยย...หลินซี ช่วยย้ำให้ฟังอีกทีสิว่าฉันจะไปที่นั่นทำไม”“ก็ไปเจอฉู่เฮ่าหรานไงล่ะยัยบ้า” เพื่อนหัวเราะ “แล้วก็...ไปสืบเรื่องกู้เทียนอี้มาให้ฉันด้วย”“อ๋อ...งี้ก็ยอมรับแล้วสิว่าชอบเขาน่ะ” เธอพูดอย่างรู้ทัน“ฉันไม่ได้บอกว่าชอบซะหน่อย แค่อยากรู้ข้อมูลนิด

  • กลรักกับดักลวงใจ   บทที่ 30 ฉันขอลาออก 1

    “ใจหายจังเลยนะหลินซี” เจิ้งลี่ซาพึมพำขณะสวมเสื้อผ้า“ฉันรู้ว่าที่จริงฉันไม่ควรมานั่งดราม่าแบบนี้เลยนะ ควรจะดีใจกับซ่งจื่อหานและฉู่เฮ่าชวนด้วยซ้ำ คือ...พวกเขาสองคนเหมาะสมกันดี ควรจะได้ลงเอยกันอย่างมีความสุข แต่ฉันก็อดใจหายไม่ได้อยู่ดี ที่ต่อไปนี้จะไม่มีฉันอยู่ในชีวิตของพวกเขาอีกแล้ว”“อืม...” หลินซีทำหน้าเห็นใจ “บางทีพวกเขาก็อาจจะยังอยากเป็นเพื่อนกับแกอยู่ก็ได้นะ”“ให้ซ่งจื่อหานมารู้ทีหลังว่าฉันเป็นแค่ตัวละครที่แฟนเขาจ้างมาแสดงละครตบตาเนี่ยนะ?” เธอทำหน้าแหย ๆ “ไม่มีทางหรอก”หลินซีเดินมานั่งลงบนเตียงของเพื่อน “เอาจริง ๆ นะ ฉันยังอึ้งอยู่เลยที่เรื่องมันจบลงด้วยดีได้ ฉันนึกว่าซ่งจื่อหานจะอาละวาดบ้านแตกแล้วสลัดฉู่เฮ่าชวนทิ้งไปซะอีก”“ซ่งจื่อหานกับฉันไม่เหมือนกันนี่” เจิ้งลี่ซาหัวเราะเบา ๆ ขณะติดตะขอสร้อยคอ “คงมีแต่ฉันล่ะมั้ง ที่จะสติแตกกับเรื่องโกหกได้ขนาดนั้น”“ใช่ แกมันเกินเบอร์ไปหน่อย” เพื่อนหัวเราะตาม ไม่คิดที่จะปลอบเพื่อนเลยแม้แต่น้อยจนได้รับค้อนจากเพื่อนกลับมา “อืม...แต่ก็ต้องดูด้วยว่าใครเป็นคนโกหก ถ้าเป็นผู้ชายที่มันไม่ได้เรื่องน่ะนะ!”

  • กลรักกับดักลวงใจ   บทที่ 29 คนผีเข้าผีออก 3

    “ฉันเห็นคุณ แล้วฉันก็เห็นคุณจื่อหานด้วย” ลมหายใจของเธอสะดุด “และวันนี้คุณจื่อหานตบลูกได้สุดยอดที่สุดอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง”ฉู่เฮ่าหรานยิ้มมุมปาก “อืม...ครั้งนี้ผมยอมให้ก็ได้”“แหม ช่างเป็นสุภาพบุรุษจริงนะคะ”เธอหัวเราะพลางผลักอกเขาเบา ๆ เป็นจังหวะเดียวกับที่เห็นซ่งจื่อหานมองมาพอดี แล้วเธอก็นึกถึงบางอย่างขึ้นมาได้“จริงสิ คุณจื่อหาน ดูนี่สิคะ” เธอหันไปหาซ่งจื่อหานแล้วชูข้อมือที่มีรอยแดงเป็นปื้นให้ดูเหมือนเป็นเหรียญกล้าหาญจากการแข่ง “สงสัยเราจะทุ่มสุดตัวไปหน่อย”จังหวะนั้นฉู่เฮ่าชวนเดินเข้ามาสมทบพอดี เขาช่วยพยุงซ่งจื่อหานให้ลุกขึ้นยืน ก่อนจะเหลือบมองรอยแดงบนข้อมือของเจิ้งลี่ซาเช่นกัน เจิ้งลี่ซารู้สึกผิดขึ้นมาเล็กน้อยจึงก้าวถอยหลัง แต่เมื่อหันไปสบตาฉู่เฮ่าหรานอีกครั้ง ก็เห็นเพียงแววตาขบขันที่เขาส่งมาให้เธอ“พกกุญแจมือนั่นมาอีกแล้วเหรอ เจิ้งลี่ซา” ฉู่เฮ่าหรานเอ่ยทักพลางยิ้มกริ่มที่มุมปาก“มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะคะ” เธอรีบปฏิเสธ แก้มร้อนผ่าวขึ้นมาทันที“อ้อ?” เขาเลิกคิ้ว “แล้วคุณว่าผมคิดอะไรอยู่ล่ะ”“มัน…มันไม่เกี่ยวกับฉันกั

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status