แชร์

ตอนที่ 3 : หาใช่หลี่ซ่างเอินคนเดิม

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-09-15 23:57:33

ตอนที่

[2]

หาใช่หลี่ซ่างเอินคนเดิม

สามวันผ่านไปราวกับสายลมพัดผ่าน

หลี่ซ่างเอินยังคงปฏิบัติตนเป็นคุณหนูรองผู้แสนอ่อนหวานและเชื่อฟังดังเช่นทุกวัน นางตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อไปปรนนิบัติหลี่ซวงอี๋ที่เรือนใหญ่ ช่วยเลือกเครื่องประดับและเสื้อผ้าด้วยใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความชื่นชมอย่างจริงใจ จนแม้แต่รุ่ยรุ่ยและอิ๋งอิ๋ง สองสาวใช้ข้างกายของคุณหนูใหญ่ยังต้องลอบเบ้ปากด้วยความหมั่นไส้ในความประจบประแจงที่แสนโง่งมของคุณหนูรอง โดยที่ไม่รู้เลยว่าหลี่ซ่างเอินนั้นคิดใช้ปิ่นปักผมปลิดชีพหลี่ซวงอี๋ทางความคิดไปกี่ครั้งแล้ว

“เอินเออร์ วันนี้เจ้าดูงดงามเป็นพิเศษนะ” หลี่ซวงอี๋เอ่ยชมพลางสำรวจเงาสะท้อนของตนเองและน้องสาวในกระจกทองเหลือง ทว่าในใจนางกำลังเย้ยหยัน 

งดงามไปเถิด... เพราะนี่จะเป็นวันสุดท้ายที่เจ้าจะได้เห็นใบหน้างดงามนี้

หลี่ซ่างเอินคลี่ยิ้มหวานจนดวงตาหยีลงเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว 

“เพราะจะได้ไปไหว้พระกับพี่ใหญ่อย่างไรเล่าเจ้าคะ ข้าตื่นเต้นจนนอนไม่หลับเลย”

“ดีแล้ว” หลี่ซวงอี๋พยักหน้าอย่างพึงพอใจ 

“ของไหว้ที่เราต้องนำไปมีจำนวนมากนัก ข้าจึงสั่งให้เตรียมรถม้าไว้สองคัน เราคงต้องนั่งแยกกันไปนะ จะได้คอยดูแลความเรียบร้อย”

“เจ้าค่ะพี่ใหญ่” หลี่ซ่างเอินรับคำอย่างว่าง่าย ไม่มีการซักถามหรือแสดงความสงสัยใด ๆ ทั้งสิ้น

เมื่อทุกอย่างพร้อมสรรพ สองพี่น้องก็เดินออกจากจวนไปยังรถม้าที่จอดรออยู่หน้าประตู หลี่ซ่างเอินหันไปส่งยิ้มให้ไจ้หลินที่ยืนรออยู่ข้างรถม้าคันเล็กกว่า ก่อนจะก้าวขึ้นไปอย่างนุ่มนวล โดยแสร้งทำเป็นไม่ทันได้สังเกต รอยยิ้มอันเย็นเยียบที่ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหลี่ซวงอี๋ก่อนที่อีกฝ่ายจะก้าวขึ้นไปยังรถม้าคันใหญ่ของตน

ขบวนรถม้าเคลื่อนตัวออกจากจวนตระกูลหลี่มุ่งหน้าไปทางอารามหยวนทงที่ตั้งอยู่นอกเมืองหลวง แรกเริ่มยังคงวิ่งตามกันไปบนถนนเส้นหลัก แต่เมื่อพ้นเขตชุมชนไปได้ไม่นาน รถม้าคันหน้าของหลี่ซวงอี๋ก็เร่งความเร็วขึ้นทิ้งห่างไป ขณะที่รถม้าของหลี่ซ่างเอินกลับเลี้ยวเข้าสู่เส้นทางลัดที่เล็กและเปลี่ยวร้างกว่าอย่างเห็นได้ชัด

“คุณหนู... เหตุใดรถม้าของเราถึงมาทางนี้เล่าเจ้าคะ” ไจ้หลินเอ่ยถามด้วยความกังวลใจ เส้นทางนี้รกร้างและมีป่าทึบขนาบสองข้างทาง

หลี่ซ่างเอินยังคงมีสีหน้าสงบนิ่ง “คงเป็นทางลัดกระมัง พี่ใหญ่คงอยากให้เราไปถึงเร็ว ๆ อย่ากังวลไปเลยไจ้หลิน”

ทว่ายังไม่ทันที่นางจะกล่าวจบ รถม้าก็หยุดลงกะทันหันจนทั้งสองเสียหลักเกือบล้มคะมำ เสียงร้องด้วยความตกใจของสารถีดังขึ้นก่อนจะเงียบหายไป ตามมาด้วยเสียงฝีเท้าหนัก ๆ ของคนกลุ่มหนึ่งที่กำลังล้อมรถม้าเอาไว้

“ลงมา!” เสียงหยาบกระด้างตะคอกสั่งจากด้านนอก

ไจ้หลินหน้าซีดเผือด นางรีบขยับกายไปบังคุณหนูของตนไว้ 

“คุณหนู อย่าออกไปนะเจ้าคะ!”

แต่ช้าไปเสียแล้ว…

ม่านรถถูกกระชากเปิดออกอย่างแรง เผยให้เห็นใบหน้าถมึงทึงของกลุ่มโจรป่าราวห้าหกคน พวกมันมองมายังสตรีสองนางในรถม้าด้วยสายตาหื่นกระหายราวกับสุนัขป่าเจอเหยื่ออันโอชะ

“หน้าตางดงามไม่เบาเลยนี่หว่า” โจรคนหนึ่งพูดพลางเลียริมฝีปาก 

“นายหญิงบอกว่าให้พวกเราสนุกได้เต็มที่เช่นนั้นก็ลุยเลย”

“จัดการนังบ่าวรับใช้นี่ก่อน!” ก่อนที่หัวหน้าโจรจะตวาดกร้าว

จากนั้นโจรสองคนก็พุ่งเข้ามาในรถม้าแคบ ๆ หมายจะฉุดกระชากไจ้หลินออกไป ไจ้หลินกรีดร้องสุดเสียง นางทั้งกัดทั้งทึ้ง ใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีขัดขืนเพื่อปกป้องผู้เป็นนาย ชาติที่แล้วนางก็ทำเช่นนี้…

จนสุดท้ายต้องจบชีวิตลงอย่างน่าสงสาร

“อย่าทำบ่าวของข้า!” หลี่ซ่างเอินตะโกนขึ้น เสียงของนางสั่นเครือเล็กน้อย แต่ดวงตากลับจับจ้องไปยังกระบี่ที่เหน็บอยู่ข้างเอวของหัวหน้าโจรที่ยืนคุมเชิงอยู่นอกรถ

“หุบปากไปเลยนังหนู! เดี๋ยวก็ถึงตาเจ้าแล้ว” โจรอีกคนย่างสามขุมเข้ามาหานาง แววตาเต็มไปด้วยความคุกคาม 

ทว่าในเสี้ยววินาทีที่โจรผู้นั้นยื่นมือหยาบกร้านมาหมายจะคว้าแขนของหลี่ซ่างเอิน เหตุการณ์ที่ไม่มีผู้ใดคาดคิดก็บังเกิดขึ้น!

ร่างที่ดูบอบบางอรชรพลันเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วจนน่าเหลือเชื่อ หลี่ซ่างเอินไม่ได้ถอยหนี แต่นางกลับพุ่งเข้าหาโจรผู้นั้น! มือเรียวงามคว้าจับข้อมือของมันไว้แน่น ก่อนจะใช้ทักษะการจับยึดข้อต่อที่เรียนรู้มาจากโลกอนาคตบิดอย่างแรง!

กร๊อบ!

เสียงกระดูกข้อมือหักดังลั่น พร้อมกับเสียงร้องโหยหวนของโจรผู้นั้นที่ดังตามมาติด ๆ

!!!

ทุกคนในที่นั้นต่างตกตะลึงจนนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ ไม่มีใครคาดคิดว่าคุณหนูผู้ดูเปราะบางราวตุ๊กตากระเบื้องเคลือบจะลงมือได้อย่างเฉียบขาดและรุนแรงถึงเพียงนี้

หลี่ซ่างเอินไม่ปล่อยให้โอกาสทองหลุดลอยไป นางใช้ร่างของโจรที่กำลังเจ็บปวดเป็นที่กำบัง ก่อนจะพุ่งตัวออกจากรถม้า ท่าทางนั้นว่องไวราวกับภูตผี เป้าหมายของนางคือกระบี่ที่เอวของหัวหน้าโจร!

ฉึบ!

เพียงพริบตาเดียว กระบี่เล่มนั้นก็มาอยู่ในมือนางแล้ว!

ในตอนนั้นเองที่หัวหน้าโจรเพิ่งจะตั้งสติได้ 

“นังนี่มันมีวรยุทธ์! ล้อมมันไว้!”

ทว่ามันช้าเกินไปแล้ว! 

หลี่ซ่างเอินในยามนี้ไม่ใช่คุณหนูผู้อ่อนแออีกต่อไป นางคือวิญญาณนักสู้ที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างโชกโชน!

คมกระบี่ในมือสะท้อนแสงวูบวาบราวกับมีชีวิต นางตวัดมันออกไปอย่างรวดเร็วและแม่นยำ เลือดสาดกระเซ็นเป็นสายเมื่อปลายกระบี่กรีดผ่านลำคอของโจรที่อยู่ใกล้มือที่สุด มันล้มลงขาดใจตายทันทีโดยไม่มีโอกาสได้ส่งเสียงร้องด้วยซ้ำ

ภาพนั้นทำให้โจรที่เหลือหน้าถอดสี พวกมันเป็นเพียงโจรป่ากระจอกที่รับงานมาเพื่อเงิน ไม่ได้มีฝีมือสูงส่งอะไรนัก การเจอกับ ‘ยอดฝีมือ’ ที่ซ่อนรูปเช่นนี้ทำให้ขวัญกระเจิงไปหมดสิ้น

“ฆ่ามัน!” หัวหน้าโจรคำรามสั่งทั้งที่เสียงเริ่มสั่น

หลี่ซ่างเอินแค่นเสียงเย็น นางไม่ได้รอให้พวกมันตั้งหลักได้ ลงมือวาดลวดลายเพลงกระบี่ที่ทั้งงดงามและอำมหิตเข้าสังหารพวกมันทีละคน การเคลื่อนไหวของนางลื่นไหลราวสายน้ำแต่แฝงไว้ด้วยพลังทำลายล้างดุจพายุ ร่างของเหล่าโจรล้มลงกองกับพื้นทีละคน... 

!!!

ไจ้หลินที่เพิ่งตั้งสติได้และลงมาจากรถม้า ได้แต่มองภาพตรงหน้าด้วยความอ้าปากค้าง 

นี่คือคุณหนูของนางจริงหรือ? 

คุณหนูผู้อ่อนหวานที่แม้แต่จะเด็ดดอกไม้ยังต้องคิดแล้วคิดอีก ทว่าบัดนี้กลับยืนอยู่ท่ามกลางกองซากศพของเหล่าโจร ใบหน้าและอาภรณ์สีอ่อนเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดสด ๆ แต่แววตาของนางกลับนิ่งสงบอย่างน่าประหลาด

ไม่นานนักโจรคนสุดท้ายก็ล้มลงสิ้นใจด้วยสภาพน่าอเนจอนาถ หลี่ซ่างเอินสะบัดปลายกระบี่เพื่อสลัดคราบเลือดออก ก่อนจะหันมามองไจ้หลินที่ยืนตัวแข็งทื่ออยู่

“คุณหนู...” ไจ้หลินเอ่ยเสียงสั่นเครือ ไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกหวาดกลัวหรือทึ่งดี

หลี่ซ่างเอินคลี่ยิ้มบางเบา รอยยิ้มนั้นขัดกับภาพลักษณ์นักฆ่าเมื่อครู่อย่างสิ้นเชิง “ไจ้หลิน ตกใจหรือไม่”

ยังไม่ทันที่ไจ้หลินจะได้ตอบคำถาม เสียงครืน ๆ ของล้อรถม้าจำนวนมากและเสียงฝีเท้าม้าที่ดังกระหึ่มขึ้นจากอีกฟากของป่าก็ทำให้หลี่ซ่างเอินต้องหันไปมอง แววตาของนางเป็นประกายวาบขึ้นมาทันที

มาแล้ว...

“พวกเรารีบไปกันเถิด” นางกล่าวกับไจ้หลินอย่างเร่งรีบ

“ไป... ไปไหนหรือเจ้าคะ” ไจ้หลินยังคงงุนงง

หลี่ซ่างเอินยกยิ้มเจ้าเล่ห์ขึ้นที่มุมปาก เป็นรอยยิ้มที่ทำให้ใบหน้าที่เปื้อนเลือดของนางดูมีเสน่ห์ลึกลับอย่างประหลาด 

“ไปเปลี่ยนเส้นทางชีวิตกัน”

กล่าวจบหญิงสาวก็ไม่รอช้า รีบฉุดมือไจ้หลินให้วิ่งตามมาทันที นางไม่ได้วิ่งกลับไปทางเดิม แต่กลับมุ่งหน้าทะลุป่าไปยังทิศทางที่ได้ยินเสียงขบวนเดินทางนั้น

ไจ้หลินที่ยังคงสับสนได้แต่วิ่งตามผู้เป็นนายไปอย่างงุนงง ในใจของนางเต็มไปด้วยคำถามนับร้อยนับพัน เหตุใดตนจึงรู้สึกว่า... นี่ไม่ใช่คุณหนูที่ตนรู้จักมาตลอดหลายปี

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • กลับมาครั้งนี้โทษทีข้าไม่ใช่เหยื่อ!   ตอนพิเศษที่ 3 : ทายาทของเทพสงคราม (นางมารน้อย)

    ตอนพิเศษที่[3]ทายาทของเทพสงคราม (นางมารน้อย)สามเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็ว...ช่วงเวลาที่เมืองเซวียเต็มไปด้วยความสงบสุขและความหวานชื่น แต่แล้วก็มีเทียบเชิญจากวังหลวงส่งมาถึง... งานฉลองวันพระราชสมภพของไทเฮากำลังจะมาถึงอีกครั้ง ทำให้ซ่งเว่ยหลิงและหลี่ซ่างเอินจำต้องเดินทางกลับสู่เมืองหลวงไทเฮาเมื่อได้เห็นหน้าสะใภ้คนโปรดก็แทบจะวิ่งเข้ามากอดด้วยความคิดถึง พระองค์จับมือหลี่ซ่างเอินเอาไว้ไม่ยอมปล่อย คอยถามไถ่สารทุกข์สุกดิบอย่างละเอียดลออ ก่อนที่สุดท้าย... สายตาที่คาดคั้นจะหันไปทางโอรสองค์เล็กของพระองค์“เว่ยหลิง... เรื่องที่แม่ฝากฝังไปถึงไหนแล้ว”ซ่งเว่ยหลิงถึงกับหน้าเจื่อนลงทันที เขากระแอมไอออกมาเบา ๆ อย่างเก้อเขิน “เอ่อ... เสด็จแม่ ลูก... ลูกก็พยายามอย่างเต็มที่แล้วพ่ะย่ะค่ะ แต่... มันยังไม่มีวี่แววเลย”ไทเฮาส่ายพระพักตร์อย่างระอาใจ พระองค์ขยับพระโอษฐ์แต่ไม่ได้เปล่งเสียงออกมาเป็นคำพูดที่ชัดเจนว่า ไม่ได้เรื่อง! ทำเอาเทพสงครามผู้ยิ่งใหญ่ถึงกับหน้าแดงก่ำ ไม่กล้าสบพระเนตรพระมารดางานเลี้ยงฉลองวันพระราชสมภพของไทเฮาถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ แขกเหรื่อและเชื้อพระวงศ์มากมายมาร่วมถวายพระพร ในงานนี้ห

  • กลับมาครั้งนี้โทษทีข้าไม่ใช่เหยื่อ!   ตอนพิเศษที่ 2 : การต่อสู้ในโลกที่ไม่คุ้นเคย

    ตอนพิเศษที่[2]การต่อสู้ในโลกที่ไม่คุ้นเคยคืนหนึ่งในตำหนักเซวียอ๋องที่เงียบสงบ...หลังจาก ‘ทำภารกิจ’ ที่ได้ให้สัญญาไว้กับไทเฮาเสร็จสิ้นลง ซ่งเว่ยหลิงและหลี่ซ่างเอินก็นอนกอดกันอยู่บนเตียงกว้างอย่างมีความสุข ความเหนื่อยล้าและเรื่องราววุ่นวายที่ผ่านมาทำให้ทั้งสองค่อย ๆ ผล็อยหลับไปในอ้อมแขนของกันและกันทว่าในนิทรานั้นเอง... จิตของพวกเขาทั้งสองกลับถูกดึงไปยังสถานที่แปลกประหลาดแห่งหนึ่ง...หลี่ซ่างเอินหลังจากที่สิ้นลมหายใจในห้องขังท้ายตำหนัก นางก็ได้ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง แต่ที่นี่ไม่ใช่ปรโลกที่นางเคยจินตนาการไว้ มันคือโลกที่เต็มไปด้วยแสงสี ตึกรามบ้านช่องสูงเสียดฟ้า นางพบว่าตนเองอยู่ในร่างของหญิงสาวผู้หนึ่งที่หน้าตาเหมือนนางราวกับเป็นคนคนเดียวกัน แต่กลับไม่มีใครรู้จักนางเลยแม้แต่คนเดียว นางกลายเป็นคนแปลกหน้าในโลกที่แปลกประหลาดและแล้ววันหนึ่ง นางก็ได้เห็นเรื่องราวชีวิตของตนเองถูกฉายผ่าน ‘จอสี่เหลี่ยม’ ประหลาด มันเล่าเรื่องราวตั้งแต่เด็กจนโต ความใสซื่อ ความโง่เขลา การถูกหลอกใช้ การถูกทำร้ายจนเสียโฉม และจุดจบอันน่าสลดใจในห้องขัง... นางได้เห็นความจริงทั้งหมดด้วยสายตาของบุคคลที่สาม ได้เห็นรอยย

  • กลับมาครั้งนี้โทษทีข้าไม่ใช่เหยื่อ!   ตอนพิเศษที่ 1 : แผนการลองใจ (ที่ล้มไม่เป็นท่า)

    ตอนพิเศษที่[1]แผนการลองใจ (ที่ล้มไม่เป็นท่า)หลังจากกลับมาถึงเมืองเซวีย ชีวิตของซ่งเว่ยหลิงและหลี่ซ่างเอินก็เข้าสู่ช่วงเวลาแห่งการเรียนรู้ซึ่งกันและกันอย่างแท้จริง คราวนี้ไม่มีหน้ากากแห่งความใสซื่อมาบดบัง ไม่มีภารกิจแก้แค้นมาเป็นเป้าหมายหลัก มีเพียงสามีภรรยาที่กำลังค่อย ๆ ค้นพบตัวตนที่แท้จริงของอีกฝ่ายซ่งเว่ยหลิงพบว่าพระชายาของเขานั้นน่าสนใจยิ่งกว่าที่เขาเคยจินตนาการไว้หลายเท่านัก นางไม่ได้มีเพียงความงามและความฉลาดหลักแหลม แต่ยังมีความแข็งแกร่งและเด็ดเดี่ยวที่ซ่อนอยู่ภายใต้ท่าทีที่สงบเยือกเย็น ในยามว่างจากการช่วยเขาวางแผนพัฒนาเมือง ทั้งสองมักจะใช้เวลาอยู่ในลานฝึกซ้อมส่วนตัว“อีกครั้งนะเพคะ” หลี่ซ่างเอินในชุดฝึกซ้อมที่ทะมัดทะแมงเอ่ยขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มท้าทาย ในมือของนางคือดาบไม้ที่ชี้ตรงมายังเขาซ่งเว่ยหลิงเลิกคิ้วขึ้น ก่อนจะตั้งท่ารับอย่างมั่นคง เขายอมรับว่าในช่วงแรกที่ประมือกัน เขายังคงออมมือให้นางอยู่บ้าง แต่หลังจากที่พ่ายแพ้ให้กับกลยุทธ์และเพลงดาบที่แปลกประหลาดแต่ร้ายกาจของนางไปหลายครั้งติด ๆ กัน บัดนี้... เขาต้องใช้ฝีมือทั้งหมดที่มีเพื่อต่อกรกับนาง!เพลงดาบของนางนั้นไม่เหมือนใคร

  • กลับมาครั้งนี้โทษทีข้าไม่ใช่เหยื่อ!   ตอนที่ 49 : บทสรุปของหนี้แค้น (ตอนจบ)

    ตอนที่[46]บทสรุปของหนี้แค้น (ตอนจบ)วันประหารมาถึงในที่สุด...หลี่ซู่ หวังฮุ่ยจี้ และหลี่ซวงจวน รวมถึงคนที่เกี่ยวข้องถูกคุมตัวมายังลานประหารกลางเมือง ท่ามกลางสายตาของผู้คนนับพันที่มามุงดูจุดจบของตระกูลที่เคยมีหน้ามีตา บรรยากาศเต็มไปด้วยเสียงสาปแช่งและสมน้ำหน้าหลี่ซู่นั่งคุกเข่าอยู่บนลานประหารด้วยแววตาที่เลื่อนลอยและว่างเปล่า เขาไม่ได้สนใจเสียงก่นด่ารอบข้างแม้แต่น้อย ในหัวของเขาเอาแต่ฉายภาพเหตุการณ์เมื่อสองวันก่อนซ้ำไปซ้ำมา... เหตุการณ์ที่บุตรสาวซึ่งเขาละเลยมาตลอดชีวิตได้มาหาเขาเป็นครั้งสุดท้ายในคุกหลวงวันนั้น... ประตูห้องขังของเขาถูกเปิดออก ร่างในอาภรณ์งดงามของหลี่ซ่างเอินเดินเข้ามาอย่างสง่างาม พร้อมกับกลุ่มชายชราในชุดหมอหลวงและหมอทั่วไปอีกหลายคนหวังฮุ่ยจี้ที่ถูกขังอยู่ด้วยกัน พอเห็นหน้าหมอเหล่านั้นก็ถึงกับใบหน้าซีดเผือดราวกับเห็นผี!‘ท่านพ่อ’ หลี่ซ่างเอินเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ ‘ท่านยังจำหมอเหล่านี้ได้หรือไม่ พวกเขาคือหมอที่เคยรักษาท่านแม่’ หลี่ซู่มองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ ก่อนที่เขาจะเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึงเมื่อได้ยินคำพูดต่อมาของบุตรสาว!‘และนอกจากนั้นพวก

  • กลับมาครั้งนี้โทษทีข้าไม่ใช่เหยื่อ!   ตอนที่ 48 : บทสนทนาสุดท้ายในห้องขังเดิม

    ตอนที่[45]บทสนทนาสุดท้ายในห้องขังเดิมแสงจันทร์สีเลือดสาดส่องผ่านช่องหน้าต่างเล็ก ๆ เข้ามาในห้องขังที่อับชื้นและเหม็นคาวเลือด หลี่ซวงอี๋นอนหายใจรวยรินอยู่บนพื้นฟางสกปรก ร่างกายของนางเต็มไปด้วยบาดแผลเหวอะหวะ ใบหน้าที่เคยงดงามบัดนี้ถูกกรีดทำลายจนไม่เหลือเค้าเดิม ความเจ็บปวดแล่นปราดไปทั่วร่างจนแทบจะทานทนไม่ไหว แต่น่าแปลกที่ความเจ็บปวดทางกายนั้นยังไม่เท่ากับความเจ็บปวดและอัปยศในใจนางแพ้แล้ว... แพ้อย่างราบคาบ...ทุกสิ่งทุกอย่างที่นางเคยไขว่คว้าได้พังทลายลงในพริบตา หญิงสาวคร่ำครวญกับตนเองเพียงลำพังก่อนที่จะได้ยินเสียงฝีเท้าแผ่วเบาที่ค่อย ๆ เดินเข้ามาใกล้... ในตอนแรกนางคิดว่าเป็นเพียงผู้คุมที่มาตรวจตรา แต่ฝีเท้านั้นกลับมาหยุดลงตรงหน้าห้องขังของนาง เงาร่างของใครผู้หนึ่งยืนนิ่งอยู่ในความมืดสลัว... ร่างนั้นสง่างามในอาภรณ์หรูหราที่ดูสูงค่า ตัดกับสภาพอันน่าสมเพชของนางโดยสิ้นเชิง “ใคร...” หลี่ซวงอี๋เค้นเสียงถามออกมาอย่างยากลำบาก ร่างนั้นค่อย ๆ ก้าวเข้ามาในแสงจันทร์ที่สาดส่องผ่านช่องลมเล็ก ๆ เผยให้เห็นใบหน้างดงามหมดจดที่นางทั้งเกลียดชังและคุ้นเคยเป็นอย่างดี... หลี่ซ่างเอิน! “น้อง... น้องรอง

  • กลับมาครั้งนี้โทษทีข้าไม่ใช่เหยื่อ!   ตอนที่ 47 : ละครฉากสุดท้าย

    ตอนที่[44]ละครฉากสุดท้ายข่าวการกลับมาของกองทัพเซวียอ๋องสร้างความโกลาหลและแตกตื่นไปทั่วทั้งตำหนักองค์ชายรอง! ซ่งซือเหยียนแทบจะสิ้นสติเมื่อได้ยินข่าวร้ายนั้น ความฝันอันหอมหวานของเขาพังทลายลงในพริบตา เขารู้ในทันทีว่าตนเองติดกับดักของเสด็จอาผู้ชาญฉลาดเข้าให้แล้ว!“เป็นไปได้อย่างไร! เขาชนะได้อย่างไร!” เขาทึ้งผมตัวเองอย่างบ้าคลั่ง “แล้วเหตุใดเขาจึงกลับมาเงียบ ๆ เขาต้องการจะทำอะไรกันแน่!”ในขณะที่องค์ชายรองกำลังสติแตกอยู่นั้น ที่คุกหลวง...หลี่ซู่ที่ถูกคุมขังมาหลายวันจนร่างกายซูบผอมและจิตใจย่ำแย่ ก็กำลังพยายามหาทางเอาตัวรอดอย่างสิ้นหวัง เขาใช้เส้นสายและเงินทองที่ยังพอมีเหลืออยู่ลักลอบส่งสารออกไปขอความช่วยเหลือจากองค์ชายรองผู้เป็นลูกเขย เขายังคงเชื่อมั่นว่าองค์ชายรองจะต้องหาทางช่วยเขาได้อย่างแน่นอนเพราะที่เขาตัดสินใจนำลงตนเองลงมาย่ำโคลนตมในครั้งนี้ก็เพราะว่าอีกฝ่ายเป็นคนยื่นข้อเสนอมา ข้อเสนอที่เย้ายวนใจทางด้านหวังฮุ่ยจี้ก็เอาแต่ร้องไห้ฟูมฟาย นางไม่ได้เป็นห่วงชะตากรรมของสามีหรือตระกูลแม้แต่น้อย แต่กลับเป็นห่วงบุตรสาวสุดที่รักอย่างหลี่ซวงอี๋ที่ถูกขังอยู่ที่ตำหนักองค์ชายรอง นางกลัวว่าบุตร

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status