เธอคือ "นักล่า" ผู้เชี่ยวชาญการหลอกลวง เพื่อชำระแค้นจากอดีต แต่เขากลับเป็น "ผู้คุมเกม" ที่รู้ทันทุกอย่างตั้งแต่ต้น และพร้อมจะใช้เธอเป็นเบี้ยในกระดานของเขาเอง ในเกมที่ต่างฝ่ายต่างซ่อนความจริง มีเพียง "หัวใจ" ที่จะบอกได้ว่าชัยชนะครั้งนี้...คือการได้แก้แค้น หรือการได้เธอมาครอบครอง
View Moreบทนำ
กับดักร้ายพ่ายรัก
นิ้วเรียวยาวของหญิงสาวแตะลงบนหน้าจอมือถืออย่างแผ่วเบา ภาพถ่ายในอดีตฉายชัดตรงหน้า ภาพที่ครอบครัวของเธอเคยสมบูรณ์แบบ เสียงหัวเราะของพ่อดังคลออยู่ในความทรงจำ ขณะที่รอยยิ้มอบอุ่นของแม่ก็พร่าเลือนไปกับหยดน้ำตาที่เอ่อล้น แต่ภาพเหล่านั้นก็สลายไปเมื่อภาพของชายคนหนึ่งปรากฎขึ้น
เมฆา...
ชื่อนี้ไม่ได้มีความหมายว่าท้องฟ้าที่กว้างใหญ่และสดใสอีกต่อไปแต่มันคือเงามืดที่บดบังชีวิตของเธอจนแทบมองไม่เห็นแสงสว่าง เขาคือมาเฟียผู้ทรงอำนาจที่อยู่เบื้องหลังความพินาศของครอบครัวเธอ เธอเฝ้ามองชีวิตของตัวเองพังทลายลงต่อหน้าต่อตา พ่อที่เคยเป็นเสาหลักกลับจากไปอย่างปริศนา แม่ที่เคยแข็งแรงกลับนอนซมอยู่บนเตียง
เธอเคยมีทุกอย่าง แต่ในชั่วพริบตาเดียวก็ไม่มีอะไรเหลือเลย
“เกมนี้มันเพิ่งจะเริ่มต้น และฉันจะทำให้มันจบลงด้วยมือของฉันเอง
ปริมลดาไม่ใช่นกน้อยที่ไร้รังอีกต่อไป แต่เธอกำลังจะกลายเป็นนักล่าที่เต็มไปด้วยคมมีดซ่อนไว้ภายใต้ความอ่อนหวาน เธอจะใช้ร่างกายและหัวใจเป็นเครื่องมือในการเข้าถึงเขา เพื่อทำลายเขาให้สิ้นซากในวันที่เขารักเธอมากที่สุด
เพราะเธอรู้ดีว่าการแก้แค้นที่เจ็บปวดที่สุดไม่ใช่การเอาชีวิต แต่คือการทำให้เขาต้องใช้ชีวิตที่เหลืออยู่โดยไม่มีเธอ
ก่อนจะอ่านตอนที่ 1 ขอแนะนำตัวละครก่อนนะคะ
ตัวละครหลัก
เมฆา (พระเอก) : มาเฟียหนุ่มผู้ทรงอำนาจและฉลาดเฉียบแหลม ภายนอกเย็นชาแต่ภายในมีปมในอดีตที่ซับซ้อน เขาใช้แผนการของนางเอกเป็นเครื่องมือในการแก้แค้น แต่สุดท้ายก็ตกหลุมรักเธอ
ปริมลดา (ปริม) (นางเอก) : หญิงสาวผู้เต็มไปด้วยความแค้น เธอเริ่มแผนการแก้แค้นเพื่อครอบครัว แต่กลับกลายเป็นเบี้ยในเกมของพระเอก แต่ด้วยไหวพริบและความเข้มแข็ง เธอจึงเอาตัวรอดและค้นพบความจริงในที่สุด
ตัวละครสมทบ
ธีรุตม์ นักธุรกิจใหญ่ที่มีเบื้องหลังที่น่ากลัว เขาคือผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังการทำลายครอบครัวของปริม และเป็นศัตรูตัวฉกาจของเมฆา
พิมพ์แพร ลูกสาวของศัตรูที่เมฆาใช้เป็นเครื่องมือในการแก้แค้น ภายนอกดูอ่อนหวานแต่ภายในร้ายกาจ เธอหวังที่จะได้เมฆามาครอบครอง
รุจ ชายหนุ่มผู้อบอุ่นที่เข้ามาในชีวิตของปริมในช่วงที่เธออ่อนแอ การเข้ามาของเขาทำให้เมฆาต้องเผยความรู้สึกหึงหวงที่แท้จริงออกมา
ฟ้าใส เพื่อนสนิทคนเดียวของปริมที่คอยเป็นกำลังใจและให้คำปรึกษาเธอเสมอ เป็นตัวละครที่ช่วยดึงปริมให้กลับมามีสติ
หมอนภา หมอสาวผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาและเป็นคนเดียวที่เมฆาไว้วางใจให้ปรึกษาเรื่องราวในอดีตและสภาพจิตใจของเขา
นิรันดร นักสืบเอกชนผู้ภักดีต่อพ่อของปริม เขาเป็นผู้ให้ข้อมูลสำคัญที่ช่วยให้ปริมและเมฆาได้รู้ความจริงทั้งหมด
คีรินทร์ บอดี้การ์ดคนสนิทของเมฆา เขาเป็นคนภักดีและซื่อสัตย์ แต่มีมุมมองที่แตกต่างในเรื่องความสัมพันธ์ของเมฆากับปริม
ตัวละครในครอบครัว
ท่านประธานธนัท (พ่อของเมฆา): ผู้นำตระกูลมาเฟียที่ใช้อำนาจและความรุนแรงในการปกครอง ทำให้เมฆามีปมในใจ
คุณหญิงนภัสสร (แม่ของเมฆา): ผู้หญิงที่ยอมจำนนต่ออำนาจของสามี เธอรักลูกชายมากแต่ไม่สามารถปกป้องเขาได้
คุณวรวิทย์ (พ่อของปริม): นักธุรกิจผู้ซื่อตรงที่ถูกหักหลังจนเสียชีวิต เป็นแรงผลักดันหลักที่ทำให้ปริมเริ่มแผนการแก้แค้น
คุณปวริศา (แม่ของปริม): ผู้หญิงที่อ่อนแอหลังจากสามีเสียชีวิต เป็นแรงบันดาลใจให้ปริมต้องลุกขึ้นสู้เพื่อปกป้องครอบครัวที่เหลืออยู่
ตอนที่16ท้าทายกันและกันปริมลดาหยุดเดินแล้วเอ่ยถามเขาขึ้นมาอย่างสงสัย “มีอะไรให้ฉันจัดการอย่างฉุกเฉินอีกคะ ฉันทำงานตามที่คุณสั่งเสร็จแล้ว” ปริมลดาถามอย่างเยือกเย็นเมฆาเงยหน้าขึ้นอย่างเชื่องช้า ดวงตาของเขาวาววับด้วยแววตาที่จับผิดแและแฝงความสนุก “คุณคิดว่าจะชิงกลับบ้านไปง่ายๆ อย่างนั่นเหรอ เอาเอกสารทั้งหมดที่คุณรวบรวมมาวางไว้ตรงนี้ ผมจะตรวจสอบเองว่างานของคุฯมีอะไรแอบแฝงหรือเปล่า”“อะไรคุณคะคุณเมฆา ฉันต้องรีบกลับบ้านนะคะ เพื่อนของฉันรอยู่ที่บ้าน แล้วเพื่อนฉันก็รีบด้วยค่ะ” ปริมลดาพยายามบอกเขาเพื่อหาทางกลับบ้านให้เร็วแม้ว่าฟ้าใสจะไม่ได้รีบก็ตามเมฆายกแก้วไวน์ขึ้นจิบช้าๆ อย่างไม่เร่งรีบ “เพื่อนของคุณ ผมไม่เคยอนุญาตให้คุณทิ้งงานในเวลาที่ผมต้องการ และผมไม่ได้สนใจว่าเพื่อนของคุณจะรีบแค่ไหน” เขาเอนตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย เสียงของเขาลดต่ำลงจนกลายเป็นกระซิบที่อันตราย “หรือว่าคุณรีบกลับไปเพราะไม่อยากให้ผมได้เห็นเอกสารที่คุณรวบรวมมา”ปริมลดาใจหายวาบ เธอพยายามควบคุมสีหน้าไม่ให้แสดงพิรุธ แต่ดวงตาของเธอก็สั่นไหวอย่างเห็นได้ชัด “ ฉันไม่เข้าใจที่คุณพูดค่ะ” ปริมรดายืนกราน“ฉั
ตอนที่15มาทำงานหรือมาอะไรกันแน่ เมฆาขับรถพาปริมลดากลับมาถึงบริษัทหลังมื้อกลางวันที่ร้านหรู ทันทีที่ลงจากรถ ปริมลดารีบก้าวเดินนำหน้า เธอเดินเข้าลิฟต์ส่วนตัวโดยไม่รอเมฆาอย่างจงใจเมฆากล่าวเสียงทุ้มขณะที่ทั้งคู่เดินเข้าลิฟต์ส่วนตัว “ผมต้องความคืบหน้างานของคุณเรื่องเอกสารถือครองหุ้นของบริษัทในเครือทั้งหมดปริมลดา ผมให้เวลาคุณถึงตอนเย็น ส่วนเรื่องโปรเจกต์ที่ผมให้คุณทำเหลือเวลาอีกสองวันก่อนจะต้องไปงานเลี้ยงกับผม”ปริมลดากดลิฟต์ขึ้นชั้นบนสุดโดยไม่หันมามอง “ฉันจะทำงานของฉันเองค่ะ ไม่ต้องสั่งซ้ำ”“ทำไมผมถึงจะสั่งคุณไม่ได้ นี่คุณเข้ามาทำงานเพื่อเป็นผู้ช่วยผมหรือคุณมีอะไรแอบแฝงกันแน่ที่เข้ามาใกล้ตัวของผมอย่างนี้” เมฆาถามด้วยน้ำเสียงกดดัน สายตาคมกริบของเขามองสะท้อนในกระจกเงาของลิฟต์ปริมลดากำมือแน่นพยายามข่มอารมณ์ “คุณเมฆาพูดจาไปเรื่อยนะคะ ฉันเข้ามาทำงานในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย” ปริมลดาตอบเขาอย่างมั่นใจแม้จะมีความประหม่าอยู่ไม่น้อยเมฆาหัวเราะในลำคอเบาๆ “คุณนี่มันเอาตัวรอดเก่งเหมือนกันนะ ผมชอบความมั่นใจของคุณนะ หวังว่าคุณจะไม่ทำให้ผมผิดหวังนะ”“ถ้าคุณไม่คาดหวังในตัวฉันมากไปคุ
ตอนที่14ผู้ช่วยกับคู่หมั้น“ทำไมคะ ก็เราเป็นคู่หมั้นกันนะคะ” พิมพ์แพรย้ำสถานะของตนอย่างมีสิทธิ์ปริมลดาเลือกที่จะวางส้อมอย่างช้าๆ ก่อนจะสบตาพิมพ์แพรอย่างท้าทาย “คุณพิมพ์แพรคะ กรุณาอย่าเข้าใจผิดนะคะ สถานะคู่หมั้นของคุณไม่ได้มีอำนาจในการมาก้าวก่ายเรื่องงานของเจ้านายฉันนะคะ ให้เกียรติคุณเมฆาน่าจะดีกว่านะคะ” ปริมลดาทำทีเป็นเข้าเมฆา เพื่อทำให้ปริมลดาโมโหแต่เมฆากลับชอบใจที่ปริมลดามีท่าทีปกป้องเขาเพราะเขาเองก็คิดว่ากำลังทำให้ปริมลดาหวั่นไหว แต่ที่ไหนได้ต่างฝ่ายต่างมีเล่ห์เหลี่ยม“เรื่องงานอะไรกัน แกอย่ามาตอแหล” พิมพ์แพรเกือบจะตวาด “ฉันบอกแกแล้วใช่ไหมว่าอย่ามายุ่งกับพี่เมฆ นี่ถึงขนาดให้พี่เมฆพามาทานอาหารร้านหรูเลยเหรอยัยหน้าด้าน” พิมพ์แพรหันไปมองเมฆาอย่างตัดพ้อ “พี่เมฆคะ พี่ปล่อยให้ยัยนี่ด่าพิมพ์ได้ยังไงคะ” เมฆาวางส้อมลงเสียงดังเคร้ง!!! เขาเงยหน้ามองพิมพ์แพรด้วยดวงตาที่แข็งกร้าวและดุดันจนคู่หมั้นของเขาชะงักไปทันที “พอได้แล้วพิมพ์ ปริมลดาเป็นผู้ช่วยส่วนตัวและตอนนี้เธอกำลังทำงานสำคัญให้พี่ พิมพ์เองก็เป็นคู่หมั้นที่พี่ไม่ได้รักเลยสักนิดไม่เห็นต้องมาตามหึงพี่อย่างนี้เพร
ตอนที่13เกมนี้ใครเป็นใคร “คุณกล้ามากนะปริมลดา” เสียงของเขาทุ้มต่ำและแฝงความตื่นเต้น ปริมลดาโยนการ์ดใบนั้นลงบนโต๊ะอย่างไม่ใยดี “ฉันไม่ได้กล้าหรอกค่ะ แต่คุควรจะดูแลว่าที่ภรรยาของคุณไม่ให้มาวุ่นวายกับพนักงานนะคะ” เมฆาเดินเข้ามาใกล้โต๊ะทำงานของเธอ โน้มตัวลงมาเล็กน้อยจนใบหน้าอยู่ห่างจากปริมลดาเพียงเล็กน้อย กลิ่นน้ำหอมหรูหราราคาแพงของเขาอบอวลรอบตัวเธอ “ก่อนจะบ่นเรื่องคู่หมั้น ผมขอชวนไปทานข้าวก่อนได้ไหม” เมฆากระซิบชิดใบหูเธอ น้ำเสียงของเขาอ่อนลงอย่างไม่น่าเชื่อ “คุณคงเครียดมามากแล้วกับการต้อนรับแม่ของผมและคู่หมั้นที่ผมไม่อยากหมั้น” ปริมลดาเชิดหน้าขึ้นเพื่อหลีกหนีความใกล้ชิดที่อันตรายนั้น “ฉันมีงานต้องทำค่ะ” “นี่มันเวลาพักเที่ยงแล้วนะปริมลดา” เมฆาผละใบหน้าออกแต่ยังคงยืนประชิด “ลุกขึ้นแล้วไปทานข้าวกับผม” ปริมลดาสบตาเขาอย่างท้าทาย แต่ความสับสนในใจทำให้เธอไม่อาจปฏิเสธคำสั่งของเขาได้ “ตกลงค่ะ” ปริมลดาตอบอย่างรวดเร็ว เธอจะใช้โอกาสนี้หาคำตอบที่เธออยากรู้ “ฉันจะไปทา
ตอนที่12เกมแห่งความจริงขณะที่ปริมลดากำลังเดินกลับไปที่โต๊ะทำงานด้วยความรู้สึกสับสน พิมพ์แพร คู่หมั้นของเมฆาก็เดินเข้ามาในห้องด้วยท่าทางที่ถือดี มือของเธอกำลังถือการ์ดเชิญงานหมั้นสีทองอร่าม“เจอกันอีกแล้วนะ ยัยนักออกแบบ” พิมพ์แพรพูดเสียงเยาะเย้ย และมองดูชุดของปริมลดาด้วยสายตาที่เหยียดหยาม “ชุดดูร้อนแรงดีนะ เหมาะกับเป็นอาหารตาของคนรวยดี คิดว่าจะได้เป็นเมียผู้บริหารคนไหนล่ะ แต่ถ้าพี่เมฆล่ะก็ ฝันไปเถอะเพราะเธอก็ต้องข้ามศพฉันไปก่อน” พิมพ์แพรแค่นเสียงหัวเราะเยาะปริมลดายิ้มเย็น นัยน์ตาคมกริบของเธอจ้องตรงไปที่พิมพ์แพรอย่างไม่เกรงกลัว เธอไม่ได้ตอบโต้เรื่องชุด แต่เลือกโจมตีจุดอ่อนของพิมพ์แพร“คุณพิมพ์แพรคะ การที่คุณมาพร้อมกับการ์ดเชิญงานหมั้นเนี่ย มันไม่ได้แสดงความมั่นใจเลยนะคะ” ปริมลดากล่าวด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล แต่ทุกคำเจ็บแสบ“คนที่มั่นใจว่าตัวเองเป็นที่หนึ่งจริงๆ เขาจะไม่ต้องเสียเวลามาเตือนคนอื่นให้รู้ว่าตัวเองกำลังจะได้อะไร เพราะเขาไม่ต้องกลัวว่าสิ่งที่เขากำลังจะได้มาจะถูกแย่งไป และอีกอย่างบางทีของที่คุณคิดว่าได้ครอบครองอาจจะมีคนอื่นกำลังครอบครองอยู่แล้วก็ได้นะคะ เรื่องอย
ตอนที่11คำเตือนจากแม่เสือเช้าวันต่อมา ปริมลดามาทำบงานที่บริษัทตามปกติแต่วันนี้เธอสวมชุดที่คิดว่าเมฆาไม่มีทางหาเรื่องว่าชุดของเธอไม่เหมาะกับการทำงานแน่นอน ชุดที่ปริมลดาเลือกในวันนี้คือ กระโปรงสีดำรัดรูป สั้นเลยหัวเข่าขึ้นมาเล็กน้อยตัดกับผิวขาวเนียนของเธอได้เป็นอย่างดี เน้นให้เห็นสรีระที่สมส่วนของเธอ ส่วนท่อนบนเธอเลือกเป็นเบลเซอร์เข้ารูปที่ถูกสวมทับด้วยเสื้อเชิ้ตไม่ยาวมากสีเทาควันบุหรี่ และติดกระดุมเพียงสองเม็ดด้านล่างเผยให้เห็นเนินเนื้อเล็กน้อยพองาม ทำให้เธอดูสวยสง่าและดูเหมาะสมที่จะเป็นผู้ช่วยของเมฆา ผมยาวของเธอถูกรวบตึงเป็นหางม้าต่ำอย่างเรียบร้อย พร้อมกับต่างหูเงินขนาดเล็กที่ขับให้ใบหน้าดูคมเข้มมากขึ้น การแต่งหน้าของเธอเน้นโทนสีนู้ดและเรียบง่าย ริมฝีปากของเธอแดงระเรื่อเล็กน้อย ยิ่งทำใหใบหน้าดูโดดเด่นขึ้นปริมลดาสวมรองเท้าส้นสูงแหลมสีดำเงา เดินเข้าไปในอาคารด้วยความมั่นใจ ราวกับกำลังเดินเข้าสู่สนามรบ เธอพร้อมแล้วที่จะรับมือกับทุกคนที่พยายามจะเข้ามาควบคุมหรือดูถูกเธอปริมลดาเดินตรงขึ้นไปยังชั้นสูงสุดของอาคาร เธอถูกคีรินทร์ที่มารอรับหน้าลิฟต์ส่วนตัวนำไปยังห้องรับรองพิเศ
Comments