เข้าสู่ระบบ“เกิดอะไรกันขึ้น!” เสียงอ่อนหวานทว่าก็หนักแน่นของหญิงสาวร่างระหงที่ก้าวเข้ามาเรียกทุกสายตาของคนในห้องให้หันไปอย่างง่ายดาย
“ป้าพายขา... ช่วยหนูด้วยค่า แง้!” ไอร่าเป็นคนแรกที่อ้าแขนกว้าง แล้วร้องหา ป้าพาย[1]
“พี่พายช่วยนับด้วย” นับดาวก็อีกคนที่สะบัดแขนออกจากการเกาะกุมของปริญแล้วถลาตัวเข้าหาป้าพายของเด็กน้อยไอร่าอย่างไว
“ส่งไอร่ามานี่” พัชชาออกคำสั่ง ลูกน้องใครเธอไม่สน แต่เธอจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาทำให้หลานสาวร้องไห้ทั้งนั้น
เมื่ออิทธิยังแข็งขืนยืนเป็นยักษ์ปักหลั่นไม่ยอมทำตาม พัชชาจึงส่งสายตาพิฆาตไปสั่งปริญแทน
“พี่ปริ๊น!” พัชชาเสียงแข็งใส่
ปริญถอนหายใจ เขาไม่รู้หรอกว่านับดาวและพัชชาไปญาติดีกันตอนไหน ทำไมพัชชาถึงดูออกโรงปกป้องนับดาวขนาดนั้น สายตาเป็นห่วงเป็นใยไอร่ามาก และไอร่ายังเรียกพัชชาว่าป้าพร้อมทั้งอ้าแขนหาอ้อมกอดนั้น และนับดาวก็ดูจะไว้ใจพัชชา
ทั้งคู่ดูสนิทสนมกันขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ก่อนหน้านี้ยังเคยแย่งผู้ชายคนเดียวกันถึงขั้นทะเลาะตบตี ไม่ถูกกัน เกลียดกันมาก่อนไม่ใช่หรืออย่างไร
ตอนนี้ปริญมีคำถามในใจเป็นล้าน หากทว่าก็พร้อมจะมองข้ามเพราะสิ่งที่เขาต้องจัดการให้เร็วที่สุดคือเรื่องลูกสาวในไส้
“พายอย่าเพิ่งมายุ่ง พี่ขอจัดการธุระส่วนตัวหน่อย”
“ไม่ได้ พวกพี่ทำหลานพายร้องไห้” ไอร่าตกใจร้องไห้จนตัวโยนขนาดนี้ แม่ทูนหัวอย่างพัชชาจะไม่ยุ่งอย่างไรไหว
เลี้ยงมาเองกับมือ ยุงไม่เคยให้ตอม ลิ้นไรไม่เคยให้ไต่
“หลานเธอ? เหอะ! แต่นี่มันลูกพี่ไง!” ไปเป็นป้าหลานกันตั้งแต่เมื่อไหร่เขาไม่รู้หรอก ไม่สนใจ
พัชชาชะงักไปชั่วครู่ ก่อนจะเอ่ยเสียงเย็นเฉียบด้วยคำที่ทำเอาปริญอดปวดแสบปวดร้อนในอกไม่ได้
“ลูกพี่งั้นเหรอ แต่ในใบเกิดไม่มีชื่อพี่นะ คนแจ้งเกิดให้หลานก็เป็นพาย” พัชชายิ้มมุมปากเยือกอย่างเย็นและเหนือกว่า “ในสูติบัตรช่องผู้แจ้งเกิดของไอร่า มี ชื่อ พาย”
เธอมองสบนัยน์ตามืดดำของปริญอย่างไร้ความยำเกรง ก่อนจะหมุนตัวแล้วพาสองแม่ลูกเดินจากไป โดยไม่สนใจคนที่อ้างตัวว่าเป็นพ่อของเด็กน้อยอีก
.
.
ไอร่าหลับไปแล้วบนรถตู้วีไอพีคันใหญ่ของตระกูลหยางที่กำลังขับเคลื่อนไป มุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์ตระกูลเรืองทรัพย์อนันต์ ตระกูลฝั่งแม่ของพัชชา
“ในรถเงียบมาก” เป็นเสียงของอาทิตย์ที่เอ่ยขึ้นทำลายบรรยากาศอันเงียบงัน
ปากพึมพำในขณะที่มือหนาค่อย ๆ ลูบเส้นผมสลวยของไอร่าที่นอนหลับตาพริ้มอยู่บนหน้าตัก
อาทิตย์ หยาง [2]คนรักของพัชชา และเป็นพ่อทูนหัวของเจ้าหนูไอร่า
“จะเล่าพี่ได้ยังนับ” พัชชากอดอกถาม นัยน์ตาคู่สวยคมกริบเจือแววดุดัน จ้องเขม็งมายังใบหน้าสวยที่เอาแต่หลบสายตา นับดาวเสมองออกไปนอกหน้าต่างตลอดทาง
เฮ้อ... คราวนี้คงหนีไม่พ้นแล้วกระมัง
หญิงสาวพรูลมหายใจอึดอัด แต่เมื่อมาถึงขั้นนี้แล้วคงแสร้งทำเป็นตีมึนปิดปากเงียบไม่ได้อีกต่อไป
“สรุปว่าพ่อของไอร่า คือใคร”
“ไอ้ปริ๊น” เมื่อคนรักถามย้ำแล้วนับดาวยังลีลาปากหนัก อาทิตย์จึงเป็นฝ่ายตอบให้
จากที่ได้รู้เรื่องราวทุกอย่างมา คงไม่ต้องถามอะไรให้มากมาย
ความลับที่นับดาวพร่ำปิดบังมาตลอดหลายปี ไม่เคยยอมบอกว่าพ่อของเด็กเป็นใคร วันนี้ความแตกแล้ว กลับเป็นไอ้ปริ๊น ไอ้ปริญ โชติภิวรรธ อดีตเพื่อนรักเพื่อนชั่วของเขาเสียอย่างนั้น
“ใกล้จมูกมาก ๆ เลยนะนับ”
“เฮียก็ขยี้จัง” นับดาวแทบจะร้องไห้
ยิ่งอาทิตย์พูดตอกย้ำเธอเองก็ยิ่งเห็นไฟโทสะข้างในตาของพัชชาที่มองมา กลัวเหลือเกินว่ากำลังทำให้พัชชาผิดหวัง กลัวมากว่าจะทำให้ผู้มีพระคุณอย่างพัชชาต้องเสียใจ
“นับขอโทษ” มือสั่นเทายกขึ้นประนมไหว้ “พี่พาย นับไม่ได้ตั้งใจจะโกหกหรือปิดบังเลยนะคะ นับแค่...”
“แค่อะไร!”
“ชู่..”
เสียงเกรี้ยวกราดของพัชชาทำไอร่าที่กำลังหลับปุ๋ยสะดุ้งจนอาทิตย์ต้องรีบตบสะโพกกล่อมให้นอนหลับไปอีกครั้ง จากนั้นพัชชาจึงลดระดับความดัง หากก็ยังคงเจือไปด้วยความดุดันและไม่พอใจจนนับดาวสัมผัสได้
“นับแค่...”
เธอจะบอกอย่างไรดี ตอนนี้ข้ออ้างหรือเหตุผลใดก็คงไม่สามารถทำให้พัชชาหายโกรธเธอได้
จากที่เป็นคนอดทน เก็บกลั้นความรู้สึกเก่งมาตลอด ตอนนี้นับดาวกำลังตัวสั่นเทา น้ำตาเอ่อไหล
“ทุกอย่างมันเริ่มตอนไหนนับ เป็นมายังไง คราวนี้เธอต้องเล่าให้พี่ฟัง ทุกเรื่องเลย!”
[1] พาย พัชชา นางเอกจากเรื่อง My Honey คนนี้ของผม โดย หญิงเพียว
[2] พระเอกจากเรื่อง My Honey คนนี้ของผม โดย หญิงเพียว
“เอาเถอะ เชื่อฉัน เรื่องลูกก็เหมือนกัน ไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้น ฉันแค่อยากหาสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกและเธอก็จะได้ทำงานอย่างสบายใจ” ที่สำคัญที่สุดคือนับดาวจะได้มีเวลาพักผ่อนมากขึ้นปริญต้องการพี่เลี้ยงที่โพรไฟล์ดี มีความรู้รอบด้าน ค่าตัวเท่าไหร่เขาสู้ตายเพราะต้องการปูพื้นฐานเพื่อจะให้ไอร่าได้เข้าเรียนอินเตอร์ที่เดียวกันกับลูกหลานโชติภิวรรธคนอื่น ๆ ด้วย“ไอร่าไม่ต้องไปเรียนที่ศูนย์เด็กเล็กอรุณโชติอีกแล้วนะ” ปริญสั่ง ส่วนนับดาวได้แต่ตอบรับอย่างขัดไม่ได้ รู้ดีว่าเขาเป็นห่วงความปลอดภัยของไอร่าและรู้ว่าทุกอย่างที่เขาสรรหามาคือสิ่งที่ดีที่สุดที่เธอเองก็เคยอยากทำให้ลูกได้มาตลอดเช่นกันนั่นแหละ“การ์ดล่ะ ได้ยัง” ปริญถามอิทธิที่เข้ามายื่นเอกสารของพี่เลี้ยงที่ปริญสั่งให้เลือก“กำลังสแกนครับ”“สแกนให้ดีนะ ขอคนที่ไว้ใจได้จริง ๆ” นอกจากพี่เลี้ยงแล้วปริญหาคนขับรถที่พ่วงตำแหน่งบอดีการ์ดให้ไอร่าอีกหนึ่งอัตรา จนกว่าลูกสาวจะโตพอ เขาต้องมั่นใจว่าลูกจะปลอดภัย“ต้องถึงขนาดนั้นเลยเหรอคะคุณปริ๊น” นับดาวอึ้งงัน รู้ว่าเขาเป็นห่วงแต่ก็รู้สึกว่ากำลังเล่นใหญ่เกินไปหรือเปล่านะ คนธรรมดาอย่างเธอปรับไม่ทันกับหลายสิ่งที่ก
“เรื่องงานไม่ต้องกลัวนะนับ แบรนด์สินค้าพี่เพียบเลย กำลังหานางแบบโฆษณาอยู่พอดี ไหนจะพาร์ตเนอร์พี่ แล้วก็แบรนด์ของตะวันกับพายอีกต่างหาก ไม่ต้องกลัวว่าจะว่างงานจ้ะ กลัวหาเวลาพักไม่ได้ดีกว่า” บุญนำพาว่า ตระกูลโชติภิวรรธและตระกูลที่เกี่ยวดองกันมีธุรกิจมากมายจนไม่รู้จะหาทายาทสืบทอดพอไหมเลยด้วยซ้ำ เรื่องไม่มีงานทำไม่มีรายได้ตัดทิ้งไปแต่ลำพังแค่ธุรกิจของปริญที่มันบุกเบิกสร้างเองก็มีให้บริหาร ไม่รู้ว่ามันจะปล่อยเมียมาทำงานข้างนอกอีกไหมด้วยซ้ำ“นับก็แค่มาทำงานกับผม ยากตรงไหน” ถ้าไม่อยากบริหารก็แค่มาช่วยดูบัญชี หรือจะเลี้ยงลูกอยู่บ้านเขาก็ไม่ว่าอะไร“เออเนอะ นับดาวขาวจั๊วะแบบนี้ ให้ไปเป็นพรีเซนเตอร์หลอดไฟเลยดิ รับรองขายดีแน่มึง” ไธม์แสร้งเสนอไอเดียที่รู้ดีว่าน้องชายเขาจะไม่มีทางให้เมียไปทำแน่ ๆ“ไม่ใช่เรื่อง!”นั่นไง! เขาเดาพลาดเสียที่ไหนทุกคนขำกับความหวงเมียของปริญจากนั้นไม่นานก็มานั่งหารือกันต่ออย่างจริงจัง โชติภิวรรธต้องการจัดการกับข่าวเสียหายให้ไวที่สุดเพราะไม่อยากให้กระทบกับทั้งภาพลักษณ์ ธุรกิจ และสำคัญที่สุดคืออยากรักษาจิตใจหลานทุกข่าวที่อยู่ในโลกออนไลน์จัดการไม่ง่าย หากอนาคตข่าวเสียหาย
“ป๊า แม่ กับลุง ๆ ไปพักผ่อนดีกว่านะครับ เรื่องตรงนี้พวกผมจัดการได้” ปรมะเอ่ยเพราะเกรงใจผู้ใหญ่“ใช่ครับ ผมจัดการได้” ปริญเอ่ยต่อ เรื่องพวกนี้ความจริงแล้วเขาจัดการได้สบาย แต่ในวิธีของเขานะ“ฮื่อ! ทำให้ถูกต้องซะ” ท่านวิศรุตกระแทกลมหายใจใส่ตัวต้นเรื่องก่อนจะทิ้งท้ายแล้วปล่อยให้รุ่นลูก ๆ ช่วยเหลือกันเพราะต่างก็เป็นผู้ใหญ่กันแล้ว ส่วนเจเนอเรชันของพวกท่านก็จะคอยซัปพอร์ตอยู่ห่าง ๆ ก็พอ“ในเพจมีคนแท็กรายการเกาะกระแสเยอะมาก ว่าอยากให้เชิญนับไปสัมภาษณ์จัง ขี้เสือกว่ะ” หมอไธม์[1]ลูกแฝดคนน้องของลุงรองพูดขึ้นเมื่อเห็นโพสต์หนึ่งในโซเชียลที่บุญนำพายื่นมาให้ดู“นี่มันเรื่องส่วนตัว ไม่ใช่จะมีคดีความหรือมีข้อพิพาทกับใครคนอื่น จะให้ไปทำไมก่อน” บุญนำพาบ่นอุบ“ไงนับ อยากไปไหม” ปรมะถามความสมัครใจดูหากว่ามีรายการไหนติดต่อมานับดาวส่ายหน้าหวือทันทีเพราะเธอไม่ได้อยากไป เธอเองก็อยากจะชี้แจงเรื่องราวเพื่อความบริสุทธิ์ของตัวเองอยู่เหมือนกัน หากกระนั้นเพราะเรื่องนี้มันมีความเกี่ยวโยงกับทั้งปริญและแน่นอนว่ามันจะต้องลามมาถึงคนอื่น ๆ ในตระกูลโชติภิวรรธ“ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น ผมจะชี้แจงทุกอย่างในช่องทางโซเชียลของผมเอง
“ขอย่าอุ้มหน่อยนะลูก” ปาริฉัตรขออนุญาตไอร่าที่ท่าทางยังไม่ไว้ใจใครมากนัก เด็กน้อยหันไปมองคนเป็นแม่ และเมื่อเห็นว่านับดาวส่งยิ้มกับพยักหน้าให้เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าทำได้ สองแขนป้อม ๆ จึงกอดเข้ากับไหล่ของคนที่เรียกตัวเองว่าย่านางปาริฉัตรน้ำตาเอ่อไหล“โถลูก”“ไม่ต้องร้องน้า...” ไอร่าเช็ดน้ำตาช่วยปลอบใจ แม้ไม่รู้ว่าหญิงชราร้องไห้เพราะเหตุใด“เข้ามานี่สิ” ท่านวิศรุตกวักมือเรียกนับดาวให้เดินเข้ามาใกล้หญิงสาวลังเลอยู่ชั่วครู่ เธอกวาดมองสีหน้าของทุกคนที่อยู่ในห้องเกือบสิบชีวิตก่อนจะค่อย ๆ ก้าวเข้าไปตอนนี้เธอแทบจะกลั้นหายใจเพราะทำตัวไม่ถูกที่สุดในชีวิต เกร็งชนิดที่แม้แต่ก้าวขาก็ยังทำได้อย่างยากลำบากเหลือเกินอยากใช้สกิลนักแสดงอันน้อยนิดของตัวเอง อยากควบคุมอารมณ์ สีหน้าและควบคุมสถานการณ์ให้ได้ หากในชีวิตจริงมันไม่ง่ายเลยให้ตาย“ผมขอข้ามขั้นตอนแนะนำตัวกับไหว้พ่อแม่ญาติผู้ใหญ่ไปก่อนเลยนะครับ ขอหาทางแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นก่อนก็แล้วกัน” ปริญเอ่ย“ก็คงต้องเป็นอย่างนั้น”“ไว้วันหลังค่อยเลี้ยงต้อนรับหลานกับนับดาวละกันนะ”“ป้ามีของขวัญจะให้หลานด้วยแหละ”“ใช่ อาเองก็มีของจะให้”“ตาก็มี ให้วันนี้เลยไม่ได้รึ
“แล้วดูสิ รอไม่กี่วัน ฉาวเลยเห็นไหม” เป็นบุญนำพา[1]ญาติผู้พี่ ลูกสาวของลุงภาส[2]ที่นั่งเงียบดูงานในแท็บเล็ตอยู่นานสองนานเอ่ยขึ้น“ตอนนี้กระแสดรามาโจมตีนับดาวจนได้ข่าวว่าโดนถอดงาน ยกเลิกสัญญาจ้างเพียบเลยนี่นา” บุญนำพาเป็นเจ้าแม่ที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการค้าขายออนไลน์ เรียกได้ว่าตัวแม่ที่เป็นเจ้าของแบรนด์ชั้นนำต่าง ๆ เธอมักจะทันโลกเสมอเพราะวนเวียนทำงานกับคนในวงการนี้“ถอดก็ถอดไปดิ ผมเลี้ยงเอง”“ตลก!” บุญนำพาเบะปาก เข้าใจแล้วว่าทำไมน้าปริมถึงอยากจะเอาเลือดหัวไอ้ปริ๊นออกนัก เพราะปากมันเป็นแบบนี้ไง จนเธอเองก็คันมือคันเท้าอยากจะฟาดหลังมันสักทีสองทีอยู่เหมือนกัน“คิดว่าผู้หญิงเขาจะภูมิใจเหรอ”เออ ไม่ปริญตอบในใจเพราะเรื่องนี้นับดาวเคยพูดกับเขาแล้วเช่นกัน เธอเองอยากยืนด้วยตัวเองได้เพราะไม่มั่นใจจะฝากชีวิตไว้กับเขาอีกแล้ว และเธออยากภูมิใจในตัวเอง เรื่องนี้เขาก็เข้าใจ“งั้นจะแก้ปัญหายังไง ไหนพูดมาสิปริ๊น” ลุงรองเอ่ยถามตอนนี้สมาชิกโชติภิวรรธเกือบครึ่งตระกูลมาชุมนุมกันที่บ้านใหญ่ของวิศรุตเพราะเรื่องของปริญ นี่เป็นเพียงสมาชิกที่อยู่ใกล้และว่างพอในตอนนี้เท่านั้น หากมารวมตัวกันหมดตระกูลอาจจะต้องไปที่ห้
“มันก็ทำสาวท้องเหมือนกัน ทำไมผมโดนด่าอยู่คนเดียวอะแม่” ปริญเถียงคำไม่ตกฟาก ถ้าพูดถึงเรื่องทำสาวท้องโย้ก่อนแต่ง บ้านนี้ไม่ได้มีแค่เขาคนเดียวแหละวะ พี่ปลื้มคือตัวบุกเบิกเลยในเจเนอเรชันหลาน ๆส่วนไอ้มาวัชร์นี่แผลสดมาก ตัวจี๊ดคนล่าสุด ยังไม่รวมพี่ธาร์ลูกลุงรองอีกคนนะ เขาจะลากไอ้มาวัชร์มันมาโดนด่าด้วยกันเผื่อจะได้ทุเลาเรื่องบาปของตัวเองลงบ้าง“เฮ้ย ๆ มึงอย่าโยนขี้มาให้กูนะไอ้ปริ๊น” มาวัชร์[1]รีบค้าน เขาเพิ่งโดนพ่อด่าไปเองสด ๆ ร้อน ๆ เลยด้วยซ้ำมาวัชร์ไม่อยู่รอให้ตัวเองโดนเพ่นกบาลอีกรอบก็รีบลุกหนีออกจากบ้านอาเล็กทันควัน ทำหลายคนในบ้านส่ายหน้าขำปนหน่ายใจ“พอเถอะปริม เดี๋ยวจะเป็นลมล้มพับเอา” ลุงรอง[2]พี่ชายอีกคนของวิศรุตเอ่ยปรามเพราะเห็นคนเป็นน้องสะใภ้หายใจหอบเหนื่อยเต็มที่แล้ว กลัวจะเป็นลมล้มพับเอาได้บวกกับวิศรุตที่รีบไปรวบไหล่เมียรักแล้วลูบปลอบให้ใจเย็น ปาริฉัตรถึงได้ยอมหยุดให้ หากทว่าก็ยังนั่งชี้หน้าด่าปริญอีกหลายคำ“โห... ทีกับพี่ปลื้มแม่ไม่เห็นด่างี้บ้าง” เขาจำได้ตอนนั้นมารดาด่าปรมะพี่ชายเขาเรื่องทำพี่ตะวันท้องจนต้องหนีไปคลอดที่ฮ่องกง แม่ด่าน้อยมาก ไม่ใช้คำหยาบคายเลยด้วยซ้ำ“ด่าน้อย แต่







