เข้าสู่ระบบแคว้นฮั่น
สำนักศึกษาเทียนจุน
บริเวณริมสระน้ำมีนักเรียนมากมายรุมล้อมสระน้ำอยู่ หนึ่งในนั้นคือเว่ยซูถิงหลานสาวเสนาบดีซูหยาง เสียงเพื่อๆโห่สตรีอีกคนที่อยู่ในน้ำ ไป๋เจินเจินที่ถุกเว่ยซูถิงถอดเสื้ออกไปแล้วผลักลงน้ำทำให้ไม่อาจขึ้นมายนผิวน้ำได้ ร่างกายนางบอบบางที่สำคัญเสื้อตัวในสีขาวยิ่งทำให้เห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็น มีลุกศิษย์ชายต่างก็มาดูส่งเสียงโห่ร้อง พวกเขาอยากให้นางอับอายเพราะนางไม่ควรมาเรียนที่นี่แต่แรก ไปเจินเจินที่ตอนนี้อ่อนแรงเต็มทีนาวอยู่ที่นี่มาหนึ่งชั่วยามแล้ว
“นี่ๆๆซูถิงให้นางขึ้นมาเถอะ เดี๋ยวมาตายกลายเป็นผีเฝ้าสำนักจะมาหลอกพวกเราได้นะ ฮ่าๆๆๆ”
“ใช่ๆๆ นี่ขึ้นมาสิไป๋เจินเจิน จะอายอันใด เผื่อมีใครสักคนอยากได้เจ้าไปบำเรอจะได้มีเงินซื้อยาให้พ่อขาเป๋ของเจ้าไงฮ่าๆๆๆๆ”
ไป๋เจินเจินหนาวสั่นจนไม่ไหว ไม่นานก็มีอาจารย์มาสามคน ลูกศิษย์ต่างกระจัดกระจายไปคนละทิศละทาง ไป๋เจินเจินหนาวจนปากสั่น อาจารย์หญิงกล่าวออกมาต่อว่าเธอ
“ก่อเรื่องอะไรอีก ทำไมไม่ขึ้นมา”
“อาจารย์ซู คุณหนูเว่ยนางเอาเสื้อผ้าศิษย์ไปซ่อน ศิษย์ไม่อาจขึ้นจากน้ำได้เจ้าค่ะ”
“คุณหนูเว่ยนางจะทำเรื่องแบบนั้นได้อย่างไร เจ้าใส่ร้ายผู้อื่นหรือไป๋เจินเจิน อาศัยเส้นสายมาเข้าเรียน อีกทั้งเรียนไม่ได้เรื่องสักอย่าง ยังจะหาใส่ร้ายผู้อื่นอีก”
ไป๋เจินเจินร้องไห้ออกมา ซูฉีตวาดนางเสียงดังก็เพื่อให้จ้าวหย่งเฉิงได้เห็นว่านางเข้มงวดกับลูกศิษย์แค่ไหน เขาจะมาเป็นอาจารย์ที่นี่ในอีกสิบวันข้างหน้า
ที่สำคัญเขารูปงามมากนักและยังไม่มีฮูหยิน จ้าวหย่งเฉิงส่งเสื้อคลุมส่งให้คนในสระน้ำก่อนจะหันหลังให้ ไป๋เจินเจินรับมาก่อนจะค่อยๆขึ้นจากน้ำจากนั้นก็เอ่ยขอบคุณเขาเบาๆ
“ขอบคุณเจ้าค่ะ”
จ้างหย่งเฉิงหันมาก็เห็นเด็กสวาวที่หน้าตาสะสวยงดงามเพียงแต่นางดูซีดเซียวผ่ายผอมเกินไป จากนั้นจึงเอ่ย
“เจ้ากลับบ้านไปพักผ่อนก่อน หากป่วยไข้จะไม่ดี แล้วพรุ่งนี้ค่อยมาเรียน อาจารย์ซูลูกศิษย์ที่กลั่นแกล้งเพื่อนเช่นนี้มุ่งหมายเอาชีวิตนางด้วยซ้ำ ท่านกลับมาเข้มงวดกับคนถูกกลั่นแกล้ง เช่นนั้นสำนักศึกษานี้ก็ไม่ต้องการอาจารย์ที่ตัดสินถูกผิดไม่ได้มาสั่งสอนลูกศิษย์หรอก”
“ไม่นะเจ้าคะ อาจารย์จ้าว ใต้เท้าจ้าวคือว่าข้าๆ”
จ้างหย่งเฉิงไม่ฟังเขาหันหลังจากไปทันที ไป๋เจินเจินพาร่างเปียกโชกกลับบ้าน เสียงบิดาไอออกมา นางเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจะไปหาข้าวให้บิดา ทั้งคู่อยู่บ้านเช่าหลังเล็กๆในตรอก วันนี้นางมีระดูและแช่น้ำนานจึงเริ่มมีไข้
บิดาเห็นบุตรสาวหน้าซีดก็ถามด้วยความห่วงใย
“อาเจิน วันนี้ลูกเรียนเป็นอย่างไรบ้าง อืม แค่กๆ”
“ท่านพ่อเจ้าคะ ข้าไม่อยากเรียนแล้ว อาการท่านแย่ลงข้าอยากเก็บเงินรักษาขาท่านเจ้าค่ะ”
“อาเจินเอ๊ย..พ่ออายุปูนนี้แล้วก็เหมือนไม้ผุๆ แต่เจ้ายังต้องเติบโต ตั้งใจเรียนล่ะ จะได้แต่งงานกับคนดีๆ มีชีวิตที่ดี”
“ท่านพ่อ ท่านนอนเถอะเจ้าค่ะ ดึกมากแล้ว”
ไป๋จิ้งยอมฟังบุตรสาวและเข้านอน ไป๋เจินเจินที่ตกดึกก็มีไข้สูง ใบหน้าขอบตาร้อนผ่าว ลำคอแห้งเป็นผง นางเริ่มหายใจไม่ออกดวงตาพร่าเลือน น้ำตาไหลออกมาเป็นทาง บิดาเล่าจะอยู่อย่างไร เธอไม่ได้อยากทิ้งท่านพ่อไป
แต่ดูเหมือนเธอใกล้ตายแล้วจริงๆ ไป๋เจินเจินค่อยๆหลับตาลงอย่างยอมรับในชะตา พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นวิญญาณอีกดวงที่กำลังหาทางไปหมุนเคว้งคว้าง ไป๋เจินเจินยื่นมือไปคว้ามือของวิญญาณดวงนั้นก่อนจะเอ่ย
“แม่นางท่านอย่าไปไหนเลยเจ้าค่ะ ร่างกายของข้าขอมอบให้ท่าน ฝากบิดาข้าด้วยนะแม่นาง”
ไป๋เจินเจินงุนงงอยู่ เธอรู้แค่เครื่องตกและตอนนี้เธอล่องลอยมาหลายวันแล้ว แม้แต่งานศพตัวเองเธอก็ไปมาแล้ว เด็กคนนั้นบอกฝากบิดาของเธอด้วยจากนั้นก็จากไป ไป๋เจินเจินที่งงอยู่ได้ไม่นานก็ถูกดูดย่างแรง
ร่างบางที่หลับใหลอยู่บนเตียงได้จากไปแล้ว นางได้ฉุดเอาวิญญาณอีกดวงให้เข้ามา ไป่เจินเจินค่อยๆลืมตา ภาพตรงหน้าคือสภาพบ้านโทรมๆหลังหนึ่ง ผ้าห่มที่เก่าจนเหม็นอับ เตียงแข็งจนเจ็บหลัง
“นี่มันที่ไหนกัน แล้วฉันตายแล้วไม่ใช่เหรอ หรือว่าที่นี่คือนรก เหม็นอับชื้นขนาดนี้เลยหรือ แล้วทำไมไม่มีผีตัวอื่น มีแต่เจ๊วะ โอ๊ยยย ปวด ปวดๆหัว อื้อ”
ไป๋เจินเจินนั่งลงบนเตียง มือสองข้างบีบขมับตนเอง เธอปวดหัวจะระเบิดก่อนจะมีภาพบางอย่างเข้ามาในหัว
จินเสี่ยวฟงเขินอาย ทุกคนต่างก็หัวเราะ จ้าวหย่งเฉิงลุกไปช่วยคู่หมั้นจัดการอาหารสามอย่างสุดท้าย วันนี้นางทำของโปรดของเขาแทบจะทุกอย่าง ไป๋เจินเจินคีบเนื้อปลาเปรี้ยวหวานใส่ชามบิดา จากนั้นถึงคีบให้เขา จ้าวหย่งเฉิงมองหน้านาง ไป๋เจินเจินส่งสายตาดุกลับไป คนเยอะแยะเขาช่างหน้าด้าน"ดูก้างให้อาด้วย เดี๋ยวอาติดคอนะ""ท่านอา...คนอื่นยังกินได้เลย"สวีข่ายเหยียนคีบก้างปลาออกทีละเส้นๆจากนั้นก็คีบมาใส่ในชามของเขา ยิ้มประจบประแจงแล้วเอ่ย"อาจารย์ขอรับ ศิษย์เอาก้างปลาออกหมดแล้วรับรองไม่มีก้างแน่นอน อาจารย์ทานให้สบายใจเถอะขอรับ"จ้าวหย่งเฉิงแค่นยิ้มให้ลูกศิษย์ที่หวังดีผิดที่ก่อนจะเอ่ยลอดไรฟัน"ขอบใจ ขอบใจมากแต่วันหน้าวันหลังเจ้าไม่ต้อง""อ้อ..ยินดีขอรับท่านอาจารย์ เอะ!! ห๊ะ ห๊า ศิษย์ทำอะไรผิดไปหรือขอรับ"จ้าวหย่งเฉิงหลับตาก่อนจะถอนหายใจแล้วบอกให้กินข้าน"กินข้าวของเจ้าไป สู่รู้นัก"สิ้นคำของเขาสามสหายก็เงียบทันที สวีข่ายเหยียนไม่เข้าใจแต่อีกสองคนเข้าใจจึงกระตุกชายเสื้อเขาเบาๆ ไป๋เจินเจินส่ายหน้าให้กับความงอแงก่อนจะคีบก้างปลาออกแล้วเอาเนื้อปลาที่ไร้ก้างใส่ในชามบิดาก่อน จากนั้นจึงคีบ
ร่างบางเดินกลับไปยังรถม้าซึ่งเป็นรถม้าของจวนราชครู สามจอมเสเพลรู้สึกว่าสหายตัวน้อยไม่ชอบหน้าองค์ชายห้าพวกเขาจึงตามนางไปและพาลไม่ชอบตามไปด้วย ใครที่อาเจินเกลียดพวกเขาก็เกลียดด้วยเช่นกัน องครักษ์ของจ้าวหย่งเฉิงไปรายงานที่สำนักศึกษาแล้ว เขาจึงตรงไปจวนสกุลไป่ทันที หยางตงชิงอยากยุ่งกับนางเจ้าก็ลองดูสิ เมื่อมาถึงจวนไป๋จิ้งหยวนที่กำลังนั่งเช็ดกระบี่อยู่เห็นรถม้าของจวนราชครูเข้ามาก็เก็บกระบี่เขาฝัก มีรถม้าอีกสามคันตามมาพอจอดสนิทก็เป็นจ้าวลู่ซิน องค์หญิงแปดและองค์ชายห้า เขามาได้อย่างไรกัน เห็นทีต้องเพิ่มคนอารักขาบุตรสาวเสียแล้ว นางฉลาดเฉลียวหากองค์ชายห้ารู้ว่านางมีความสามารถอาเจินอาจตกอยู่ในอันตราย ร่างอรชรเดินมาหาบิดาเอ่ยทักทาย"ท่านพ่อ..ลูกกลับมาแล้วเจ้าค่ะ""คารวะท่านอาไป๋ขอรับ"สามจอมเสเพลคำนับไป๋จิ้งหยวน จ้าวลู่ซินกับเหอฉู่หรานก็ทำความเคารพเขา ไป๋จิ้งหยวนคำนับอีกสองคนที่เดินตามมา"ถวายพระพรองค์ชายห้า ถวายพระพรองค์หญิงแปดพ่ะย่ะค่ะ""องครักษ์ไป๋ตามสบายเถอะ วันนี้เราแค่อยากมากินข้าวกับอาเจินและลู่ซินน่ะ"ไป๋จิ้งหยวนเข้าใจดี ไทเฮาคือย่าทวดของจ้าวลู่ซินและเป็นเสด็จย่
หลังจากที่ไป๋เจินเจินจัดการหนานซวงซวงและหยุนเสี่ยวหว่านเรียบร้อยแล้วก็จะกลับจวน อีกสิบวันเป็นงานแต่งงานของนางกับจ้าวหย่งเฉิง หลังจากงานแต่งสามวันนางกลับบ้านเดิมเยี่ยมบิดาเรียบร้อย ท่านพ่อจะไปต้อนรับคณะทูตที่เดินทางมาเพื่อถวายเครื่องบรรณาการ ร่างอรชรเดินซื้อข้าวของเพื่อวันนี้คู่หมั้นรูปงามของนางจะมากินมื้อค่ำที่จวน จ้าวหย่งเฉิงชอบกินอาหารฝีมือนางโดยเฉพาะปลาเปรี้ยวหวานและบะหมี่ตุ๋นสามชั้น ไป๋เจินเจินไปร้านขายยาเพื่อซื้อเครื่องเทศ เถ้าแก่ร้านออกมาต้อนรับนางด้วยตนเอง ยามนี้จากเด็กสาวมือปราบไร้ชื่อที่หนีหน้าที่ กลับกลายเป็นคุณหนูไป๋บุตรสาวหัวหน้าองครักษ์เสื้อแพร คนที่เคยเหยียดหยามต่างก้มหน้าเมื่อเจอนางองครักษ์พิทักษ์หญิงงามเดินตามหลัง ไม่มีใครกล้ามาต่อกรหรือหาเรื่อง สกุลของจอมเสเพลทั้งสามคนนั้นยิ่งใหญ่ไม่น้อย แต่ละตระกูลล้วนแต่มีคุโณปการต่อราชสำนัก สวีข่ายเหยียนเอ่ยถามเมื่อเห็นนางเดินมาหน้าร้านโอสถ"อาเจิน...เจ้าป่วยเป็นอันใดหรือถึงมาซื้อยา"จินเสี่ยวฟงถอนหายใจก่อนจะเอ่ยกับสหาย"อาเจินจะมาซื้อเครื่องเทศไปทำอาหารอร่อยให้พวกเรากิน นางไม่ได้ป่วยเจ้าทึ่ม"ใบหน้าหวานยิ้มน้
หยางตงชิงที่รอรายงานก็ร้อนใจ ได้ยินว่ามีการทูลเกล้าฯถวายฎีกาเรื่องไฟไหม้ครั้งนั้นเป็นการวางเพลิง คนทำต้องการเอาชีวิตของไท่จื่อเฟยและองค์ชาย องค์ชายห้ากำมือแน่นคนสนิทหลับตาก่อนจะเอ่ยอย่างหวาดหวั่น"องค์ชายพ่ะย่ะค่ะ ได้ยินว่าคนที่รู้ว่านี่คือการวางเพลิงคือคุณหนูไป๋ นางพบหลักฐานที่เกิดเหตุอีกด้วย""นางพบอะไร ห้องนั้นไฟไหมจนไม่เหลือซาก นางก็แค่เด็กน้อยเพิ่งปักปิ่นจะมีความสามารถอะไรได้กัน"หยางตงชิงไม่เชื่อว่าเด็กสกุลไป๋คนนั้นจะมีหลักฐาน คงต้องการล่อเขาออกมามากกว่า หากเขาทำไม่รู้ไม่เห็นก็ไม่มีใครเอาผิดเขาได้ ร้านค้าที่จำหน่ายน้ำมันเตานั่นเข้าก็ให้คนของเขาไปจัดการคนที่ขายของให้คนของตนเรียบร้อยแล้ว นางเด็กนั่นฉลาดนักหรือ เจ้าเล่ห์เหมือนบิดาของนางไม่มีผิด หากมิใช่เพราะไป๋จิ้งหยวนมาขัดขวางเขาคงจัดการรัชทายาทไปนานแล้ว ยังแอบซ่อนตัวทำเป็นคนพิการขาเป๋ รัชทายาทคนที่อยู่ตำหนักบูรพาคนนั้นน่าจะตัวปลอม เขาไม่เคยรับรู้มาก่อนกระทั่งตัวจริงกลับมา หยางตงชิงสั่งให้คนของตนไปพบกับคนของโจรภูเขา กองกำลังที่เขาแอบซ่องสุมมานานไม่ช้าก็จะเข้าเมืองหลวงได้ทั้งหมด "ไปหาเฉินฮุ่ย....บอกให้เ
นี่หรือคนที่ไม่ชอบสตรี นี่คือคนที่ไม่ไยดีผู้หญิงจริงๆหรือ สามสิบเจ็ดแล้วเขายังไม่เคยหลับนอนกับสตรีคนไหน จนมีข่าวลือว่าเป็นพวกตัดแขนเสื้อ ไป๋เจินเจินขยับเอี้ยวตัวไปหาเขาก่อนจะยิ้มให้แล้วตอบตกลง"เจ้าค่ะ แต่ห้ามอาจารย์แช่น้ำนานเกินไปนะเจ้าคะ อีกอย่าพวกเรายังไม่แต่งกันสักหน่อยคำว่าผัวเมียท่านเรียกบ่อยเกินไปแล้ว"หึ หึ หึ จ้าวหย่งเฉิงหัวเราะในลำคอจากนั้นก็อุ้มนางออกทางหลังเรือน พาดีดขึ้นยอดไม้ไปยังเขตต้องห้ามสำหรับเขาเท่านั้น เมื่อมาถึงก็วางร่างบางลง ไป่เจินเจินนั่งบนโขดหินรอเขาแช่น้ำ แต่คนตัวโตกลับไม่ยอม"ลงแช่น้ำกับอาด้วยเด็กดี""ห๊ะ ห๊า ไม่ดีกระมังเจ้าคะ ข้ามิได้เอาเสื้อผ้ามา ท่านอาตามสบายเถอะเจ้าคะ""ก็ไม่ต้องใส่ถอดเถอะ ยังมีอะไรที่ไม่เคยเห็นอีก อาเจินตั้งแต่เห็นเจ้าเดินขึ้นมาจากบ่อน้ำพุคราวนั้น อาก็ลืมภาพเย้ายวนเจ้าไม่ได้สักวัน"ไป่เจินเจินมองหน้าเขาทันที หรือว่าวันนั้นเขาเห็นงั้นหรือ ใบหน้าหวานแดงซ่านก่อนจะเอ่ยโมโหกลบเกลื่อนความเขินอาย"คนบ้า ท่านเป็นถึงราชครูแห่งแคว้น เป็นอาจารย์สำนักศึกษาเหตุใดไม่สำรวม ช่างหน้าหนายิ่งนักแอบดูข้าหรือคนหน้าไม่อาย"จ้าวหย่งเ
เมืองหลวงหยางตงชิงที่ยามนี้กำลังกราดเกรี้ยวใส่คนของตน เขาต้องการสังหารพระชายาและองค์ชายน้อยเหตุใดทั้งคู่จึงไม่ตาย ดีที่เขารอบคอบตอนที่วางเพลิงไม่มีคนพบเห็นเพราะเป็นจังหวะเดียวกับที่สำนักศึกษาพาลูกศิษย์มาไหว้พระและศึกษาพระธรรมจึงทำให้คนพลุกพล่านเหมาะแก่การลงมือ"แต่ละคนไม่ได้เรื่องทั้งนั้น""องค์ชาย ตอนนั้นหากไม่ใช่เพราะลูกศิษย์สำนักศึกษาที่ชื่อไป๋เจินเจินคนนั้นเข้าไปพาทั้งสองออกมาก็คงจะสำเร็จแล้วพ่ะย่ะค่ะ""ไป๋เจินเจินงั้นหรือ""ทูลองค์ชาย ไป๋เจินเจินคือบุตรสาวหัวหน้าองครักษ์หลวงไป๋จิ้งหยวน เขาเพิ่งกลับมารับตำแหน่งเมื่อไม่นานนี้พ่ะย่ะค่ะ"หยางตงชิงปาจอกชางงพื้นจนแตกกระจาย ไป๋จิ้งหยวนเป็นเจ้าอีกแล้ว สองปีก่อนถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าข้าสังหารหยางมู่เฉินสำเร็จไปแล้ว ไอ้สารเลว"องค์ชายพ่ะย่ะค่ะ ท่านตาของพระองค์กำลังหาทางให้องค์ชายสิบสองผูกสัมพันธ์กับคณะทูตที่จะมาถึงเดือนหน้าพ่ะย่ะค่ะ""ท่านตาของข้างช่างทุ่มเทเสียจริงๆ หยางหลิงเทียนหรือจะนั่งบัลลังก์ ฝันเฟื่อง"หยางตงชิงเสแสร้งว่าตนเองไม่ฝักใฝ่ในอำนาจ ตำแหน่งรัชทายาทไม่ใชสิ่งที่เขาต้องการมาตลอด ทำตัวราวกับองค์ชายเกียจคร้านเรื่องกา







