เข้าสู่ระบบ"มองไรของมึงวะโปรด" เสียงทุ้มถามขึ้นเมื่อเห็นว่าเพื่อนสนิทกำลังมองสองสาวอยู่นานสองนานไม่วางตา
“มองของสวย ๆ งาม ๆ” ทรงโปรดตอบกลับ ทว่าสายตายังคงจดจ้องใบหน้าหวานของหญิงสาวคนนั้นไม่เลิก เธอมองเขา และเขาก็มองเธออยู่นานแล้ว ตั้งแต่เขาเดินลงจากชั้นบนมา
ชั้นบนเป็นห้องทำงานส่วนตัวของเขาในฐานะเจ้าของที่เป็นหุ้นส่วนใหญ่ ลำพังงานที่โรงพยาบาลในแต่ละวันก็เหนื่อยสายตัวแทบขาด แต่ยังต้องมาตรวจงานที่คลับอีกแทบทุกวัน ก็ได้ของสวย ๆ งาม ๆ พวกนี้ที่เป็นแรงบันดาลใจ
"แก๊งยายลูกคนรวยใจแตกนั่นอะนะ ทำไมวะ มึงสนใจเหรอ?" เตชินถาม
"มึงรู้จัก?" ทรงโปรดละสายตากลับมาถามเพื่อนกลับ รู้ว่าเตชินกว้างขวาง แต่มันจะรู้จักผู้หญิงทุกคนทั้งประเทศเลยหรือไง
"หึ! รู้จักดีเลยละ" จะไม่รู้จักได้ยังไง ก็หนึ่งในนั้นดันเป็นยายตัวแสบที่ทำให้ตนชวดงานใหญ่ เตชินจำสาวสวยหน้าเฉี่ยวชุดสายเดี่ยวแดงนั่นได้ขึ้นใจ
"ทำไมไปพูดถึงผู้หญิงแบบนั้น" ทรงโปรดนึกตำหนิเพื่อน รู้อยู่ว่าเตชินปากไม่ค่อยดีเท่าไรนัก แต่พูดให้ผู้หญิงเสียหายก็ไม่ใช่สิ่งที่ควรทำ
"ก็เรื่องจริง มึงดูแต่ละคนแต่งตัว โดยเฉพาะยายชุดแดงนั่น คู่กัดกูเองแหละ แรดจะตายชัก" เตชินขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน พลางลามไปดูถูกอีกหนึ่งสาวในกลุ่มเดียวกัน พลางคิดในใจว่าหากคบกันได้นิสัยคงไม่ต่างกันมาก
ทว่าทรงโปรดไม่คิดจะใส่ใจคำพูดของเพื่อนสนิท เขามองหญิงสาวหน้าสวยในชุดเดรสเกาะอกรัดรูปสีขาวแล้วนึกชั่งใจอยู่ครู่ใหญ่ว่าจะเข้าหาเธอดีหรือไม่
เมื่อสบสายตาหวานหยาดเยิ้มของหญิงสาวที่มองเขากลับมาเช่นกัน ทั้งส่งยิ้มยั่วยวนให้อย่างท้าทาย มีหรือหมาป่าอย่างทรงโปรดปล่อยไปง่าย ๆ
มุมปากหยักยกยิ้มร้าย รอยยิ้มของเขากลับส่งใบหน้าหล่อเหลาให้ยิ่งมีเสน่ห์กระชากใจยิ่งกว่าเก่า เล่นเอาสาว ๆ หลายคนตาพร่าใจละลายกันเป็นแถบ ร่างสูงหยัดกายลุกจากเก้าอี้หน้าบาร์หมายจะก้าวยาว ๆ เข้าไปทักทายเป้าหมายที่หมายตาเอาไว้
ทว่าไม่ทันที่ทรงโปรดจะเดินไปถึงตัวเป้าหมาย...
“สวัสดีครับ ผมเจมส์ครับ ขอดื่มด้วยคนนะ คุณ...”
ชายหนุ่มคนหนึ่งกลับเดินมาปาดหน้าร่างสูงไว้ เสียงทุ้มเอ่ยทักทายหญิงสาว และถือวิสาสะนั่งลงตรงเก้าอี้ตัวที่ว่างโดยไม่รอให้เจ้าของโต๊ะเอ่ยปากอนุญาต
ทรงโปรดเห็นเช่นนั้นเขาจึงยอมถอยห่าง ไม่ใช่ว่ากลัวหรือยอมแพ้ แต่การสู้รบปรบมือกับใครด้วยเรื่องแย่งผู้หญิงไม่ใช่สไตล์เขา ยิ่งผู้หญิงที่ไม่ได้เป็นอะไรกัน ไม่ทันได้รู้จักด้วยแล้ว
ถึงผู้หญิงคนนั้นจะสวยมาก หน้าตาน่ารักจนเขาอยากสัมผัส หรือมีประสบการณ์ด้วยแค่ไหน ทว่าโลกนี้ยังมีผู้หญิงให้เลือกมาก หาคนใหม่เอาก็ได้
“เอ่อ... ขอโทษนะคะ พอดีไม่สะดวกให้ร่วมโต๊ะด้วยค่ะ” เสียงหวานกล่าวปฏิเสธคนที่ถือวิสาสะเสนอหน้ามาขอร่วมโต๊ะด้วยจนเป้าหมายที่เธอเล็งไว้ถอยห่างออกไป
ถึงซินหยานจะหน้าหวาน ทว่าเธอเป็นพวกเอาแต่ใจ ถ้าอะไรหรือใครที่ไม่ได้เลือก ไม่ได้เล็ง ต่อให้หล่อหรือดีแค่ไหนเธอก็ไม่สนใจ
“นั่งกันสองคนเหงาแย่ ให้พี่นั่งเป็นเพื่อนดีกว่านะครับ” ชายหนุ่มคนนั้นยังคงยืนยันที่จะร่วมวงด้วยโดยไม่สนใจสายตาและวาจาของหญิงสาวที่เขาสนใจ
เขาวางแก้วเหล้าที่ถือมาด้วยลงบนโต๊ะแล้วยกเก้าอี้ตัวสูงขยับเข้าไปใกล้หญิงสาวอีกหน่อย นั่งลงหันหน้าเข้าหาเธอจนตัวแทบชิดติดกันก่อนจะถือวิสาสะกอดเอวคอดกิ่วเอาไว้ อีกมือจับมือเล็ก ๆ ของหญิงสาวแล้วกล่าววาจาที่ไม่เข้าหูเอาเสียเลย
“อย่าเล่นตัวเลยน่า... ถ้าไม่ฟรีก็บอกมาว่าเท่าไร พี่เปย์หนักมากนะ” เสียงทุ้มพร่ากระซิบชิดใบหูขาวจนขนอ่อนในกายหญิงสาวพากันลุกเกรียว เพราะความขยะแขยงหาใช่ความรู้สึกพิศวาสหรือวาบหวามไม่
“นี่! ลุกออกไปให้ห่างจากน้องสาวฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ” ดารินต่อว่าพลางลุกพรวดขึ้นมายืนชี้หน้าชายหนุ่ม
เธอหมายจะเข้าไปกระชากคอคนที่กำลังแตะเนื้อต้องตัวลวนลามซินหยาน ทว่าคนถูกลวนลามกลับส่ายหน้าห้าม บอกว่าไม่เป็นไร เธอจัดการเองได้
“จริงเหรอคะ... เปย์หนูไหวแน่นะ” เสียงหวานเย้ายวนถามชายหนุ่ม มือเล็กลากเลื่อนขึ้นลูบไล้แผงอกกว้างเบา ๆ ก่อนค่อย ๆ ละมือลงต่ำผ่านหน้าท้องไปยังกลางเป้า
ตื่นมาเธอก็ไม่เห็นคนเอาแต่ใจนอนข้างกาย ร่างบอบบางพยายามลากสังขารของตัวเองเข้าห้องน้ำในช่วงสายของอีกวันอย่างยากลำบาก เมื่อคืนโดนสามีเอาแต่ใจคาชุดเจ้าสาว กว่าเขาจะยอมหยุดก็ตอนที่เธอรน้องบอกว่าไม่ไหวแล้ว แทบจะต้องยกมือไหววิงวอนไม่ให้เขาทำต่อเธอพาตัวเองลงไปแช่ในอ่างที่มีน้ำอุ่นพร้อมไว้ คงจะเป็นสามีที่เตรียมให้ ส่วนเขาคงตื่นก่อนแล้วออกไปหาลูกชายทั้งสองหญิงสาวถอนหายในโล่งเมื่อได้นอนแช่น้ำอุ่น ๆ กลิ่นหอมของสบู่ทำให้เธอผ่อนคลายขึ้นมาก หลับตาซึมซับกับความสบายได้ไม่นานก็รู้สึกถึงแรงกระเพิ่มของน้ำ ร่างบอบบางโดนเบียดเสียดด้วยร่างหนาหนั่นแน่นที่มานั่งซ้อนหลัง“หิวรึยังครับ เมื่อกี้เฮียลงไปยกอาหารเช้ามาให้” เสียงทุ้มกระวิบแผ่วข้างหูขาว มือข้างหนึ่งกดนวดที่ไหล่สวยอีกข้างเค้นคลึงก้อนนุ่มหยุ่นเต็มไม้เต็มมือสลับกับบดบี้ยอดถันสีหวานที่เริ่มแข็งชันสู้นิ้ว จนคนที่ยังหลังตาพริ้มอดขนลุกเกรียวด้วยความเสียวซ่านไม่ได้ ซินหยานยกยิ้ม ชอบจังเวลาเขาทำอะไรแบบนี้ให้“เฮียไม่เหนื่อยเหรอคะ” เธอถามบ้าง เพราะเขาดูแลทั้งเธอและลูกอย่างนี้ทุกวัน ยิ่งตอนที่ได้ย้ายกลับไปอยู่ไทยด้วยกันที่บ้านหลังเล็ก ๆ แสนอบอุ่นของเขา ทรงโป
ลำพังแค่อาชีพหมอและกิจการที่เจ้าลูกเขยหมอนี่ไปลงทุนไว้และกำลังริเริ่มทำก็มากเกินจนล้น จนไม่มีเวลาได้หายใจอยู่แล้ว ไม่รู้มันจะร้อนเงินอะไรกันนักหนา จะขยันไปไหนเขาแค่อยากให้มีคนที่ดีอยู่เคียงข้างซินหยานในวันสุดท้ายที่ตาแก่อย่างเขาหมดลมหายใจ หวังแค่ให้ทรงโปรดเป็นทั้งสามีและพ่อที่ดี เป็นเสาหลักให้แก่ลูกและหลานของเขาได้และไม่รู้อะไรมันดลจิตดลใจถึงทำให้เขาเชื่อว่าทรงโปรดจะเป็นทั้งหลักยึด ทั้งครอบครัว และที่พักพิงทางใจให้ซินหยานและหลานๆของเขาได้อย่างแน่นอนซินหยานและทรงโปรดได้ฤกษ์เข้าพิธีแต่งงานกันในตอนที่ลูกชายคนแรกอายุได้สี่ขวบ ลูกชายคนที่สองอายุได้สองขวบกว่า ฤกษ์ที่ว่าคือฤกษ์สะดวกของตัวเจ้าสาวเองด้วย เพราะกว่ารูปร่างจะเข้าที่เข้าทางสวยเช้งแบบนี้ในวัยที่ลูกสองแล้วไม่ใช่เรื่องง่าย เล่นเอาคนเป็นสามีบ่นจนท้อ“เฮ้อ.. กว่าจะได้แต่ง” ชายหนุ่มบ่นเสียงอ่อนแล้วทิ้งร่างลงนอนบนเตียงใหญ่ที่ถูกจัดอย่างสวยงาม โรยด้วยกลีบกุหลาบสีขาวอย่างที่เจ้าสาวชอบ จนกลีบดอกกระดอนขึ้นตามแรงยวบจนมันฟุ้งกระจายไม่เหลือเค้ารูปหัวใจ“ก็ได้แต่งแล้วนี่ไงคะ ยังจะบ่นไม่หยุดอีก” ซินหยานบ่นกลับบ้าง พลางยืนถอดเครื่องประดับที่เป็
หลายเดือนแล้วที่ซินหยานและลูกย้ายตามทรงโปรดมาอยู่ที่ไทย ตอนที่รู้ว่าบิดาเป็นคนอยากให้ย้ายมาอยู่กันเป็นครอบครัว เธอเองก็อดกังวลใจไม่ได้ที่ต้องจากบิดา ทิ้งให้ท่านต้องอยู่เหงา ๆ คนเดียวที่คฤหาสน์หลังโตนั่น และพรากหลานออกมาจากอกอากงที่รักแสนรักหลานชายแต่เพราะบิดายืนยันหนักแน่นว่าอยากให้ลูกและหลานได้อยู่เป็นครัวครัวที่อบอุ่นสมบูรณ์ ตัวท่านเองไม่เป็นไร หากเหงาก็จะมาเยี่ยมบ่อยๆ ส่วนเธอจะบินกลับบ้านเมื่อไหร่ก็ได้ แค่อยากให้ซินหยานปักหลักสร้างครอบครัวที่เมืองไทย“ป๊ายังอยากมีลูกเขยเป็นหมออยู่นะ เกิดมันบ้าลาออกแล้วตามลูกเมียมาเกาะป๊ากินขึ้นมา แย่แน่ ๆ ” ท่านพูดว่าอย่างนั้น ทั้งที่จริงแล้วท่านแค่ไม่อยากให้ลูกเขยอย่างทรงโปรดต้องลาออกจากงานที่รัก ไม่อยากสร้างความลำบากใจให้ลูก ๆและเป็นดังที่หยางหวังพูดว่าจะมาเยี่ยมบ่อย ๆ คนแก่คิดถึงหลานชายก็มาเยี่ยมบ่อยดังปากว่าจริง ๆ มาเยี่ยมทุกเดือนอย่างน้อยครั้งละเจ็ดถึงสิบวัน เดือนนี้บ่อยกว่า หยางหวังมาไทยสองครั้ง ครั้งละหนึ่งสัปดาห์จนทรงโปรดถึงขั้นออกปากพูดว่า..“ผมว่าอาป๊าย้ายมาอยู่ไทยด้วยกันเลยดีกว่าไหมครับ” เสียงชายหนุ่มพูดอย่างหน่ายใจ ไหนบอกว่าให้พวกเข
“มาถึงขั้นนี้แล้วจะหวงอะไรอีกครับป๊า น่า.. เดี๋ยวผมเสกหลานชายเพิ่มให้นะครับ” คุณหมอปากหมาก็ยังกระเซ้าเย้าแหย่พ่อตาต่อจากที่เคยโดนกระทืบปางตาย ทุกวันนี้เขาใช้ลูกตื๊อหน้าหนาหน้าทนซื้อใจพ่อตามาได้แล้ว จะตีจะเตะจะด่าหรือสารพัดก็เอาวะ ก็อยากได้ลูกเขา แล้วตอนนี้เป็นไงล่ะ หึ!“จะกลับไทยวันนี้ใช่ไหม กี่โมงล่ะ” เมื่อพ่อตาถามทรงโปรดก็ทำหน้าเป็นหมาป่วยใส่ ไม่ตอบคำถามไม่พอ แต่ดันถามพ่อตากลับด้วยนี่สิเป็นคำถามที่เขาไม่จำเป็นต้องถามความเห็นใครก็ได้นอกจากภรรยา ทว่าเมื่อเข้ามาในครอบครัวของหญิงสาวแล้วเขาก็เคารพบุพการีของเธอเสมือนบุพการีตัวเองที่ไม่เคยมีมานานแล้ว“ป๊าครับ.. ถ้าเกิดผมจะลาออกจากหมอ ป๊าจะว่าอะไรไหม” เสียงชายหนุ่มจริงจังไร้ท่าทางล้อเล่นจนผู้อาวุโสกว่าชะงักแล้วละสายตาจากใบหน้าแป้นแล้นของหลานชายมามองขี้หน้าไอ้ลูกเขยตัวดี คิ้วขมวดมุ่น“ทำไม?” หยางหวังถามเหตุผล“ผมอยากอยู่กับลูกเมียครับ“ ทรงโปรดสารภาพตามความจริง เสียงทุ้มหนักแน่น ให้เดินทางมาหาบ่อย ๆ แบบทุกวันนี้มันเหนื่อย เหนื่อยกายแค่ไหนเขาทนได้ แต่หากเป็นไปได้ก็ไม่อยากจากครอบครัวไปสักนาที คนเคยขาดอย่างเขาแค่อยากมีชีวิตครอบครัวที่ปกติ เลี้
ทรงโปรดตื่นมาในช่วงสายของอีกวันเพราะเมื่อคืนมัวแต่ถ่างขาเมีย.. เอ้ย ถ่างตาช่วยเมียเลี้ยงลูกนานไปหน่อย...หน่อยที่แปลว่ายันเช้าเขาอุ้มลูกชายมาส่งให้พี่เลี้ยงช่วยอาบน้ำแต่งตัว ปล่อยให้ซินหยานนอนหลับพักผ่อนไปยาว ๆ บ้าง ปกติเธอจะจัดการทุกเรื่องของลูกเป็นหลักเพราะไม่ค่อยไว้ใจใคร มีพี่เลี้ยงไว้เพื่อเป็นผู้ช่วย เขาอยากให้เธอพักผ่อน และเมื่อคืนก็แทบไม่ได้นอนเพราะซินหยานมัวแต่ถ่างขะ.. ตา เธอถ่างตาดูแลลูกกับเขาเมามันกันจนเผลอครางเสียงดัง จนน้ำสุดท้ายตอนใกล้สว่างน้องแซมเลยตื่นก่อนเวลามาร้องไห้งอแง เพราะตกใจเสียงครางราวกับสัตว์ป่าของพ่อกับแม่ ก็ทำไงได้คนมันเก็บกดมานานกว่าครึ่งค่อนปี "ขอโทษนะครับ ต่อไปนี้ปะป๊าจะไม่เสียงดังให้น้องแซมตื่นอีกแล้วน้า.." คนเป็นพ่อเอ่ยขอโทษลูกชายด้วยเสียงสองที่คิดว่าน่ารักที่สุดในชีวิตแล้ว ในตอนที่อุ้มเจ้าก้อนลงมาส่งให้อากงที่ห้องเลี้ยงเด็กของบ้าน หยางหวังที่ปกติก็ตื่นเช้าทุกวันเพื่อมาออกกำลังกายก่อนจะออกไปดูแลกิจการ ทุกวันนี้กลับกลายเป็นตาเฒ่าต้องตื่นเช้ามาออกกำลังกายหนักกว่าเก่าเพื่อที่จะได้มีร่างกายแข็งแรงไว้อุ้มหลาน หยางหวังออกกำลังกายเสร็จก็รีบอาบน้ำแต่งตัวหอม
เธอส่ายหน้าจนผมยาวปลิวสยาย ความเสียวซ่านพุ่งทะยานถึงขีดสุดซินหยานก็กัดริมฝีปากจนแดงก่ำ หวีดร้องในคอแล้วร่างนวลก็กระตุกเกร็งเมื่อเขาใช้ทั้งปลายนิ้วและลิ้นร้อนแสนร้ายกาจส่งเธอไปแตะขอบรุ้งอันพร่างพราย หญิงสาวทิ้งตัวอ่อนปวกเปียกนอนแน่นิ่งแล้วกอบโกยลมหายใจเข้าปอดถี่กระชั้น เพราะในตอนที่เสียวซ่านเธอเผลอกลั้นหายในเสียเนิ่นนานเขาเกือบจะทำให้เธอขาดใจไม่กี่นาทีเท่านั้นที่ทรงโปรดปล่อยให้เธอได้พักเพราะไม่นานเขาก็จับเรียวขาขาวข้างหนึ่งมาพาดไหล่กำยำไร้ปราการปกปิด รั้งขอบกางเกงนอนลงต่ำจนท่อนเอ็นดีดขึงโด่ชี้ฟ้า เขาจับแก่นกายที่พองขยายจนเต็มตึงแทบปริแตกถูไถกับน้ำหวานสีใสที่ฉ่ำเยิ้มตรงร่องสาวแล้วค่อย ๆ กดมันเข้าไปในโพรงสวาทคับแน่น“อื้อ! เฮียขา..” ซินหยานเบิกตากว้างเพราะช่องทางรักของเธอคับแน่นกว่าเก่า และท่อนลำของเขาก็ใหญ่เกินขนาดมาตรฐานไปมากโข ทรงโปรดกัดกรามแน่น เขาเองก็ปวดตึงไม่ต่างจากซินหยาน ของเธอตอดรัดเสียจนเขาแทบขยับไม่ไหว“อา... เกือบแตกแล้วซิน” ชายหนุ่มสารภาพเสียงต่ำพร่า ก่อนจะหยุดขยับแน่นิ่ง แช่ท่อนลำที่ยังค้างอยู่เพียงครึ่งไว้เท่านั้นแล้วโน้มตัวลงประกบจูบปากซินหยานที่น้ำตาไหลออกจากหางตา เขา







