ตอนที่ 39 เดิมพันชีวิตและความแค้น

เสียงปืนดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วห้องโถงประมูลที่เคยหรูหรา บัดนี้กลายเป็นสมรภูมิเลือดแห่งการต่อสู้เพื่ออำนาจและความแค้น คีรินทร์พุ่งเข้าใส่ดานิเอล เอ็นโซ ด้วยความเร็วเหนือมนุษย์ ดาบสั้นในมือส่องประกายวาววับรับแสงไฟ เขาไม่ได้ต่อสู้เพียงเพื่อปกป้องตัวเองและแก๊ง แต่เพื่อล้างแค้นให้กับทุกสิ่งที่ 'เงา' ได้พรากไปจากเขาและเกวลิน

ดานิเอล เอ็นโซ ที่เคยเยือกเย็นและมั่นใจ บัดนี้มีแววตาที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นและประหลาดใจ เขาไม่คิดว่าคีรินทร์จะฟื้นตัวได้เร็วขนาดนี้ และไม่คิดว่าการเปิดโปงความจริงจะเกิดขึ้นในลักษณะนี้ เขาชักมีดพกออกมา ป้องกันการโจมตีของคีรินทร์อย่างรวดเร็ว เสียงเหล็กกระทบกันดังก้องไปทั่วบริเวณ

"แกมันโง่ คีรินทร์!" ดานิเอล เอ็นโซ ตะโกน "แกคิดว่าจะหยุดฉันได้ด้วยการเปิดโปงแค่เรื่องแค่นี้งั้นเหรอ?"

"แกจะไม่มีวันได้อะไรไปจากที่นี่!" คีรินทร์ตอบ พลางใช้ดาบสั้นฟันเข้าใส่อีกครั้ง

ขณะเดียวกัน เกวลินก็สวมบทบาทนักรบอย่างเต็มตัว เธอเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว หลบหลีกกระสุนที่พุ่งมา ก่อนจะยิงตอบโต้ลูกน้องของ 'เงา' อย่างแม่นยำ ทุกนัดที่ยิงออกไปแฝงไว้ด้วยความแค้นที่เธอมีต่อคนที่หลอกใช้และทำร้ายครอบครัวของเธอ

"ทุกคน! จัดการพวกมันให้หมด!" ริคาร์โด้สั่งลูกน้องเสียงดัง เขานำทีมต่อสู้กับลูกสมุนของดานิเอล เอ็นโซ อย่างดุเดือด เหล่าแขกเหรื่อผู้มีอิทธิพลต่างวิ่งหนีเอาตัวรอด บางคนก็พยายามเข้าร่วมวงต่อสู้เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตัวเอง

การต่อสู้เป็นไปอย่างโกลาหลและดุเดือด คีรินทร์และดานิเอล เอ็นโซ เคลื่อนไหวรวดเร็วราวกับเงา แลกหมัดและอาวุธกันอย่างไม่มีใครยอมใคร

"แกมันอ่อนหัดไป 20 ปีแล้ว ดานิเอล!" คีรินทร์เย้ยหยัน พลางใช้ดาบปัดมีดของ 'เงา' ออกไป

"อย่าคิดว่าแกจะเหนือกว่าฉัน คีรินทร์!" ดานิเอล เอ็นโซ ตอบ ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ เขารวบรวมพลังทั้งหมดแทงมีดเข้าใส่คีรินทร์อย่างรวดเร็ว แต่คีรินทร์ก็หลบได้ทันท่วงที

ท่ามกลางความวุ่นวายของการต่อสู้ จู่ๆ ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น อิซาเบลล่า คอนติ ที่แอบซ่อนตัวอยู่ในมุมหนึ่งของห้องโถง ได้ฉวยโอกาสที่ทุกคนกำลังวุ่นวาย ชักปืนออกมาและเล็งไปที่เกวลิน

ความแค้นและความอิจฉาที่เธอมีต่อเกวลินยังคงฝังลึก อิซาเบลล่าเชื่อว่าถ้าไม่มีเกวลิน คีรินทร์ก็จะต้องเป็นของเธอ

"แกจะต้องตาย!" อิซาเบลล่าตะโกน ดวงตาฉายแววอาฆาต

เกวลินสัมผัสได้ถึงอันตราย เธอหันไปมองอิซาเบลล่าด้วยความตกใจ แต่ก็ไม่สามารถหลบได้ทันท่วงที

ปัง! เสียงปืนดังขึ้น

แต่กระสุนไม่ได้พุ่งเข้าใส่เกวลิน ทว่ากลับเป็นริคาร์โด้ที่พุ่งเข้ามาขวางไว้ เขาได้รับบาดเจ็บที่หัวไหล่ เลือดซึมออกมาจากบาดแผล

"ริคาร์โด้!" เกวลินตะโกนด้วยความตกใจ

การกระทำของริคาร์โด้ทำให้คีรินทร์เสียสมาธิเพียงเสี้ยววินาที และนั่นก็เป็นโอกาสที่ดานิเอล เอ็นโซ ไม่ปล่อยให้หลุดมือ เขาพุ่งเข้ามาพร้อมมีดในมือ ตั้งใจจะแทงคีรินทร์ซ้ำ

แต่แล้วก็มีเสียงปืนดังขึ้นอีกครั้ง!

ปัง!

กระสุนพุ่งเข้าใส่ดานิเอล เอ็นโซ อย่างจัง ร่างของเขาเซถลา ก่อนจะล้มลงอย่างช้าๆ

ทุกคนหันไปมองหาที่มาของเสียงปืน และก็ต้องตกตะลึง เมื่อเห็นชายชราคนหนึ่งยืนอยู่มุมห้อง ด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย มือของเขาถือปืนที่เพิ่งยิงไป

ชายชราคนนั้นคือ อาคาเมอร์ อดีตมือขวาของพ่อคีรินทร์ ผู้ที่เคยหายตัวไปอย่างลึกลับเมื่อหลายปีก่อน

"นายท่าน...ผมขออภัยที่มาสายไป" อาคาเมอร์กล่าวด้วยน้ำเสียงที่สงบนิ่ง

คีรินทร์มองอาคาเมอร์ด้วยความประหลาดใจ เขาไม่คิดว่าชายคนนี้จะยังมีชีวิตอยู่ และยังคงภักดีต่อตระกูลวาเลนซิโอ

เมื่อดานิเอล เอ็นโซ ล้มลง การต่อสู้ก็เริ่มคลี่คลายลง ลูกน้องของ 'เงา' ที่เห็นหัวหน้าของตนพ่ายแพ้ก็เริ่มถอยร่นและหนีไปในความมืด คีรินทร์รีบเข้าไปหาเกวลินและริคาร์โด้

"ริคาร์โด้ แกเป็นยังไงบ้าง?" คีรินทร์ถามด้วยความเป็นห่วง

"ไม่เป็นไรครับหัวหน้า" ริคาร์โด้ตอบ ใบหน้าซีดเผือด "แค่ถากๆ ครับ"

เกวลินรีบเข้าไปประคองริคาร์โด้ "คุณไปโรงพยาบาลเถอะค่ะ"

คีรินทร์หันไปมองอิซาเบลล่าที่กำลังยืนตัวสั่นด้วยความกลัว "จัดการมันซะ!" คีรินทร์สั่งลูกน้อง

ลูกน้องของคีรินทร์รีบเข้าไปจับตัวอิซาเบลล่าไว้

คีรินทร์เดินเข้าไปหาอาคาเมอร์ "คุณอาคาเมอร์...คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? แล้วทำไมคุณถึง..."

"ผมไม่ได้หายไปไหนหรอกครับนายท่าน" อาคาเมอร์กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ "ผมแค่แฝงตัวอยู่ในเงามืด...เพื่อสืบหาความจริงเกี่ยวกับ 'เงา' และคนที่อยู่เบื้องหลังการตายของนายท่านใหญ่"

อาคาเมอร์เล่าเรื่องราวทั้งหมด เขาเป็นคนเดียวที่รู้ความลับทั้งหมดเกี่ยวกับแผนการของดานิเอล เอ็นโซ และการที่เขาวางแผนล้มล้างตระกูลต่างๆ ในอดีต หลังจากที่พ่อของคีรินทร์เสียชีวิต อาคาเมอร์ก็แกล้งทำเป็นหายตัวไป เพื่อที่จะสืบหาความจริงและรอคอยเวลาที่จะเปิดเผยตัวตนของ 'เงา'

"ผมรู้ว่าการเปิดโปงจะทำให้สถานการณ์อันตราย" อาคาเมอร์กล่าว "แต่ผมก็รู้ว่านายท่านจะต้องจัดการมันได้"

คีรินทร์รู้สึกซาบซึ้งใจในความภักดีของอาคาเมอร์ เขาไม่เคยคิดว่าจะมีคนที่ภักดีต่อตระกูลของเขาถึงเพียงนี้

เมื่อทุกอย่างคลี่คลายลง คีรินทร์สั่งให้ลูกน้องจัดการกับดานิเอล เอ็นโซ และนำร่างของเขาไปทิ้งในที่ที่ไม่มีใครจะพบเจอได้อีก

"นี่คือจุดจบของเกมแค้นนี้" คีรินทร์กล่าวด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น

เกวลินเดินเข้ามาหาคีรินทร์ เธอกอดเขาไว้แน่น "ขอบคุณนะคะ คีร์...ขอบคุณที่ปกป้องฉัน"

คีรินทร์กอดตอบเธออย่างอบอุ่น "ฉันจะปกป้องเธอเสมอ เกวลิน...ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น"

รุ่งเช้าของวันถัดมา ข่าวการกวาดล้างครั้งใหญ่ในโลกใต้ดินแพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว แก๊งวาเลนซิโอกลับมาแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม และคีรินทร์ วาเลนซิโอ ก็ได้รับการยอมรับในฐานะผู้ควบคุมอำนาจที่แท้จริง

คีรินทร์ยังคงต้องฟื้นฟูร่างกายจากอาการบาดเจ็บ แต่จิตใจของเขาเข้มแข็งกว่าที่เคย เกวลินอยู่เคียงข้างเขาเสมอ ดูแลเขาอย่างไม่ห่างกาย ความรักและความผูกพันของทั้งสองแน่นแฟ้นยิ่งกว่าเดิม

อย่างไรก็ตาม แม้ทุกอย่างจะจบลง แต่ร่องรอยของความเจ็บปวดและความสูญเสียก็ยังคงหลงเหลืออยู่ เกวลินยังคงต้องใช้เวลาในการเยียวยาจิตใจจากความจริงที่ว่าครอบครัวของเธอมีความเกี่ยวข้องกับโลกใต้ดิน และเธอถูกหลอกใช้มาตลอด

คีรินทร์เองก็ต้องรับมือกับผลกระทบจากการต่อสู้ครั้งนี้ แต่เขาก็ไม่เสียใจ เขาได้ปกป้องคนที่เขารัก และกำจัดศัตรูที่คุกคามชีวิตของพวกเขา

หลายเดือนผ่านไป คีรินทร์ฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บอย่างสมบูรณ์ เขากลับมาบริหารแก๊งวาเลนซิโออย่างเต็มตัว และขยายอำนาจของเขาให้มั่นคงยิ่งขึ้น

เกวลินตัดสินใจที่จะอยู่เคียงข้างคีรินทร์ เธอเข้าใจแล้วว่าโลกของเขานั้นซับซ้อนและเต็มไปด้วยอันตราย แต่เธอก็เลือกที่จะอยู่กับเขา เธอเชื่อมั่นในความรักของเขา และพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับทุกสิ่งทุกอย่างที่จะเข้ามาในอนาคต

วันหนึ่ง คีรินทร์พาเกวลินไปที่สถานที่แห่งหนึ่ง เป็นบ้านหลังเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ริมทะเล บรรยากาศเงียบสงบและสวยงาม

"ที่นี่คือบ้านของเรา" คีรินทร์กล่าวด้วยรอยยิ้ม "ฉันอยากจะเริ่มต้นชีวิตใหม่กับเธอที่นี่"

เกวลินมองเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรักและความสุข "ฉันรักคุณนะคะ คีร์"

คีรินทร์โอบกอดเธอไว้แน่น "ฉันก็รักเธอ เกวลิน...มากกว่าชีวิตของฉันเสียอีก"

ชีวิตใหม่ของคีรินทร์และเกวลินกำลังจะเริ่มต้นขึ้น พวกเขาได้ผ่านพ้นพายุฝนมาด้วยกัน และความรักของพวกเขาก็แข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม แม้เส้นทางข้างหน้าจะยังคงเต็มไปด้วยความท้าทาย แต่พวกเขาก็พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับมัน เคียงข้างกันตลอดไป...