หน้าหลัก / รักโบราณ / ชะตาฟ้าลิขิตสวรรค์ / บทที่ 19 หนุ่มคณิกาและเรื่องหลอกลวง 1-2

แชร์

บทที่ 19 หนุ่มคณิกาและเรื่องหลอกลวง 1-2

ผู้เขียน: องค์หญิงโนเนม
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-20 14:21:09

รุ่งเช้าหลิวลี่เซียนไปที่เรือนของฮูหยินลี่หยางเพื่อรับประทานอาหารเช้าที่เรือนของมารดา ฮูหยินลี่หยางเอ่ยปากชมว่าหม่าล่าที่นางนำมาให้กินนั้นแปลกตาและอร่อยยิ่ง ส่วนหลิวลี่ซือที่นั่งร่วมโต๊ะด้วยนั้นลอบบิดเบ้มุมปากตนด้วยความริษยา

ตั้งแต่ที่พี่สาวนางตกน้ำครานั้นก็ดูเปลี่ยนไป เมื่อก่อนนางช่างอ่อนแอและขี้โรคนัก โดนลมเพียงนิดก็ไม่สบายต้องนอนรักษาตัวอยู่ในจวนเป็นนานแรมเดือน แต่ตอนนี้นางดูแข็งแรงไม่เจ็บป่วยไข้เหมือนแต่ก่อน ซ้ำยังดูงดงามสดใสยิ่ง

น่าถลกหนังหน้านางให้มันพังพินาศไปเสีย

หลังจากที่กินข้าวเช้าเสร็จแล้ว หลิวลี่ซือก็เดินออกมาจากเรือนฮูหยินลี่หยาง ก่อนจะจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าออกนอกจวนไปที่หอเป่าชิงเพื่อหาซื้อเครื่องประดับ

หลิวลี่ซือเป็นคนรักสวยรักงามยิ่ง นางชอบสะสมเครื่องประดับอัญมณีที่งดงามหลากหลาย

เมื่อเลือกเครื่องประดับได้ตามที่ต้องการแล้ว หลิวลี่ซือเตรียมให้อวี้จู้สาวรับใช้คนสนิทจ่ายค่าเครื่องประดับของนาง แต่ทว่ามีมือปริศนาข้างหนึ่งยื่นมาก่อน

"แม่นาง ค่าเครื่องประดับนี้นายของข้าจะเป็นคนจ่ายให้ท่านเอง"

หลิวลี่ซือหันไปมองก่อนจะพบกับบุรุษผู้หนึ่ง เขาแต่งกายคล้ายองครักษ์ในวังหลวง

"นายของเจ้าคือใคร"

"แม่นางโปรดตามข้ามาเถิด"

หลิวลี่ซือมองบุรุษตรงหน้าอย่างหยั่งเชิง ก่อนจะเดินตามเขาไปพร้อมกับอวี้จู้

บุรุษผู้นั้นพานางมาที่หอเสี่ยวเอ้อ ก่อนจะนำทางนางเข้าไปที่ห้องด้านในสุดห้องหนึ่ง เมื่อนางเดินเข้าไปก็ได้พบกับชายผู้หนึ่ง

ชายที่นางเฝ้าคะนึงหาเขาทุกเช้าค่ำ

"ถวายพระพรองค์ชายรองเพคะ"

"ไม่ต้องมากพิธี เจ้านั่งลงก่อนเถิด"

หลิวลี่ซือค่อนข้างประหม่าไม่น้อย นางไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้เจอกับชายที่นางหมายปองที่นี่ ใบหน้าของนางแดงระเรื่อ ทุกการกระทำของนางอยู่ในสายตาของจ้าวเฟยหรง เขายกยิ้มมุมปากด้วยความพอใจไม่น้อย

"ขอโทษด้วยที่ให้คนไปเชิญเจ้ามาทั้งที่ไม่ได้บอกก่อน"

"ไม่เป็นไรเพคะ"

"เรามาพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมา เจ้าคือฝาแฝดผู้น้องของลี่เซียนใช่รึไม่"

คำถามนี้ขององค์ชายรองทำให้หลิวลี่ซือชะงักไปไม่น้อย นี่เขาเรียกนางมาเพื่อถามถึงนังตัวดีนั่นหรือ

"เพคะ หม่อมฉันเป็นแฝดผู้น้อง มีนามว่าหลิวลี่ซือเพคะ"

จ้าวเฟยหรงพยักหน้าเล็กน้อย

"เช่นนั้นเจ้าพอจะช่วยอะไรข้าสักอย่างหนึ่งได้หรือไม่"

"ช่วยอะไรหรือเพคะ?"

จ้าวเฟยหรงยิ้มมุมปากด้วยความเจ้าเล่ห์

"ข้าอยากให้เจ้าพาพี่สาวเจ้ามาพบข้า"

หลิวลี่ซือมองหน้าจ้าวเฟยหรงอย่างไม่เชื่อสายตา นี่เขาชอบหลิวลี่เซียนจริงๆ เช่นนั้นหรือ

จ้าวเฟยหรงเดาความคิดของหลิวลี่ซือออก เขาเอื้อมมือของตนเองไปกุมที่มือขาวนุ่มของหลิวลี่ซือ นางตกใจเล็กน้อยแต่ไม่แสดงท่าทีขัดขืน

"เจ้าไม่ต้องคิดมาก ข้าเพียงต้องการเชยชมนางเท่านั้น นางก็เหมือนดอกไม้ริมทางดอกหนึ่งที่ข้าต้องการ พอข้าเบื่อข้าก็จะเขี่ยนางไป แต่สำหรับเจ้าที่ข้าให้คนตามเจ้ามาที่นี่ เพราะข้ามีเรื่องจะบอกกับเจ้า"

"เรื่องอะไรหรือเพคะ?"

จ้าวเฟยหรงยิ้มอย่างอ่อนโยน

"ข้าชอบเจ้า เจ้าจะยอมเป็นชายาเอกของข้าได้หรือไม่"

หัวใจของหลิวลี่ซือพองโต นางรู้สึกเหมือนตัวเองฝันไปก็ไม่ปาน

"เจ้าจะช่วยข้าได้หรือไม่ ข้าสัญญาว่าจะมีเพียงเจ้า ข้าจะไม่มีทางให้พี่สาวเจ้ามาเทียบเจ้าได้"

"ได้เพคะ หม่อมฉันจะช่วยองค์ชายรอง"

"ถ้าเจ้าทำสำเร็จ เจ้าเตรียมรอวันที่เสด็จพ่อพระราชทานสมรสให้เราสองคนได้เลย"

หลิวลี่ซือยิ้มอย่างดีใจ หึ เจ้ามันก็แค่หมากตัวหนึ่งที่องค์ชายรองต้องการเล่น แล้วก็เขี่ยเจ้าทิ้ง สุดท้ายก็เป็นข้าที่ได้หัวใจขององค์ชายรองมาครอบครอง

หลังจากตกลงแผนการกันเรียบร้อยแล้วหลิวลี่ซือก็ขอตัวกลับ ส่วนจ้าวเฟยหรงได้แต่มองตามแผ่นหลังของนางจนลับสายตา พลันส่งเสียงหึในลำคอ

ผู้หญิงที่ตกปากรับคำทำลายชื่อเสียงพี่สาวได้อย่างหน้าไม่อายเช่นเจ้า ไม่คู่ควรเป็นชายาเอกที่ข้ารักแม้แต่น้อย

ตกดึกคืนนั้นจ้าวจิ้งเทียนก็มาตามที่รับปากกับหลิวลี่เซียนเอาไว้ เขาส่งชุดบุรุษให้นางเปลี่ยนก่อนจะออกไปรอด้านนอกหน้าต่าง ส่วนเขาแต่งกายเหมือนคุณชายธรรมดาทั่วไปและมีผ้าขาวปิดบังใบหน้าไว้

"ข้าแต่งตัวเสร็จแล้ว"

หลิวลี่เซียนยิ้มอย่างตื่นเต้น นางไม่เคยแต่งกายบุรุษมาก่อนเลย

ส่วนไป๋หลางที่มีสีหน้ากังวลตลอดเวลาได้แต่ยิ้มน้อยๆ ส่งให้หลิวลี่เซียน เพราะนางไม่อาจขัดใจคุณหนูใหญ่ของนางได้

"ไม่ต้องกังวล ข้าจะดูแลคุณหนูของเจ้าอย่างดี"

จ้าวจิ้งเทียนเอ่ยเพียงเท่านั้น ก่อนจะพาหลิวลี่เซียนกระโดดออกไปทางหน้าต่างขึ้นไปบนหลังคาและออกมานอกจวน

"วิชาตัวเบาท่านช่างเก่งกาจยิ่งนัก"

หลิวลี่เซียนเอ่ยปากชมจ้าวจิ้งเทียนอย่างชอบใจ ชุนหลางที่เดินตามอยู่ด้านหลังอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้

"ท่านจะพาข้าไปที่ไหน"

หลิวลี่เซียนหันไปถามจ้าวจิ้งเทียนพลางกวาดสายตามองไปรอบๆ นางไม่เคยออกไปไหนมาไหนตอนกลางคืนเลยตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ บรรยากาศช่างเงียบและมีแสงไฟงดงามเรียงรายตามทางเดินไม่น้อย

"สายสืบของข้ารายงานว่าบัณฑิตผู้นั้นแท้จริงแล้วไม่ใช่บัณฑิต"

"หมายความว่าอย่างไร?"

"เขาปลอมตัวมาตั้งใจที่จะหลอกเจินเซียงโดยตรง ความจริงแล้วเขาเป็นชายคณิกาที่หอโคมแดง"

ชายคณิกา โอววว ผู้ชายขายตัวเหรอ

"แต่เจินเซียงเคยเล่าว่าเขาเป็นลูกหลานตระกูลบัณฑิตมีนามว่า ลั่วซือเฉิง"

"นั่นเป็นชื่อปลอม เขาแอบอ้างชื่อและสร้างเรื่องตระกูลบัณฑิตขึ้นมาตบตาเจินเซียง ความจริงแล้วเขามีนามว่า หวาเยียน บุรุษน้อยร้อยราคะ"

หลิวลี่เซียนพยักหน้าเล็กน้อย ข้อมูลช่างแน่นนัก

"เขาเป็นเด็กเร่ร่อนไม่มีพ่อแม่ มาจากที่ไหนไม่มีใครทราบ แต่ด้วยรูปโฉมที่ตราตรึงใจทำให้ได้มาทำงานที่หอโคมแดง"

"แล้วเขาไม่มีคนรักหรือ?"

"มี เป็นหัวหน้าหอโคมแดงนามว่า หนิงซาน"

พระเจ้า!!! เขารักผู้ชายด้วยกันงั้นหรือ

"ข้าคิดว่าถ้าหากเขาเป็นชายรักชาย เขาย่อมไม่ทีทางล่วงเกินเจินเซียง"

ว่าแต่หมอนั่นเป็นแบบรุกหรือแบบรับกันนะ อยากรู้จัง เพื่อความกระจ่างในการสืบสวน?

"ข้าก็คิดเช่นนั้น โอว เราถึงหอโคมแดงแล้ว เร็วรีบเข้าไปด้านในกันเถอะ อย่ามีพิรุธเด็ดขาด"

เมื่อเตรียมพร้อมแล้วทั้งสามคนก็เดินเข้าไปที่หอโคมแดงหรือหอคณิกาชาย ที่นี่ตกแต่งด้วยโคมแดงทั้งชั้นล่างและชั้นบน มีเด็กหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาคอยต้อนรับแขก จ้าวจิ้งเทียนเลือกที่นั่งด้านบนเพราะเขารู้ว่าหวาเยียนต้องอยู่ที่นี่เป็นแน่

เป็นไปตามคาด หวาเยียนกำลังคลอเคลียกับเหล่าบุรุษที่เดินเข้ามาไม่ขาดสาย พลันสายตาของเขาจับจ้องมาที่จ้าวจิ้งเทียนอย่างเสน่หา

จ้าวจิ้งเทียนรู้สึกขนลุกขนพองไม่น้อย แต่ยังคงไม่แสดงอาการใดๆ

"คารวะคุณชายทั้งสามท่าน วันนี้ให้หวาเยียนปรนนิบัติดีหรือไม่?"

หลิวลี่เซียนนึกสนุกขึ้นมา นางกระแอมไอสองครั้งก่อนจะยิ้มให้หวาเยียน

"ดีอย่างยิ่ง คุณชายจ้าวสหายของข้าท่านนี้รู้สึกกระสันมาเป็นเวลาหลายวัน ข้าจึงพาเขามาปลดปล่อยที่นี่"

จ้าวจิ้งเทียนหันไปถลึงตาใส่หลิวลี่เซียนทันที นี่นางคิดจะแกล้งเขางั้นหรือ

"เช่นนั้นหวาเยียนจะนวดบรรเทาจุดกระสันให้นะขอรับ"

ยิ่งมองหลิวลี่เซียนก็ยิ่งสนุก นางมองหวาเยียนนวดจุดกระสันให้จ้าวจิ้งเทียน เริ่มตั้งแต่ต้นคอไล่ลงมาเรื่อยๆ จนถึง

โอวววว ต่ำลงอีกพ่อหนุ่มน้อยร้อยราคะ

"พอเถอะ ข้าอยากดื่มสุราแล้ว"

จ้าวจิ้งเทียนพลันเอ่ยเสียงขรึม หวาเยียนมีสีหน้าไม่สู้ดีเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มออกมา

"ได้ขอรับ อีกสักครู่ข้าน้อยจะนำสุรามาปรนนิบัติท่าน"

ไม่นานหวาเยียนก็มาพร้อมสุราอย่างดีสามไห ก่อนจะยิ้มออกมาจนตาหยีพลางมองไปที่จ้าวจิ้งเทียน

"ไหนี้มีชื่อว่า คุณชายม้ากระสัน ส่วนไหนี้มีชื่อว่า ร้อยลีลาเล่ห์ลมหวน ส่วนไหสุดท้ายมีชื่อว่า คุณชายขอรับ ข้าน้อยกระสันยิ่ง"

หลิวลี่เซียนแทบจะหลุดขำออกมาแล้ว นางมองใบหน้าที่บูดเบี้ยวของจ้าวจิ้งเทียนอย่างเวทนา

ส่วนชุนหลางนั้นมีใบหน้าเรียบเฉย แต่ทว่าในใจของเขานั้นพลันหัวเราะจนท้องแข็งไปนานแล้ว

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ชะตาฟ้าลิขิตสวรรค์   บทที่ 50 พานพบอีกครั้ง The End.

    หลิวลี่เซียนค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา ความรู้สึกอ่อนเพลียและเหนื่อยล้าถาโถมเข้าใส่ร่างกายของนางอย่างตั้งรับเอาไว้แทบไม่ทัน"ดื่มน้ำก่อนนะคะ คุณหนู"หลิวลี่เซียนหันไปมองก่อนจะพบเข้ากับเลขาหวัง เลขาประจำตัวของนางที่เพิ่งจ้างเข้ามาทำงานให้เมื่อห้าปีก่อนเดี๋ยวนะ!! นี่มันเรื่องอะไรกัน?หลิวลี่เซียนยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่มด้วยความหิวกระหาย ก่อนจะมองสังเกตไปโดยรอบ ก็พบว่าตอนนี้ตนเองกำลังใส่ชุดของโรงพยาบาลอยู่นี่มันเกิดอะไรขึ้น? นางย้อนกลับมาร่างเดิมเช่นนั้นหรือ?หลิวลี่เซียนยกมือขึ้นบีบหว่างคิ้วที่ปวดหนึบขึ้นมาเสียดื้อๆ ความคิดมากมายประเดประดังเข้ามาในหัวของนางอย่างไม่จบไม่สิ้น"คุณหนูชิงชิงคะ อีกเดี๋ยวคุณหมอคงจะมาแล้วค่ะ""เลขาหวัง""คะคุณหนู?""ข้า เอ่อ ฉันหลับไปนานเท่าไร แล้วที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นบ้าง?"เลขาหวังขมวดคิ้วมอง 'จ้าวชิงชิง' ด้วยแววตาสงสัย แต่ก็ยอมเอ่ยปากเล่าให้เธอฟังทุกเรื่องเลขาหวังเล่าว่า คุณพ่อของจ้าวชิงชิงโทรมาหาเลขาหวังกลางดึกให้รีบพาตำรวจมาที่บ้านโดยด่วนที่สุด เธอเองก็ไม่เข้าใจว่าเพราะอะไรท่านประธานจึงให้เรียกตำรวจเข้าไปในเวลาดึกดื่นเช่นนี้แต่เมื่อเธอไปถึงก็พบว่าหลี่เย่สามีของจ้าว

  • ชะตาฟ้าลิขิตสวรรค์   บทที่ 49 จากลาอย่างงดงาม

    ภายในคุกหลวงที่มืดมิดไร้ซึ่งแสงไฟส่องสว่าง ปรากฏร่างของเหมยฮวาชิงที่นอนดิ้นทุรนทุรายอยู่บนพื้นที่มีหนูตัวน้อยใหญ่ไต่ยั้วเยี้ยไปมาอย่างน่าขนลุก"ได้เวลาดื่มยาพิษแล้ว"เสียงผู้คุมคุกหลวงที่นางได้ยิน ราวกับเสียงแห่งขุมนรกกำลังเรียกร้องหานาง นางไม่อาจจะยอมรับได้เลยว่า สุดท้ายแล้วนางต้องมาตกตายด้วยยาพิษที่ตนเองเป็นคนสร้างมันขึ้นมาด้วยมือของนางเองหลังจากเหมยฮองเฮาตายจากไปแล้ว ก็มีคำสั่งให้ประหารคนตระกูลเหมยจนสิ้นซาก ไม่เหลือรอดแม้เพียงคนเดียว บ่าวไพร่ถูกโบยจนตกตายไปตามกัน ป้ายคำสั่งทหารนับแสนนายที่เคยอยู่ในมือของท่านพ่อก็ถูกยึดคืนสู่ราชสำนักไปหมด จ้าวจิ้งเทียนช่างโหดร้ายยิ่งนัก เขาถอนรากถอนโคนตระกูลเหมยจนสิ้นซากไร้การได้ลืมตาอ้าปากอีกครั้งจวนตระกูลเหมยถูกยึดเป็นสมบัติคลังหลวง ตระกูลเหมยที่เคยโอ่อ่าใหญ่โต อำนาจบารมีล้นฟ้า ไม่มีผู้ใดกล้าต่อกรด้วย สุดท้ายแล้วกลับหายสาบสูญตายจากไปอย่างไม่เหลือรอดแม้แต่คนเดียวเหมยฮวาชิงถูกกรอกยาพิษทุกวัน วันละสามมื้อ หลิวลี่เซียนช่างจิตใจอำมหิตจนน่าหวาดกลัวเหมยฮวาชิงดิ้นทุรนทุราย ดวงตาเบิกโพลงกระอักเลือดออกมาคำโต ช่วงชีวิตสุดท้ายของนางนั้น นางนึกหวนย้อนไปถึง

  • ชะตาฟ้าลิขิตสวรรค์   บทที่ 48 หลิวฮองเฮาผู้มากับไม้หน้าสาม

    รัชศกจิ้งเทียนปีที่หนึ่งหลิวลี่เซียนกำลังนั่งอยู่ที่หน้ากระจกมองดูตนเองถูกเหล่านางกำนัลจัดแต่งอาภรณ์ให้ด้วยความใส่ใจ นางยกยิ้มมุมปากมองดูสตรีที่สูงส่งตรงหน้าด้วยสายตาพอใจ นี่ใช่นางจริงหรือ? ราวกับฝันไปเสียจริงๆ"ได้เวลาแล้วเพคะฮองเฮา"หลิวลี่เซียนพยักหน้าก่อนจะมองไป๋หลางด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน ไป๋หลางนั้นได้เลื่อนขั้นเป็นนางกำนัลคนสนิทของหลิวลี่เซียนคอยรับใช้อยู่ข้างกายนางหลิวลี่เซียนนั่งอยู่บนเกี้ยว มองดูเหล่าขันทีนางกำนัลหมอบกราบทำความเคารพนางด้วยสายตาอ่อนโยนมีเมตตา เสียงดนตรีบรรเลงขับขาน ช่างฟังแล้วให้ความรู้สึกตื้นตันในใจเหลือคณานางกับจ้าวจิ้งเทียนอภิเษกสมรสกันเมื่อสองเดือนก่อน หลังจากที่ไท่ซังหวงทรงสละราชสมบัติ จ้าวจิ้งเทียนจึงแต่งตั้งนางขึ้นเป็นฮองเฮาหลิวฮองเฮาสวมชุดสีแดงปักลายหงส์คู่มังกร แถบเซี๊ยะเพ่ยปักลายหงส์พิลาสคู่ มงกุฎหงส์เป็นรูปแบบดั้งเดิมของราชวงศ์ต้าโจว มีหงส์รำแพนคู่หนึ่งตัว ด้านข้างคือหงส์พิลาสข้างละหนึ่งตัว ประดับด้วยทับทิมและอัญมณี ส่งเสริมให้พระนางดูงามสง่าและน่าเกรงขามยิ่งนัก ใบหน้าที่งดงามดูทรงอำนาจชวนมอง ทำให้ผู้ที่ได้พบเห็นไม่สามารถละสายตาจากนางไปได้ฮ่องเต้จ้

  • ชะตาฟ้าลิขิตสวรรค์   บทที่ 47 สละราชสมบัติ

    หลิวลี่ซือจ้องมองร่างอันไร้ซึ่งลมหายใจของเหมยฮองเฮาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะใช้ผ้าปิดบังใบหน้า แล้วเดินก้มหน้าก้มตาออกมาจากคุกหลวงโดยไร้ซึ่งพิรุธใดๆ นางเดินไปอย่างไม่รีบไม่ร้อน ชื่นชมบรรยากาศภายในวังหลวงยามค่ำคืนอย่างสงบเยือกเย็นคืนนี้พระจันทร์ช่างงดงามเหลือเกิน ท่านแม่เจ้าคะ ป่านนี้ท่านคงกำลังชื่นชมข้ากับท่านพี่ลี่เซียนอยู่บนสรวงสวรรค์ใช่หรือไม่?รุ่งเช้าข่าวการตายอย่างปริศนาของเหมยฮองเฮาก็เป็นที่โจษจันกันไปทั่วทั้งวังหลวง สภาพศพช่างน่าเวทนาและน่าขยะแขยงไปในคราเดียวกัน อดีตฮองเฮาพระองค์นี้ช่างอายุสั้นยิ่งนัก เพิ่งจะได้เสวยความสุขอยู่ในตำแหน่งที่สูงสุดได้ไม่นาน ก็ร่วงตกลงมาสู่ความตายเบื้องล่างอย่างน่าอนาถในที่เกิดเหตุพบผ้าคลุมผืนหนึ่งปักตัวอักษรฮวาชิงเอาไว้ คาดว่าน่าจะเป็นของฆาตกรที่ใช้ฆ่าอดีตฮองเฮา ผู้คุมคุกหลวงถูกสอบสวนอย่างหนัก เขาให้การว่ามีนางกำนัลของตำหนักพระชายารององค์รัชทายาทมาขอพบกับอดีตฮองเฮา บอกว่าพระชายารองให้นำสิ่งของมามอบให้อดีตฮองเฮา หลังจากที่นางกำนัลผู้นั้นเดินออกมา อดีตฮองเฮาก็กลายเป็นศพไปเสียแล้ว กว่าจะทราบว่านางตายก็เกือบจะรุ่งสางของอีกวันเหมยฮวาชิงถูกควบคุมตัวมา

  • ชะตาฟ้าลิขิตสวรรค์   บทที่ 46 ตกตายไปตามกัน

    จ้าวเฟยหรงมองเหมยฮองเฮาด้วยแววตาเย็นเยียบ บุตรชายหัวแก้วหัวแหวนที่เขารักยิ่ง นางถึงกับกล้ามาวางยาพิษเชียวหรือ ช่างบังอาจเทียมฟ้ายิ่งนัก!!!"นังคนสารเลว!!!""หึ!! ไม่ใช่แค่บุตรชายของเจ้านะ แม้แต่แม่ของเจ้าก็ถูกข้าวางยาพิษมานานเสียจนร่างกายอ่อนแอ อีกไม่นานนางคงจะไปสู่ปรโลกอย่างเป็นสุขพร้อมกับบุตรชายของเจ้า ฮ่าาๆๆๆ""นังคนสารเลว สุดท้ายเจ้าก็หลุดปากออกมาทั้งหมดว่าเจ้าเป็นคนทำ!!!""แล้วอย่างไรเล่า!! ข้าเป็นคนทำเรื่องทั้งหมดด้วยตนเอง คนในตระกูลข้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง"จ้าวจิ้งเทียนส่งเสียงเฮอะในลำคอ ใครเชื่อนางก็บ้าเต็มทนแล้ว เขามองนางด้วยสายตาดูแคลนก่อนจะเอ่ยปากกับนาง"คนในตระกูลของเจ้าจะมีส่วนรู้เห็นในความเลวของเจ้าหรือไม่นั้น ข้าจะเป็นคนสืบหาเอง!!!"จางอิงอิงมองเหมยฮองเฮาก่อนจะยกยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก นางค่อยๆ ย่องไปทางด้านหลังของเหมยฮองเฮาด้วยฝีเท้าที่เบาเป็นอย่างยิ่ง ก่อนจะใช้เข็มเงินอาบยาพิษแทงเข้าไปที่ต้นคอของเหมยฮองเฮาฉึก!!!"อ๊าาาา"หลิวลี่เซียนอาศัยช่วงเวลาชุลมุนนี้ กระทุ้งศอกไปที่ปลายคางของเหมยฮองเฮาอย่างแรงจนนางมึนงง เซถลาใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความทรมาน"จับนางไว้!!!"เหล่าทหารจับ

  • ชะตาฟ้าลิขิตสวรรค์   บทที่ 45 ลอบฆ่า 1-2

    หลิวลี่เซียนยื่นมือไปทุบประตู หวังจะร้องขอความช่วยเหลือ แต่กลับพบว่ามันร้อนเสียจนนางต้องรีบชักมือกลับ ควันสีขาวภายในห้องยิ่งพวยพุ่งมากขึ้นจนนางรู้สึกจุกแน่นที่จมูกและเริ่มหายใจไม่ออก นางถอยหลังออกมาทรุดตัวลงนั่ง สติเริ่มรางเลือนลงไปทุกขณะ"ชิงชิง"หลิวลี่เซียนพยายามประคองสติและเงยหน้าไปมอง ร่างของนางถูกจ้าวจิ้งเทียนช้อนตัวอุ้มขึ้นมาไว้ในอ้อมอก ก่อนที่เขาพานางพุ่งทะยานออกมาจากเรือนที่ไฟกำลังไหม้ลุกโหม"แค่ก แค่ก""เป็นอย่างไรบ้าง"หลิวลี่เซียนพยักหน้าน้อยๆ นางเองรู้สึกดีขึ้นไม่น้อยที่ได้ออกมาจากควันสีขาวที่ลอยคลุ้งเช่นนั้น"ท่านมาได้อย่างไร""ข้ารู้สังหรณ์ในใจว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่ดีกับเจ้าก่อนถึงวันแต่งงานของเรา ข้าคาดเดาไว้ไม่ผิดเลย พวกมันลงมือรวดเร็วยิ่งนัก""ลี่เซียน เจ้าไม่เป็นอะไรนะ""ท่านพี่ ข้าปลอดภัยดีเจ้าค่ะ ซินฮวาเล่า""นางสำลักควันจนหมดสติ หมอหลวงกำลังดูอาการอยู่""เหตุใดไฟจึงไหม้ได้เจ้าคะ""คาดว่าเหมยฮองเฮาคงจะลงมือแล้ว สายสืบภายในของข้าที่แฝงอยู่ในตำหนักนางถูกนางสังหารจนสิ้นไปเสียแล้ว"หลิวลี่เซียนใจหล่นวูบ นางมองจ้าวฝูหมิงด้วยสายตาเป็นกังวล จ้าวฝูหมิงรับรู้ในความกังวลของน

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status