แชร์

บทที่ 6 สหายสนิท

ผู้เขียน: องค์หญิงโนเนม
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-19 10:29:17

"คุณหนูใหญ่ ท่านหายไปไหนมาเจ้าคะ บ่าวตามหาจนทั่วแล้วก็ไม่เจอท่าน บ่าวตกใจนะเจ้าคะ"

ไป๋หลางรีบวิ่งเข้ามาหาหลิวลี่เซียนด้วยใบหน้าซีดเผือด

"ท่านพี่ ท่านหายไปไหนมาเจ้าคะ นี่ก็เลยเวลากลับจวนมานานมากแล้ว"

"ข้าหลงทางน่ะ กว่าจะหาทางกลับมาได้ เดินเพลินไปนิด"

หลิวลี่ซือขมวดคิ้วมองหลิวลี่เซียนด้วยแววตาสงสัย แต่ก็ช่างนางสิ คิดๆ ไปแล้วทำไมไม่หลงทางไปเลย แล้วไม่ต้องกลับจวนมาอีก

หลังจากที่กลับถึงจวนหลิวลี่เซียนก็อาบน้ำสระผม ก่อนจะเดินมานั่งให้ไป๋หลางเช็ดผมให้นาง

"ไป๋หลาง คุณหนูเจินเซียงนี่นิสัยใจคอนางเป็นเช่นไร"

ไป๋หลางที่กำลังเช็ดผมให้หลิวลี่เซียนมีสีหน้าสงสัย คุณหนูของนางตั้งแต่หายป่วยก็เหมือนไม่ใช่คนเก่าอย่างไรอย่างนั้น

"คุณหนูใหญ่จำคุณหนูเจินเซียงไม่ได้รึเจ้าคะ"

"ข้าจำอะไรไม่ค่อยได้ เจ้าเล่ามาเถอะน่า ทำไมต้องถามข้ากลับด้วยเล่า"

หลิวลี่เซียนยื่นมือไปบิดปลายจมูกของไป๋หลางอย่างเบามือ ไป๋หลางย่นจมูกน้อยๆ ของนาง ทำให้หลิวลี่เซียนยิ้มออกมาเล็กน้อย

"คุณหนูใหญ่กับคุณหนูเจินเซียงเป็นพระสหายร่วมเรียนกับองค์หญิงจ้าวเฟยหยางตอนอายุสิบสองเจ้าค่ะ"

"อ้อ"

"คุณหนูใหญ่สนิทกับคุณหนูเจินเซียงมาตั้งแต่ตอนนั้นเจ้าค่ะ"

หลิวลี่เซียนพยักหน้าเป็นเชิงว่าเข้าใจแล้ว นางต้องถามจากไป๋หลางให้มากที่สุดเพื่อที่ว่านางจะได้ไม่สับสนว่าใครเป็นใคร ทำไมที่นี่ถึงน่าเบื่อขนาดนี้กันนะ ไม่จิบชา ชมสวน ก็เย็บปักผ้า

ด้านของจ้าวจิ้งเทียน เขาได้กลับมาลองทำตามวิธีที่หลิวลี่เซียนแนะนำ เขาลงมือทำด้วยตนเองตามวิธีที่นางบอก เพียงแค่คืนเดียวแผลบนหน้าที่แดงนูนของเค้าก็เรียบลงอย่างเห็นได้ชัด เขาพอใจกับผลลัพธ์นี้เป็นอย่างมาก

วันถัดมาหลิวลี่เซียนกับหลิวลี่ซือต่างเดินทางตามเสนาบดีหลิวเข้าวังหลวง หลิวลี่เซียนสวมชุดสีฟ้าอ่อนปักลายผีเสื้อดูสบายตา ส่วนหลิวลี่ซือสวมชุดสีเขียวอ่อนปักลายดอกกุ้ยฮวาสีทองดูงามตานัก

เพราะงานนี้จ้าวฮวงโหวทรงจัดขึ้นกะทันหัน จึงรับสั่งเหล่าขุนนางว่ามิต้องหาของขวัญให้มากพิธี แค่มาร่วมเป็นสักขีพยานก็พอ

เมื่อเข้าไปถึงวังหลวงต่างพบเห็นคุณหนูตระกูลสูงศักดิ์ต่างกำลังพูดคุยหยอกล้อกัน หลิวลี่ซือก็แยกตัวออกไปพบปะสนทนากับเพื่อนๆ ของนาง ส่วนหลิวลี่เซียนกำลังยืนอยู่กับไป๋หลางด้วยสีหน้าปั้นยาก

ให้ตายเถอะ ไม่รู้จักใครสักคนเลย

"ลี่เซียน!!"

ในระหว่างที่นางกำลังสับสนมึนงงเพราะไม่รู้ว่าจะไปทางไหนก่อนดี ก็มีมือขาวดุจหยกงามเอื้อมมาจับมือนางไว้ หลิวลี่เซียนหันไปมองตามมือที่จับนางไว้ ก่อนจะพบกับสตรีน้อยนางหนึ่ง

"คารวะคุณหนูเจินเซียงเจ้าค่ะ"

ไป๋หลางที่ยืนอยู่ข้างๆ น้อมกายทำความเคารพหญิงสาวตรงหน้า หลิวลี่เซียนหันไปมองนางแล้วยิ้มออกมา เจินเซียงแม่นางคนนี้งดงามนัก ผิวขาวเหมือนหยกงาม รูปหน้าเรียวงามได้รูป

"เจ้าหายดีแล้วหรือ เจ้าตกน้ำวันนั้นข้าไม่ได้ไปเยี่ยม ขอโทษเจ้าด้วยจริงๆ ข้าต้องอยู่ในวังตามรับสั่งของจ้าวฮวงโหว"

เจินเซียงมีสีหน้ารู้สึกผิดอย่างเห็นได้ชัด หลิวลี่เซียนมองเห็นความจริงใจของนางจึงยื่นมือไปจับมือของเจินเซียงแล้วยิ้มจนตาหยี

"เจ้าไม่ต้องคิดมาก ข้าหายดีแล้ว"

"ข้าดีใจจัง ไปเถอะ องค์หญิงเฟยหยางอยากเจอเจ้า"

ยังไม่ทันที่หลิวลี่เซียนจะได้ตอบตกลงก็ถูกเจินเซียงดึงตัวนางให้ตามไปเสียแล้ว

"หลิวลี่เซียน ข้าคิดถึงเจ้ายิ่งนัก"

"ถวายพระพรองค์หญิงจ้าวเฟยหยางเพคะ"

"ไม่ต้องมากพิธี มาๆ รีบตามข้ามา"

องค์หญิงเฟยหยางรีบเดินเข้ามาจับมือหลิวลี่เซียนและเจินเซียงเข้าไปในตำหนัก และสนทนาถามไถ่อาการของหลิวลี่เซียน

ตามที่เจินเซียงเล่าให้นางฟัง องค์หญิงเฟยหยางเป็นบุตรธิดาองค์เล็กของจ้าวฮวงโหว เท่าที่นางพิจารณาองค์หญิงพระองค์นินี้นิสัยน่ารักใช้ได้ทีเดียว

ไม่นานนางกำนัลก็มาแจ้งว่าจ้าวฮวงโหวเสด็จแล้ว จึงได้พากันเดินไปที่สวนชมเหมย

เป็นครั้งแรกที่หลิวลี่เซียนได้พบกับจ้าวฮวงโหว บารมีของพระนางช่างมากมายนัก เพียงแค่ได้มองพระบารมีเพียงด้านข้างพระพักตร์ก็รู้สึกงดงามยิ่ง

"ถวายพระพรจ้าวฮวงโหวเพคะ"

เหล่าคุณหนูต่างน้อมตัวก้มลงถวายพระพร องค์หญิงเฟยหยางและเจินเซียงตอนนี้กำลังยืนอยู่ไม่ไกลจากนางมากนัก

"ลุกขึ้นเถิด มิต้องมากพิธี"

ทุกคนต่างยิ้มแย้มและค่อยๆ ยืดตัวขึ้นมองไปที่จ้าวฮวงโหวประทับอยู่

น่ะ!!! นั่นมัน คุณแม่!!!

เหมือนทุกสิ่งหยุดนิ่งลงไม่ไหวติง มีเพียงหลิวลี่เซียนที่กำลังจ้องมองจ้าวฮวงโหวด้วยแววตาที่แปลกใจระคนตกใจ

ทำไมพระนางช่างเหมือนกับคุณแม่ในชาติปัจจุบันของนางนัก

"คุณหนูท่านเป็นอะไรเจ้าคะ ทำไมหน้าซีดเช่นนั้น คุณหนู!!!"

หลิวลี่เซียนหลุดออกมาจากภวังค์ที่พันธนาการนางไว้ นางค่อยๆ หลับตาและสลัดหัวไล่ความคิดแปลกๆ ออกไป ก่อนจะลืมตาและมองไปที่จ้าวฮวงโหวอีกครั้ง

ยังคงเป็นแม่ของนางเช่นเดิม!!!

นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน สวรรค์เล่นตลกอะไรกับนาง

หลิวลี่เซียนพยายามกลั้นขอบตาที่ร้อนผ่าวให้เป็นปกติ นั่นไม่ใช่คุณแม่ แค่หน้าเหมือนกันเท่านั้น

งานจิบชาชมสวนดำเนินการไปด้วยดี ก่อนที่จะมีนางกำนัลมากระซิบที่ข้างพระกันต์ของจ้าวฮวงโหว พระนางมีสีหน้าตกใจอย่างที่สุด ก่อนจะสั่งให้แยกย้ายและรีบเสด็จกลับตำหนักไป

หลิวลี่เซียนที่กำลังมึนงงได้แต่มองตามจ้าวฮวงโหวไปด้วยความสงสัย ทำไมพระนางถึงรีบร้อนปานนั้น

"ลี่เซียน เจ้าเดินทางกลับจวนดีๆ ล่ะ ตอนนี้อันตรายนัก"

"มีอะไรรึเจินเซียง?"

เจินเซียงเม้มริมฝีปากแน่นก่อนจะก้าวมากระซิบที่ข้างหูนาง

"เกิดเหตุลอบปลงพระชนม์องค์รัชทายาทเมื่อวานนี้"

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ชะตาฟ้าลิขิตสวรรค์   บทที่ 50 พานพบอีกครั้ง The End.

    หลิวลี่เซียนค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา ความรู้สึกอ่อนเพลียและเหนื่อยล้าถาโถมเข้าใส่ร่างกายของนางอย่างตั้งรับเอาไว้แทบไม่ทัน"ดื่มน้ำก่อนนะคะ คุณหนู"หลิวลี่เซียนหันไปมองก่อนจะพบเข้ากับเลขาหวัง เลขาประจำตัวของนางที่เพิ่งจ้างเข้ามาทำงานให้เมื่อห้าปีก่อนเดี๋ยวนะ!! นี่มันเรื่องอะไรกัน?หลิวลี่เซียนยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่มด้วยความหิวกระหาย ก่อนจะมองสังเกตไปโดยรอบ ก็พบว่าตอนนี้ตนเองกำลังใส่ชุดของโรงพยาบาลอยู่นี่มันเกิดอะไรขึ้น? นางย้อนกลับมาร่างเดิมเช่นนั้นหรือ?หลิวลี่เซียนยกมือขึ้นบีบหว่างคิ้วที่ปวดหนึบขึ้นมาเสียดื้อๆ ความคิดมากมายประเดประดังเข้ามาในหัวของนางอย่างไม่จบไม่สิ้น"คุณหนูชิงชิงคะ อีกเดี๋ยวคุณหมอคงจะมาแล้วค่ะ""เลขาหวัง""คะคุณหนู?""ข้า เอ่อ ฉันหลับไปนานเท่าไร แล้วที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นบ้าง?"เลขาหวังขมวดคิ้วมอง 'จ้าวชิงชิง' ด้วยแววตาสงสัย แต่ก็ยอมเอ่ยปากเล่าให้เธอฟังทุกเรื่องเลขาหวังเล่าว่า คุณพ่อของจ้าวชิงชิงโทรมาหาเลขาหวังกลางดึกให้รีบพาตำรวจมาที่บ้านโดยด่วนที่สุด เธอเองก็ไม่เข้าใจว่าเพราะอะไรท่านประธานจึงให้เรียกตำรวจเข้าไปในเวลาดึกดื่นเช่นนี้แต่เมื่อเธอไปถึงก็พบว่าหลี่เย่สามีของจ้าว

  • ชะตาฟ้าลิขิตสวรรค์   บทที่ 49 จากลาอย่างงดงาม

    ภายในคุกหลวงที่มืดมิดไร้ซึ่งแสงไฟส่องสว่าง ปรากฏร่างของเหมยฮวาชิงที่นอนดิ้นทุรนทุรายอยู่บนพื้นที่มีหนูตัวน้อยใหญ่ไต่ยั้วเยี้ยไปมาอย่างน่าขนลุก"ได้เวลาดื่มยาพิษแล้ว"เสียงผู้คุมคุกหลวงที่นางได้ยิน ราวกับเสียงแห่งขุมนรกกำลังเรียกร้องหานาง นางไม่อาจจะยอมรับได้เลยว่า สุดท้ายแล้วนางต้องมาตกตายด้วยยาพิษที่ตนเองเป็นคนสร้างมันขึ้นมาด้วยมือของนางเองหลังจากเหมยฮองเฮาตายจากไปแล้ว ก็มีคำสั่งให้ประหารคนตระกูลเหมยจนสิ้นซาก ไม่เหลือรอดแม้เพียงคนเดียว บ่าวไพร่ถูกโบยจนตกตายไปตามกัน ป้ายคำสั่งทหารนับแสนนายที่เคยอยู่ในมือของท่านพ่อก็ถูกยึดคืนสู่ราชสำนักไปหมด จ้าวจิ้งเทียนช่างโหดร้ายยิ่งนัก เขาถอนรากถอนโคนตระกูลเหมยจนสิ้นซากไร้การได้ลืมตาอ้าปากอีกครั้งจวนตระกูลเหมยถูกยึดเป็นสมบัติคลังหลวง ตระกูลเหมยที่เคยโอ่อ่าใหญ่โต อำนาจบารมีล้นฟ้า ไม่มีผู้ใดกล้าต่อกรด้วย สุดท้ายแล้วกลับหายสาบสูญตายจากไปอย่างไม่เหลือรอดแม้แต่คนเดียวเหมยฮวาชิงถูกกรอกยาพิษทุกวัน วันละสามมื้อ หลิวลี่เซียนช่างจิตใจอำมหิตจนน่าหวาดกลัวเหมยฮวาชิงดิ้นทุรนทุราย ดวงตาเบิกโพลงกระอักเลือดออกมาคำโต ช่วงชีวิตสุดท้ายของนางนั้น นางนึกหวนย้อนไปถึง

  • ชะตาฟ้าลิขิตสวรรค์   บทที่ 48 หลิวฮองเฮาผู้มากับไม้หน้าสาม

    รัชศกจิ้งเทียนปีที่หนึ่งหลิวลี่เซียนกำลังนั่งอยู่ที่หน้ากระจกมองดูตนเองถูกเหล่านางกำนัลจัดแต่งอาภรณ์ให้ด้วยความใส่ใจ นางยกยิ้มมุมปากมองดูสตรีที่สูงส่งตรงหน้าด้วยสายตาพอใจ นี่ใช่นางจริงหรือ? ราวกับฝันไปเสียจริงๆ"ได้เวลาแล้วเพคะฮองเฮา"หลิวลี่เซียนพยักหน้าก่อนจะมองไป๋หลางด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน ไป๋หลางนั้นได้เลื่อนขั้นเป็นนางกำนัลคนสนิทของหลิวลี่เซียนคอยรับใช้อยู่ข้างกายนางหลิวลี่เซียนนั่งอยู่บนเกี้ยว มองดูเหล่าขันทีนางกำนัลหมอบกราบทำความเคารพนางด้วยสายตาอ่อนโยนมีเมตตา เสียงดนตรีบรรเลงขับขาน ช่างฟังแล้วให้ความรู้สึกตื้นตันในใจเหลือคณานางกับจ้าวจิ้งเทียนอภิเษกสมรสกันเมื่อสองเดือนก่อน หลังจากที่ไท่ซังหวงทรงสละราชสมบัติ จ้าวจิ้งเทียนจึงแต่งตั้งนางขึ้นเป็นฮองเฮาหลิวฮองเฮาสวมชุดสีแดงปักลายหงส์คู่มังกร แถบเซี๊ยะเพ่ยปักลายหงส์พิลาสคู่ มงกุฎหงส์เป็นรูปแบบดั้งเดิมของราชวงศ์ต้าโจว มีหงส์รำแพนคู่หนึ่งตัว ด้านข้างคือหงส์พิลาสข้างละหนึ่งตัว ประดับด้วยทับทิมและอัญมณี ส่งเสริมให้พระนางดูงามสง่าและน่าเกรงขามยิ่งนัก ใบหน้าที่งดงามดูทรงอำนาจชวนมอง ทำให้ผู้ที่ได้พบเห็นไม่สามารถละสายตาจากนางไปได้ฮ่องเต้จ้

  • ชะตาฟ้าลิขิตสวรรค์   บทที่ 47 สละราชสมบัติ

    หลิวลี่ซือจ้องมองร่างอันไร้ซึ่งลมหายใจของเหมยฮองเฮาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะใช้ผ้าปิดบังใบหน้า แล้วเดินก้มหน้าก้มตาออกมาจากคุกหลวงโดยไร้ซึ่งพิรุธใดๆ นางเดินไปอย่างไม่รีบไม่ร้อน ชื่นชมบรรยากาศภายในวังหลวงยามค่ำคืนอย่างสงบเยือกเย็นคืนนี้พระจันทร์ช่างงดงามเหลือเกิน ท่านแม่เจ้าคะ ป่านนี้ท่านคงกำลังชื่นชมข้ากับท่านพี่ลี่เซียนอยู่บนสรวงสวรรค์ใช่หรือไม่?รุ่งเช้าข่าวการตายอย่างปริศนาของเหมยฮองเฮาก็เป็นที่โจษจันกันไปทั่วทั้งวังหลวง สภาพศพช่างน่าเวทนาและน่าขยะแขยงไปในคราเดียวกัน อดีตฮองเฮาพระองค์นี้ช่างอายุสั้นยิ่งนัก เพิ่งจะได้เสวยความสุขอยู่ในตำแหน่งที่สูงสุดได้ไม่นาน ก็ร่วงตกลงมาสู่ความตายเบื้องล่างอย่างน่าอนาถในที่เกิดเหตุพบผ้าคลุมผืนหนึ่งปักตัวอักษรฮวาชิงเอาไว้ คาดว่าน่าจะเป็นของฆาตกรที่ใช้ฆ่าอดีตฮองเฮา ผู้คุมคุกหลวงถูกสอบสวนอย่างหนัก เขาให้การว่ามีนางกำนัลของตำหนักพระชายารององค์รัชทายาทมาขอพบกับอดีตฮองเฮา บอกว่าพระชายารองให้นำสิ่งของมามอบให้อดีตฮองเฮา หลังจากที่นางกำนัลผู้นั้นเดินออกมา อดีตฮองเฮาก็กลายเป็นศพไปเสียแล้ว กว่าจะทราบว่านางตายก็เกือบจะรุ่งสางของอีกวันเหมยฮวาชิงถูกควบคุมตัวมา

  • ชะตาฟ้าลิขิตสวรรค์   บทที่ 46 ตกตายไปตามกัน

    จ้าวเฟยหรงมองเหมยฮองเฮาด้วยแววตาเย็นเยียบ บุตรชายหัวแก้วหัวแหวนที่เขารักยิ่ง นางถึงกับกล้ามาวางยาพิษเชียวหรือ ช่างบังอาจเทียมฟ้ายิ่งนัก!!!"นังคนสารเลว!!!""หึ!! ไม่ใช่แค่บุตรชายของเจ้านะ แม้แต่แม่ของเจ้าก็ถูกข้าวางยาพิษมานานเสียจนร่างกายอ่อนแอ อีกไม่นานนางคงจะไปสู่ปรโลกอย่างเป็นสุขพร้อมกับบุตรชายของเจ้า ฮ่าาๆๆๆ""นังคนสารเลว สุดท้ายเจ้าก็หลุดปากออกมาทั้งหมดว่าเจ้าเป็นคนทำ!!!""แล้วอย่างไรเล่า!! ข้าเป็นคนทำเรื่องทั้งหมดด้วยตนเอง คนในตระกูลข้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง"จ้าวจิ้งเทียนส่งเสียงเฮอะในลำคอ ใครเชื่อนางก็บ้าเต็มทนแล้ว เขามองนางด้วยสายตาดูแคลนก่อนจะเอ่ยปากกับนาง"คนในตระกูลของเจ้าจะมีส่วนรู้เห็นในความเลวของเจ้าหรือไม่นั้น ข้าจะเป็นคนสืบหาเอง!!!"จางอิงอิงมองเหมยฮองเฮาก่อนจะยกยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก นางค่อยๆ ย่องไปทางด้านหลังของเหมยฮองเฮาด้วยฝีเท้าที่เบาเป็นอย่างยิ่ง ก่อนจะใช้เข็มเงินอาบยาพิษแทงเข้าไปที่ต้นคอของเหมยฮองเฮาฉึก!!!"อ๊าาาา"หลิวลี่เซียนอาศัยช่วงเวลาชุลมุนนี้ กระทุ้งศอกไปที่ปลายคางของเหมยฮองเฮาอย่างแรงจนนางมึนงง เซถลาใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความทรมาน"จับนางไว้!!!"เหล่าทหารจับ

  • ชะตาฟ้าลิขิตสวรรค์   บทที่ 45 ลอบฆ่า 1-2

    หลิวลี่เซียนยื่นมือไปทุบประตู หวังจะร้องขอความช่วยเหลือ แต่กลับพบว่ามันร้อนเสียจนนางต้องรีบชักมือกลับ ควันสีขาวภายในห้องยิ่งพวยพุ่งมากขึ้นจนนางรู้สึกจุกแน่นที่จมูกและเริ่มหายใจไม่ออก นางถอยหลังออกมาทรุดตัวลงนั่ง สติเริ่มรางเลือนลงไปทุกขณะ"ชิงชิง"หลิวลี่เซียนพยายามประคองสติและเงยหน้าไปมอง ร่างของนางถูกจ้าวจิ้งเทียนช้อนตัวอุ้มขึ้นมาไว้ในอ้อมอก ก่อนที่เขาพานางพุ่งทะยานออกมาจากเรือนที่ไฟกำลังไหม้ลุกโหม"แค่ก แค่ก""เป็นอย่างไรบ้าง"หลิวลี่เซียนพยักหน้าน้อยๆ นางเองรู้สึกดีขึ้นไม่น้อยที่ได้ออกมาจากควันสีขาวที่ลอยคลุ้งเช่นนั้น"ท่านมาได้อย่างไร""ข้ารู้สังหรณ์ในใจว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่ดีกับเจ้าก่อนถึงวันแต่งงานของเรา ข้าคาดเดาไว้ไม่ผิดเลย พวกมันลงมือรวดเร็วยิ่งนัก""ลี่เซียน เจ้าไม่เป็นอะไรนะ""ท่านพี่ ข้าปลอดภัยดีเจ้าค่ะ ซินฮวาเล่า""นางสำลักควันจนหมดสติ หมอหลวงกำลังดูอาการอยู่""เหตุใดไฟจึงไหม้ได้เจ้าคะ""คาดว่าเหมยฮองเฮาคงจะลงมือแล้ว สายสืบภายในของข้าที่แฝงอยู่ในตำหนักนางถูกนางสังหารจนสิ้นไปเสียแล้ว"หลิวลี่เซียนใจหล่นวูบ นางมองจ้าวฝูหมิงด้วยสายตาเป็นกังวล จ้าวฝูหมิงรับรู้ในความกังวลของน

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status