เมื่อเจ้าของปางไม้สุดเจ้าชู้ต้องเผชิญหน้ากับคู่หมั้นในวัยเด็กที่สุดแสนจะขี้เหร่ บดินทร์จึงปฏิเสธการดูตัวมาตลอด แต่การพบกันครั้งนี้กลับเป็นเขาที่ต้องวิ่งตามหวงคู่หมั้น และน้ำมนต์จะหนีเขาได้หรือไม่
View Moreหลังจากวันที่ทั้งสองได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันท่ามกลางสายฝน ความสัมพันธ์ของบดินทร์และน้ำมนต์ก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่การที่น้ำมนต์ต้องตากฝนในวันนั้นก็ทำให้เขาเริ่มไม่สบาย สองวันหลังจากการเดินทางนั้น น้ำมนต์ก็มีอาการไข้สูงและรู้สึกหนาวสั่นจนต้องพักผ่อนอยู่ที่บ้านพักที่ปางไม้ บดินทร์รู้สึกกังวลใจเมื่อเห็นน้ำมนต์เริ่มมีอาการไข้ เขารีบไปพาน้ำมนต์ไปหาหมอแต่น้ำมนต์ไม่ยอม ร่างสูงจึงพาน้ำมนต์มาอยู่ที่บ้านพักของเขาเองเพื่อที่จะได้ดูแลอย่างใกล้ชิด ในช่วงบ่ายวันนั้นน้ำมนต์นอนอยู่บนเตียงกว้างของบดินทร์ โดยร่างบางมีผ้าห่มผืนหนาคลุมตัวไว้ แต่ยังคงมีอาการหนาวสั่น ใบหน้าสวยแดงก่ำจากพิษไข้ ร่างสูงของบดินทร์คงนั่งอยู่ข้างเตียงไม่ห่าง มือหนาใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดตัวให้น้ำมนต์อย่างเบามือ ในใจรู้สึกเป็นห่วงอีกคนอย่างมาก “น้ำมนต์ หนูจะดีขึ้นเร็ว ๆ นี้นะ พี่สัญญาว่าจะอยู่ดูแลน้ำมนต์จนกว่าหนูจะหายดี” บดินทร์พูดเบาๆ ขณะที่มือหนาถือผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดไปตามใบหน้าและลำคอขาวของคนน้อง คนป่วยที่นอนหลับอยู่ แต่เพราะพิษไข้ทำให้เขาเริ่มเพ้อออกมาด้วยเสียงแผ่วเบา “พี่ดิน ทะ ทำไมพี่ถึงไม่ชอบน้ำมนต์ เพียงเพราะว่าน้ำมนต์เป็นเด็กขี้เ
หลังจากที่สะสางปัญหาจบลง สุดท้ายแล้วน้ำมนต์ก็ต้องกลับมาทำงานอยู่กับบดินทร์ที่ปางไม้ ทั้งคู่ได้นั่งคุยกันถึงเรื่องราวที่ผ่านมาทั้งหมด และบทเรียนที่ได้จากเหตุการณ์เหล่านั้น “พี่ดิน น้ำมนต์คิดว่าเราทั้งคู่ได้เรียนรู้อะไรมาเยอะมาก ไม่ใช่แค่เรื่องความรัก แต่รวมถึงการยอมรับข้อบกพร่องของกันและกันด้วย” น้ำมนต์พูดด้วยน้ำเสียงที่มีความหมายลึกซึ้งและจ้องมองตาคมของบดินทร์ “เราผ่านความเจ็บปวดมามาก แต่ตอนนี้น้ำมนต์ว่าการที่เรายังยืนอยู่ข้างกันได้ แสดงว่าเรามีความหมายต่อกันมากแค่ไหน ต่อจากนี้ไม่ว่าจะมีอุปสรรคอะไรเข้ามา น้ำมนต์มั่นใจว่าเราจะผ่านมันไปได้ เพราะเราไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไปแล้ว” บดินทร์ดึงร่างโปร่งน้ำมนต์เข้ามากอดแน่น “ครับเราจะจับมือข้ามผ่านมันไปด้วยกัน พี่สัญญา” หลังจากที่บดินทร์และน้ำมนต์ปรับความเข้าใจกันได้ ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองก็กลับมาสดใส บดินทร์รู้สึกได้ว่าน้ำมนต์เริ่มผ่อนคลายและเปิดใจมากขึ้น พอเห็นว่าอากาศในวันนี้เหมาะสำหรับการออกไปผจญภัยในธรรมชาติ เขาจึงตัดสินใจพาน้ำมนต์ไปยังที่พิเศษ ซึ่งเป็นสถานที่ที่เขามักจะไปเมื่อต้องการหาความสงบอีกที่ เช้านี้ท้องฟ้าเหนือเชียงดาวเป
หลังจากที่น้ำมนต์รู้ความจริงแน่ชัดว่าข้อความที่เขาได้รับเป็นแผนการของแพรพลอย ความโกรธและความเสียใจที่สะสมมานานก็ระเบิดออกมา น้ำมนต์ตัดสินใจว่าครั้งนี้เขาจะไม่ยอมเป็นฝ่ายถูกทำร้ายอีกต่อไป เขาจะเป็นคนจัดการแพรพลอยด้วยตัวเอง น้ำมนต์รู้ว่าแพรพลอยชอบใช้วิธีการลอบกัดและเล่นเกมจิตวิทยาเพื่อทำให้คนอื่นพังทลาย ดังนั้น เขาจึงวางแผนตอบโต้ด้วยวิธีที่แพรพลอยไม่คาดคิด คืนนั้นน้ำมนต์นั่งคิดแผนที่จะแก้เกมแพรพลอยให้สาสม เขาตัดสินใจที่จะไม่เล่นตามเกมของเธอ แต่จะสร้างสถานการณ์ให้แพรพลอยตกเป็นฝ่ายถูกเล่นงานแทน น้ำมนต์เริ่มแผนการของเขาด้วยการแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องและไม่แสดงท่าทีอะไรออกมา เขายังทำตัวเหมือนเดิมและเก็บความรู้สึกเอาไว้ไม่ให้ใครสังเกตได้ เขาติดต่อข้าวโพดและกานต์เพื่อช่วยเหลือในการดึงแพรพลอยเข้ามาติดกับดักของเขา ข้าวโพดที่เป็นเพื่อนสนิทของน้ำมนต์เห็นด้วยทันทีเมื่อรู้แผนนี้ “น้ำมนต์ทำถูกแล้วข้าวโพดเห็นด้วย คราวนี้น้ำมนต์ไม่ต้องอดทนหรือให้ใครมาทำร้ายอีกแล้ว ยัยแพรพลอยต้องได้รับบทเรียนที่เธอไม่เคยเจอ” น้ำมนต์ยิ้มบาง ๆ และพูดด้วยความมุ่งมั่น “น้ำมนต์จะไม่ยอมให้เธอมาเล่นงานชีวิตน้ำมนต์กับพ
น้ำมนต์สะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคย เขาหันกลับมามองบดินทร์ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความไม่ไว้วางใจ “พี่มาที่นี่ทำไมครับ” บดินทร์เดินมานั่งลงตรงข้ามน้ำมนต์และพูดด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความจริงใจ “พี่มาที่นี่เพื่อขอโอกาส พี่รู้ว่าพี่ทำให้น้ำมนต์เจ็บและเข้าใจผิด แต่พี่อยากให้น้ำมนต์ฟังพี่สักครั้ง เรื่องที่น้ำมนต์เห็นที่โรงแรมมันไม่ใช่อย่างที่น้ำมนต์คิด มันเป็นแผนของแพรพลอยที่ต้องการทำให้เราแตกแยกกัน แพรพลอยเขาบอกกับพี่ว่าเขาเครียด เขาให้พนักงานที่รีสอร์ตโทรมาหาพี่ว่าเขาจะกินยาฆ่าตัวตาย พี่เลยต้องไปดู” น้ำมนต์นิ่งฟัง แต่ในใจยังคงมีความลังเลและน้อยใจ “แล้วทำไมพี่ถึงปล่อยให้มันเกิดขึ้น พี่เลือกที่จะอยู่ใกล้ชิดกับคนที่เคยทำร้ายผม แล้วพี่จะให้ผมเชื่อได้ยังไงว่าพี่จะไม่ทำร้ายผมอีก” น้ำมนต์จำได้สมัยเด็กมีเด็กผู้หญิงรุ่นพี่ที่มาวิ่งเล่นที่ปางไม้ด้วยบ่อยๆ อีกคน เด็กหญิงคนนั้นคือแพรพลอย เด็กผู้หญิงคนนี้ชอบแกล้งเขาและแย่งความสนใจของพี่ดินจากน้ำมนต์เสมอ คำถามนี้ทำให้บดินทร์รู้สึกเจ็บในใจ เขาไม่รู้ว่าจะทำให้น้ำมนต์เชื่อใจได้อย่างไร แต่เขารู้ว่าสิ่งที่เขาพูดในตอนนี้ต้อ
วันถัดมา บดินทร์นัดแพรพลอยมาพบกันที่คาเฟ่แห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงดาว แพรพลอยที่คิดว่าแผนการของเธอกำลังไปได้สวย ก็ยังคงมั่นใจในตัวเอง เธอมาในชุดที่ดูดีและเต็มไปด้วยความมั่นใจ เธอคิดว่าบดินทร์คงจะกลับมาสนิทกับเธอมากขึ้นหลังจากที่น้ำมนต์จากไปเมื่อทั้งสองนั่งลง แพรพลอยส่งยิ้มหวานยั่วยวนให้ชายหนุ่มที่เธอหลังรัก “พี่ดินนัดแพรมาพบวันนี้ มีเรื่องอะไรหรือคะ”บดินทร์มองหน้าแพรพลอยด้วยสายตาที่แฝงไปด้วยความเด็ดเดี่ยวและไม่ลังเล “แพรพลอย พี่จะไม่อ้อมค้อมนะ วันนี้พี่นัดเธอมาคุยเพื่อที่จะจบทุกอย่างระหว่างเรา”รอยยิ้มของแพรพลอยเริ่มหายไปเมื่อได้ยินคำพูดนั้น เธอรู้สึกว่าเธอกำลังจะเสียบดินทร์ไปแล้ว “พี่ดินหมายความว่ายังไงคะ ทำไมต้องจบกันล่ะ”บดินทร์พูดต่อด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น “พี่รู้ทุกอย่างแล้ว เธอวางแผนทำให้น้ำมนต์เข้าใจพี่ผิด เพื่อที่จะทำให้เราแยกจากกัน และมันได้ผล น้ำมนต์เขาจากพี่ไปแล้ว และมันเป็นเพราะพี่ที่ปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้น พี่ไม่โทษใครนอกจากตัวเอง แต่ตอนนี้พี่ต้องการให้เธอออกไปจากชีวิตพี่สักที”แพรพลอยที่ไม่คิดว่าจะถูกพูดตรง ๆ แบบนี้เริ่มรู้สึกโกรธ เธอยังคงพยายามควบคุมอารมณ์และพูดด้วย
หลังจากเหตุการณ์นั้นน้ำมนต์ตัดสินใจขอหยุดงานชั่วคราวเพื่อหลีกหนีจากความรู้สึกที่ยุ่งเหยิงในใจ เขากลับไปอยู่กับครอบครัวที่บ้าน เพื่อหาคำตอบว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป ในขณะเดียวกัน บดินทร์ที่เริ่มรู้ตัวว่าตัวเองกำลังจะสูญเสียน้ำมนต์ไปจริง ๆ ก็รู้สึกถึงความว่างเปล่าที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เขาพยายามหาวิธีที่จะดึงน้ำมนต์กลับมา แต่ยิ่งคิดมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองกำลังเดินอยู่ในทางที่ผิด หลังจากที่น้ำมนต์ตัดสินใจหยุดงานชั่วคราวและหายตัวไป แพรพลอยเริ่มรู้สึกมีความสุขกับชัยชนะของเธอ แต่เธอรู้ดีว่ามันยังไม่เพียงพอ เพราะเธอต้องการให้บดินทร์และน้ำมนต์แยกจากกันอย่างถาวร แพรพลอยจึงตัดสินใจวางแผนขั้นสุดท้าย เธอนัดกานต์มาพบที่ร้านกาแฟอีกครั้งเพื่อพูดคุยและปรึกษาเรื่องแผนที่เธอวางไว้ “กานต์ แพรว่าตอนนี้น้ำมนต์เริ่มห่างจากพี่ดินไปแล้วล่ะ แต่ถ้าเราจะทำให้ทุกอย่างสมบูรณ์ เราต้องทำให้เขาเข้าใจผิดกันแบบถอนตัวไม่ขึ้น” แพรพลอยพูดด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยเจตนาร้าย กานต์ที่เริ่มรู้สึกไม่สบายใจกับการเล่นเกมนี้เขาแสดงความลังเลออกมา “คุณแพรผมว่าเราเล่นมาพอแล้วนะ ผมเริ่มรู้สึกผิดที่ต้องทำให้น้ำมน
Comments