Share

บทที่ 31

last update Last Updated: 2025-06-10 12:59:17

บทที่ 31

“มานี่!”

หลังจากใช้วาจาเชือดเฉือนทำร้ายหัวใจของจันทริกาแล้ว รังสิมันต์ก็ฉุดข้อมือเล็กแล้วกึ่งลากกึ่งดึงออกไปจากห้องครัว พาขึ้นบันไดไปยังห้องนอนชั้นสอง

“ปล่อยค่ะคุณตะวัน จะพาจันทร์ไปไหน” เสียงหวานร้องอุทธรณ์พลางพยายามบิดข้อมือจากพันธนาการของมือใหญ่แข็งแรง

“อย่ามาทำหน้าไร้เดียงสาหน่อยเลย ผู้ชายที่พาผู้หญิงขึ้นห้องเขาต้องการอะไรเธอน่าจะรู้ดีนะ ก็ในเมื่อผ่านมันมาแล้วนี่”

“ไม่นะคะ!”

จันทริการีบส่ายหน้าและออกแรงขึงขืนเต็มที่ ทำให้รังสิมันต์ระบายลมหายใจออกมาอย่างหงุดหงิด เขายอมปล่อยมือ แต่ไม่ใช่เพื่อให้จันทริกาเป็นอิสระหรือเพราะว่าเห็นใจ เขาเพียงแค่เปลี่ยนจากจูงเป็นย่อตัวลงแล้วยกร่างบางของเธอขึ้นพาดบ่าต่างหาก

“หยุดร้องเสียทีมันน่ารำคาญ ถ้าเธอยังดื้อดึง ฉันจะฟาดสะโพกเธอให้ช้ำไปเลย” รังสิมันต์ขู่เมื่อจันทริการ้องออกมาอย่างตกใจ

“ปล่อยจันทร์เถอะนะคะ จันทร์ขอร้อง...”

“เอาไว้ร้องตอนที่ฉันเข้าไปในตัวเธอก็แล้วกัน ตอนนั้นอยากร้องเท่าไหร่ก็ร้อง ฉันไม่ถือหึๆ”

รังสิมันต์หัวเราะเสียงเหี้ยมตามหลัง และไม่ถึงสองนาทีต่อมาเขาก็แบกร่างเล็กนั้นเข้าไปยังห้องน้ำในห้องนอนของตัวเอง จันทริกามองเขาอย่างหวาดหวั่น ขณะที่ร่างสูงก้าวรุกคืบประชิดตัว ในที่สุดเธอก็ถูกเขาผลักไปยืนใต้ฝักบัว ก่อนที่สายน้ำที่พ่นเป็นละอองเล็กๆ จะโปรยลงมา ทำให้ร่างบางเปียกปอนอย่างรวดเร็ว

                จันทริกาเตรียมจะขยับหนีจากความหนาวและความใจร้ายของคนทำ แต่ยังไม่ทันขยับรังสิมันต์ก็ก้าวตามเข้ามายืนเบียดจนชิด

                “อย่าค่ะ ได้โปรด...”

                เสียงร้องห้ามหายไป เมื่อรังสิมันต์ยกสองมือประคองใบหน้าหวานไว้มั่นแล้วประกบริมฝีปากลงมาอย่างร้อนแรง จันทริการ้องอึกอักในลำคอ ตอนนี้เธอสำลักทั้งน้ำทั้งสำลักรสจูบอันดิบเถื่อนและเรียกร้องอย่างรุนแรงของเขา ร่างกายด้อยประสบการณ์เริ่มอ่อนระทวยไร้เรี่ยวแรงจะต่อต้าน กระทั่งรังสิมันต์ดันร่างบางไปยืนพิงผนังห้องน้ำ จากนั้นก็กระชากเสื้อผ้าของเธอและเขาออกจากร่างกายอย่างร้อนรน ก่อนที่ขาเรียวข้างหนึ่งจะถูกช้อนขึ้นไปในวงแขนแกร่ง ไม่กี่อึดใจต่อมาจันทริกาก็รู้สึกว่าตัวเองเต็มแน่นจนแทบแตกปริ เมื่อรังสิมันต์โจนจ้วงเข้ามาสุดตัว จากนั้นเขาก็โยกขยับอย่างหนักหน่วงและไม่ออมแรง

                ปากเล็กที่ถูกปล่อยให้เป็นอิสระแล้ว ตอนนี้ไม่ได้เอ่ยเสียงห้ามปรามใดๆ ออกมา เพราะปากนั้นต้องทำหน้าที่เปล่งเสียงครางเพื่อระบายความรู้สึกภายในของตัวเองออกมา จันทริการู้สึกอับอายกับปฏิกิริยาของร่างกายที่เกิดขึ้นอย่างไม่อาจควบคุม เธอพยายามจะเอาชนะมัน แต่ก็พบว่าความปราชัยมันอยู่ใกล้แค่เอื้อม โดยเฉพาะตอนนี้ที่รังสิมันต์ทั้งโจนจ้วงและระดมจูบไซ้ลงไปยังซอกคอ มือก็ลูบไล้อย่างประกาศความเป็นเจ้าของต่อร่างกายเธอ

                กลิ่นแอลกอฮอล์ที่ผสมมาจากลมหายใจของเขาถูกละอองน้ำชะล้างให้เจือจางลงอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับการต่อต้านของจันทริกาซึ่งตอนนี้ถูกสลายลงด้วยความร้อนแรงของไฟปรารถนาจนหมดสิ้นแล้ว

และคืนนั้นจันทริกาก็ได้เรียนรู้อีกอย่างหนึ่งว่า ไฟสวาทอันน่าหวาดหวั่นของรังสิมันต์เมื่อมันลุกโชนแล้ว จะไม่มีทางดับลงง่ายๆ เพราะหลังจากที่เขา ‘รังแก’ เธอในห้องน้ำเสร็จ เขาก็อุ้มเธอมาวางลงบนเตียงนอน จากนั้นร่างกายของเธอก็ถูกความเร่าร้อนแผดเผาอีกหลายระลอก...                    

                เช้านี้จันทริกายังคงตื่นมาแต่เช้ามืดอย่างเช่นวันก่อนๆ เพื่อเตรียมอาหารรอรังสิมันต์ แม้จะไม่รู้ว่าเขาจะกินหรือไม่กิน แต่มันก็เป็นหน้าที่ของเธอซึ่งไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้...หน้าที่ของเมียบำเรอที่ต้องดูแลความเรียบร้อยทุกอย่างภายในบ้าน รวมถึงหน้าที่บางอย่างที่เธอไม่เต็มใจสักนิด

                ‘จริงหรือที่ว่าไม่เต็มใจ?’

                จันทริกาถามตัวเองขณะที่แก้มนวลแดงซ่าน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้และเมื่อหลายวันก่อน ทำให้เธอรู้ซึ้งแล้วว่า ร่างกายนี้ไม่ใช่ร่างกายที่สมองของเธอสามารถควบคุมได้อีกต่อไป ในยามที่ถูกไฟปรารถนาของรังสิมันต์แผดเผา เธอไม่ต่างอะไรกับเนยที่ถูกความร้อนแรงหลอมละลายอย่างง่ายดาย

                อาหารเช้าซึ่งเป็นข้าวต้มทะเลร้อนๆ ถูกนำมาเสิร์ฟ เมื่อรังสิมันต์ลงมานั่งที่โต๊ะเรียบร้อยแล้ว จันทริกาพยายามไม่สบตาเขา วางถ้วยข้าวต้มและกาแฟเสร็จ ก็เตรียมจะผละหนีไปหลบอยู่ในครัว ทว่ารังสิมันต์ไม่ยอมให้เธอทำเช่นนั้น

                “นั่นจะไปไหน”

                “ไปเก็บของในครัวค่ะ” เสียงหวานเอ่ยตอบเบาๆ แต่ไม่ยอมสบตาคนถาม

                “อยู่นี่ก่อน เผื่อฉันอยากได้อะไรเพิ่ม”

                ออกคำสั่งเสร็จรังสิมันต์ก็ลงมือทานมื้อเช้า จันทริกาจึงได้แต่ยืนรอเงียบๆ อยู่ข้างโต๊ะตามคำสั่ง ทว่าตาก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบไปมองข้าวต้มฝีมือตัวเองที่ตอนนี้พร่องลงไปอย่างค่อนข้างจะรวดเร็ว เขาช่างทำหน้าได้เฉยเมยเหลือเกิน เหมือนกับว่าความสัมพันธ์ลึกซึ้งระหว่างเธอกับเขาไม่เคยเกิดขึ้น ในขณะที่เธอไม่อาจจะสลัดความจริงเรื่องนี้ออกไปจากใจได้เลย

                อย่าไปคาดหวังอะไรเลยจันทริกา สิ่งที่เขาทำไปก็เพื่อต้องการแก้แค้นและเพื่อให้เธอเจ็บปวดเท่านั้น ความรู้สึกอื่นใดนอกจากนั้นมันคงไม่มีวันที่จะไม่เกิดขึ้นกับเขา

            “ฉันอิ่มแล้ว”

                เสียงทุ้มๆ ดุๆ ที่ดังขึ้นหลังจากดื่มกาแฟเสร็จ ดึงจันทริกาออกมาจากห้วงความคิดของตัวเอง รีบขยับไปยังโต๊ะเพื่อเก็บถ้วยและแก้ว ทว่าพอขยับเข้าไปใกล้ รังสิมันต์กลับรวบข้อมือของเธอ แล้วออกแรงกระตุกจนเธอเสียหลักลงไปนั่งบนตักเขา จากนั้นแขนแกร่งก็ตวัดกอดรอบเอวเล็กและล็อกไว้อย่างแน่นหนาจนจันทริกาขยับไปไหนไม่ได้

                “คุณตะวัน...ปล่อยจันทร์ค่ะ...” เมื่อดิ้นไม่หลุดจันทริกาก็เลยได้แต่เอ่ยปากขอร้องเขาด้วยเสียงที่นุ่มหวานตามแบบฉบับของเธอ หากรังสิมันต์กลับไม่คิดจะสนใจ

                “เมื่อกี้เธอไม่ได้ยินหรือไง ที่ฉันบอกว่าให้อยู่ก่อนเผื่อฉันต้องการอะไร”

                “คุณตะวันอยากได้อะไรอีกเหรอคะ”

                “อยากได้แบบนี้”

                แบบนี้ของเขาก็คือการกดริมฝีปากลงบนเรียวปากนุ่มอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็บดจูบเบียดเคล้าเพื่อแยกริมฝีปากของจันทริกาให้เผยอออก หญิงสาวพยายามจะเอนหน้าหนี แต่กลับถูกมือข้างหนึ่งยกขึ้นประคองที่ท้ายทอยแล้วตรึงให้เธอรับรสจูบสวาทจากเขา

               

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ตะวันพ่ายจันทร์   บทที่ 41

    บทที่ 41รถที่สมรรถสูงสมราคาแล่นฉิวเข้ามาในที่จอดประจำโดยใช้เวลาไม่นานนัก รังสิมันต์ก้าวลงจากรถแล้วสั่งให้จันทริกาเดินไปหาหัวหน้าแม่บ้านที่ห้องล็อกเกอร์ ส่วนตัวเองตรงขึ้นไปยังห้องทำงานเพราะเมื่อวานนี้ทราบแล้วว่าห้องล็อกเกอร์อยู่ตรงไหน จันทริกาจึงไปหาหัวหน้าแม่บ้านที่นั่นโดยไม่ต้องมีใครพาไป หลังจากเปลี่ยนชุดเสร็จเธอได้รับมอบหมายให้ทำความสะอาดห้องน้ำที่ชั้นสามและชั้นสี่เช่นเดิม หญิงสาวพยายามมองหาคนในบ้านที่รังสิมันต์ให้มาทำงานที่นี่ ทว่าก็ไม่ได้พบใคร เพราะทุกคนอยู่ในแผนกอาหารสดกันหมด เธอจึงได้แต่ทำหน้าที่ของตัวเองโดยไม่มีโอกาสได้พูดคุยทักทายกับใครเลย ร่างเล็กบางที่กำลังหิ้วถังน้ำและไม้ถูพื้นเข้าไปห้องน้ำ ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าตัวเองตกเป็นเป้าสายตาของรังสิมันต์อยู่แทบจะทุกย่างก้าว เพียงแต่วันนี้เขายืนมองอยู่ไกลๆ ไม่ได้เข้ามาคุมแจอยู่ข้างในเหมือนเมื่อวาน หลังจากที่เข้าไปทำความสะอาดห้องน้ำชั้นสามเสร็จ จันทริกาถืออุปกรณ์ทั้งหมดออกมาด้านนอก เตรียมจะไปทำความสะอาดที่ห้องน้ำชั้นสี่ต่อ แต่เธอต้องหันหลังกลับไปมอง เมื่อมีใครบางคนเรียกชื่อเธออย่างคุ้นเคย

  • ตะวันพ่ายจันทร์   บทที่ 40

    บทที่ 40เวลาเกือบสี่ทุ่ม กว่าที่รังสิมันต์กับปรัชญ์จะแยกย้ายกันกลับบ้าน แม้ปากบอกว่าจะไปดื่มเหล้าด้วยกัน แต่ต่างคนต่างก็ไม่ได้ดื่มหนักอะไร ส่วนใหญ่จะเป็นคุยกันสัพเพเหระซะมากกว่า หรือถ้าให้พูดตรงๆ เรื่องดื่มเหล้ามันก็เป็นแค่ข้ออ้างสำหรับการออกไปเที่ยวเตร่ตามประสาผู้ชายโสดเท่านั้นออดี้สีเหลืองแล่นมาจอดที่หน้าบ้านอย่างคล่องตัว คนขับจัดการดับเครื่องดึงกุญแจออกแล้วเดินตรงเข้าไปในบ้านเลย โดยไม่ได้สนใจจะขับรถราคาแรงนั้นไปจอดในโรงรถแต่อย่างใด ด้านนอกไฟยังคงสว่างไสว ทว่าภายในบ้านไฟกลับถูกปิดเกือบทุกดวง ยกเว้นตรงบริเวณทางขึ้นบันไดชั้นสองเท่านั้นที่เปิดอยู่ร่างสูงก้าวขาไปยังบันไดเพื่อขึ้นห้อง ทว่าอยู่ๆ ก็เปลี่ยนใจกะทันหัน หันหลังกลับแล้วเดินตรงไปยังห้องนอนชั้นล่างแทนเขาหยิบกุญแจสำรองที่แอบเก็บไว้ติดตัวตลอดเวลาออกมา กำลังจะไขเข้าไปอย่างถือวิสาสะ แต่ก็ชะงักมือเอาไว้เมื่อได้ยินเสียงหวานแว่วดังออกมานอกห้องเบาๆ“นอนลงๆ เป็นเด็กว่าง่าย นอนได้แล้วเมสซี่ วันนี้จันทร์ง่วงมาก แล้วก็ไม่มีอะไรจะคุยให้เมสซี่ฟังด้วย ฝันดีนะ”แม้เสียงนั้นจะเล็ดลอดออกนอกห้องมาแค่แผ่วเบา แต่ด้วยบรรยากาศที่เงียบเชียบของบ้าน ร

  • ตะวันพ่ายจันทร์   บทที่ 39

    บทที่ 39สินชัยเดินนำไปทางห้องล็อกเกอร์ของแม่บ้าน บอกหัวหน้าแม่บ้านให้หาชุดให้จันทริกาเปลี่ยน จากนั้นหญิงสาวก็ถืออุปกรณ์ทำความสะอาดเดินตามหัวหน้าแม่บ้านไปยังห้องน้ำที่อยู่ชั้นสาม “เดี๋ยวทำที่นี่เสร็จ ขึ้นไปทำที่ชั้นสี่ต่อเลยนะ” หัวหน้าแม่บ้านออกคำสั่งกับจันทริกาอีกคน “ค่ะ” “งั้นก็ลงมือได้เลย เดี๋ยวป้าจะไปตรวจความเรียบร้อยที่ชั้นอื่นก่อน เสร็จแล้วจะขึ้นมาตรวจดูที่ชั้นสามอีกรอบ” หัวหน้าแม่บ้านบอกเสร็จก็ออกไปจากห้องน้ำชั้นนั้น เพื่อไปตรวจความเรียบร้อยของชั้นอื่นๆ ตามหน้าที่ตัวเอง ประตูห้องน้ำที่ถูกแขวนป้ายด้านนอกว่ากำลังทำควาสะอาดถูกผลักเข้ามาอีกรอบ ทำให้จันทริกาซึ่งกำลังตั้งหน้าตั้งตาขัดล้างทำความสะอาดห้องน้ำอยู่หันขวับไปมอง แล้วก็เห็นว่าคนที่เข้ามานั้นก็คือรังสิมันต์นั่นเอง “คุณตะวัน…” “ฉันแค่เข้ามาดูเธอว่าทำความสะอาดได้เรียบร้อยดีหรือเปล่า” ได้ยินคำตอบแบบนั้นจันทริกาก็หันไปตั้งหน้าตั้งตาทำความสะอาดต่อ โดยไม่ได้พูดจาใดๆ กับเขาอีก เสร็จจากห้องนั้นก็ต่อห้องนี้ จนกระทั่งครบทุกห้

  • ตะวันพ่ายจันทร์   บทที่ 38

    บทที่ 38“หมดฤทธิ์แล้วเหรอ ถ้าหมดฤทธิ์แล้ว ฉันจะได้ทำต่อ” “กรุณาเถอะนะคะ จันทร์ไม่ต้องการแบบนี้” “แล้วต้องการแบบไหน หรือว่าชอบแบบซาดิสม์ ฉันก็จัดให้ได้นะ อ้อ...บางทีเด็กจิตๆ อย่างเธออาจจะชอบแบบที่ว่าก็ได้ ทำไมฉันถึงโง่นักนะ” รังสิมันต์หัวเราะเสียงหื่นในลำคอ ก่อนจะละมือข้างหนึ่งมาคลายเนกไทน์ของตัวเองออก จากนั้นก็กระชากมันมา แล้วรวบแขนทั้งสองข้างของจันทริกามามัดข้อมือด้วยเนกไทน์เส้นนั้น หญิงสาวได้แต่เบิกตากว้างไม่คิดว่ารังสิมันต์จะทำอะไรรุนแรงอย่างที่เขาว่าจริงๆ “คุณตะวันคะได้โปรด...” เธอขอร้องเขาเสียงสั่น “ได้สิ แบบนี้ฉันก็สุดโปรดเหมือนกัน” เรียวปากหยักคลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์ ตาสาดประกายบางอย่างที่ทำเอาร่างบางสะท้าน และหลังจากนั้นจันทริกาก็ถูกผลักให้นอนหงายหลังลงไปบนโซฟา ก่อนที่รังสิมันต์จะจับสองมือที่ถูกมัดด้วยเนกไทน์ขึ้นวางไว้เหนือศีรษะของเธอ ร่างบางนอนตัวเกร็งขณะที่เขาเริ่มลงมือถลกชายเสื้อของเธอขึ้นไปกองไว้เหนือเนินอก ตามด้วยเสื้อชั้นในลูกไม้สีหวาน เปิดเปลือยส่วนสำคัญช่วงบนให้เป

  • ตะวันพ่ายจันทร์   บทที่ 37

    บทที่ 37“หยุดก่อน”คำสั่งนั้นทำให้มือเล็กๆ ชะงัก และยืนตัวเกร็งรอการตำหนิหรือลงโทษจากเขา เพราะคิดว่ารังสิมันต์คงไม่พอใจกับการนวดของเธอ“มานั่งนี่”เขาออกคำสั่งพลางตบมือลงบนที่ว่างข้างตัว จันทริกาเดินไปนั่งตัวลีบลงบนโซฟาข้างๆ เขา แล้วหันไปมองเพื่อรอว่าเขาจะลงโทษยังไง ทว่ารังสิมันต์กลับทำในสิ่งที่เธอคาดไม่ถึง นั่นคือการโน้มตัวไปวางแก้ววิสกี้ที่โต๊ะหน้าโซฟา แล้วเอนตัวนอนหนุนตักเธออย่างรวดเร็ว “คุณตะวัน!” จันทริกาอุทานออกมา แก้มนวลมีจุดสีแดงซ่านแต่งแต้มทันทีกับสิ่งที่เธอไม่คิดว่ารังสิมันต์จะทำ ก็เมื่อคืนเขาเพิ่งจะมีอะไรกับผู้หญิงอีกคน พอมาวันนี้กลับมาทำกิริยาคล้ายสนิทชิดเชื้อกับเธอแบบชู้สาว ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้รู้สึกอะไรด้วย “เสียงดังทำไม หนวกหู ฉันก็แค่อยากนอนให้เธอนวดสบายๆ” “แต่แบบนี้จันทร์นวดไหล่ให้คุณไม่ได้นะคะ” “นวดไหล่ไม่ได้ ก็นวดแขนนวดมือไปสิ ตอนนี้ฉันเมื่อยไปทั้งตัวแล้ว” จันทริกาหน้าแดงก่ำกว่าเดิม ขณะก้มลงมองเขาพร้อมกับใช้มือเล็กๆ บีบนวดลงไปตามต้นแขน และสลับมานวดอีกข้างโดยไม่ยอมขยับลงไปนวดมือให้ตามที่คน

  • ตะวันพ่ายจันทร์   บทที่ 36

    บทที่ 36ร่างสูงก้าวลงจากรถ เดินเข้าบ้านแล้วกวาดสายตามองหาร่างบางที่ปกติเวลานี้จะอยู่ในห้องครัว หรือไม่ก็กำลังตั้งโต๊ะอาหารรอเขาอยู่เมื่อไม่เห็นคนที่ตัวเองมองหา รังสิมันต์ก็ตรงไปยังห้องนอนของเธอ เพราะคิดว่าจันทริกาอาจจะอยู่ที่นั่นกับเมสซี่ แต่เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็ไม่พบทั้งคนทั้งแมวตัวโปรดของเขา ชายหนุ่มจึงบ่นพึมพำออกมาอย่างออกจะหงุดหงิด พร้อมกับที่หัวใจเริ่มร้อนรนขึ้น“ไปไหนของเขานะ...”เมื่อหาในบ้านไม่เจอ ลำขาแข็งแรงก็ก้าวยาวๆ ออกไปหารอบๆ บ้าน ก่อนจะระบายลมหายใจออกมาแรงๆ อย่างโล่งอกทันทีที่เห็นว่าคนที่ตัวเองตามหากำลังก้มขัดพื้นอย่างขะมักเขม้นอยู่ที่ศาลาสระบัว โดยมีเมสซี่นั่งเป็นกำลังใจอยู่บนม้าหินอ่อนด้านบน“ค่ำมืดป่านนี้แล้วทำไมยังไม่เข้าบ้าน”เสียงดุๆ ที่ดังขึ้นทำให้จันทริกาสะดุ้งเล็กน้อย เธอหยุดชะงักมือที่กำลังจับแปรงขัดพื้น แล้วเงยหน้าขึ้นก่อนจะตอบคำถามของเขา“จันทร์ขัดพื้นศาลายังไม่เสร็จน่ะค่ะ”“แล้วไม่เห็นหรือไงว่าฉันกลับมาแล้ว ทำไมไม่ไปตั้งโต๊ะอาหารรอ”“ขอโทษค่ะ จันทร์จะไปเดี๋ยวนี้”“ที่มาขัดเอาค่ำๆ มืดๆ แบบนี้เพราะตอนกลางวันมัวแต่อู้งานล่ะสิ ถึงได้ทำไม่เสร็จ”“เปล่านะคะ” จั

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status