“อ่าร์...” ร่างบางร้องครางอย่างรัญจวนในสัมผัส มือเล็กขยุ้มไปที่กลุ่มผมอันดกดำของชายหนุ่ม สัมผัสร้อนจากริมฝีปากหนาลากไล้ไปทั่วบริเวณปลายถันสีชมพู ลิ้นของเขาละเลงรอบวน ใจเธอเต้นแรงรัวถี่ ปวดหนึบตรงช่องท้องเพราะความเสียวซ่านอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
“อื้ม...” ชีคหนุ่มพึมพำกับลูกเชอรี่สีแดงสด เขาดูดดื่มอย่างหิวกระหาย ในขณะที่มือหนากำลังบีบเคล้นเต้าใหญ่อย่างเสน่หาในอารมณ์ คาริสไม่เคยหลุดความเป็นตัวเอง และไม่เคยมีนางใดที่ทำให้เขาใจเต้นแรงขนาดนี้มาก่อน หญิงงามมากมายยั่วยุนับสิบนับร้อย แต่ก็ไม่มีผู้ใดที่เหมือนดั่งหญิงไทยคนนี้เลยสักคน...
มือใหญ่ไล้ลงผ่านหน้าท้องอันแบนราบ นิ้วแกร่งลากไล้ลงเบื้องล่างก่อนที่จะหยุดที่เนินเนื้ออวบนูนและกรีดนิ้วเรียวแกร่งไปที่ช่องรักชื้นแฉะเจิ่งนองไปด้วยน้ำรักของหญิงสาว
“อ๊ะ! อ๊า!” มือบางจิกหัวไหล่กว้างไว้มั่น แอ่นเบียดเข้าหาร่างใหญ่ เมื่อนิ้วเรียวยาวนั้นกรีดกลางร่องกุหลาบสวย และแตะเบาๆ ที่เม็ดติ่งข้างในกลีบกุหลายสวยอย่างหยอกเอิน เขาสัมผัสได้ถึงน้ำหวานชุ่มช่ำจากช่องทางรัก ชายหนุ่มเริ่มเร่งข้อมือหนาอย่างระรัวจนทำให้ร่างกายนุ่มนิ่มได้สัดส่วนบิดเร่าอย่างร้อนแรง
“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ!” เสียงร้องครางของหญิงสาวดังลั่นห้องเพราะความรัญจวนถึงขีดสุด
“โอวว์” เสียงทุ้มอันแหบพร่าร้องครางอย่างปวดหนึบ ความงดงามของร่างอวบอิ่ม ร้อนแรง และมีเสน่ห์แพรวพราวทำให้กายเขาร้อนรุ่ม ดุ้นเอ็นใหญ่ผงาดตั้งตรง!
“จะ-เจ้า อึ้มม์” ร่างหนาปวดหนึบสั่นเทา เมื่อร่างเล็กดีดดิ้นไปมาแอ่นร่างงามเข้าหานิ้วเรียวแกร่งอย่างกล้าหาญ
“ค่ะ ดะ-ได้โปรด อ๊ะ!” รินลดาโดนพิษเสน่หาผสมกับฤทธิ์ยาเล่นงานเธออย่างหนัก รินลดาอยากปลดปล่อยความเสียวซ่านและความเจ็บปวดนี้เหลือเกิน...
พรึ่บ! คาริสผละจากร่างบาง พร้อมกับถอดกางเกง เผยท่อนแห่งความเป็นชายออกมา ความแข็งขันตั้งชัน ‘คาริสเคยควบคุมตัวเองได้...แต่สำหรับสตรีนางนี้ ไม่ว่าพลังของสิ่งใดก็มิอาจห้ามเขาได้เลยตอนนี้!’
มือเขาแยกเรียวขาสวยออกจากกัน ร่างหนาแทรกลำตัวเข้ากับช่องระหว่างขาของเธอ กดดุ้นเอ็นใหญ่ลากไล้ไปมากับช่องทางรักที่มีน้ำหวานเจิ่งนอง
“อ่าร์...” เสียงครางเบาๆ หลุดออกมาจากริมฝีปากบาง รินลดากำลังอยู่ในห้วงความฝันของเสน่หา สะโพกสวยแอ่นรับแท่งร้อนนั้นอย่างอัตโนมัติ
ชายหนุ่มกดแก่นกายใหญ่จ้วงลึกเข้ากับช่องทางรักคับแคบนั้นทันที! โดยที่ทางเข้ากับแท่งใหญ่นั้นยังไม่เคยคุ้นชินมาก่อน
สวบ! มังกรใหญ่กดพรวดเข้าร่องกุหลาบสวย!
“อ๊ะ! กรี๊ด!!!” เสียงร้องของรินลดาดังขึ้นแทบจะทันที เมื่อความใหญ่โตของแท่งร้อนนั้นกดแทรกเข้ามาช่วงล่างของเธอ ความเจ็บปวดพุ่งตรงไปยังช่องทางรักของเธออย่างหนักหน่วง!
“โอ๊ะ!!” คาริสตกใจเสียงร้องและความคับแน่นของร่องรักของเธอ มันคับแคบบีบรัดท่อนความเป็นชายของเขา มือหนาจับร่างบางเอาไว้ เพื่อไม่ให้เธอดิ้นถอยออก
“ฮึก! จะ-เจ็บ! ไม่! อะ-เอาออก! ฮึก!” ร่างเล็กดิ้นเร่าไปมามือบางพยายามผลักร่างหนาออกจากเรือนกายของเธอ ความเจ็บปวดราวกับร่างของเธอนั้นฉีกขาดออกจากกัน ยิ่งดิ้นความเจ็บปวดก็เพิ่มทะยานขึ้นไปอีก
“โอวว์ ข้า ปล่อยเจ้าไม่ได้อีกแล้ว อึ้มม์”
เสียงทุ้มแหบพร่าตอบกระเส่าไปด้วยความเสียวซ่านปวดหนึบ คาริสไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน มือหนาจับร่างเล็กไว้ พร้อมกดแก่นกายใหญ่อีกครั้งอย่างหนักหน่วงลึกจนสุดลำ! น้ำสีขุ่นเข้มไหลไปตามช่องรักคับแคบนั่น ‘นางยังบริสุทธิ์’
“กรี๊ด!!” รินลดากรีดร้องอย่างสุดเสียง ความเจ็บปวดแทบขาดใจของเธอนั้น ทำให้ริมฝีปากบางสั่นระริก นิ้วเรียวบางจิกเขากับไหล่กว้างทันที! น้ำตารินไหลจากหางตาทั้งสองข้าง
“โอวว์” ร่างกำยำสั่นเทากับความคับแน่นที่บีบรัดดุ้นเอ็นใหญ่ของเขาเอาไว้ เอวหนากดแท่งร้อนขึ้นลงช้าๆ เนิ่บนาบเพื่อให้ช่องทางรับคับแคบนั้นคุ้นชิน ไหล่กว้างปวดแสบเพราะเล็บแหลมคมนั้นกรีดลงไปทำให้โลหิตไหลซึมออกมาทั่วไหล่กว้าง!
“จะ-เจ็บ อ๊ะ!” ความร้อนจากบางอย่างปะทุขึ้นพร้อมกับความเจ็บปวดอีกครั้ง ความเสียวซ่านก่อวนไปที่ท้องน้อยของเธอ ความเจ็บหนึบและเจ็บปวดแทบแตกดับผสมกันอยู่ในนั้น รินลดาต้องต่อสู้ทุกทาง เธอไม่รู้ว่าร่างกายและจิตใจของเธอนั้นจะไปต่อไหวหรือไม่ ‘ขอให้สิ่งนี้มันคือความฝันด้วยเถิด’
“โอวว์ เจ้าช่างบีบรัดข้าเหลือเกิน อ่าร์!!!”
เมื่อดุ้นมังกรใหญ่เริ่มคุ้นชินกับช่องทางรักนั้นจึงเพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆ ดันเข้าออกไปมาโดยไม่สนว่าร่างเล็กจะดีดดิ้นหนีเพียงใด ความเจ็บปวดนี้มิได้มีเพียงเธอคนเดียว ชายหนุ่มไม่ได้แตกต่างจากเธอเลย...
“ไม่! จะ-เจ็บ! ฮึก! จะ-เจ็บ อ๊ะ!”
“ข้า ไม่อาจหยุดได้อีกแล้ว โอวว์ ซี๊ด!!”
ตรั่บ! แก่นกายใหญ่จ้วงลึกกระแทกกระทั้นเข้ากับช่องทางรักคับแคบนั้นอย่างดุดัน!
“ฮึก! เจ็บ! ปล่อยนะ! อ๊ะ!”
ร่างหนาเร่งขยับสะโพกเร็วและแรง เสียงหอบหายใจดังกระเส่า ความใหญ่โตดุดันของความเป็นชายชาตรีนั้นยังคงกระแทกตอกตรึงดุเดือด ร่างเล็กสั่นสะท้านไปตามแรงกระแทกของแก่นกายใหญ่
“โอวว์ ซี๊ด” เสียงหอบกระเส่าไปด้วยความเสียวซ่าน รีบเร่งขยับสะโพกอย่างเร็วและแรงอย่างไม่ยั้ง
“ฮึก! อะ อ๊ะ!” เสียงเล็กกรีดร้อง รินลดาควบคุมร่างกายและจิตใจของเธอไม่ได้อีกต่อไปแล้ว มือบางจิกไปที่ลำแขนแกร่งของชายหนุ่มทั้งสองข้าง สายตาพร่ามัวของเธอเพ่งไปยังใบหน้าคม สภาพร่างกายของเธอย่ำแย่ แต่ที่หนักไปกว่านั้นคือจิตใจของเธอแย่ยิ่งกว่า ที่เธอนั้นต้องมาร่วมรักกับชายแปลกหน้าที่ไม่รู้แม้กระทั่งชื่อเลยด้วยซ้ำ
ตรั่บ! เอวหนากระแทกอย่างดุเดือด!
“โอวว์ ซี๊ด โอวว์ โอ๊ะ!” ความเสียวซ่านทะยานไปที่ปลายกระบอกแท่งร้อน
“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ! ฮึก! อ๊า!” เสียงกรีดร้องผสมกับเสียงครางของหญิงสาว เมื่อรู้สึกว่าความเจ็บปวดนั้นถูกแทนที่ด้วยความเสียวซ่าน ผีเสื้อนับล้านตัวบินวนตรงช่องท้องของเธอราวกับพายุทอร์นาโด
แก่นกายใหญ่กระแทกจ้วงลึก!
“โอววว์ เจ้า! โอ๊ะ!” ดุ้นมังกรใหญ่ยังคงจ้วงอย่างดุเดือด
“อ๊ะ อ๊า! อ๊ะ!” เสียงร้องครางดังระงมเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัวเพราะความเสียวซ่านเพิ่มขึ้นในระดับสิบ! รินลดาทำได้เพียงปล่อยให้ร่างกายของเธอนั้นได้รับการตอบสนอง เพื่อถ่ายเทความร้อนภายในร่างกายของเธอเพราะฤทธิ์อะไรบางอย่างที่ปะทุขึ้นเป็นระลอกๆ ร่างงามสะท้านครั้งแล้วครั้งเล่า
ริมฝีปากบางถูกประกบ ลิ้นหนาชอนไซเข้าไปในโพรงปากเกี่ยวกวัดลิ้นเล็ก ดวงตากลมโตเบิกตากว้างมองเขาอย่างตื่นตะลึง“อืมมม์”เสียงครางแหบพร่าพึมพำอย่างพอใจกับรสสัมผัสที่ได้รับ ปากร้อนบดขยี้ปากบางอย่างดุเดือด อิลยาสไม่สนท่าทีขัดขืนของคนตัวเล็กแต่อย่างใด บางทีวิธีนี้อาจจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะใช้แก้ปัญหาผู้หญิงที่ดื้อดึงอย่างเธอได้เนิ่นนานหลายนาทีกว่าชีคหนุ่มจะผละออกจากเรียวปากเล็ก ปากร้อนพรมจูบซับไปที่ซอกคอขาวผ่อง ไม่สนใจกับอาการดิ้นรนของหญิงสาวแต่อย่างใด มือหนาที่ลูบไล้อยู่บนสีข้างเลื่อนมาเกาะกุมเต้าอวบอิ่มล้นมือ ใบหน้าคมกล่ำแดงไปด้วยอารมณ์ปรารถนา มือใหญ่บีบเคล้นอกอวบอย่างรุนแรง ไม่สนสิ่งใดนอกจากอารมณ์ของความปวดหนึบที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกำยำ“ปล่อยนะ กรี๊ดดดดดด!”ธาริกาผงกศีรษะขึ้นจู่โจมด้วยฟันคมซี่เล็กฝังลงบนไหล่กว้างของเขา แต่ก็ไม่ทำให้เขาสะทกสะท้านแต่อย่างใด เสียงกรีดร้องของเธอดังลั่น แต่ทว่าเขากลับไม่ใส่ใจ มีแต่เพลิงปรารถนาที่ลุกโชนขึ้นมายากจะดับลงปลายลิ้นเขาโลมเลียไปที่ปลายถัน ดูด เม้ม ดุนดันปลายลิ้นรัวละเลงอยู่บนยอดอก ความอัดแน่นอันปวดร้าวทั่วร่างแกร่ง เตรียมพร้อมระเบิด เมื่อมือข้างที
[อีกด้านหนึ่ง(ในเวลาเดียวกัน)] “ห้องนี้คุณยกให้ฉันแล้วนี่คะ”ธาริกามองชายหนุ่มที่ยืนอยู่กลางห้องใหญ่ “ข้าเข้ามาเพื่อที่จะคุยกับเจ้าเท่านั้น”เอาเข้าจริงๆ เวลาเจอหน้าเธอแล้ว อิลยาสกลับพูดไม่ออก อุตส่าห์วางแผนกับพี่ชายของเขา และเขาจะต้องทำแบบเดียวกับที่พี่ชายเขาบอก “ฉันไม่มีเรื่องอะไรที่จะคุยกับคุณแล้วค่ะ”ธาริกาไม่เข้าใจในตัวของชายหนุ่มเลย ว่าทำไมเขาถึงยังไม่จบเรื่องนี้ซะที เขาน่าจะดีใจด้วยซ้ำที่เธอไม่เอาความ และไม่วุ่นวายกับเขาอีก “เจ้านั่งลงเถิด ข้าไม่ทำอะไรเจ้าหรอก”อิลยาสมองร่างบางที่กำลังยืนในท่าเตรียมพร้อมวิ่งอยู่ข้างโซฟาใหญ่ นี่เขาจะเริ่มต้นเจรจากับเธออย่างไรดี “โอเค...ถ้าคุณทำฉันอีกล่ะก็ รอบนี้คุณอาจจะสิ้นชีพแน่นอน...คอยดู”ร่างบางขู่ฟ่อพร้อมกับทิ้งร่างบางลงบนโซฟานุ่ม “แผลเก่าข้ายังไม่หาย ข้าคงไม่คิดที่จะสร้างแผลใหม่หรอกนะ”อิลยาสอดครวญนึกถึงบาดแผลที่เกิดจากฝีมือของเธอ ทั้งกัดและโดนทึ้งทุบจนเป็นรอยไปตามร่างกายและศีรษะบวมปูด “อืม...รู้ไว้ก็ดีแล้ว จะได้ไม่กล้าทำอีก มีอะไรว่ามาเลยค่ะ ฉันจะนอน พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่
ชีคหนุ่มเอ่ยคำหวานเว้าวอนหญิงสาว มือเขาปลดชุดยาวบางเบานั้นออกจากร่างอวบอิ่มอย่างเบามือ ไร้การต้านทานจากหญิงสาว ใบหน้าหวานแดงกล่ำ หลบสายตาคมกริบอย่างเอียงอาย “ค่ะ...” เสียงตอบรับปนหายใจหอบแรงระรัว กายสาวเบียดเข้ากับร่างกำยำ แสดงให้ชายหนุ่มรับรู้ว่าเธอยินยอมพร้อมใจ ยอมศิโรราบแก่เขาแล้ว รินลดาไม่อาจปฏิเสธสิ่งนี้ได้อีกต่อไป เพราะความปรารถนาที่ก่อขึ้นในกายสาวขดม้วนวนอยู่ตรงช่องท้องของเธอ ผีเสื้อนับล้านตัวบินร่อนไปมา กระแสความอบอุ่นไหลวนอยู่ในใจ... “โอวว์...” เสียงทุ้มแหบพร่าดังขึ้น ดวงตาคมเข้มคู่นั้นเจิดจ้าเต็มไปด้วยประกายแห่งความรักใคร่ อารมณ์ของชีคหนุ่มกระเพื่อมไหวเพราะคนตรงหน้า ร่างเล็กสมส่วนปรากฎแก่สายตาของชายหนุ่ม ผิวของเธอช่างเนียนละเอียดดุจแพรไหม สองเต้าอวบอิ่มขาวโพลนที่มีเม็ดทับทิมสีชมพูระเรื่อพุ่งชูชันรอรับความร้อนจากริมฝีปากชายหนุ่ม ชีคหนุ่มไม่รอช้าใช้ปากร้อนดูดงับเม็ดทับทิมสีชมพูระเรื่อ นั้นไว้ในปากอย่างหิวกระหาย ลิ้นใหญ่ดุนดันดูดเม้ม สลับไปมา มืออีกข้างหนึ่งเคล้นคลึงอกอวบอิ่มอย่างหนักหน่วง “อ๊ะ!!!” เสียงครางเบาๆ หลุดออกมาจากริมฝีปากบาง มื
“ข้าไม่อยากบังคับเจ้าหรอกนะ เพียงแต่ข้าอยากขอให้เจ้าใจเย็นรับฟังข้าก่อน...ข้ารู้ว่ามันเร็วเกินที่เจ้าจะตั้งตัวได้ทัน แต่ข้าก็อยากจะบอกให้เจ้ารู้ไว้...ว่าข้าพร้อมที่จะไปกับเจ้าเพื่อไปหาแม่ของเจ้า...ขอเจ้าแต่งงาน...” “...” รินลดานิ่ง เธอจนมุมกับเรื่องทุกอย่างที่เขาเอ่ยมา สิ่งที่เธอสูญเสียไปมันไม่สามารถที่จะเรียกคืนกลับมาได้อีกแล้ว เธอจะเชื่อใจเขาได้หรือเปล่า เขาจะรักและดูแลเธอไปตลอดชีวิตอย่างที่เขาบอกกับเธอมั้ย...รินลดาจะตัดสินใจอย่างไรดี “เจ้าเงียบ...สำหรับข้ามันคือคำตอบ เอาเป็นว่าเจ้าจะอยู่กับข้าที่นี่ก่อน แล้วเราค่อยกลับประเทศของเจ้าไปด้วยกัน”คาริสยืนขึ้นเต็มความสูง พร้อมกับเดินไปยังห้องอาบน้ำทันที โดยไม่รอคำตอบจากหญิงสาว ปล่อยเวลาให้เธอทบทวนสิ่งต่างๆ ด้วยตัวเอง คาริสพูดไปหมดทุกอย่าง เขาพยายามใจเย็น และไม่อยากที่จะบังคับเธอเลย แต่ถ้าเธอเองยังคงดื้อดึงต่อ คาริสก็คงจะต้องใช้วิธีอื่นต่อไป “...” รินลดามองร่างสูงเดินเข้าไปในห้องอาบน้ำ สิ่งที่เขาพูดมานั้นมีเหตุและผลทุกอย่าง รินลดาจะลองเสี่ยงกับเรื่องนี้ดูไหม? ถ้าเขาคิดที่จะจริงจังอย่างที่เขาพูดจริงๆ รินลดาก็พ
“แล้วท่านพี่จะทำอย่างไรขอรับ”อิลยาสไม่คิดว่าตัวเองจะต้องตกที่นั่งเดียวกับพี่ชายของเขาเลยตอนนี้ “พี่ชอบนาง...ถูกใจนางตั้งแต่พี่เจอครั้งแรกแล้ว...”คาริสอดรำพึงนึกถึงวันที่เธอนั้นเดินอยู่บนเวที ความงดงามเย้ายวนของ เธอมีเสน่ห์ตรึงใจเขาเหลือเกิน ‘คาริสจะทำอย่างไร...ที่จะได้ครอบครองเธอทั้งร่างกายและจิตใจ’ “นางเองก็ไม่ได้สนใจท่านพี่นี่ขอรับ...ตอนนี้เพื่อนของนางมาแล้ว...นางทั้งสองคงจะกลับไปพร้อมกับเพื่อนของนางนะขอรับ...แต่จะมีเพื่อนของนางอีกคน ที่จะอยู่กับท่านพี่ฮาซีฟ นางผู้นั้นช่างแปลกนะขอรับ ทำไมนางไม่คิดที่จะกลับไปประเทศของนาง” “เห็นว่าท่านพี่ฮาซีฟจะแต่งงานกับนาง...ท่านพี่คงคิดที่จะจริงจังกับนางแล้ว...” “และเรื่องของท่านพี่จะทำอย่างไรต่อไปขอรับ...” “%#@!&*$##@” คาริสกระซิบข้างหูน้องชาย “จริงหรือขอรับ!!!” “อืม...ถ้าเจ้าไม่ทำคืนนี้...พรุ่งนี้เจ้าอาจจะไม่มีโอกาสอีกต่อไป...อิลยาสน้องพี่”คาริสนึกถึงแผนการบางอย่างที่เขาบอกน้องชายเขา ‘เธอจะหนีไปจากเขาได้อย่างไรกัน...เมื่อเขายังไม่อนุญาต!!’ “เอ่อ...ท่านพี่แน่ใจนะขอร
“ปรางยังดวงดีอยู่ค่ะเจ้ อีกอย่างปรางรักเมืองไทยค่ะ” “ข้าวกับนับดาวเราคุยกันแล้วค่ะ ว่าพวกเราจะกลับพร้อมกับเจ้เลยค่ะ”รินลดายังคงยืนยันคำเดิม และไม่สนใจว่าเขาจะคิดเช่นไรกับเรื่องนี้ “อืม...ไหนๆ ก็พูดมาแล้ว เจ้ก็อยากจะคุยกับข้าวและ นับดาวสักหน่อย ถึงเรื่องของหล่อนสองคน” “เจ้เปิดพอดี ปรางก็อยากจะคุยกับน้องอยู่เหมือนกันค่ะ” “อย่าบอกนะว่าพี่ปรางจะไม่ให้นับดาวกับข้าวกลับด้วย” “ใจเย็นๆ ก่อนนะนับดาว ข้าวฟ่าง ฟังเจ้ให้ดีๆ และคิดตามด้วยเหตุและผลนะ...เจ้แนะนำให้หนูสองคนลองพิจารณาตัวเองให้รอบคอบนะ และอยากให้หนูให้โอกาสคุณคาริสและคุณอิลยาส เจ้ว่าเขาสองคนเป็นสุภาพบุรุษเต็มตัวเลยนะ ที่รับผิดชอบเราสองคน” “แต่ข้าวไม่ต้องการค่ะเจ้ ข้าวอยากกลับบ้าน ที่นี่ไม่ใช่บ้านของข้าว...อาหารการกิน วัฒนธรรม ภาษาไม่เหมือนกับที่บ้านของเรานะคะเจ้” “ใช่ค่ะเจ้...นับดาวก็เหมือนกัน ไหนจะพ่อกับแม่ที่ห่วงพวกเราอีกนะคะ สิ่งที่เราสองคนเสียไป เราถือว่ามันคืออุบัติเหตุค่ะ ไม่ต้องมารับผิดชอบอะไรแล้ว พอเรากลับไปพวกเขาก็ลืม และเราก็จะลืมเรื่องนี้เหมือนกันค่ะ”