เข้าสู่ระบบ[เวลาเกือบรุ่งสางของวันใหม่...]
เด็กสาวที่ร่างกายบอบช้ำแสนสาหัส กำลังกวาดสายตามองหาเสื้อผ้าของเธอที่ขาดวิ่นจนแทบไม่เหลือชิ้นดี ชายใจร้ายได้กลับออกไปแล้ว หลังจากที่ได้คร่าทุกอย่างไปจากเธอ ไม่มีแม้แต่คำพูดใดๆ หลุดออกจากปากเขาเลย การแก้แค้นเอาคืน ที่ขวัญข้าวไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องเลยด้วยซ้ำ แต่ทว่าเธอก็ต้องมารับผลของการกระทำนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“อุ้ย!” เด็กสาวร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เมื่อพยายามขยับร่างของตัวเองลงจากโซฟาใหญ่ คราบกิจกรรมเมื่อครู่ยังคงปรากฎชัดเจน ดวงตากลมโตร้อนผ่าว ขวัญข้าวร่ำไห้จนไม่เหลือน้ำตาให้ไหลอีกแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตวัยสาวของเธอนั้นได้จากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ
เธอกำลังพยายามหยัดกายลุกขึ้นยืนทั้งที่เรียวขายังสั่นเทา ขวัญข้าวต้องรีบออกจากห้องนี้ไป นี่เวลาเกือบตีสามแล้ว อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะถึงเวลาเช้าที่ข้าทาสบริวารของบ้านต้องตื่นมาทำงานของตัวเอง เธอก้มหยิบเศษผ้าขึ้นมาสวมใส่ เท่าที่จะใส่ได้ พร้อมกับรีบทำลายคราบกิจกรรมนั้น ร่างกายของเธอสลับร้อนสลับหนาว ราวกับว่าการเจ็บป่วยกำลังจะมาเยือนกายของเธอ...
ก๊อก! ก๊อก!
“พี่ข้าวครับ พี่ตื่นหรือยังครับ”
ณภัทรยืนอยู่หน้าประตูห้องนอนพี่สาวอย่างชั่งใจ เขาเป็นห่วงพี่สาวทั้งคืน ไม่รู้ว่าพี่ของเขาไปไหน โทรติดต่อก็ไม่รับสายเลย
“พะ-พี่ตื่นแล้ว”
ขวัญข้าวพยายามเปล่งเสียงออกไป เธอที่พึ่งนอนไปสามชั่วโมง ตอนนี้ร่างกายของเธอไม่สามารถที่จะทรงตัวลุกขึ้นไปเปิดประตูได้
“ภัทรเข้าไปนะครับพี่ข้าว”
ณภัทรมีกุญแจสำรองของห้องพี่สาวไว้อยู่แล้วยามฉุกเฉิน ซึ่งเขาและพี่สาวต่างมีกุญแจของกันและกันไว้
“อือ...”
แกร๊ก! สิ้นเสียงประตูก็ถูกเปิดออกทันที
“พี่ข้าว”
ภาพที่เห็น พี่สาวของเขากำลังนอนอยู่บนเตียง ปกติพี่สาวจะตื่นแต่เช้า นี่ก็เวลาเกือบเจ็ดโมงแล้ว ทำไมพี่ข้าวยังคงนอนอยู่อีก
“ภัทร...พะ-พี่”
เด็กสาวลําคอแห้งผากตีบตัน พยายามสะกดความรู้สึกแสบร้อนที่สุดขึ้นมาในดวงตา เธอจะให้น้องชายรู้เรื่องนี้ไม่ได้เด็ดขาด
“พี่ข้าวตัวร้อนนี่ครับ พี่เป็นไข้ แล้วพี่กินยาหรือยังครับ”
ณภัทรสัมผัสไปที่หน้าผากของพี่สาว ทำให้เด็กชายทราบได้ในทันที ว่าพี่เขาต้องป่วยอย่างแน่นอน
“ภัทร...ไปหายาให้พี่หน่อย”
เสียงอันแหบแห้งเอ่ยอย่างยากลำบาก ขวัญข้าวพยายามเก็บอาการของตัวเองไว้อย่างที่สุด เธอจะรับเรื่องทุกอย่างไว้เอง น้องชายของเธอ ไม่ควรจะได้รับรู้สิ่งนี้
“ครับ งั้นเดี๋ยวภัทรไปหายากับข้าวต้มให้พี่ข้าวก่อนนะครับ”
“อืม...” อาการของขวัญข้าวค่อนข้างหนัก ร่างกายของเธอถูกกระทำอย่างป่าเถื่อน จนทำให้เธอล้มป่วยในทันที
...................
ปึ่ง! ปึ่ง!
“นี่! นังข้าว แกตื่นหรือยัง นายท่านให้ตามแกไปพบ”
เสียงตะโกนของหัวหน้าสาวใช้จอมโหดดังขึ้น
แกร๊ก!
“พี่ข้าวไม่สบายครับคุณอบเชย”
“ไม่สบายเป็นอะไร เมื่อวานฉันก็เห็นมันดีๆ อยู่นี่ ไหน!”
“คุณอบเชยครับ...”
“แกแกล้งป่วยหรือเปล่ายัยข้าว อยู่ที่นี่ไม่ทันไร ริอาจจะอู้งานแล้วเหรอ ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้นะ!”
หัวหน้าสาวใช้เอื้อมมือไปกระชากร่างของเด็กสาวจากเตียง แต่ทว่าเมื่อเธอสัมผัสกับร่างกายอันร้อนผ่าวของเด็กสาวนั้น เธอก็ปล่อยร่างบอบบางในทันที
“นี่แกตัวร้อนนี่!”
สภาพของเด็กสาวที่นอนห่มผ้านั้นซีดเซียว ริมฝีปากบวมเจ่อ ลำคอมีร่องรอยบางอย่างปรากฏอยู่เล็กน้อย ทำให้หัวหน้าสาวใช้เกิดความสงสัยขึ้นมาทันที
“แกไปโดนอะไรมาข้าว”
น้ำเสียงของหัวหน้าสาวใช้เปลี่ยนไปทันที หรือว่า...เธออดนึกถึงบุตรชายของท่านผู้หญิงบงกรเพชรไม่ได้เลย ‘หรือจะเป็นฝีมือของคุณหนูนนท์’ อบเชยรู้จักนายน้อยของเธอคนนี้เป็นอย่างดี จอมเจ้าชู้ ฟันสาวๆ ไม่เลือกหน้า และเธอยังแอบเคยเห็นว่าคุณหนูนนท์ของเธอนั้น สนใจขวัญข้าวอีก
“ไม่ค่ะ หนูตกบันได ตอนปีนขึ้นไปหยิบขวดไวน์ค่ะ”
ขวัญข้าวจำใจต้องกุเรื่องนี้ขึ้นมา มันไม่เป็นผลดีแน่ ถ้าคุณนายของบ้านรับรู้เรื่องนี้ล่ะก็ เธอกับน้องก็จะลำบากขึ้นไปอีก
“อ่อ...ซุ่มซ่ามจังแกเนี่ย สงสัยจะไปพบคุณท่านไม่ได้แล้ว เดี๋ยวฉันจะไปบอกคุณท่านแล้วกัน ว่าแกป่วย”
อบเชยรู้ว่าเมื่อวานเธอได้มอบหมายงานหนักให้กับเด็กสาวไว้ เด็กร่างบอบบางก็อาจจะล้มป่วยได้เป็นเรื่องธรรมดา
“ขอบคุณค่ะ”
“งั้นแก ก็ดูแลพี่สาวของแกไปนะ คงต้องขาดเรียนแล้วแหละวันนี้”
อบเชยหันมาสั่งเด็กชาย ที่หน้าตาละหม้ายคล้ายกับพี่สาวเป็นอย่างมาก เหตุผลที่หม่อมราชวงศ์นวพล รับเด็กสองคนนี้เข้ามาอยู่ในบ้าน ก็คงจะเป็นเพราะหน้าตาเด็กนี่สินะ
“ครับคุณอบเชย” เด็กชายยกมือไหว้ทันที
......................
[บริษัทวรารักษ์เมธานนท์]
การประชุมใหญ่สามัญประจำเดือน ผู้ถือหุ้นและกรรมการบริษัท อีกทั้งประธานบริษัท พร้อมด้วยบุตรชายกำลังเข้าร่วมประชุม เนื่องจากในการประชุมใหญ่ครั้งนี้ หม่อมราชวงศ์นวพลซึ่งเป็นประธานบริษัทต้องการประกาศข่าวการลงจากตำแหน่ง พร้อมกับต้อนรับว่าที่ประธานคนใหม่ ซึ่งก็คงหนีไม่พ้นบุตรชายอันเป็นที่รักเพียงคนเดียวคือ หม่อมราชวงศ์อคิราห์นั่นเอง
“ทำไมท่านประธานถึงรีบสละตำแหน่งล่ะครับ ทั้งที่ท่านประธานก็ยังหนุ่มอยู่เลยนะครับ”
กรรมการบริหารเอ่ยขึ้น เมื่อเขาเหลือบเห็นบุตรชายของท่านประธาน ซึ่งยังเด็กนัก เขากังวลในเรื่องของการบริหารบริษัทที่ใหญ่โตขนาดนี้ เด็กหนุ่มนั่นจะบริหารได้อย่างไรกัน
“ตอนนี้อคิราห์ ลูกชายของผม พร้อมที่จะก้าวขึ้นมาเรียนรู้งานของบริษัทในฐานะประธานของบริษัทแล้ว ผมต้องการให้ลูกชายของผมได้เรียนรู้การทำงานต่างๆ ผ่านกรรมการบริหารบริษัททุกท่านครับ อีกอย่างผมเองก็ยังคงถ่ายทอดงานให้ลูกชายของผมอยู่ครับ ไม่ได้ไปไหน”
หม่อมราชวงศ์นวพลชี้แจงกรรมการบริหาร ความเป็นจริงเบื้องลึกของเขาก็คือ ร่างกายของเขาต่างหาก ที่ไม่สามารถจะทำงานหนักได้อีกต่อไปแล้ว เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เขาได้ทราบความจริงบางอย่างจากแพทย์ประจำตัวของเขา ว่าโรคร้ายที่เขากำลังประสพอยู่เริ่มลุกลามเร็วขึ้น ความจริงเรื่องนี้ แม้แต่บุตรชายอันเป็นที่รัก ก็ยังไม่ได้รับรู้เลยด้วยซ้ำ
“อ่อ ครับ ดูแล้วท่านชายอคิราห์ก็จบการศึกษาด้านการบริหารและการต่างประเทศมาด้วยนี่ครับ ทางกรรมการบริหารก็คงจะเบาใจได้ในระดับหนึ่งนะครับ”
“ครับ งั้น เดี๋ยวยังไงให้ลูกชายของผม แนะนำตัวในที่ประชุมเลยนะครับ จากนี้ไป อคิราห์จะรับช่วงต่อจากผมครับ”
[ณ เวลาหนึ่ง!]“กรี๊ดดดด! ไม่! ปล่อยเตยเดี๋ยวนี้นะพี่นนท์ เตยเจ็บ!”ร่างอวบอิ่มกำลังดิ้นพล่านไปมา เมื่อเจอแท่งร้อนจู่โจมเข้ามาแบบไม่ทันได้ตั้งตัว ความเมามลายหายไปแทบจะทันที เมื่อความเจ็บปวดแทบจะดับสลายนั้นแทรกเข้ามา“มะ-ไม่! พี่ถอยไม่ได้แล้วเตย!”ร่างกำยำสั่นเทาไปทั่วร่าง เมื่อเจ้าแท่งร้อนของเขากำลังโดนบีบรัด เริ่มจากความเมา ตามมาด้วยการท้าทาย และกำลังจะจบด้วยบทรักอันแสน...“อ๊ะ! ตะ-เตยเจ็บค่ะพี่นนท์” ปากบางสั่นระริก“เตยอยู่นิ่งๆ สูดลมหายใจเข้าลึกๆ”“แต่มันเจ็บนี่คะ อุ้ย!”ร่างบางสะดุ้งสุดตัวเมื่อเจ้าแท่งเหล็กใหญ่นั้นกลับดันเข้ามายังร่างของเธออีก ‘ตายแน่เลยยัยเตย ตอนแรกเมา แต่ตอนนี้สิ’“อืม เดี๋ยวก็หายนะ ทำตามที่พี่บอกนะ”สรรพนามแทนตัวเองถูกเปลี่ยนทันทีราวกับอัตโนมัติตั้งไว้ ธนนท์รู้สึกอิ่มเอมอย่างที่สุด ที่ได้เป็นคนแรกของเธอ ความรู้สึก หวงแหนบังเกิดขึ้นทันที“ค่ะ” ชมพูนุทพยักหน้ารับพร้อมทำตามชายหนุ่ม ‘ในที่สุดเธอก็ได้เป็นของเขา ไม่คิดไม่ฝันว่า เธอจะมีวันนี้ด้วยซ้ำ ยัยเตยเอ้ย เขาจะรับผิดชอบหรือไม่รับ โนว์สนโนว์แคร์ค่ะ ขอแค่ได้เป็นของพี่นนท์ก็พอ’“ได้ยินพี่มั้ยเตย พี่บอกให้อ้าขา”“ห๊ะ!
[วอชิงตัน ดี.ซี(Washington DC)...สหรัฐอเมริกา] “เชิญน้องข้าวกับท่านชายตามสบายเลยนะคะ ไม่ต้องห่วงพี่พราวหรอกค่ะ คือมาเกือบสิบวันแถมยังมีพ็อกเก็ตมันนี่ให้พราวอีก...แบบนี้จะเพิ่มอีกเป็นเดือนก็ได้นะคะ พราวอยู่ได้ค่ะท่านชาย” “แหม พี่พราว ข้าวยังไม่ได้มีโอกาสที่จะได้คุยกับพี่เลยนะคะ บัญชีของเรายังไม่ได้สะสางเลยนะคะ” “อุ้ย! ท่านชายคะ ช่วยพราวหน่อยสิคะ เรื่องนี้พราวไม่ได้เป็นต้นเรื่องนะคะ” “โอเค ใจเย็นนะขวัญข้าว เรื่องทั้งหมดที่ฉันกับเลขาของฉันทำมานี้ มันคือเจตนาของฉันเองนะข้าว อย่าไปโทษพราวเขาเลย ถ้าจะโทษก็มาลงที่ฉันได้เลยนะ ฉันพร้อมเสมอ”แววตาเจ้าเล่ห์แฝงรอยยิ้มมองมาที่หญิงสาวแบบไม่สนบุคคลที่สามเลยสักนิด “อ๋อ เรื่องของท่านชายแน่นอนค่ะ ต้องโดนอยู่แล้วค่ะ ข้าวต้องคิดบัญชีกับท่านชายอยู่แล้ว คงหนีไปไม่ได้หรอกค่ะ”ดวงตากลมโตถลึงใส่คนตัวใหญ่อย่างเอาเรื่อง “อุ้ย งั้นพี่คนนอก ขออนุญาตไปเที่ยวล่าหนุ่มหล่อสายฝอก่อนนะคะ อยู่ไปเดี๋ยวตาของพี่จะไหม้ซะก่อน ขอตัวก่อนนะคะ น้องข้าว คิดบัญชีจะทบต้นหรือทบดอกก็ตามสบายเลยค่ะ แต่อย่าลืมทานข้าวบ้างนะคะ พี่
[อีกฝากฝั่ง...ประเทศไทย] “คุณนนท์คะ...” “อืม เรียกใหม่ซิ...ตอนนี้เราอยู่กันสองคนแล้ว”ธนนท์พูดในขณะที่เขากำลังก้มตรวจเอกสาร โดยไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาสนทนากับ Sales Engineer คนเก่งของเขา “ค่ะ พี่นนท์คะ คือเตยอยากจะทราบว่า ไอ่งานที่เตยทำอยู่ทั้งหมดนี่ มันไม่ใช่งานของเตยเลยนะคะ ดูแล้วมันคืองานของพี่เขมเลขาของพี่นะคะ เตยไม่เข้าใจเลยค่ะ ที่พี่จะให้เตยมาทำงานหน้าที่นี้ทำไมคะ”ชมพูนุทหมดความอดทนแล้ว หลายวันมานี้ เขาเฝ้าแต่เรียกหาเธอ ให้เธอเอางาน (ที่ไม่ใช่งานในหน้าที่ของเธอ) มาเสนอเขาถึงห้องทำงาน โดยที่เธอก็ไม่ทราบสาเหตุว่าเขาจะทำแบบนี้ไปทำไม ในเมื่อเลขา (พี่เขม) ก็มี และยังปิดปากเงียบ อีกทั้งยังปล่อยให้เลขาของตัวเองไปลั้ลลากับหนุ่มสายฝอของพี่เขาอีกด้วย “ผมกำลังจะบอกคุณอยู่พอดี ว่าต่อไปนี้ผมจะแต่งตั้งคุณเป็นเลขาของผม” “ห๊ะ! อะไรนะคะ ให้เตยเป็นเลขาคุณ เอ้ย พี่นนท์เหรอคะ แล้วจะเอาพี่เขมไปไว้ตรงไหนคะ” “ก็อยู่เหมือนเดิมไง แต่อนาคตอาจจะไม่แน่ ว่าพี่เขมของคุณอาจจะลาออกจากตำแหน่งเลขาก็ได้นะ” “อย่าบอกนะว่าพี่เขมกับคุณวิลเลี่ยมเขาคบกัน
“ไม่ได้นอยด์อะไรทั้งนั้นค่ะ” “ฟังฉันนะข้าว...” หม่อมราชวงศ์หนุ่มก้มลงกระซิบข้างหู “อะ-อะไรคะ” หัวใจของขวัญข้าวเต้นรัวเมื่อรอคอยคำพูดจากเขา ‘นี่เธอเป็นบ้าอะไรเนี่ยยัยขวัญข้าว หล่อนรอเหมือนมีความหวังอะไรจากเขางั้นแหละ’ “ฉัน...รักเธอ...ขวัญข้าว” “คะ??” เหมือนขวัญข้าวกำลังตกอยู่ในความฝัน นี่เธอได้ยินไม่ผิดใช่ไหม เขาบอกว่ารักเธองั้นเหรอ เป็นไปได้ยังไง ไม่อยากจะเชื่อเลย “หม่อมราชวงศ์อคิราห์...รัก...นางสาวขวัญข้าวคนนี้”นิ้วเรียวยาวจิ้มไปที่อกข้างซ้ายของหญิงสาวเบาๆ เพื่อเป็นการยืนยันในคำพูดของตัวเอง “!!!” ดวงตากลมโตเบิกกว้าง เมื่อได้ยินประโยคต่อมาจากเขาอีกครั้ง ‘ท่านชายรักเธองั้นเหรอ’ “ทำไมเธอต้องตกใจขนาดนั้นด้วยข้าว มันแปลกหรือไง ที่คนอย่างฉันจะหลงรักเด็กสาวอย่างเธอเข้าน่ะ...หืม”อคิราห์ก้มจูบปากบางอีกครั้งเพื่อเป็นสิ่งยืนยันในคำพูดของเขา ปลายลิ้นหนาดูดดูนซับความหวานจากโพรงปากนุ่ม ‘หรือว่าเธอจะไม่รู้ ว่าเขารักเธอ...ให้ตายสิ...เขาปล่อยให้เธอคิดเองตั้งนาน...สุดท้ายเธอก็ยังดูไม่ออกจริงๆ ว่าเขารักเธอ’ “ท่านชายรักข้าว
“ไม่! อ๊ะ!” ขวัญข้าวร้องเสียงหลง เมื่อร่างของเธอถูกหม่อมราชวงศ์หนุ่มจับเอาไว้ เรียวขาสวยทั้งสองข้างถูกแยกออกจากกัน โดยที่เธอพยายามที่จะขืนแรงนั้น แต่มันก็ไม่เป็นผล แท่งร้อนสัมผัสกับช่องทางรักของเธอทันที ขวัญข้าวพยายามดิ้นอีกครั้ง เพื่อไม่ให้เขาทำได้สำเร็จ แต่แรงอันน้อยนิดจะสู้แรงมหาศาลได้อย่างไร “โอวว์ ขะ-ขวัญข้าว!” เสียงครางของชายหนุ่มมาพร้อมกับแท่งใหญ่โตกำลังดันเข้ากับช่องทางรักของเธอ เอวหนาเด้งเข้า เพื่อดันดุ้นใหญ่ให้ลึกจนสุดลำ! โดยไม่สนใจอาการดิ้นรนของร่างงามแต่อย่างใด ความคับแน่นโอบรัดแท่งร้อนจนร่างกำยำสั่นเทา! เจ็ดปียังคงเหมือนคราครั้งแรกไม่มีผิด! “อ๊ะ! ฮึก! ไม่! อ๊ะ!” ขวัญข้าวกำลังต่อสู้กับความรู้สึกดำมืดของตัวเอง เธอพยายามต่อต้าน แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นผล ถึงแม้จะรู้สึกเจ็บแปลบที่ช่วงล่างของเธอ แต่มันก็มีความซาบซ่านปนอยู่ในนั้น ริมฝีปากบางกัดเม้มเข้าหากันแน่น เพื่อต่อสู้กับความรู้สึกนั้น “อืม...”เสียงทุ้มแหบพร่าดังขึ้นด้วยความพึงพอใจในสิ่งที่เขากำลังสัมผัส ดวงตาคมเข้มคู่นั้นเจิดจ้าเต็มไปด้วยประกายแห่งความรักใคร่ อารมณ์ของหม่อมราชวงศ์หนุ่มกระเพื่อมไหว
ขวัญข้าวรู้สึกว่าตัวเองเดินมาติดกับดักเขาเสียแล้ว ไหนจะเลขาของเขาอีก ทุกคนรวมหัวกันเพื่อที่จะหลอกเธอ กำปั้นน้อยรัวๆ ใส่อกกว้างด้วยความโมโหเมื่อปะติดปะต่อเหตุการณ์ทั้งหมดได้แล้ว ขวัญข้าวดิ้นสุดฤทธิ์เธอจะไม่ยอมให้เขามาทำอะไรเธออย่างแน่นอน! “ไม่!” “อุ๊บ!!!!” ปากหนากระแทกลงมาอย่างรวดเร็ว แต่ทว่าก็เจอกับริมฝีปากบางที่ปิดเม้มสนิทเอาไว้แน่น ไม่ยอมให้ลิ้นของเขาได้แทรกเข้าไปในโพรงปากของเธอได้ มือของเธอพยายามดันอกกว้างของเขาไว้ แต่มันก็เหมือนกับผลักแผ่นหินผา ที่ไม่มีทีท่าว่าจะขยับออกเลยสักนิด! “พูดดีๆ ไม่ได้ ก็คงต้องวิธีนี้แล้วแหละ!” เสียงแหบพร่าขู่ “ไม่!” ขวัญข้าวสะบัดหน้าตัวเองหนี และดิ้นเพื่อให้หลุดพ้นจากเขา เธอพยายามแกะมือเหล็กแกร่งที่จับเธอเอาไว้ออก ‘ขวัญข้าวจะไม่ยอมให้เขาทำอะไรเธอได้แน่นอน’ ในระหว่างที่เธอกำลังใช้สมองเพื่อเอาตัวรอดอยู่นั้น มือของเขาที่เร็วยิ่งกว่าหนวดปลาหมึก กำลังดึงทึ้งชุดนอนของเธอออก! “โอ้ย!!!” เสียงร้องของหม่อมราชวงศ์หนุ่มดังขึ้น เมื่อไหล่ของเขาถูกฟันคมงับสุดแรง! ความเจ็บปวดบังเกิดขึ้นทันทีพร้อมด้วยเลือดซึมออกมาทันตาเห็น“ฮึ่ม!!!