แชร์

บทที่ 53 คำขอร้อง (ตอนปลาย)

ผู้เขียน: ชวี่เหว่ย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-19 21:49:07

บทที่ 53 คำขอร้อง (ตอนปลาย)

ส่วนตัวนางกำลังวิ่งวุ่นเป็นมดบนกระทะร้อน หาทางช่วยเหลือหลานสาวของตน นางกลัวจับจิตว่าไทเฮา จะสั่งให้กำจัดหญิงสาวทิ้งเพราะทำงานล้มเหลว

"หมิ่นเอ๋อร์เจ้าช่วยไปเยี่ยมเหลียนเอ๋อร์แทนแม่ทีเถิด แม่เป็นห่วงนางเหลือเกิน ไม่รู้ว่าป่านนี้เป็นอย่างไรบ้าง"

จิ้งซื่อเอ่ยกับบุตรชายเสียงสั่น นางดูแก่ลงเป็นสิบปีหลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น ร่างกายที่เคยอวบอ้วนเวลานี้ซูบผอมลงไปหลายจิน

"ขอรับท่านแม่" ว่านหลีหมิ่นจำใจรับปากมารดา แม้นว่าใจจริงไม่อยากไปก็ตาม

แต่ก่อนจะออกไป ชายหนุ่มแวะไปดูน้องสาวที่เอาแต่เก็บตัวไม่พบปะผู้ใด ทั้งไม่ยอมออกจากห้องตั้งแต่วันที่เกิดเรื่อง

"คุณหนูเจ้าคะ ซื่อจื่อมาเยี่ยมเจ้าค่ะ" เสี่ยวมี่เข้ารายงานเจ้านายที่นั่งฟุบหน้ากับโต๊ะ ลูบคลำป้านชาของฟ่านจงเหยียนด้วยแววตาเหม่อลอย

ว่านหวังลี่ชะงักเล็กน้อยก่อนลุกขึ้นไปพบพี่ชายที่ส่วนรับรองของเรือนส่วนตัว

"คาราวะพี่รองเจ้าค่ะ" ว่านหวังลี่แสดงความเคารพพี่ชายตามธรรมเนียมของชนชั้นสูง นางมองเขาด้วยสายตาว่างเปล่า ราวกับอีกฝ่ายเป็นเพียงคนแปลกหน้า

"ลี่เอ๋อร์ ข้าจะไปเยี่ยมเหลียนเอ๋อร์แทนท่านแม่เสียหน่อย เจ้าอยา
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • นางร้ายอย่างข้าขอลิขิตชะตาเอง    บทที่ 54 ขบวนเดินทางถูกโจมตี (ตอนปลาย)

    บทที่ 54 ขบวนเดินทางถูกโจมตี (ตอนปลาย) ยามได้ยินแน่ชัดว่ากลุ่มคนตรงหน้าคือโจรป่า สีหน้าของเส้าต่งภายใต้หน้ากากหนังสีดำยิ่งดูดุร้าย ประสาทสัมผัสทุกส่วนตื่นตัวระวังเต็มที่ เขาแผดเสียงตวาดกลับด้วยความเกรี้ยวกราด ยกคำว่าทางการมาข่มขู่กลุ่มโจรเบื้องหน้า "พวกเจ้ากำลังปล้นใครอยู่รู้หรือไม่?! หากไม่อยากถูกทางการกวาดล้างก็ไสหัวไปให้พ้น" "ฮ่าๆๆๆ เจ้าคิดว่าโจรอย่างพวกข้าจะกลัวทางการอย่างนั้นรึ ถุย! หากพวกข้ากลัวก็คงไม่มาเป็นโจรหรอกโว้ย!! ในเมื่อไม่ยอมให้ความร่วมมือดีๆ ก็อย่าอยู่เลย พวกเราจัดการ!!" หัวหน้าโจรหัวเราะเย้ยหยัน รังสีเข่นฆ่ากำจายทั่วร่าง ยกมือให้สัญญาณสั่งลูกน้องเข้าจัดการคนที่เหลือ ลูกน้องที่ยืนอยู่ด้านหลังไม่พูดพร่ำทำเพลง เข้าจู่โจมเส้าต่งและองครักษ์ที่เหลืออย่างดุดันตามคำสั่งหัวหน้า เคร้ง! ฉัวะ! ฉึก! อ๊ากกกก เสียงคมดาบฟาดฟันจนเกิดประกายไฟแปลบปลาบ กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งจนแสบจมูก เศษใบไม้บนผืนดินและยอดหญ้าเปรอะเปื้อนไปด้วยโลหิตแดงฉานจากร่างกายองครักษ์ของว่านกั๋วกง หัวหน้าองครักษ์อย่างเส้าต่งกำลังรับมือหัวหน้าโจรอย่างตึงมือ เขาแทบไม่อยากเชื่อว่าโจรป่าจะมีฝีมือการต่อสู้สูง

  • นางร้ายอย่างข้าขอลิขิตชะตาเอง   บทที่ 54 ขบวนเดินทางถูกโจมตี (ตอนต้น)

    บทที่ 54 ขบวนเดินทางถูกโจมตี (ตอนต้น) ข่าวเรื่องการเสียชีวิตของจิ้งจื่อเหลียนถูกส่งถึงจวนพักริมทะเลทันที จิ้งซื่อกรีดร้องโหยหวนดังลั่นก่อนหมดสติไป ว่านหลีหมิ่นพร้อมเส้าต่งออกไปรับศพญาติผู้น้องจากศาลประจำเมืองอี้เฉิง ระหว่างทางบนรถม้าเส้าต่งกล่าวกับชายหนุ่มว่าเขาทำดีแล้ว หากจะรับใช้ไทเฮาต้องเป็นคนเป็นหนักแน่น คิดถึงเป้าหมายเป็นหลักจะใจอ่อนไม่ได้เด็ดขาด และจำไว้ให้มั่นว่า เขาคือผู้สืบทอดของตระกูลว่าน ซึ่งเป็นหนึ่งในสามตระกูลใหญ่สำคัญของเมืองหลวง นอกเหนือจาก ตระกูลโซว่ ตระกูลหลินและราชวงศ์แล้ว ตระกูลอื่นๆล้วนไม่อยู่ในสายตา "ซื่อจื่อเกิดในตระกูลว่าน ก็ต้องหัดวางตัวให้เป็นพยัคฆ์ มดปลวกทั้งหลายหาใช่สิ่งที่ท่านควรใส่ใจ หากท่านใจอ่อนผู้ที่จะเดือดร้อนก็คือตัวท่านเอง หวังว่าท่านจะตระหนักในสิ่งที่ข้าเตือน" "ข้าเข้าใจแล้ว" ว่านหลี่หมิ่นเอ่ยรับด้วยน้ำเสียงหนักแน่น แม้ว่าเส้าต่งจะทำงานให้บิดาของเขา ทว่ากลับขึ้นตรงกับว่านไทเฮา ทุกการเคลื่อนไหวในจวนว่านกั๋วกง ล้วนถูกรายงานให้ท่านป้าของเขารับรู้ และก่อนที่พวกเขาจะเดินทางไปยังศาลประจำเมือง ว่านหลีหมิ่นได้ไปขอพบรุ่ยอ๋อง เพื่อร่ำลาตามมารยาทแ

  • นางร้ายอย่างข้าขอลิขิตชะตาเอง   บทที่ 53 คำขอร้อง (ตอนปลาย)

    บทที่ 53 คำขอร้อง (ตอนปลาย) ส่วนตัวนางกำลังวิ่งวุ่นเป็นมดบนกระทะร้อน หาทางช่วยเหลือหลานสาวของตน นางกลัวจับจิตว่าไทเฮา จะสั่งให้กำจัดหญิงสาวทิ้งเพราะทำงานล้มเหลว "หมิ่นเอ๋อร์เจ้าช่วยไปเยี่ยมเหลียนเอ๋อร์แทนแม่ทีเถิด แม่เป็นห่วงนางเหลือเกิน ไม่รู้ว่าป่านนี้เป็นอย่างไรบ้าง" จิ้งซื่อเอ่ยกับบุตรชายเสียงสั่น นางดูแก่ลงเป็นสิบปีหลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น ร่างกายที่เคยอวบอ้วนเวลานี้ซูบผอมลงไปหลายจิน "ขอรับท่านแม่" ว่านหลีหมิ่นจำใจรับปากมารดา แม้นว่าใจจริงไม่อยากไปก็ตาม แต่ก่อนจะออกไป ชายหนุ่มแวะไปดูน้องสาวที่เอาแต่เก็บตัวไม่พบปะผู้ใด ทั้งไม่ยอมออกจากห้องตั้งแต่วันที่เกิดเรื่อง "คุณหนูเจ้าคะ ซื่อจื่อมาเยี่ยมเจ้าค่ะ" เสี่ยวมี่เข้ารายงานเจ้านายที่นั่งฟุบหน้ากับโต๊ะ ลูบคลำป้านชาของฟ่านจงเหยียนด้วยแววตาเหม่อลอย ว่านหวังลี่ชะงักเล็กน้อยก่อนลุกขึ้นไปพบพี่ชายที่ส่วนรับรองของเรือนส่วนตัว "คาราวะพี่รองเจ้าค่ะ" ว่านหวังลี่แสดงความเคารพพี่ชายตามธรรมเนียมของชนชั้นสูง นางมองเขาด้วยสายตาว่างเปล่า ราวกับอีกฝ่ายเป็นเพียงคนแปลกหน้า "ลี่เอ๋อร์ ข้าจะไปเยี่ยมเหลียนเอ๋อร์แทนท่านแม่เสียหน่อย เจ้าอยา

  • นางร้ายอย่างข้าขอลิขิตชะตาเอง   บทที่ 53 คำขอร้อง (ตอนต้น)

    บทที่ 53 คำขอร้อง (ตอนต้น) ถึงจะสับสนอย่างไรเซียวหนิงชิงก็ตักน้ำแกงร้อนๆเข้าปาก กลิ่นหอมของเครื่องเทศรสชาติกลมกล่อมเข้มข้น ทว่าไม่จัดจ้านของน้ำแกงหมูตุ๋นอบอวลอยู่ในปาก ทั้งเนื้อซี่โครงและเนื้อหมูเปื่อยนุ่มจนแทบละลายเมื่อสัมผัส เส้นลาเมี่ยนนุ่มเด้งยามเคี้ยว ผักผัดน้ำมันยังคงความสดกรอบ บะหมี่หมูตุ๋นน้ำแดงชามนี้ของรุ่ยอ๋องนับว่ายอดเยี่ยม!! "อื้มมมม อร่อยมาก อร่อยแสงออกปากเลยแบบนี้" หญิงสาวเอ่ยชมออกมาจากใจในภาษาที่ตนชอบใช้จากภพก่อน "หืม อะไรคือแสงออกปากหรือชิงเอ๋อร์" พ่อครัวรูปงามแผ่นอกแน่นเอ่ยถามด้วยความอยากรู้ คนรักของเขามักมีคำพูดแปลกๆ มาให้สงสัยเสมอ เซียวหนิงชิงปิดปากหัวเราะคิก จากนั้นจึงอธิบายความหมายให้ชายหนุ่มฟัง บะหมี่หมูตุ๋นน้ำแดงของรุ่ยอ๋อง ถูกแบ่งปันให้ทุกคนในเรือนหลังร้านเล่อไฉ่เฟิ่ง องครักษ์ทั้งสองกินบะหมี่เลิศรสด้วยน้ำตาคอเบ้า นานเท่าไหร่แล้วที่ท่านอ๋องไม่ได้เข้าครัวทำอาหาร ทว่าฝีมือไม้ลายมือในการทำครัวไม่ตกเลยสักนิด ยังทรงควงมีดได้อย่างช่ำชอง สมกับที่เป็นจอมเรื่องมาก เรื่องอาหารอันดับหนึ่งในแผ่นดิน!! ฉายานี้ฮ่องเต้เป็นผู้มอบให้โอรสด้วยองค์เอง และเมื่อกินบะห

  • นางร้ายอย่างข้าขอลิขิตชะตาเอง    บบที่ 52 เมื่อชิงชิงหิวหิว (ตอนปลาย)

    บบที่ 52 เมื่อชิงชิงหิวหิว (ตอนปลาย) ซวินเหิงเยว่หันมาส่งยิ้มทรงเสน่ห์พร้อมยักคิ้วให้หญิงสาว ก่อนย้ายวรกายยั่วยวนสายตาไปอยู่หลังโต๊ะทำครัว รับสั่งลูกน้องให้เป็นลูกมือระหว่างที่ตนเริ่มหยิบแป้งมาเตรียมทำเส้นบะหมี่ "ชิงยวี่หยิบผัก….ไปล้างให้เปิ่นหวาง" "ชิวเยี่ยหยิบเนื้อหมูกับซี่โครงในห้องใต้ดินมาให้ที่" "วันนี้ข้าจะทำบะหมี่หมูตุ๋นน้ำแดงสูตรของเสด็จแม่ให้ชิงเอ๋อร์กิน” ชายหนุ่มเอ่ยบอกคนรักเสียงนุ่มพร้อมส่งสายตาหวานเยิ้มมาให้ระหว่างตวงแป้ง จากนั้นจึงหันมาใส่ใจกับการทำเส้นสด แป้งสาลีเนื้อละเอียดสีขาวนวลถูกเทใส่อ่างไม้ใบใหญ่ ตามด้วยเกลือป่นละเอียดเล็กน้อยคลุกให้เข้ากัน น้ำด่างสำหรับใช้นวดแป้งทำเส้นถูกเทลงทีละน้อยและเริ่มนวด เมื่อแป้งเนื้อเนียนกริบไม่ติดมือจึงทำเป็นก้อนกลมและพักไว้ ซวินเหิงเยว่เลือกมีดทำครัวที่จับถนัดมือมาควงอย่างคล่องแคล่ว ลงมือสับซี่โครงหมูเป็นชิ้นพอดีคำ หยิบเนื้อหมูชิ้นใหญ่มาหั่นเป็นชิ้นขนาดเท่าๆกัน จากนั้นคลุกเคล้าซี่โครงหมูและเนื้อหมูกับเครื่องเทศรวมกับเครื่องปรุงที่เลือกสรรมา เสร็จจากตรงนั้นจึงหันไปซอยกะหล่ำปลีเป็นจังหวะด้วยความรวดเร็ว กะหล่ำปลีทุกเส้นล้วนม

  • นางร้ายอย่างข้าขอลิขิตชะตาเอง   บทที่ 52 เมื่อชิงชิงหิว (ตอนต้น)

    บทที่ 52 เมื่อชิงชิงหิว (ตอนต้น) เช้าวันนี้เซียวหนิงชิงตื่นขึ้นมาด้วยอาการครั่นเนื้อครั่นตัวคล้ายจะเป็นไข้ ท้องน้อยของนางเสียดปลาบจนแทบขยับไม่ได้ "เฮ้อ ให้ตายสิ ทำไมเวลามีประจำเดือน ชีวิตคนสวยต้องทรมานหมดสภาพอย่างนี้ด้วยนะ แค่มาให้มันจบๆ ไปไม่ได้หรืออย่างไรกัน" เสียงบ่นกระปอดกระแปดของหญิงสาวดังลอดออกไปนอกห้อง หลี่โหยวที่รอมาอยู่ก่อนแล้วจึงส่งเสียงเรียก "เถ้าแก่เนี้ยตื่นหรือยังเจ้าคะ ให้บ่าวเข้าไปได้หรือไม่เจ้าคะ" ปกติเซียวหนิงชิงจะลุกตั้งแต่กลางยามเหม่า (05:00-06:59) แต่เวลานี้ปลายยามเฉิน (07:00-08:59) แล้ว หลี่โหยวจึงมาดูว่าเหตุใดนายหญิงถึงยังไม่ตื่น แม้ว่าวันนี้ร้านเล่อไฉ่เฟิ่งไม่เปิดบริการ เพราะเป็นวันหยุดประจำสัปดาห์ ทว่าเซียวหนิงชิงก็ไม่เคยตื่นสายขนาดนี้มาก่อน "เข้ามาเถิดเจ้าค่ะ ข้าตื่นแล้ว" หญิงสาวลงไปนอนขดตัวใต้ผ้าห่มต่ออย่างเกียจคร้าน หลี่โหยวเปิดประตูเข้ามา ก้าวไปหานายหญิงของตน ครั้นเห็นดวงหน้าซีดเซียวของหญิงสาวก็ตกใจรีบเอามือมาแตะหน้าผากเพื่อตรวจดูว่าอีกฝ่ายมีไข้หรือไม่ "ข้าแค่มีระดูไม่ได้เป็นไข้เจ้าค่ะ รู้สึกปวดท้องไม่อยากขยับตัว อาการปวดดีขึ้นเมื่อไหร่ ข้าจะล

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status