"เซน~" คนตัวเล็กส่งเสียงน่ารัก หลังจากเห็นแฟนหนุ่มลงจากรถเดินมารับที่ใต้ตึกคณะ วันนี้เพื่อนของเธออยู่กันครบแก๊ง ทั้งที่ปกติแฟนของเขามักจะนั่งกับลูกสาวนักการทูต ส่วนเพื่อนของเธออีกคนที่เขาพอรู้ว่าหายไปไหนจากการรายงานของลูกน้อง แต่ไม่ได้เอามาบอกเธอเพราะไม่นิยมยุ่งเรื่องคนอื่น "หอบอะไรมา" หลุบตามองลังกระดาษขนาดสิงฝ่ามือที่เธออุ้มอยู่ในมือขณะเดินมาหา ยกมือรับมันมาถือแทน และกำลังจะส่งให้ลูกน้องรับไปเก็บก็ต้องหยุดมือ เมื่อมองเห็นสิ่งมีชีวิตที่กำลังนอนหลับอยู่ในนั้น "เอามาจากไหน" ดวงตาสีนิลมองลูกแมวสองตัวที่นอนกอดก่ายกันหาความอบอุ่นอยู่ภายในลังนั้น ตัวเล็กมากจนนึกว่าเป็นหนู "ลูกแมวที่แม่มันมาออกลูกในคณะค่ะ" เธออธิบายให้เขาฟัง "แต่แม่มันเพิ่งตายไป เพราะโดนรถเหยียบ" "ก็เลยจะเลี้ยง?" เขาพูดออกมาอย่างรู้ทันเธอ "ไม่เด็กไปเหรอ มันจะตายหรือเปล่า" "โรสไปถามรุ่นพี่สัตวแพทย์มาแล้ว เขาบอกว่าเลี้ยงได้นะ แต่ต้องคอ
[Primrose Talk] หนึ่งสัปดาห์ต่อมา ช่วงเวลาที่น่าอึดอัดผ่านพ้นไปแล้ว เราสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมงานแต่ของราฟาเอลและซีลีน ซึ่งฉันรู้สึกเสียดายเล็กน้อย อย่างน้อยก็อยากอธิบายให้เธอเข้าใจ ว่าฉันไม่ได้ต้องการให้เกิดเรื่องแบบนั้นกับเธอ ต่างจากคนเจ้าแผนการที่ดูจะไม่ทุกข์ร้อนเท่าไหร่นัก ทั้งที่พ่อของเขายังไม่มีมติลงโทษเขาออกมา แต่ดูเหมือนเขาจะเอาแต่ขลุกอยู่กับฉัน และทำงานอยู่ที่เพนท์เฮ้าส์ ไม่ได้เข้าออฟฟิศอย่างที่ทำเป็นประจำ "โรส ไปบ้านแม่กัน" เขาโผล่แค่หน้ามาเรียกฉันจากในห้องนอน ฉันจำต้องวางมือจากรายงานที่ทำอยู่ แล้วเดินไปหาเขาที่ห้องประตูอย่างเลี่ยงไม่ได้ "ไปทำไม ยังไม่วันศุกร์เลย" "แม่โทรมาชวน วันนี้พี่ชายเธออยู่บ้านนะ" เขาดูกระตือรือร้นเป็นพิเศษ เขาเคยไปที่บ้านฉันมาแล้วสองครั้ง แต่ยังไม่เคยเจอพี่พัตเตอร์เลยสักครั้ง เพราะรายนั้นเข้าแต่โรงพยาบาล และใกล้จะเรียนจบในอีกไม่กี่เดือนที่จะถึง "งั้นโรสแต่งตัวแป๊บนะคะ" "ช่วยไหม" "ไม่ต้องเลย!" ดูเขาสิ พอหมดเรื่องเครี
[Primrose Talks] ฉันถูกเซนปลุกให้ตื่นตั้งแต่เช้าตรู่ และเมื่อลงมาด้านล่างก็เห็นพี่ดีนส์ยืนรออยู่ก่อน นั่นแสดงว่าเขาตื่นก่อนเราหรืออาจจะไม่ได้นอนด้วยซ้ำ บางที่ฉันก็สงสัยว่า เงินเดือนมือขวามาเฟียเนี่ยมันได้เท่าไหร่ "เคลียร์อุปกรณ์ดักฟังกับกล้องออกจากพื้นที่เราเรียบร้อยแล้วครับ" เขารายงานทันที่ที่เราเดินมาถึง เซนพนักหน้ารับทราบ สีหน้าเขาคลายความตึงเครียดลงไปเยอะมาก นับตั้งแต่ที่เราเคลียร์เรื่องต่างๆ ออกไปได้เมื่อวาน "เมื่อสิบนาทีที่แล้ว คนของเราจากโรงแรมรายงานว่าคุณริคคาโน่กับผู้นำตระกูลอาร์โนลด์เข้าไปในโรงแรมแล้วครับ" ฉันอดเม้มริมฝีปากด้วยความประหม่าไม่ได้ ฉันไม่ได้กลัวที่จะเจอคุณริคคาโน่อีกครั้ง แต่กลัวที่จะเจอซีลีน××× เมื่อลิฟท์โดยสารเปิดออกเราก็มองเห็นบอดี้การ์ดของทั้งราฟาเอลและคุณริคคาโน่ยืนกันเต็มหน้าห้อง บอดี้การ์ดนายหนึ่งสังเกตเห็นว่าเรามา ก็รีบเปิดประตูเดินเข้าไปในห้องทันที ก่อนจะเดินออกยืนขวาหน้าประตู รอเร
มาเฟียหนุ่มก้าวเท้าเดินไปตามโถงทางเดินคอนโดหรูที่คุ้นเคยเป็นอย่างดี บรรยากาศในยามวิกาลทำให้ทั้งชั้นเงียบสงบจนได้ยินเสียงรองเท้าหนังย่ำบนกระเบื้องแกรนิตโต้ ส่งเสียงดังตลอดเวลาจนถึงหน้าห้องของแฟนสาว คีย์การ์ดและรหัสผ่านทำให้สามารถเข้ามาในห้องกว้างได้อย่างง่ายดาย ทว่าเมื่อปิดประตูลงกลับมองเห็นเพียงบรรยากาศภายในห้องที่สลัวด้วยแสงไฟจากด้านนอกสาดส่องเข้ามา มือหนาเปิดสวิตช์ไฟที่มุมห้องด้วยความเคยชิน ถอดรองเท้าแล้วเดินตรงเข้ามายังห้องนอนของคนตัวเล็ก “ฮึก...ฮือ...” เสียงสะอื้นดังเล็ดลอดออกมาจากใต้ผ้าห่ม รู้สึกสงสารเธอจับใจหนึ่งชั่วโมงที่ไม่ได้เจอกัน เธอของเขาคงคิดเตลิดจนช้ำไปทั้งใจ เขาเอื้อมมือเดินไปเปิดเครื่องปรับอากาศให้ ก่อนที่เธอจะขาดอากาศไปเสียก่อนจะทันได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด จากนั้นจึงเอนกายลงบนเตียงเดียวกัน กอดกองผ้าห่มที่คลุมตัวหญิงสาวเอาไว้แนบแน่น “เธอครับ...” “ฮือออ...” คนที่เพิ่งรู้ตัวว่ามีใครบางคนแอบเข้ามาในห้อง ก็ร้องไห้เสียงดังออกมาทัน
ประตูห้องพักชั้นบนสุดของโรงแรมถูกเปิดออก โดยฝีมือของมือขวาคนสนิทของเซน เขาเดินนำหน้าแฟนสาวตัวเล็กที่กำลังเกาะแขนเขาตามความเคยตัว ดีนส์เดินนำทั้งคู่เข้าไปด้านใน เซนหยุดมองที่หน้าประตูชั่วครู่ หันไปสบตากับบอดี้การ์ดนายหนึ่ง ซึ่งเขาจำได้ว่ามันคือคนที่กล้าหาญยกปืนจ่อที่หน้าเขา เพราะเข้าใจผิดว่าเป็นแฟนสาวของเขา บอดี้การ์ดร่างยักษ์ก้มหน้าประสานมือมองพื้น ไม่กล้าสบตากับมาเฟียหนุ่มตรงหน้า ในใจกำลังรู้สึกหวาดกลัวสายตาที่ว่างเปล่านั้น เคยได้ยินจากลูกน้องของเขาว่า หลายปีก่อน เขาเคยชักปืนยิงลูกค้าตายคาโต๊ะกาสิโนที่สิงคโปร์โดยไม่พูดไม่จา ท่ามกลางสายตาคนนับร้อย เพียงเพราะพยายามโกงต่อหน้าเขา ไม่อยากตายกะทันหันแบบนั้น ร่างสูงค่อยๆ เดินเข้าไปข้างในพร้อมกับแฟนสาว และเมื่อประตูปิดลง เสียงถอนหายใจจากบอดี้การ์ดหน้าห้องก็ดังออกมาพร้อมกันอย่างโล่งใจ "กว่าจะมาได้นะ!!" ซีลีนแว้ดเสียงใส่ทันทีที่ทั้งคู่ปรากฏตัว "รู้ไหมว่าฉันหิวขนาดไหน" สาวผมบลอนด์พรูลมหายใจออกทางปากอย่างหงุดหงิด เธอนั่งเท้าแขนที่พนักพิงเก้าอี้ด้วยสีหน้าบูดบึ้งไม่สบอ
หนึ่งเดือนต่อมา เหลือเวลาอีกไม่ถึงสองอาทิตย์ งานแต่งงานระหว่างสองตระกูลก็จะเกิดขึ้น ในขณะที่สถานการณ์ต่างๆ ยังคงเป็นไปอย่างเรียบร้อย และคนจากทั้งสองตระกูลได้ทยอยเดินทางเข้ามาในประเทศ เพื่อเตรียมเข้าร่วมพิธีที่จะจัดขึ้น มาเฟียหนุ่มเดินมาหยุดอยู่ที่ระเบียงห้องทำงานส่วนตัวภายในเพนท์เฮ้าส์ จุดบุหรี่ขึ้นสูบปลดปล่อยอารมณ์หลังจากผ่านความตึงเครียดมากมายในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา เรื่องสถานที่และแหวนแต่งงานเขาโยนให้คนอยากทำให้มันเกิดขึ้นจัดการ ริคคาโน่จึงสาละวนอยู่กับการเปลี่ยนโรงแรมหกดาวของตนเอง เป็นสถานที่จัดงานแต่งระหว่างสองตระกูลจนแทบไม่ได้พักผ่อน ส่วนราฟาเอลก็บินไปกลับกรุงเทพ-โรม เนื่องจากต้องสะสางงาน และตระเตรียมพิธีรับเข้าตระกูลตามฉบับรูซโซ่ที่จะเกิดขึ้นหลังจากงานแต่งครั้งนี้ คนที่ดูจะชิลกับเรื่องนี้ที่สุดคงหนีไม่พ้นซีลีน สาวยุโรปผม บลอนด์ที่เพิ่งมาเยือนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นครั้งแรก เธอตะเวนเที่ยวสิบเอ็ดประเทศราวกับเป็นอิสรภาพครั้งสุดท้ายในชีวิต และเซนเพิ่งได้ข่าวจากลูกน้อง ว่าเธอเพิ่งกลับเข้าประเทศไทยเมื่อสองวันที่แล้ว