“เอาละ นายไปทำงานเถอะ สืบข้อมูลของเฉินขุยได้แล้วค่อยโทรหานาย!”“ครับหัวหน้า!”หลังฮ่าวอี้วางสาย ก็นั่งยอง ๆ ลงบนพื้นพร้อมหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดตัวหนึ่งนับตั้งแต่มาเป็นบอดี้การ์ดให้เย่มู่มู่ เขาก็มีลางสังหรณ์ว่า ต่อไปเรื่องประหลาดอย่างจู่ ๆ ก็มีคนโผล่ออกมากลางอากาศจะมีเยอะขึ้นทุกวันด้านหลังกำแพงเยื้องเขา หลูซีกำลังลอบมองเขาอยู่ในที่มืด ก่อนจะถอยหลังกลับไปยังห้องจัดเลี้ยงในขณะนี้อาหารมาเสิร์ฟครบแล้ว เหลือสามคนที่ไม่ดื่มเหล้า เหล่าบอดี้การ์ดดื่มกันอย่างสนุกสนานไปแล้วน้อยครั้งที่เย่มู่มู่จะพาหลูซีและหลูหมิงออกมากินอาหารค่ำแน่นอนว่าหวังเสี่ยวเฉิงมาจนคุ้นเคยแล้ว ดื่มเบียร์กับหลูหมิงจนหมดหนึ่งขวดคิดไม่ถึงเลยว่าคอเขาจะอ่อนมาก ยังไม่ได้กินเหล้าขาว เพียงแค่เบียร์ หนึ่งขวดเขาก็ไม่ไหวแล้วหวังเสี่ยวเฉิงตบไหล่หลูหมิง โวยวายถือเป็นพี่เป็นน้องกับเขา“นายนี่คออ่อนชะมัด ยังต้องฝึกอีกเยอะ!”ผ่านไปนานสองนาน ฮ่าวอี้ถึงกลับมาเย่มู่มู่ถามเขา “ไม่มีเรื่องอะไรใช่ไหม?”คิดไม่ถึงเลยว่าฮ่าวอี้จะส่ายศีรษะ แล้วกระซิบบอกเย่มู่มู่ว่า “เราเหมือนจะถูกคนจับตามอง!”หลังจากนั้น เขาก็ล้วงโทรศัพท์ออกมา พบ
ฮ่าวอี้จ้องมองเขา “รายงานอะไรกัน? นายรู้ที่มาที่ไปหรือไง? พวกเขาไม่ได้ขโมย ไม่ได้ปล้น ไม่ได้ขุดสุสาน...”“เป็นของที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ นายอย่าสร้างปัญหา!”หวังเสี่ยวเฉิงเกาศีรษะ “เอาเถอะครับ พี่เซิ่นอันโชคดีจริง ๆ ของเช่นนี้นอกจากนักสะสมส่วนตัวแล้ว ผมเคยเห็นแค่ในพิพิธภัณฑ์เท่านั้น!”แต่ฮ่าวอี้กลับมองไปที่เฉินขุย ตั้งแต่ที่เฉินขุยกับหยางชิงเหอปรากฎตัวอย่างกะทันหัน เมื่อวานนี้คุณหนูเย่ขายวัตถุโบราณออกไปแล้วสองครั้ง เขาสอบถามมูลค่ามาได้จากเซิ่นอันทั้งหมดสองหมื่นกว่าล้านบาทนี่มันสองหมื่นกว่าล้านเชียวนะ!วิธีการให้รางวัลผู้อื่นของเฉินขุยอวดดีเป็นพิเศษ ให้เหรียญทองคำไปเลยตรง ๆเหรียญทองนี้หากประมาณอย่างคร่าว ๆ คงมีมูลค่ากว่าห้าสิบล้าน!วิธีการพูดและพฤติกรรมของเขา เหมือนกับคนที่อยู่ในช่วงก่อนการปลดปล่อยอย่างมากทว่าเมื่อเทียบกับคนที่อยู่ในช่วงก่อนการปลดปล่อยแล้ว มีจิตวิญญาณของนักรบ ร่ำรวยและใจกว้างมากกว่าความเป็นมาของเขาควรค่าแก่การตรวจสอบเมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เขาจึงส่งข้อความหาหัวหน้า “ที่มาที่ไปของเฉินขุยกับหยางชิงเหอ ตรวจสอบพบหรือยังครับ?”หัวหน้าตอบกลับว่า “ยัง!”“หนึ่งวั
เดิมทีพวกเขาวางแผนว่าจะพิชิตหกชนเผ่าใหญ่ภายในครึ่งเดือนแต่เนื่องจากแรงกดดันจากลู่ฉิงยวน ด้วยความโกรธจ้านเฉิงอิ้นจึงจะพิชิตให้ลุล่วงภายในสามวัน!เขาขึ้นขี่ม้าศึก เสื้อคลุมสะบัดพลิ้วอย่างแรงเขานำทหารผ่านศึกของกองทัพตระกูลจ้านจำนวนห้าหมื่นคน เตรียมพร้อมไปปราบชนเผ่ากู่อีที่ลุกขึ้นมาต่อต้าน และสาบานว่าแม้ตายก็จะไม่ยอมจำนนต่อชาวฮั่น! คืนนี้ เขาจะต้องยึดชนเผ่ากู่อีให้ได้!มิเช่นนั้น ก็ไม่มีทางที่จะรวมเผ่าตงหมานได้ภายในสามวัน!*ในตอนเย็น เย่มู่มู่ หลูซี และหลูหมิงไปรับเฉินขุยเมื่อเฉินขุยลงจากทางหลวง ก็มองเห็นกลุ่มของเย่มู่มู่ เขาตื่นเต้นอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ พลางดึงหลูซีและหลูหมิงมาเล่าไม่หยุดถึงสิ่งที่เห็นทั้งหมดบนถนนเขาบอกว่าเห็นหนอนตัวยาว หนอนตัวยาวที่พุ่งทะยานผ่านไป ภายในท้องเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว เขายังบอกอีกว่ามองเห็นคุนเผิงบินอยู่บนฟ้า คุนเผิงที่สามารถขนส่งผู้คนได้เขาบอกว่าพื้นที่ให้บริการขายของโดยไม่ต้องใช้เงิน มือถือสว่างชั่วครู่ ก็หยิบของแล้วไปได้เลยเขาหยิบของแล้วไปเลย!แต่ว่าเซิ่นอันคอยจ่ายเงินอยู่ด้านหลังเขาเซิ่นอันขับรถสิบกว่าชั่วโมง เหนื่อยล้าอย่างมากห
เมื่อเย่มู่มู่มองไปที่กระดาษแผ่นนี้ หางตาก็ชื้นไปด้วยน้ำตาไม่ใช่ว่าเขาไม่เป็นห่วง แต่ไม่อาจช่วยเหลืออันใดได้หกเผ่าใหญ่ของเผ่าตงหมานยังไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ ต้องเปิดคูระบายน้ำ ให้อาหารม้าและปศุสัตว์ และสอนปศุกรปลูกหญ้า...เขายุ่งยิ่งนัก!เผ่าหมานมีคนทรยศอยู่มากมาย ชนเผ่าปาเอ่อร์กับชนเผ่าอูคู่ถูกพิชิตได้อย่างราบรื่นเช่นนี้ เป็นสิ่งที่พวกเขาได้มาอย่างง่ายดายโดยไม่เปลืองแรงการขยายอาณาเขตต่อไป อาจเป็นการต่อสู้ที่ลำบากอย่างต่อเนื่องไม่มีข่าวคราวจากแคว้นเยี่ยน เกรงว่าเซี่ยเวยจะกบฏแล้ว!ไม่มีข่าวจากหลี่หยวนจงที่อยู่ในแคว้นฉู่ส่งมา หวังว่าเขาจะยังมีชีวิตอยู่!เย่มู่มู่เขียนตอบกลับไปบนกระดาษ “ไม่ต้องเป็นห่วง ฉันไม่เป็นไรหรอกค่ะ!”“พรุ่งนี้ตอนเที่ยงคืน เกราะกันกระสุนสามแสนชุด ชุดเกราะสามแสนชุด ดาบม่อเตาสองแสนเล่ม ดาบเหิงเตาราชวงศ์ถังสองแสนเล่ม...จะมาถึง ตรวจสอบด้วยนะคะ!”หลังจากที่เธอใส่กระดาษลงไปแล้ว ก็มีเสียงกระทบอันแผ่วเบามาจากแจกันเย่มู่มู่กล่าวถาม “จ้านเฉิงอิ้น?”เสียงที่ชัดเจนของจ้านเฉิงอิ้นแว่วมา “ข้าอยู่นี่~ท่านเทพ ท่านสบายดีหรือไม่ขอรับ?”“เรียกประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่
หน้าตาหล่อเหลา ฐานะสูงส่ง มีทรัพย์สินมหาศาลเอาใจใส่ช่วยเหลือเธออยู่เงียบ ๆ โดยไม่เรียกร้องสิ่งตอบแทนเขาเป็นแบบอย่างของพระเอกที่สมบูรณ์แบบในนิยายโรแมนติกเย่มู่มู่ก็เคยมีช่วงเวลาที่หวั่นไหวไปชั่วขณะเช่นกันเมื่อสูญเสียลู่ฉิงยวน เธอหาคู่แต่งงานที่ดีกว่านี้ไม่ได้แล้วจริง ๆ!เพียงแต่ว่า เธอไม่อาจตัดสินใจแต่งงานและสร้างครอบครัวกับลู่ฉิงยวนได้เมื่อเทียบกับการเป็นผู้หญิงที่ถูกเขาเอาอกเอาใจแล้ว~บางทีการสนับสนุนจ้านเฉิงอิ้นขึ้นสู่บัลลังก์ รวบรวมแผ่นดินเป็นหนึ่ง...อาจรู้สึกถึงความสำเร็จและรู้สึกว่าเป็นโชคชะตาเสียยิ่งกว่าก็ได้ไม่ใช่ไม่หวั่นไหว~แต่เมื่อเทียบกับชีวิตเดิม ๆ ที่ไม่มีความเปลี่ยนแปลงและเป็นไปตามระเบียบแบบแผนแล้วการเลี้ยงดูแม่ทัพใหญ่ผู้หนึ่งที่จะพิชิตใต้หล้า สนับสนุนกองทัพเพื่อเก็บกวาดหัวเซี่ย ขยายอาณาเขต และช่วงชิงอำนาจในดินแดนภาคกลาง!มันน่าตื่นเต้นและทำให้เลือดลมพลุ่งพล่านยิ่งกว่าเธอกล่าวกับเหวินเหลียนเยว่ว่า “ฉันจะไม่แต่งงานกับเขาค่ะ!”“บางที การตัดสินใจแบบนี้อาจจะใจร้อนเกินไป พออายุสามสิบสี่สิบปีอาจจะรู้สึกเสียใจภายหลัง!”“แต่ว่าตอนนี้ฉันเพิ่งจะอายุยี่สิบ เป็น
บ้านพักตากอากาศเซียนหยวนลู่ฉิงยวนนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้พยูง กำลังดูหน้าจอถ่ายทอดสดสถานที่เกิดเหตุ ริมฝีปากบางแย้มยิ้มเล็กน้อยจัดการจนเรียบร้อยแล้วสินะ!เขามองดูภาพหลูซีทะยานออกมาจากฝูงชน และเตะคนสิบกว่าคนที่ยืนอยู่บนฐานธงลงมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าเขากับหลูหมิงไม่เหมือนนักรบที่เติบโตมาในยุคสมัยปัจจุบัน!ลู่ชิงยวนไม่สามารถสืบหาเบื้องลึกเบื้องหลังของบอดี้การ์ดทั้งสองคนของเธอได้กลับเป็นฮ่าวอี้ หวังเสี่ยวเฉิง สวีเฟิง หงเหว่ยและคนอื่น ๆ ที่ล้วนมาจากกองกำลังตำรวจติดอาวุธที่ปลดประจำการฮ่าวอี้ถึงขั้นที่ครั้งหนึ่งเคยได้แชมป์การต่อสู้ด้วยมือเปล่าในการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ภายในหน่วยงานด้วย!สามารถเชิญคนแบบนี้มาเป็นบอดี้การ์ดได้ เย่มู่มู่จะต้องเป็นคนที่มีเส้นมีสายอย่างแน่นอนลู่ชิงยวนปิดแท็บเล็ต จากนั้นก็เหลือบมองไปที่เลขาซูเหลียงซูเหลียงกล่าวอย่างนอบน้อมว่า “ประธานลู่ เมื่อครู่ผู้ถือหุ้นจำนวนสิบกว่าคนต่างก็ต้องการจะขายหุ้น ให้ซื้อเอาไว้ทั้งหมดไหมครับ?”“คุณลองคำนวณดูว่าหากซื้อหุ้นที่อยู่ในมือพวกเขา จะครอบครองหุ้นทั้งหมดกี่เปอร์เซ็นต์”“ครับ!”“ตอนเที่ยงนัดเย่มู่มู่มาทานอาหารกลางวันที่บ้าน