~~ แต๋น แต๋น แต๋น ~~
รถอีแต๋นถูกขับเข้ามาจอดยังลานจอดรถบริเวณหน้าบ้านทรงไทยหลังใหญ่ ก่อนที่สองแม่ลูกจะเดินลงมาหยุดยืนอยู่ที่ท้ายรถของตัวเอง พร้อมกับเอ่ยบอกกับทั้งสามคนตรงหน้าออกไปด้วยน้ำเสียงที่สดใส
“ถึงแล้วจ้ะ...”
พอลเดินตามสองคนแม่ลูกเข้าไปภายในบ้านทรงไทยอย่างไม่วางใจ แต่เขาไม่ได้มีทางเลือกมากนักจะให้ลูกกับเมียของเขารออยู่ในรถที่จอดท่ามกลางสายฝนไปจนถึงเช้าก็คงจะไม่ปลอดภัย
“เชิญตามสบาย ขาดเหลืออะไรก็บอกน้ำหนึ่งได้เลยไม่ต้องเกรงใจ” แม้นเอ่ยบอกกับทั้ง 3 คนตรงหน้า ก่อนที่เธอจะเดินไปนั่งยังแคร่ไผ่ที่ประจำของเธอ
“เดี๋ยวหนูไปเอาเสื้อผ้ามาให้เปลี่ยนนะจ๊ะ”
“ขอบคุณค่ะ” แมรี่เอ่ยบอกกับหญิงสาวตรงหน้ากลับไปอย่างนอบน้อม ก่อนที่เธอจะอุ้มลูกชายวัย 5 ขวบเศษไปนั่งลงยังแคร่ไม้ใกล้ๆ กับแม้น ท่าทางที่เป็นมิตรของพวกเธอทำให้แมรี่รู้สึกสบายใจอย่างน่าประหลาด ถึงจะพึ่งเคยพบกันเป็นครั้งแรก แต่เธอกลับรู้สึกคุ้นเคยกับทั้งสองคนอย่างบอกไม่ถูก
“พี่แม้นอยู่กับหนึ่งสองคนเหรอคะ?” แมรี่เอ่ยถามหญิงสาวตรงหน้าออกไปด้วยความสงสัย ตั้งแต่เธอมาถึงที่นี่นอกจาก 2 คนแม่ลูกแล้วเธอก็ไม่พบใครอีก
แมรี่รู้สึกประหลาดใจตรงที่บ้านหลังใหญ่ขนาดนี้แต่กลับมีเพียงหญิงสาวอยู่ด้วยกัน 2 คนเท่านั้น
เรือนไทยหลังนี้ถูกรายล้อมไปด้วยทุ่งนาสุดลูกหูลูกตา มองไปไกลๆ ถึงจะเห็นแสงไฟเป็นระยะ ทำให้รู้ว่าไม่ใกล้ไม่ไกลยังมีบ้านของชาวบ้านคนอื่นอาศัยอยู่ ถึงจะไม่ได้อยู่ติดกันอย่างกับบ้านเรือนในกรุงเทพก็ตาม
“ใช่แล้วล่ะ เรามีกันแค่สองคนแม่ลูก”
“อะ อ่อ...”
“พวกนี้คืออะไรเหรอครับ?” เสียงหมอพอลดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง ในขณะที่ตาคมยังคงจับจ้องไปยังกระด้งไม้ไผ่ตรงหน้านิ่งๆ ก่อนที่เข้าจะเอ่ยถามเจ้าของบ้านออกมาด้วยความสงสัย
“เขาเรียกว่าสมุนไพร ตรงหน้าของคุณเขาเรียกว่าเมล็ดมะรุม”
“มีไว้รักรักษาโรคอะไรครับ?”
“รักษาโรคปวดตามข้อ โรคเก๊า เวลากินต้องเคี้ยวเมล็ดให้แตก หรือจะตำให้แหลกก็ได้”
“รักษาได้จริงเหรอครับ?”
หมอพอลเอ่ยถามหญิงสาวตรงหน้าออกไปอีกครั้ง เขาทำอาชีพหมอมาหลายปีนี่ถือเป็นครั้งแรกเลยที่เขาได้เห็น และได้สัมผัสกับสิ่งที่เรียกว่าสมุนไพรของจริงแบบนี้
ตั้งแต่เขาจำความได้เขาก็ถูกย้ายไปอยู่ที่ประเทศอังกฤษแล้ว เขาไม่เคยมีเพื่อนเป็นคนไทยมาก่อน จนกระทั่งครอบครัวของเขาย้ายกลับมาประเทศไทย อย่างว่าแต่เรื่องของสมุนไพรเลย แม้แต่ภูมิปัญญา หรือวัฒนธรรมไทยเขายังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ
“คนที่มารักษา...เขาก็หายกันนะ” แม้นวางสมุนไพรในมือลงก่อนจะเอ่ยบอกกับร่างสูงตรงหน้ากลับไป
“ผมอยากเรียนรู้ครับ” ด้วยนิสัยอยากรู้อยากลองชายหนุ่มจึงเอ่ยบอกกับพี่สาวตรงหน้ากลับไปเสียงดังฟังชัด พร้อมกับเดินมาหยุดอยู่ที่แคร่ไม้ไผ่ข้างภรรยาสาวของเขา มือหนาลูบลงที่ไหล่มนของเมียรักอย่างอ่อนโยน
“ไปอาบน้ำอาบท่ากันเสียก่อนเถอะ แล้วถ้าอยากรู้อะไรเดี๋ยวฉันจะบอกให้”
“เสื้อผ้ามาแล้วจ้ะ”
“ขอบคุณครับ / ขอบคุณครับ / ขอบคุณค่ะ” ทั้งสามคนพ่อแม่ลูกเอ่ยขอบคุณหญิงสาวตรงหน้ากลับไปอย่างนอบน้อม ก่อนจะรับเสื้อผ้ามาถือเอาไว้
“พี่พอลอาบห้องน้ำข้างล่างก็ได้นะคะ”
“ครับ”
“ส่วนพี่แมรี่กับน้องเพิร์ชเดี๋ยวหนึ่งพาขึ้นไปอาบด้านบนค่ะ”
“ไปค่ะ”
-บนบ้านทรงไทย-
“เพิร์ชโตแล้วขออาบน้ำเองนะครับ” เพิร์ชเอ่ยบอกกับมารดาที่ยืนอยู่ไม่ไกล แต่สายตาของเด็กชายกลับมองเลยไปด้านหลังไม่ได้สนใจคุณแม่ที่ยืนอยู่ตรงหน้าของเขาเลยสักนิด มือน้อยยกขึ้นมาโบกเบาๆ สร้างความสงสัยให้กับแมรี่เป็นอย่างมาก...
“มองอะไรเหรอครับ?” แมรี่เอ่ยถามลูกชายออกมาด้วยความสงสัย พร้อมกับหันไปมองตามสายตาของเด็กชาย ก่อนที่คิ้วเรียวจะขมวดเข้าหากันเล็กน้อยอย่างไม่เข้าใจ ‘เธอไม่เห็นใครเลยสักคน แล้วลูกชายของเธอยิ้มและโบกมือให้ใครกัน...?’
“ครับ? เพิร์ชเข้าไปอาบน้ำก่อนนะครับแม่”
“คะ ครับ”
เพิร์ชเดินเข้าไปในห้องน้ำตรงหน้า ก่อนที่เด็กชายจะจัดการอาบน้ำล้างเนื้อล้างตัวของตัวเองโดยที่มีแม่และพี่น้ำหนึ่งยืนคอยอยู่ที่หน้าประตูห้องน้ำอย่างไม่ยอมห่างไปไหน
10 นาทีผ่านไป...
“ต่อไปตาคุณแม่แล้วครับ”
“นั่งรอแม่อยู่ตรงนี้ก่อนนะคะ เดี๋ยวพี่น้ำหนึ่งก็กลับมาแล้วค่ะ”
“ครับ”
เพิร์ชยกยิ้มออกมาก่อนที่เด็กชายจะเดินไปยังแคร่ไม้ไผ่ที่ตั้งอยู่ไม่ไกล ก่อนที่มือน้อยๆ ทั้งสองข้างของเขาจะถูกยกขึ้นมาไหว้คนตรงหน้าอย่างนอบน้อม
“สวัสดีครับ...พี่ชายมายืนทำอะไรกันตรงนี้เหรอครับ?” เพิร์ชเอ่ยถามเด็กชายทั้งสองคนที่แต่งตัวแปลกๆ ออกไปเสียงอ่อน
‘พวกข้าก็มาเฝ้าเองน่ะสิวะ’
“เฝ้าผม...?” เพิร์ชชี้มาที่ตัวเองก่อนจะพึมพำออกมาอีกครั้งอย่างไม่เข้าใจในสิ่งที่เด็กชายตรงหน้าพูดออกมา
‘.../...’ ทั้งสองพยักหน้าเบาๆ เพื่อเป็นคำตอบให้กับเพิร์ช ก่อนที่ทั้งคู่จะขยับออกห่างจากกันเพื่อให้เพิร์ชนั่งลงตรงกลางได้สะดวก เด็กชายในวัย 5 ขวบยกยิ้มออกมาก่อนจะเดินไปนั่งยังที่ว่างอย่างว่าง่าย
“อ่อ ผมชื่อเพิร์ชนะครับ พวกพี่ชื่ออะไรกันบ้างเหรอ?”
‘ข้าชื่อใบเงิน’
‘ส่วนข้าชื่อใบทอง’
“ชื่อแปลกจัง แต่ก็เพราะดีนะครับ...”
‘.../...’
“ว่าแต่พวกพี่ไม่ใส่เสื้อไม่หนาวเหรอครับ วันนี้ฝนตกอากาศหนาวมากเลยนะครับ ดูสิขนเพิร์ชลุกด้วยนะ”
“เพิร์ชแบ่งเสื้อให้นะครับ”
‘หึหึ’
‘เองเก็บไว้ใส่เถอะ พวกข้าไม่หนาวหรอก’
‘ดีนะที่พ่อของเองตัดสินใจมาอยู่ที่นี่’ ใบเงินพูดขึ้นก่อนที่มือของเขาจะลูบลงที่หัวของเด็กชายตรงหน้าอย่างเอ็นดู
“ทำไมเหรอครับ?”
‘บ๊ะไอ้เด็กนี่!! ถ้าไม่ได้พวกข้าช่วยเอาไว้ ป่านี่...’
‘พอแล้วไอ้ทอง พูดไปเด็กมันก็ไม่เข้าใจเหรอ’ ใบเงินเอ็ดเพื่อนรักของตัวเองเบาๆ ก่อนที่ทั้งคู่จะมองไปยังเด็กชายที่นั่งอยู่ตรงหน้าเป็นตาเดียว
“เพิร์ชเข้าใจนะครับ”
‘หึหึ ต้องฉลาดแบบนี้สิวะหลานเขยกู’ ใบทองหัวเราะออกมาอย่างพอใจ ก่อนจะหันไปยักคิ้วเล่นหูเล่นตากับใบเงินเพื่อนรักของเขาที่นั่งอยู่ไม่ไกล
“หลานเขยหมายถึงอะไรเหรอครับ?”
‘ก็หมายถึง...’
‘พอๆ เองยังเด็กยังไม่ต้องรีบเข้าใจตอนนี้หรอก’ ใบเงินยกมือของมาห้ามเพื่อนของตัวเองเอาไว้ ก่อนจะหันกลับมาเอ่ยบอกกับเด็กชายตรงหน้าอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเอ็นดู
“ครับ”
‘พวกข้าไปก่อนนะ’
“ครับ?”
“เพิร์ช!! นั่งคุยกับใครอยู่ครับ?” แมรี่เดินออกมาจากห้องน้ำก่อนที่เธอจะเอ่ยถามลูกชายออกมาด้วยความสงสัย ตั้งแต่เธอเดินเข้าไปในห้องน้ำเธอก็ได้ยินเสียงลูกชายพูดคุยกับใครสักคน แต่เธอไม่ได้ยินเสียงของอีกฝ่าย
“อ่อ เพิร์ชคุย...อ้าวไปไหนแล้ว” เพิร์ชกำลังจะแนะนำพี่ชายทั้งสองคนให้กับคุณแม่ของเขาได้รู้จัก แต่พอเขาหันกลับมาอีกทีเขาก็ไม่เจอใครเสียแล้ว
“เราลงไปหาคุณพ่อกันดีกว่านะครับ”
“ครับ ว่าแต่พี่หนึ่งไปไหนเหรอครับคุณแม่?”
“พี่น้ำหนึ่งไปเตรียมห้องพักให้กับพวกเราน่ะครับ”
“อ่อ”
“ไปกัน”
“ครับ”
เช้าวันต่อมา...
“ขอบคุณมากนะครับ นี่ถือว่าเป็นน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ สำหรับที่พัก อาหาร และความรู้เรื่องสมุนไพรครับ” พอลเดินเข้ามาหาแม้นและน้ำหนึ่งก่อนจะยื่นซองสีขาวให้กับทั้งสองคนตรงหน้า
“ไม่ต้องให้อะไรพวกเราหรอกจ๊ะ พวกเราเต็มใจช่วย” น้ำหนึ่งเอ่ยบอกกับร่างสูงตรงหน้าเสียงใส พร้อมกับส่งยิ้มหวานออกมาให้กับทั้งสามคน
“แต่ว่า...”
“อย่าคิดมากในสักวันหนึ่งพวกเราคงมีโอกาสได้พบกันอีก”
“ก่อนเด็กคนนี้จะอายุครบ 37 ปี จะเกิดเคราะห์ใหญ่มีทางเดียวที่จะช่วยได้ก็คือ...(ต้องแต่งงานกับหลานสาวของฉัน) หลานสาวของพี่”
“ครับ? / คะ?” พอลและแมรี่ร้องออกมาอย่างไม่เข้าใจในสิ่งที่ตัวเองพึ่งจะได้ยิน
“หลานสาวของพี่แม้นจะช่วยเพิร์ชได้เหรอคะ แต่ว่า...” แมรี่เอ่ยขึ้นมาด้วยความสงสัย ตอนนี้น้ำหนึ่งพึ่งจะอายุ 18 ปี เธอยังไม่มีแฟนเลยด้วยซ้ำ แล้วทำไมพี่แม้นถึงได้มั่นใจว่าเธอจะได้หลานสาว และหลานสาวของเธอจะช่วยเหลือลูกชายของเธอในวัย 37 ได้
“หึหึ รีบไปเถอะคุณหมอมีอีกหลายชีวิตที่กำลังรอคุณอยู่” แม้นเอ่ยบอกกับร่างสูงตรงหน้าเสียงอ่อน พร้อมกับเดินเข้าไปลูบลงที่หัวน้อยๆ ของเด็กชายอย่างเอ็นดู
“อยู่เย็นเป็นสุขนะลูก...ในอนาคตมือของหนูคู่นี้จะได้ช่วยเหลือคนอีกเยอะเลย”
“ครับคุณป้า”
“ถ้าอย่างนั้นผมขอฝากสิ่งนี้ไว้นะครับ ไม่ว่าพี่แม้นกับน้ำหนึ่งจะมีเรื่องอะไรให้พวกเราช่วยส่งจดหมายมาตามที่อยู่นี้นะครับ”
“ไม่ต้องเกรงใจนะครับ” แมรี่เอ่ยสมทบสามีของตัวเองด้วยอีกคน ก่อนที่ทั้งสามคนจะเอ่ยร่ำลา และเดินทางไปยังที่หมายของพวกเขาในทันทีด้วยรถหรูที่ทางโรงพยาบาลของเขาส่งมารับ
9 ปีต่อมา... “น้ำฟ้าพร้อมนะ”“พร้อมค่ะ” น้ำฟ้าในวัย 8 ขวบเอ่ยบอกกับเพื่อนของเธอในวัยเดียวกันเสียงอ่อน ก่อนที่เด็กสาวทั้งสองคนจะพากันกระโดดลงมาจากชิงช้า ด้วยความเป็นเธอโตมากับพี่ๆ ที่เป็นผู้ชาย ทำให้เด็กหญิงน้ำฟ้าดูแก่นแก้วกว่าเด็กสาวในวัยเดี๋ยวกัน“อะ โอ้ยยยย!!!”“บันนี่!!!” น้ำฟ้าร้องเรียกเพื่อนของเธอออกมาด้วยความตกใจ ก่อนที่เธอจะรีบวิ่งเข้าไปดูเพื่อนรักในทันที“เราขอดูหน่อยนะ” มือบางนวดข้อเท้าของเพื่อนตัวเองเบาๆ ก่อนที่เด็กหญิงจะเปิดกระเป๋าและหยิบยาขึ้นมาทาให้กับคนตรงหน้าอย่างเบามือ คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเล็กน้อยก่อนที่น้ำฟ้าจะลุกวิ่งออกไปทางโรงอาหารที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล“น้ำฟ้า”“ไปไหนมาเหรอ?”“ไปทำที่ประคบเย็นมาน่ะ น่าจะช่วยแก้ปวดได้ดีกว่า”“เราประคบเย็นให้แล้วอาจจะช่วยบันนี่เบาปวดลงได้บ้าง กลับบ้านไปพยายามอย่าให้บริเวณที่เจ็บโดนความร้อนนะ”“ทำไมละ?” บันนี่เอ่ยถามน้ำฟ้าออกมาด้วยความสงสัย ก่อนที่เธอจะมองไปที่เพื่อนรักอย่างรอคำตอบ“ถ้าเส้นเลือดบริเวณนี้ขยายตัวมันจะทำให้บันนี่ปวดและก็จะหายช้าลงด้วย” น้ำฟ้าอธิบายให้เพื่อนของเธอฟังอย่างใจเย็น ก่อนที่เธอจะเก็บอุปกรณ์ลงกระเป๋าเป้ของตัว
“พี่เพิร์ชจะรีบไปไหนคะ?” น้ำมนต์เอ่ยถามชายหนุ่มออกมาด้วยความสงสัย ก่อนที่เขาจะวางร่างบางของเธอลงบนเตียงอย่างเบามือ“รีบตามไอ้ฮันเตอร์ครับ”“พี่ฮันเตอร์ทำไมคะ?”“ไอ้ฮันเตอร์มันลูก 4 แล้วนะครับเราต้องรีบตามไป” เพิร์ชยกยิ้มออกมาก่อนที่เขาจะ กระโดดขึ้นไปคล่อมร่างบางของคนรักเอาไว้ในทันที ชายหนุ่มค่อยๆ โน้มใบหน้าหล่อเหลาของเขาลงใกล้กับใบหน้าของหญิงสาว...“เดี๋ยวค่ะ...”“ครับ?”“หนูขออาบน้ำก่อนได้ไหมคะ?”“หึหึ ได้สิครับ” เพิร์ชหัวเราะออกมาเบาๆ อย่างรู้ทันในความคิดของของร่างบางตรงหน้า ก่อนที่ชายหนุ่มจะหลบทางเพื่อให้เธอลุกขึ้นไปอาบน้ำได้สะดวกยิ่งขึ้น“ขอบคุณค่ะ”“ต้องการผู้ช่วยถอดชุดไหมครับ?”“ขอบคุณค่ะ แต่ไม่ดีกว่าหนูไม่อยากรบกวนพี่เพิร์ช”น้ำมนต์ถอดชุดเดรสของตัวเองออกจากร่างบางของตัวเองต่อหน้าหมอเพิร์ช ก่อนที่เธอจะเดินเข้าห้องน้ำไปหญิงสาวหันกลับมามองชายหนุ่ม พร้อมกับยกยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา“หึหึ”“...” น้ำมนต์เดินเข้าไปในห้องน้ำ ก่อนที่เธอจะหยุดยืนอยู่ที่หน้ากระจกเงา หญิงสาวมองไปยังนิ้วนางข้างซ้ายของตัวเองก่อนที่เธอจะเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าของตัวเองที่ถูกแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้มหวานอีกครั้ง“ไม่อยา
ณ บ้านพักตากอากาศปราณบุรี“พวกเราจะใส่ได้จริงๆ เหรอ?” ตะวันที่นั่งเงียบดูน้ำมนต์กับชูใจลองชุดอยู่นานเอ่ยถามขึ้น พร้อมกับมองชุดบิกินี่สีชมพูบานเย็นในมือของตัวเองอย่างหนักใจ ตะวันจำได้ดีว่าครั้งล่าสุดที่เธอใส่บิกินี่โดยที่ไม่ได้รับอนุญาตจากสามีของเธอมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง“ใส่ได้ค่ะ เชื่อชูใจสิพี่ตะวัน”“จริงด้วยค่ะ มีแต่พวกเราพี่ฮันเตอร์ไม่ว่าอะไรหรอกค่ะ”“เอางั้นก็ได้จ้ะ” ตะวันเอ่ยบอกกับน้องๆ ก่อนที่เธอจะเดินไปเปลี่ยนชุดในห้องน้ำทันที“ถ้าไม่มีผ้าก๊อซปิดแผลคงจะสวยกว่านี้นะคะ” น้ำมนต์มองตัวเองในกระจกก่อนที่เธอจะยู่หน้าขึ้นมาเล็กน้อย ทันทีที่เห็นผ้าก๊อซแปะอยู่บนหน้าผากของเธอ“ไหนพี่ขอดูหน่อยสิ” ชูใจเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าของน้ำมนต์ ก่อนที่มือบางจะประคองปลายคางของหญิงสาวพร้อมกับหมุนไปทางซ้ายทีขวาทีเพื่อดูความเรียบร้อยให้กับคนตรงหน้า“เป็นไงบ้างค่ะ?”“ไม่ว่ามุมไหนน้ำมนต์ก็สวย เดี๋ยวตอนถ่ายรูปถ่ายมุมนี้นะพี่รับรองความปัง”“ค่ะ”“แล้วบิกินี่สีฟ้าแบบนี้เข้ากับหนูไหมคะพี่ชูใจ?”“สวยมากค่ะลูกสาว” ชูใจเอ่ยบอกกับน้ำมนต์เสียงหวาน พร้อมกับมองเงาสะท้อนของตัวเองในกระจกอย่างช่างใจ บิกินี่สีส้มแบบนี้ยิ
ณ โรงพยาบาลเอกชน“ไอ้เพิร์ช / ไอ้เพิร์ช” เสียงของฮันเตอร์กับสกายร้องเรียกเพิร์ชรักของเขาออกมาเสียงหลง ก่อนที่ทั้งคู่จะวิ่งมาหาชายหนุ่มอย่างร้อนใจสกายจับตัวเพิร์ชหมุนไปมาเพื่อสำรวจความเรียบร้อย จนชายหนุ่มที่พึ่งประสบอุบัติเหตุมาได้ไม่นานเวียนหัวไปหมด แต่เพิร์ชก็ไม่ได้คิดจะห้ามปรามอะไรเพราะเขารู้ดีว่าเพื่อนรักเป็นห่วงเขามาก และที่สำคัญเขามีคนให้ต้องสนใจมากกว่า ‘น้ำมนต์’“น้ำมนต์ล่ะคะ?” ตะวันที่ยืนเงียบอยู่นานเอ่ยถามขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง ทันทีที่ทุกคนรู้ว่าหมอเพิร์ชกับน้ำมนต์ประสบอุบัติเหตุก็รีบพากันมาที่โรงพยาบาลในทันที โดยมีชูใจคอยดูแลเด็กๆ อยู่ที่บ้านพัก...“อยู่ในห้องฉุกเฉินครับ”“น้องเป็นยังไงบ้าง?” ฮันเตอร์เอ่ยถามขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง ก่อนที่เขาจะเดินเข้าไปตบไหล่แกร่งของเพื่อนรักเพื่อปลอบใจเพิร์ช สกาย และฮันเตอร์เป็นเพื่อนกันมานานแค่มองตาก็รู้ใจแล้ว ถึงบุคลิกของเพิร์ชจะดูเป็นคนขรึมๆ ไม่ค่อยแสดงความรู้สึกกับใครทั้งนั้น แต่ครั้งนี้มันต่างไปเพิร์ชที่เก็บสีหน้าเก่งมาตลอดกลับแสดงความกังวลออกมาอย่างเห็นได้ชัด“ยังไม่ออกมาเลยว่ะ”“...”“กูเคยคิดว่าตัวเองเป็นหมอที่เก่งช่วยคนมาได้ไม่รู้
วันต่อมา...“แม่รักลูกนะ“หนูก็รักแม่ค่ะ”น้ำหนึ่งกอดลูกสาวเพียงคนเดียวของเธอไว้แน่น มือบางลูบลงที่หัวน้อยๆ ของเด็กสาวตรงหน้าอย่างทะนุถนอม ก่อนที่ทั้งคู่จะคลายอ้อมกอดออกจากกัน หญิงสาวจึงเดินเข้าไปกอดยายของเธอที่ยืนอยู่ไม่ได้“อยู่กับพี่เขาก็อย่าดื้อ ตั้งใจเรียนนะลูก จุ๊บ~” ยายแม้นเอ่ยบอกกับร่างบางเสียงอ่อนพร้อมกับจุ๊บลงที่หน้าผากหลานสาวอย่างอ่อนโยน“จ้ะยาย”“เดินทางปลอดภัยนะลูก” นทีกอดตอบลูกสาวตัวน้องของเขา มือหนาลูบลงที่หัวของเธออย่างอ่อนโยน ก่อนที่เขาจะกระซิบเบาๆ ที่ข้างหนูของเธอเพื่อให้รู้กันเพียงแค่ 2 คนเท่านั้น“ถ้าหนูอยากจะหนีก็โทรบอกมาหาพ่อ พ่อจะรีบไปพาลูกหนีได้ทุกเวลาที่หนูต้องการ เข้าใจไหมยัยหนูน้อยของพ่อ...?”“เข้าใจแล้วค่ะ”“หรือถ้าหนูอยู่แล้วไม่มีความสุขก็กลับมาบ้านเรานะลูก พ่อจะรออยู่ที่บ้านเสมอ”“จ้ะพ่อ” น้ำมนต์ยกยิ้มออกมาพร้อมกับพยักหน้าให้กับบิดาของเธอเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะเดินไปยืนอยู่ข้างกายของหมอเพิร์ช“พวกเราลาครับ สวัสดีครับ / สวัสดีค่ะ”น้ำมนต์โบกมือลาพร้อมกับส่งยิ้มหวานไปให้กับทุกคน ก่อนที่หญิงสาวจะหันไปร่ำลากุมารน้อยทั้งสองตนเสียงอ่อน ครั้งนี้พวกเขาไม่ได้ตามกลับ
“ตรงนี้เงียบดีนะครับ” เพิร์ชเอ่ยขึ้นมาก่อนที่ชายหนุ่มจะจูงมือบางให้เดินตามเขาขึ้นไปยังศาลากลางน้ำ ดอกบัวชมพูที่บานสะพรั่งอยู่ในสระน้ำตรงหน้ายิ่งมองดูยิ่งน่าหลงไหล“ลมเย็นดีด้วยนะคะ” น้ำมนต์เดินไปนั่งลงบนม้านั่งพร้อมกับทอดสายตามองไปที่สระน้ำเบื้องหน้า“ครับ อากาศน่านอนจริงๆ” เพิร์ชเอ่ยบอกกับร่างบางเสียงอ่อน ก่อนที่เขาจะทิ้งตัวลงนอนหนุนตักของเธอ ชายหนุ่มดึงมือบางไปกุมเอาไว้ที่อกแกร่งของเขา พร้อมกับนิ้วเรียวลูบลงที่หลังมือบางของเธอเบาๆ“พี่เพิร์ชเก่งมากเลยนะคะเข้ากับที่บ้านของหนูได้เป็นอย่างดีเลย”“ก็พี่รักลูกสาวเขานี่ครับ พี่ก็ต้องทำให้พวกเขารักและไว้ใจพี่” มุมปากของชายหนุ่มยกยิ้มหวานออกมาพร้อมกับเอ่ยบอกกับเธอออกไปเสียงอ่อน“หนูรักพี่เพิร์ชนะคะ”จุ๊บ!!!“พี่ก็รักหนูครับ” ริมฝีปากหนาจุ๊บลงที่หลังมือของหญิงสาวอย่างอ่อนโยน ก่อนที่เขาจะเอ่ยบอกกับคำรักกับเธอออกไป‘น่าอิจฉาคนมีความรักจริงๆ โวย’‘เออวะ กลางนาก็ยังไม่เว้น’เสียงของใบเงินกับใบทองดังขึ้นมาจากด้านหลังของต้นไม้ใหญ่ ก่อนที่ร่างของกุมารน้อยทั้งสองตนจะค่อยๆ ปรากฏขึ้นมา แต่ถึงอย่างนั้นชายหนุ่มก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะลุกออกจากตักของหญิงสา