‘พะพาย’ หญิงสาวตากลมโต ผมดำยาวสวยถึงกลางหลัง พร้อมเรือนร่างเพียวบาง ผิวขาวละเอียด ต้องจากบ้านนอกที่อยู่เหนือสุดในประเทศไทยเข้าเมืองกรุงเพื่อมาเรียนต่อในมหาวิทยาลัยชื่อดัง เพื่ออนาคตที่สดใสของเธอและครอบครัว เธออาศัยอยู่อพาร์ทเม้นท์เก่าๆ แห่งหนึ่งในย่านมหาวิทยาลัยที่เธอมาเรียน
ตอนนี้เธอก็เรียนจบปีหนึ่งเรียบร้อยแล้ว กำลังจะขึ้นปีสองในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ช่วงนี้เป็นวันหยุดยาวของเธอ จึงได้ทำงานพาร์ทไทม์ของเธออย่างเต็มที่ เดิมแล้วเธอทำงานอยู่ในร้านกาแฟแห่งหนึ่งใกล้กับมหาวิทยาลัย หลังจากที่ได้หยุดยาวช่วงปิดเทอมเธอจึงได้ทำอาชีพเสริมเป็นเด็กเสิร์ฟที่ผับชื่อดังในย่านนั้นเช่นเดียวกัน
กลางวันเธอจะทำงานงานร้านกาแฟตั้งแต่แปดโมงถึงห้าโมงเย็นและหลังจากนั้นช่วงหนึ่งทุ่มถึงเที่ยงคืนเธอจะต้องทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟในผับ ถึงเธอจะไม่ชอบงานในผับแต่เธอก็ยังต้องทำเพราะรายได้แต่วันนั้นสามารถทำให้เธอสามารถซึ้ออาหารมื้อประหยัดได้หลายมื้อ ตลอดเวลาช่วงสามเดือนนี้ เธอจะกลับบ้านไปหาพ่อและแม่ แต่ก็ตัดสินใจบอกท่านทั้งสองว่าจะไม่กลับเพราะอยากเก็บเงินสักก้อนเผื่อเวลาฉุกเฉินไว้และจะได้มีเงินเก็บในอนาคต แต่ก็ยังโอนเงินจำนวนหนึ่งส่งที่บ้านให้ใช้ยามเวลาขัดสนเช่นเดียวกัน
นี่ก็เป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์แล้วที่เธอมาทำงานที่ผับแห่งนี้ การทำงานเธอค่อนข้างจะราบรื่นไปด้วยดี เพราะผู้จัดการสาวสองนั้นคอยดูแลเธอและสอนงานเธอ ติดแต่เพียงแต่พวกคนรวยเวลาที่เสิร์ฟจะชอบแต่งเนื้อต้องตัวเธอแต่เขาเพียงจะหยอกล้อกับเธอเท่านั้น เธอจึงไม่ได้หวงตัวอะไรมากถ้ามันไม่มากเกินไปเธอ เธอก็จะปล่อยผ่าน เพราะงานนี้เธอทำใจไว้แล้วว่ามันจะต้องมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น
และนี่ก็เป็นอีกวันที่เธอต้องมาทำงานเฉกเช่นเดิม
“สวัสดีค่ะ เจ๊ลิลลี่ พะพายมาเข้างานแล้วค่ะ” เธอกล่าวทักทายผู้จัดการสาวสองของเธออย่างเป็นกันเอง
“สวัสดีจ้ะ สาวน้อยพะพาย ทำไมวันนี้เข้างานเร็วจัง??”
“วันนี้รถไม่ติดค่ะ พะพายเลยมาถึงเร็ว” เธอจะต้องนั่งรถเมล์ที่ทำงานร้านกาแฟจากสถานีหนึ่งมายังสถานีหนึ่งเพื่อมาทำงานต่อที่แห่งนี้ แต่โชคดีที่ผับนี้ห่างจากที่พักเธอไปเพียงแค่สองซอยเท่านั้นเธอจึงสามารถประหยัดค่ารถและเดินกลับหอพักได้
“จ้า ไปกินข้าวกินปลาแล้วเตรียมเปลี่ยนเสื้อผ้าทำงานนะ วันนี้ทางร้านมีแขกคนสำคัญ อุ้ยไม่ใช่แขกสิ แต่เขาเป็นหุ้นส่วนของร้านเพียงแต่ไม่ค่อยปรากฏตัวเท่านั้น วันนี้เขาจะมาดูผับ รบกวนหนูพะพายไปเสิร์ฟที่ห้องวีวีไอพีด้วยนะจ้ะ”
“แต่พะพายไม่เคยเสิร์ฟในห้องวีวีไอพีเลยค่ะ มันจะดีเหรอคะ??”
“ดีสิจ้ะ หนูเรียนรู้งานเร็ว ไม่มีต้องกังวลอะไรหรอกจ่ะ”
“ถ้าเจ๊มั่นใจว่าหนูทำได้ หนูก็เชื่อว่าหนูทำได้เช่นกันค่ะ”
“ดีมากสาวน้อยของเจ๊ กินข้าวกินปลาเสร็จแล้วไปจัดเตรียมห้องให้ดีเปิดแอร์เย็นๆ ไว้นะ พี่ไม่รู้ว่าคุณมาร์ชกับเพื่อนของเขาจะมาเมื่อไหร่ ช่วงที่รอเขาหนูก็มาช่วยเสิร์ฟที่ชั้นหนึ่งก่อนก็แล้วกัน”
“ได้เลยค่ะเจ๊”
หญิงสาวได้รับคำสั่งงานของวันนี้ก็เดินไปหลังร้านเพื่อกินข้าวกินปลาหลังจากนั้นก็รีบไปเปลี่ยนชุดตามสไตส์ของร้าน ผับที่นี่ดีมากมีอาหารเย็นและอาหารดึกให้พนักงานฟรี เธอจึงประหยัดค่าข้าวต่อเดือนได้อีกหลายมื้อเลยล่ะ
เมื่อถึงเวลางานหญิงสาวเดินออกมาจากหลังร้านเพื่อดูแลแขกที่ทยอยเข้ามาในร้านและเสิร์ฟอย่างขยันขันแข็ง จวบจนเวลาปาไปสองทุ่มครึ่ง เจ็ลิลลี่ก็เดินเข้ามาหาเธอเพื่อเรียกตัวไปบริการแขกห้องวีวีไอพี เมื่อได้ยินเช่นนั้นเธอจึงรีบเดินตามเจ๊เข้าไปยังห้องนั้น แม้ว่าเสียงดนตรีข้างนอกจะดังมากเท่าไหร่ แต่พอเข้าไปในห้องที่เธอต้องเสิร์ฟดูแลแขกแล้วมันเงียบสงบจนแทบไม่ได้ยินเสียงจากข้างนอก แถมห้องก็เป็นกระจกทั้งหมด ที่มองลงไปข้างล่างสามารถมองเห็นทั่วผับแต่เวลามองขึ้นมาจากด้านล่างนั้นกลับมืดสนิทมองไม่เห็นอะไรเลย
เมื่อเธอเดินเข้ามาก็พบชายหนุ่มสองคนที่นั่งอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว เธอยืนอยู่ภายในห้องก็รับรู้ได้ถึงความเย็นยะเยือกของชายหนุ่มทั้งสองได้ แม้ไม่ต้องทำอะไรเลย รังสีของเขาก็แผ่ซ่านไปทั่วห้อง เธอรู้สึกแอบกลัวอยู่นิดหน่อย แต่ก็ทำใจดีสู้เสือไว้ เพราะสายตาของพวกเขานั้นแค่มองมองก็สามารถทำให้เธอนั้นตัวขาดเป็นเสี่ยงๆ ได้เลย
“สวัสดีค่ะ คุณมาร์ช คุณคินน์ วันนี้เจ๊มีเด็กมาช่วยดูแลค่ะ เธอเพิ่งเข้ามาทำงานที่นี่ใหม่ ชื่อว่าน้องพะพาย ถ้าต้องการอะไรเรียกเจ๊หรือบอกน้องได้เลยนะคะ”
ทั้งสองคนมองมายังเธอและมองไปยังเจ๊ลิลลี่ของเธอ พยักหน้าโดยไม่พูดอะไร เป็นเชิงว่าเข้าใจกับสิ่งที่ผู้จัดการพูดก่อนหน้านี้แล้ว
“งั้นถ้าไม่มีอะไรแล้วเจ๊ขอตัวลงไปดูแลแขกข้างล่างก่อนนะคะ” ผู้จัดการพูดกับหนุ่มทั้งสอง และหันมากำชับหญิงสาว
“ดูแลคุณมาร์ชและคุณคินน์ให้ดีนะ พะพาย”
“รับทราบค่ะเจ๊”
“ชื่อพะพายเหรอ??” คินน์ถามขึ้นมา
“ค่ะ” หญิงสาวตอบกลับชายหนุ่มผมสีน้ำตาล มีรอยสักบริเวณต้นคอ สายตาของเขาดูใจดีแต่ก็ไม่มาก แต่ยังดีกว่าชายหนุ่มที่นั่งข้างๆ ผมสีดำขลับ จมูกโด่ง ปากเป็นกระจับ ผิวขาวซีด ที่มีชื่อว่า มาร์ช สายตาคนนี้อยู่เย็นตาและแววตานั้นมองไม่ออกเลยว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ แต่หน้าตาของเขาทั้งสองนั้นก็หล่อไม่แพ้กันเลยล่ะ
“มารินเหล้าให้พวกฉันหน่อยสิ”
“ได้ค่ะ คุณคินน์” หญิงสาวตอบรับคำสั่งและเดินอ้อมไปด้านหลังเพื่อรินเหล้าให้คินน์และเดินอ้อมมาอีกด้านเพื่อรินเหล้าให้กับมาร์ช
“ขายเท่าไหร่” จู่ๆ เสียงของคนที่เธอกำลังรินเหล้าให้นั้นก็ดังขึ้น
“อะไรนะคะ??” หญิงสาวทวนคำถามกลับไปเพื่อความแน่ใจ
“ฉันถามว่าตัวเธอน่ะ ขายเท่าไหร่???”
เพี้ยะ!!!!!
ณ คฤหาสน์...หลังจากทานข้าวเสร็จชายหนุ่มก็รีบพาหญิงสาวและลูกของตนกลับไปยังบ้านทันที เพราะแม่ของเขานั้นโทรตามทุกๆ สามสิบนาที“เจ้าพี หลานย่า มาแล้ว” เมื่อรถจอดด้านหน้าคฤหาสน์ คุณหญิงมาลัยก็รีบวิ่งเข้ามาอุ้มเจ้าพีของเขาไปทันที“คุณแม่ ฝากเลี้ยงลูกผมให้หน่อยนะครับ”“จะไปไหนอีกตาคีย์” คุณหญิงมาลัยถามออกมาเขาได้ยินดังนั้นก็กระซิบข้างๆ ใบหูของแม่เขา ให้ได้ยินกันเพียงสองคน“ผมจะไปทำน้องให้เจ้าพีครับ เราจะได้แบ่งเจ้าตัวเล็กกัน คุณแม่จะได้ไม่เหงาด้วย”เมื่อคุณหญิงมาลัยได้ยินดังนั้นก็ยิ้มกว้างออกมาทันที“ไปสิ ไม่ต้องห่วงทางนี้นะ แม่จะดูแลให้เอง” คุณหญิงมาลัยกระซิบบอกชายหนุ่ม และพากันหัวเราะออกมา“คุณแม่ ร้ายจริงๆ เลยนะครับ” ชายหนุ่มยิ้มกับกับมารดาของตน พร้อมเดินตามหญิงสาวเข้าไปในห้องนอน“นานๆ ก็ได้นะ ออกมาพรุ่งนี้เช้าเลยยิ่งดี” คุณหญิงมาลัยตะโกนตามหลังไล่ชายหนุ่มไปแกร๊กกก.. แอ๊ดดดด…“อ้าว..พี่คีย์มาพอดีเลย หยีรบกวนเอาถุงเท้าไปใส่ให้ลูกหน่อยค่ะ”หญิงสาวที่เดินมาในห้องหลังจากลงจากรถก็เดินตรงดิ่งเข้าไปยังห้องนอนทันที เพื่อหาถุงเท้าใส่ให้กับเจ้าตัวเล็ก ที่ช่วงนี้อากาศเริ่มเข้าสู่หน้าหนาวแล้ว“เดี
หลังจากนั้นหนึ่งเดือนต่อมาหญิงสาวก็ได้ให้กำเนิดลูกชายสุดแสนน่ารักน่าชัง ชายหนุ่มและคุณหญิงมาลัยจัดจองห้องพิเศษสำหรับคลอดและให้หมอที่ดีที่สุดทำคลอดให้กับเธอตอนนี้เป็นเวลาสามเดือนแล้วที่เธอเลี้ยงดูลูกอยู่ที่บ้าน พร้อมกับสามีของเธอและคุณหญิงมาลัยพวกเขาทั้งสองปฏิบัติกับเธอและลูกของเธอดีมาก จนไม่รู้สึกถึงความรักที่ขาดหายไปเลยแม้แต่น้อยคิรินเห่อลูกชายเป็นอย่างมาก และซื้อของเล่นเต็มบ้านมาให้ลูกน้อย แถมยังทำเนรมิตห้องข้างๆ ที่ติดกันเป็นประตูเชื่อมถึงกัน เพื่อเตรียมห้องให้กับลูกชายตัวเล็กเมื่อโตขึ้นส่วนคุณหญิงมาลัยก็ไม่ได้น้อยหน้าเลยแม้แต่น้อย สั่งให้คนมาออกแบบข้างบ้านให้เป็นสนามเด็กเล่นทันทีจนบางครั้งเธอก็ต้องปล่อยเลยตามเลย ได้แต่ทำตามพวกเขาทั้งสอง เพราะเธอมั่นใจว่าเขาทั้งสองนั้นกำลังมอบสิ่งดีดีให้กับลูกของเธอแอ๊ดดดดด..“ยาหยี ลูกของเราหลับแล้วยังครับ” ชายหนุ่มที่เพิ่งกลับมาจากประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีรีบเปิดประตูเข้ามาหาเธอหลังจากประชุมเสร็จวันนี้เขาอ้อนให้เธอและลูกมาให้กำลังใจเขาถึงบริษัท เพราะไม่อยากให้เธอและลูกห่างไปไหนตอนนี้เขาติดเธอเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะไปที่ไหนเขาก็ติดตามเธอไปตลอด
“ยาหยี…” เขาเรียกเธอด้วยน้ำเสียงที่แห่บพร่า“ไม่ต้องกังวลนะคะ หยีให้อภัยคุณแล้วค่ะ” หญิงสาวประคองหน้าของเขาขึ้นมา และใช้สายตาบอกเขาว่าเธอนั้นไม่ได้เป็นอะไรชายหนุ่มเห็นดังนั้นก็ยิ้มออกมาอย่างดีใจ และค่อยๆ ใช้มือของเขายกขึ้นประคองที่ใบหน้าของหญิงสาวเช่นเดียวกันทั้งสองประสานสายตาเป็นหนึ่งเดียวกัน และโน้มใบหน้าประกบริมฝีปากกันในที่สุด เธอและเขาจูบกันอย่างเนิ่นนานหลังจากที่โหยหากันมานานหลายเดือนชายหนุ่มค่อยๆ ใช้มือเลือนลงมาจากใบหน้าของหญิงสาวและวางลงที่หน้าอกของหญิงสาวและค่อยๆ นวดคลึงอย่างช้าๆ และใช้มืออีกข้างประคองหน้าท้องนูนเด่นเอาไว้“อือ พี่คีย์”หญิงสาวร้องครางออกมาเบาๆ ทำให้ชายหนุ่มนั้นพอใจเป็นอย่างมาก เขาผละริมฝีปากออกอย่างช้าๆ และเลื่อนลงมางับที่ยอดอกสีชมพูของหญิงสาว“อ่าส์ อือออ” หญิงสาวหลับตาพริ้มและใช้มือขยำศีรษะของเขาเบาๆ จุ๊บ… จ๊วบ… “หน้าอกหยีมันโตเต็มมือผมพอดีเลยครับ” เขาพูดจบก็ก้มลงไปดูดหน้าอกของหญิงสาวต่อและขบทำรอยรักเต็มบริเวณหน้าอกของเธอจากนั้นก็ค่อยๆ อุ้มเธอวางลงบนเตียง และใช้มือทั้งสองจับขาเธอแยกออกจากกันทำให้เห็นกลีบกุหลาบของเธอโชว์เด่นอยู่ตรงใบหน้าของเขา“ทำไม
“ยะ ยาหยี ผะ ผมไปนอนข้างล่างดีกว่านะครับ เดี๋ยวหยีจะไม่สบายใจ”“ฮึก ฮืออออออ..” หญิงสาวที่ร้องเรียกชายหนุ่ม เมื่อถูกปฏิเสธ เธอก็ร้องไห้ออกมาทันที จนชายหนุ่มต้องวิ่งเข้ากอดเธอ“โอ๋ๆ ไม่ร้องนะครับ เดี๋ยวลูกจะร้องตามนะครับ คุณเป็นอะไร ร้องไห้ทำไม บอกผมสิ”“ฮึก คุณไม่นอนกับหยี”“โถ่..ทำไมผมจะไม่อยากนอนกับคุณล่ะครับ ผมเฝ้าโหยหาคุณตลอดเวลา”“แล้วทำไมไม่ขึ้นมานอนกับหยีในห้องละคะ”“ผะ ผม..เอ่อ..ผมกลัวว่าคุณจะรำคาญผม และพลอยทำให้คุณหลับไม่สนิท”“ฮึก ฮือออออ” หญิงสาวร้องไห้ออกมาอีกครั้ง“ชู่ว ไม่ร้องนะครับคนดี เอาอย่างนี้ดีไหม..เดี๋ยวผมไปเอาฟูกข้างล่างมานอนตรงพื้นข้างๆ คุณ โอเคไหมครับ” ชายหนุ่มรีบตัดบทสนทนาทันที เพราะกลัวว่าหญิงสาวจะร้องไห้ไปมากกว่านี้ เพราะเขาเคยศึกษามาคร่าวๆ ว่าคนที่ตั้งครรภ์จะมีอารมณ์ที่อ่อนไหวมาก เขาจึงไม่อยากทำร้ายจิตใจเธอ และกลัวว่าจะไปกระทบถึงเจ้าตัวเล็กในท้องอีกด้วย“โอเคค่ะ คุณลงไปเอาฟูกมานอนข้างหยีเร็วๆ นะคะ”ภายในห้องนอน…ชายหนุ่มที่เพิ่งไปนำฟูกมาจากข้างล่าง ก็จัดการวางลงข้างเตียงของหญิงสาวและจุดเทียนหอมเพิ่มเติมให้เธอได้ผ่อนคลายและหลับสบาย หลังจากนั้นก็ปิดไฟนอนและล้
หนึ่งเดือนผ่านไป..หลังจากวันนั้นหญิงสาวก็ไปทำงานตามปกติ โดยมีชายหนุ่มคอยดูแลอยู่ไม่ห่างและเขายังทำทุกอย่างแทนเธอ ไม่ว่าจะเป็นซักล้าง กวาดบ้าน ถูบ้าน ทำอาหารให้เธอทาน คอยนวดฝ่าเท้าและจุดเทียนหอมให้เธอผ่อนคลายก่อนนอนและตอนนี้ยังเป็นคนขับรถให้เธอไปเรียบร้อยแล้วโดยบริษัททั้งหมดคุณหญิงมาลัยดูแลอาสาดูแลให้ ส่วนชายหนุ่มก็คอยปรนนิบัติและดูแลหญิงสาวไม่ห่าง เว้นแต่มีประชุมที่สำคัญจริงๆ เขาถึงจะปลีกตัวออกไป แต่ก็แค่ไม่กี่ชั่วโมงเพียงแค่นั้นและตอนนี้หญิงสาวก็ยังไม่ให้อภัยเขาเหมือนเดิม แต่ความสัมพันธ์ก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ยังได้นอนชั้นล่างตรงโซฟาเหมือนเฉกเช่นทุกวันวันนี้เป็นวันที่เขานั้นตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เพราะเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาจะพาหญิงสาวไปตรวจสุขภาพครรภ์ วันนี้เขาจึงตื่นเช้าเป็นพิเศษและเตรียมตัวทำอาหารตั้งแต่เช้าตรู่ และเตรียมของที่จำเป็นใส่กระเป๋าไปที่โรงพยาบาล“ยาหยีครับ ผมเตรียมของเสร็จแล้ว หยีทานอาหารเช้าเสร็จ เราไปโรงพยาบาลกันเลยไหมครับ”“ค่ะ วันนี้หยีไม่ไปดูงานร้านกาแฟนะคะ ถ้าหาหมอเสร็จแล้วอยากกลับมาพักอีกสักหน่อยค่ะ”“หยีเป็นอะไรหรือเปล่าครับ ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า” ชายหนุ่
“คุณยาหยีฝากผมมาบอกคุณด้วยครับ”“…”“ถ้าทานเสร็จแล้ว รบกวนออกไปจากร้านด้วยนะครับ รบกวนเวลาทำงานของพวกเราครับ คุณผู้ชาย”ชายหนุ่มที่ได้ยินดังนั้นก็ทำหน้าเศร้าสร้อยทันทีจริงๆ แล้วเธอตั้งใจจะไล่เขากลับไปนี่เอง ไม่ได้ห่วงใยเขาเลยแม้แต่น้อย เขาจึงใช้มือล้วงเข้าไปในกระเป๋าและควักเงินแบงค์จำนวนสิบใบขึ้นมาและวางลงบนโต๊ะ“ฝากบอกคุณยาหยีด้วยนะครับ ขอโทษที่มารบกวน นี่เป็นค่าเสียเวลาของร้านนะครับ แล้วผมจะกลับมาใหม่”พูดจบชายหนุ่มก็เดินจากร้านออกไปทันทีทิ้งให้พนักงานชายหนุ่มนั้นยืนงงงวยอยู่เพียงลำพัง และเดินกลับไปรายงานบอสของตัวเองชายหนุ่มที่ตัดสินใจเดินออกจากร้านก็ขับรถไปยังบ้านของตนทันทีเอี๊ยดดด…เสียงล้อรถเบรคดังทั่วคฤหาสน์จนคุณหญิงมาลัยและสาวใช้พากันวิ่งออกมาดู“เกิดอะไรขึ้น ตาคีย์”“เมียไล่กลับบ้าน” เขาพูดออกมาอย่างหงุดหงิดในขณะที่เดินลงมาจากรถ“เดี๋ยวก่อน”“ครับคุณแม่”“แม่บอกแกไว้ว่ายังไง หื้มมม…” คุณหญิงมาลัยพูดจบก็ใช้มือคว้าใบหูของลูกชายลงมาทันที“โอ๊ยยย คุณแม่ ผมเจ็บ ผมเจ็บครับ” ชายหนุ่มร้องออกมาเสียงดังลั่น เมื่อเจอคุณหญิงมาลัยดึงเข้าที่ใบหู“เจ้าลูกคีย์ แม่บอกว่ายังไง แม่บอกลูกว่า