ตอนที่๖
เป็นห่วง "ไออุ่นนน พี่ขอโทษนะที่ไม่ได้ไปรับเมื่อเช้า พี่ตื่นสายนิดหน่อย" พรพระพายขอโทษขอโพยหญิงสาวตรงหน้า "ไม่เป็นไรค่ะพี่พระพาย " หญิงสาวหันไปยิ้มให้กับพรพระพายเพื่อเป็นการบอกว่าเธอไม่ได้ถือโทษโกรธอะไรหญิงสาวเลย "แล้วไออุ่นมาที่นี่ถูกได้ไง" พระพายถามขึ้น เพราะตั้งแต่เช้าหญิงสาวมัวแต่วุ่นวายกับการประชุมสำคัญ จึงฝากอัยยภัทรไว้กับเลขาให้ช่วยดูแลไปก่อน โดยบอกว่าให้อัยยภัทรนั่งรอเธอในห้องทำงาน เอาเอกสารที่เกี่ยวข้องมาให้อัยยภัทรอ่านรอระหว่างรอเธอกลับมา พอประชุมเสร็จเธอก็รีบพุ่งตรงมาหาอัยยภัทรทันที "พี่ศึกมาส่งค่ะ" อันยภัทรตอบพรพระพาย คำตอบของอัยยภัทรทำให้พรพระพายหน้าตาเหลอหลา "พี่ศึกมาส่ง ตายๆ เดี๋ยวไออุ่นนั่งรอพี่ตรงนี้ก่อนนะ อ่านเอกสารรอไปก่อน ตรงไหนไม่เข้าใจเดี๋ยวพี่กลับมาอธิบาย พี่จะเป็นคนสอนงานไออุ่นเอง แต่เดี๋ยวพี่มานะพี่ขอไปคุยโทรศัพท์แป๊ปนึง" พรพระพายบอกกับอัยยภัทรก่อนจะก้าวออกจากห้องทิ้งให้อัยภัทรนั่งอ่านเอกสารเงียบๆต่อไป "เป็นสิบๆสายเลย แกตายแน่ยัยพระพาย" พรพระพายรู้สึกเสียวสันหลังทันทีที่เปิดหน้าจอโทรศัพท์แล้วเห็นเบอร์ชนะศึกโทรเข้าเป็นสิบๆสายที่ไม่ได้รับ (ว่ายังไง) แค่เสียงลอดตามสายมาก็เหมือนเสียงกระซิบสั่งตายจากยมบาลอย่างนั้นล่ะ "พี่ศึกคะ พระพายไม่ได้ตั้งใจจะไม่ไปรับไออุ่นนะคะ เมื่อเช้าเกิดเหตุฉุกเฉินนิดหน่อย" หญิงสาวพยายามข่มใจสู้เสื้อ (เหตุฉุกเฉินที่ว่าคือไปแฮงก์เอ้าท์จนแฮงค์ลุกมารับไอไม่ไหวใช่ไหม?) ตรงประเด็นไม่อ้อมค้อมสมกับเป็นชนะศึกผู้เด็ดขาดในสายตาของทุกคน "พระพายไม่ได้ตั้งใจ"พรพระพายตอบเสียงอ่อย เพราะสิ่งที่ชนะศึกพูดนั้นไม่ผิดเลยสักนิด (พี่ไว้ใจให้ไอไปทำงานกับพระพายแต่นี่อะไร ขนาดวันแรกพระพายยังดูแลไอไม่ได้เลย พี่จะไม่ให้ไอไปทำงานแล้ว) เสียงบ่นที่ปนความหงุดหงิดของชนะศึก รวมถึงคำพูดทิ้งท้ายทำให้พรพระพายใจเสียไม่น้อย "ไม่ได้นะพี่ศึก พี่จะทำแบบนั้นกับไออุ่นไม่ได้นะ พระพายขอโทษแต่จากนี้จะไม่มีแล้วพระพายสัญญา" พรพระพายรับปากเสียงหนักแน่น ขืนชนะศึกไม่ยอมให้อัยยภัทรทำงานต่อมีหวังเธอต้องเสียใจมากๆแน่ (งั้นก็ดูแลไอดีๆหน่อย แล้วอย่าให้ผู้ชายที่ไหนมาเข้าใกล้ไอล่ะ ) "หวงว่างั้น?" พรพระพายแหย่พี่ชายของตนด้วยความหมั่นเขี้ยว (แค่เป็นห่วง ไอยิ่งซื่อๆอยู่) ชนะศึกตอบไม่เต็มเสียงนัก ผิดกับน้ำเสียงตอนรับสายลิบลับ "พูดว่าหวงก็จบแล้วนะพี่ศึก หรือต่อให้พี่ศึกหวงจริงก็ไม่เห็นจะแปลก ไออุ่นเป็นภรรยาพี่นะคะ พี่มีสิทธิ์ที่จะหึงจะหวงได้" หญิงสาวหมั่นเขี้ยวจนอดไม่ไหว พี่ชายของเธอชอบทำตัวซึนใส่อัยยภัทร ทั้งๆที่เธอก็ดูออกว่าชนะศึกมีใจให้กับอัยยภัทร (พูดไปเรื่อยนะเรา) "พระพายไม่ได้พูดไปเรื่อย แค่พูดเพื่อให้พี่ศึกรู้ว่าตัวเองเป็นอะไรกับไออุ่น แล้วก็เลิกตามใจคุณแม่ได้แล้ว ยัยวิกกี้นั่นไม่คู่ควรกับพี่เลยสักนิด" (พระพายรู้?) "ใช่ค่ะพระพายรู้ รู้ว่าแม่กำลังพยายามจับคู่พี่กับยัยวิกกี้ลูกสาวเพื่อนแม่ พระพายอยากจะเตือนพี่สักหน่อย หากวันนึงไออุ่นรู้ ถ้าไออุ่นหนีไป พระพายเนี่ยล่ะจะเป็นคนหาที่ซ่อนไม่ให้พี่ศึกหาน้องเจออีกเลย" พรพระพายไม่ได้ขู่ แต่ที่ไม่พูดให้อัยยภัทรรับรู้ เพราะไม่อยากให้น้องเสียใจ และคิดว่าพี่ชายของตนเองคงจะจัดการเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี (อย่าบอกไอนะ) น้ำเสียงขอร้องที่พรพระพายไม่คิดว่าจะได้ยินจากปากขอชนะศึกวันนี้เธอกลับได้ยินเต็มสองหู เพราะชนะศึกติดนิสัยชอบออกคำสั่งมากกว่า "พระพายไม่บอกไออุ่นหรอกค่ะ ไม่ใช่เรื่องของพระพาย พระพายแค่อยากบอกพี่ศึกว่าถ้าเมื่อไหร่ที่ไออุ่นเสียใจ พระพายจะเอาไออุ่นคืน ถึงพี่ศึกจะเป็นพี่ชายของพระพาย แต่ยังไงพระพายก็ไม่เข้าข้างหรอกค่ะ" (รู้แล้วน่า เที่ยงแล้วไปกินข้าวที่ไหนกันล่ะ?) ชายหนุ่มเปลี่ยนเรื่องทันที "พระพายว่าจะพาไออุ่นไปกินอาหารญี่ปุ่นห้างใกล้ๆเนี่ยล่ะค่ะ" หญิงสาวอยากพาอัยยภัทรไปเที่ยวให้มากที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้ เกิดพี่ชายตัวดีของเธอไม่ยอมให้อัยยภัทรมาทำงานอีก ก็เท่ากับอัยยภัทรต้องกลับเข้ากรงทองของชนะศึก (ไปห้างหรอ?) ภาพที่มีชายหนุ่มหน้าตาดีมาเกาะแกะอัยยภัทรแล่นเข้ามาในหัวของชนะศึกทันที "ใช่ค่ะ เผื่อไออุ่นอยากได้อะไรด้วย" (ไม่ต้องไปหรอก พี่สั่งข้าวไปให้กินที่บริษัทแล้ว) ชนะศึกสั่งอาหารให้ไปส่งที่บริษัทของพรพระพายตามที่พูดแล้วจริงๆ "ได้ยังไงกัน นี่ปล่อยให้ไออุ่นมาทำงานก็จะให้อยู่แต่ที่ทำงานหรือไงพี่ศึก" พรพระพายโวยวาย (หรือจะให้อยู่แต่ที่คอนโดเหมือนเดิม?) ชนะศึกออกแนวขู่น้องสาวตัวเอง เขาพลาดท่าเสียทียอมให้อัยยภัทรมาทำงานทีนึงแล้ว เขาจะต้องระวังตัวไม่พลาดซ้ำอีกแน่นอน "ก็ได้ๆ งั้นแค่นี้แหละค่ะ" พรพระพายจำยอมตามใจพี่ชายตัวเอง ชนะศึกชอบเอาเรื่องการทำงานของอัยยภัทรมาขู่เสมอ ถ้าเธอไม่กลัวอัยยภัทรเสียใจเธอก็อยากจะดื้อขัดคำสั่งของชนะศึกเหมือนกัน แต่นี่อะไรอัยยภัทรมาทำงานได้ไม่ถึงวัน ชนะศึกจะให้หญิงสาวกลับไปอยู่แต่ที่คอนโดเหมือนเดิมเสียแล้วตอนที่๘ วางเพลิง "นี่มันเรื่องอะไรครับคุณแม่" ชนะศึกถามขึ้นทันทีที่ชายชรากับอัยยภัทรก้าวพ้นประตูห้องไป "ก็ปู่แกล่ะสิ แหมมม แตะต้องแม่ไออุ่นไม่ได้เลยนะ ออกโรงปกป้องออกหน้าออกตา" ชลลดาอดไม่ได้ที่จะเบะปากใส่ด้วยความหมั่นไส้ในตัวหญิงสาว "ทำไมคุณขยันหาเรื่องให้ผมปวดหัวจังชลลดา คุณก็รู้ว่าคุณพ่อท่านเอ็นดูไออุ่นมากแค่ไหน" สงครามส่ายหัวอย่างระอาในพฤติกรรมของชลลดา เขารู้สึกว่าชลลดาเปลี่ยนไปตั้งแต่เริ่มคบค้าสมาคมกับกลุ่มของคุณหญิงแพรวพราว ชลลดาชอบหายออกจากบ้าน ใช้เงินฟุ้งเฟ้อเป็นกระดาษ หาที่มาที่ไปไม่ได้ แต่เขาก็ไม่ได้เดือดร้อน เพราะชลลดายังใช้เงินในส่วนที่เป็นของตนเอง ไม่ได้มาวุ่นวายหรือขอเพิ่มแต่อย่างใด "นี่คุณสงครามอย่ามาขึ้นเสียงกับฉันนะ" ชลลดาเสียงเขียวใส่สงคราม ทันทีที่สงครามพูดจบ "แล้วเรื่องมันเป็นยังไง ทำไมคุณปู่ดูโกรธขนาดนั้นครับ" ถ้าเรื่องแค่นี้ปู่เขาน่าจะชินแล้ว เพราะตั้งแต่เขาแต่งงานกับอัยยภัทรมา แม่ของเขาก็คอยตามเหยียดหยามอัยยภัทรตลอด ทั้งต่อหน้าและลับหลัง "แม่แค่บอกปู่แกว่า แกกำลังคบหากับหนูวิกกี้ ให้แม่ไออุ่นเตรียมใจได้เลย" "แม่บอกปู่กับไอเรื่องผมกับวิกกี้หรอครับ?"
ตอนที่๗ พบปะคนในบ้าน “มาแล้วหรอไออุ่น” เสียงทรงอำนาจของประมุขใหญ่ของบ้านเรียกความสนใจของอัยยภัทรได้เป็นอย่างดี “สวัสดีค่ะคุณปู่ ไอคิดถึงคุณปู่ที่สุดเลยค่ะ”อัยยภัทรลุกขึ้นไหว้ชายชราที่กำลังเดินเข้ามา ก่อนจะรีบเดินเข้าไปประคอง “ปู่ก็คิดถึงไออุ่น “ ชายชราลูบหัวหญิงสาวอย่างเอ็นดู อัยยภัทรเป็นตัวของตัวเองได้เวลาอยู่กับเจ้าสัวกิตติ หญิงสาวสามารถยิ้มจากหัวใจของเธอเอง “เดินระวังนะคะ” “เจ้าเด็กคนนี้นี่ ปู่ยังไม่ได้แก่ขนาดนั้นเสียหน่อย อีกอย่างนี่ก็บ้านปู่ ปู่ก็เดินของปู่อยู่ทุกวัน” เจ้าสัวกิตติเอ่ยอย่างเอ็นดู “ก็ไอเป็นห่วงคุณปู่นี่คะ” อัยยภัทรยิ้มอย่างเอาใจ ชายชราตรงหน้านอกจากให้ชีวิตใหม่กับเธอแล้ว ยังให้ความรักความเอ็นดูกับเธอ เวลาอยู่กับเจ้าสัวกิตติเธอรู้สึกเหมือนอยู่กับญาติผู้ใหญ่จริงๆ ไม่ได้รู้สึกด้อยค่าว่าเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกรับมาเลี้ยง “เป็นห่วงปู่ก็มาหาปู่บ่อยๆสิ” “ไออยากกลับมาอยู่กับคุณปู่” อัยยภัทรเผลอพูดความในใจออกไป “ทำไมล่ะ พี่ศึกเขาดูแลไออุ่นของปู่ไม่ดีหรือไง?” ชายชราเลิกคิ้วถามอย่างสงสัย น้ำเสียง แววตาและสีหน้าของอัยยภัทรมันแฝงไปด้วยความเศร้าอย่างชัดเจน “ไม่
ตอนที่๖เป็นห่วง"ไออุ่นนน พี่ขอโทษนะที่ไม่ได้ไปรับเมื่อเช้า พี่ตื่นสายนิดหน่อย" พรพระพายขอโทษขอโพยหญิงสาวตรงหน้า"ไม่เป็นไรค่ะพี่พระพาย " หญิงสาวหันไปยิ้มให้กับพรพระพายเพื่อเป็นการบอกว่าเธอไม่ได้ถือโทษโกรธอะไรหญิงสาวเลย"แล้วไออุ่นมาที่นี่ถูกได้ไง" พระพายถามขึ้น เพราะตั้งแต่เช้าหญิงสาวมัวแต่วุ่นวายกับการประชุมสำคัญ จึงฝากอัยยภัทรไว้กับเลขาให้ช่วยดูแลไปก่อน โดยบอกว่าให้อัยยภัทรนั่งรอเธอในห้องทำงาน เอาเอกสารที่เกี่ยวข้องมาให้อัยยภัทรอ่านรอระหว่างรอเธอกลับมา พอประชุมเสร็จเธอก็รีบพุ่งตรงมาหาอัยยภัทรทันที"พี่ศึกมาส่งค่ะ" อันยภัทรตอบพรพระพาย คำตอบของอัยยภัทรทำให้พรพระพายหน้าตาเหลอหลา"พี่ศึกมาส่ง ตายๆ เดี๋ยวไออุ่นนั่งรอพี่ตรงนี้ก่อนนะ อ่านเอกสารรอไปก่อน ตรงไหนไม่เข้าใจเดี๋ยวพี่กลับมาอธิบาย พี่จะเป็นคนสอนงานไออุ่นเอง แต่เดี๋ยวพี่มานะพี่ขอไปคุยโทรศัพท์แป๊ปนึง" พรพระพายบอกกับอัยยภัทรก่อนจะก้าวออกจากห้องทิ้งให้อัยภัทรนั่งอ่านเอกสารเงียบๆต่อไป"เป็นสิบๆสายเลย แกตายแน่ยัยพระพาย" พรพระพายรู้สึกเสียวสันหลังทันทีที่เปิดหน้าจอโทรศัพท์แล้วเห็นเบอร์ชนะศึกโทรเข้าเป็นสิบๆสายที่ไม่ได้รับ(ว่ายังไง) แค่เ
ตอนที่ ๕ทำงานวันแรก“วันนี้ไปทำงานวันแรกสินะ” ชนะศึกถามขึ้นทันทีที่เดินมาถึงโต๊ะอาหาร อัยยภัทรเตรียมอาหารเช้าให้เขาทุกวัน ถึงแม้เขาจะกินเพียงกาแฟแก้วเดียวแล้วออกไปทำงาน“ค่ะ” อัยยภัทรเงยหน้ามาสบตาชายหนุ่ม“อืม ตั้งใจทำงานล่ะ “ ชนะศึกยังคงจิบกาแฟอ่านหนังสือบนโต๊ะที่ถูกเตรียมไว้โดยอัยยภัทร บางทีชายหนุ่มก็สงสัยว่าอัยยภัทรรู้ได้อย่างไรว่าเขาชอบทำอะไร ชอบอ่านหนังสือแบบไหน อ่านถึงตรงไหนแล้ว“พี่ศึกคะ..” อัยยภัทรเรียกชนะศึก ชายหนุ่มที่กำลังจ้องหน้งสืออยู่ละสายตาจากหนังสือหันมาสบตาหญิงสาวตรงหน้า“ไอขอบคุณมากนะคะ ที่พี่ศึกยอมให้ไอไปทำงาน” อัยยภัทรอยากขอบคุณเขาสักครั้ง หากเขาไม่ยอมเสียอย่างสิบพรพระพายก็ไม่อาจจะสู้ได้“พี่แค่ยอมตามใจยัยพระพายเฉยๆ” ชายหนุ่มตอบเสียงเรียบ จริงๆเขาไม่ได้ยอมพรพระพายแต่เขาเสียรู้ยัยตัวแสบนั่นต่างหาก“นั่นล่ะค่ะ ไอแค่อยากขอบคุณพี่ศึก” อัยยภัทรพูดก่อนจะก้มกินข้าวเช้าตรงหน้าต่อเงียบๆ“แล้วไปทำงานยังไงล่ะ ยัยพระพายมารับหรือยังไง?”“เดี๋ยวไอนั่งรถไฟฟ้าไปเองค่ะ”“ทำไมถึงไปเอง ทำไมพระพายถึงไม่มารับ” น้ำเสียงของชนะศึกแฝงไปด้วยความหงุดหงิด“พี่พระพายอยู่คนละฟากกับเรา ไอเลยบอก
ตอนที่ ๔การเจรจาสำเร็จ“พี่ไม่อนุญาต!!!” เสียงชนะศึกดังจากห้องรับแขก สองพี่น้องกำลังเถียงกันเรื่องให้อัยยภัทรไปทำงาน“ทำไมคะ?” พรพระพายถามอย่างเหลืออดกับพี่ชายตนเอง“จะไปทำทำไมให้เหนื่อย พี่มีเงินเยอะแยะไอจะใช้ยังไงก็ได้”“ไออุ่นอาจจะไม่อยากได้เงินพี่ แต่อาจจะอยากได้อิสระในการใช้ชีวิตบ้าง พี่ขังไออุ่นไว้แต่ในห้องสี่เหลี่ยมพี่ไม่สงสารน้องบ้างหรอไง?” พรพระพายจะต่อสู้เพื่ออัยยภัทรให้ถึงที่สุด“สงสาร สงสารทำไม ในห้องนี้มีทุกอย่างที่ควรจะมี เผลอๆอาจจะมีเกินจำเป็นด้วยซ้ำ หรือถ้าไออยากได้อะไรพี่ก็จะซื้อมาให้แต่พี่ไม่ให้ไอไปทำงานเด็ดขาด” น้ำเสียงเด็ดขาดของชนะศึกไม่ได้ทำให้พรพระพายกลัวแม้แต่น้อย ถ้าเป็นเรื่องอื่นหญิงสาวคงถอยให้พี่ชายได้ไม่ยาก แต่พอเป็นเรื่องของอัยยภัทร พรพระพายพร้อมสู้หัวชนฝามาแต่ไหนแต่ไร“พี่หวงไออุ่น หรือพี่มีอะไรที่ต้องปิดหูปิดตาไออุ่นหรือไง ถึงไม่ให้น้องออกไปใช้ชีวิตเลย จะไปข้างนอกก็ต้องให้พระพายเป็นคนพาไป พี่ศึกไออุ่นโตแล้วนะ เรียนจบแล้ว ควรมีเพื่อนมีสังคมของตัวเอง พี่ศึกจะมาผูกไออุ่นไว้กับพี่ไม่ได้ น้องเป็นคนไม่ใช่นกน้อยในกรงทอง!!” คำถามและคำพูดของพรพระพายทิ่มกลางอกของช
ตอนที่ ๓ผู้ชายแปลกหน้า“ขอโทษครับ “ ชายหนุ่มหน้าตาดีเอ่ยขึ้นด้านหลังของอัยยภัทร“อ้อ!! ขอโทษค่ะ” อัยยภัทรรีบกล่าวคำขอโทษ และหลีกทางให้ชายหนุ่มเพราะคิดว่าชายหนุ่มต้องการเลือกหนังสือตรงหน้าเธอ“ผมไม่ได้จะเลือกหนังสือครับ ผมแค่อยากรู้จักคุณเฉยๆ ผมกรภัทร เรียกกรเฉยๆก็ได้ แล้วคุณล่ะ” ชายหนุ่มหน้าตาดีเอ่ยแนะนำตัวก่อนจะสอบถามชื่อของอัยยภัทร“อัยยภัทรค่ะ เรียกไอว่าไอเฉยๆก็ได้” อัยยภัทรตอบกลับอย่างงงๆ แต่เมื่อชายหนุ่มตรงหน้าแนะนำตัวแล้ว เธอจะเมินเฉยก็ดูเสียมารยาทเกินไป“คุณไอมาซื้อหนังสือคนเดียวหรอครับ ผมแนะนำได้นะครับ ผมเห็นคุณไอเลือกหนังสือนานแล้วยังไม่ได้หนังสือเสียที” ชายหนุ่มอาสาอย่างแข็งขัน“ไอมากับพี่สาวค่ะพอดีพี่พระพายไปซื้อกาแฟ อีกเดี๋ยวคงจะกลับมา ส่วนหนังสือนี่ไอก็เลือกซื้อไปหลายเล่มแล้ว ส่วนที่กำลังดูอยู่ก็ดูรอพี่พระพายเฉยๆค่ะ” อัยยภัทรตอบตามความจริง กรภัทรหน้าเจือนเล็กน้อย“คุณไอดูชอบอ่านหนังสือนะครับ”“ค่ะ ไอชอบอ่านหนังสือ แล้วคุณกรล่ะคะ”“ผมก็ชอบครับ คุณไอชอบหนังสือแนวไหนล่ะครับ เผื่อชอบแนวเดียวกันเราจะได้มาแชร์กันได้”“ไออ่านได้หลายแนวค่ะ แต่ถ้าชอบเป็นพิเศษคงเป็นพวกป