แชร์

ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม3 (จบบริบูรณ์)
ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม3 (จบบริบูรณ์)
ผู้แต่ง: ไห่ถาง

ตอนที่1. ซ้อนแผน

ผู้เขียน: ไห่ถาง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-26 14:30:54

กลางดึก ณ ลานหินข้างริมธาร

คณะของโม่คังได้ตั้งกระโจมพัก ชายหนุ่มร่างสูงยืนคู่อยู่กับผู้ติดตามยังโขดหินข้างลำธาร สองมือไขว้หลัง ใบหน้าแหงนมองไปบนท้องฟ้าที่ไร้ซึ่งแสงดาว

“ฝนกำลังจะตก ท่าทางจะหนักเอาการทีเดียว เจ้าช่วยบอกให้ทุกคนเตรียมข้าวของสำคัญเอาไว้ในรถม้าด้วยล่ะ”

“ขอรับ”

“งูอาจเริ่มออกล่าเหยื่อ ระวังหน่อยก็ดี”

“หึ ๆ งูฝูงนี้คงอยากจบชีวิตกระมัง”

“ไม่แน่เสมอไป ข้าแค่คาดเดา บางทีอาจถึงที่หมายของฝูงอสรพิษเสียก่อน และที่พวกมันจะออกมารัดเหยื่อเพื่อกลืนลงท้อง ตอนนี้อาจรอเวลาให้เราหลับใหลอย่างสุขใจไปก่อนก็เป็นได้”

“เช่นนั้น เราก็หลับให้ยาว ๆ เสียหน่อยนะขอรับ ถึงที่หมายแล้วค่อยเผาดงงูเสียเลยทีเดียว”

ชายหนุ่มทั้งสองพูดคุยอย่างมีความนัยต่อกัน เพราะเวลานี้ ทั้งคู่รู้สึกกระอักกระอ่วนใจอยู่มิน้อย เมื่อถัดไป ณ ชั้นตื้น ๆ ของน้ำตก มีร่างขาวโพลนของสตรีกำลังแหวกว่าย หมุนกายไปมาท่ามกลางความมืดที่มีเพียงแสงจากโคมไฟซึ่งวางอยู่บนโขดหินส่องรำไร นางมิเกรงกลัวสิ่งใดเลยหรืออย่างไรกัน ยามนี้ดึกมากแล้ว ซ้ำยังเป็นเวลาที่สัตว์อันตรายหลายชนิดออกหากิน

“มิธรรมดาจริง ๆ”

“ท่านเยว่คังไปพักก่อนจะดีกว่าขอรับ ป่านนี้ นายหญิงคงรออยู่”

เสียงของผู้ติดตามดูจะดังขึ้นกว่าคราแรกหลายเท่าตัว เมื่อเอ่ยถึงหญิงสาวอีกคนที่ร่วมขบวนมาด้วย ตลอดการเดินทาง มีใครบ้างที่จะดูไม่ออกว่า แม่นางอี้เหมยหมายตาผู้นำขบวนอย่างเยว่คังอยู่ หากปล่อยให้นางอยู่ใกล้หรู่อี้มากไป กลัวว่ามารยาสตรีที่อี้เหมยช่ำชองเป็นอย่างมากนั้นจะมีคำพูดที่ทำให้หรู่อี้คลางแคลงใจต่อผู้นำของพวกตนเอาได้

แม้หรู่อี้จะเฉลียวฉลาดในเชิงการต่อสู้มากเพียงใด ทว่า หญิงสาวกลับอ่อนด้อยในเรื่องที่สตรีพึงมีอยู่มาก คงเพราะนับตั้งแต่เกิดเหตุร้ายกับองค์รัชทายาทและท่านอ๋องน้อย หรู่อี้จำต้องฝึกฝนร่างกายอย่างหนัก ควบคู่กับการดูแลท่านหญิงอยู่ลับ ๆ ในฐานะสาวใช้ที่มิค่อยได้รับการสนใจมากนักจากผู้เป็นนาย

“นั่นสินะ...ป่านนี้ อี้เอ๋อร์คงรอข้าอยู่ ฝากเจ้าดูแลความเรียบร้อยบริเวณนี้ด้วยก็แล้วกัน”

เมื่อกล่าวจบ ร่างสูงรีบหมุนกายจากไปในทันที ก่อนที่จะมีสิ่งที่ไม่สมควรเกิดขึ้น โดยที่เขามิอยากเสียเวลากับเรื่องไร้สาระพวกนั้นมากเท่าใดนัก

“ท่านเยว่โปรดวางใจ”

หญิงสาวได้หยุดแหวกว่ายในลำธารในทันใด เมื่อชายที่นางหมายตาได้ก้าวจากไปโดยที่มิเหลียวแลนางแม้แต่หางตา หญิงสาวทำได้เพียงมองตามร่างสูงที่หายลับไปในความมืด เหลือทิ้งไว้เพียงกลิ่นอายแห่งบุรุษเพศที่นางปรารถนา ดวงตาคู่งามฉายแววของความไม่พอใจเป็นอย่างมาก

‘สิ่งใดที่คนเช่นข้าต้องการ ข้าต้องได้’

กำปั้นคู่งามทุบลงยังพื้นน้ำจนแตกกระเซ็นไปทั่วเวิ้งที่นางยืนอยู่ ความขุ่นเคืองภายในใจทำให้อี้เหมยลืมอาการหนาวสะท้านไปจนหมดสิ้น ไม่เคยมีครั้งใดที่บุรุษจะมองข้ามนางเลยสักครา ทว่า เยว่คังผู้นี้และคนของเขากลับเมินเฉยต่อความงามของนาง แต่กลับพากันใส่ใจกับสตรีจืดชืดเช่น

หรู่อี้มากกว่านางที่ดูเย้ายวนกว่าหลายเท่านัก

“แม่นาง ข้ามิใช่บ่าวรับใช้ของเจ้า ถึงจะต้องคอยมาเฝ้าดูแล หากอาบน้ำจนหนำใจแล้ว ได้โปรดกลับขึ้นมาได้แล้วกระมัง”

“เจ้า...”

ชายร่างสูงไม่ได้สนใจว่าหญิงสาวจะพอใจเขาหรือไม่ เขาทำเพียงหมุนกายออกจากจุดที่เคยยืนร่วมกับผู้เป็นนาย ทว่าชะงักเท้าหยุดลงเสียก่อน เมื่อรับรู้ได้ว่าหญิงสาวได้ก้าวขึ้นจากน้ำแล้ว

“แม้ข้าจะเป็นบุรุษเต็มตัว แต่ข้ารู้จักดีว่าสิ่งใดมีค่าคู่ควรที่จะเก็บเอาไว้ข้างกายและทะนุถนอมมัน เจ้าเองก็ด้วยนะแม่นาง ที่ควรรักษาสิ่งมีค่าเพื่อสามีในอนาคต มิใช่เที่ยวแจกจ่ายให้แก่สายตาบุรุษอื่นไปทั่ว มันดูจะไม่งามเท่าใดนัก หรือแม่นางเห็นเป็นเช่นไร โปรดชี้แนะผู้โง่เขลาเช่นข้าก็จะเป็นพระคุณยิ่ง”

ชายหนุ่มเอ่ยถามออกไปโดยมิได้หันกลับไปมองคนด้านหลังว่า เวลานี้ นางอยู่ในสภาพใด ซึ่งมิว่านางจะเปล่าเปลือยหรือสวมใส่เสื้อผ้าอยู่ก็ไม่มีผลสำหรับเขา ซึ่งมิใช่ว่าเขาไม่สนใจในสตรี แต่เพราะรู้ว่าใครที่ควรยุ่งเกี่ยวหรือสมควรหลีกห่าง

อย่างเช่นในตอนนี้ อี้เหมยผู้นี้คือเผือกร้อนที่เขามิควรรับมาไว้ในอุ้งมือ ไม่เช่นนั้นอาจได้รับความเจ็บปวดอันสาหัสจากนางก็เป็นได้

“บังอาจ เจ้ากล้าดียังไง ถึงได้เอ่ยวาจาจาบจ้วงข้าเช่นนี้ หึ ๆ เจ้ามิกลัวหรือว่าข้าจะเรียกผู้อื่นมาร่วมเป็นพยาน ว่าเจ้าได้เห็นในเรือนร่างของข้าจนหมดสิ้นแล้ว สุดท้ายแล้ว เจ้าอาจจำต้องเก็บของไร้ค่าไปเคียงกาย หากข้าเดาไม่ผิดแล้วละก็ ใจลึก ๆ ของเจ้านั้นก็ปรารถนามันอยู่กระมัง”

อี้เหมยมิพูดเปล่า เท้าบางในเสื้อคลุมบางเบาได้เดินอ้อมมาหยุดอยู่ตรงหน้าชายหนุ่ม พร้อมทั้งยิ้มยั่วยวนท่ามกลางแสงสลัวจากโคมไฟในมือบางของหญิงสาว มือบางอีกข้างที่ยังว่างอยู่วางทาบบนอกแกร่งหนาแน่น ก่อนจะค่อย ๆ เลื่อนลงต่ำ

หมับ!

มือหนาคว้าจับข้อมือบอบบางเอาไว้ ก่อนที่มันจะเลื่อนต่ำลงไปยังส่วนที่ไม่สมควร น้ำหนักที่จับข้อมือนางมิหนักหรือเบาไป ชายหนุ่มดันมือของหญิงสาวออกให้ห่างกาย ก่อนจะปล่อยออกเสมือนเป็นของร้อน แต่ถึงกระนั้น ใบหน้าหล่อเหลาก็ไร้ซึ่งความต้องการเฉกเช่นบุรุษโดยทั่วไป

“หึ ๆ หากเป็นข้าก็ยังดีกว่ามิใช่รึ แต่หากเป็น...”

ชายหนุ่มปรายตาไปยังความมืดอีกด้าน พร้อมยกยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะก้าวจากจุดที่ยืนในคราแรกเพื่อกลับไปยังที่พัก โดยไม่ได้สนใจหญิงสาวที่ยืนถือโคมไฟอยู่ตรงหน้าแม้แต่น้อย

หญิงสาวร่างกายยังเปียกชื้นภายใต้เสื้อคลุมตัวบาง หันไปตามทิศทางที่ชายหนุ่มมองก่อนจากไป ใบหน้าภายใต้แสงสลัวของโคมไฟคลี่ยิ้มเย้ายวนก่อนจะเปลื้องชุดคลุมออก รวมทั้งชุดเอี๊ยมด้านในที่เปียกชื้น เผยให้เห็นผิวขาวนวลเนียน ก่อนที่มือบางจะคว้าจับเสื้อผ้าที่แห้งขึ้นมาสวมใส่อย่างเชื่องช้า

‘เป็นท่านใช่หรือไม่ ท่านเยว่ ในที่สุด ท่านก็อดใจไม่ไหวสินะ ถึงได้แสร้งเดินจากไปแล้วย้อนกลับมาหาข้า กายของข้าพร้อมมอบมันแก่ท่านยิ่งนัก’

อี้เหมยคิดว่าบุรุษในความมืดคือชายที่นางหมายปอง นางรู้ว่ามีบุคคลที่สามนับตั้งแต่ก่อนจะก้าวขึ้นจากน้ำแล้ว แค่เพียงมิรู้ว่าเป็นผู้ใดเท่านั้นเอง ทว่าเมื่อชายหนุ่มที่ต่อคำอยู่กับนางเอ่ยอย่างมีความนัยออกมา ก็เดาได้ว่าต้องเป็นคนที่ชายหนุ่มคุ้นเคย คงเป็นผู้ใดไปมิได้นอกจากเยว่คัง ผู้ที่นางหมายตาเอาไว้เท่านั้น

กร๊อบ!

เสียงกิ่งไม้หักจากทางด้านหลัง ทำให้มือบางที่กำลังผูกสายคาดเอวชะงักเล็กน้อย เมื่อคนที่ซ่อนกายอยู่ได้ก้าวออกมาแล้ว

“แม่นางอี้เหมย”

ขวับ!

ใบหน้าหวานพลันซีดเผือดลงในทันทีเมื่อเห็นคนที่ก้าวออกมา แม้จะมีแสงเพียงแค่สลัว ๆ ทว่า นางก็เห็นชัดว่าคือใคร

“จะ...เจ้า กรี๊ดดดด ไม่จริง!”

เสียงกรีดร้องของอี้เหมยทำให้หรู่อี้ที่เพิ่งเอนกายลงนอนลุกพรวดขึ้นทันที มือบางคว้าอาวุธคู่กายหมายจะออกไปหาสตรีอีกคนของคณะเดินทาง

หมับ!

“นอน! อี้เอ๋อร์ อย่าใส่ใจผู้ที่คิดร้ายต่อเจ้าให้มากนัก นางมิใช่สตรีไร้สามารถ”

“ข้ามิได้โง่งมจนมิรู้สิ่งใด ท่านเยว่ แต่นางอาจกำลังลำบากจริงนะเจ้าคะ”

“ฮึ! ลำบากเช่นนั้นรึ เด็กโง่ เจ้ามิรู้จักโตเอาเสียเลย เชื่อข้าเถอะว่านางปลอดภัยดี แค่นางคงกำลังผิดหวังเท่านั้นเอง นอน...นี่คือคำสั่ง เข้าใจรึไม่ หืม!”

มือหนากดไหล่บางให้เอนกายลงบนผ้ารองนอนเช่นเดิม หญิงสาวจำต้องทำตามชายหนุ่ม ด้วยผู้เป็นนายหญิงได้กำชับมาหลายหนว่าให้เชื่อฟังผู้นำคณะเดินทางในครั้งนี้อย่างเคร่งครัด นางเชื่อมั่นว่าสิ่งที่ท่านหญิงมอบหมายมาย่อมมีความสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม3 (จบบริบูรณ์)   ตอนที่ 83.จบบริบูรณ์

    “มิได้นะพ่ะย่ะค่ะฮองเฮา”“นี่คือคำสั่ง ไปซะ”จงกงกงที่ถืออาวุธประจำกายผู้เป็นนายมาด้วย ได้ก้าวไปยังเตียงนอนก่อนจะวางกระบี่ไว้ข้างกายผู้เป็นนายหญิงแล้วขยับออกห่างเยว่เหยียนลุกขึ้นโดยยื่นมือไปรับน้องสาวกลับมาผูกติดกายไว้เช่นเดิม ก่อนจะเดินห่างผู้เป็นมารดาด้วยอาการนิ่งเงียบ มิเอ่ยสิ่งใดกับผู้ใดแม้แต่ครึ่งคำสองแม่ลูกเจ้าของบ้านกลับเข้ามาในห้องพร้อมห่อผ้า มารดาของหย่งฉีก้าวไปหยุดตรงหน้าขององค์ชายเยว่เหยียน ก่อนจะย่อกายให้“บุตรชายของข้าจะนำทางองค์ชายเข้าไปหลบซ่อนในป่าเพคะ”“เจ้าไปกับพวกเขา นี่คือคำสั่งของข้า อย่าได้มีใครขัดคำสั่งหากยังเห็นข้าเป็นฮองเฮาอยู่”“เพคะ เช่นนั้น หม่อมฉันจะปกป้องทั้งสองพระองค์ด้วยชีวิตเพคะ”สองแม่ลูกไม่รอช้า โดยหย่งฉีเป็นคนเดินนำหน้า มีเยว่เหยียนเดินตามไป มารดาของหย่งฉีและองครักษ์ติดตามไปอีกหนึ่งคน ส่วนที่เหลืออยู่ดูแลฮองเฮา รวมถึงจงกงกงที่มิห่างกายผู้เป็นนายหญิงไปที่ใด“พวกเจ้าคิดจะขัดคำสั่งข้าหรืออย่างไรกัน”“พระนาง มิว่าอย่างไร พวกข้าก็มิอาจทอดทิ้งพระนางไปที่ใดได้ ได้โปรดอย่างทรงกริ้วไปเลยพ่ะย่ะค่ะ”ก่อนที่จะทันได้เอ่ยสิ่งใดต่อ เสียงของผู้บุกรุกได้เรียกความสน

  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม3 (จบบริบูรณ์)   ตอนที่ 82. ถงไท่ซิน

    ชายป่านอกหมู่บ้านร่างสูงของถงไท่ซินยืนเอามือไพล่หลังมองไปยังอีกด้านของป่าที่เป็นเนินเขาเตี้ย ๆแกร๊บ! เสียงเหยียบใบแห้งมาจากทางด้านหลัง เขามิจำต้องหันไปมองก็รู้ว่าใคร“วันนี้ ข้าหวังว่าจะได้รับข่าวที่ดี”“นายท่าน ตอนนี้ที่เฉินอันยังคงนิ่งเงียบอยู่ขอรับ คนของเราพยายามที่จะสืบหาว่า ข่าวเรื่องนายหญิงยังมีชีวิตอยู่นั้นมาจากที่ใดขอรับ ข้าเกรงว่า…เอ่อ...”“เกรงจะเป็นกลลวงให้ข้าเผยตนสินะ” ถงไท่ซินต่อความให้ผู้มารายงาน“ขอรับ”“ในเมื่อตัวข้าก็ชรามากแล้ว จะตายวันใดก็มิอาจบอกได้ แล้วข้าจะกลัวไปเพื่ออะไรกัน”ถงไท่ซินเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนระโหย เขารู้สึกมีความหวังขึ้นมาเมื่อรู้ข่าวว่า แท้จริงแล้ว ภรรยาของเขายังคงมีชีวิตอยู่จากแหล่งข่าวที่ใดสักแหล่งเมื่อไม่กี่วันมานี้ จึงทำให้ชรารีบลงจากเขาเพื่อที่จะมาพบกับคนขอตนเพื่อฟังความจริงจากปากอีกครั้งภาพใบหน้าภรรยาผู้เป็นที่รักเวียนกลับมาในห้วงความคิด พาให้ถงไท่ซินนึกย้อนไปยังเรื่องราวเมื่อนานมาแล้วด้วยหัวใจอันร้าวรานแคว้นเฉินอันตำหนักหลวงซึ่งเป็นที่พำนักร่วมกันของฮ่องเต้เยว่ไท่ซานกับฮองเฮาเยี่ยซีเซียน เวลานี้ทั่วทั้งแคว้นต่างเฉลิมฉลองการถือกำเนิดขององค์

  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม3 (จบบริบูรณ์)   ตอนที่ 81.ตอนพิเศษ 4 ถงไท่ซิน

    “ท่านตาขอรับ ไยท่านตาถึงได้ชอบที่จะอยู่บนเขาซินไห่นี่เล่าขอรับ ไยมิลงไปอยู่กับพวกเราขอรับ”ถงเอ่อหลางเอ่ยถามผู้เป็นตาด้วยความสงสัย เขาจะขึ้นมาอยู่บนเขาเพื่อฝึกฝนวิชากับผู้เป็นตา ในช่วงเวลาที่ผู้เป็นตากลับจากเกาะดอกเหมย“ตาจะได้มองเห็นยายเจ้าได้ทุกวันอย่างไรเล่า นางอยู่ทิศนั้น ในที่ที่เราจะไม่มีโอกาสไปถึง”“ท่านตาชรามากแล้วก็ทำใจให้สงบเถิดขอรับ ท่านยายได้หลับไปนานแล้วนะขอรับ”“ฮา ๆ เจ้าเด็กน้อย เจ้ามันช่างเจรจาเกินไปแล้ว ไม่นาน ตาของเจ้าก็จะหลับไปชั่วกาลเช่นเดียวกับท่านยายของเจ้า”“ท่านตาขอรับ ท่านอาม่งเหยางดงามมากเลยใช่ไหมขอรับ”เมื่อหลานชายเอ่ยถึงบุตรสาวผู้ล่วงลับ แววตาอ่อนแสงเจือความอาลัยพลันฉายบนดวงตาที่เริ่มฝ้าฟาง ถงไท่ซินหันมามองเด็กชายช่างซัก ก่อนปล่อยวางเรื่องโศกเศร้าในอดีตไปกับสายลม ใช้ลมหายใจที่เหลืออยู่กับปัจจุบันทุกเสี้ยวเวลา ยามลาจากโลกนี้ไปแล้วจะได้มิรู้สึกผิดกับคนที่ยังมีชีวิตอยู่ระลึกเช่นนั้นจึงส่งยิ้มกว้างให้หลานชาย เอ่ยด้วยน้ำเสียงแกมหยอกเย้าเอ็นดู“ใช่แล้ว นางงดงามมิแพ้มารดาของเจ้าเลย เจ้าอยากรู้ไปทำไมรึ”“ก็เพราะใคร ๆ ก็ว่ามู่หลันเหมือนท่านอามาก เอ่อ…จากที่ข้ามองดู

  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม3 (จบบริบูรณ์)   ตอนที่80. ตอนพิเศษ 3.

    “เสด็จพี่ทั้งสองอย่าทรงกังวลไปเลย อย่างไรเสีย ลูกหลานของเราก็เลือกที่จะทอดทิ้งเราไปแล้ว”โม่เหยียนเฉาและโม่เหยาต่างหันขวับมามองน้องชายเป็นตาเดียว ด้วยถ้อยคำตอนท้ายมันขัดกันกับคำตอนต้น โม่หยางจงยิ้มร่า เมื่อเห็นสีหน้าและแววตาสงสัยของพี่ชายทั้งสอง“เจ้ายังเป็นปกติดีอยู่หรือไม่ หยางจง”“ข้าแค่อยากให้เสด็จพี่ทั้งสองผ่อนคลายลงบ้าง อนาคตจะเป็นเช่นไร เรามิอาจบอกได้ แค่ตอนนี้ เราสามพี่น้องยังมีลมหายใจดื่มด่ำกับความสุขยามชราก็ดีมากแล้วพ่ะย่ะค่ะ”“หึ ๆ เจ้าก็เป็นเสียแบบนี้ เข้าข้างในกันดีกว่า ข้าหิวมากแล้ว”สามพี่น้องพากันก้าวเข้าไปในตัวบ้าน พร้อมเสียงหัวเราะกันอย่างมีความสุข เสียงสนทนากันอย่างออกรสของพี่น้องสกุลโม่นั้น ยากที่ใครจะได้พบเห็น ยามใดที่มายังบ้านหลังนี้ พวกเขาจะละวางเรื่องบ้านเมืองลงชั่วคราวเพื่อสัมผัสความอบอุ่นจากสัมพันธ์พี่น้องร่วมสายเลือดที่น้อยครั้งจะได้มีโอกาสพบปะกันพร้อมหน้าเช่นนี้หุบเขาเหมยแดงหญิงสาวในชุดสีดำนั่งเหม่อมองไปยังด้านนอกหน้าผาที่ยื่นออกไปยังน้ำตก ใบหน้าครึ่งหนึ่งถูกปิดด้วยหน้ากากสีเงิน ดวงตานั้นกลับมามองเห็นแล้วก็จริง ทว่า รอยแผลที่อยู่ภายใต้หน้ากากกลับยังคงมีอย

  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม3 (จบบริบูรณ์)   ตอนที่79. รับโทษ

    เสียงอู้อี้ของถงมู่หลัน ทำให้จ้าวอวิ๋นรีบลุกขึ้นไปคว้าตัวหลานรักขึ้นมาอุ้มเอาไว้ในอ้อมแขน ก่อนจะพานางก้าวมายังเตียงของผู้เป็นพี่ชายตามคำเว้าวอนร่างอ้วนกลมดิ้นเล็กน้อยเพื่อที่จะลงไปนั่งบนเตียงของพี่ชายที่ตอนนี้กำลังนอนกระสับกระส่าย มือป้อมนุ่มนิ่มเอื้อมไปแตะยังแก้มของพี่ชาย ก่อนจะทุ่มตัวลงไปเต็มแรงทับอยู่บนอกของถงเอ่อหลาง สร้างความตกใจให้แก่ทุกคนที่อยู่ตรงนั้น ก่อนที่โม่ฟางเล่อจะยื่นมือไปเพื่ออุ้มบุตรสาวออกมาหมับ! มือของถงเอ่อหลางรวบกอดร่างอ้วนของน้องสาวเอาไว้แนบอกราวกับปกป้อง เช่นที่เคยทำมาตลอดในยามที่เขาเกรงว่านางจะเสียใจหรือกลัวใครจะมาทำร้ายน้องสาวเพียงคนเดียวเด็กชายหวาดกลัวว่าจะไม่อาจคุ้มครองคนที่ตนรักให้ปลอดภัย เหมือนในอดีตที่เขามิอาจปกป้องคนที่รักเอาไว้ได้“พี่จะปกป้องเจ้ามิให้ผู้ใดทำร้ายเจ้าได้”“อือ ๆ พี่ใหญ่ ข้าร้อน ท่านพี่ตื่นได้แล้ว”ถงเอ่อหลางลืมตาโพลงขึ้นในทันที ร่างอ้วนกลมที่อยู่บนตัวเขานั้นช่างเหมือนใครบางคนในอดีตเหลือเกิน มือเรียวยกขึ้นลูบแก้มยุ้ยของน้องสาว“พี่รู้สึกว่ามีหินก้อนใหญ่หล่นทับตัวอย่างไรไม่รู้”“มีที่ไหนเล่าเจ้าคะก้อนหิน มีแค่อนาคตของหญิงงามที่สุดใต้หล้า

  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม3 (จบบริบูรณ์)   ตอนที่78.คราวหลัง

    อวี้หลิงเซียวยกมือขึ้นห้ามองครักษ์เอาไว้เสียก่อน นางในตอนนี้แม้จะมียศแต่ก็เป็นธิดาของเจ้าเมืองเท่านั้น จะถืออำนาจบาตรใหญ่มากเกินไปมันดูไม่ดีสักเท่าไร ยิ่งมองการแต่งกายของเด็กน้อยทั้งสองคนนั้นแล้วบอกได้เพียงว่ามิธรรมดาเป็นแน่ไหนจะบุรุษหลายคนที่ยืนอยู่นั่นอีก มองแค่ปราดเดียวนางก็รู้ได้ว่าเป็นยอดฝีมือระดับสูงทุกคน โดยเฉพาะคนที่อุ้มเด็กหญิงตัวอ้วนนั่นด้วยแล้ว ยิ่งมิควรที่จะต่อกรด้วย นางฝึกยุทธ์ตั้งแต่ห้าขวบ เติบโตมากับพี่ชายที่เป็นทหารย่อมต้องถูกสอนมาเป็นอย่างดี“ข้าน้อยหลิงเซียว ต้องขออภัยท่านอาด้วยนะเจ้าคะที่มารบกวน ด้วยข้านึกว่าเป็นชาวบ้านทั่ว ๆ ไป เกรงจะเกิดอันตรายเอาได้หากมีโจรป่าผ่านมา”“ขอบใจเจ้ามากคุณหนู แล้วคราวหลัง ข้าจะเตือนหลาน ๆ ให้ระวังตัวให้มากขึ้น” จ้าวอวิ๋นนึกชื่นชมแม่สาวน้อยคนนี้ในใจ ดูเหมือนความนึกคิดของนางจะเติบโตกว่าวัยที่แท้จริงหลายปีทีเดียว“เจ้าค่ะ”“พี่สาว มากินกุ้งด้วยกันสิเจ้าคะ มู่หลันอยากมีพี่สาว มู่หลันไม่ชอบพี่ชายแล้ว”เด็กน้อยแก้มยุ้ยมิพูดเปล่า แต่ยังทำท่าทางน่าเอ็นดู พร้อมรอยยิ้มกว้างจนทำให้ตาของนางกลายเป็นเส้นตรง ก่อนจะสะบัดหน้าให้ผู้เป็นพี่ชายที่หันกลับ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status