เข้าสู่ระบบ"จะรอดไหมเนี่ยเหมยเอ๋ย" เหมยเมยล้มตัวลงนอนแผ่หลาบนเตียงพร้อมถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่ระคนหนักอกหลังจากแม่มาเฟียหนุ่มออกไปแล้ว เธอรู้สึกกังวลอย่างบอกไม่ถูกกลัวทุกคนจะจับได้ว่าเธอปลอบตัวมาโดยเฉพาะหงส์ฟ้าที่รู้จักมักคุ้นกับเธอมานานมีหรือจะดูไม่ออก
'ครืด ครืด' โทรศัพท์เครื่องหรูแผดเสียงดังขึ้นดึงให้ร่างบางหลุดออกจากห้วงความคิด เธอหยัดกายลุกขึ้นแล้วเดินไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าสะพายข้างออกมาดูเมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์อิงฮวาจึงกดรับสาย (เป็นไงบ้างเหมย) ปลายสายพ่นคำถามใส่ทันทีที่เธอกดรับ "ฉันจะบ้าตายดูท่างานนี้น่าจะไม่ง่าย" (ทำไมมีอะไร) "แกรู้ไหมว่าคนที่ฉันต้องหมั้นด้วยคือพี่ชายของหงส์ฟ้า" (ห๊ะ..ทำไมโลกมันกลมขนาดนี้) ปลายสายร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจเมื่อได้ยินที่เพื่อนสาวบอก "นั่นสิหงส์ฟ้าต้องจับได้แน่ ๆ ว่าเป็นฉัน" (แกจะเอาไงต่อ) "มาถึงขนาดนี้แล้วต้องเดินหน้าอย่างเดียวถอยไม่ได้แล้ว...ไม่ว่าผลออกมาเป็นยังไงฉันจะยอมรับมัน" (สู้ ๆ นะแกฉันเป็นกำลังใจให้) ก๊อก! ก๊อก! "แกฉันวางสายก่อนนะไม่รู้ใครมาเคาะประตู" เสียงเคาะประตูดังขึ้นในขณะที่เหมยเมยกำลังระบายทุกข์กับอิงฮวาเธอจึงขอวางสายจากเพื่อนสาวแล้วเดินไปเปิดประตู "คุณ" ใบหน้าสวยถึงกับหน้าถอดสีเมื่อเห็นว่าผู้มาเยือนคือมาเฟียหนุ่มว่าที่คู่หมั้นของเธอนั้นเอง เธอลอบกลืนน้ำลายเหนี่ยว ๆ ลงลำคอลำอึกใหญ่ ก่อนเปล่งเสียงถามคนที่ยืนวางท่าจ้องมองเธอราวกับจะกินเลือดกินเนื้อเสียงแผ่ว "คุณมีอะไรรึเปล่าคะ" "..." ไร้เสียงตอบจากมาเฟียหนุ่มดวงตาคมกริบจ้องมองใบหน้าหญิงสาวอย่างพินิจพิจารณาเขารู้สึกคับคล้ายคับคาเหมือนเคยเจอเธอที่ไหนมาก่อนแต่คิดเท่าไรก็คิดไม่ออก "ถ้าคุณไม่มีธุระอะไรฉันขอตัวพักผ่อนต่อนะคะ" คนโดนสายตาคมกริบจับจ้องถึงกับเลิ่กลั่กใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นส่ำ ๆ รู้สึกหวาดหวั่นไม่น้อยกลัวว่าเขาจำได้จึงรีบพูดตัดบทแล้วดันประตูให้ปิดลง แต่ก็ช้ากว่าร่างสูงที่ใช้ยกมือขึ้นยันประตูเอาไว้แล้วตะเบ็งเสียงใส่เธอดังลั่น "ออกไปจากที่นี่ซะ" "ฉันก็ไม่ได้อยากอยู่ไม่ได้อยากเกี่ยวข้องกับคนแบบคุณนักหรอก" หญิงสาวพูดกระแทกเสียงใส่คนตรงหน้าด้วยความไม่พอใจถ้าเลือกได้เธอก็ไม่อยากมาอยู่ร่วมชายคากับผู้ชายอันตรายแบบเขาสักนิด และเหมือนคำพูดของเธอจะยั่วอารมณ์ของอีกคนให้เดือดดาล มาเฟียหนุ่มจ้องหน้าหญิงสาวอย่างเอาเรื่องพร้อมกับย่างสามขุมเข้าหาจนเธอต้องถอยหลังกรูด "คนแบบผมมันทำไม" "ฉันหมายความว่าคุณทั้งหล่อ ทั้งรวย เพอร์เฟ็คทุกอย่างคงไม่เหมาะสมกับคนขี้เหร่อย่างฉัน" หญิงสาวรีบพูดแก้ตัวพัลวันเมื่อเห็นท่าไม่ดีและมันก็ได้ผลร่างสูงหยุดชะงักเท้าทันที "รู้ตัวก็ดี" มาเฟียหนุ่มหาได้เชื่อคำพูดของหญิงสาวไม่แต่เขาแค่ไม่อยากเข้าใก้ลเธอไปมากกว่านี้เลยยอมหยุด ก่อนพูดทิ้งท้ายแล้วหมุนตัวเดินกลับห้องนอนของตัวเอง "ป๊านะป๊าไปขุดเอาผู้หญิงแบบนี้มาเป็นลูกสะไภ้ได้ยังไง" เสียงทุ้มพึมพำออกมาระคนหัวเสียก่อนจะเดินไปหย่อนก้นนั่งไขว้ห้างบนโชฟาแล้วหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดไฟสูบ ใบหน้าหล่อเหลายกยิ้มร้ายออกมาเมื่อคิดอะไรสนุก ๆ ได้ "ขอต้อนรับว่าที่คู่หมั้นหน่อยแล้วกัน" ร่างสูงโปร่งหยัดกายลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนส่าวเท้าเดินตรงไปยังห้องลับหลังคฤหาสน์ที่เขาเลี้ยงงูเผือกและเสือเอาไว้ "มานี่ลูกรักป๊ามีอะไรสนุก ๆ ให้ทำ" มาเฟียหนุ่มยืนมองงูเผือกตัวใหญ่ที่เขาเป็นคนเลี้ยงเองกับมือมาตั้งแต่ตัวเล็ก ๆ พร้อมกับกระตุกยิ้มมุมปากมือหนายื่นไปลูบตัวมันเบา ๆ เพียงไม่นานงูเผือกก็เลื้อยมาพันตามแขนของเขาอย่างรู้งาน เมื่อได้สิ่งที่ต้องการแล้วเขาจึงเดินไปหยิบกุญแจห้องของหญิงสาวที่แขวนอยู่ในห้องเก็บกุญแจจากนั้นจึงเดินตรงไปยังห้องเธอทันทีเหมยเมยมองสบดวงตาของร่างสูงด้วยแววตาอ่อนโยนก่อนระบายยิ้มออกมา อุ้งมือนุ่มยกขึ้นประคองใบหน้าหล่อเหลาไว้ เมื่อก่อนเธอคิดว่าตัวเองคงไม่สามารถรักและเริ่มต้นใหม่กับคนที่เคยทำร้ายตัวเองได้แต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นอย่างที่คิดความดี ความรัก และความเอาใจใส่ของมาเฟียค่อย ๆ สมานรอยร้าวในใจของเธอให้ดีขึ้น หลอมละลายความโกรธแค้นเกลียดชังให้หายไปกลายเป็นความรู้สึกดี ๆ เข้ามาแทนก็ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไรที่เธอเริ่มตกหลุมรักคนตรงหน้ารู้ตัวอีกทีก็รักเขาเข้าแล้วจากวันนี้ไปเธอจะไม่ฝืนความรู้สึกตัวเองอีกแล้วปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไปตามเสียงเรียกร้องของหัวใจ..."คุณสัญญาแล้วนะ...หลังจากนี้หากคุณปกปิดอะไรฉันแม้แต่เรื่องเดียว หรือทำให้ฉันเสียน้ำตาฉันจะหอบลูกหนีเหมือนที่ม๊าคุณเคยทำ" ใบหน้าสวยเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมทันทีที่พูดจบ แววตาอ่อนโยนทว่าดูเด็ดเดี่ยวจับจ้องใบหน้าหล่อเหลาเชิงสื่อให้รู้ว่าเธอพูดจริงทำจริง คนฟังถึงกับลอบกลืนน้ำลายเหนี่ยว ๆ ลงลำคออึกใหญ่ เขามันคนมีคดีติดตัวเธอว่าไงเขาก็คงต้องว่าตามนั้นแต่ก็อดสงสัยไม่ได้อยู่ดีว่าเมียสาวรู้เรื่องนี้ได้ยังไงทั้งที่เขาไม่เคยเล่าให้เธอฟังเลยมิหน่ำซ้ำเจ้าหล่อนยังเอามาขู
'ครืด ครืด' "อื้อ" ร่างอวบอั๋นที่นอนหลับบนเตียงคิงไซส์รู้สึกตัวขึ้นมาในช่วงสายของวันใหม่เพราะโทรศัพท์ที่กำลังแผดเสียงดังอย่างต่อเนื่อง มือเล็กเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์บนหัวเตียงมากดรับสายทั้งที่ตายังคงปิดอยู่ ก่อนกรอกน้ำเสียงงัวเงียลงตามสาย "ค่ะป๊า" (ลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวได้แล้ว) "นี่กี่โมงแล้วคะป๊า" (11 โมงแล้วลูก) "ค่ะงั้นเหมยวางสายละนะ" เหมยเมยค่อย ๆ ปรือตาขึ้นมาก่อนกดวางสายจากผู้เป็นพ่อแล้วรีบหยัดกายลุกลงจากเตียงเดินเข้าไปอาบน้ำแต่งตัว "ใส่ชุดไหนดีนะ" ดวงตากลมโตไล่มองชุดเดรสที่แขวนเรียงรายในตู้เสื้อผ้าอย่างชั่งใจเธอแอบมีความหวังเล็ก ๆ ว่าการกลับไปจีนในวันนี้จะได้เจอกับมาเฟียหนุ่มจึงอยากแต่งตัวให้ดูดีที่สุด รอยยิ้มบาง ๆ ผุดขึ้นประดับใบหน้าสวยที่ถูกแต่งเติมด้วยเครื่องสำอางบางเบา เธออดขำกับการกระทำของตัวเองไม่น้อย ทว่ามันก็ไม่แปลกอะไรถ้าเธออยากจะดูสวยในสายตาของคนที่รู้สึกพิเศษด้วย มือเล็กเอื้อมไปหยิบชุดเดรสปาดไหล่สีฟ้าครามยาวคลุมเข่าออกมาสวมใส่ก่อนหมุนตัวไปมา 2-3 รอบหน้ากระจกบานใหญ่สำรวจความเรียบร้อยของตัวเอง เมื่อจัดการตัวเองเสร็จเรียบร้อยเธอก็เก็บของใช้จำเป็นใส่ในกระเป๋าเดิน
หลายวันต่อมา"คุณเหมยเป็นอะไรหรือเปล่าคะ" เสียงของซุนหนี่ดึงให้ร่างอวบอั๋นที่นั่งเขี่ยข้าวในจานอย่างเหม่อลอยหลุดออกจากภวังค์ เธอถอนหายใจออกมาระคนเบื่อหน่ายก่อนตอบไป "แค่รู้สึกเบื่อ ๆ ค่ะ""คิดถึงคุณมังกรเหรอคะ" ซุนหนี่อดที่จะแซวไม่ได้เพราะตั้งแต่มาเฟียหนุ่มไม่อยู่หญิงสาวก็ดูเหงาหง่อยไม่สดใสเหมือนก่อน คนโดนแซวรีบปฏิเสธทันควัน "เหมยไม่ได้คิดถึงเขาสักหน่อยพี่ซุนหนี่""รู้สึกอะไรก็แสดงออกมาเถอะค่ะคุณเหมย...ชีวิตคนเราไม่มีอะไรแน่นอนจะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้อย่าหลอก อย่าฝืนตัวเองเลยค่ะสุดท้ายก็เป็นเราเองที่ทุกข์ใจปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไปตามความรู้สึกดีกว่า" ซุนหนี่พูดทิ้งท้ายให้หญิงสาวได้คิดก่อนจะเดินหายเข้าไปในครัวเหมยเมยนั่งครุ่นคิดตามคำพูดของซุนหนี่เธอพยายามตั้งคำถามกับตัวเองซ้ำ ๆ ว่าสิ่งที่กำลังเป็นอยู่ในตอนนี้มันคืออะไรเธอแค่คุ้นชินกับการมีเขาข้างกายหรือเขาได้แทรกซึมเข้ามาอยู่ภายในใจของเธอแล้วกันแน่เธอถอนหายใจออกมาครั้งแล้วครั้งเล่าก่อนจะลุกเดินขึ้นห้องไปทั้งที่ข้าวยังไม่ตกถึงท้องสักเม็ด มืือเล็กเอื้อมไแหยิบโทรศัพท์บนหัวเตียงขึ้นมาต่อสายหาผู้เป็นพ่อเพื่อถามไถ่เรื่องของมาเฟียหนุ่มเพราะ
เหมยเมยนอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนห้องปล่อยให้มาเฟียหนุ่มได้ทำงานจนเวลาผ่านไปนานหลายชั่วโมงก็ไม่มีวี่แววว่ามาเฟียหนุ่มจะขึ้นมาสักทีทำให้เธออดเป็นห่วงไม่ได้จนต้องเดินลงไปดูเมื่อมาถึงห้องนั่งเล่นก็พบว่าเขานั่งหลับอยู่ทั้งที่โน็ตบุ๊คยังเปิดคาไว้ดวงตากลมโตจับจ้องใบหน้าหล่อเหลาระคนเห็นใจถึงแม้เขาจะเครียดหรืองานเยอะแค่ไหนก็ไม่เคยบกพร่องเรื่องการดูแลเธอ ไม่เคยอารมณ์เสียหงุดหงิดใส่ ไม่เคยแม้แต่ปริปากบ่นสักคำหากเขาไม่สนใจหรือไม่รับผิดชอบเธอก็ย่อมได้เพราะไม่ได้มีใครบังคับ ทว่าเขากลับยอมเสียสละความสุขและเวลาส่วนตัวมาให้เธอ"คงเหนื่อยมากสินะถึงได้หลับไม่เป็นท่าแบบนี้" เธอลอบถอนหายใจออกมาระคนหนักอกก่อนหมุนตัวเดินขึ้นไปหยิบผ้าห่มบนห้องนอนมาห่มให้เขาแล้วหย่อนสะโพกนั่งลงข้าง ๆ มือเล็กสัมผัสลงบนใบหน้าเกลี้ยงเกลาอย่างแผ่วเบา "ขอบคุณที่คอยดูแลฉันกับลูกเป็นอย่างดีนะคะ" เสียงหวานเปล่งออกมาจากริมปากบางเบา ๆ ด้วยความซาบซึ้งใจในขณะที่อุ้งมือเล็กยังคงประคองใบหน้าหล่อเหลาอยู่โดยไม่รู้เลยว่าอีกคนตื่นตั้งแต่เธอห่มผ้าให้แล้ว"ผมเต็มใจดูแลคุณกับลูกไปตลอดชีวิต" มือเล็กรีบผละออกจากใบหน้าหล่อเหลาอย่างเร็วในตอนที่เสียงทุ
หลายเดือนต่อมา..วันเวลาหมุนเวียนดำเนินไปเรื่อย ๆ จากวันผ่านไปเป็นเดือนมาเฟียหนุ่มยังคงปฏิบัติต่อเหมยเมยเหมือนวันแรกที่เขาได้ลั่นวาจาไว้ การกระทำของเขาเริ่มสัมฤทธิ์ผลหญิงสาวยอมเปิดใจให้เขามากขึ้นความสัมผัสของทั้งสองคนเริ่มดีขึ้นตามลำดับตอนนี้เหมยเมยอายุครรภ์ได้หกเดือนกว่า ๆ แล้วท้องของเธอเริ่มใหญ่ขึ้นทุกวันจะเดินเหินไปไหนก็ไม่ค่อยสะดวกเหมือนแต่ก่อน"มังกร" เสียงหวานเปล่งออกจากริมฝีปากบางของร่างอวบอั๋นที่ยืนแต่งตัวอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ภายในห้องนอน คนถูกเรียกละสายตาจากหน้าจอโทรศัพท์เงยมองหน้าเจ้าของเสียง "ว่าไงครับ" "รูดซิบชุดให้หน่อยฉันรูดไม่ถึง" สิ้นสุดคำพูดของหญิงสาวร่างสูงก็เก็บโทรศัพท์ใส่ในกระเป๋ากางเกงทันที ก่อนหยัดกายลุกขึ้นจากโซฟาเดินไปยืนซ้อนหลังร่างอวบอั๋นหน้ากระจกแล้วค่อย ๆ บรรจงรูดซิบชุดเดรสตัวโคล่งอย่างระมัดระวัง"ตื่นเต้นจังจะได้รู้แล้วว่าลูกเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย" มาเฟียหนุ่มคลี่ยิ้มอย่างมีความสุขเพียงแค่คิดว่าวันนี้จะได้รู้เพศของลูกหลังจากหญิงสาวอึกอักไม่ยอมไปอัตร้าซาวด์สักทีให้เหตุผลว่าอยากรอลุ้นตอนเกิดแต่เขาใจร้อนอยากรู้เลยอ้อนวอนทุกวันจนเธอรำคาญยอมอัตตร้าซาวด์ ใบหน้า
ภายในห้องถูกปกคลุมด้วยความเงียบไร้เสียงตอบกลับจากร่างบางมีเพียงน้ำสีใสที่ค่อย ๆ ไหลออกทางหางตาซึ่งเป็นคำตอบได้ดีว่าเธอไม่โอเค และกำลังรู้สึกกลัวกับการกระทำนี้ มาเฟียหนุ่มถึงกับใจกระตุกวูบเมื่อเห็นหยดน้ำใสไหลจากตาคู่สวยเขาไม่คิดว่าเธอจะกลัวมากขนาดนี้การกระทำของเขาคงสร้างบาดแผลฝังลึกในใจเธอมากมือหนายกขึ้นเช็ดน้ำตาที่รินไหลออกจากหางตาคู่สวยอย่างแผ่วเบาพลางพยายามข่มความต้องการหักห้ามอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ ถึงแม้จะต้องการมากแค่ไหนเขาก็ไม่มีวันกลับไปทำแบบเมื่อก่อนอีกเขาจะทำให้เธอยินยอมพร้อมใจให้ได้ในสักวัน "ไม่ต้องร้องไห้หากคุณไม่ยินยอมผมจะไม่ทำ" เสียงทุ้มทว่าฟังดูอบอุ่นเปล่งออกจากริมฝีปากหนาทำให้คนฟังเบาใจขึ้นมาบ้าง เธอลอบหายใจอย่างโล่งอกเมื่อร่างสูงผละออกจากตัวแล้วหยัดกายลุกเดินเข้าห้องน้ำไปผ่านไปกว่าสิบนาทีมาเฟียหนุ่มก็เดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากปลดปล่อยอารมณ์ค้างคาของตัวเองเสร็จแล้ว เขาเดินมาหยิบเสื้อผ้าขึ้นสวมใส่ก่อนเอ่ยเมื่อเห็นว่าร่างบางบนเตียงนั่งมองเขาด้วยแววตาสับสน "ก็บอกแล้วไงว่าผมไม่ใช่มังกรคนเดิมอีกแล้ว" "เวลาแค่เดือนกว่า ๆ ยังยืนยันไม่ได้หรอกว่าคุณจะดีจริงหรือเปล่า" เหมยเมยจ







