มัทรีเพ่งมองหน้าจอที่แตกร้าวของตนอย่างยากลำบากเพื่อจดสถานที่เที่ยวเอาไว้ในสมุดเล็กๆ ตั้งใจจะคุยกับฐิติกรหลังมื้ออาหารเย็น เธอไม่สนใจแล้วว่าผู้หญิงของเขาจะมองเธอแบบไหน หากอีกฝ่ายเข้าใจว่าเธอเป็นคู่แข่งก็ดี ในเมื่อเปิดศึกมาแล้วคนอย่างมัทรีไม่ยอมให้ใครมาแกล้งฟรีแน่นอน
ทว่าก็อดถอนหายใจด้วยความเสียดายมือถือเป็นระยะไม่ได้ อยากร้องไห้กับชะตากรรมช่วงนี้สุดๆ แต่ก็บอกตัวเองว่าหากเธอทำงานพิเศษสำเร็จก็มีเงินซ่อมมันแล้ว
‘แยมอยากให้พี่ทิมเห็นว่าผู้หญิงคนนั้นไม่จริงใจ’
เธอนึกถึงคำพูดของรติยาขึ้นมา
‘เขาพยายามจะจับพี่ทิมให้ได้หลังจากได้มาเป็นพยาบาลส่วนตัวของพี่ทิมเมื่อสองเดือนก่อน ตอนไปเยี่ยมแยมเห็นกับตาว่าเขาเข้าไปเสนอตัวให้พี่ทิมถึงในห้องนอน ไม่เกรงใจหรือสนใจเลยว่าแยมก็อยู่บ้านนั้นด้วย ที่สำคัญเพื่อนแยมเป็นหมออยู่ที่โรงพยาบาลเดียวกัน เขาบอกว่าเธอมีคนที่คบหาอยู่แล้ว’
ตอนฟังนั้นมัทรีเต็มไปด้วยความลำบากใจ หากก็พยายามวางสีหน้าให้นิ่งเข้าไว้
‘ปกติพี่ทิมไม่เคยให้ผู้หญิงไปไหนมาไหนด้วย แต่ครั้งนี้มีผู้หญิงคนนั้นมาด้วย แยมกลัวว่าเขาจะกลายเป็นคนสำคัญของพี่ทิม เพราะตอนนี้เธอก็ออกจากงานโรงพยาบาลมาดูแลพี่ทิมเต็มตัวแล้วด้วย’
สาวสวยมีสีหน้าหนักใจ ขณะที่มัทรีคิดในใจว่านั่นมันเป็นเรื่องส่วนตัวของพี่ชายเธอ ถ้าเขาชอบและจะเลือกผู้หญิงคนนั้น แต่คนเป็นน้องน้องสาวคงอยากให้พี่ชายได้สิ่งที่ดีที่สุด เหมาะสมกับชาติตระกูลของพวกเขา
‘แยมอยากให้คุณมัทรีขัดขวางพวกเขา ยิ่งทำให้ผู้หญิงคนนั้นเผยธาตุแท้ให้พี่ทิมไม่ชอบเธอได้ แยมจะยิ่งขอบคุณมากเลยค่ะ’
‘สรุปงานที่คุณอยากให้ฉันทำคือทำให้เขาเลิกกัน?’
‘พวกเขายังไม่ได้เป็นอะไรกันค่ะ แค่คุณมัทรีทำให้เขาไม่มีเวลาอยู่ใกล้กัน ไม่มีเวลาส่วนตัวให้ผู้หญิงคนนั้นสานต่อความสัมพันธ์จนจับพี่ทิมได้สำเร็จก็พอ’
คนฟังค่อนข้างงุนงงเล็กน้อยแต่ไม่เข้าใจอย่างมาก ทว่าเมื่อคิดได้ว่าคนสมัยนี้ก็มีบ้างที่นอนด้วยกันโดยไม่ได้คบหา ทำให้เธอพยักหน้าเข้าใจ หากก็ไม่ได้รับปาก
‘ฉันอาจจะทำไม่สำเร็จนะคะ คุณต้องเผื่อใจเอาไว้ อีกอย่างฉันไม่อยากทำผิดศีลธรรมเลย หาทางแยกคนที่เขาชอบพอกันแบบนี้ฉันไม่สบายใจเลย’
เธอบอกตามตรง อีกฝ่ายมองเธอนิ่งครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มหวานให้
‘ยังไงก็ไม่ต้องคิดมากนะคะ แยมเข้าใจ เรื่องแบบนี้มันก็น่าลำบากใจอยู่ แยมถึงได้อยากได้คนที่ไว้ใจได้ เผื่อคุณมัทรีจะพอหาทางช่วยได้ คุณมัทรีไม่สบายใจ รู้สึกไม่ดีที่จะทำ หรือทำไม่สำเร็จก็ไม่เป็นไรค่ะ’
ท่าทางของรติยาดูไม่ได้เคืองเธอแม้แต่น้อย อีกฝ่ายดูผ่อนคลายขึ้นกว่าช่วงแรกๆ ด้วยซ้ำ
‘แยมสบายใจนะคะ ที่เป็นคุณมัทรีที่มาทำงานนี้ คุณดูเป็นคนดีแล้วก็จริงใจมากเลยค่ะ แยมชอบ’
หญิงสาวบอกมัทรีจึงยิ้มให้อีกฝ่าย จากนั้นสาวสวยก็บอกเงื่อนไขค่าตอบแทนหากเธอทำสำเร็จ แม้จะย้ำว่า หากเธอไม่สบายใจที่จะทำก็ไม่เป็นไร แต่บอกรายได้มาขนาดนี้แล้วเป็นใครก็มีลังเลแน่นอน แม้แต่มัทรีเองด้วย
แล้วตอนนี้เธอก็เลือกได้แล้วด้วยว่าจะทำอย่างไรต่อไป เงินน่ะก็อยากได้อยู่หรอก แต่เรื่องโดนฐิติกรปรามาสและผู้หญิงของเขากลั่นแกล้งนี่เป็นเรื่องที่ยอมกันไม่ได้
แม้คิดว่าจะคุยกับฐิติกรเรื่องโปรแกรมเที่ยวหลังอาหารทว่าเมื่อเธอเอ่ยปากอีกฝ่ายกลับมองตาดุ ก่อนเอ่ยน้ำเสียงเรียบ
“ไม่ล่ะ เอาไว้ก่อน มาถึงไม่กี่วัน ผมอยากพัก ยังไม่อยากไปไหน”
มัทรีตาโตด้วยความอึ้ง ก็ไหนเขาบอกว่าจัดโปรแกรมได้เมื่อไรก็ให้เสนอได้เลยไม่ใช่หรือ
ยังไม่ทันได้ถามร่างสูงใหญ่ก็หันหลังเดินออกจากโต๊ะอาหารไปโดยมีสาวสวยเดินเกาะแขนไปด้วยเพื่อแสดงออกอย่างชัดเจนถึงสถานะของตน
“อาหารถูกปากไหมคะ”
ป้าเอื้องเอ่ยถามเธอ มัทรีจึงยิ้มให้
“อร่อยมากค่ะ”
“เห็นคุณทานได้น้อย”
“มัททานมื้อเย็นน้อยน่ะค่ะ”
“อ๋อ โล่งอกไปที นึกว่าคุณไม่ชอบ”
ป้าเอื้องยิ้มออก ขณะที่มัทรีคิดบางอย่างขึ้นมาได้
“ป้ามีที่เที่ยวดีๆ ในเชียงรายแนะนำบ้างไหมคะ”
“ถ้าถามคนแก่อย่างป้าก็คงเป็นวัดเสียมากกว่า ที่เที่ยวใหม่ๆ ป้าไม่ค่อยรู้จักหรอกค่ะ ต้องถามแม่สองคนนั้น”
สายตาของผู้สูงวัยเหลือบไปยังสองสาวที่กำลังเก็บโต๊ะ มัทรีมองตามแล้วก็เห็นว่าทั้งคู่ตาพราวขึ้นมาทันที หญิงสาวจึงเอ่ย
“งั้นสองคนช่วยพี่หน่อยนะ”
“เจ้า”
สองสาวตอบรับพร้อมเพรียงด้วยความกระตือรือร้น
หลังจากได้ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวทั้งวัดและที่นิยมใหม่รวมถึงจังหวัดอื่นๆ ของภาคเหนือจากบัวตองกับน้ำอิง มัทรีก็เสิร์ชดูภาพเพิ่มเติมและรวมกับลิสต์ของตัวเอง แล้วดาวน์โหลดภาพมาประกอบข้อมูลนำเสนอ โดยพิมพ์ในโน้ตบุ๊กเครื่องเล็กที่พกมาด้วยเอาไว้ดูซีรีส์แก้เบื่อ จากนั้นก็ฝากให้บัวตองไปปริ้นต์ที่ร้านพร้อมซื้อแฟ้มใสมาจัดใส่เสร็จเรียบร้อยในเย็นวันต่อมา
“ถึงจะเล่นแง่แค่ไหน คนอย่างมัทรีก็ไม่ท้อหรอกน่า ในเมื่อไม่อยากฟังก็เอาไปเป็นเปเปอร์แล้วกัน ทริปนี้มัทรีจัดให้ อ่านให้จุใจไปเลย”
หญิงสาวเปิดดูแฟ้มในมือที่ได้จากบัวตองอย่างพอใจ ภารกิจต่อไปของเธอคือเข้าถึงตัวฐิติกรให้ได้ และเธอก็รู้ว่าตอนนี้ชายหนุ่มอยู่ที่ไหนเพราะน้ำอิงมาบอกก่อนหน้านี้ว่าเอาน้ำชาไปเสิร์ฟให้เจ้านายหนุ่มในห้องสมุดโดยไม่มีผู้หญิงของเขาอยู่ในนั้นด้วย
มัทรีฝากสองสาวเอาไว้ว่าหากเจ้านายของพวกเธอไม่มีสาวสวยต่างชาติอยู่ข้างกายเมื่อไรให้บอกเธอด้วย แล้วก็เห็นสองสาวทำตาวิบวับใส่เธอทันที
‘พี่ไม่อยากให้ผู้หญิงของเจ้านายพวกเราเข้าใจผิดแค่นั้นเอง คุยกันตามลำพังง่ายกว่าเยอะ ไม่ต้องมีสายตาระแวงมาคอยมอง’
หญิงสาวอธิบายไปตามที่คิด
‘แม่นเจ้า ข้าเจ้าสองคนยังโดนมองตาเขียวเลยเจ้า’
บัวตองบอกกลับมา ซึ่งนั่นทำให้เธอคิดว่า ผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ได้มั่นใจในสถานะของตนเองเช่นกัน หมายความว่าฐิติกรยังไม่ได้แสดงท่าทางจริงจังกับเธอ เพราะหญิงสาวมองผู้หญิงรอบตัวชายหนุ่มเป็นคู่แข่งแทบทุกคน
‘แบบนี้ก็มีลุ้นสินะ’
มัทรีอดฝันถึงเงินหกหลักก้อนโตมานอนอยู่ในกระเป๋าไม่ได้ เมื่อมองเห็นโอกาสที่อาจเป็นไปได้ของตน
“ถ้าทำให้คุณทิมเชื่อใจได้ ที่เหลือก็ไม่ยาก”
เธอบอกกับตัวเอง ขอแค่ขายสถานที่เที่ยวให้ฐิติกรพอใจได้ เขาน่าจะมองเธอในแง่ที่ดีขึ้นบ้าง อีกอย่างการออกไปข้างออกบ่อยครั้งทั้งคู่ก็จะมีเวลาอยู่กันตามลำพังน้อยลงไปด้วย เธอต้องทำให้ชายหนุ่มอยากไปเที่ยวกับเธอให้ได้
=====
“มัทคิดถึงคุณมาก อยากรักคุณที่สุด”มัทรีแนบร่างลงไปหาร่างสูงใหญ่แล้วกระซิบบอกลำแขนเรียวโอบลำคอแกร่งแน่นถูไถตัวเองกับชายหนุ่มพร้อมส่งเสียงครวญแผ่วเบาด้วยความรัญจวนที่ตนเป็นผู้สร้างขึ้น อกอวบกลมกลึงแนบสนิทกับอกแกร่งเสียดสีไปพร้อมกับสัดส่วนอ่อนไหวเบียดกายแกร่งยิ่งพาให้ร่างสาวทรมานมากกว่าเดิม แต่เธอก็ยังมุ่งมั่นที่จะปลุกเร้าอีกฝ่ายให้ต้องการเธอมากขึ้นไปอีก“รักเลยสิครับคนดี ผมพร้อมแล้ว”ฐิติกรบอกเสียงแตกพร่าพร้อมมือหนากุมบนสะโพกอวบเต็มมือบีบกระชับอย่างเรียกร้องต้องการ“อุ๊ย”คนเป็นฝ่ายเริ่มก่อนสะดุ้งนิดๆ เพราะกระแสซาบซ่านถูกมือหนาจุดไฟเพิ่ม ความแกร่งที่แนบสนิทอยู่ร้อนลวกไปหมดทั้งที่อยู่ในน้ำ ทำให้เธอเองก็ไม่สามารถฝืนทนความต้องการจากเรือนกายได้อีกต่อไป สะโพกสวยขยับสูงขึ้นก่อนจะค่อยครอบครองชายหนุ่มอย่างเชื่องช้า“โอย...ที่รัก ได้โปรด เร็วหน่อย”ผู้ถูกกระทำอดร้องขอออกมาไม่ได้เพราะเขาแทบจะสะกดอารมณ์อยากกระโจนเข้าหาอีกฝ่ายเอาไว้ไม่ได้อีกแล้ว แต่ในเมื่อมัทรีคิดจะเป็นฝ่ายเริ่มครั้งแรกเขาจึงอยากอดใจรอ มือหนาเกร็งจนบีบสะโพกอวบอย่างหนักมือมัทรีกัดปากกลั้นใจ มือกำจิกไหล่หนาทั้งสองข้างแน่นขึ้น เมื่
การเป็นแม่คนมันเหนื่อยอย่างนี้นี่เอง มัทรีเข้าใจมารดาที่เป็นห่วงและหวงเธอในตอนที่รู้ว่ามีแฟนเป็นชาวต่างชาติแล้ว ก็ท่านอุตส่าห์อดหลับอดนอน ป้อนข้าวป้อนนมกว่าจะโตขึ้นมาได้ หากจะต้องไปอยู่ไกลก็คงใจหายเป็นธรรมดามัทรีคลอดลูกสาวมาได้หกเดือนแล้ว เธออยู่ที่บ้านของบิดามารดาของฐิติกรในเบอร์ลินเพราะคุณอรกนิตอยากช่วยเลี้ยงหลาน ทว่าท่านก็จ้างพี่เลี้ยงอายุไล่เลี่ยกับท่านที่ไว้ใจได้มาให้มัทรีด้วย ความจริงหญิงสาวอยากให้แม่มะเหมี่ยวมาช่วยดูแล ซึ่งท่านเองก็อยากมา แต่ติดตรงที่น้องสาวของเธอใกล้คลอดลูกเช่นกัน และเพิ่งคลอดหลังเธอหนึ่งเดือนต่อมา มารดาจึงจำเป็นต้องอยู่ดูแลหลานที่นั่น โดยน้องสาวเธอคลอดลูกชายแม้จะเสียใจที่มารดาเดินทางมาไม่ได้แต่หญิงสาวก็เข้าใจ อีกอย่างคุณอรกนิตเองก็ดูแลเอาใจใส่เธออย่างดี คุณเจอเซ่เองหากมีเวลาว่างก็ตรงมาหาหลานในทันที ทั้งสองคนรักและชอบเด็กมาก ทว่าความเครียดหลังคลอดก็ทำให้เธอค่อนข้างอารมณ์ร้อนกว่าปกติไม่น้อย“ผมคิดถึงคุณกับลูกมากเลยที่รัก เสร็จงานแล้วจะรีบกลับครับ”หลังฐิติกรขอดูหน้าลูกระหว่างวิดีโอคอลคุยกัน จากนั้นอีกฝ่ายก็บอกรักแล้ววางสายไปชายหนุ่มจำเป็นต้องไปประชุมที่เมือง
แม้จะอยากท้องและแต่งงานให้เร็วที่สุดทว่ากว่ามัทรีจะได้แต่งงานกับฐิติกรก็เป็นปลายปีต่อมาอย่างที่มารดาของเธอเคยบอกเอาไว้ อีกอย่างเธอก็ไม่ท้องอย่างที่คิด แม้จะพยายามใช้เวลาด้วยกันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ก็มีช่วงที่ต้องห่างกัน และทั้งที่ผู้ใหญ่ของชายหนุ่มมาสู่ขอเธอแล้ว ทว่าฤกษ์ที่ได้มาก็คือปลายปีนั่นเองทั้งคู่จัดการแต่งแบบไทยที่บ้านในฮัมบูร์กของฐิติกรเพราะตั้งใจใช้ที่นี่เป็นเรือนหอ ซึ่งครอบครัวของเธอทุกคนบินมาอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาแม้แต่ละคนจะไม่เคยนั่งเครื่องบินนานก็ตาม รวมถึงพิสินีด้วยมัทรีเคยเจอกับตติยะและเอื้อมธารพี่ชายกับพี่สะใภ้ของชายหนุ่มสองสามครั้งในตอนที่ชายหนุ่มพาเธอไปไหว้ญาติผู้ใหญ่ที่บ้านสวน และคุยงานกับพี่ชายในวันหยุดโดยให้เธอติดสอยห้อยตามไปด้วยเพราะหญิงสาวหลงลูกชายลูกสาวฝาแฝดของทั้งคู่มากในคืนแรกที่แต่งงานทั้งคู่นอนหลับไปด้วยกันอย่างเหนื่อยล้า แม้จะคิดอยู่ว่าต้องมีอะไรกัน ทว่าสุดท้ายแล้วมัทรีที่อาบน้ำก่อนก็หลับไปทันทีที่หัวถึงหมอน ฐิติกรจึงไม่อยากปลุกหญิงสาว กว่าทั้งคู่จะได้มีเวลาเป็นส่วนตัวด้วยกันจริงๆ ก็หลังจากส่งครอบครัวของหญิงสาวขึ้นเครื่องกลับเมืองไทยในหนึ่งสัปด
“มัทอยากให้ผมทำให้หรือให้เดินหน้าต่อเลย”ฐิติกรขยับหน้าขึ้นมากระซิบถามคนที่หลับตาขมวดคิ้วมุ่น เห็นชัดว่าเธอยังเกร็งและกลัวอยู่มัทรีลืมตาขึ้นมาสบตาคมที่มองอยู่ แววตาเขาดูห่วงใยเธอทว่าสีหน้ากลับราวกับกำลังไม่สบาย หน้าหล่อคมแดงก่ำ น้ำเสียงก็แตกพร่าจนน่ากลัว รู้ได้ในทันทีว่าฐิติกรกำลังทรมาน ทว่าชายหนุ่มก็ยังถามเธอก่อนมือบางกอดลำคอหนาอีกครั้งด้วยความเต็มอกเต็มใจ ดวงหน้าเล็กขยับสูงขึ้นจูบปากได้รูปเม้มย้ำ ก่อนจะเป็นฝ่ายส่งลิ้นเข้าไปซอกแซกลูบโลมอีกฝ่ายเอง กระทั่งได้ยินเสียงทุ้มดังในลำคอราวข่มอารมณ์เธอจึงผละออกมาจูบแก้มสากแล้วย้ายมาข้างหูเขาเพื่อกระซิบบอก“ทำให้มัทท้องนะคะ”คนได้ยินนิ่งงันไปอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง ทว่าลิ้นเล็กที่แตะไล้ตรงใบหูทำเอาสมองเขาแทบหยุดทำงาน“มัทอยากท้อง”หญิงสาวย้ำอีกครั้งก่อนจะขบติ่งหูเขาเหมือนที่เขาทำกับเธอฐิติกรส่งเสียงฮึ่มฮั่มในลำคอเพราะคนเรียนรู้เร็ว แล้วขยับร่างสูงใหญ่ของตัวเองขึ้น นิ้วเกี่ยวเอวกางเกงอีกฝ่ายลงพร้อมซับในไปจนจรดปลายเท้าเล็ก จากนั้นก็ตามด้วยกางเกงบอกเซอร์ของตัวเองระหว่างนั้นตาคมไม่ละจากเรือนร่างขาวอวบอิ่มน่ามองเลยแม้แต่วินาทีเดียว แม้มัทรีจะเอียงห
ฐิติกรพามัทรีมาฮัมบูร์กในวันหยุด ชายหนุ่มมีบ้านของตัวเองอยู่ที่นี่ เป็นบ้านในแถบปริมณฑลนอกเมืองฮัมบูร์ก มีความเป็นธรรมชาติต่างจากบ้านของบิดามารดาเขาที่เบอร์ลิน แต่ชายหนุ่มก็บอกว่าพวกท่านมีบ้านพักตากอากาศอยู่อีกเมืองหนึ่งเช่นกัน หญิงสาวฟังแล้วก็ได้แต่เก็บความว้าวเอาไว้ในใจ ตั้งแต่มาถึงเยอรมนีสิ่งที่เธอสัมผัสได้ก็มีแต่ความรวยและรวยของชายหนุ่ม“คุณมีจักรยานด้วยเหรอคะ”เธอเห็นจอดอยู่ในบ้านใกล้กับครัวจึงถามขึ้น“น่าจะของแม่บ้านที่มาทำความสะอาดที่นี่เอาไว้ขี่ไปที่ใกล้ๆ ล่ะมั้ง”ชายหนุ่มบอกไม่ใส่ใจนัก ขณะขนกระเป๋าทั้งคู่เข้าไปในห้องนอน ส่วนมัทรีมองตาวาวแล้วเย็นวันนั้นหญิงสาวก็ขี่จักรยานออกมาเที่ยวเล่นรอบๆ มัทรีชอบบรรยากาศของที่นี่มาก นอกจากต้นไม้ใบหญ้าเขียวขจี มีบึงน้ำไม่ไกลนักแล้ว ยังมีองุ่นสตรอว์เบอร์รี่เต็มสองข้างทาง เธออยากปลูกแบบนี้ไว้ในบ้านของตัวเองบ้าง“คุณชอบที่นี่ไหม”ชายหนุ่มถามขึ้นขณะที่เธอกำลังทำบทเรียนใหม่ในโปรแกรมกราฟิก หากก็ใส่หูฟัง ฟังเพลงคลอไปด้วยเบาๆ จึงได้ยินที่เขาถาม“มากค่ะ”มัทรีเงยหน้าขึ้นมามองคนที่มีเพียงเสื้อคลุมบนร่างสูงใหญ่ด้วยความรู้สึกวาบหวิว คอแกร่งและแผงอกหนาน
“รู้ไหมยายอุ๊ถามแม่ว่ายังไง ถามว่าลูกสาวได้ผัวฝรั่งเหรอ”มัทรีเข้ามาช่วยมารดาทำอาหารตอนเช้าตรู่ และก็ได้ฟังอีกฝ่ายบ่นตั้งแต่กลับจากตลาดจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่หยุด“แล้วแม่ตอบว่าไงล่ะ”“ก็บอกว่าเป็นแฟนน่ะสิ”มารดาเธอทำตาดุใส่ขณะบอก ทว่ามัทรีกลับยิ้มขำ“ที่วัดนี่ไม่มีใครกล้าเข้ามาถาม แต่เอาไปนินทากันทั้งตลาด”“มันก็ธรรมดาแหละแม่”“อยากพูดกันดีนัก แม่เลยบอกไปว่าบ้านฝรั่งเขารวยมาก รถตู้หรูนั่นก็รถเขาเอง แต่งกับแกแล้วเขาก็จะพาไปอยู่เยอรมัน แต่บ้านที่ไทยเขาก็มีนะ เขามาพักผ่อนบ่อยๆ เอาไปบอกต่อกันให้ถูกด้วย”“ฮ่าๆๆ โอ๊ย...”มัทรีหัวเราะเสียงดังจนโดนมารดาตีเข้าที่แขนไปหนึ่งที แต่เธอก็ยังขำจนตัวโยนทว่าไม่กล้าปล่อยเสียงออกมา เดี๋ยวโดนตีอีก“ยังจะมามัวขำอีก ตกลงแฟนเราเขาจะพาผู้ใหญ่บ้านเขามาหาพ่อกับแม่เมื่อไร”จู่ๆ มารดาก็ถามเรื่องนี้ขึ้นมาทำเอามัทรีอดมองอย่างแปลกใจไม่ได้“แม่จะยกให้แล้วเหรอ”“ยัง”“อ้าว?”“แต่ฉันอยากรู้เอาไว้ ถ้าใครมาถามอีกจะได้บอกให้เอาไปพูดต่อได้ถูก ถึงจะนินทา มันก็ต้องให้นินทาเรื่องจริง”“โธ่แม่ คนนินทา พูดเรื่องจริงก็ไม่สนุกสิ”หญิงสาวบอกยิ้มๆ แต่มารดาค้อนขวับ“ถ้าเขาจะมาเร็วๆ นี